เขาใหญ่
ไร่แก้วกัลยา
08.00 น.
เพล้งง
“ออกไป”
เป็นอีกวันที่เสียงอาละวาดดังขึ้นมาในบ้านหลังเล็กท้ายไร่อิทธิกรไม่ค่อยจะยอมทานอะไรอีกเช่นเคยหลังจากที่เขาได้รับอุบัติเหตุจนเสียการมองเห็นและย้ายจากคฤหาสน์หลังใหญ่ที่กรุงเทพมาขลุกอยู่ที่ไร่ของคนเป็นแม่นี่ก็เป็นเวลาสามสี่เดือนแล้วที่คนรักของเขาหายหน้าหายตาไม่กลับมาดูดำดูดีเขาเลยสักนิด
“เป็นแบบนี้แทบทุกวันเลยหรือเปล่าเอื้อง”
อรุณาถามแม่บ้านที่เธอให้ดูแลอยู่ที่นี่ด้วยสีหน้าอ่อนใจเธอคิดว่าเวลาผ่านไปร่วมสามเดือนจะทำให้ลูกชายคนโตของเธออาการดีขึ้นบ้างเสียอีก
“ค่ะคุณณาเอื้องก็เห็นเป็นแบบนี้แทบทุกวันจนเด็กที่เรือนใหญ่ต่างก็หวาดคุณอิทกันหมดแล้วล่ะค่ะ”
ช่อเอื้องที่รู้จักอิทธิกรเป็นอย่างดีเพราะเห็นมาตั้งแต่เด็กๆเธอรู้ว่าชายหนุ่มค่อนข้างที่จะโมโหร้ายแต่ก็มีเหตุผลอยู่พอตัวแต่ครั้งนี้ดูท่าชายหนุ่มจะอาการหนักเอาการเพราะหลังจากป่วยมานี้ก็ไม่เคยฟังอะไรใครทั้งนั้นแถมคนอื่นที่คอยดูแลยังเข้าหน้าไม่ค่อยจะติดอีกด้วย
“เอมว่าป่วยกายคงไม่เท่าไรหรอกค่ะคุณแม่คงจะป่วยใจร่วมด้วยมากกว่า”
ไอรดามองหน้าคนเป็นแม่เธอพอจะรู้อาการของพี่ชายเธออยู่บ้างว่าไอ้ที่ทำตัวค่อนข้างงี่เง่าอยู่ทุกวันนี้ก็คงจะเป็นเพราะปัญหาหัวใจที่ร่วมกับอาการป่วยทางการของพี่ชายเธอนั่นเอง
“เฮ้ออ!!..”
อรุณาได้แต่ถอนหายใจเธอมองออกตั้งแต่แรกแล้วว่ากรกนกแฟนสาวของลูกชายเธอเข้ามาในชีวิตลูกชายของเธอเพื่อหวังอะไรครั้งเคยบอกเคยเตือนก็ไม่เคยจะฟังเธอก็ไม่รู้ว่ากรกนกทำอะไรให้ลูกชายเธอหลงนักหลงหนา
ตอนนี้เธอก็พอจะรู้ข่าวเรื่องกรกนกอยู่บ้างว่าทำไมไม่มาสนใจใยดีลูกชายของเธอเลยสักนิดทั้งที่เมื่อก่อนก็ทำท่ารักลูกชายเธอปานจะกลืนกินแถมยังสูบเลือดสูบเนื้อให้ลูกชายเธอซื้อของนั่นนี่ให้หมดไปหลายสิบล้าน
ก็เพราะว่าตอนนี้กรกนกนั้นกำลังคั่วอยู่กับชายหนุ่มรูปงามลูกชายนักธุรกิจชื่อดังเป็นทายาทหมื่นล้านที่พึ่งจะกลับมาจากเมืองนอกนี่เธอไม่อยากจะคิดว่าถ้าลูกชายของเธอได้รู้ข่าวนี้จะอาละวาดหนักขนาดไหนคิดแล้วก็ต้องถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่
“คุณแม่จะเข้าไปหาพี่อิทเลยไหมคะ”
“แม่ขอทำใจสักพักก่อนละกันนะ”
อรุณาเห็นว่าควรที่จะให้ลูกชายของเธออารมณ์เย็นกว่านี้อีกสักหน่อยจึงค่อยเข้าไปหาดีกว่าพร้อมนั่งรถกลับไปที่เรือนใหญ่ก่อนแล้วค่อยกลับมาใหม่
“เอมว่าบอกๆความจริงกับพี่อิทไปเลยจะดีกว่าค่ะจะได้ไม่ต้องมานั่งรอผู้หญิงแบบนั้นจะมาสนใจ”
“เอาแบบนั้นเลยเหรอยัยเอม...แม่กลัวว่าพี่เค้าจะอาละวาดหนักกว่านี้ล่ะสิ”
“อาละวาดก็ปล่อยให้อาละวาดไปสิคะความจริงก็คือความจริงให้มันรู้กันไปว่าผู้หญิงคนเดียวจะมาทำให้พี่อิทไม่เป็นผู้เป็นคนได้นานขนาดไหน”
เมื่อกลับมาถึงเรือนใหญ่ไอรดาก็ปรึกษากับคนเป็นแม่ด้วยเหตุผลว่าควรที่จะบอกความจริงกับพี่ชายของเธอไปเสียตอนนี้จะดีกว่าหากจะเสียใจหนักก็ต้องปล่อยให้มันเป็นไปเธอคิดว่าพี่ชายเธอก็โตจนป่านนี้แล้วหากจะเสียใจเรื่องผู้หญิงจนเสียผู้เสียคนก็ให้มันรู้กันไป
“เอมจำได้ว่าพี่อิทมีคู่หมั้นอยู่นี่คะ...เอมคิดว่าถ้าหากมีผู้หญิงมาดูแลพี่อิทอีกคนอาจจะทำให้พี่อิทลืมพี่กิ่งเร็วขึ้นก็ได้”
ในหัวของไอรดาคิดว่าหากพี่ชายของเธอจะเสียใจเรื่องกรกนกก็ต้องปล่อยให้เสียใจไปแต่เธอคิดว่าหากมีผู้หญิงคนใหม่เข้ามาในชีวิตของพี่ชายเธอในเวลานี้ก็คงจะทำให้พี่ชายของเธอลืมกรกนกได้ในเวลาอันรวดเร็วเพราะในหัวของเธอเชื่อเสมอว่าผู้ชายเมื่อใกล้ชิดใครก็จะหลงไปกับคนนั้นได้ง่าย
เธอไม่รู้หรอกว่าผู้หญิงที่เป็นคู่หมั้นของพี่ชายเธอจะนิสัยดีหรือไม่ดีอะไรยังไงเพียงแค่ตอนนี้ช่วยเข้ามาในชีวิตของพี่ชายเธอก่อนก็พออีกอย่างเธอก็นึกหมั่นไส้กรกนกและอยากจะทำให้กรกนกได้รู้ว่าพี่ชายเธอนั้นก็มีตัวเลือกเหมือนกัน
“นั่นสินะแม่ก็ลืมนึกถึงเรื่องนี้ไปเสียตั้งแต่ที่พ่อเราเสียไปเลย”
อรุณาเกือบลืมไปเสียสนิทเธอจำได้ว่าก่อนที่สามีของเธอเสียนั้นได้บอกกับเธอไว้ว่าเขาได้หมั้นหมายลูกชายของเขากับลูกสาวของเพื่อนเอาไว้
เมื่อหลายปีก่อนธีระพ่อของอิทธิกรรู้จักสนิทสนมกับไตรภพเป็นพิเศษเพราะเคยคุยเรื่องธุรกิจกันถูกคอแต่เมื่อกิจการของไตรภพมีปัญหาธีระเลยยื่นมือเข้าไปช่วยโดยใช้เม็ดเงินหลักสิบล้านอยู่ธีระไม่ได้คิดอยากจะได้เงินคืนจากไตรภพเพราะช่วยก็คือช่วยไม่หวังผลตอบแทนอะไรทั้งนั้น
จนไตรภพเกรงใจและยอมแลกหนึ่งข้อแลกเปลี่ยนที่ธีระขอธีระเห็นว่าอนาคตก็อยากให้ครอบครัวของเขาและไตรภพเป็นทองแผ่นเดียวกันเลยขอหมั้นหมายให้ลูกของพวกเขาทั้งสองเอาไว้ก่อนเมื่อลูกๆโตขึ้นพร้อมที่จะมีครอบครัวค่อยแต่งงานกัน
เรื่องนี้อรุณาเองก็พึ่งจะมารู้ตอนก่อนที่สามีของเธอจะมาเสียสองสามปีให้หลังมานี่เองหลังจากที่สามีเธอเสียเธอก็ไม่เคยคิดที่จะบังคับจิตใจอะไรลูกชายของเธอเพราะสมัยนี้มันหมดยุคคลุมถุงชนกันแล้วแต่ตอนนี้เธอเองก็ขอเปลี่ยนความคิดใหม่เสียแล้ว
“คุณแม่ลองติดต่อทางครอบครัวคุณลุงไตรภพดูสิคะ”
“แม่ก็ไม่ได้ติดต่อพวกเค้านานแล้วเหมือนกัน...แม่ก็ไม่แน่ใจว่าทางนั้นจะยังอยากให้ลูกสาวของเขามาแต่งงานกับพี่เราหรือเปล่าน่ะสิ”
อรุณาเองก็ไม่ได้ติดต่อกับครอบครัวนั้นมานานมากแล้วตั้งเธอจำได้ว่าที่เจอครอบครัวนั้นล่าสุดเธอก็ไม่ได้เจอลูกสาวของไตรภพเพราะเห็นว่าไปเรียนเมืองนอกเมืองนาแล้วอีกอย่างคนที่ตกลงสัญญากันเอาไว้ก็ต่างก็ไม่มีชีวิตอยู่ทั้งคู่แล้วอีกด้วยแบบนี้เธอก็ไม่แน่ใจเหมือนกันว่าทางอรดีภรรยาของไตรภพจะยอมให้ลูกสาวเธอมาแต่งงานกับลูกชายของเธอหรือเปล่าอีกอย่างตอนนี้ลูกชายเธอก็ไม่ได้ปกติเหมือนคนทั่วไปด้วย
“เรื่องแค่นี้ไม่ยากหรอกค่ะเอมพอจะมีวิธีเอมพอจะรู้ว่าบ้านนั้นเค้าถังแตกมาตั้งแต่คุณลุงเสียแล้วล่ะค่ะ”
ไอรดาพอจะรู้สถานะของทางบ้านนั้นอยู่บ้างถึงเธอเองจะไม่เคยเจอกับทางภรรยาและลูกสาวของไตรภพก็เถอะเธอเชื่อว่าอำนาจเงินมันคงทำเรื่องยากให้เป็นเรื่องง่ายได้เธอไม่ใช่คนที่ชอบใช้เงินแก้ปัญหาแต่เธอเห็นว่าปัญหานี้เงินเท่านั้นที่จะเอาอยู่
เย็นของวันเรือนเล็กท้ายไร่ถึงตาอิทธิกรยังมองไม่เห็นแต่เขาก็สามารถที่จะหาน้ำเมามาเพื่อดับความทุกข์ในใจของเขาได้ตอนนี้ในใจของเขามันร้อนลุ่มดั่งไฟสุมเขาเกลียดอุบัติเหตุวันนั้นที่ทำให้เขาต้องกลายเป็นคนตาบอดแบบนี้หนำซ้ำหญิงคนรักยังไม่คิดจะเป็นห่วงมาดูดำดูดีเขาอีกแกร๊กกก“กิ่ง!!”อิทธิพลได้ยินเสียงคนเดินเข้ามาก็ดีใจขึ้นมาแวบหนึ่งเพราะคิดว่าเป็นหญิงคนรักที่เขาคอยเฝ้ารอมาหาเขาแล้ว“เอมกับคุณแม่เองค่ะพี่อิท”ไอรดาถึงกับส่ายหัวให้กับพี่ชายของเธอที่ไม่รู้จะละเมอเพ้อพกอะไรถึงผู้หญิงคนนั้นนักหนาตอนนี้เธอคันปากอยากจะบอกความจริงแย่แล้วว่าวีรกรรมของกรกนกมันมีอะไรบ้าง“นี่ดื่มหนักขนาดนี้ไม่คิดจะเป็นห่วงสุขภาพของตัวเองบ้างหรือไงตาอิท”อรุณาไม่อยากเห็นลูกชายเธอเป็นแบบนี้นานๆเลยใบหน้าที่เคยดูหล่อเหลากลับดูเหี่ยวเฉาอิดโรยผอมขอบตาดำคล้ำผมเผ้าหนวดเคราเฟิ้มดูไม่เป็นผู้เป็นคนแถมยังดื่มแต่ของมึนเมาอีกต่างหาก“กิ่งเธอติดต่อมาบ้างหรือเปล่าครับคุณแม่”อิทธิกรอยากจะรู้ว่าคนรักของเขานั้นได้ติดต่อกับครอบครัวของเขาบ้างหรือเปล่าตอนนี้เขาหวังว่าจะได้คำตอบที่ทำให้เขาได้ใจชื้นขึ้นมาบ้างจากปากของคนที่เป็นแม่ของเขา“เอ่
“ถ้าพี่เป็นออมอย่าหวังว่าพี่จะทน”ภัคดนัยถึงกับนั่งลงที่เก้าอี้ด้วยความเซ็งพร้อมนึกถึงชีวิตของอินทิราแล้วเขาก็เหนื่อยใจแทนบ้านปัทมกร“มัวไปถเลถไหลที่ไหนจนต้องให้ฉันโทรตามล่ะ”อรดียืนรออินทิราอยู่ที่หน้าบ้านเพราะในใจรู้ดีว่าวันนี้เป็นวันที่หญิงสาวเงินเดือนออกเมื่อหญิงสาวเข้ามาในบ้านได้เธอก็ส่งเสียงพูดจาจีบปากจีบคออย่างไม่พอใจและมีสีหน้าโมโหเล็กน้อย“พอดีออมไปงานวันเกิดพี่ภาคย์มาน่ะค่ะ...นี่เงินเดือนออมค่ะคุณแม่”อินทิรารีบเข้ามาบอกคนเป็นแม่ใหญ่ของเธออย่างรวดเร็วว่าที่เธอกลับช้าเธอไปที่ไหนมาพร้อมทั้งควักเงินเดือนที่เกือบทั้งหมดที่เป็นเงินเดือนของเธอยื่นให้หญิงตรงหน้าอย่างเต็มใจเงินที่เหลือของเธอก็เก็บไว้แค่พอมีกินและค่ารถไปทำงานก็เท่านั้น“อืม..รู้หน้าที่แบบนี้ก็ดีนี่ลาออกแล้วใช่ไหมวันมะรืนนี้ทางนั้นเค้าจะมารับแกไปแล้วนะเตรียมตัวให้พร้อมล่ะ”อรดีรีบรับเงินจากอินทิราด้วยสีหน้าพอใจพร้อมเดินกลับเข้าไปในบ้านทันทีแต่ก็ยังมิวายย้ำสิ่งที่หญิงสาวจะต้องทำในอีกไม่กี่วันนี้“ค่ะคุณแม่”ทุกๆเดือนเวลาเงินเดือนออกอินทิราก็จะนำเงินที่หักจากค่ากินค่ารถของเธอทั้งหมดให้กับอรดีเพราะรู้ว่าสถานะทางบ้านของเ
“อันว่าจะไปทัวร์ยุโรปกับธันเค้าซะหน่อยน่ะค่ะไหนๆเราก็ได้เงินจากคนบ้านนั้นมาแล้วนี่คะ”“นี่ไม่คิดจะอยู่บ้านอยู่ช่องบ้างเลยหรือไง”“ก็บ้านมันน่าเบื่อนี่คะอันไปแล้วนะคะคุณแม่”ตั้งแต่อันธิกาเรียนจบก็เอาแต่ผลาญเงินที่บ้านท่าเดียวงานก็ไม่เคยช่วยคนเป็นแม่แต่อรดีก็ไม่ได้ว่าอะไรลูกสาวเธอเพราะเธอเลี้ยงตามใจมาตั้งแต่เด็กๆครั้งนี้เมื่ออันธิการู้ว่าได้เงินก้อนใหญ่มาก็หาเรื่องเที่ยวกับแฟนหนุ่มอีกเช่นเคยไร่แก้วกัลยา“เอ่อ...คุณวิทคะอย่าหาว่าอย่างงั้นอย่างงี้เลยนะคะคือออมอยากจะรู้น่ะค่ะว่าเจ้านายของคุณวิทเค้านิสัยเป็นยังไง”“อืมม...คุณอิทก็เป็นคนค่อนข้างตรงไปตรงมานะครับแต่ก็จะแอบขี้หงุดหงิดบ้างเล็กน้อยแต่คุณออมไม่ต้องกลัวไปก่อนนะครับคุณอิทก็ไม่ใช่คนที่โหดร้ายอะไร”“อืมม...ค่ะ”ในระหว่างที่รถตู้คันหรูแล่นเข้ามาในไร่ผ่านป้ายไร่แก้วกัลยาเข้ามาตอนนี้ใจของอินทิราเต้นแรงผิดปกติเพรารู้สึกตื่นเต้นที่ใกล้จะถึงที่หมายแล้วด้วยความที่อยากรู้นิสัยของคนที่เธอจะมาแต่งงานด้วยและดูแลเขาในช่วงที่ชายหนุ่มนั้นยังมองไม่เห็นเธอเองก็อยากจะรู้นิสัยของชายหนุ่มคร่าวๆก่อนเพื่อที่จะรับมือถูกเธอรู้มาว่าวิทวัสเป็นคนสนิทของอิทธ
“อย่าพึ่งชะล่าใจไปออมรอเจอของจริงก่อน”ไอรดาหันมายิ้มเจ้าเล่ห์ให้กับอินทิราเพราะเห็นแม่สาวเจ้ามั่นใจนักหนาว่าจะรับมือได้เธอเองไม่อยากจะคิดว่าถ้าหากหญิงสาวได้รู้ฤทธิ์พี่ชายของเธอจะยังพูดคำนี้อยู่หรือเปล่า“ยัยเอม”อรุณาจำต้องส่งเสียงต่ำดุคนเป็นลูกสาวที่กำลังจะทำให้ไก่ตื่นแกร๊ก“หืมมมม”อรุณาเดินเข้ามาเปิดประตูห้องลูกชายของเธอกลิ่นแอลกอฮอลล์ที่คละคลุ้งอยู่ในห้องทำเอาอินทิราต้องยกมือขึ้นมาป้องจมูกเอาไว้หญิงสาวมองเข้าไปด้านในห้องมีผู้ชายค่อนข้างจะตัวสูงใหญ่มัดกล้ามที่แทบจะโตกว่าตัวเธอหากเหวี่ยงมาฟาดที่ตัวเธอก็คงจะหักเป็นสองท่อนแล้วผมเผ้าหนวดเครารุงรังดูไม่เป็นผู้เป็นคนแถมในมือยังถือแต่ขวดน้ำเมาอีกต่างหากนี่หรือคือคนที่เธอต้องดูแลงานนี้ท่าทางจะหนักสำหรับเธอเสียแล้วหญิงสาวคิดในใจ“ตาอิททำไมดื่มแต่ของแบบนี้กันแล้วข้าวนี่ก็ยังไม่ได้แตะเลยแม้แต่นิดทำไมยังเป็นแบบนี้อยู่อีกนะ”อรุณานึกว่าลูกชายของเธอจะอาการดีขึ้นเสียอีกที่ไหนได้เหมือนจะหนักขึ้นทุกวันๆจนเธอเริ่มใจเสียว่าลูกชายคนเดิมของเธอจะกลับมาปกติเมื่อไร“สงสัยอยากจะตายก่อนวัยอันควร”ไอรดาเองก็ไม่ชอบที่จะเห็นพี่ชายของเธอเป็นเช่นนี้เหมือนกันแ
ฉ่าาาาาาาา“ฮัดชิ่ววว”หญิงสาวหยิบหมูกับกระเพราและพริกสดออกจากตู้มาหั่นล้างทำความสะอาดแล้วแกะกระเทียมที่ห้อยอยู่ด้านนอกมาปอกเปลือกและสับอย่างชำนาญตอนนี้ของทุกอย่างก็ได้ลงกระทะไปพร้อมกันแล้วหญิงสาวหยิบเครื่องปรุงรสใส่ตามใจที่เธอชอบตอนนี้อาหารในกระทะส่งกลิ่นฉุนเล็กน้อยจนทำให้หญิงสาวจามไม่นานกระเพราหมูสุดน่าทานจานนี้ก็เสร็จสิ้นแกร๊ก“ทานข้าวเย็นค่ะคุณอิท”อินทิราเดินเปิดประตูห้องของชายหนุ่มเข้ามาเธอเห็นว่าเขาก็ยังนั่งอยู่ที่เดิมพร้อมเอาถาดอาหารไปวางตรงหน้าคิดว่าถ้าหากชายหนุ่มได้กลิ่นอาหารที่หอมขนาดนี้คงจะอยากทานข้าวขึ้นมาบ้าง“นี่เธอยังไม่กลับไปอีกเหรอ”อิทธิกรคิดว่าหญิงสาวที่เขาตวาดใส่เมื่อครู่จะกลับไปแล้วเสียอีก“ไม่ค่ะออมจะต้องอยู่ดูแลคุณ”อินทิรายังยืนยันคำพูดเดิมของเธอว่าเธอจะต้องอยู่ที่นี่เพื่อดูแลชายหนุ่มและเธอก็จะไม่ถอดใจกลับไปง่ายๆแน่เพราเธอก็ไม่รู้จะไปอยู่ที่ไหน“เธอนี่ท่าทางจะตื๊อไม่เลิกนะ...กลัวแม่ฉันจะเอาเงินคืนหรือไง”อิทธิกรสบถออกมาอย่างหัวเสียเขาคิดว่าที่หญิงสาวไม่ยอมถอดใจง่ายๆคงจะเป็นเพราเงินที่สูงหลายสิบล้านที่แม่ของเขาจ่ายเพื่อให้ได้ตัวของเธอมา“เงิน...เงินอะไรคะ”อิน
“ออมเองค่ะ...คุณอิทนอนไปเลยค่ะเดี๋ยวออมขอเก็บห้องให้คุณอิทก่อน...อ้อแล้วเมื่อวานคุณอิทก็ไม่ได้ทานข้าวนี่คะวันนี้ยังไงคุณอิทก็ต้องทานนะคะ”อินทิราตั้งหน้าตั้งตารวบรวมขวดน้ำเมาของชายหนุ่มไปทิ้งให้หมดนี่ก็ใกล้จะเสร็จแล้วแต่เขาดันตื่นขึ้นมาก่อนเธอว่าเธอพยายามเบามือที่สุดแล้วนะ“เธอนี่มัน!!...แล้วต้องเก็บอะไรนักหนา”เขาไม่เข้าใจว่าหญิงสาวยังจะบอกให้เขาหลับลงได้อย่างไรทั้งที่เธอมาก่อกวนส่งเสียงรบกวนเขาอยู่แบบนี้“ก็พวกขวดเครื่องดื่มพวกนี้ไงคะออมเอาไปทิ้งเกือบจะหมดแล้วนะคะต่อไปนี้ออมจะไม่ให้คุณอิทดื่มของพวกนี้แล้วค่ะเมื่อเช้าออมให้แม่บ้านเอาน้ำผลไม้มาไว้ในบ้านแทนถ้าคุณอิทอยากดื่มน้ำผลไม้อะไรก็บอกออมนะคะเดี๋ยวออมจะไปเอามาให้ค่ะ”อินทิราตั้งเริ่มปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการกินการอยู่ของชายหนุ่มใหม่เสียตั้งแต่วันนี้โดยเริ่มจากสิ่งแรกเธอต้องเก็บขวดน้ำเมาพวกนี้ไปทิ้งให้หมดเสียก่อนแล้วเปลี่ยนเป็นเครื่องดื่มที่มีประโยชน์ให้ชายหนุ่มแทน“เธอกล้ามากนักนะยัยจุ้นจ้าน”เคร้ง...เพล้ง...ๆๆอิทธกรได้ยินสิ่งที่หญิงสาวพูดก็ลุกพรวดขึ้นมาอาละวาดด้วยความโมโหขว้างปาสิ่งของที่มือสัมผัสได้ในตอนนี้อย่างหงุดหงิด“ว้ายยยย..
ของเหลวที่เปื้อนมือของเขาสัมผัสแรกเขาก็รู้ทันทีว่ามันไม่ใช่น้ำเปล่าเป็นแน่บวกกับกลิ่นคาวก็ทำให้เขารู้ว่าหญิงสาวมีเลือดออกเขาไม่ได้ตั้งใจที่จะทำให้เธอเจ็บตัวแบบนี้“ออมไม่เป็นอะไรค่ะขอตัวไปทำแผลก่อนนะคะ”อินทิราน้ำตาคลอเบ้าเพราเจ็บที่หางคิ้วอีกอย่างเธอก็ไม่ชอบเห็นเลือดสักเท่าไรเลยรีบเดินออกจากห้องของชายหนุ่มอย่างรวดเร็วและเข้าไปทำแผลที่ห้องของตัวเองอิทธิกรค่อยๆเดินไปที่ห้องของหญิงสาวเมื่อคลำมาที่ประตูห้องของเธอปรากฏว่าเธอไม่ได้ปิดประตูจึงค่อยๆเดินเข้าไปถามอาการของหญิงสาวตอนนี้เขารู้สึกผิดเล็กน้อยเพราะทำให้เธอถึงกับเลือดตกยางออกถึงเขาจะขี้โมโหและรำคาญเธออยู่บ้างแต่ก็ไม่ได้คิดจะทำให้หญิงสาวบาดเจ็บ“คุณอิท”อินทิราที่กำลังนั่งทำแผลอยู่ที่เตียงของเธอพร้อมกระจกบานเล็กหนึ่งบานเมื่อเห็นว่ามีร่างสูงเดินเข้ามาจึงเงยหน้าขึ้นมาดูพร้อมลุกขึ้นไปพาชายหนุ่มที่ค่อยๆเดินคลำทางเข้ามามานั่งบนเตียงของเธอ“แผลลึกหรือเปล่าต้องไปหาหมอไหม”อิทธิกรสอบถามอาหารของหญิงสาวด้วยความรู้สึกผิดและเป็นห่วงว่าบาดแผลของหญิงสาวจะต้องไปให้หมอดูหรือไม่“ไม่ค่ะแผลนิดเดียวเอง”อินทิรายิ้มออกจากเมื่อครู่ที่รู้สึกเคืองชายหนุ่มอ
20 นาทีต่อมา“ข้าวต้มร้อนๆได้แล้วค่ะ”อินทิราวางถ้วยข้าวตมตรงหน้าชายหนุ่มพร้อมจะเดินออกไปจากห้องให้เขาได้นั่งทานเงียบๆคนเดียวเธอไม่อยากจะอยู่กวนเผื่อชายหนุ่มจะทานไม่ลงหากเธอนั้นอยู่ใกล้ๆ“ป้อนฉันสิ”“คะ...คุณอิททานเองไม่ได้เหรอคะ”อินทิราจำต้องชะงักฝีเท้าหันมาหาชายหนุ่มด้วยสีหน้าแปลกใจเธอจำได้ว่าชายหนุ่มก็สามารถที่จะทำอะไรเองได้โดยที่ไม่ต้องมีเธอช่วยนี่นา“ก็ฉันสั่งให้เธอป้อนเธอก็ต้องป้อนอยากจะดูแลฉันไม่ใช่รึไง”อิทธิกรเริ่มมีน้ำเสียงที่แข็งขึ้นที่หญิงสาวชอบที่จะขัดใจเขาอยู่เรื่อยไป“เอ่อ..ค่ะ”อินทิราเห็นว่าชายหนุ่มเริ่มมีท่าทีที่จะโมโหอีกแล้วเธอจึงรีบนั่งลงตรงใกล้ๆกับชายหนุ่มเพื่อที่จะป้อนข้าวเขาได้อย่างถนัด“โอ้ย..ร้อนๆเธอคิดจะฆ่าฉันทางอ้อมรึไง..”เมื่อข้าวต้มคำแรกเข้าปากอิทธิกรถึงกับต้องเป่าปากใช้มือพัดพันวันเพรามันค่อนข้างร้อนอย่างมากจนตอนนี้เขารู้สึกได้ว่าปลายลิ้นนั้นชาไปหมดแล้ว“โทษทีค่ะลืมเป่า..”อินทิราถึงกับหน้าเหวอเพราะเธอรีบจนลืมเป่าให้ข้าวต้มหายร้อนก่อนที่จะเอาเข้าปากชายหนุ่มนั่นเองจึงรีบให้ชายหนุ่มดื่มน้ำก่อนภาพตรงหน้าก็ทำให้เธออดขำในท่าทีของเขาไม่ได้เหมือนกันเธอไม่ได้ตั