ไร่แก้วกัลยา
07.30 น.
“คุณอิทคะตื่นค่ะวันนี้หมอมาตรวจแต่เช้านะคะ”
อินทิราเดินเข้าไปปลุกชายหนุ่มที่กำลังหลับไมยอมตื่นขึ้นมาอาบน้ำล้างหน้าล้างตาเสียทีทั้งที่เธอทำอาหารเช้ารอเอาไว้แล้วอีกอย่างอรุณาก็บอกกับเธอว่าหมอจะมาตรวจชายหนุ่มในช่วงเช้าด้วย
“ขออีกนิดนะฉันกำลังหลับสบายเลย”
อิทธิกรยังรู้สึกว่าไม่อยากตื่นเขาจึงพลิกตัวและเอาผ้าห่มคลุมหัวหนีหญิงสาวที่ส่งเสียงดังแสบแก้วหูเรียกเขาปาวๆอยู่
“ไม่ได้ค่ะคุณอิทต้องลุกมาอาบน้ำแต่งตัวทานอาหารเช้าให้ตรงเวลานะคะ”
อินทิราเองก็ไม่ยอมง่ายๆยังไงเธอก็ต้องปลุกเข้าให้ลุกขึ้นมาให้ได้
“โอเคๆ...ถ้าฉันไม่ลุกก็คงจะต้องทนฟังเสียงแหลมๆของเธอสินะ”
อิทธิกรจำต้องดีดตัวลุกขึ้นมาเพราะเริ่มรำคาญหญิงสาวและมีอารมณ์หงุดหงิดขึ้นมาบ้างแล้วเขาไม่รู้ว่าจะดีหรือไม่ดีที่หญิงสาวอยู่ที่นี่บางทีก็ทำตัวให้เขาหายเหงาบางทีก็ทำตัวน่ารำคาญ
“ก็คุณอิทไม่ยอมลุกเองนี่คะ”
อินทิราบ่นอู้อี้เล็กน้อยที่เช้านี้เธอโดนชายหนุ่มดุแต่เช้าอีกแล้วเธอก็เพียงแค่ทำหน้าที่ของเธอก็เท่านั้น
หลังจากที่อิทธิกรทานอาหารเช้าเรียบร้อยแล้วอินทิราก็พาชายหนุ่มเข้าไปในห้องตามความต้องการของเขาไม่นานหมอก็มาตรวจพอดีหญิงสาวจึงรีบไปต้อนรับ
“สวัสดีค่ะคุณหมอ”
“สวัสดีครับผมขออนุญาตเข้าไปข้างในนะครับ”
“เชิญค่ะ”
อินทิราให้หมอเข้าไปตรวจชายหนุ่มที่ด้านในโดยเธอนั้นรออยู่ข้างนอกเพราะไม่อยากเข้าไปรบกวนเวลาที่หมอตรวจมากนักเธอรอฟังผลตรวจด้านนอกจะดีกว่า
“ไงดูเป็นผู้เป็นคนขึ้นเยอะนี่แก”
ตฤณเข้ามาดูอาการของคนเป็นเพื่อนตามที่อรุณาวานให้เขามาเป็นเจ้าของไข้อิทธิกรเมื่อเห็นสภาพเพื่อนเขาดูดีขึ้นกว่าเดิมเยอะเลยทักขึ้นตามประสาเพื่อน
“ไอ้หมอ...จะตรวจก็รีบตรวจอย่าปากดีให้มาก”
อิทธิกรส่ายหัวเขานึกไว้แล้วว่าหมอที่แม่ของเขาให้มาดูอาการคงจะเป็นเพื่อนของเขาคนนี้เช่นเคยและเพื่อนเขาก็ยังปากดีไม่เปลี่ยน
“ยังปากหมาอยู่แบบนี้คงจะดีขึ้นแล้วมั้ง”
ตฤณอดแซวเพื่อนชายของเขาไม่ได้เพราะปกติก็ปากดีแบบนี้ใส่กันประจำตั้งแต่เด็กๆแล้วแต่ก็รักกันเหนียวแน่นมาจนถึงทุกวันนี้
“ก็หมอปากหมาใส่ก่อนนี่ครับ”
“ฉันไม่อยากจะเถียงกับแกแล้วขอตรวจแกหน่อย”
ตฤนส่ายหัวพร้อมหยิบอุปกรณ์มาตรวจเพื่อนของเขาจะดีกว่าก่อนที่จะตีฝีปากกันนานกว่านี้
“สุขภาพทุกอย่างก็โอเคแล้วนี่อีกสองเดือนหน้าก็น่าจะผ่าตัดได้แล้วหละ”
“อืมฉันก็อยากมองเห็นจะแย่แล้ว”
อิทธิกรใจชื้นขึ้นมาหน่อยที่เขานั้นจะได้มองเห็นเสียทีจะได้กลับไปช่วยงานแม่ของเขาได้อย่างเต็มที่
“ดีแล้ว..นี่ว่าที่ภรรยาแกน่ารักดีนี่หว่าฉันว่าถ้าแกมองเห็นคงจะตะลึงแน่นอน”
ตฤนอดที่จะพูดถึงเรื่องสาวน้อยที่เป็นคู่หมั้นของเพื่อนเขาไม่ได้ที่เขาเห็นคราแรกยังตกตะลึงในความน่ารักของเธอและยังแอบอิจฉาเพื่อนของเขาอยู่เลยที่อกหักปุ๊ปก็มีหญิงใหม่มาดามใจปั๊ปแถมยังเด็กกว่าเพื่อนเขาเป็นสิบปีอีกต่างหาก
“กลับไปได้แล้ว”
อิทธิกรไม่ค่อยชอบให้เพื่อนเขาแซวเรื่องนี้สักเท่าไรเลยเอ่ยปากไล่คนเป็นเพื่อนกลับไปด้วยเสียงห้วนๆ
“เออ..กลับอยู่แล้วเก็บของก่อนแซวนิดแซวหน่อยไมได้”
ตฤณพอจะรู้ว่าเพื่อนเขาที่มีอาการไม่พอใจก็น่าจะเป็นเพราะไม่ชอบให้เขาแซว
“คุณอิทเป็นยังไงบ้างคะคุณหมอ”
อินทิราเห็นหมอหนุ่มเดินออกมาจากห้องแล้วจึงรีบลุกไปถามอาการของชายหนุ่มทันที
“สุขภาพของคนไข้ก็โอเคอยู่ครับอีกสองเดือนหน้าคงจะผ่าตัดได้แล้ว”
“เหรอคะ..ดีใจจังเลยค่ะ”
หญิงสาวดีใจกับเขาจริงๆที่เขาใกล้จะหายเป็นปกติแล้ว
“ช่วงนี้ก็หาอาหารที่มีประโยชน์แหละหลากหลายให้เค้าทานด้วยนะครับหมอขอตัวก่อน”
“ค่ะ..ขอบคุณนะคะคุณหมอ”
หมอหนุ่มเห็นแววตาของหญิงสาวก็รู้ว่าหญิงสาวดูจะเป็นห่วงเพื่อนของเขาจริงๆนับว่าอรุณาเลือกลูกสะใภ้ได้ถูกคนผิดกับคนก่อนหน้านี้ยังไงเขาก็ดูออกว่าแฟนเก่าของเพื่อนเขานั้นหิวเงินขนาดไหน
19.00 น.
“คุณอิททานอาหารได้เยอะขึ้นนะคะฝีมือออมอร่อยใช่มัยล่ะคะ”
อินทิราเข้ามาเก็บถามดอาหารออกไปล้างเมื่อเห็นว่าอาหารที่เธอจัดมาให้ชายหนุ่มนั้นชายหนุ่มทานจนหมดเลยดีใจพร้อมฉีกยิ้มออกมาคิดว่าคงจะเป็นเพราะฝีมือเธอค่อนข้างจะถูกปากชายหนุ่มเป็นแน่
“ก็เธอเล่นหาโน่นหานี่ให้ฉันทานเสียเยอะแยะที่ต้องทานให้หมดก็เพราะเสียดายของอย่าหลงฝีมือตัวเองไปหน่อยเลย”
อิทธิกรไม่ปฏิเสธว่าอาหารที่หญิงสาวทำมันถูกปากเขาค่อนข้างมากแต่ก็แค่อยากจะแกล้งเธอไม่ให้เธอหลงตัวไปไปก็แค่นั้น
“อืมม...คุณอิทคะคุณยายที่ชื่อแก้วกัลยาเค้าพักอยู่ที่ไหนเหรอคะชื่อเหมือนไร่นี้เลย”
อินทิราทำหน้ามุ่ยเบ้ปากใส่ชายหนุ่มเล็กน้อยพร้อมถามเรื่องที่เธอค่อนข้างคาใจออกมา
“ถามทำไม”
อิทธิกรคิ้วขมวดเล็กน้อยไม่คิดว่าหญิงวาวจะรู้จักคุณยายของเขาด้วย
“ก็คุณยายมาหาออมสองคืนแล้วค่ะคุณยายน่ารักมากๆเลยนะคะอวยพรให้แก้วหายเจ็บแผลไวๆด้วยแต่คุณยายเดินเข้ามาแปปเดียวแล้วก็ออกไปเลยค่ะ”
“หืมมม...คนนี้หรือเปล่า”
จากคำบอกเล่าของหญิงสาวก็ทำให้ชายหนุ่มนั้นทำหน้างงเข้าไปใหญ่พร้อมใช้มือคลำหาอะไรบางอย่างที่หัวเตียงพร้อมยื่นมือส่งให้หญิงสาว
“ใช่ๆจริงๆด้วยค่ะ”อินทิราเห็นหญิงในรูปเล็กๆก็จำได้ทันทีว่าเป็นคนเดียวกับคนที่เข้ามาหาและมาคุยกับเธอ“นี่คุณยายฉันเองท่านเป็นเจ้าของไร่นี้...แต่ท่านเสียไปสี่ห้าปีแล้วนะ”อิทธิกรเริ่มอมยิ้มขึ้นมาเล็กน้อยแล้วที่รู้ว่าหญิงสาวเจอกับอะไร“คะ!!!...”จากคำบอกเล่าของชายหนุ่มทำให้หญิงสาวยืนตัวเกร็งชาวาบขนลุกซู่ไปทั้งตัว“ท่านคงจะเอ็นดูเธอ”อิทธิกรยังไม่หยุดที่จะพูดเล่นกับเธอ“เอ่อ..คุณอิทคะคืนนี้ออมขอนอนด้วยได้ไหมคะ...นะคะเดี๋ยวออมนอนข้างล่างก็ได้แต่ขอเปิดไฟที่โคมไฟไว้นะคะ”ด้วยความที่ตาขาวเรื่องนี้อย่างมากอินทิราจึงจำใจต้องมาขอนอนห้องเดียวกับชายหนุ่มเกิดมาไม่คิดไม่ฝันว่าจะมาเจอเรื่องที่ทำให้เอขนหัวลุกได้ขนาดนี้“ฮ่าๆๆ...นี่เธอก็ตาขาวเหมือนกันนะอยากนอนก็นอนอย่ามาลักหลับฉันก็แล้วกัน”ความรู้สึกของชายหนุ่มตอนนี้รู้ได้เลยว่าหญิงสาวคงกลัวหัวหดอีกทั้งยังไม่ยอมหยุดที่จะพูดแซวเธออีกด้วย“พูดอะไรของคุณอิท...ออมไม่ทำแบบนั้นหรอกค่ะ”อินทิราหน้ามุ่ยอีกรอบที่เวลานี้ชายหนุ่มก็ยังไม่หยุดที่จะแกล้งแซวเธออย่างน้อยการที่ได้นอนห้องเดียวกับชายหนุ่มก็ทำให้เธอได้อุ่นใจขึ้นมาหน่อยว่ามีคนอื่นอยู่ในห้องกับเธอด้วยเผื่
“ออกไป”อิทธิกรรำคาญที่จะฟังคำส่อเสียดของหญิงสาวเต็มทนเลยไล่เธอออกไปอย่างไม่ใยดีตอนนี้หัวใจเขามันไม่ได้โหยหาหญิงสาวที่ทิ้งเขาไปเลยสักนิดเมื่อหญิงสาวมาหาเขาก็ดีอย่างหนึ่งซึ่งมันทำให้เขาได้รู้ว่าเขาสามารถตัดใจจากเธอได้แล้วจริงๆยิ่งคิดถึงวีรกรรมที่เธอทำไว้กับเขามันก็ยิ่งทำให้เขานั้นอยากจะลืมเธอมากขึ้นนั่นเอง“กิ่งก็ไม่ได้อยากอยู่นานนักหรอกค่ะขอตัว”กรกนกก็ไม่ได้อยากมาที่นี่ให้เสียเวลาเธอนักหรอกที่มาก็เพราะว่าเธออยากจะแต่งงานกับผู้ชายคนใหม่ที่พึ่งคบกันได้อย่างสบายใจต่างหาก“คุณอิทคะเป็นอะไรหรือเปล่าคะ”หลังจากที่อินทิราเห็นหญิงสาวรีบเดินออกไปจากบ้านอย่างรีบร้อนเธอเองก็รีบเข้ามาดูอาการของชายหนุ่มทันทีกลัวว่าเขาจะหันกลับมาคิดเรื่องเดิมๆอีกสิ่งที่เธอเป็นห่วงมากที่สุดในตอนนี้ก็คือความรู้สึกของชายหนุ่มเธอไม่อยากให้เขากลับไปเศร้าเหมือนเดิม“ไม่ฉันไม่เป็นอะไรเธอออกไปเถอะ”อิทธิกรมีสีหน้าที่ไม่สบอารมณ์เล็กน้อยเพราะยังรู้สึกไม่พอใจกรกนกอยู่ที่กล้ามาเย้ยหันเขาถึงที่นี่เลยอยากจะอยู่คนเดียวสงบอารมณ์ของตัวเองเสียก่อนเขาไม่อยากให้หญิงสาวเป็นห่วง“ไม่ค่ะออมไม่ไปเมื่อกี้แฟนเก่าคุณเค้ามาคุยอะไรกับคุณเหรอค
“คือ...พลอยไม่รู้ค่ะ...คือ...ที่พี่ภาคย์ช่วยพลอยเพราะพี่ภาคย์อยากให้พลอยพูดเรื่องออมใช่ไหมคะ”เรื่องที่ชายหนุ่มถามมาเธอเองไม่สามารถตอบได้จริงๆพร้อมทั้งยังนึกน้อยใจที่เรื่องของอินทิราเพื่อนสาวของเธอคงจะเป็นคือสาเหตุที่ชายหนุ่มยื่นมือมาช่วยเธอ“ยังจะโกหกพี่อีกเหรอพลอย...ใช่เรื่องออมพี่อยากให้พลอยบอกพี่ว่าเธออยู่ไหนทำอะไรแค่นี้พี่ขอให้พลอยช่วยแค่นี้จะได้ไหม”ด้วยความมึนเมาและโทสะที่มีต่อหญิงสาวบ้างเล็กน้อยแล้วชายหนุ่มจึงเข้าไปบีบแขนหญิงสาวอย่างรุนแรงพร้อมพูดกับเธออย่างเคืองใจเขารู้มานานแล้วว่าเธอรู้ตั้งแต่คืนที่เขาไปส่งเธอวันนั้นแต่เขารอเวลาที่หญิงสาวจะเห็นใจและยอมบอกเรื่องอินทิรากับเขาบ้างแต่เธอก็ยังปากแข็งไม่ยอมบอกอยู่ดี“...ขอเป็นเรื่องอื่นได้ไหมคะ...ความจริงมีบางอย่างที่พลอยอยากจะพูดกับพี่ภาคย์มานานแล้วก็คือออมเค้าไม่เคยคิดเกินเลยกับพี่ภาคย์ออมเห็นพี่ภาคย์เป็นแค่พี่ชายคนนึงเท่านั้น”เรื่องนี้หญิงสาวไม่สามารถที่จะช่วยเหลือคนตรงหน้าได้จริงๆพร้อมทั้งยังทำใจบอกเรื่องที่เขานั้นสมควรจะได้รู้จะได้ไม่ต้องหวังอะไรลมๆแล้งๆแบบนี้อีกมันจะทำให้ชายหนุ่มนั้นเจ็บอยู่ฝ่ายเดียวเปล่าๆ“พี่รู้แต่พี่คิดว
“อึก..ฮือๆ”พรณภัทร์วิ่งหนีไปปาดน้ำตาไปตอนนี้เธอไม่อยากจะมองหน้าชายหนุ่มให้ความรู้สึกมันเสียไปมากกว่านี้แล้วยังไงเธอก็ไม่ยอมอยู่ที่นี่ต่อไปเด็ดขาดถึงแม้หนทางข้างหน้าเธอจะลำบากกว่าอยู่ที่นี่หลายเท่าเธอก็ยอม“พลอย..เดี๋ยว..หยุดก่อน”“ฮึก..ฮือๆๆ”พรณภัทร์ไม่คิดว่าชายหนุ่มจะตามเธอลงมาเร็วขนาดนี้ตอนนี้ในหัวหญิงสาวคิดได้อย่างเดียวคือวิ่งหนีให้พ้นจากคนใจร้ายให้เร็วที่สุดสายตาของเธอตอนนี้พร่ามัวไปหมดเพราน้ำตาที่มันคลอเอ่อล้นออกมาอย่างไม่ขาดสายนั่นเอง“พลอยระวัง”“อ๊ายยยยย”เอี๊ยดดดด…ปั้งงงงงง“ม่ายยยย”ภัคดนัยถึงกับใจหายวาเมื่อหญิงสาวที่กำลังวิ่งหนีข้ามถนนอยู่นั้นจู่ๆก็มีรถเก๋งวิ่งมาด้วยความเร็วเขาจึงร้องทักให้เธอระวังแต่ก็ไม่ทันเสียแล้วร่างของหญิงสาวกระเด็นลอยลิ่วไปต่อหน้าต่อตาของเขาอย่างที่เขาช่วยเหลืออะไรเธอไม่ได้โรงพยาบาล“ผมจะผ่าตัดให้เธอเอง”จากอุบัติเหตุครั้งนี้ทำให้หญิงสาวกระดูกหักหลายส่วนและที่กระทบกระเทือนและบาดเจ็บมากที่สุดก็คงจะเป็นส่วนหัวชายหนุ่มยังถือว่าโชคดีอยู่บ้างที่อุบัติเหตุครั้งนี้ไม่ได้พรากชีวิตของหญิงสาวไปเลยไม่อย่างนั้นเขาคงจะต้องรู้สึกผิดไปตลอดชีวิตตอนนี้เขาเองก็ทำได้
“แล้วออมไปอยู่ที่ไหนมา”ภัคดนัยถามหญิงสาวเสียงอ่อนตอนนี้เขาอยากรู้ว่าเธอไปอยู่ที่ไหนมาเพราะความเป็นห่วง“ออมต้องไปดูแลผู้ชายคนนึงตอนนี้เค้าตามองไม่เห็นเมื่อเขาหายดีเมื่อไรเราก็จะแต่งงานกันค่ะ”อินทิราตัดสินใจพูดเรื่องที่เธอต้องไปอยู่ที่ไหนทำอะไรให้ชายหนุ่มได้ฟังเพื่อที่เขานั้นจะได้เลิกหวังลมๆแล้งๆกับเธอเสียที“พี่ดีใจกับออมด้วยนะ..แล้วก็ขอโทษที่บางทีพี่ก็ทำให้ออมลำบากใจตอนนี้พี่รู้แล้วว่าพี่ไม่มีวันที่จะได้ใจออมมาจริงๆ”ตอนนี้ชายหนุ่มรู้ตัวจริงๆแล้วว่ายังไงก็ไม่สามารถคว้าหัวใจของอินทิรามาได้แต่นั่นก็ไม่ใช่ประเด็นแล้วตอนนี้ในใจของเขาที่ห่วงสุดๆก็คือพรณภัทร์พร้อมยิ้มินดีกับอินทิราที่เธอกำลังจะมีชีวิตครอบครัวที่มีความสุข“ถึงเราจะไม่ได้รักกันในฐานะคนรักแต่ออมก็รักและเคารพพี่ภาคย์เป็นพี่ชายเสมอนะคะ”อินทิราดีใจและโล่งอกที่ชายหนุ่มตรงหน้าเธอนั้นเข้าใจเธอดีแล้วถึงเธอกับเขาจะไม่ได้รักกันในฐานะคนรักแต่ด้วยความผูกพันธ์ที่รู้จักกันมานานทำให้เธอเคารพภัคดนัยเหมือนพี่ชายคนหนึ่งเท่านั้น“งั้นพี่ขอกอดออมในฐานะน้องสาวก็แล้วกันและก็ขอเก็บความรู้สึกดีๆแบบนี้ตลอดไปได้ไหม”“ค่ะพี่ภาคย์”ภัคดนัยยิ้มอ่อนที
“แล้วอาการเป็นยังไงบ้าง”ชายหนุ่มถึงกับบดกรามกรอดเพราชื่อโรงพยาบาลที่หญิงสาวบอกมันตรงกับคำบอกเล่าของกรกนกเขาอยากจะรู้นักว่าที่เธอบอกไปเยี่ยมเพื่อนได้รู้อาการของเพื่อนเธอจริงๆหรือเปล่าเพราะไม่ใช่มัวแต่ขลุกอยู่กับผู้ชายตามที่เขาได้รู้มา“ก็ยังทรงๆอยู่ค่ะแต่เท่าที่ออมคุยกับพี่หมอที่ดูแลเพื่อนออมอยู่เค้าก็บอกว่าจะรักษาให้สุดความสามารถเลยค่ะออมเชื่อว่าไม่นานเพื่อนออมต้องหายแน่ๆ”อินทิราอมยิ้มอย่างพอใจที่เห็นว่าชายหนุ่มนั้นมีกะใจที่จะไถ่ถามอาการของเพื่อนเธอด้วยจึงบอกถึงอาการของเพื่อนสาวเธออย่างอารมณ์ดี“หึ่...ไปเยี่ยมเพื่อน...แต่ดูท่าทางจะไปเยี่ยมหมอมากกว่ามั้งถึงได้มีคนเห็นว่ากอดกับหมอหนุ่มจนถึงใจขนาดนั้น”น้ำเสียงที่ฟังดูหญิงสาวจะอารมณ์ดีเป็นพิเศษมันทำให้เขาเริ่มโมโหเป็นพิเศษเหมือนกันคงจะอิ่มอกอิ่มใจมากที่ได้ไปกอดกกกับผู้ชายได้อย่างหน้าไม่อายที่โรงพยาบาลชายหนุ่มยังไม่รู้ตัวเองว่าอารมณ์แบบนี้คือเขากำลังหึงหญิงสาวอย่างหน้ามืดตามัวอยู่พักหลังมานี้หญิงสาวนอนกับเขาแทบทุกคืนบางคืนเธอก็กอดก่ายเขาอย่างไม่รู้ตัวทำให้ชายหนุ่มนอนข่มตาหลับได้ยากแต่ก็ไม่ได้เอ่ยปากปฏิเสธเธอออกไปเพรามันก็ทำให้ใจของเขา
“ฉันจะค่อยๆทำ”ชายหนุ่มกระซิบข้างหูหญิงสาวด้วยน้ำเสียงแหบพร่าเขารู้ว่าเธอยังไม่เคยกับเรื่องแปลกใหม่แบบนี้เขาจะพยายามทำให้เธอเจ็บน้อยที่สุดแม้ในใจตอนนี้อยากจะทำตามอารมณ์ที่มันพลุ่งพล่านอยู่มากก็ตามเมื่อทั้งคู่ปรับตัวเข้าหากันได้และหญิงสาวเองก็เริ่มที่จะลืมความเจ็บแล้วชายหนุ่มจึงร่ายบทรักอย่างต่อเนื่องไม่มีหยุดเสียงครางในห้องดังระงมของทั้งคู่สลับกันไปมาจนตอนนี้ผ่านไปค่อนคืนชายหนุ่มจึงยอมปล่อยหญิงสาวให้เธอได้พักผ่อนไปก่อนเพราะเห็นว่าเธอแทบจะไม่มีเสียงร้องและเรี่ยวแรงแล้วทั้งที่ในตัวของเขามันยังไม่หมดความต้องการด้วยเพราะเขาเองนั้นก็ห่างหายเรื่องแบบนี้มานานเช้าวันต่อมา07.30 น.บ้านโรจน์วินิจวรกุล“หายงอนพี่แล้วหรือไงถึงได้ลงมาทานข้าวพร้อมกันได้”ภัคดนัยนั่งทานอาหารเช้าที่แม่บ้านเตรียมไว้ให้เขาทุกเช้าเขาเห็นวันนี้น้องสาวของเขาลงมาทานข้าวด้วยได้ก็ดีใจเพราะพอจะดูออกว่าน้องของเขาหายงอนบ้างแล้ว“ขี้เกียจงอนไม่รู้จะงอนไปทำไมในเมื่อพี่ชายพีคเป็นคนที่เข้าใจอะไรง่ายๆแล้ว”พีรยาทิ้งตัวนั่งลงเก้าอี้พร้อมทานอาหารตรงหน้าเธอรู้ว่าพี่ชายเธอปรับความเข้าใจกับอินทิราเรียบร้อยแล้วทำให้เธอหายห่วงเรื่องนี้ไ
1 เดือนต่อมาเป็นเวลาอีกร่วมเดือนที่หญิงสาวใช้ชีวิตอยู่ที่เรือนเล็กท้ายไร่กับชายหนุ่มตลอดเวลาที่ผ่านมาทั้งสองดูเป็นคู่รักที่เอาใจใส่กันและกันเสมอมาชายหนุ่มเองเมื่อมีหญิงสาวอยู่ใกล้ๆความอารมณ์ร้อนก็จะไม่ค่อยมีให้เห็นเว้นเสียแต่ว่าเขาเรียกหาหญิงสาวแล้วไม่เจอเธอก็จะหงุดหงิดนิดหน่อยก็เท่านั้นแถมสรรพนามของทั้งคู่ที่ใช้เรียกกันก็ดูสนิทสนมกันมากขึ้นด้วย“ออม..”“มีอะไรคะพี่อิท”อินทิราที่กำลังทำอาหารเช้าอยู่ในครัวได้ยินชายหนุ่มเรียกเสียงดังก็รีบวิ่งออกมาจากห้องครัวอย่างตกอกตกใจแล้วร้องถามคนที่นั่งบนโซฟาสีหน้ายิ้มแย้มว่าเขาเป็นอะไร“เปล่าพี่แค่เรียกเฉยๆคิดถึง”อิทธิกรฉีกยิ้มให้หญิงสาวอย่างหน้าทะเล้นว่าที่เขาเรียกเธอก็เพราว่าอยากให้อยู่ใกล้ๆและได้ยินเสียงของเธอก็เท่านั้น“แกล้งออมอีกแล้วนะคะเดี๋ยวก็ได้ทานไข่ดาวไหม้หรอก” อินทิราแอบหน้ามุ่ยเล็กน้อยแต่ก็รู้สึกเขินที่เขาชอบมาหยอดเธออยู่บ่อยๆแต่เวลานี้เธอก็คิดว่าเขาก็ไม่ควรจะเล่นเพราะอาจจะได้ทานอาหารที่ไหม้เกรียมได้สองสาวมันที่ผ่านมานี้ชายหนุ่มไม่ทานข้าวต้มที่หญิงสาวทำให้แม้แต่นิดเดียวเพราบ่นว่ากลิ่นมันค่อนข้างทำให้เขาไม่อยากจะทานและอยากจะอาเจียน