“อันว่าจะไปทัวร์ยุโรปกับธันเค้าซะหน่อยน่ะค่ะไหนๆเราก็ได้เงินจากคนบ้านนั้นมาแล้วนี่คะ”
“นี่ไม่คิดจะอยู่บ้านอยู่ช่องบ้างเลยหรือไง”
“ก็บ้านมันน่าเบื่อนี่คะอันไปแล้วนะคะคุณแม่”
ตั้งแต่อันธิกาเรียนจบก็เอาแต่ผลาญเงินที่บ้านท่าเดียวงานก็ไม่เคยช่วยคนเป็นแม่แต่อรดีก็ไม่ได้ว่าอะไรลูกสาวเธอเพราะเธอเลี้ยงตามใจมาตั้งแต่เด็กๆครั้งนี้เมื่ออันธิการู้ว่าได้เงินก้อนใหญ่มาก็หาเรื่องเที่ยวกับแฟนหนุ่มอีกเช่นเคย
ไร่แก้วกัลยา
“เอ่อ...คุณวิทคะอย่าหาว่าอย่างงั้นอย่างงี้เลยนะคะคือออมอยากจะรู้น่ะค่ะว่าเจ้านายของคุณวิทเค้านิสัยเป็นยังไง”
“อืมม...คุณอิทก็เป็นคนค่อนข้างตรงไปตรงมานะครับแต่ก็จะแอบขี้หงุดหงิดบ้างเล็กน้อยแต่คุณออมไม่ต้องกลัวไปก่อนนะครับคุณอิทก็ไม่ใช่คนที่โหดร้ายอะไร”
“อืมม...ค่ะ”
ในระหว่างที่รถตู้คันหรูแล่นเข้ามาในไร่ผ่านป้ายไร่แก้วกัลยาเข้ามาตอนนี้ใจของอินทิราเต้นแรงผิดปกติเพรารู้สึกตื่นเต้นที่ใกล้จะถึงที่หมายแล้ว
ด้วยความที่อยากรู้นิสัยของคนที่เธอจะมาแต่งงานด้วยและดูแลเขาในช่วงที่ชายหนุ่มนั้นยังมองไม่เห็นเธอเองก็อยากจะรู้นิสัยของชายหนุ่มคร่าวๆก่อนเพื่อที่จะรับมือถูกเธอรู้มาว่าวิทวัสเป็นคนสนิทของอิทธิกรจึงสอบถามเสียตอนนี้เลย
เรือนใหญ่
“สงสัยจะมาถึงกันแล้ว”
“ค่ะ”
อรุณามองออกไปหน้าบ้านก็เห็นรถที่วิทวัสขับไปรับลูกสาวของอรดีมาถึงแล้วจึงรับเรียกไอรดาให้ออกมาต้องรับคนมาใหม่ที่หน้าบ้าน
“นี่คุณณาเป็นแม่ของคุณอิทแล้วนี่ก็น้องสาวคุณอิทคุณเอมครับ”
“สวัสดีค่ะ”
“จ้า...มาเหนื่อยๆเข้าบ้านกันก่อนดีกว่า”
หลังจากที่ทั้งสามทักทายทำความรู้จักกันเรียบร้อยแล้วอรุณาก็เชิญอินทิราเข้ามาในบ้านเพื่อให้ได้พักเพราเดินทางมาน่าจะเหนื่อย
“หนูออมยินดีที่จะมาดูแลพี่เค้าใช่ไหมจ้ะ”
“ค่ะคุณณา”
“เรียกคุณแม่เถอะเดี๋ยวอีกหน่อยพี่เค้าหายดีหนูก็ต้องแต่งงานกับพี่เค้าแล้ว”
“ค่ะคุณแม่”
อรุณาดูท่าทางหญิงสาวกิริยามารยาทหน้าตาท่าทางก็น่าเอ็นดูอยู่ไม่น้อยถึงเธอจะใช้เงินซื้อตัวเธอมาแต่เธอก็หวังว่าหญิงสาวจะเต็มใจดูแลลูกชายของเธอตามที่พูดมาก็แล้วกัน
“นี่ก็ใกล้เวลาอาหารเย็นแล้วเดี๋ยวหนูออมทานอาหารกันก่อนเดี๋ยวแม่จะพาไปส่งที่เรือนเล็กก็แล้วกัน”
“คะ??..เรือนเล็ก”
นี่ยังไม่ถึงที่อยู่จริงๆของเธออีกเหรอหญิงสาวคิดในใจอินทิราคิดว่าเธอจะต้องอยู่ที่นี่เสียอีกเลยมีสีหน้าแปลกใจเล็กน้อย
“แม่ลืมบอกไปว่าตาอิทเค้าอยู่ที่เรือนเล็กท้ายไร่น่ะจะที่นั่นค่อนข้างเงียบสงบตาอิทก็เลยเลือกอยู่ที่นั่นหนูออมไม่มีปัญหาอะไรใช่ไหม”
อรุณาเองก็ลืมบอกกับหญิงสาวเองตั้งแต่แรกว่าจะต้องไปอยู่เรือนเล็กท้ายไร่กับลูกชายของเธอเมื่อเห็นสีหน้าแปลกใจของอินทิราจึงรีบถามว่าเธอติดปัญหาอะไรหรือเปล่าถ้าจะต้องไปอยู่ที่นั่นเพราะเรือนเล็กค่อนข้างที่จะคับแคบกว่าที่เรือนใหญ่นี้อยู่มาก
“อะ..เอ่อ..ไม่มีค่ะ”
อินทิรารีบสั่นหัวพัลวันเธอไม่ได้มีปัญหาอะไรแต่ที่เธอมีสีหน้าแปลกใจเพราะเธอไม่ได้รู้มาก่อนว่าจะต้องอยู่อีกที่เท่านั้นเอง
“อายุเท่าไรแล้วเราอะ”
“26ค่ะ”
“งั้นเรียกฉันว่าพี่แล้วกันฉันแก่กว่าเธอถ้ามีปัญหาอะไรก็ปรึกษาฉันได้ตลอด”
“ค่ะพี่เอม”
ในระหว่างการทานอาหารทั้งสามก็มีพูดคุยทำความคุ้นเคยกันนิดหน่อยโดยเฉพาะไอรดาที่คอยหาเรื่องคุยกับอินทิราอยู่ตลอด
“นี่ของเรามีแค่นี้เองเหรอออม”
หลังจากทานอาหารเย็นกันเรียบร้อยแล้วก็ได้เวลาที่ไอรดากับอรุณาจะไปส่งหญิงสาวที่เรือนเล็กไอรดาค่อนข้างแปลกใจเล็กน้อยที่หญิงสาวนั้นมีกระเป๋ามาแค่ใบเดียวผู้หญิงที่จะมาใช้ชีวิตอยู่ที่อื่นที่ไม่ใช่แค่วันสองวันนั้นจะมีสัมภาระแค่นี้เองหรือ
“ค่ะพี่เอม”
อินทิราพยักหน้าตอบคนเป็นพี่สาวด้วยสีหน้ายิ้มแย้มของใช้ที่จำเป็นของเธอก็มีอยู่แค่ที่เห็นนี่แหละ
“อืมม..งั้นไปกันได้แล้ว”
ไอรดาเห็นว่าหญิงสาวยืนยันว่ามีของแค่นั้นก็รีบขึ้นรถแล้วมุ่งหน้าไปที่เรือนเล็กท้ายไร่ทันที
“ที่นี่เป็นธรรมชาติมากเลยนะคะ”
อินทิราเดินลงจากรถพร้อมกระเป๋าของเธอที่แบกอยู่ที่หลังหญิงสาวมองไปรอบๆด้วยความแปลกตาแม้ว่าแสงสว่างจะสลัวๆแล้วเธอก็ยังรู้ว่าที่นี่สวยงามใช่เล่นแถมยังมีธรรมชาติที่อุดมสมบูรณ์รายล้อมอยู่อีกด้วย
“หนูออมชอบที่นี่หรือเปล่าจ๊ะ”
อรุณาเห็นอินทิรามีสีหน้าค่อนข้างที่พอใจเมื่อเห็นบ้านหลังนี้เธอเห็นแบบนี้ก็สบายใจได้กลัวว่าลูกคุณหนูอย่างอินทิราจะไม่ชอบเสียอีก
“ชอบค่ะบ้านหลังนี้เล็กๆน่ารักดี”
อินทิราตอบกลับอรุณาอย่างรวดเร็วแบบนี้แหละที่เธอโคตรจะชอบเลย
“เรื่องแต่งงานแม่ว่าจะให้ตาอิทรักษาตาจนหายดีก่อนแล้วค่อยจัดงานแต่งหนูออมว่าดีไหม...ตอนนี้หนูออมก็ดูแลพี่เค้าไปก่อน”
เมื่อตอนก่อนจะมาอรุณาเองก็ลืมคุยเรื่องนี้กับอินทิราไปเลยไหนๆก็มาถึงตอนนี้แล้วเธอก็คิดว่าควรจะตกลงกับหญิงสาวเรื่องงานแต่งงานเสียก่อนใจจริงถ้าหากเป็นไปได้เธอก็อยากให้ทั้งสองแต่งกันเสียเลยแต่เอาความจริงทั้งสองยังไม่ได้รู้จักกันแม้แต่นิดเดียวควรที่จะให้ทั้งสองศึกษากันก่อนจะดีกว่าอีกอย่างก็อยากจะให้พ้นการรักษาดวงตาของลูกชายเธอไปก่อนอีกด้วย
“ออมคิดว่าแบบนี้ก็ดีเหมือนกันค่ะคุณแม่”
อินทิราพยักหน้าอย่างเห็นด้วยกับอรุณามันเป็นความคิดที่ดีมากสำหรับเธอ
“งั้นเข้าไปข้างในกันเถอะจะ”
“ค่ะ”
“เอ่อแม่ลืมบอกอีกอย่างว่าช่วงนี้พี่เค้าค่อนข้างเจ้าอารมณ์สักนิด”
“ออมรู้แล้วค่ะคุณแม่..แต่ไม่เป็นไรค่ะออมคิดว่าออมรับมือได้”
ทั้งสามเข้ามาข้างในบ้านเรียบร้อยแล้วก็คุยสัพเพเหระกันนิดหน่อยอรุณาจำต้องบอกกิตติศัพท์ของลูกชายเธอตอนนี้ให้อินทิราได้ฟังก่อนเพื่อที่หากหญิงสาวเจอกับลูกชายของเธอจะได้ไม่ตกใจ
อินทิราเองก็พอรู้นิสัยคร่าวๆของอทธิกรจากวิทวัสมาบ้างแล้วเธอเองคิดว่าคนเราคงจะไม่มีอาการอารมณ์เสียตลอดเวลาหรอกอีกอย่างตอนที่เธออยู่ที่บ้านคนที่บ้านของเธอก็มักจะทำอารมณ์เสียใส่เธอจนเธอชินกับอารมณ์คนแบบนี้เสียแล้ว
“อย่าพึ่งชะล่าใจไปออมรอเจอของจริงก่อน”ไอรดาหันมายิ้มเจ้าเล่ห์ให้กับอินทิราเพราะเห็นแม่สาวเจ้ามั่นใจนักหนาว่าจะรับมือได้เธอเองไม่อยากจะคิดว่าถ้าหากหญิงสาวได้รู้ฤทธิ์พี่ชายของเธอจะยังพูดคำนี้อยู่หรือเปล่า“ยัยเอม”อรุณาจำต้องส่งเสียงต่ำดุคนเป็นลูกสาวที่กำลังจะทำให้ไก่ตื่นแกร๊ก“หืมมมม”อรุณาเดินเข้ามาเปิดประตูห้องลูกชายของเธอกลิ่นแอลกอฮอลล์ที่คละคลุ้งอยู่ในห้องทำเอาอินทิราต้องยกมือขึ้นมาป้องจมูกเอาไว้หญิงสาวมองเข้าไปด้านในห้องมีผู้ชายค่อนข้างจะตัวสูงใหญ่มัดกล้ามที่แทบจะโตกว่าตัวเธอหากเหวี่ยงมาฟาดที่ตัวเธอก็คงจะหักเป็นสองท่อนแล้วผมเผ้าหนวดเครารุงรังดูไม่เป็นผู้เป็นคนแถมในมือยังถือแต่ขวดน้ำเมาอีกต่างหากนี่หรือคือคนที่เธอต้องดูแลงานนี้ท่าทางจะหนักสำหรับเธอเสียแล้วหญิงสาวคิดในใจ“ตาอิททำไมดื่มแต่ของแบบนี้กันแล้วข้าวนี่ก็ยังไม่ได้แตะเลยแม้แต่นิดทำไมยังเป็นแบบนี้อยู่อีกนะ”อรุณานึกว่าลูกชายของเธอจะอาการดีขึ้นเสียอีกที่ไหนได้เหมือนจะหนักขึ้นทุกวันๆจนเธอเริ่มใจเสียว่าลูกชายคนเดิมของเธอจะกลับมาปกติเมื่อไร“สงสัยอยากจะตายก่อนวัยอันควร”ไอรดาเองก็ไม่ชอบที่จะเห็นพี่ชายของเธอเป็นเช่นนี้เหมือนกันแ
ฉ่าาาาาาาา“ฮัดชิ่ววว”หญิงสาวหยิบหมูกับกระเพราและพริกสดออกจากตู้มาหั่นล้างทำความสะอาดแล้วแกะกระเทียมที่ห้อยอยู่ด้านนอกมาปอกเปลือกและสับอย่างชำนาญตอนนี้ของทุกอย่างก็ได้ลงกระทะไปพร้อมกันแล้วหญิงสาวหยิบเครื่องปรุงรสใส่ตามใจที่เธอชอบตอนนี้อาหารในกระทะส่งกลิ่นฉุนเล็กน้อยจนทำให้หญิงสาวจามไม่นานกระเพราหมูสุดน่าทานจานนี้ก็เสร็จสิ้นแกร๊ก“ทานข้าวเย็นค่ะคุณอิท”อินทิราเดินเปิดประตูห้องของชายหนุ่มเข้ามาเธอเห็นว่าเขาก็ยังนั่งอยู่ที่เดิมพร้อมเอาถาดอาหารไปวางตรงหน้าคิดว่าถ้าหากชายหนุ่มได้กลิ่นอาหารที่หอมขนาดนี้คงจะอยากทานข้าวขึ้นมาบ้าง“นี่เธอยังไม่กลับไปอีกเหรอ”อิทธิกรคิดว่าหญิงสาวที่เขาตวาดใส่เมื่อครู่จะกลับไปแล้วเสียอีก“ไม่ค่ะออมจะต้องอยู่ดูแลคุณ”อินทิรายังยืนยันคำพูดเดิมของเธอว่าเธอจะต้องอยู่ที่นี่เพื่อดูแลชายหนุ่มและเธอก็จะไม่ถอดใจกลับไปง่ายๆแน่เพราเธอก็ไม่รู้จะไปอยู่ที่ไหน“เธอนี่ท่าทางจะตื๊อไม่เลิกนะ...กลัวแม่ฉันจะเอาเงินคืนหรือไง”อิทธิกรสบถออกมาอย่างหัวเสียเขาคิดว่าที่หญิงสาวไม่ยอมถอดใจง่ายๆคงจะเป็นเพราเงินที่สูงหลายสิบล้านที่แม่ของเขาจ่ายเพื่อให้ได้ตัวของเธอมา“เงิน...เงินอะไรคะ”อิน
“ออมเองค่ะ...คุณอิทนอนไปเลยค่ะเดี๋ยวออมขอเก็บห้องให้คุณอิทก่อน...อ้อแล้วเมื่อวานคุณอิทก็ไม่ได้ทานข้าวนี่คะวันนี้ยังไงคุณอิทก็ต้องทานนะคะ”อินทิราตั้งหน้าตั้งตารวบรวมขวดน้ำเมาของชายหนุ่มไปทิ้งให้หมดนี่ก็ใกล้จะเสร็จแล้วแต่เขาดันตื่นขึ้นมาก่อนเธอว่าเธอพยายามเบามือที่สุดแล้วนะ“เธอนี่มัน!!...แล้วต้องเก็บอะไรนักหนา”เขาไม่เข้าใจว่าหญิงสาวยังจะบอกให้เขาหลับลงได้อย่างไรทั้งที่เธอมาก่อกวนส่งเสียงรบกวนเขาอยู่แบบนี้“ก็พวกขวดเครื่องดื่มพวกนี้ไงคะออมเอาไปทิ้งเกือบจะหมดแล้วนะคะต่อไปนี้ออมจะไม่ให้คุณอิทดื่มของพวกนี้แล้วค่ะเมื่อเช้าออมให้แม่บ้านเอาน้ำผลไม้มาไว้ในบ้านแทนถ้าคุณอิทอยากดื่มน้ำผลไม้อะไรก็บอกออมนะคะเดี๋ยวออมจะไปเอามาให้ค่ะ”อินทิราตั้งเริ่มปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการกินการอยู่ของชายหนุ่มใหม่เสียตั้งแต่วันนี้โดยเริ่มจากสิ่งแรกเธอต้องเก็บขวดน้ำเมาพวกนี้ไปทิ้งให้หมดเสียก่อนแล้วเปลี่ยนเป็นเครื่องดื่มที่มีประโยชน์ให้ชายหนุ่มแทน“เธอกล้ามากนักนะยัยจุ้นจ้าน”เคร้ง...เพล้ง...ๆๆอิทธกรได้ยินสิ่งที่หญิงสาวพูดก็ลุกพรวดขึ้นมาอาละวาดด้วยความโมโหขว้างปาสิ่งของที่มือสัมผัสได้ในตอนนี้อย่างหงุดหงิด“ว้ายยยย..
ของเหลวที่เปื้อนมือของเขาสัมผัสแรกเขาก็รู้ทันทีว่ามันไม่ใช่น้ำเปล่าเป็นแน่บวกกับกลิ่นคาวก็ทำให้เขารู้ว่าหญิงสาวมีเลือดออกเขาไม่ได้ตั้งใจที่จะทำให้เธอเจ็บตัวแบบนี้“ออมไม่เป็นอะไรค่ะขอตัวไปทำแผลก่อนนะคะ”อินทิราน้ำตาคลอเบ้าเพราเจ็บที่หางคิ้วอีกอย่างเธอก็ไม่ชอบเห็นเลือดสักเท่าไรเลยรีบเดินออกจากห้องของชายหนุ่มอย่างรวดเร็วและเข้าไปทำแผลที่ห้องของตัวเองอิทธิกรค่อยๆเดินไปที่ห้องของหญิงสาวเมื่อคลำมาที่ประตูห้องของเธอปรากฏว่าเธอไม่ได้ปิดประตูจึงค่อยๆเดินเข้าไปถามอาการของหญิงสาวตอนนี้เขารู้สึกผิดเล็กน้อยเพราะทำให้เธอถึงกับเลือดตกยางออกถึงเขาจะขี้โมโหและรำคาญเธออยู่บ้างแต่ก็ไม่ได้คิดจะทำให้หญิงสาวบาดเจ็บ“คุณอิท”อินทิราที่กำลังนั่งทำแผลอยู่ที่เตียงของเธอพร้อมกระจกบานเล็กหนึ่งบานเมื่อเห็นว่ามีร่างสูงเดินเข้ามาจึงเงยหน้าขึ้นมาดูพร้อมลุกขึ้นไปพาชายหนุ่มที่ค่อยๆเดินคลำทางเข้ามามานั่งบนเตียงของเธอ“แผลลึกหรือเปล่าต้องไปหาหมอไหม”อิทธิกรสอบถามอาหารของหญิงสาวด้วยความรู้สึกผิดและเป็นห่วงว่าบาดแผลของหญิงสาวจะต้องไปให้หมอดูหรือไม่“ไม่ค่ะแผลนิดเดียวเอง”อินทิรายิ้มออกจากเมื่อครู่ที่รู้สึกเคืองชายหนุ่มอ
20 นาทีต่อมา“ข้าวต้มร้อนๆได้แล้วค่ะ”อินทิราวางถ้วยข้าวตมตรงหน้าชายหนุ่มพร้อมจะเดินออกไปจากห้องให้เขาได้นั่งทานเงียบๆคนเดียวเธอไม่อยากจะอยู่กวนเผื่อชายหนุ่มจะทานไม่ลงหากเธอนั้นอยู่ใกล้ๆ“ป้อนฉันสิ”“คะ...คุณอิททานเองไม่ได้เหรอคะ”อินทิราจำต้องชะงักฝีเท้าหันมาหาชายหนุ่มด้วยสีหน้าแปลกใจเธอจำได้ว่าชายหนุ่มก็สามารถที่จะทำอะไรเองได้โดยที่ไม่ต้องมีเธอช่วยนี่นา“ก็ฉันสั่งให้เธอป้อนเธอก็ต้องป้อนอยากจะดูแลฉันไม่ใช่รึไง”อิทธิกรเริ่มมีน้ำเสียงที่แข็งขึ้นที่หญิงสาวชอบที่จะขัดใจเขาอยู่เรื่อยไป“เอ่อ..ค่ะ”อินทิราเห็นว่าชายหนุ่มเริ่มมีท่าทีที่จะโมโหอีกแล้วเธอจึงรีบนั่งลงตรงใกล้ๆกับชายหนุ่มเพื่อที่จะป้อนข้าวเขาได้อย่างถนัด“โอ้ย..ร้อนๆเธอคิดจะฆ่าฉันทางอ้อมรึไง..”เมื่อข้าวต้มคำแรกเข้าปากอิทธิกรถึงกับต้องเป่าปากใช้มือพัดพันวันเพรามันค่อนข้างร้อนอย่างมากจนตอนนี้เขารู้สึกได้ว่าปลายลิ้นนั้นชาไปหมดแล้ว“โทษทีค่ะลืมเป่า..”อินทิราถึงกับหน้าเหวอเพราะเธอรีบจนลืมเป่าให้ข้าวต้มหายร้อนก่อนที่จะเอาเข้าปากชายหนุ่มนั่นเองจึงรีบให้ชายหนุ่มดื่มน้ำก่อนภาพตรงหน้าก็ทำให้เธออดขำในท่าทีของเขาไม่ได้เหมือนกันเธอไม่ได้ตั
“เดี๋ยว...เธอนั่งรอฉันอยู่ในห้องฉันจะอาบน้ำสระผมแล้วเธอก็ต้องรอเช็ดผมให้ฉันเข้าใจใช่ไหม”“เข้า..เข้าใจค่ะ”อิทธิกรไม่ยอมปล่อยให้เธอไปไหนไกลเขายังอยากจะให้หญิงสาวที่บอกว่าอยากจะดูแลเขานักหนาให้เธอได้ดูแลเขาให้เบื่อกันไปข้างเลยอินทิรากลับมานั่งที่ปลายเตียงของชายหนุ่มอย่างใจตุ๊มๆต่อมๆคิดว่าเธอจะต้องได้เจอเขาในสภาพเดียวกับวันนั้นแน่เลยก่อนที่เขาจะออกมาเธอต้องนั่งทำใจให้ชินกับเรื่องแบบนี้เสียก่อนจะได้ไม่ประหม่ามากมายนัก30 นาทีต่อมา“ออม”“ขาคุณอิท”อินทิรารีบวิ่งไปที่หน้าประตูห้องน้ำเมื่อได้ยินเสียงที่ชายหนุ่มเรียกเธอเมื่อครู่อย่างรวดเร็วเพราคิดว่าเขาต้องมีเรื่องให้เธอช่วยเป็นแน่“หยิบผ้าขนหนูให้ฉันหน่อย”“ฮือ!!...ทำไมไม่บอกก่อนหน้านี้กันนะ...ออมพาดไว้ที่ลูกบิดหน้าประตูห้องน้ำนะคะ”หญิงสาวถึงกับคิ้วขมวดพร้อมนึกในใจว่าก่อนที่จะอาบน้ำเขาทำไมไม่เอาเข้าไปก่อนกันนะหญิงสาวหยิบผ้าขนหนูที่วางพับไว้หน้าห้องน้ำอย่างเป็นระเบียบมาหนึ่งผืนพร้อมพาดไว้ที่ลูกบิดประตูเพื่อให้ชายหนุ่มเปิดออกมาแล้วหยิบไปเองจะให้เธอเปิดประตูเอาเข้าไปให้ก็เกรงว่าจะหัวใจวายเสียก่อน“โอเค”แกร๊กกก“หึ้ยย”ยังไม่สิ้นเสียงตอบตกล
“เย็นนี้เดี๋ยวแม่กับยัยเอมอยู่ทานข้าวด้วยนะ”“ค่ะคุณแม่เดี๋ยวออมทำอาหารให้สุดฝีมือเลย”อรุณาอยากจะอยู่ดูพฤติกรรมของทั้งสองเวลาอยู่ด้วยกันก่อนจะกลับไปเสียหน่อยว่ามันดีขึ้นมากน้อยแค่ไหนเธอจะได้กลับไปทำงานของเธอได้อย่างสบายใจโดยที่ไม่ต้องห่วงทางนี้มากนักช่วงเย็นของวัน“นี่เราทำอาหารได้เยอะขนาดนี้เลยเหรอหนูออม”“ค่ะ...ออมชอบทำอาหารเลยรู้เมนูอาหารหลายอย่างแล้วก็ทำได้หลายอย่างด้วยวันหลังถ้าคุณแม่กับพี่เอมมาที่นี่อีกอยากทานอะไรบอกออมได้เลยนะคะ”อินทิราหน้าบานเมื่อได้รับคำชมหลังจากที่ทำกับข้าวหลายอย่างมาวางไว้ที่โต๊ะอาหาร“พูดอยู่นั่นจะทานกันได้รึยัง”“คุณอิทหิวขนาดนั้นเลยหรือไงคะ”หลังจากที่หญิงสาวพูดจบชายหนุ่มก็โพล่งคำบางคำออกมาอย่างขวานผ่าซากทำให้หญิงสาวต้องหุบยิ้มแล้วหันไปมองค้อนใส่ชายหนุ่มเล็กน้อยทั้งยังแอบพูดประชดเล็กน้อย“งั้นก็ทานข้าวกันเถอะ”อรุณาจำต้องรีบบอกให้ทุกคนทาน้าวกันได้ไม่เช่นนั้นสองคนนี้ดูท่าจะเถียงกันอีกยาวพร้อมส่ายหัวให้พ่อลูกชายตัวดีของเธอที่ปากพาหาเรื่องเสียจริง“ออมนี่ก็เก่งเหมือนกันนะคุณแม่มาแค่วันเดียวก็เปลี่ยนอะไรได้เยอะขนาดนี้”“แม่ก็ขอให้หนูออมทำให้ตาอิทดีขึ้นเร็
“ไม่ต้องเกรงใจหรอกไปเถอะ”ภัคดนัยได้ยินว่าหญิงสาวเกรงใจก็รีบดึงมือเธอไปที่รถของเขาที่จอดไว้หน้าบ้านแล้วเปิดประตูดันตัวหญิงสาวเข้าไปนั่งที่ข้างเบาะคนขับพร้อมสตาร์ทรถและขับออกไปทันที“พี่ภาคย์..จอดรถทำไมคะ”พรณภัทร์เห็นว่าจู่ๆชายหนุ่มก็จอดรถข้างทางเสียอย่างนั้นเธอจึงต้องหันหน้าไปถามคนที่นั่งข้างๆด้วยความสงสัย“พี่มีเรื่องจะถามพลอย”ภัคดนัยหันมามองหน้าหญิงสาวจริงจังเพราะตอนนี้เขาอยากจะฟังเรื่องที่อยากรู้เป็นที่สุด“ถาม??..เรื่องอะไรคะ”พรณภัทร์เริ่มใจเต้นเร็วกลัวว่าเรื่องที่ชายหนุ่มจะถามจะเป็นเรื่องที่เธอไม่อยากจะตอบน่ะสิ“ออมติดต่อพลอยมาบ้างหรือเปล่าพี่ถามยัยพีคก็ไม่เห็นจะรู้เรื่องรู้ราวอะไรเลยพี่รู้ว่าพลอยจะไม่โกหกพี่”ภัคดนัยถามหญิงสาวด้วยสีหน้าที่จริงจังพร้อมย้ำจุดอ่อนของเธอที่เขารู้ดี“เอ่อ..ไม่รู้ค่ะออมไม่ได้ติดต่อมาหาพลอยเหมือนกัน”และแล้วคำถามของชายหนุ่มก็เป็นไปอย่างที่หญิงสาวคิดตอนนี้เธอตอบกลับชายหนุ่มโดยที่ไม่มองหน้าของเขาเพราะความรู้สึกผิดในใจที่ต้องโกหกแต่เธอก็ต้องทำตามสัญญาที่ให้ไว้กับอินทิราเหมือนกันว่าห้ามให้คนอื่นรู้เด็ดขาดนอกจากเธอและพีรยา“อืม...ไม่รู้ก็ไม่เป็นไรถ้าได้ข