เดือนต่อมา
กรุงเทพมหานคร
อิทธิกรพาอินทิรามาพักอยู่บ้านที่กรุงเทพของเขาสักพักแล้วเพราะเขาต้องเข้ามาทำงานที่บริษัทเหมือนเดิม
“วันนี้เหนื่อยไหมคะ”
เมื่ออินทิราเห็นคนเป็นสามีกลับบ้านมาก็รีบเอาน้ำเย็นๆมาต้อนรับเพราะเห็นสามีของเธอดูยุ่งๆทุกวัน
“เห็นหน้าออมพี่ก็ไม่เหนื่อยแล้ว”
อิทธิกรเองถึงจะเหนื่อยเพียงใดแต่เขาก็รับมือไหวและไม่เอามาพูดในบ้านให้คนเป็นภรรยาที่กำลังท้องอยู่กังวลกับเขาไปด้วยเด็ดขาด
“วันนี้คุณแม่กับยัยเอมกลับมาแล้วพวกเค้าจะมาทานข้าวที่บ้านเราด้วย”
อิทธิกรรู้ว่าแม่กับน้องของเขากลับมาได้เป็นวันแล้วบ่นอยากจะมาหาอินทิราใจจะขาดเพราะอยากรู้ว่าหลานในท้องมีพัฒนาการไปอย่างไรบ้างแล้ว
“ตายจริงพี่อิทไม่บอกออมให้เร็วกว่านี้คะออมจะเตรียมอาหารไว้รอ”
อินทิราตำหนิคนเป็นสามีเพราะหากบอกเธอให้เร็วกว่านี้เธอเองก็จะเข้าครัวทำอาหารไว้ต้อนรับแม่และน้องสามีของเธอเอง
“ออมไม่ต้องทำหรอกพี่สั่งแม่บ้านไว้แล้วขืนพี่บอกออมก่อนก็คงจะต้องลงมือทำเองใช่ไหมล่ะ”
“..ค่ะ..”
อิทธิกรคิดถูกที่บอกแม่บ้านอย่างเดียวจะดีกว่าเพราะไม่เช่นนั้นคนเป็นภรรยาของเขาจะต้องเหนื่อยทำอาหารอีเป็นแน่ท้องยังอ่อนๆอยู่เขาไม่อยากให้หญิงสาวทำอะไรมากนัก
“นั่นไงมากันพอดีเลย”
ทั้งสองยังไม่ทันได้คุยกันเสร็จอิทธิกรก็ได้ยินเสียงรถมาจอดที่หน้าบ้านจึงยืนรอต้อนรับเสียตรงนี้เลย
“เป็นไงหนูออมมีน้ำมีนวลขึ้นเยอะนะนี่แม่ซื้อของบำรุงมาให้เต็มเลย”
“ฉันก็ซื้อพวกชุดคลุมท้องกับพวกหนังสือคุณแม่มือใหม่ให้เธอด้วยนะออม”
“ขอบคุณค่ะ”
ทั้งอรุณาและไอรดาต่างก็มีของมาให้อินทิรากันเต็มไปหมดเพราะด้วยความที่พึ่งจะมีหลานกันคนแรก
“ไม่ค่อยจะเห่อเท่าไรเลยนะครับ”
อิทธิกรอดแซวทั้งสองไม่ได้ที่ดูท่าจะเห่อหลานกันยกใหญ่
“แหมก็ยังดีกว่าคนที่จะตั้งชื่อลูกตั้งแต่ลูกอยู่ในท้องได้สองเดือนล่ะมั้งยังไม่รู้เพศด้วยซ้ำ”
ไอรดาเองก็พอจะรู้อยู่บ้างว่าพี่ชายเธอท่าจะเห่อหนักกว่าเธออยู่พอตัวเพราเธอเองก็ได้ติดต่อกับอินทิราอยู่บ่อยๆหลังจากที่ทั้งอินทิราและพี่ชายเธอเข้าใจกันดีแล้ว
“อิๆๆ”
อินทิราอมยิ้มให้คนเป็นสามีพร้อมเดินพากันเข้าไปนั่งในบ้าน
โต๊ะอาหาร
ทั้งสี่พูดคุยถามไถ่สารทุกข์สุขดิบกันได้พักใหญ่ก็ได้เวลาที่แม่บ้านจะมาจัดโต๊ะอาหารเย็นวันนี้อาหารมีมากมายหลายอย่างที่อิทธิกรสั่งให้แม่บ้านจัดเตรียมเพราะจะต้องมีเมนูโปรดให้ทั้งแม่กับน้องและคนเป็นภรรยา
“อืม..แล้วเรื่องแต่งงานว่ายังไงกันล่ะแม่ไม่ถือฤกษ์หรอกนะขอสะดวกยิ่งเร็วยิ่งดี”
อรุณาว่าจะถามเรื่องแต่งงานกับทั้งสองตั้งนานแล้วเพราะไม่เห็นว่าทั้งสองนั้นจะพูดถึงเรื่องนี้กับเธอเสียที
“ก็ออมสิครับคุณแม่ผมจะแต่งตั้งนานแล้วแต่เจ้าตัวก็จะรอคุณแม่กับยัยเอมกลับมาก่อน”
อิทธิกรโบ้ยให้เป็นความลีลาของภรรยาของเขาที่บอกว่าจะขอรอให้แม่กับน้องของเขากลับมาก่อนจึงจะพูดถึงเรื่องนี้เขาเองอยากจะจัดงานแต่งให้มันเสร็จเรียบร้อยไปใจจะขาดจะได้ประกาศให้ทุกคนได้รู้เสียทีว่าภรรยาของเขาเป็นใครหากจะบอกตอนนี้ก็กลัวว่าคนอื่นจะมองหญิงสาวไม่ดี
“อย่างนั้นเหรอ..งั้นแม่ขอเป็นคนหาวันเองก็แล้วกันนะหนูออม”
อรุณาคิดว่าอินทิราคงจะอยากให้พวกเธออยู่ด้วยในงานแต่งในเมื่อตอนนี้เธอเองก็กลับมาแล้วก็ขอเป็นคนดูวันเองก็แล้วกันเพราะเธอก็อยากให้ทั้งสองรีบแต่งกันก่อนที่ลูกสะใภ้เธอจะท้องโตไปมากกว่านี้
“ค่ะคุณแม่..แต่ออมขอเป็นงานเล็กๆจัดที่ไร่ก็พอนะคะ”
อินทิราไม่ขัดที่อรดีจะเป็นคนหาวันแต่งเองเพราะเธอก็อยากจะให้อรุณากลับมากำหนดวันให้เธออยู่แล้วเพียงแต่เธอแค่อยากให้งานแต่งของเธอเป็นงานเล็กๆแล้วก็จัดที่ไร่แก้วกัลยาก็เท่านั้น
“ว่ายังไงล่ะตาอิท”
อรุณาหันไปถามคนเป็นลูกชายว่าจะเอาแบบที่อินทิราว่าหรือไม่หากเห็นดีด้วยเธอจะได้สั่งคนที่นั่นให้เตรียมการได้เลย
“ผมแล้วแต่ออมครับคุณแม่”
อิทธิกรไม่ขัดอะไรเจ้าสาวของเขาทั้งนั้นแค่เธอจะแต่งกับเขาเสียดีก็ดีแล้ว
“......”
ไอรดาถึงกับวางช้อนทานข้าวพร้อมอมยิ้มออกมาแก้มปริที่รู้ชะตาของพี่ชายเธอแล้วว่าแต่งงานไปแล้วใครจะเป็นใหญ่ในบ้าน
“ยิ้มอะไรยัยเอม”
อิทธิกรไม่ค่อยชอบเวลาน้องสาวของเขายิ้มเจ้าเล่ห์สักเท่าไรเพราะเขาพอจะเดาออกว่าน้องสาวของเขานั้นคิดอะไรอยู่
“เปล่าค่ะ..”
ไอรดาปฏิเสธหน้าตาเฉยพร้อมหันไปสนใจจานข้าวของเธอต่อ
“แม่ว่าจะคุยถึงเรื่องอัญชัญน่ะที่เราตกลงกันไว้เธอจะมาที่นี่เมื่อไร”
อรุณาเองมาเจอลูกชายของเธอทั้งทีก็อยากจะคุยธุระที่มันคาใจให้มันจบๆไปเธอเองพอจะรู้มาว่าลูกชายของเธอเป็นผู้ปกครองให้กับลูกคนงานที่พึ่งเสียไปเธอเองก็เห็นเด็กคนนั้นวิ่งเล่นอยู่ในไร่ตั้งแต่เล็กแต่น้อยเอ็นดูเหมือนลูกเหมือนหลานคนนึงจึงไถ่ถามเรื่องนี้ขึ้น
“ผมจะให้เธอเรียนให้จบม.6ที่นั่นก่อนครับแล้วค่อยย้ายมาที่นี่”
อิทธิกรและอินทิราปรึกษากันดีแล้วว่าให้คนที่เรือนใหญ่ที่ไร่ดูแลเด็กสาวให้จบม.6ที่โรงเรียนที่เธอเรียนอยู่ไปก่อนเมื่อจบแล้วก็ค่อยให้ย้ายมาเรียนที่นี่
“ดีแล้วหละเธอจะได้ไม่ต้องย้ายกลางคัน”
อรุณาเห็นว่าวิธีแบบนี้มันก็ดีเหมือนกันอัญชัญจะได้ไม่ต้องย้ายกลางคันให้มันยุ่งยาก
“แต่ออมก็ยังห่วงๆเรื่องนี้อยู่เหมือนกันอัญชัญเป็นเด็กหัวอ่อนไม่รู้ว่าจะเข้ากับคนที่นี่ได้มากน้อยแค่ไหน”
อินทิราดูๆแล้วอัญชัญยังดูเป็นเด็กอยู่มากเมื่อเทียบกับเด็กในเมืองที่อายุเท่ากับเธอจึงรู้สึกเป็นห่วงเล็กๆว่าถ้าหากอัญชัญต้องมาเจอกับสังคมจะเป็นอย่างไรเธอเองรู้ดีว่าสังคมที่นี่กับบ้านนอกมันต่างกันแค่ไหนเธอจึงอดห่วงอัญชัญไม่ได้เมื่อถึงเวลาที่จะเข้ามาเรียนต่อที่นี่
“แม่ว่าคงต้องปล่อยให้อัญชัญได้เรียนรู้ด้วยตัวเองสักพักไม่นานคงจะปรับตัวได้เอง”“ค่ะคุณแม่”อรุณาเองก็พอจะรู้อยู่ว่าอัญชัญเป็นอย่างไรแต่คนเรามันก็ต้องโตขึ้นไปทุกวันยังไงเธอก็คิดว่าชีวิตที่อัญชัญจะต้องเจอจะเป็นการสอนเด็กสาวเองว่าจะต้องรับมือกับมันยังไงเธอเชื่อว่าคนที่มีสำนึกดีอย่างอัญชัญจะต้องผ่านมันไปได้บ้านโรจน์วินิจวรกุล18.00 น.“ช่วงนี้อินเลิฟวันหยุดก็หายไปแต่เช้ากลับมาซะเย็นทุกเลยนะ”ภัคดนัยที่นั่งอยู่หน้าบ้านในช่วงเย็นเห็นคนเป็นน้องสาวกลับมาเห็นเดินอารมณ์ดีเข้ามาก็ต้องเอ่ยปากพูดตามประสาพี่ชายหยอกน้องสาว“น้องก็ขอมีความสุขอยู่ใกล้แฟนบ้างอะไรบ้าง...ใครจะไปเหมือนคนบางคนที่น่าอิจฉาได้อยู่ใกล้คนที่อยากอยู่ใกล้ตลอด”พีรยาไม่เองก็ไม่ลืมที่จะยอกย้อนพี่ชายเธอกลับตามนิสัยของเธอ“พีคกลับมาก็ดีแล้วฉันมีเรื่องจะคุยกับแกอยู่พอดี”พรณภัทร์รีบเดินมาจูงมือเพื่อนสาวของเธอเข้าไปคุยอย่างรีบร้อนตอนนี้หญิงสาวเดินเหินได้สะดวกขึ้นเกือบร้อยเปอร์เซ็นเพราะถอดเฝือกออกนานแล้ว“อ๋อ..อืมไปคุยกันในห้องดีกว่า” พีรยาเห็นสีหน้าของเพื่อนสาวเธอก็พอจะเดาออกว่ามีธุระสำคัญจึงให้เข้าไปคุยในห้องเธอจะดีกว่า“มีอะไรหรือเ
“อิๆๆๆ”พีรยาเองไม่ได้ไปหายาให้พี่ชายเธอที่ไหนเพียงแต่กลับเข้าไปในห้องของเธอก็เท่านั้นตอนนี้หญิงสาวดีดดิ้นดีใจอยู่บนเตียงนอนที่แผนของเธอสำเร็จอีกแล้วตอนนี้ก็เหลือแค่พี่ชายเธอเองเท่านั้นที่จะช่วยให้ตัวเองได้สมหวังหรือเปล่าแกร็กกกกก“......”ภัคดนัยที่กำลังนั่งพิงหัวเตียงอ่านหนังสืออยู่ถึงกับเงยหน้ามองหญิงสาวด้วยสีหน้าที่แปลกใจเล็กน้อยที่เธอรีบร้อนเข้าห้องของเขามาด้วยในมือถือกะละมังน้ำเข้ามาอย่างรีบร้อน“พี่ภาคย์เป็นอะไรมากหรือเปล่าคะเดี๋ยวพลอยจะเช็ดตัวให้ก่อนนะคะยัยพลอยน่าจะกำลังไปหายามาเป็นถึงหมอทำไมไม่ดูแลตัวเองปล่อยให้ป่วยหนักแบบนี้ได้ไงล่ะคะ”พรณภัทร์วางกะละมังน้ำที่โต๊ะวางของข้างเตียงของชายหนุ่มพร้อมใช้ผ้าชุบน้ำบิดหมาดๆเตรียมที่จะเช็ดตัวให้คนที่นั่งพิงหัวเตียงอยู่“........???”ภัคดนัยมองการกระทำของหญิงสาวอย่างสงสัยในคราแรกแต่เมื่อได้ยินว่าน้องสาวของเขากำลังจะไปเอายามาให้จากปากหญิงสาวเขาก็เข้าใจได้ทันทีว่านี่คงจะเป็นการเล่นอะไรแผลงๆของน้องสาวของเขาอีกแล้วสินะ“ตัวก็ไม่ได้ร้อนนี่นา”พรณภัทร์นั่งลงข้างๆชายหนุ่มในมืออีกผ้าถือผ้าเอาไว้ด้วยสีหน้าที่เป็นกังวลส่วนมืออีกข้างก็ยื่นไปแตะที
บริษัทXXX17.00 น.“ทำอะไรอยู่เหรอ”“ออมถักกระเป๋าจิ๋วอยู่ค่ะเสร็จแล้ว2ใบน่ารักไหมคะ”อิทธิกรหิ้วคนเป็นภรรยามาที่ทำงานด้วยแทบจะทุกวันให้เธอมานั่งๆนอนๆที่นี่จนเธอเบื่อต้องหาอะไรทำในระหว่างที่เขาทำงานอยู่“พี่ชักจะอิจฉาไหมพรมในมือออมซะแล้วสิดูออมจะสนใจมันมากกว่าพี่”ชายหนุ่มลงนั่งบนโซฟาข้างๆกับภรรยาพร้อมใช้มือโอบไหล่ของเธอเอาไว้หลวมๆมีสีหน้าที่แกล้งทำเป็นแอบงอนเล็กน้อยที่วันนี้เธอเอาแต่นั่งจดจ่ออยู่กับก้อนไหมพรม“หืม..ออมก็สนใจพี่อิทตลอดนั่นแหละค่ะทำเป็นน้อยใจไปได้”อินทิราถึงกับต้องหยุดมือแล้วหันมาโอบกอดสามีขี้งอนของเธอที่อิจฉาแม้กระทั่งไหมพรมพร้อมบอกกับเขาใจจริงว่าเธอไม่เคยไม่สนใจเขาเลยแม้แต่นิดเดียว“แหม..เอมมาผิดจังหวะหรือเปล่าคะพี่อิท”ไอรดาเผลอเข้าห้องทำงานพี่ชายเธอโดยที่ไม่ได้เคาะประตูไม่คิดว่าทั้งสองกำลังหวานกันอยู่“มีอะไรเหรอเอม”อิทธิกรหันไปถามคนเป็นน้องสาวว่าที่เข้ามามีเรื่องอะไร“พอดีเอมนัดช่างที่เราสั่งตัดชุดเอาไว้ที่บ้านค่ะตอนนี้ชุดเสร็จแล้วเหลือแค่ให้เจ้าบ่าวเจ้าสาวไปลอง”ไอรดาต้องการมาบอกให้ทั้งสองรีบกลับบ้านเพราะตอนนี้เธอนัดช่างที่ตัดชุดให้ไปรอที่บ้านหลังจากที่พวกเธอเล
“ใกล้จะถึงแล้วเราไปกั้นประตูเงินประตูทองกันเถอะ”เมื่อขบวนใกล้ถึงพีรยาก็ดึงมือพรณภัทร์ออกไปด้านนอกทำหน้าที่เป็นเพื่อนเจ้าสาวกั้นประตูเงินประตูทองกับคนอื่นๆที่รออยู่ที่นี่“ออม”“พี่อิท”และแล้วก็ได้เวลาที่เจ้าบ่าวเจ้าสาวจะสวมแหวนแต่งงานและทำพิธีลดน้ำสังข์เสียทีทั้งสองจ้องหน้ากันอยู่เรื่อยๆต่างยิ้มให้กำลังใจกันและกันและปลื้มปริ่มอยู่ในใจอย่างมากที่พวกเขานั้นได้แต่งงานกันอย่างเป็นพิธีเสียทีช่วงเย็นของวันอินทิราอยู่ในชุดเจ้าสาวสีขาวกระโปรงสุ่มที่ดูเหมือนตุ๊กตามากๆหลังจากที่ช่างแต่งตัวให้เธอเรียบร้อยแล้วหญิงสาวก็หาเวลาเดินมาดูเพื่อนเธอเสียหน่อยว่าเป็นยังไงกันบ้างเพราะตั้งแต่เช้าก็ไม่ค่อยจะได้คุยกันเลย“เหนื่อยไหมแก”พีรยาเห็นอินทิราเดินเข้ามาในห้องก็เอ่ยถามคนเป็นเจ้าสาวว่าวันนี้รู้สึกเหนื่อยบ้างหรือเปล่ากำลังท้องกำลังไส้อยู่ด้วย“ไม่เลยพวกแกนั่นแหละที่ฉันต้องถามว่าเหนื่อยไหม”อินทิราคิดว่าคำถามนี้ควรจะเป็นเธอที่ถามมากกว่าเพราะว่าเธอนั้นแค่เข้าพิธีเฉยๆส่วนงานอย่างอื่นเพื่อนๆเธจัดแจงเองหมด“ไม่เลยพวกฉันเต็มใจทำให้แก”พรณภัทร์ยิ้มกว้างพร้อมหันไปตอบอินทิราพวกเธอไม่รู้สึกเหนื่อยเลยสักนิดกับอ
เขาใหญ่ไร่แก้วกัลยา08.00 น.เพล้งง“ออกไป”เป็นอีกวันที่เสียงอาละวาดดังขึ้นมาในบ้านหลังเล็กท้ายไร่อิทธิกรไม่ค่อยจะยอมทานอะไรอีกเช่นเคยหลังจากที่เขาได้รับอุบัติเหตุจนเสียการมองเห็นและย้ายจากคฤหาสน์หลังใหญ่ที่กรุงเทพมาขลุกอยู่ที่ไร่ของคนเป็นแม่นี่ก็เป็นเวลาสามสี่เดือนแล้วที่คนรักของเขาหายหน้าหายตาไม่กลับมาดูดำดูดีเขาเลยสักนิด“เป็นแบบนี้แทบทุกวันเลยหรือเปล่าเอื้อง”อรุณาถามแม่บ้านที่เธอให้ดูแลอยู่ที่นี่ด้วยสีหน้าอ่อนใจเธอคิดว่าเวลาผ่านไปร่วมสามเดือนจะทำให้ลูกชายคนโตของเธออาการดีขึ้นบ้างเสียอีก“ค่ะคุณณาเอื้องก็เห็นเป็นแบบนี้แทบทุกวันจนเด็กที่เรือนใหญ่ต่างก็หวาดคุณอิทกันหมดแล้วล่ะค่ะ”ช่อเอื้องที่รู้จักอิทธิกรเป็นอย่างดีเพราะเห็นมาตั้งแต่เด็กๆเธอรู้ว่าชายหนุ่มค่อนข้างที่จะโมโหร้ายแต่ก็มีเหตุผลอยู่พอตัวแต่ครั้งนี้ดูท่าชายหนุ่มจะอาการหนักเอาการเพราะหลังจากป่วยมานี้ก็ไม่เคยฟังอะไรใครทั้งนั้นแถมคนอื่นที่คอยดูแลยังเข้าหน้าไม่ค่อยจะติดอีกด้วย“เอมว่าป่วยกายคงไม่เท่าไรหรอกค่ะคุณแม่คงจะป่วยใจร่วมด้วยมากกว่า”ไอรดามองหน้าคนเป็นแม่เธอพอจะรู้อาการของพี่ชายเธออยู่บ้างว่าไอ้ที่ทำตัวค่อนข้างงี่เง่าอ
เย็นของวันเรือนเล็กท้ายไร่ถึงตาอิทธิกรยังมองไม่เห็นแต่เขาก็สามารถที่จะหาน้ำเมามาเพื่อดับความทุกข์ในใจของเขาได้ตอนนี้ในใจของเขามันร้อนลุ่มดั่งไฟสุมเขาเกลียดอุบัติเหตุวันนั้นที่ทำให้เขาต้องกลายเป็นคนตาบอดแบบนี้หนำซ้ำหญิงคนรักยังไม่คิดจะเป็นห่วงมาดูดำดูดีเขาอีกแกร๊กกก“กิ่ง!!”อิทธิพลได้ยินเสียงคนเดินเข้ามาก็ดีใจขึ้นมาแวบหนึ่งเพราะคิดว่าเป็นหญิงคนรักที่เขาคอยเฝ้ารอมาหาเขาแล้ว“เอมกับคุณแม่เองค่ะพี่อิท”ไอรดาถึงกับส่ายหัวให้กับพี่ชายของเธอที่ไม่รู้จะละเมอเพ้อพกอะไรถึงผู้หญิงคนนั้นนักหนาตอนนี้เธอคันปากอยากจะบอกความจริงแย่แล้วว่าวีรกรรมของกรกนกมันมีอะไรบ้าง“นี่ดื่มหนักขนาดนี้ไม่คิดจะเป็นห่วงสุขภาพของตัวเองบ้างหรือไงตาอิท”อรุณาไม่อยากเห็นลูกชายเธอเป็นแบบนี้นานๆเลยใบหน้าที่เคยดูหล่อเหลากลับดูเหี่ยวเฉาอิดโรยผอมขอบตาดำคล้ำผมเผ้าหนวดเคราเฟิ้มดูไม่เป็นผู้เป็นคนแถมยังดื่มแต่ของมึนเมาอีกต่างหาก“กิ่งเธอติดต่อมาบ้างหรือเปล่าครับคุณแม่”อิทธิกรอยากจะรู้ว่าคนรักของเขานั้นได้ติดต่อกับครอบครัวของเขาบ้างหรือเปล่าตอนนี้เขาหวังว่าจะได้คำตอบที่ทำให้เขาได้ใจชื้นขึ้นมาบ้างจากปากของคนที่เป็นแม่ของเขา“เอ่
“ถ้าพี่เป็นออมอย่าหวังว่าพี่จะทน”ภัคดนัยถึงกับนั่งลงที่เก้าอี้ด้วยความเซ็งพร้อมนึกถึงชีวิตของอินทิราแล้วเขาก็เหนื่อยใจแทนบ้านปัทมกร“มัวไปถเลถไหลที่ไหนจนต้องให้ฉันโทรตามล่ะ”อรดียืนรออินทิราอยู่ที่หน้าบ้านเพราะในใจรู้ดีว่าวันนี้เป็นวันที่หญิงสาวเงินเดือนออกเมื่อหญิงสาวเข้ามาในบ้านได้เธอก็ส่งเสียงพูดจาจีบปากจีบคออย่างไม่พอใจและมีสีหน้าโมโหเล็กน้อย“พอดีออมไปงานวันเกิดพี่ภาคย์มาน่ะค่ะ...นี่เงินเดือนออมค่ะคุณแม่”อินทิรารีบเข้ามาบอกคนเป็นแม่ใหญ่ของเธออย่างรวดเร็วว่าที่เธอกลับช้าเธอไปที่ไหนมาพร้อมทั้งควักเงินเดือนที่เกือบทั้งหมดที่เป็นเงินเดือนของเธอยื่นให้หญิงตรงหน้าอย่างเต็มใจเงินที่เหลือของเธอก็เก็บไว้แค่พอมีกินและค่ารถไปทำงานก็เท่านั้น“อืม..รู้หน้าที่แบบนี้ก็ดีนี่ลาออกแล้วใช่ไหมวันมะรืนนี้ทางนั้นเค้าจะมารับแกไปแล้วนะเตรียมตัวให้พร้อมล่ะ”อรดีรีบรับเงินจากอินทิราด้วยสีหน้าพอใจพร้อมเดินกลับเข้าไปในบ้านทันทีแต่ก็ยังมิวายย้ำสิ่งที่หญิงสาวจะต้องทำในอีกไม่กี่วันนี้“ค่ะคุณแม่”ทุกๆเดือนเวลาเงินเดือนออกอินทิราก็จะนำเงินที่หักจากค่ากินค่ารถของเธอทั้งหมดให้กับอรดีเพราะรู้ว่าสถานะทางบ้านของเ
“อันว่าจะไปทัวร์ยุโรปกับธันเค้าซะหน่อยน่ะค่ะไหนๆเราก็ได้เงินจากคนบ้านนั้นมาแล้วนี่คะ”“นี่ไม่คิดจะอยู่บ้านอยู่ช่องบ้างเลยหรือไง”“ก็บ้านมันน่าเบื่อนี่คะอันไปแล้วนะคะคุณแม่”ตั้งแต่อันธิกาเรียนจบก็เอาแต่ผลาญเงินที่บ้านท่าเดียวงานก็ไม่เคยช่วยคนเป็นแม่แต่อรดีก็ไม่ได้ว่าอะไรลูกสาวเธอเพราะเธอเลี้ยงตามใจมาตั้งแต่เด็กๆครั้งนี้เมื่ออันธิการู้ว่าได้เงินก้อนใหญ่มาก็หาเรื่องเที่ยวกับแฟนหนุ่มอีกเช่นเคยไร่แก้วกัลยา“เอ่อ...คุณวิทคะอย่าหาว่าอย่างงั้นอย่างงี้เลยนะคะคือออมอยากจะรู้น่ะค่ะว่าเจ้านายของคุณวิทเค้านิสัยเป็นยังไง”“อืมม...คุณอิทก็เป็นคนค่อนข้างตรงไปตรงมานะครับแต่ก็จะแอบขี้หงุดหงิดบ้างเล็กน้อยแต่คุณออมไม่ต้องกลัวไปก่อนนะครับคุณอิทก็ไม่ใช่คนที่โหดร้ายอะไร”“อืมม...ค่ะ”ในระหว่างที่รถตู้คันหรูแล่นเข้ามาในไร่ผ่านป้ายไร่แก้วกัลยาเข้ามาตอนนี้ใจของอินทิราเต้นแรงผิดปกติเพรารู้สึกตื่นเต้นที่ใกล้จะถึงที่หมายแล้วด้วยความที่อยากรู้นิสัยของคนที่เธอจะมาแต่งงานด้วยและดูแลเขาในช่วงที่ชายหนุ่มนั้นยังมองไม่เห็นเธอเองก็อยากจะรู้นิสัยของชายหนุ่มคร่าวๆก่อนเพื่อที่จะรับมือถูกเธอรู้มาว่าวิทวัสเป็นคนสนิทของอิทธ