“ถ้าพี่เป็นออมอย่าหวังว่าพี่จะทน”
ภัคดนัยถึงกับนั่งลงที่เก้าอี้ด้วยความเซ็งพร้อมนึกถึงชีวิตของอินทิราแล้วเขาก็เหนื่อยใจแทน
บ้านปัทมกร
“มัวไปถเลถไหลที่ไหนจนต้องให้ฉันโทรตามล่ะ”
อรดียืนรออินทิราอยู่ที่หน้าบ้านเพราะในใจรู้ดีว่าวันนี้เป็นวันที่หญิงสาวเงินเดือนออกเมื่อหญิงสาวเข้ามาในบ้านได้เธอก็ส่งเสียงพูดจาจีบปากจีบคออย่างไม่พอใจและมีสีหน้าโมโหเล็กน้อย
“พอดีออมไปงานวันเกิดพี่ภาคย์มาน่ะค่ะ...นี่เงินเดือนออมค่ะคุณแม่”
อินทิรารีบเข้ามาบอกคนเป็นแม่ใหญ่ของเธออย่างรวดเร็วว่าที่เธอกลับช้าเธอไปที่ไหนมาพร้อมทั้งควักเงินเดือนที่เกือบทั้งหมดที่เป็นเงินเดือนของเธอยื่นให้หญิงตรงหน้าอย่างเต็มใจเงินที่เหลือของเธอก็เก็บไว้แค่พอมีกินและค่ารถไปทำงานก็เท่านั้น
“อืม..รู้หน้าที่แบบนี้ก็ดีนี่ลาออกแล้วใช่ไหมวันมะรืนนี้ทางนั้นเค้าจะมารับแกไปแล้วนะเตรียมตัวให้พร้อมล่ะ”
อรดีรีบรับเงินจากอินทิราด้วยสีหน้าพอใจพร้อมเดินกลับเข้าไปในบ้านทันทีแต่ก็ยังมิวายย้ำสิ่งที่หญิงสาวจะต้องทำในอีกไม่กี่วันนี้
“ค่ะคุณแม่”
ทุกๆเดือนเวลาเงินเดือนออกอินทิราก็จะนำเงินที่หักจากค่ากินค่ารถของเธอทั้งหมดให้กับอรดีเพราะรู้ว่าสถานะทางบ้านของเธอตอนนี้เป็นอย่างไรตั้งแต่ก่อนคุณพ่อของเธอจะเสียธุรกิจก็ลุ่มๆดอนๆมาตลอดและหลังจากที่พ่อเธอเสียก็ทรุดฮวบหนักจนถึงขั้นถังแตกหญิงสาวจึงคิดว่าอะไรที่แบ่งเบาภาระของคนในบ้านได้เธอก็จะทำ
เพราะสำนึกในบุญคุณของคนที่ชุบเลี้ยงและส่งเธอเรียนเธอเรียนตั้งแต่แม่เธอเสียเมื่อครั้นที่เธอยังเด็กถึงแม้ว่าแม่ใหญ่และพี่สาวต่างแม่ของเธอจะทำกิริยาไม่ดีกับเธอบ้างแต่เธอก็ไม่เคยโกรธเพราะเข้าใจว่าพวกเขาคงยังมีความโกรธที่เธอเป็นลูกเมียน้อย
วันนี้อินทิราได้ลาออกตามคำสั่งของอรดีเพราะเธอจะต้องย้ายไปอยู่ที่เขาใหญ่ตามคำสั่งของอรดีสัญญาผูกมัดคลุมถุงชนที่จะให้พี่สาวของเธอไปแต่งงานกับลูกชายของเพื่อนคุณพ่อเธอมันเป็นเหตุให้เธอนั้นต้องเสียสละไปแต่งงานแทนเพราะว่าพี่สาวของเธอนั้นมีคนรักอยู่แล้ว
บ้านพัฒนโภคิน
“เป็นยังไงบ้างคะคุณแม่ทางนั้นเค้าว่ายังไงบ้าง”
ไอรดาเดินเข้ามาในบ้านหลังจากเลิกงานแล้งพร้อมวางกระเป๋าหรูที่โต้ะหน้าโซฟาทิ้งตัวลงอย่างอ่อนล้ากับงานแต่ก็ไม่ลืมจะถามเรื่องราวความคืบหน้าที่เธอได้คิดเอาไว้
“ก็เป็นแบบที่ลูกคิดนั่นแหละมะรืนนี้เค้าจะส่งตัวลูกสาวเค้ามาให้เห็นบอกว่าจะจัดงานแต่งเมื่อไรก็เชิญทางเราจัดการได้เลย”
อรุณาที่กำลังนั่งทานผลไม้อยู่ก็เงยหน้าตอบคนเป็นลูกสาวว่าเรื่องผ่านไปได้ด้วยดีและเป็นอย่างที่ลูกสาวของเธอคิดคราแรกบ้านนั้นก็ทำท่าไม่ยอมท่าเดียวแต่เมื่อเสนอเงินให้หลักสิบล้านก็ยอมเอ่ยปากจะส่งตัวลูกสาวมาให้อย่างรวดเร็ว
“คนบ้านนี้นี่เค้ายังไงพูดเหมือนกับว่าไม่สนใจใยดีลูกตัวเองแบบนั้น”
ไอรดามีสีหน้าแปลกๆเมื่อได้ฟังคำที่คนเป็นแม่เล่าคำพูดของคนบ้านนั้นมันฟังดูทะแม่งยังไงชอบกลทำเหมือนกับลูกสาวเป็นของซื้อของขายที่ทางบ้านเธอได้ตัวมาแล้วจะทำยังไงก็ได้แบบนั้น
“แม่ก็ไม่ค่อยเข้าใจเหมือนกันแต่เมื่อเรื่องมันง่ายมันก็ดีสำหรับทางเรา”
อรุณาเองคราแรกก็ตกใจเล็กน้อยแต่ก็คิดว่าถ้าเรื่องมันเป็นไปตามแผนที่เธอกับลูกสาววางเอาไว้ก็ไม่ได้อยากคิดอะไรมากเธอเอาลูกสาวคนอื่นมาก็ไม่ใช่ว่าจะให้มาตกระกำลำบากเสียเมื่อไรที่จะหนักก็เห็นจะเป็นแค่หญิงสาวต้องรับมือกับลูกชายของเธอให้ได้ก็เท่านั้นเอง
“เอมคิดว่าพี่อิทคงจะดีใจนะคะที่จะได้สาวคนใหม่มาดูแล”
ไอรดาเห็นว่าทางนั้นจะส่งตัวลุกสาวมาให้ทางบ้านเธอแล้วครานี้เธอก็ต้องนึกถึงเรื่องลำดับต่อไปว่าจะเป็นยังไงหากลูกสาวบ้านนั้นมาดูแลพี่ชายของเธอ
“แม่กลัวว่าพี่ชายเราจะทำให้ลูกสาวเค้าวิ่งแจ้นกลับไปน่ะสิ”
อรุณาเองดีใจที่แผนการผ่านขั้นตอนแรกมาได้แต่ขั้นตอนที่น่าจะยากก็ตรงที่ให้หญิงสาวมาดูแลลุกชายเธอนี่แหละเรื่องนี้ที่เธอค่อนข้างหนักใจ
2 วันต่อมา
17.00 น.
“พีคพี่ไปหาออมที่บริษัทแต่คนที่นั่นบอกว่าออมลาออกไปตั้งแต่สิ้นเดือนแล้ว”
ภัคดนัยเดินหน้าตาตื่นเข้ามาหาคนเป็นน้องสาวที่ห้องของเธอเพราะเขารู้สึกใจไม่ดีที่ตอนนี้ไม่รู้ว่าอินทิรานั้นไปอยู่ที่ไหน
“อะไรนะคะ...จริงเหรอคะ”
พีรยาถึงกับทำหน้างงในสิ่งที่พี่ชายเธอพูดอันที่จริงหากเพื่อนเธอลาออกจากที่ทำงานเธอก็ควรจะรู้สิแต่นี่ไม่เห็นเพื่อนสาวเธอจะเอ่ยปากบอกทั้งที่ก็พึ่งเจอกันเธอไม่อยากจะเชื่อเรื่องที่ได้ยินมาสักเท่าไร
“จริงสิพี่ลองติดต่อก็ติดต่อไม่ได้ไปหาที่บ้านคนบ้านนั้นก็บอกไม่รู้ว่าออมอยู่ไหน”
ภัคดนัยยังยืนยันว่าเขาก็ได้ไปที่บ้านของเธอแล้วแต่ก็ยังไม่รู้ว่าอินทิราอยู่ไหนอยู่ดีรู้แต่ว่าลาออกแล้วจริงๆ
“ติดต่อไม่ได้จริงๆด้วย..อะไรกันถ้าคนบ้านนั้นเค้าท่าทางจะหนักแล้วนะคะคนในบ้านทั้งคนหายไปไม่รู้ว่าอยู่ที่ไหน”
พีรยาอดทนเก็บความสงสัยนี้ไม่ได้เธอจึงรีบต่อสายหาอินทิราทันทีแต่ปรากฏว่ามันติดต่อไม่ได้จริงๆตอนนี้เธอเริ่มใจไม่ดีตามพี่ชายของเธอเสียแล้ว
บ้านปัทมกร
“ใครมาเหรอคะคุณแม่”
อันธิกาลากกระเป๋าลงมาจากชั้นบนเมื่อครู่เห็นว่ามีคนมาที่บ้านแต่พอลงมาก็ไม่เจอแล้วเลยถามคนเป็นแม่ด้วยความสงสัยว่าใครมาหา
“ก็พ่อหมอหนุ่มที่ตามก้อล่อก้อติดนังออมอยู่น่ะสิมาถามหา”
อรดีตอบลูกสาวสุดที่รักของเธอด้วยสีหน้าระอากับบุคคลที่พูดถึงอยู่เล็กน้อยที่ดูท่าจะชอบอินทิราเอามากเธอบอกว่าไม่รู้ว่าอินทิราไปไหนก็เค้นเอาคำตอบจากเธอจนต้องเอ่ยปากไล่กันเลยทีเดียว
“แล้วคุณแม่บอกมันไปว่ายังไงคะ”
“ก็บอกว่าไม่รู้ไม่เห็นน่ะสิ”
“ดีแล้วค่ะ”
อันธิการู้ว่าแม่ของเธอไม่บอกความจริงกับหมอหนุ่มคนนั้นก็สบายใจเพราะรู้ว่าหากภัคดนัยรู้ความจริงต้องตามหาอินทิราแล้วลากตัวกลับมาให้เสียแผนเป็นแน่
“แล้วนี่ลูกจะไปไหน”
อรดีเห็นว่านี่มันก็เย็นแล้วแต่ลูกสาวเธอแต่งตัวเต็มแถมยังมีกระเป๋าใบใหญ่อยู่ข้างตัวอีกต่างหากจึงต้องเอ่ยถามว่าลูกสาวของเธอจะไปไหน
“อันว่าจะไปทัวร์ยุโรปกับธันเค้าซะหน่อยน่ะค่ะไหนๆเราก็ได้เงินจากคนบ้านนั้นมาแล้วนี่คะ”“นี่ไม่คิดจะอยู่บ้านอยู่ช่องบ้างเลยหรือไง”“ก็บ้านมันน่าเบื่อนี่คะอันไปแล้วนะคะคุณแม่”ตั้งแต่อันธิกาเรียนจบก็เอาแต่ผลาญเงินที่บ้านท่าเดียวงานก็ไม่เคยช่วยคนเป็นแม่แต่อรดีก็ไม่ได้ว่าอะไรลูกสาวเธอเพราะเธอเลี้ยงตามใจมาตั้งแต่เด็กๆครั้งนี้เมื่ออันธิการู้ว่าได้เงินก้อนใหญ่มาก็หาเรื่องเที่ยวกับแฟนหนุ่มอีกเช่นเคยไร่แก้วกัลยา“เอ่อ...คุณวิทคะอย่าหาว่าอย่างงั้นอย่างงี้เลยนะคะคือออมอยากจะรู้น่ะค่ะว่าเจ้านายของคุณวิทเค้านิสัยเป็นยังไง”“อืมม...คุณอิทก็เป็นคนค่อนข้างตรงไปตรงมานะครับแต่ก็จะแอบขี้หงุดหงิดบ้างเล็กน้อยแต่คุณออมไม่ต้องกลัวไปก่อนนะครับคุณอิทก็ไม่ใช่คนที่โหดร้ายอะไร”“อืมม...ค่ะ”ในระหว่างที่รถตู้คันหรูแล่นเข้ามาในไร่ผ่านป้ายไร่แก้วกัลยาเข้ามาตอนนี้ใจของอินทิราเต้นแรงผิดปกติเพรารู้สึกตื่นเต้นที่ใกล้จะถึงที่หมายแล้วด้วยความที่อยากรู้นิสัยของคนที่เธอจะมาแต่งงานด้วยและดูแลเขาในช่วงที่ชายหนุ่มนั้นยังมองไม่เห็นเธอเองก็อยากจะรู้นิสัยของชายหนุ่มคร่าวๆก่อนเพื่อที่จะรับมือถูกเธอรู้มาว่าวิทวัสเป็นคนสนิทของอิทธ
“อย่าพึ่งชะล่าใจไปออมรอเจอของจริงก่อน”ไอรดาหันมายิ้มเจ้าเล่ห์ให้กับอินทิราเพราะเห็นแม่สาวเจ้ามั่นใจนักหนาว่าจะรับมือได้เธอเองไม่อยากจะคิดว่าถ้าหากหญิงสาวได้รู้ฤทธิ์พี่ชายของเธอจะยังพูดคำนี้อยู่หรือเปล่า“ยัยเอม”อรุณาจำต้องส่งเสียงต่ำดุคนเป็นลูกสาวที่กำลังจะทำให้ไก่ตื่นแกร๊ก“หืมมมม”อรุณาเดินเข้ามาเปิดประตูห้องลูกชายของเธอกลิ่นแอลกอฮอลล์ที่คละคลุ้งอยู่ในห้องทำเอาอินทิราต้องยกมือขึ้นมาป้องจมูกเอาไว้หญิงสาวมองเข้าไปด้านในห้องมีผู้ชายค่อนข้างจะตัวสูงใหญ่มัดกล้ามที่แทบจะโตกว่าตัวเธอหากเหวี่ยงมาฟาดที่ตัวเธอก็คงจะหักเป็นสองท่อนแล้วผมเผ้าหนวดเครารุงรังดูไม่เป็นผู้เป็นคนแถมในมือยังถือแต่ขวดน้ำเมาอีกต่างหากนี่หรือคือคนที่เธอต้องดูแลงานนี้ท่าทางจะหนักสำหรับเธอเสียแล้วหญิงสาวคิดในใจ“ตาอิททำไมดื่มแต่ของแบบนี้กันแล้วข้าวนี่ก็ยังไม่ได้แตะเลยแม้แต่นิดทำไมยังเป็นแบบนี้อยู่อีกนะ”อรุณานึกว่าลูกชายของเธอจะอาการดีขึ้นเสียอีกที่ไหนได้เหมือนจะหนักขึ้นทุกวันๆจนเธอเริ่มใจเสียว่าลูกชายคนเดิมของเธอจะกลับมาปกติเมื่อไร“สงสัยอยากจะตายก่อนวัยอันควร”ไอรดาเองก็ไม่ชอบที่จะเห็นพี่ชายของเธอเป็นเช่นนี้เหมือนกันแ
ฉ่าาาาาาาา“ฮัดชิ่ววว”หญิงสาวหยิบหมูกับกระเพราและพริกสดออกจากตู้มาหั่นล้างทำความสะอาดแล้วแกะกระเทียมที่ห้อยอยู่ด้านนอกมาปอกเปลือกและสับอย่างชำนาญตอนนี้ของทุกอย่างก็ได้ลงกระทะไปพร้อมกันแล้วหญิงสาวหยิบเครื่องปรุงรสใส่ตามใจที่เธอชอบตอนนี้อาหารในกระทะส่งกลิ่นฉุนเล็กน้อยจนทำให้หญิงสาวจามไม่นานกระเพราหมูสุดน่าทานจานนี้ก็เสร็จสิ้นแกร๊ก“ทานข้าวเย็นค่ะคุณอิท”อินทิราเดินเปิดประตูห้องของชายหนุ่มเข้ามาเธอเห็นว่าเขาก็ยังนั่งอยู่ที่เดิมพร้อมเอาถาดอาหารไปวางตรงหน้าคิดว่าถ้าหากชายหนุ่มได้กลิ่นอาหารที่หอมขนาดนี้คงจะอยากทานข้าวขึ้นมาบ้าง“นี่เธอยังไม่กลับไปอีกเหรอ”อิทธิกรคิดว่าหญิงสาวที่เขาตวาดใส่เมื่อครู่จะกลับไปแล้วเสียอีก“ไม่ค่ะออมจะต้องอยู่ดูแลคุณ”อินทิรายังยืนยันคำพูดเดิมของเธอว่าเธอจะต้องอยู่ที่นี่เพื่อดูแลชายหนุ่มและเธอก็จะไม่ถอดใจกลับไปง่ายๆแน่เพราเธอก็ไม่รู้จะไปอยู่ที่ไหน“เธอนี่ท่าทางจะตื๊อไม่เลิกนะ...กลัวแม่ฉันจะเอาเงินคืนหรือไง”อิทธิกรสบถออกมาอย่างหัวเสียเขาคิดว่าที่หญิงสาวไม่ยอมถอดใจง่ายๆคงจะเป็นเพราเงินที่สูงหลายสิบล้านที่แม่ของเขาจ่ายเพื่อให้ได้ตัวของเธอมา“เงิน...เงินอะไรคะ”อิน
“ออมเองค่ะ...คุณอิทนอนไปเลยค่ะเดี๋ยวออมขอเก็บห้องให้คุณอิทก่อน...อ้อแล้วเมื่อวานคุณอิทก็ไม่ได้ทานข้าวนี่คะวันนี้ยังไงคุณอิทก็ต้องทานนะคะ”อินทิราตั้งหน้าตั้งตารวบรวมขวดน้ำเมาของชายหนุ่มไปทิ้งให้หมดนี่ก็ใกล้จะเสร็จแล้วแต่เขาดันตื่นขึ้นมาก่อนเธอว่าเธอพยายามเบามือที่สุดแล้วนะ“เธอนี่มัน!!...แล้วต้องเก็บอะไรนักหนา”เขาไม่เข้าใจว่าหญิงสาวยังจะบอกให้เขาหลับลงได้อย่างไรทั้งที่เธอมาก่อกวนส่งเสียงรบกวนเขาอยู่แบบนี้“ก็พวกขวดเครื่องดื่มพวกนี้ไงคะออมเอาไปทิ้งเกือบจะหมดแล้วนะคะต่อไปนี้ออมจะไม่ให้คุณอิทดื่มของพวกนี้แล้วค่ะเมื่อเช้าออมให้แม่บ้านเอาน้ำผลไม้มาไว้ในบ้านแทนถ้าคุณอิทอยากดื่มน้ำผลไม้อะไรก็บอกออมนะคะเดี๋ยวออมจะไปเอามาให้ค่ะ”อินทิราตั้งเริ่มปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการกินการอยู่ของชายหนุ่มใหม่เสียตั้งแต่วันนี้โดยเริ่มจากสิ่งแรกเธอต้องเก็บขวดน้ำเมาพวกนี้ไปทิ้งให้หมดเสียก่อนแล้วเปลี่ยนเป็นเครื่องดื่มที่มีประโยชน์ให้ชายหนุ่มแทน“เธอกล้ามากนักนะยัยจุ้นจ้าน”เคร้ง...เพล้ง...ๆๆอิทธกรได้ยินสิ่งที่หญิงสาวพูดก็ลุกพรวดขึ้นมาอาละวาดด้วยความโมโหขว้างปาสิ่งของที่มือสัมผัสได้ในตอนนี้อย่างหงุดหงิด“ว้ายยยย..
ของเหลวที่เปื้อนมือของเขาสัมผัสแรกเขาก็รู้ทันทีว่ามันไม่ใช่น้ำเปล่าเป็นแน่บวกกับกลิ่นคาวก็ทำให้เขารู้ว่าหญิงสาวมีเลือดออกเขาไม่ได้ตั้งใจที่จะทำให้เธอเจ็บตัวแบบนี้“ออมไม่เป็นอะไรค่ะขอตัวไปทำแผลก่อนนะคะ”อินทิราน้ำตาคลอเบ้าเพราเจ็บที่หางคิ้วอีกอย่างเธอก็ไม่ชอบเห็นเลือดสักเท่าไรเลยรีบเดินออกจากห้องของชายหนุ่มอย่างรวดเร็วและเข้าไปทำแผลที่ห้องของตัวเองอิทธิกรค่อยๆเดินไปที่ห้องของหญิงสาวเมื่อคลำมาที่ประตูห้องของเธอปรากฏว่าเธอไม่ได้ปิดประตูจึงค่อยๆเดินเข้าไปถามอาการของหญิงสาวตอนนี้เขารู้สึกผิดเล็กน้อยเพราะทำให้เธอถึงกับเลือดตกยางออกถึงเขาจะขี้โมโหและรำคาญเธออยู่บ้างแต่ก็ไม่ได้คิดจะทำให้หญิงสาวบาดเจ็บ“คุณอิท”อินทิราที่กำลังนั่งทำแผลอยู่ที่เตียงของเธอพร้อมกระจกบานเล็กหนึ่งบานเมื่อเห็นว่ามีร่างสูงเดินเข้ามาจึงเงยหน้าขึ้นมาดูพร้อมลุกขึ้นไปพาชายหนุ่มที่ค่อยๆเดินคลำทางเข้ามามานั่งบนเตียงของเธอ“แผลลึกหรือเปล่าต้องไปหาหมอไหม”อิทธิกรสอบถามอาหารของหญิงสาวด้วยความรู้สึกผิดและเป็นห่วงว่าบาดแผลของหญิงสาวจะต้องไปให้หมอดูหรือไม่“ไม่ค่ะแผลนิดเดียวเอง”อินทิรายิ้มออกจากเมื่อครู่ที่รู้สึกเคืองชายหนุ่มอ
20 นาทีต่อมา“ข้าวต้มร้อนๆได้แล้วค่ะ”อินทิราวางถ้วยข้าวตมตรงหน้าชายหนุ่มพร้อมจะเดินออกไปจากห้องให้เขาได้นั่งทานเงียบๆคนเดียวเธอไม่อยากจะอยู่กวนเผื่อชายหนุ่มจะทานไม่ลงหากเธอนั้นอยู่ใกล้ๆ“ป้อนฉันสิ”“คะ...คุณอิททานเองไม่ได้เหรอคะ”อินทิราจำต้องชะงักฝีเท้าหันมาหาชายหนุ่มด้วยสีหน้าแปลกใจเธอจำได้ว่าชายหนุ่มก็สามารถที่จะทำอะไรเองได้โดยที่ไม่ต้องมีเธอช่วยนี่นา“ก็ฉันสั่งให้เธอป้อนเธอก็ต้องป้อนอยากจะดูแลฉันไม่ใช่รึไง”อิทธิกรเริ่มมีน้ำเสียงที่แข็งขึ้นที่หญิงสาวชอบที่จะขัดใจเขาอยู่เรื่อยไป“เอ่อ..ค่ะ”อินทิราเห็นว่าชายหนุ่มเริ่มมีท่าทีที่จะโมโหอีกแล้วเธอจึงรีบนั่งลงตรงใกล้ๆกับชายหนุ่มเพื่อที่จะป้อนข้าวเขาได้อย่างถนัด“โอ้ย..ร้อนๆเธอคิดจะฆ่าฉันทางอ้อมรึไง..”เมื่อข้าวต้มคำแรกเข้าปากอิทธิกรถึงกับต้องเป่าปากใช้มือพัดพันวันเพรามันค่อนข้างร้อนอย่างมากจนตอนนี้เขารู้สึกได้ว่าปลายลิ้นนั้นชาไปหมดแล้ว“โทษทีค่ะลืมเป่า..”อินทิราถึงกับหน้าเหวอเพราะเธอรีบจนลืมเป่าให้ข้าวต้มหายร้อนก่อนที่จะเอาเข้าปากชายหนุ่มนั่นเองจึงรีบให้ชายหนุ่มดื่มน้ำก่อนภาพตรงหน้าก็ทำให้เธออดขำในท่าทีของเขาไม่ได้เหมือนกันเธอไม่ได้ตั
“เดี๋ยว...เธอนั่งรอฉันอยู่ในห้องฉันจะอาบน้ำสระผมแล้วเธอก็ต้องรอเช็ดผมให้ฉันเข้าใจใช่ไหม”“เข้า..เข้าใจค่ะ”อิทธิกรไม่ยอมปล่อยให้เธอไปไหนไกลเขายังอยากจะให้หญิงสาวที่บอกว่าอยากจะดูแลเขานักหนาให้เธอได้ดูแลเขาให้เบื่อกันไปข้างเลยอินทิรากลับมานั่งที่ปลายเตียงของชายหนุ่มอย่างใจตุ๊มๆต่อมๆคิดว่าเธอจะต้องได้เจอเขาในสภาพเดียวกับวันนั้นแน่เลยก่อนที่เขาจะออกมาเธอต้องนั่งทำใจให้ชินกับเรื่องแบบนี้เสียก่อนจะได้ไม่ประหม่ามากมายนัก30 นาทีต่อมา“ออม”“ขาคุณอิท”อินทิรารีบวิ่งไปที่หน้าประตูห้องน้ำเมื่อได้ยินเสียงที่ชายหนุ่มเรียกเธอเมื่อครู่อย่างรวดเร็วเพราคิดว่าเขาต้องมีเรื่องให้เธอช่วยเป็นแน่“หยิบผ้าขนหนูให้ฉันหน่อย”“ฮือ!!...ทำไมไม่บอกก่อนหน้านี้กันนะ...ออมพาดไว้ที่ลูกบิดหน้าประตูห้องน้ำนะคะ”หญิงสาวถึงกับคิ้วขมวดพร้อมนึกในใจว่าก่อนที่จะอาบน้ำเขาทำไมไม่เอาเข้าไปก่อนกันนะหญิงสาวหยิบผ้าขนหนูที่วางพับไว้หน้าห้องน้ำอย่างเป็นระเบียบมาหนึ่งผืนพร้อมพาดไว้ที่ลูกบิดประตูเพื่อให้ชายหนุ่มเปิดออกมาแล้วหยิบไปเองจะให้เธอเปิดประตูเอาเข้าไปให้ก็เกรงว่าจะหัวใจวายเสียก่อน“โอเค”แกร๊กกก“หึ้ยย”ยังไม่สิ้นเสียงตอบตกล
“เย็นนี้เดี๋ยวแม่กับยัยเอมอยู่ทานข้าวด้วยนะ”“ค่ะคุณแม่เดี๋ยวออมทำอาหารให้สุดฝีมือเลย”อรุณาอยากจะอยู่ดูพฤติกรรมของทั้งสองเวลาอยู่ด้วยกันก่อนจะกลับไปเสียหน่อยว่ามันดีขึ้นมากน้อยแค่ไหนเธอจะได้กลับไปทำงานของเธอได้อย่างสบายใจโดยที่ไม่ต้องห่วงทางนี้มากนักช่วงเย็นของวัน“นี่เราทำอาหารได้เยอะขนาดนี้เลยเหรอหนูออม”“ค่ะ...ออมชอบทำอาหารเลยรู้เมนูอาหารหลายอย่างแล้วก็ทำได้หลายอย่างด้วยวันหลังถ้าคุณแม่กับพี่เอมมาที่นี่อีกอยากทานอะไรบอกออมได้เลยนะคะ”อินทิราหน้าบานเมื่อได้รับคำชมหลังจากที่ทำกับข้าวหลายอย่างมาวางไว้ที่โต๊ะอาหาร“พูดอยู่นั่นจะทานกันได้รึยัง”“คุณอิทหิวขนาดนั้นเลยหรือไงคะ”หลังจากที่หญิงสาวพูดจบชายหนุ่มก็โพล่งคำบางคำออกมาอย่างขวานผ่าซากทำให้หญิงสาวต้องหุบยิ้มแล้วหันไปมองค้อนใส่ชายหนุ่มเล็กน้อยทั้งยังแอบพูดประชดเล็กน้อย“งั้นก็ทานข้าวกันเถอะ”อรุณาจำต้องรีบบอกให้ทุกคนทาน้าวกันได้ไม่เช่นนั้นสองคนนี้ดูท่าจะเถียงกันอีกยาวพร้อมส่ายหัวให้พ่อลูกชายตัวดีของเธอที่ปากพาหาเรื่องเสียจริง“ออมนี่ก็เก่งเหมือนกันนะคุณแม่มาแค่วันเดียวก็เปลี่ยนอะไรได้เยอะขนาดนี้”“แม่ก็ขอให้หนูออมทำให้ตาอิทดีขึ้นเร็