“ออมเองค่ะ...คุณอิทนอนไปเลยค่ะเดี๋ยวออมขอเก็บห้องให้คุณอิทก่อน...อ้อแล้วเมื่อวานคุณอิทก็ไม่ได้ทานข้าวนี่คะวันนี้ยังไงคุณอิทก็ต้องทานนะคะ”
อินทิราตั้งหน้าตั้งตารวบรวมขวดน้ำเมาของชายหนุ่มไปทิ้งให้หมดนี่ก็ใกล้จะเสร็จแล้วแต่เขาดันตื่นขึ้นมาก่อนเธอว่าเธอพยายามเบามือที่สุดแล้วนะ
“เธอนี่มัน!!...แล้วต้องเก็บอะไรนักหนา”
เขาไม่เข้าใจว่าหญิงสาวยังจะบอกให้เขาหลับลงได้อย่างไรทั้งที่เธอมาก่อกวนส่งเสียงรบกวนเขาอยู่แบบนี้
“ก็พวกขวดเครื่องดื่มพวกนี้ไงคะออมเอาไปทิ้งเกือบจะหมดแล้วนะคะต่อไปนี้ออมจะไม่ให้คุณอิทดื่มของพวกนี้แล้วค่ะเมื่อเช้าออมให้แม่บ้านเอาน้ำผลไม้มาไว้ในบ้านแทนถ้าคุณอิทอยากดื่มน้ำผลไม้อะไรก็บอกออมนะคะเดี๋ยวออมจะไปเอามาให้ค่ะ”
อินทิราตั้งเริ่มปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการกินการอยู่ของชายหนุ่มใหม่เสียตั้งแต่วันนี้โดยเริ่มจากสิ่งแรกเธอต้องเก็บขวดน้ำเมาพวกนี้ไปทิ้งให้หมดเสียก่อนแล้วเปลี่ยนเป็นเครื่องดื่มที่มีประโยชน์ให้ชายหนุ่มแทน
“เธอกล้ามากนักนะยัยจุ้นจ้าน”
เคร้ง...เพล้ง...ๆๆ
อิทธกรได้ยินสิ่งที่หญิงสาวพูดก็ลุกพรวดขึ้นมาอาละวาดด้วยความโมโหขว้างปาสิ่งของที่มือสัมผัสได้ในตอนนี้อย่างหงุดหงิด
“ว้ายยยย...คุณอิทอาละวาดอะไรแต่เช้าคะ”
อินทิราแทบหลบของที่กระเด็นใส่เธอไม่ทันพร้อมทั้งต่อว่าชายหนุ่มที่ตื่นมาก็โมโหแต่เช้า
“ก็เป็นเพราะเธอไง...หึ้ยยย”
อิทธิกรเดินไปหาที่ต้นเสียงตอนนี้มือของเขากำลังถือโคมไฟอยู่ด้วยความโมโหจนคุมสติไม่อยู่เขาก็ง้างมือที่ถือโคมไฟอยู่นั้นจะฟาดไปที่หญิงสาว
“อ๊ายยย...อย่าตีออมค่ะ.”
อินทิราร้องออกมาด้วยความกลัวและผวาอย่างหนักตอนนี้ตัวเธอชาไปหมดมือไม้ก็ปัดป้องตัวเองเอาไว้เพราคิดว่าเธอต้องเจ็บตัวเป็นแน่
“เธอจะให้ฉันทำยังไงเธอถึงจะไปจากชีวิตฉัน”
อิทธิกรเกือบพลั้งมือทำร้ายผู้หญิงด้วยความโมโหเสียงร้องของเธอทำให้เขาชะงักมือเอาไว้ได้แต่ก็ยังมีความโกรธอยู่ไม่น้อยเขาจำต้องกัดฟันถามหญิงสาวให้แน่ใจเสียทีว่าเข้าต้องทำยังไงหญิงสาวจึงจะออกไปจากชีวิตของเขาเสียทีหากเธอต้องการเงินเท่าไรเขาก็จะให้
“ก็ไม่ต้องทำยังไงค่ะยังไงออมก็ไม่ไป”
อินทิราส่ายหัวพัลวันเธอไม่มีที่ไปที่ไหนยังไงเธอก็ต้องทนอยู่ที่นี่ให้ได้
“เฮ้ออ!!...ได้งั้นก็ทนอยู่ที่นี่ไปก็แล้วกันแต่ฉันบอกเธอเอาไว้ก่อนเลยนะว่าในเวลาเธออยู่ที่นี่ฉันจะทำให้เธอเหมือนตกนรกทั้งเป็นคอยดู”
อิทธิกรจนปัญญาที่จะไล่หญิงสาวไปแล้วจริงๆแต่ถึงเขาจะยอมให้เธออยู่ที่นี่ได้ก็ไม่ได้หมายความว่าเขาจะปล่อยให้เธออยู่ที่นี่อย่างสงบสุข
2 ชั่วโมงต่อมา
“อาหารมาแล้วค่ะคุณอิท...เอ่อ...”
หลังจากที่กัดกับชายหนุ่มตอนเช้ามรอบหนึ่งแล้วอินทิราก็เลือกที่จะเข้าครัวทำอาหารเช้าให้ชายหนุ่มกับตัวเองต่อเช้านี้คงหนีไม่พ้นเมนูข้าวต้มกุ้งเพราะเป็นเมนูที่เธอคิดไว้ตั้งแต่เมื่อวานแล้ว
ขณะที่หญิงสาวเดินเข้ามาในห้องของชายหนุ่มโดยที่ไม่ได้เคาะประตูภาพตรงหน้าของหญิงสาวตอนนี้ก็เป็นชายหนุ่มที่พึ่งเดินออกจากห้องน้ำพันผ้าขนหนูเพียงแค่ท่อนล่างแผงอกกว้างและกล้ามแขนที่ปรากฏแก่สายตาของเธอทำให้หญิงสาวต้องรีบหลบสายตาลงและรีบเดินเข้าไปวางถาดอาหารอย่างรวดเร็ว
“เข้ามาไม่ได้ดูตาม้าตาเรือวางไว้แล้วก็ออกไปได้แล้ว...”
“ค่ะ”
อิทธิกรส่ายหัวให้กับหญิงสาวที่ทะเล่อทะล่าเข้ามาโดยที่ไม่ได้เคาะประตูก่อนดีที่เขาไม่แก้ผ้าเดินอยู่ในห้อง
“ก็ใครจะไปรู้เล่าว่าคุณโป๊อยู่”
อินทิรารีบเดินออกมานั่งที่โต๊ะอาหารด้วยสีหน้าที่เสียเล็กน้อยพร้อมทั้งตักข้าวต้มที่ตัวเองพึ่งทำเสร็จใหม่ๆเข้าปากแก้เขินกับภาพที่เห็นเมื่อครู่เธอไม่อยากจะคิดว่าถ้าหากเมื่อครู่ชายหนุ่มไม่มีอะไรปิดตัวเลยจะเป็นยังไงยิ่งคิดก็ยิ่งขนลุก
หลังจากหญิงสานอาหารเสร็จเรียบร้อยแล้วก็เดินเล่นสำรวจรอบๆเป็นครึ่งชั่วโมงเธอชอบแปลงดอกไม้หลังบ้านอย่างมากยิ่งนั่งดูก็ยิ่งสบายตา
“สงสัยจะทานเสร็จแล้วล่ะมั้ง”
หญิงสาวนึกขึ้นได้ว่าชายหนุ่มน่าจะทานข้าวต้มที่เธอวางไว้ให้เมื่อพักใหญ่หมดแล้วหละจึงคิดว่าควรที่จะไปเก็บถ้วยมาล้างเสียเลยจะดีกว่า
ก๊อกๆๆ
แกร๊ก
“อ้าว...ทำไมคุณอิทไม่ทานอาหารเช้าอีกล่ะคะ...อยู่ได้ยังไงเนี่ย”
อินทิราเคาะประตูก่อนเพื่อที่จะไม่ให้เกิดเหตุการณ์อย่างเมื่อเช้าเมื่อไม่มีเสียงตอบรับเธอเลยค่อยๆแง้มประตูมองดูรอบๆก่อนเมื่อเห็นชายหนุ่มนอนอยู่ที่เตียงเลยเดินเข้าไปด้านใน
แต่หญิงสาวก็ต้องหน้ามุ่ยกะทันหันเพราะชายหนุ่มไม่แตะข้าวต้มที่เธอทำมาให้เลยสักนิดเธอปล่อยให้เป็นแบบนี้ต่อไปไม่ได้แล้วยังไงเธอก็จะต้องทำอะไรสักอย่างพลางคิดในใจว่าการดูแลคนที่ป่วยทางกายยังง่ายกว่าคนที่ป่วยทางใจเสียอีกเธอรู้ว่าเขากำลังอกหักจากคำบอกเล่าของอรุณาแต่เธอก็ไม่เข้าใจว่าชายหนุ่มจะทำร้ายตัวเองแบบนี้แล้วมันจะมีอะไรดีขึ้นมา
“ลุกมาค่ะคุณอิทยังไงก็ต้องทานข้าวบ้างค่ะ”
อินทิราเดินเข้าไปรั้งแขนแกร่งทั้งสองของชายหนุ่มให้ลุกขึ้นมาจากเตียงเพื่อทานข้าวแต่ดูท่ารงของเธอจะขยับตัวชายหนุ่มไม่ได้แม้แต่น้อย
“อะไรของเธออีก...หึ้ยย”
อิทธิกรรู้สึกรำคาญหญิงสาวเต็มทนเขาเหวี่ยงแขนหญิงสาวออกไปอย่างไม่สนใจเพราะว่าเขาต้องการจะพักผ่อนต่อตอนนี้เขาไม่อยากทานอะไรทั้งนั้น
ปั้กกก
“โอ้ะ...โอ้ยยยย...”
แรงเหวี่ยงของชายหนุ่มทำให้หญิงสาวหัวไปฟาดกับขอบโต๊ะจนหางคิ้วแตกก่อนที่จะล้มลงกองกับพื้น
“ออม!!!...เธอเป็นอะไร.”
“โอ้ยย”
“..ละ..เลือดนี่”
อิทธิกรถึงกับลุกพรวดไม่คิดว่าแรงเหวี่ยงของเขาเมื่อครู่จะทำให้หญิงสาวไปกระแทกกับโต๊ะแรงขนาดนั้นถึงเขาจะมองไม่เห็นแต่เมื่อได้ยินจากเสียงกระทบมันก็คงทำให้หญิงสาวเจ็บอยู่ไม่น้อยเขาค่อยๆย่อตัวลงคลำหาตัวหญิงสาวจนจับตัวเธอได้มือของเขาบังเอิญไปโดนกับใบหน้าของเธอจนทำให้หญิงสาวร้องออกมา
ของเหลวที่เปื้อนมือของเขาสัมผัสแรกเขาก็รู้ทันทีว่ามันไม่ใช่น้ำเปล่าเป็นแน่บวกกับกลิ่นคาวก็ทำให้เขารู้ว่าหญิงสาวมีเลือดออกเขาไม่ได้ตั้งใจที่จะทำให้เธอเจ็บตัวแบบนี้“ออมไม่เป็นอะไรค่ะขอตัวไปทำแผลก่อนนะคะ”อินทิราน้ำตาคลอเบ้าเพราเจ็บที่หางคิ้วอีกอย่างเธอก็ไม่ชอบเห็นเลือดสักเท่าไรเลยรีบเดินออกจากห้องของชายหนุ่มอย่างรวดเร็วและเข้าไปทำแผลที่ห้องของตัวเองอิทธิกรค่อยๆเดินไปที่ห้องของหญิงสาวเมื่อคลำมาที่ประตูห้องของเธอปรากฏว่าเธอไม่ได้ปิดประตูจึงค่อยๆเดินเข้าไปถามอาการของหญิงสาวตอนนี้เขารู้สึกผิดเล็กน้อยเพราะทำให้เธอถึงกับเลือดตกยางออกถึงเขาจะขี้โมโหและรำคาญเธออยู่บ้างแต่ก็ไม่ได้คิดจะทำให้หญิงสาวบาดเจ็บ“คุณอิท”อินทิราที่กำลังนั่งทำแผลอยู่ที่เตียงของเธอพร้อมกระจกบานเล็กหนึ่งบานเมื่อเห็นว่ามีร่างสูงเดินเข้ามาจึงเงยหน้าขึ้นมาดูพร้อมลุกขึ้นไปพาชายหนุ่มที่ค่อยๆเดินคลำทางเข้ามามานั่งบนเตียงของเธอ“แผลลึกหรือเปล่าต้องไปหาหมอไหม”อิทธิกรสอบถามอาหารของหญิงสาวด้วยความรู้สึกผิดและเป็นห่วงว่าบาดแผลของหญิงสาวจะต้องไปให้หมอดูหรือไม่“ไม่ค่ะแผลนิดเดียวเอง”อินทิรายิ้มออกจากเมื่อครู่ที่รู้สึกเคืองชายหนุ่มอ
20 นาทีต่อมา“ข้าวต้มร้อนๆได้แล้วค่ะ”อินทิราวางถ้วยข้าวตมตรงหน้าชายหนุ่มพร้อมจะเดินออกไปจากห้องให้เขาได้นั่งทานเงียบๆคนเดียวเธอไม่อยากจะอยู่กวนเผื่อชายหนุ่มจะทานไม่ลงหากเธอนั้นอยู่ใกล้ๆ“ป้อนฉันสิ”“คะ...คุณอิททานเองไม่ได้เหรอคะ”อินทิราจำต้องชะงักฝีเท้าหันมาหาชายหนุ่มด้วยสีหน้าแปลกใจเธอจำได้ว่าชายหนุ่มก็สามารถที่จะทำอะไรเองได้โดยที่ไม่ต้องมีเธอช่วยนี่นา“ก็ฉันสั่งให้เธอป้อนเธอก็ต้องป้อนอยากจะดูแลฉันไม่ใช่รึไง”อิทธิกรเริ่มมีน้ำเสียงที่แข็งขึ้นที่หญิงสาวชอบที่จะขัดใจเขาอยู่เรื่อยไป“เอ่อ..ค่ะ”อินทิราเห็นว่าชายหนุ่มเริ่มมีท่าทีที่จะโมโหอีกแล้วเธอจึงรีบนั่งลงตรงใกล้ๆกับชายหนุ่มเพื่อที่จะป้อนข้าวเขาได้อย่างถนัด“โอ้ย..ร้อนๆเธอคิดจะฆ่าฉันทางอ้อมรึไง..”เมื่อข้าวต้มคำแรกเข้าปากอิทธิกรถึงกับต้องเป่าปากใช้มือพัดพันวันเพรามันค่อนข้างร้อนอย่างมากจนตอนนี้เขารู้สึกได้ว่าปลายลิ้นนั้นชาไปหมดแล้ว“โทษทีค่ะลืมเป่า..”อินทิราถึงกับหน้าเหวอเพราะเธอรีบจนลืมเป่าให้ข้าวต้มหายร้อนก่อนที่จะเอาเข้าปากชายหนุ่มนั่นเองจึงรีบให้ชายหนุ่มดื่มน้ำก่อนภาพตรงหน้าก็ทำให้เธออดขำในท่าทีของเขาไม่ได้เหมือนกันเธอไม่ได้ตั
“เดี๋ยว...เธอนั่งรอฉันอยู่ในห้องฉันจะอาบน้ำสระผมแล้วเธอก็ต้องรอเช็ดผมให้ฉันเข้าใจใช่ไหม”“เข้า..เข้าใจค่ะ”อิทธิกรไม่ยอมปล่อยให้เธอไปไหนไกลเขายังอยากจะให้หญิงสาวที่บอกว่าอยากจะดูแลเขานักหนาให้เธอได้ดูแลเขาให้เบื่อกันไปข้างเลยอินทิรากลับมานั่งที่ปลายเตียงของชายหนุ่มอย่างใจตุ๊มๆต่อมๆคิดว่าเธอจะต้องได้เจอเขาในสภาพเดียวกับวันนั้นแน่เลยก่อนที่เขาจะออกมาเธอต้องนั่งทำใจให้ชินกับเรื่องแบบนี้เสียก่อนจะได้ไม่ประหม่ามากมายนัก30 นาทีต่อมา“ออม”“ขาคุณอิท”อินทิรารีบวิ่งไปที่หน้าประตูห้องน้ำเมื่อได้ยินเสียงที่ชายหนุ่มเรียกเธอเมื่อครู่อย่างรวดเร็วเพราคิดว่าเขาต้องมีเรื่องให้เธอช่วยเป็นแน่“หยิบผ้าขนหนูให้ฉันหน่อย”“ฮือ!!...ทำไมไม่บอกก่อนหน้านี้กันนะ...ออมพาดไว้ที่ลูกบิดหน้าประตูห้องน้ำนะคะ”หญิงสาวถึงกับคิ้วขมวดพร้อมนึกในใจว่าก่อนที่จะอาบน้ำเขาทำไมไม่เอาเข้าไปก่อนกันนะหญิงสาวหยิบผ้าขนหนูที่วางพับไว้หน้าห้องน้ำอย่างเป็นระเบียบมาหนึ่งผืนพร้อมพาดไว้ที่ลูกบิดประตูเพื่อให้ชายหนุ่มเปิดออกมาแล้วหยิบไปเองจะให้เธอเปิดประตูเอาเข้าไปให้ก็เกรงว่าจะหัวใจวายเสียก่อน“โอเค”แกร๊กกก“หึ้ยย”ยังไม่สิ้นเสียงตอบตกล
“เย็นนี้เดี๋ยวแม่กับยัยเอมอยู่ทานข้าวด้วยนะ”“ค่ะคุณแม่เดี๋ยวออมทำอาหารให้สุดฝีมือเลย”อรุณาอยากจะอยู่ดูพฤติกรรมของทั้งสองเวลาอยู่ด้วยกันก่อนจะกลับไปเสียหน่อยว่ามันดีขึ้นมากน้อยแค่ไหนเธอจะได้กลับไปทำงานของเธอได้อย่างสบายใจโดยที่ไม่ต้องห่วงทางนี้มากนักช่วงเย็นของวัน“นี่เราทำอาหารได้เยอะขนาดนี้เลยเหรอหนูออม”“ค่ะ...ออมชอบทำอาหารเลยรู้เมนูอาหารหลายอย่างแล้วก็ทำได้หลายอย่างด้วยวันหลังถ้าคุณแม่กับพี่เอมมาที่นี่อีกอยากทานอะไรบอกออมได้เลยนะคะ”อินทิราหน้าบานเมื่อได้รับคำชมหลังจากที่ทำกับข้าวหลายอย่างมาวางไว้ที่โต๊ะอาหาร“พูดอยู่นั่นจะทานกันได้รึยัง”“คุณอิทหิวขนาดนั้นเลยหรือไงคะ”หลังจากที่หญิงสาวพูดจบชายหนุ่มก็โพล่งคำบางคำออกมาอย่างขวานผ่าซากทำให้หญิงสาวต้องหุบยิ้มแล้วหันไปมองค้อนใส่ชายหนุ่มเล็กน้อยทั้งยังแอบพูดประชดเล็กน้อย“งั้นก็ทานข้าวกันเถอะ”อรุณาจำต้องรีบบอกให้ทุกคนทาน้าวกันได้ไม่เช่นนั้นสองคนนี้ดูท่าจะเถียงกันอีกยาวพร้อมส่ายหัวให้พ่อลูกชายตัวดีของเธอที่ปากพาหาเรื่องเสียจริง“ออมนี่ก็เก่งเหมือนกันนะคุณแม่มาแค่วันเดียวก็เปลี่ยนอะไรได้เยอะขนาดนี้”“แม่ก็ขอให้หนูออมทำให้ตาอิทดีขึ้นเร็
“ไม่ต้องเกรงใจหรอกไปเถอะ”ภัคดนัยได้ยินว่าหญิงสาวเกรงใจก็รีบดึงมือเธอไปที่รถของเขาที่จอดไว้หน้าบ้านแล้วเปิดประตูดันตัวหญิงสาวเข้าไปนั่งที่ข้างเบาะคนขับพร้อมสตาร์ทรถและขับออกไปทันที“พี่ภาคย์..จอดรถทำไมคะ”พรณภัทร์เห็นว่าจู่ๆชายหนุ่มก็จอดรถข้างทางเสียอย่างนั้นเธอจึงต้องหันหน้าไปถามคนที่นั่งข้างๆด้วยความสงสัย“พี่มีเรื่องจะถามพลอย”ภัคดนัยหันมามองหน้าหญิงสาวจริงจังเพราะตอนนี้เขาอยากจะฟังเรื่องที่อยากรู้เป็นที่สุด“ถาม??..เรื่องอะไรคะ”พรณภัทร์เริ่มใจเต้นเร็วกลัวว่าเรื่องที่ชายหนุ่มจะถามจะเป็นเรื่องที่เธอไม่อยากจะตอบน่ะสิ“ออมติดต่อพลอยมาบ้างหรือเปล่าพี่ถามยัยพีคก็ไม่เห็นจะรู้เรื่องรู้ราวอะไรเลยพี่รู้ว่าพลอยจะไม่โกหกพี่”ภัคดนัยถามหญิงสาวด้วยสีหน้าที่จริงจังพร้อมย้ำจุดอ่อนของเธอที่เขารู้ดี“เอ่อ..ไม่รู้ค่ะออมไม่ได้ติดต่อมาหาพลอยเหมือนกัน”และแล้วคำถามของชายหนุ่มก็เป็นไปอย่างที่หญิงสาวคิดตอนนี้เธอตอบกลับชายหนุ่มโดยที่ไม่มองหน้าของเขาเพราะความรู้สึกผิดในใจที่ต้องโกหกแต่เธอก็ต้องทำตามสัญญาที่ให้ไว้กับอินทิราเหมือนกันว่าห้ามให้คนอื่นรู้เด็ดขาดนอกจากเธอและพีรยา“อืม...ไม่รู้ก็ไม่เป็นไรถ้าได้ข
ไร่แก้วกัลยา07.30 น.“คุณอิทคะตื่นค่ะวันนี้หมอมาตรวจแต่เช้านะคะ”อินทิราเดินเข้าไปปลุกชายหนุ่มที่กำลังหลับไมยอมตื่นขึ้นมาอาบน้ำล้างหน้าล้างตาเสียทีทั้งที่เธอทำอาหารเช้ารอเอาไว้แล้วอีกอย่างอรุณาก็บอกกับเธอว่าหมอจะมาตรวจชายหนุ่มในช่วงเช้าด้วย“ขออีกนิดนะฉันกำลังหลับสบายเลย”อิทธิกรยังรู้สึกว่าไม่อยากตื่นเขาจึงพลิกตัวและเอาผ้าห่มคลุมหัวหนีหญิงสาวที่ส่งเสียงดังแสบแก้วหูเรียกเขาปาวๆอยู่“ไม่ได้ค่ะคุณอิทต้องลุกมาอาบน้ำแต่งตัวทานอาหารเช้าให้ตรงเวลานะคะ”อินทิราเองก็ไม่ยอมง่ายๆยังไงเธอก็ต้องปลุกเข้าให้ลุกขึ้นมาให้ได้“โอเคๆ...ถ้าฉันไม่ลุกก็คงจะต้องทนฟังเสียงแหลมๆของเธอสินะ”อิทธิกรจำต้องดีดตัวลุกขึ้นมาเพราะเริ่มรำคาญหญิงสาวและมีอารมณ์หงุดหงิดขึ้นมาบ้างแล้วเขาไม่รู้ว่าจะดีหรือไม่ดีที่หญิงสาวอยู่ที่นี่บางทีก็ทำตัวให้เขาหายเหงาบางทีก็ทำตัวน่ารำคาญ“ก็คุณอิทไม่ยอมลุกเองนี่คะ”อินทิราบ่นอู้อี้เล็กน้อยที่เช้านี้เธอโดนชายหนุ่มดุแต่เช้าอีกแล้วเธอก็เพียงแค่ทำหน้าที่ของเธอก็เท่านั้นหลังจากที่อิทธิกรทานอาหารเช้าเรียบร้อยแล้วอินทิราก็พาชายหนุ่มเข้าไปในห้องตามความต้องการของเขาไม่นานหมอก็มาตรวจพอดีหญิงสา
“ใช่ๆจริงๆด้วยค่ะ”อินทิราเห็นหญิงในรูปเล็กๆก็จำได้ทันทีว่าเป็นคนเดียวกับคนที่เข้ามาหาและมาคุยกับเธอ“นี่คุณยายฉันเองท่านเป็นเจ้าของไร่นี้...แต่ท่านเสียไปสี่ห้าปีแล้วนะ”อิทธิกรเริ่มอมยิ้มขึ้นมาเล็กน้อยแล้วที่รู้ว่าหญิงสาวเจอกับอะไร“คะ!!!...”จากคำบอกเล่าของชายหนุ่มทำให้หญิงสาวยืนตัวเกร็งชาวาบขนลุกซู่ไปทั้งตัว“ท่านคงจะเอ็นดูเธอ”อิทธิกรยังไม่หยุดที่จะพูดเล่นกับเธอ“เอ่อ..คุณอิทคะคืนนี้ออมขอนอนด้วยได้ไหมคะ...นะคะเดี๋ยวออมนอนข้างล่างก็ได้แต่ขอเปิดไฟที่โคมไฟไว้นะคะ”ด้วยความที่ตาขาวเรื่องนี้อย่างมากอินทิราจึงจำใจต้องมาขอนอนห้องเดียวกับชายหนุ่มเกิดมาไม่คิดไม่ฝันว่าจะมาเจอเรื่องที่ทำให้เอขนหัวลุกได้ขนาดนี้“ฮ่าๆๆ...นี่เธอก็ตาขาวเหมือนกันนะอยากนอนก็นอนอย่ามาลักหลับฉันก็แล้วกัน”ความรู้สึกของชายหนุ่มตอนนี้รู้ได้เลยว่าหญิงสาวคงกลัวหัวหดอีกทั้งยังไม่ยอมหยุดที่จะพูดแซวเธออีกด้วย“พูดอะไรของคุณอิท...ออมไม่ทำแบบนั้นหรอกค่ะ”อินทิราหน้ามุ่ยอีกรอบที่เวลานี้ชายหนุ่มก็ยังไม่หยุดที่จะแกล้งแซวเธออย่างน้อยการที่ได้นอนห้องเดียวกับชายหนุ่มก็ทำให้เธอได้อุ่นใจขึ้นมาหน่อยว่ามีคนอื่นอยู่ในห้องกับเธอด้วยเผื่
“ออกไป”อิทธิกรรำคาญที่จะฟังคำส่อเสียดของหญิงสาวเต็มทนเลยไล่เธอออกไปอย่างไม่ใยดีตอนนี้หัวใจเขามันไม่ได้โหยหาหญิงสาวที่ทิ้งเขาไปเลยสักนิดเมื่อหญิงสาวมาหาเขาก็ดีอย่างหนึ่งซึ่งมันทำให้เขาได้รู้ว่าเขาสามารถตัดใจจากเธอได้แล้วจริงๆยิ่งคิดถึงวีรกรรมที่เธอทำไว้กับเขามันก็ยิ่งทำให้เขานั้นอยากจะลืมเธอมากขึ้นนั่นเอง“กิ่งก็ไม่ได้อยากอยู่นานนักหรอกค่ะขอตัว”กรกนกก็ไม่ได้อยากมาที่นี่ให้เสียเวลาเธอนักหรอกที่มาก็เพราะว่าเธออยากจะแต่งงานกับผู้ชายคนใหม่ที่พึ่งคบกันได้อย่างสบายใจต่างหาก“คุณอิทคะเป็นอะไรหรือเปล่าคะ”หลังจากที่อินทิราเห็นหญิงสาวรีบเดินออกไปจากบ้านอย่างรีบร้อนเธอเองก็รีบเข้ามาดูอาการของชายหนุ่มทันทีกลัวว่าเขาจะหันกลับมาคิดเรื่องเดิมๆอีกสิ่งที่เธอเป็นห่วงมากที่สุดในตอนนี้ก็คือความรู้สึกของชายหนุ่มเธอไม่อยากให้เขากลับไปเศร้าเหมือนเดิม“ไม่ฉันไม่เป็นอะไรเธอออกไปเถอะ”อิทธิกรมีสีหน้าที่ไม่สบอารมณ์เล็กน้อยเพราะยังรู้สึกไม่พอใจกรกนกอยู่ที่กล้ามาเย้ยหันเขาถึงที่นี่เลยอยากจะอยู่คนเดียวสงบอารมณ์ของตัวเองเสียก่อนเขาไม่อยากให้หญิงสาวเป็นห่วง“ไม่ค่ะออมไม่ไปเมื่อกี้แฟนเก่าคุณเค้ามาคุยอะไรกับคุณเหรอค
“ใกล้จะถึงแล้วเราไปกั้นประตูเงินประตูทองกันเถอะ”เมื่อขบวนใกล้ถึงพีรยาก็ดึงมือพรณภัทร์ออกไปด้านนอกทำหน้าที่เป็นเพื่อนเจ้าสาวกั้นประตูเงินประตูทองกับคนอื่นๆที่รออยู่ที่นี่“ออม”“พี่อิท”และแล้วก็ได้เวลาที่เจ้าบ่าวเจ้าสาวจะสวมแหวนแต่งงานและทำพิธีลดน้ำสังข์เสียทีทั้งสองจ้องหน้ากันอยู่เรื่อยๆต่างยิ้มให้กำลังใจกันและกันและปลื้มปริ่มอยู่ในใจอย่างมากที่พวกเขานั้นได้แต่งงานกันอย่างเป็นพิธีเสียทีช่วงเย็นของวันอินทิราอยู่ในชุดเจ้าสาวสีขาวกระโปรงสุ่มที่ดูเหมือนตุ๊กตามากๆหลังจากที่ช่างแต่งตัวให้เธอเรียบร้อยแล้วหญิงสาวก็หาเวลาเดินมาดูเพื่อนเธอเสียหน่อยว่าเป็นยังไงกันบ้างเพราะตั้งแต่เช้าก็ไม่ค่อยจะได้คุยกันเลย“เหนื่อยไหมแก”พีรยาเห็นอินทิราเดินเข้ามาในห้องก็เอ่ยถามคนเป็นเจ้าสาวว่าวันนี้รู้สึกเหนื่อยบ้างหรือเปล่ากำลังท้องกำลังไส้อยู่ด้วย“ไม่เลยพวกแกนั่นแหละที่ฉันต้องถามว่าเหนื่อยไหม”อินทิราคิดว่าคำถามนี้ควรจะเป็นเธอที่ถามมากกว่าเพราะว่าเธอนั้นแค่เข้าพิธีเฉยๆส่วนงานอย่างอื่นเพื่อนๆเธจัดแจงเองหมด“ไม่เลยพวกฉันเต็มใจทำให้แก”พรณภัทร์ยิ้มกว้างพร้อมหันไปตอบอินทิราพวกเธอไม่รู้สึกเหนื่อยเลยสักนิดกับอ
บริษัทXXX17.00 น.“ทำอะไรอยู่เหรอ”“ออมถักกระเป๋าจิ๋วอยู่ค่ะเสร็จแล้ว2ใบน่ารักไหมคะ”อิทธิกรหิ้วคนเป็นภรรยามาที่ทำงานด้วยแทบจะทุกวันให้เธอมานั่งๆนอนๆที่นี่จนเธอเบื่อต้องหาอะไรทำในระหว่างที่เขาทำงานอยู่“พี่ชักจะอิจฉาไหมพรมในมือออมซะแล้วสิดูออมจะสนใจมันมากกว่าพี่”ชายหนุ่มลงนั่งบนโซฟาข้างๆกับภรรยาพร้อมใช้มือโอบไหล่ของเธอเอาไว้หลวมๆมีสีหน้าที่แกล้งทำเป็นแอบงอนเล็กน้อยที่วันนี้เธอเอาแต่นั่งจดจ่ออยู่กับก้อนไหมพรม“หืม..ออมก็สนใจพี่อิทตลอดนั่นแหละค่ะทำเป็นน้อยใจไปได้”อินทิราถึงกับต้องหยุดมือแล้วหันมาโอบกอดสามีขี้งอนของเธอที่อิจฉาแม้กระทั่งไหมพรมพร้อมบอกกับเขาใจจริงว่าเธอไม่เคยไม่สนใจเขาเลยแม้แต่นิดเดียว“แหม..เอมมาผิดจังหวะหรือเปล่าคะพี่อิท”ไอรดาเผลอเข้าห้องทำงานพี่ชายเธอโดยที่ไม่ได้เคาะประตูไม่คิดว่าทั้งสองกำลังหวานกันอยู่“มีอะไรเหรอเอม”อิทธิกรหันไปถามคนเป็นน้องสาวว่าที่เข้ามามีเรื่องอะไร“พอดีเอมนัดช่างที่เราสั่งตัดชุดเอาไว้ที่บ้านค่ะตอนนี้ชุดเสร็จแล้วเหลือแค่ให้เจ้าบ่าวเจ้าสาวไปลอง”ไอรดาต้องการมาบอกให้ทั้งสองรีบกลับบ้านเพราะตอนนี้เธอนัดช่างที่ตัดชุดให้ไปรอที่บ้านหลังจากที่พวกเธอเล
“อิๆๆๆ”พีรยาเองไม่ได้ไปหายาให้พี่ชายเธอที่ไหนเพียงแต่กลับเข้าไปในห้องของเธอก็เท่านั้นตอนนี้หญิงสาวดีดดิ้นดีใจอยู่บนเตียงนอนที่แผนของเธอสำเร็จอีกแล้วตอนนี้ก็เหลือแค่พี่ชายเธอเองเท่านั้นที่จะช่วยให้ตัวเองได้สมหวังหรือเปล่าแกร็กกกกก“......”ภัคดนัยที่กำลังนั่งพิงหัวเตียงอ่านหนังสืออยู่ถึงกับเงยหน้ามองหญิงสาวด้วยสีหน้าที่แปลกใจเล็กน้อยที่เธอรีบร้อนเข้าห้องของเขามาด้วยในมือถือกะละมังน้ำเข้ามาอย่างรีบร้อน“พี่ภาคย์เป็นอะไรมากหรือเปล่าคะเดี๋ยวพลอยจะเช็ดตัวให้ก่อนนะคะยัยพลอยน่าจะกำลังไปหายามาเป็นถึงหมอทำไมไม่ดูแลตัวเองปล่อยให้ป่วยหนักแบบนี้ได้ไงล่ะคะ”พรณภัทร์วางกะละมังน้ำที่โต๊ะวางของข้างเตียงของชายหนุ่มพร้อมใช้ผ้าชุบน้ำบิดหมาดๆเตรียมที่จะเช็ดตัวให้คนที่นั่งพิงหัวเตียงอยู่“........???”ภัคดนัยมองการกระทำของหญิงสาวอย่างสงสัยในคราแรกแต่เมื่อได้ยินว่าน้องสาวของเขากำลังจะไปเอายามาให้จากปากหญิงสาวเขาก็เข้าใจได้ทันทีว่านี่คงจะเป็นการเล่นอะไรแผลงๆของน้องสาวของเขาอีกแล้วสินะ“ตัวก็ไม่ได้ร้อนนี่นา”พรณภัทร์นั่งลงข้างๆชายหนุ่มในมืออีกผ้าถือผ้าเอาไว้ด้วยสีหน้าที่เป็นกังวลส่วนมืออีกข้างก็ยื่นไปแตะที
“แม่ว่าคงต้องปล่อยให้อัญชัญได้เรียนรู้ด้วยตัวเองสักพักไม่นานคงจะปรับตัวได้เอง”“ค่ะคุณแม่”อรุณาเองก็พอจะรู้อยู่ว่าอัญชัญเป็นอย่างไรแต่คนเรามันก็ต้องโตขึ้นไปทุกวันยังไงเธอก็คิดว่าชีวิตที่อัญชัญจะต้องเจอจะเป็นการสอนเด็กสาวเองว่าจะต้องรับมือกับมันยังไงเธอเชื่อว่าคนที่มีสำนึกดีอย่างอัญชัญจะต้องผ่านมันไปได้บ้านโรจน์วินิจวรกุล18.00 น.“ช่วงนี้อินเลิฟวันหยุดก็หายไปแต่เช้ากลับมาซะเย็นทุกเลยนะ”ภัคดนัยที่นั่งอยู่หน้าบ้านในช่วงเย็นเห็นคนเป็นน้องสาวกลับมาเห็นเดินอารมณ์ดีเข้ามาก็ต้องเอ่ยปากพูดตามประสาพี่ชายหยอกน้องสาว“น้องก็ขอมีความสุขอยู่ใกล้แฟนบ้างอะไรบ้าง...ใครจะไปเหมือนคนบางคนที่น่าอิจฉาได้อยู่ใกล้คนที่อยากอยู่ใกล้ตลอด”พีรยาไม่เองก็ไม่ลืมที่จะยอกย้อนพี่ชายเธอกลับตามนิสัยของเธอ“พีคกลับมาก็ดีแล้วฉันมีเรื่องจะคุยกับแกอยู่พอดี”พรณภัทร์รีบเดินมาจูงมือเพื่อนสาวของเธอเข้าไปคุยอย่างรีบร้อนตอนนี้หญิงสาวเดินเหินได้สะดวกขึ้นเกือบร้อยเปอร์เซ็นเพราะถอดเฝือกออกนานแล้ว“อ๋อ..อืมไปคุยกันในห้องดีกว่า” พีรยาเห็นสีหน้าของเพื่อนสาวเธอก็พอจะเดาออกว่ามีธุระสำคัญจึงให้เข้าไปคุยในห้องเธอจะดีกว่า“มีอะไรหรือเ
เดือนต่อมากรุงเทพมหานครอิทธิกรพาอินทิรามาพักอยู่บ้านที่กรุงเทพของเขาสักพักแล้วเพราะเขาต้องเข้ามาทำงานที่บริษัทเหมือนเดิม“วันนี้เหนื่อยไหมคะ”เมื่ออินทิราเห็นคนเป็นสามีกลับบ้านมาก็รีบเอาน้ำเย็นๆมาต้อนรับเพราะเห็นสามีของเธอดูยุ่งๆทุกวัน“เห็นหน้าออมพี่ก็ไม่เหนื่อยแล้ว”อิทธิกรเองถึงจะเหนื่อยเพียงใดแต่เขาก็รับมือไหวและไม่เอามาพูดในบ้านให้คนเป็นภรรยาที่กำลังท้องอยู่กังวลกับเขาไปด้วยเด็ดขาด“วันนี้คุณแม่กับยัยเอมกลับมาแล้วพวกเค้าจะมาทานข้าวที่บ้านเราด้วย”อิทธิกรรู้ว่าแม่กับน้องของเขากลับมาได้เป็นวันแล้วบ่นอยากจะมาหาอินทิราใจจะขาดเพราะอยากรู้ว่าหลานในท้องมีพัฒนาการไปอย่างไรบ้างแล้ว“ตายจริงพี่อิทไม่บอกออมให้เร็วกว่านี้คะออมจะเตรียมอาหารไว้รอ”อินทิราตำหนิคนเป็นสามีเพราะหากบอกเธอให้เร็วกว่านี้เธอเองก็จะเข้าครัวทำอาหารไว้ต้อนรับแม่และน้องสามีของเธอเอง“ออมไม่ต้องทำหรอกพี่สั่งแม่บ้านไว้แล้วขืนพี่บอกออมก่อนก็คงจะต้องลงมือทำเองใช่ไหมล่ะ”“..ค่ะ..”อิทธิกรคิดถูกที่บอกแม่บ้านอย่างเดียวจะดีกว่าเพราะไม่เช่นนั้นคนเป็นภรรยาของเขาจะต้องเหนื่อยทำอาหารอีเป็นแน่ท้องยังอ่อนๆอยู่เขาไม่อยากให้หญิงสาวทำอะ
“ก็พี่ห่วงของพี่นี่นา”อิทธิกรหน้าเสียเล็กน้อยที่โดนหญิงสาวตอกลับมาแบบนั้นเขารู้ว่าเธอแค่ท้องแต่เขาเองก็แค่ห่วงคิดในใจว่าทำไมหญิงสาวไม่เข้าใจเขาบ้าง“อะไรของพี่อิทเนี่ย”อินทิราส่ายหัวหงึกหงักพร้อมหน้าตึงเล็กน้อยเดินจ้ำอ้าวหนีชายหนุ่มไปให้พ้นๆจะได้ไม่ต้องคอยมาบ่นให้เธอระวังใกล้ๆหูอีก“เดี๋ยวพลอยเดินรอพี่ด้วยสิ...เดินช้าๆเดี๋ยวหกล้ม”อิทธิกรจำต้องสาวเท้ายาวๆให้เดินตามคนเป็นภรรยาทันพร้อมปากก็ยังปรามไม่ให้หญิงสาวเดินไปไวแบบนั้นอีกหลังจากที่ทุกคนเพลิดเพลินกับบรรยากาศยามเช้าในสวนดอกไม้เรียบร้อยแล้วก็กลับเข้ามาทานอาหารเช้ากันพร้อมหน้าพร้อมตาเมื่อทานเสร็จต่างก็แยกย้ายกันพักและเดินชมวิวกันต่อเพราะที่นี่ไม่ได้มีเพียงแค่แปลงดอกไม้เพียงอย่างเดียวยังมีสถานที่จัดไว้ให้ถ่ายรูปเป็นตามจุดอีกมากมายที่จัดเอาไว้“พลอย”ภัคนัยเห็นพรณภัทร์ปลีกตัวมานั่งคนเดียวที่เก้าอี้ใต้ต้นไม้ใหญ่ใกล้ๆกับซุ้มทานข้าวข้างๆก็มีไม้ค้ำยันคู่ใจของเธอวางพาดอยู่ใกล้ๆเขาจึงเดินเข้าไปนั่งข้างๆเธอ“....”พรณภัทร์หน้าตึงเล็กน้อยไม่ได้อะไรชายหนุ่มหากเขาอยากจะนั่งข้างๆเธอก็ขอให้นั่งเงียบๆก็แล้วกันเพราะเธออยากจะอยู่เงียบๆ“อีกสองวันถ้
“อ..เอ่อ..พี่อาท”พีรยาเห็นว่าคำนี้มีแต่เอลิซ่าน้องสาวของเขาเท่านั้นที่เรียกซึ่งถ้าชายหนุ่มให้เธอเรียกเขาแบบนี้ก็รู้สึกแปลกๆเล็กน้อยแต่มันก็ทำให้เธอเคอะเขินกว่าจะพูดคำนั้นออกมาได้“ยังไม่นอนอีกเหรอครับเห็นคุณอิทส่งข้อความบอกว่าพรุ่งนี้เค้าจะพาพวกเราไปเที่ยวที่แปลงดอกคอสมอสที่ไร่อีกฝั่งแต่เช้า”“พีคได้รับข้อความแล้วค่ะเดี๋ยวพรุ่งนี้พีคจะแต่งตัวสวยๆไปถ่ายรูป”พีรยาเองก็ได้รับข้อความจากอิทธิกรเมื่อสักพักเหมือนกันตอนนี้เธอเองก็ได้จัดเตรียมชุดสำหรับถ่ายรูปกับเหล่าดอกไม้เอาไว้แล้ว“พรุ่งนี้ผมอาสาเป็นตากล้องให้เองครับแต่ว่าคุณพีคไม่ต้องแต่งตัวอะไรมากก็สวยอยู่แล้วครับ”อาเทอร์อดที่จะพูดหยอดคำหวานกับหญิงสาวไม่ได้อย่างเธอในสายตาของเขาไม่ต้องแต่งอะไรก็สวยอยู่แล้ว“ปากหวานจังคนบ้าเอ้ย..”พีรยากลั้นยิ้มจนหน้าแดงพร้อมพูดกับตัวเองเบาๆ“อะไรนะครับ”อาเทอร์ได้เอียงหูฟังหญิงสาวแต่เขาก็ได้ยินที่เธอพูดไม่ค่อยถนัดเท่าไร“เปล่าค่ะ..คืนนี้พระจันทร์สวยดีนะคะ”พีรยารีบเปลี่ยนเรื่องคุยทันทีที่ชายหนุ่มทำหน้าสงสัยเธอจะมาเขินเขาจนเสียอาการตรงนี้ไม่ได้“คนตรงหน้าผมสวยกว่า”“อีกแล้วนะคะ...พีคไปนอนแล้วฝันดีค่ะ”ถึงต
“ทุกคน”อินทิราถึงกับน้ำตาคลอที่ทุกคนเซอร์ไพรซ์เธอแบบนี้เธอรู้ว่าอิทธิกรคงจะรู้เห็นด้วยไม่อย่างนั้นคงจะไม่รีบกลับและทำท่าทีแปลกๆจนเธอต้องสงสัย“นี่ครับแหวน”อิทธิกรเห็นทุกคนเปิดตัวออกมากันหมดแล้วเขาก็เดินถือกล่องแหวนเพชรที่แม่ของเขาให้เอาไว้เพื่อให้คนที่เขารักมาคุกเข่าต่อหน้าหญิงสาว“พี่อิท”อินทิราถึงกับนั่งตัวเกร็งที่ชายหนุ่มทำอะไรโรแมนติกแบบนี้“จดทะเบียนแล้วจะไม่มีแหวนได้ยังไง” อิทธิกรดึงมือเล็กของหญิงสาวมาพร้อมสวมแหวนไปที่นิ้วนางข้างซ้ายขนาดของแหวนของแม่เขาเข้ากับนิ้วมือของเธอได้อย่างดี“ขอบคุณนะคะ”อินทิราโผเข้ากอดชายหนุ่มอย่างสุขสุดหัวใจผู้ชายคนนี้คนที่กอดเธออยู่นั้นเป็นคนที่มอบคำว่าครอบครัวที่สมบูรณ์และชีวิตใหม่ให้เธออย่างแท้จริง“งุ้ยยเขินนน”พีรยายืนดูสองคนนั้นกอดกันไปก็หน้าแดงไปเพรารู้สึกเขินกับการกระทำของทั้งคู่ด้วยความที่ยินดีกับเพื่อนเธอด้วยทั้งเธอและพรณภัทร์ต่างก็น้ำตาคลอเล็กๆด้วยความสุขหัวใจ“ทานกันเต็มที่เลยนะคะในครัวมีอาหารอีกเพียบค่ะ”ตอนนี้ทุกคนรวมตัวอยู่ที่โต๊ะอาหารเพราะหลังจากผ่านช่วงเวลาที่ค่อนข้างจะซึ้งใจกันไปแล้วตอนนี้ก็เป็นเวลาพร้อมหน้าพร้อมตาปาร์ตี้ทานอาหาร
“ทำไมใจร้ายกับพี่แบบนี้ล่ะออม”อิทธิกรเริ่มคิ้วขมวดจ้องอินทิราตาเขม็ง“.....”ตอนนี้ทุกคนต่างมองหน้ากันล่อกแล่กที่ดูว่าเรื่องนี้จะทำให้อิทธิกรมีสีหน้าที่บึ้งตึงเปลี่ยนไปอย่างเห็นได้ชัด“ไม่ต้องกลัวพี่จะโกรธหรอกพี่ไม่โกรธตอนนี้พี่ดีใจที่สุดเลยยย”อิทธิกรคลายสีหน้าที่เคร่งเครียดออกแล้วฉีกยิ้มออกมารวบกอดหญิงสาวอย่างแนบแน่นอีกครั้งคราแรกเขานั้นยอมรับว่ามีอารมณ์ขุ่นเคืองอยู่บ้างแต่ก็พยายามสลัดมันออกไปให้ได้เพราะตอนนี้เขาเจอเธอแล้วอยากจะใช้ทุกเวลาทุกนาทีที่อยู่กับหญิงสาวให้มีความสุขที่สุด“เฮ้อ..ตกอกตกใจหมด”พีรยาถึงกับถอนหายใจทุกคนก็เช่นกันนึกว่าจะมีเหตุพ่อแง่แม่งอนกันเสียอีกแล้ว“คุณอาเทอร์ครับผมคงจะไม่ให้ออมไปทำงานกับคุณแล้วนะครับ”อิทธิกรคงไม่ให้หญิงสาวต้องทำงานให้ลำบากอีกต่อไปแล้วอีกอย่างเธอก็ท้องอ่อนๆอยู่ด้วยต่อไปนี้เขาจะดูแลเธอเอง“ผมเข้าใจครับ”อาเทอร์รู้แล้วว่ามันจะต้องเป็นแบบนี้ยังไงเขาก็ยินดีอยู่แล้วที่เห็นอินทิรามีความสุข“แอลก็ทำใจไว้บ้างแล้วค่ะยังไงเดี๋ยวแอลจะให้พี่อาทพาแอลไปหาพี่ออมบ่อยๆนะคะ”เอลิซ่าทำใจไว้แล้วถึงเธอจะเจอกับอินทิราได้ไม่นานแต่ด้วยความที่หญิงสาวเป็นคนอบอุ่นจึง