ของเหลวที่เปื้อนมือของเขาสัมผัสแรกเขาก็รู้ทันทีว่ามันไม่ใช่น้ำเปล่าเป็นแน่บวกกับกลิ่นคาวก็ทำให้เขารู้ว่าหญิงสาวมีเลือดออกเขาไม่ได้ตั้งใจที่จะทำให้เธอเจ็บตัวแบบนี้
“ออมไม่เป็นอะไรค่ะขอตัวไปทำแผลก่อนนะคะ”
อินทิราน้ำตาคลอเบ้าเพราเจ็บที่หางคิ้วอีกอย่างเธอก็ไม่ชอบเห็นเลือดสักเท่าไรเลยรีบเดินออกจากห้องของชายหนุ่มอย่างรวดเร็วและเข้าไปทำแผลที่ห้องของตัวเอง
อิทธิกรค่อยๆเดินไปที่ห้องของหญิงสาวเมื่อคลำมาที่ประตูห้องของเธอปรากฏว่าเธอไม่ได้ปิดประตูจึงค่อยๆเดินเข้าไปถามอาการของหญิงสาวตอนนี้เขารู้สึกผิดเล็กน้อยเพราะทำให้เธอถึงกับเลือดตกยางออกถึงเขาจะขี้โมโหและรำคาญเธออยู่บ้างแต่ก็ไม่ได้คิดจะทำให้หญิงสาวบาดเจ็บ
“คุณอิท”
อินทิราที่กำลังนั่งทำแผลอยู่ที่เตียงของเธอพร้อมกระจกบานเล็กหนึ่งบานเมื่อเห็นว่ามีร่างสูงเดินเข้ามาจึงเงยหน้าขึ้นมาดูพร้อมลุกขึ้นไปพาชายหนุ่มที่ค่อยๆเดินคลำทางเข้ามามานั่งบนเตียงของเธอ
“แผลลึกหรือเปล่าต้องไปหาหมอไหม”
อิทธิกรสอบถามอาหารของหญิงสาวด้วยความรู้สึกผิดและเป็นห่วงว่าบาดแผลของหญิงสาวจะต้องไปให้หมอดูหรือไม่
“ไม่ค่ะแผลนิดเดียวเอง”
อินทิรายิ้มออกจากเมื่อครู่ที่รู้สึกเคืองชายหนุ่มอยู่บ้างเมื่อเห็นว่าเขามีท่าทีเป็นห่วงเธอก็ใจชื้นขึ้นมาอย่างน้อยเขาก็ไม่ได้ใจร้ายใจดำอะไรขนาดนั้นอีกอย่างก็ดีที่แผลของเธอมันไม่ลึกและไม่กว่างมากจนต้องไปหาหมอแผลแค่นี้เธอเอาอยู่อยู่แล้ว
“เมื่อกี้...ฉันขอโทษนะพอดีไม่ได้ตั้งใจจะทำให้เธอเจ็บ”
อิทธิกรพูดขอโทษหญิงสาวพร้อมก้มหน้าสำนึกผิดนี่คงเป็นครั้งแรกที่เขาทำให้ผู้หญิงเจ็บตัวเกิดมาเขาไม่เคยคิดจะลงไม้ลงมือกับผู้หญิงแต่เมื่อครู่เขาก็ทำให้เธอเจ็บจนได้
“ค่ะ...คุณอิทคะ”
จากที่หญิงสาวยิ้มออกอยู่แล้วตอนนี้เธอยิ่งฉีกยิ้มกว้างขึ้นไปอีกเพราะชายหนุ่มเอ่ยขอโทษเธอมันเป็นคำที่เธอไม่นึกไม่ฝันว่ามันจะออกมาจากปากคนที่ขี้โมโหอย่างเขาด้วยซ้ำ
เธอเห็นว่าเวลานี้แหละเป็นเวลาที่ดีที่เธอจะได้คุยกับเขาให้เป็นเรื่องเป็นราวเสียทีเพราะก่อนหน้านี้พูดกันคำทะเลาะกันคำ
“ว่าไง”
“ถึงคุณอิทจะอกหักรักคุดอะไรก็แล้วแต่คุณอิทก็ต้องดูแลตัวเองทานข้าวให้ตรงเวลาทานอาหารที่มีประโยชน์คุณไม่เห็นหรอกค่ะว่าตอนนี้คุณแม่คุณดูทุกข์ใจมากขนาดไหน...เอาแบบนี้ก็ได้ค่ะถ้าหากคุณไม่อยากทำเพื่อตัวเองคุณก็คิดซะว่าทำเพื่อแม่ของคุณกับน้องสาวของคุณก็ได้ค่ะ”
“ฉันคุยดีกับเธอไม่ได้แปลว่าให้เธอมาสอนฉันนะอายุเท่าไรแล้วเรามานั่งสอนคนอย่างฉัน”
อิทธิกรรู้ว่าสิ่งที่หญิงสาวพูดมามันถูกทั้งหมดแต่เขาก็ยังเลือกที่จะทำให้แม่ของเขาไม่สบายใจเองเมื่อคิดไปคิดมาก็เริ่มเห็นแล้วว่ามันก็ไม่มีประโยชน์อะไรอย่างที่หญิงสาวพูดจริงๆถ้าหากเขายังเป็นอยู่แบบนี้
“26ค่ะ...ออมว่าคนเราอายุเท่าไรไม่สำคัญอยู่ที่คิดเป็นหรือเปล่าเท่านั้นเองค่ะ”
“นี่เธอว่าฉันอีกแล้วนะ”
“เปล่านะคะออมแค่...พูดไปตามความคิดของออมก็เท่านั้น...ออมไม่รู้หรอกนะคะว่าอกหักเป็นยังไงแต่ถ้าคุณอิทจะอกหักทั้งทีก็อกหักแบบหล่อๆไปเลยค่ะดีกว่ามาทำตัวห่อเหี่ยวแบบนี้สาวๆที่เค้าทิ้งคุณไปเค้าจะได้เสียดายคุณไงคะ”
“หึ่...ช่างพูดเหมือนกันนะเธอเนี่ย”
ตอนนี้ทั้งสองเริ่มคุยกันดีมากขึ้นชายหนุ่มเห็นว่ามีหญิงสาวมาคุยจ้อให้รำคาญแบบนี้มันก็ทำให้ชีวิตของเขาแปลกไปอีกแบบอายุของเธอก็พึ่งจะ26อ่อนกว่าเขาเป็นสิบปีถ้าเขารู้ว่าเธอไม่ได้มาที่นี่เพราะเงินคราแรกเขาก็คงจะเป็นมิตรกับเธอมากกว่านี้
“ค่ะ”
อินทิราทำแผลเสร็จเรียบร้อยแล้วเธอจึงลุกขึ้นจากเตียงเพื่อเอากล่องอุปกรณ์ทำแผลไปเก็บที่ลิ้นชักหัวเตียงชายหนุ่มรู้ถึงแรงขยับของหญิงสาวว่าเธอลุกออกไปแล้วเขาจึงลุกยืนขึ้นบ้าง
“ว้ายยย”
อินทิราที่ไม่ทันระวังหันมาชนกับชายนุ่มที่กำลังลุกยืนขึ้นจนตอนนี้ทั้งสองล้มทับกันลงไปที่เตียงโดยหญิงสาวนั้นซบอยู่ที่อกของชายหนุ่มเต็มๆ
เมื่อเงยหน้ามาแทนที่หญิงสาวจะรีบลุกออกจากตัวชายหนุ่มแต่ด้วยความที่ใบหน้าของเขาที่อยู่ใกล้กับสายตาของเธออยู่มากมันสะกดให้เธอหยุดมองเขาไม่ได้จริงๆคิ้วหนาเข้มบรรจบกับสันจมูกโด่งตาใสแป๋วของเขาที่จ้องมองเธออยู่แต่เขาคงไม่รู้ตัวริมฝีปากหนาที่กำลังขยับเล็กน้อยมันทำให้หญิงสาวใจเต้นแรงผิดปกติและรู้สึกแปลกๆอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน
“ซุ่มซ่ามจริงๆเลย...แล้วจะลุกออกจากตัวฉันได้หรือยังถึงตัวเธอมันจะไม่หนักแต่ฉันก็ไม่ใช่ฟูกรองนอนของเธอนะ”
อิทธิกรเห็นว่าหญิงสาวไม่ลุกออกจากตัวของเขาเสียทีจึงต้องเอ่ยปากเรียกกันเสียหน่อยเขาพอจะจับสังเกตได้ว่าแม่สาวเจ้านั้นใจเต้นแรงจะทะลุออกมาอยู่แล้วนี่คงจะไม่ค่อยได้อยู่ใกล้ผู้ชายสินะแบบนี้ค่อยน่าแกล้งหน่อยชายหนุ่มคิดในใจ
“อะ...เอ่อ...ขอโทษค่ะ”
เมื่อได้ยินเสียงของชายหนุ่มพูดขึ้นมาหญิงสาวถึงกับหลุดจากภวังค์แล้วรีบลุกออกจากตัวของเขาทันทีตอนนี้ทั้งหน้าเธอแดงเป็นลูกตำลึงไปหมดแล้ว
“เดี๋ยวออมพาคุณอิทกลับไปที่ห้องค่ะ”
อินทิราเห็นชายหนุ่มลุกขึ้นตามเธอมาแล้วจึงรีบจับที่แขนของเขาแล้วอาสาพาชายหนุ่มกลับไปที่ห้องเขาจะได้ไม่ต้องเดินคอลอยคลำทางไปคนเดียว
“อืมแล้วก็กลับไปอุ่นอาหารให้ฉันด้วยฉันจะทานข้าว”
“......เอ่อ......”
อินทิราถึงกับหยุดชะงักกับคำบอกของชายหนุ่มเธอคิดว่าเธออาจจะหูฝาดไปหรือเปล่า
“ฉันจะทำเพื่อแม่ฉันแล้วก็...อยากจะอกหักแบบดูดีด้วย”
อิทธิกรอมยิ้มเล็กน้อยพลางพูดถึงเรื่องที่หญิงสาวบอกกับเขามา
“ได้เลยค่ะเดี๋ยวออมจะรีบจัดการให้นะคะ”
อินทิราดีใจอย่างเห็นได้ชัดอย่างน้อยตอนนี้เธอก็ทำให้ชายหนุ่มยอมหันกลับมาดูแลตัวเองได้แล้วขั้นตอนต่อไปก็คงจะเป็นการโกนหนวดตัดผมให้ชายหนุ่มสินะเธอก็อยากเห็นเหมือนกันว่าหากชายหนุ่มตัดผมโกนหนวดแล้วจะเป็นอย่างไรแต่เรื่องที่เธอหนักใจก็คือจะขออนุญาตเขาอย่างไรนี่แหละ
20 นาทีต่อมา“ข้าวต้มร้อนๆได้แล้วค่ะ”อินทิราวางถ้วยข้าวตมตรงหน้าชายหนุ่มพร้อมจะเดินออกไปจากห้องให้เขาได้นั่งทานเงียบๆคนเดียวเธอไม่อยากจะอยู่กวนเผื่อชายหนุ่มจะทานไม่ลงหากเธอนั้นอยู่ใกล้ๆ“ป้อนฉันสิ”“คะ...คุณอิททานเองไม่ได้เหรอคะ”อินทิราจำต้องชะงักฝีเท้าหันมาหาชายหนุ่มด้วยสีหน้าแปลกใจเธอจำได้ว่าชายหนุ่มก็สามารถที่จะทำอะไรเองได้โดยที่ไม่ต้องมีเธอช่วยนี่นา“ก็ฉันสั่งให้เธอป้อนเธอก็ต้องป้อนอยากจะดูแลฉันไม่ใช่รึไง”อิทธิกรเริ่มมีน้ำเสียงที่แข็งขึ้นที่หญิงสาวชอบที่จะขัดใจเขาอยู่เรื่อยไป“เอ่อ..ค่ะ”อินทิราเห็นว่าชายหนุ่มเริ่มมีท่าทีที่จะโมโหอีกแล้วเธอจึงรีบนั่งลงตรงใกล้ๆกับชายหนุ่มเพื่อที่จะป้อนข้าวเขาได้อย่างถนัด“โอ้ย..ร้อนๆเธอคิดจะฆ่าฉันทางอ้อมรึไง..”เมื่อข้าวต้มคำแรกเข้าปากอิทธิกรถึงกับต้องเป่าปากใช้มือพัดพันวันเพรามันค่อนข้างร้อนอย่างมากจนตอนนี้เขารู้สึกได้ว่าปลายลิ้นนั้นชาไปหมดแล้ว“โทษทีค่ะลืมเป่า..”อินทิราถึงกับหน้าเหวอเพราะเธอรีบจนลืมเป่าให้ข้าวต้มหายร้อนก่อนที่จะเอาเข้าปากชายหนุ่มนั่นเองจึงรีบให้ชายหนุ่มดื่มน้ำก่อนภาพตรงหน้าก็ทำให้เธออดขำในท่าทีของเขาไม่ได้เหมือนกันเธอไม่ได้ตั
“เดี๋ยว...เธอนั่งรอฉันอยู่ในห้องฉันจะอาบน้ำสระผมแล้วเธอก็ต้องรอเช็ดผมให้ฉันเข้าใจใช่ไหม”“เข้า..เข้าใจค่ะ”อิทธิกรไม่ยอมปล่อยให้เธอไปไหนไกลเขายังอยากจะให้หญิงสาวที่บอกว่าอยากจะดูแลเขานักหนาให้เธอได้ดูแลเขาให้เบื่อกันไปข้างเลยอินทิรากลับมานั่งที่ปลายเตียงของชายหนุ่มอย่างใจตุ๊มๆต่อมๆคิดว่าเธอจะต้องได้เจอเขาในสภาพเดียวกับวันนั้นแน่เลยก่อนที่เขาจะออกมาเธอต้องนั่งทำใจให้ชินกับเรื่องแบบนี้เสียก่อนจะได้ไม่ประหม่ามากมายนัก30 นาทีต่อมา“ออม”“ขาคุณอิท”อินทิรารีบวิ่งไปที่หน้าประตูห้องน้ำเมื่อได้ยินเสียงที่ชายหนุ่มเรียกเธอเมื่อครู่อย่างรวดเร็วเพราคิดว่าเขาต้องมีเรื่องให้เธอช่วยเป็นแน่“หยิบผ้าขนหนูให้ฉันหน่อย”“ฮือ!!...ทำไมไม่บอกก่อนหน้านี้กันนะ...ออมพาดไว้ที่ลูกบิดหน้าประตูห้องน้ำนะคะ”หญิงสาวถึงกับคิ้วขมวดพร้อมนึกในใจว่าก่อนที่จะอาบน้ำเขาทำไมไม่เอาเข้าไปก่อนกันนะหญิงสาวหยิบผ้าขนหนูที่วางพับไว้หน้าห้องน้ำอย่างเป็นระเบียบมาหนึ่งผืนพร้อมพาดไว้ที่ลูกบิดประตูเพื่อให้ชายหนุ่มเปิดออกมาแล้วหยิบไปเองจะให้เธอเปิดประตูเอาเข้าไปให้ก็เกรงว่าจะหัวใจวายเสียก่อน“โอเค”แกร๊กกก“หึ้ยย”ยังไม่สิ้นเสียงตอบตกล
“เย็นนี้เดี๋ยวแม่กับยัยเอมอยู่ทานข้าวด้วยนะ”“ค่ะคุณแม่เดี๋ยวออมทำอาหารให้สุดฝีมือเลย”อรุณาอยากจะอยู่ดูพฤติกรรมของทั้งสองเวลาอยู่ด้วยกันก่อนจะกลับไปเสียหน่อยว่ามันดีขึ้นมากน้อยแค่ไหนเธอจะได้กลับไปทำงานของเธอได้อย่างสบายใจโดยที่ไม่ต้องห่วงทางนี้มากนักช่วงเย็นของวัน“นี่เราทำอาหารได้เยอะขนาดนี้เลยเหรอหนูออม”“ค่ะ...ออมชอบทำอาหารเลยรู้เมนูอาหารหลายอย่างแล้วก็ทำได้หลายอย่างด้วยวันหลังถ้าคุณแม่กับพี่เอมมาที่นี่อีกอยากทานอะไรบอกออมได้เลยนะคะ”อินทิราหน้าบานเมื่อได้รับคำชมหลังจากที่ทำกับข้าวหลายอย่างมาวางไว้ที่โต๊ะอาหาร“พูดอยู่นั่นจะทานกันได้รึยัง”“คุณอิทหิวขนาดนั้นเลยหรือไงคะ”หลังจากที่หญิงสาวพูดจบชายหนุ่มก็โพล่งคำบางคำออกมาอย่างขวานผ่าซากทำให้หญิงสาวต้องหุบยิ้มแล้วหันไปมองค้อนใส่ชายหนุ่มเล็กน้อยทั้งยังแอบพูดประชดเล็กน้อย“งั้นก็ทานข้าวกันเถอะ”อรุณาจำต้องรีบบอกให้ทุกคนทาน้าวกันได้ไม่เช่นนั้นสองคนนี้ดูท่าจะเถียงกันอีกยาวพร้อมส่ายหัวให้พ่อลูกชายตัวดีของเธอที่ปากพาหาเรื่องเสียจริง“ออมนี่ก็เก่งเหมือนกันนะคุณแม่มาแค่วันเดียวก็เปลี่ยนอะไรได้เยอะขนาดนี้”“แม่ก็ขอให้หนูออมทำให้ตาอิทดีขึ้นเร็
“ไม่ต้องเกรงใจหรอกไปเถอะ”ภัคดนัยได้ยินว่าหญิงสาวเกรงใจก็รีบดึงมือเธอไปที่รถของเขาที่จอดไว้หน้าบ้านแล้วเปิดประตูดันตัวหญิงสาวเข้าไปนั่งที่ข้างเบาะคนขับพร้อมสตาร์ทรถและขับออกไปทันที“พี่ภาคย์..จอดรถทำไมคะ”พรณภัทร์เห็นว่าจู่ๆชายหนุ่มก็จอดรถข้างทางเสียอย่างนั้นเธอจึงต้องหันหน้าไปถามคนที่นั่งข้างๆด้วยความสงสัย“พี่มีเรื่องจะถามพลอย”ภัคดนัยหันมามองหน้าหญิงสาวจริงจังเพราะตอนนี้เขาอยากจะฟังเรื่องที่อยากรู้เป็นที่สุด“ถาม??..เรื่องอะไรคะ”พรณภัทร์เริ่มใจเต้นเร็วกลัวว่าเรื่องที่ชายหนุ่มจะถามจะเป็นเรื่องที่เธอไม่อยากจะตอบน่ะสิ“ออมติดต่อพลอยมาบ้างหรือเปล่าพี่ถามยัยพีคก็ไม่เห็นจะรู้เรื่องรู้ราวอะไรเลยพี่รู้ว่าพลอยจะไม่โกหกพี่”ภัคดนัยถามหญิงสาวด้วยสีหน้าที่จริงจังพร้อมย้ำจุดอ่อนของเธอที่เขารู้ดี“เอ่อ..ไม่รู้ค่ะออมไม่ได้ติดต่อมาหาพลอยเหมือนกัน”และแล้วคำถามของชายหนุ่มก็เป็นไปอย่างที่หญิงสาวคิดตอนนี้เธอตอบกลับชายหนุ่มโดยที่ไม่มองหน้าของเขาเพราะความรู้สึกผิดในใจที่ต้องโกหกแต่เธอก็ต้องทำตามสัญญาที่ให้ไว้กับอินทิราเหมือนกันว่าห้ามให้คนอื่นรู้เด็ดขาดนอกจากเธอและพีรยา“อืม...ไม่รู้ก็ไม่เป็นไรถ้าได้ข
ไร่แก้วกัลยา07.30 น.“คุณอิทคะตื่นค่ะวันนี้หมอมาตรวจแต่เช้านะคะ”อินทิราเดินเข้าไปปลุกชายหนุ่มที่กำลังหลับไมยอมตื่นขึ้นมาอาบน้ำล้างหน้าล้างตาเสียทีทั้งที่เธอทำอาหารเช้ารอเอาไว้แล้วอีกอย่างอรุณาก็บอกกับเธอว่าหมอจะมาตรวจชายหนุ่มในช่วงเช้าด้วย“ขออีกนิดนะฉันกำลังหลับสบายเลย”อิทธิกรยังรู้สึกว่าไม่อยากตื่นเขาจึงพลิกตัวและเอาผ้าห่มคลุมหัวหนีหญิงสาวที่ส่งเสียงดังแสบแก้วหูเรียกเขาปาวๆอยู่“ไม่ได้ค่ะคุณอิทต้องลุกมาอาบน้ำแต่งตัวทานอาหารเช้าให้ตรงเวลานะคะ”อินทิราเองก็ไม่ยอมง่ายๆยังไงเธอก็ต้องปลุกเข้าให้ลุกขึ้นมาให้ได้“โอเคๆ...ถ้าฉันไม่ลุกก็คงจะต้องทนฟังเสียงแหลมๆของเธอสินะ”อิทธิกรจำต้องดีดตัวลุกขึ้นมาเพราะเริ่มรำคาญหญิงสาวและมีอารมณ์หงุดหงิดขึ้นมาบ้างแล้วเขาไม่รู้ว่าจะดีหรือไม่ดีที่หญิงสาวอยู่ที่นี่บางทีก็ทำตัวให้เขาหายเหงาบางทีก็ทำตัวน่ารำคาญ“ก็คุณอิทไม่ยอมลุกเองนี่คะ”อินทิราบ่นอู้อี้เล็กน้อยที่เช้านี้เธอโดนชายหนุ่มดุแต่เช้าอีกแล้วเธอก็เพียงแค่ทำหน้าที่ของเธอก็เท่านั้นหลังจากที่อิทธิกรทานอาหารเช้าเรียบร้อยแล้วอินทิราก็พาชายหนุ่มเข้าไปในห้องตามความต้องการของเขาไม่นานหมอก็มาตรวจพอดีหญิงสา
“ใช่ๆจริงๆด้วยค่ะ”อินทิราเห็นหญิงในรูปเล็กๆก็จำได้ทันทีว่าเป็นคนเดียวกับคนที่เข้ามาหาและมาคุยกับเธอ“นี่คุณยายฉันเองท่านเป็นเจ้าของไร่นี้...แต่ท่านเสียไปสี่ห้าปีแล้วนะ”อิทธิกรเริ่มอมยิ้มขึ้นมาเล็กน้อยแล้วที่รู้ว่าหญิงสาวเจอกับอะไร“คะ!!!...”จากคำบอกเล่าของชายหนุ่มทำให้หญิงสาวยืนตัวเกร็งชาวาบขนลุกซู่ไปทั้งตัว“ท่านคงจะเอ็นดูเธอ”อิทธิกรยังไม่หยุดที่จะพูดเล่นกับเธอ“เอ่อ..คุณอิทคะคืนนี้ออมขอนอนด้วยได้ไหมคะ...นะคะเดี๋ยวออมนอนข้างล่างก็ได้แต่ขอเปิดไฟที่โคมไฟไว้นะคะ”ด้วยความที่ตาขาวเรื่องนี้อย่างมากอินทิราจึงจำใจต้องมาขอนอนห้องเดียวกับชายหนุ่มเกิดมาไม่คิดไม่ฝันว่าจะมาเจอเรื่องที่ทำให้เอขนหัวลุกได้ขนาดนี้“ฮ่าๆๆ...นี่เธอก็ตาขาวเหมือนกันนะอยากนอนก็นอนอย่ามาลักหลับฉันก็แล้วกัน”ความรู้สึกของชายหนุ่มตอนนี้รู้ได้เลยว่าหญิงสาวคงกลัวหัวหดอีกทั้งยังไม่ยอมหยุดที่จะพูดแซวเธออีกด้วย“พูดอะไรของคุณอิท...ออมไม่ทำแบบนั้นหรอกค่ะ”อินทิราหน้ามุ่ยอีกรอบที่เวลานี้ชายหนุ่มก็ยังไม่หยุดที่จะแกล้งแซวเธออย่างน้อยการที่ได้นอนห้องเดียวกับชายหนุ่มก็ทำให้เธอได้อุ่นใจขึ้นมาหน่อยว่ามีคนอื่นอยู่ในห้องกับเธอด้วยเผื่
“ออกไป”อิทธิกรรำคาญที่จะฟังคำส่อเสียดของหญิงสาวเต็มทนเลยไล่เธอออกไปอย่างไม่ใยดีตอนนี้หัวใจเขามันไม่ได้โหยหาหญิงสาวที่ทิ้งเขาไปเลยสักนิดเมื่อหญิงสาวมาหาเขาก็ดีอย่างหนึ่งซึ่งมันทำให้เขาได้รู้ว่าเขาสามารถตัดใจจากเธอได้แล้วจริงๆยิ่งคิดถึงวีรกรรมที่เธอทำไว้กับเขามันก็ยิ่งทำให้เขานั้นอยากจะลืมเธอมากขึ้นนั่นเอง“กิ่งก็ไม่ได้อยากอยู่นานนักหรอกค่ะขอตัว”กรกนกก็ไม่ได้อยากมาที่นี่ให้เสียเวลาเธอนักหรอกที่มาก็เพราะว่าเธออยากจะแต่งงานกับผู้ชายคนใหม่ที่พึ่งคบกันได้อย่างสบายใจต่างหาก“คุณอิทคะเป็นอะไรหรือเปล่าคะ”หลังจากที่อินทิราเห็นหญิงสาวรีบเดินออกไปจากบ้านอย่างรีบร้อนเธอเองก็รีบเข้ามาดูอาการของชายหนุ่มทันทีกลัวว่าเขาจะหันกลับมาคิดเรื่องเดิมๆอีกสิ่งที่เธอเป็นห่วงมากที่สุดในตอนนี้ก็คือความรู้สึกของชายหนุ่มเธอไม่อยากให้เขากลับไปเศร้าเหมือนเดิม“ไม่ฉันไม่เป็นอะไรเธอออกไปเถอะ”อิทธิกรมีสีหน้าที่ไม่สบอารมณ์เล็กน้อยเพราะยังรู้สึกไม่พอใจกรกนกอยู่ที่กล้ามาเย้ยหันเขาถึงที่นี่เลยอยากจะอยู่คนเดียวสงบอารมณ์ของตัวเองเสียก่อนเขาไม่อยากให้หญิงสาวเป็นห่วง“ไม่ค่ะออมไม่ไปเมื่อกี้แฟนเก่าคุณเค้ามาคุยอะไรกับคุณเหรอค
“คือ...พลอยไม่รู้ค่ะ...คือ...ที่พี่ภาคย์ช่วยพลอยเพราะพี่ภาคย์อยากให้พลอยพูดเรื่องออมใช่ไหมคะ”เรื่องที่ชายหนุ่มถามมาเธอเองไม่สามารถตอบได้จริงๆพร้อมทั้งยังนึกน้อยใจที่เรื่องของอินทิราเพื่อนสาวของเธอคงจะเป็นคือสาเหตุที่ชายหนุ่มยื่นมือมาช่วยเธอ“ยังจะโกหกพี่อีกเหรอพลอย...ใช่เรื่องออมพี่อยากให้พลอยบอกพี่ว่าเธออยู่ไหนทำอะไรแค่นี้พี่ขอให้พลอยช่วยแค่นี้จะได้ไหม”ด้วยความมึนเมาและโทสะที่มีต่อหญิงสาวบ้างเล็กน้อยแล้วชายหนุ่มจึงเข้าไปบีบแขนหญิงสาวอย่างรุนแรงพร้อมพูดกับเธออย่างเคืองใจเขารู้มานานแล้วว่าเธอรู้ตั้งแต่คืนที่เขาไปส่งเธอวันนั้นแต่เขารอเวลาที่หญิงสาวจะเห็นใจและยอมบอกเรื่องอินทิรากับเขาบ้างแต่เธอก็ยังปากแข็งไม่ยอมบอกอยู่ดี“...ขอเป็นเรื่องอื่นได้ไหมคะ...ความจริงมีบางอย่างที่พลอยอยากจะพูดกับพี่ภาคย์มานานแล้วก็คือออมเค้าไม่เคยคิดเกินเลยกับพี่ภาคย์ออมเห็นพี่ภาคย์เป็นแค่พี่ชายคนนึงเท่านั้น”เรื่องนี้หญิงสาวไม่สามารถที่จะช่วยเหลือคนตรงหน้าได้จริงๆพร้อมทั้งยังทำใจบอกเรื่องที่เขานั้นสมควรจะได้รู้จะได้ไม่ต้องหวังอะไรลมๆแล้งๆแบบนี้อีกมันจะทำให้ชายหนุ่มนั้นเจ็บอยู่ฝ่ายเดียวเปล่าๆ“พี่รู้แต่พี่คิดว