ฉ่าาาาาาาา
“ฮัดชิ่ววว”
หญิงสาวหยิบหมูกับกระเพราและพริกสดออกจากตู้มาหั่นล้างทำความสะอาดแล้วแกะกระเทียมที่ห้อยอยู่ด้านนอกมาปอกเปลือกและสับอย่างชำนาญตอนนี้ของทุกอย่างก็ได้ลงกระทะไปพร้อมกันแล้วหญิงสาวหยิบเครื่องปรุงรสใส่ตามใจที่เธอชอบตอนนี้อาหารในกระทะส่งกลิ่นฉุนเล็กน้อยจนทำให้หญิงสาวจามไม่นานกระเพราหมูสุดน่าทานจานนี้ก็เสร็จสิ้น
แกร๊ก
“ทานข้าวเย็นค่ะคุณอิท”
อินทิราเดินเปิดประตูห้องของชายหนุ่มเข้ามาเธอเห็นว่าเขาก็ยังนั่งอยู่ที่เดิมพร้อมเอาถาดอาหารไปวางตรงหน้าคิดว่าถ้าหากชายหนุ่มได้กลิ่นอาหารที่หอมขนาดนี้คงจะอยากทานข้าวขึ้นมาบ้าง
“นี่เธอยังไม่กลับไปอีกเหรอ”
อิทธิกรคิดว่าหญิงสาวที่เขาตวาดใส่เมื่อครู่จะกลับไปแล้วเสียอีก
“ไม่ค่ะออมจะต้องอยู่ดูแลคุณ”
อินทิรายังยืนยันคำพูดเดิมของเธอว่าเธอจะต้องอยู่ที่นี่เพื่อดูแลชายหนุ่มและเธอก็จะไม่ถอดใจกลับไปง่ายๆแน่เพราเธอก็ไม่รู้จะไปอยู่ที่ไหน
“เธอนี่ท่าทางจะตื๊อไม่เลิกนะ...กลัวแม่ฉันจะเอาเงินคืนหรือไง”
อิทธิกรสบถออกมาอย่างหัวเสียเขาคิดว่าที่หญิงสาวไม่ยอมถอดใจง่ายๆคงจะเป็นเพราเงินที่สูงหลายสิบล้านที่แม่ของเขาจ่ายเพื่อให้ได้ตัวของเธอมา
“เงิน...เงินอะไรคะ”
อินทิราไม่เข้าใจที่ชายหนุ่มพูดออกมาสักเท่าไรเรื่องเงินอะไรเธอไม่เห็นจะรู้เรื่อง
“จะบอกว่าเธอไม่รู้เรื่องงั้นสิตอนแรกก็จะไม่ยอมมาแต่พอได้เงินไปหลายสิบล้านกลับวิ่งแจ้นมาที่นี่ไล่เท่าไรก็ไม่ยอมไป...นี่เงินฉันไม่เอาคืนหรอกนะเธอกลับไปบ้านของเธอเถอะอย่ามายุ่งกับฉันเลยยังไงฉันก็ไม่มีวันแต่งงานกับเธอหรอก”
อิทธิกรร่ายยาวถึงเรื่องที่แม่ของเขาต้องจ่ายเงินให้กับอรดีเพื่อแลกกับตัวของหญิงสาวมามันค่อนข้างเยอะและถ้าหากไม่ใช่เพราะเงินนี้หญิงสาวก็คงไม่มายืนให้เขารำคาญใจอยู่ตรงนี้หรอก
พร้อมทั้งเอ่ยปากให้หญิงสาวกลับไปเสียและย้ำให้หญิงสาวได้ฟังชัดๆว่าเงินทั้งหมดเขายกให้ขอแค่ให้หญิงสาวอย่ามายุ่งกับเขาก็พอ
“เรื่องเงินออมไม่รู้เรื่องจริงๆค่ะแต่หน้าที่ออมตอนนี้คือดูแลคุณอิทและสถานะตอนนี้ของออมก็คือคู่หมั้นของคุณอิทค่ะ”
เรื่องเงินเธอไม่เห็นว่าแม่ใหญ่ของเธอจะบอกอะไรเลยสักนิดแต่ก็ไม่ได้นึกโกรธเคืองอะไรอรดีเลยสักนิดหากตัวเธอแลกกับความสบายของคนที่บ้านได้เธอก็ยอมและยังยืนยันสถานะของเธอให้กับชายหนุ่มได้ฟังอีกครั้งว่าเธอจะอยู่ที่นี่ต่อไปในสถานะที่เธอได้รับมาให้เป็น
“จะไม่ไปดีๆใช่ไหม...”
“ว้ายย!!..คุณอิท”
อิทธิกรถึงจะมองไม่เห็นแต่ประสาทสัมผัสอย่างอื่นของเขาก็เป็นเลิศชายหนุ่มคว้าร่างบางของหญิงสาวอย่างแม่นยำตอนนี้ใบหน้าของหญิงสาวกระแทกติดกับแผงอกของเขาอย่างแนบแน่นชายหนุ่มต้องการสั่งสอนหญิงสาวให้เธอนั้นไม่กล้ามาต่อล้อต่อเถียงกับเขาอีก
“หืมม...เหม็นค่ะคงจะทั้งดื่มทั้งอาบแต่แอลกอฮอลล์สินะคะปล่อยออมนะคะ”
อินทิราอยากจะเอามือบีบจมูกไม่ให้ได้กลิ่นแต่ก็ทำไม่ได้เพราะชายหนุ่มเล่นรัดเธอเสียแน่นขนาดนี้จึงทำได้แต่กลั้นหายใจอีกทั้งยังพูดจาแบบตรงๆซื่อๆแบบที่เธอเป็นให้เขาได้รู้ว่าตอนนี้กลิ่นกายของเขามันอยู่ในระดับไหนเธอได้กลิ่นคราแรกคิดว่าชายหนุ่มอาบน้ำด้วยน้ำเมาพวกนี้เสียอีก
“อื้ม..ทำอะไรของคุณคะ”
อิทธิกรรวบตัวหญิงสาวได้ก็รู้ว่าเธอตัวเล็กกว่าที่เขาคิดแต่ไอ้ที่มันเบียดเสียดกับตัวของเขามันไม่เล็กเอาเสียเลยตอนนี้เขาก็ได้ทีจัดการคนที่กล้าต่อล้อต่อถียงกับเขาแล้ว
ชายหนุ่มใช้มือแกร่งบีบใบหน้าของหญิงสาวพร้อมส่งริมฝีปากหนาของเขาประกบริมฝีปากบางของเธออย่างแม่นยำพร้อมส่งลิ้นร้ายตวัดตักตวงความหวานพร้อมดูดคลึงริมฝีปากบางจนห้อเลือดจนหญิงสาวรู้สึกเจ็บพร้อมออกแรงดิ้นให้หลุดจากอ้อมแขนของชายหนุ่มแล้ววิ่งอกไปนอกห้อง
“ถ้าไม่อยากโดนแบบนี้อีกก็อย่ามายุ่งกับฉัน!!”
อิทธิกรยิ้มอย่างพอใจที่รู้สึกได้ว่าหญิงสาวตัวสั่นเพราะความกลัวทั้งยังส่งเสียงขู่ให้หลังหญิงสาวที่เขารู้สึกได้ว่าเธอวิ่งหนีเขาออกไปแล้วแล้วกลับมานั่งอย่างพอใจหวังในใจว่าเขาจะไม่ได้ยินเสียงของเธอหรือมีเธอกล้าเข้ามาใกล้อีก
“ยังไงคุณอิทก็ทานข้าวด้วยนะคะเดี๋ยวจะเป็นโรคกระเพาะแล้วก็กรดไหลย้อน”
อินทิรากลัวจนตัวสั่นเล็กน้อยเมื่อสงบสติได้เธอก็พึ่งจะนึกออกว่าเมื่อครู่ชายหนุ่มยังไม่ได้ทานข้าวที่เธอน้ำไปให้หญิงสาวจึงเดินไปเกาะที่หน้าประตูห้องชายหนุ่มพร้อมบอกให้เขาทานขาวเย็นที่เธอทำไปให้ด้วยอย่างกล้าๆกลัวๆ
“นี่เธอยังไม่เข็ด”
“ว้ายย”
ปังงง
อิทธิกรเชื่อหญิงสาวเลยจริงๆที่เหมือนจะมึนไม่ฟังในสิ่งที่เขาต้องการพร้อมทั้งยังทำท่าลุกยืนขึ้นจนหญิงสาวต้องรีบวิ่งเข้าห้องของเธอปิดประตูเสียงดังอย่างรีบร้อน
“หึ่..จุ้นจ้านจริงๆ”
เมื่อได้ยินเสียงประตูห้องข้างๆปิดเรียบร้อยแล้วเขาจึงมานั่งที่เดิมของเขาต่ออย่างหงุดหงิดพลางคิดว่าผู้หญิงคนนี้นี่เหรอที่แม่ของเขาเลือกที่จะให้มาใช้ชีวิตอยู่กับเขาถ้าขืนได้ฟังเธอพูดทุกวันประสาทเขาคงกินตายคนอะไรตีมึนได้สุดยอด
“หื่ออมมม...คนบ้าเอ้ยย”
อินทิรากลับเข้าห้องมาได้ก็รีบเข้าห้องน้ำไปล้างปากของเธอทันทีเพราตอนนี้มันยังมีกลิ่นแอลกอฮอลล์จากปากของชายหนุ่มติดอยู่ที่ปากของเธออยู่เลย
เมื่อครู่นี้รสจูบของชายหนุ่มมันดูค่อนข้างป่าเถื่อนสำหรับเธออยู่มากมันไม่เห็นจะอ่อนโยนเหมือนที่เธอเคยดูในซีรีย์เลยสักนิดแล้วอีตาบ้านั่นก็ขโมยจูบแรกของเธอไปอีกด้วย
เช้าวันต่อมา
06.00 น.
เคร้งๆ...ๆๆ
“อืม...ใคร???”
อิทธิกรงัวเงียตื่นขึ้นมาบนเตียงนอนของเขาเพราะได้ยินเสียงเหมือนขวดแก้วกระทบกันระคายหูจนทำให้ต้องลุกขึ้นมาทั้งที่ยังง่วงอยู่
“ออมเองค่ะ...คุณอิทนอนไปเลยค่ะเดี๋ยวออมขอเก็บห้องให้คุณอิทก่อน...อ้อแล้วเมื่อวานคุณอิทก็ไม่ได้ทานข้าวนี่คะวันนี้ยังไงคุณอิทก็ต้องทานนะคะ”อินทิราตั้งหน้าตั้งตารวบรวมขวดน้ำเมาของชายหนุ่มไปทิ้งให้หมดนี่ก็ใกล้จะเสร็จแล้วแต่เขาดันตื่นขึ้นมาก่อนเธอว่าเธอพยายามเบามือที่สุดแล้วนะ“เธอนี่มัน!!...แล้วต้องเก็บอะไรนักหนา”เขาไม่เข้าใจว่าหญิงสาวยังจะบอกให้เขาหลับลงได้อย่างไรทั้งที่เธอมาก่อกวนส่งเสียงรบกวนเขาอยู่แบบนี้“ก็พวกขวดเครื่องดื่มพวกนี้ไงคะออมเอาไปทิ้งเกือบจะหมดแล้วนะคะต่อไปนี้ออมจะไม่ให้คุณอิทดื่มของพวกนี้แล้วค่ะเมื่อเช้าออมให้แม่บ้านเอาน้ำผลไม้มาไว้ในบ้านแทนถ้าคุณอิทอยากดื่มน้ำผลไม้อะไรก็บอกออมนะคะเดี๋ยวออมจะไปเอามาให้ค่ะ”อินทิราตั้งเริ่มปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการกินการอยู่ของชายหนุ่มใหม่เสียตั้งแต่วันนี้โดยเริ่มจากสิ่งแรกเธอต้องเก็บขวดน้ำเมาพวกนี้ไปทิ้งให้หมดเสียก่อนแล้วเปลี่ยนเป็นเครื่องดื่มที่มีประโยชน์ให้ชายหนุ่มแทน“เธอกล้ามากนักนะยัยจุ้นจ้าน”เคร้ง...เพล้ง...ๆๆอิทธกรได้ยินสิ่งที่หญิงสาวพูดก็ลุกพรวดขึ้นมาอาละวาดด้วยความโมโหขว้างปาสิ่งของที่มือสัมผัสได้ในตอนนี้อย่างหงุดหงิด“ว้ายยยย..
ของเหลวที่เปื้อนมือของเขาสัมผัสแรกเขาก็รู้ทันทีว่ามันไม่ใช่น้ำเปล่าเป็นแน่บวกกับกลิ่นคาวก็ทำให้เขารู้ว่าหญิงสาวมีเลือดออกเขาไม่ได้ตั้งใจที่จะทำให้เธอเจ็บตัวแบบนี้“ออมไม่เป็นอะไรค่ะขอตัวไปทำแผลก่อนนะคะ”อินทิราน้ำตาคลอเบ้าเพราเจ็บที่หางคิ้วอีกอย่างเธอก็ไม่ชอบเห็นเลือดสักเท่าไรเลยรีบเดินออกจากห้องของชายหนุ่มอย่างรวดเร็วและเข้าไปทำแผลที่ห้องของตัวเองอิทธิกรค่อยๆเดินไปที่ห้องของหญิงสาวเมื่อคลำมาที่ประตูห้องของเธอปรากฏว่าเธอไม่ได้ปิดประตูจึงค่อยๆเดินเข้าไปถามอาการของหญิงสาวตอนนี้เขารู้สึกผิดเล็กน้อยเพราะทำให้เธอถึงกับเลือดตกยางออกถึงเขาจะขี้โมโหและรำคาญเธออยู่บ้างแต่ก็ไม่ได้คิดจะทำให้หญิงสาวบาดเจ็บ“คุณอิท”อินทิราที่กำลังนั่งทำแผลอยู่ที่เตียงของเธอพร้อมกระจกบานเล็กหนึ่งบานเมื่อเห็นว่ามีร่างสูงเดินเข้ามาจึงเงยหน้าขึ้นมาดูพร้อมลุกขึ้นไปพาชายหนุ่มที่ค่อยๆเดินคลำทางเข้ามามานั่งบนเตียงของเธอ“แผลลึกหรือเปล่าต้องไปหาหมอไหม”อิทธิกรสอบถามอาหารของหญิงสาวด้วยความรู้สึกผิดและเป็นห่วงว่าบาดแผลของหญิงสาวจะต้องไปให้หมอดูหรือไม่“ไม่ค่ะแผลนิดเดียวเอง”อินทิรายิ้มออกจากเมื่อครู่ที่รู้สึกเคืองชายหนุ่มอ
20 นาทีต่อมา“ข้าวต้มร้อนๆได้แล้วค่ะ”อินทิราวางถ้วยข้าวตมตรงหน้าชายหนุ่มพร้อมจะเดินออกไปจากห้องให้เขาได้นั่งทานเงียบๆคนเดียวเธอไม่อยากจะอยู่กวนเผื่อชายหนุ่มจะทานไม่ลงหากเธอนั้นอยู่ใกล้ๆ“ป้อนฉันสิ”“คะ...คุณอิททานเองไม่ได้เหรอคะ”อินทิราจำต้องชะงักฝีเท้าหันมาหาชายหนุ่มด้วยสีหน้าแปลกใจเธอจำได้ว่าชายหนุ่มก็สามารถที่จะทำอะไรเองได้โดยที่ไม่ต้องมีเธอช่วยนี่นา“ก็ฉันสั่งให้เธอป้อนเธอก็ต้องป้อนอยากจะดูแลฉันไม่ใช่รึไง”อิทธิกรเริ่มมีน้ำเสียงที่แข็งขึ้นที่หญิงสาวชอบที่จะขัดใจเขาอยู่เรื่อยไป“เอ่อ..ค่ะ”อินทิราเห็นว่าชายหนุ่มเริ่มมีท่าทีที่จะโมโหอีกแล้วเธอจึงรีบนั่งลงตรงใกล้ๆกับชายหนุ่มเพื่อที่จะป้อนข้าวเขาได้อย่างถนัด“โอ้ย..ร้อนๆเธอคิดจะฆ่าฉันทางอ้อมรึไง..”เมื่อข้าวต้มคำแรกเข้าปากอิทธิกรถึงกับต้องเป่าปากใช้มือพัดพันวันเพรามันค่อนข้างร้อนอย่างมากจนตอนนี้เขารู้สึกได้ว่าปลายลิ้นนั้นชาไปหมดแล้ว“โทษทีค่ะลืมเป่า..”อินทิราถึงกับหน้าเหวอเพราะเธอรีบจนลืมเป่าให้ข้าวต้มหายร้อนก่อนที่จะเอาเข้าปากชายหนุ่มนั่นเองจึงรีบให้ชายหนุ่มดื่มน้ำก่อนภาพตรงหน้าก็ทำให้เธออดขำในท่าทีของเขาไม่ได้เหมือนกันเธอไม่ได้ตั
“เดี๋ยว...เธอนั่งรอฉันอยู่ในห้องฉันจะอาบน้ำสระผมแล้วเธอก็ต้องรอเช็ดผมให้ฉันเข้าใจใช่ไหม”“เข้า..เข้าใจค่ะ”อิทธิกรไม่ยอมปล่อยให้เธอไปไหนไกลเขายังอยากจะให้หญิงสาวที่บอกว่าอยากจะดูแลเขานักหนาให้เธอได้ดูแลเขาให้เบื่อกันไปข้างเลยอินทิรากลับมานั่งที่ปลายเตียงของชายหนุ่มอย่างใจตุ๊มๆต่อมๆคิดว่าเธอจะต้องได้เจอเขาในสภาพเดียวกับวันนั้นแน่เลยก่อนที่เขาจะออกมาเธอต้องนั่งทำใจให้ชินกับเรื่องแบบนี้เสียก่อนจะได้ไม่ประหม่ามากมายนัก30 นาทีต่อมา“ออม”“ขาคุณอิท”อินทิรารีบวิ่งไปที่หน้าประตูห้องน้ำเมื่อได้ยินเสียงที่ชายหนุ่มเรียกเธอเมื่อครู่อย่างรวดเร็วเพราคิดว่าเขาต้องมีเรื่องให้เธอช่วยเป็นแน่“หยิบผ้าขนหนูให้ฉันหน่อย”“ฮือ!!...ทำไมไม่บอกก่อนหน้านี้กันนะ...ออมพาดไว้ที่ลูกบิดหน้าประตูห้องน้ำนะคะ”หญิงสาวถึงกับคิ้วขมวดพร้อมนึกในใจว่าก่อนที่จะอาบน้ำเขาทำไมไม่เอาเข้าไปก่อนกันนะหญิงสาวหยิบผ้าขนหนูที่วางพับไว้หน้าห้องน้ำอย่างเป็นระเบียบมาหนึ่งผืนพร้อมพาดไว้ที่ลูกบิดประตูเพื่อให้ชายหนุ่มเปิดออกมาแล้วหยิบไปเองจะให้เธอเปิดประตูเอาเข้าไปให้ก็เกรงว่าจะหัวใจวายเสียก่อน“โอเค”แกร๊กกก“หึ้ยย”ยังไม่สิ้นเสียงตอบตกล
“เย็นนี้เดี๋ยวแม่กับยัยเอมอยู่ทานข้าวด้วยนะ”“ค่ะคุณแม่เดี๋ยวออมทำอาหารให้สุดฝีมือเลย”อรุณาอยากจะอยู่ดูพฤติกรรมของทั้งสองเวลาอยู่ด้วยกันก่อนจะกลับไปเสียหน่อยว่ามันดีขึ้นมากน้อยแค่ไหนเธอจะได้กลับไปทำงานของเธอได้อย่างสบายใจโดยที่ไม่ต้องห่วงทางนี้มากนักช่วงเย็นของวัน“นี่เราทำอาหารได้เยอะขนาดนี้เลยเหรอหนูออม”“ค่ะ...ออมชอบทำอาหารเลยรู้เมนูอาหารหลายอย่างแล้วก็ทำได้หลายอย่างด้วยวันหลังถ้าคุณแม่กับพี่เอมมาที่นี่อีกอยากทานอะไรบอกออมได้เลยนะคะ”อินทิราหน้าบานเมื่อได้รับคำชมหลังจากที่ทำกับข้าวหลายอย่างมาวางไว้ที่โต๊ะอาหาร“พูดอยู่นั่นจะทานกันได้รึยัง”“คุณอิทหิวขนาดนั้นเลยหรือไงคะ”หลังจากที่หญิงสาวพูดจบชายหนุ่มก็โพล่งคำบางคำออกมาอย่างขวานผ่าซากทำให้หญิงสาวต้องหุบยิ้มแล้วหันไปมองค้อนใส่ชายหนุ่มเล็กน้อยทั้งยังแอบพูดประชดเล็กน้อย“งั้นก็ทานข้าวกันเถอะ”อรุณาจำต้องรีบบอกให้ทุกคนทาน้าวกันได้ไม่เช่นนั้นสองคนนี้ดูท่าจะเถียงกันอีกยาวพร้อมส่ายหัวให้พ่อลูกชายตัวดีของเธอที่ปากพาหาเรื่องเสียจริง“ออมนี่ก็เก่งเหมือนกันนะคุณแม่มาแค่วันเดียวก็เปลี่ยนอะไรได้เยอะขนาดนี้”“แม่ก็ขอให้หนูออมทำให้ตาอิทดีขึ้นเร็
“ไม่ต้องเกรงใจหรอกไปเถอะ”ภัคดนัยได้ยินว่าหญิงสาวเกรงใจก็รีบดึงมือเธอไปที่รถของเขาที่จอดไว้หน้าบ้านแล้วเปิดประตูดันตัวหญิงสาวเข้าไปนั่งที่ข้างเบาะคนขับพร้อมสตาร์ทรถและขับออกไปทันที“พี่ภาคย์..จอดรถทำไมคะ”พรณภัทร์เห็นว่าจู่ๆชายหนุ่มก็จอดรถข้างทางเสียอย่างนั้นเธอจึงต้องหันหน้าไปถามคนที่นั่งข้างๆด้วยความสงสัย“พี่มีเรื่องจะถามพลอย”ภัคดนัยหันมามองหน้าหญิงสาวจริงจังเพราะตอนนี้เขาอยากจะฟังเรื่องที่อยากรู้เป็นที่สุด“ถาม??..เรื่องอะไรคะ”พรณภัทร์เริ่มใจเต้นเร็วกลัวว่าเรื่องที่ชายหนุ่มจะถามจะเป็นเรื่องที่เธอไม่อยากจะตอบน่ะสิ“ออมติดต่อพลอยมาบ้างหรือเปล่าพี่ถามยัยพีคก็ไม่เห็นจะรู้เรื่องรู้ราวอะไรเลยพี่รู้ว่าพลอยจะไม่โกหกพี่”ภัคดนัยถามหญิงสาวด้วยสีหน้าที่จริงจังพร้อมย้ำจุดอ่อนของเธอที่เขารู้ดี“เอ่อ..ไม่รู้ค่ะออมไม่ได้ติดต่อมาหาพลอยเหมือนกัน”และแล้วคำถามของชายหนุ่มก็เป็นไปอย่างที่หญิงสาวคิดตอนนี้เธอตอบกลับชายหนุ่มโดยที่ไม่มองหน้าของเขาเพราะความรู้สึกผิดในใจที่ต้องโกหกแต่เธอก็ต้องทำตามสัญญาที่ให้ไว้กับอินทิราเหมือนกันว่าห้ามให้คนอื่นรู้เด็ดขาดนอกจากเธอและพีรยา“อืม...ไม่รู้ก็ไม่เป็นไรถ้าได้ข
ไร่แก้วกัลยา07.30 น.“คุณอิทคะตื่นค่ะวันนี้หมอมาตรวจแต่เช้านะคะ”อินทิราเดินเข้าไปปลุกชายหนุ่มที่กำลังหลับไมยอมตื่นขึ้นมาอาบน้ำล้างหน้าล้างตาเสียทีทั้งที่เธอทำอาหารเช้ารอเอาไว้แล้วอีกอย่างอรุณาก็บอกกับเธอว่าหมอจะมาตรวจชายหนุ่มในช่วงเช้าด้วย“ขออีกนิดนะฉันกำลังหลับสบายเลย”อิทธิกรยังรู้สึกว่าไม่อยากตื่นเขาจึงพลิกตัวและเอาผ้าห่มคลุมหัวหนีหญิงสาวที่ส่งเสียงดังแสบแก้วหูเรียกเขาปาวๆอยู่“ไม่ได้ค่ะคุณอิทต้องลุกมาอาบน้ำแต่งตัวทานอาหารเช้าให้ตรงเวลานะคะ”อินทิราเองก็ไม่ยอมง่ายๆยังไงเธอก็ต้องปลุกเข้าให้ลุกขึ้นมาให้ได้“โอเคๆ...ถ้าฉันไม่ลุกก็คงจะต้องทนฟังเสียงแหลมๆของเธอสินะ”อิทธิกรจำต้องดีดตัวลุกขึ้นมาเพราะเริ่มรำคาญหญิงสาวและมีอารมณ์หงุดหงิดขึ้นมาบ้างแล้วเขาไม่รู้ว่าจะดีหรือไม่ดีที่หญิงสาวอยู่ที่นี่บางทีก็ทำตัวให้เขาหายเหงาบางทีก็ทำตัวน่ารำคาญ“ก็คุณอิทไม่ยอมลุกเองนี่คะ”อินทิราบ่นอู้อี้เล็กน้อยที่เช้านี้เธอโดนชายหนุ่มดุแต่เช้าอีกแล้วเธอก็เพียงแค่ทำหน้าที่ของเธอก็เท่านั้นหลังจากที่อิทธิกรทานอาหารเช้าเรียบร้อยแล้วอินทิราก็พาชายหนุ่มเข้าไปในห้องตามความต้องการของเขาไม่นานหมอก็มาตรวจพอดีหญิงสา
“ใช่ๆจริงๆด้วยค่ะ”อินทิราเห็นหญิงในรูปเล็กๆก็จำได้ทันทีว่าเป็นคนเดียวกับคนที่เข้ามาหาและมาคุยกับเธอ“นี่คุณยายฉันเองท่านเป็นเจ้าของไร่นี้...แต่ท่านเสียไปสี่ห้าปีแล้วนะ”อิทธิกรเริ่มอมยิ้มขึ้นมาเล็กน้อยแล้วที่รู้ว่าหญิงสาวเจอกับอะไร“คะ!!!...”จากคำบอกเล่าของชายหนุ่มทำให้หญิงสาวยืนตัวเกร็งชาวาบขนลุกซู่ไปทั้งตัว“ท่านคงจะเอ็นดูเธอ”อิทธิกรยังไม่หยุดที่จะพูดเล่นกับเธอ“เอ่อ..คุณอิทคะคืนนี้ออมขอนอนด้วยได้ไหมคะ...นะคะเดี๋ยวออมนอนข้างล่างก็ได้แต่ขอเปิดไฟที่โคมไฟไว้นะคะ”ด้วยความที่ตาขาวเรื่องนี้อย่างมากอินทิราจึงจำใจต้องมาขอนอนห้องเดียวกับชายหนุ่มเกิดมาไม่คิดไม่ฝันว่าจะมาเจอเรื่องที่ทำให้เอขนหัวลุกได้ขนาดนี้“ฮ่าๆๆ...นี่เธอก็ตาขาวเหมือนกันนะอยากนอนก็นอนอย่ามาลักหลับฉันก็แล้วกัน”ความรู้สึกของชายหนุ่มตอนนี้รู้ได้เลยว่าหญิงสาวคงกลัวหัวหดอีกทั้งยังไม่ยอมหยุดที่จะพูดแซวเธออีกด้วย“พูดอะไรของคุณอิท...ออมไม่ทำแบบนั้นหรอกค่ะ”อินทิราหน้ามุ่ยอีกรอบที่เวลานี้ชายหนุ่มก็ยังไม่หยุดที่จะแกล้งแซวเธออย่างน้อยการที่ได้นอนห้องเดียวกับชายหนุ่มก็ทำให้เธอได้อุ่นใจขึ้นมาหน่อยว่ามีคนอื่นอยู่ในห้องกับเธอด้วยเผื่