“ช่วยผมด้วยครับคู่หมั้นผมเค้าทิ้งผมไปแล้วเพราะผมมองไม่เห็นเสียทีผมไม่รู้ว่าจะกลับจากที่นี่ยังไงช่วยผมด้วยนะครับ”
อิทธิกรเหล่มองหญิงสาวที่ยังยืนหันหลังนิ่งงันอยู่เล็กน้อยเมื่อเห็นว่าเธอไม่เข้ามาช่วยเขาเสียทีจึงส่งเสียงพูดต่อยังไงเขาก็คิดว่าหญิงสาวคงจะไม่ใจดำเดินหนีเขาไปเสียหรอก
“...อืมม..อึก...พี่อิท..ทำไมพวกเค้าใจร้ายกับพี่แบบนี้ล่ะคะ”
อินทิราสะอื้นตัวสั่นเมื่อได้ยินเสียงของชายหนุ่มร้องเรียกให้ช่วยอีกคราพร้อมรีบวิ่งไปพยุงตัวชายหนุ่มขึ้นและกอดเขาเอาไว้อย่างแนบแน่นพร้อมสะอื้นตัวโยน
“........”
อิทธิกรกอดตอบหญิงสาวที่โผเข้ามากอดเขาไว้อย่างแนบแน่นเช่นกันแต่เขารู้ว่าตอนนี้หญิงสาวคงยังไม่รู้ตัวเป็นแน่ว่ามีเขากอดเธอเอาไว้อยู่เพราะมัวแต่สะอื้นร่ำให้อยู่แบบนั้นแปลกที่ครั้งนี้เขาได้เห็นน้ำตาของหญิงสาวกลับยิ้มออกเพราะรู้ว่าเธอนั้นห่วงเขาอย่างใจจริง
“รู้ว่าพวกนั้นใจร้ายแล้วทำไมปล่อยให้คนแบบนั้นมาอยู่กับพี่ได้ล่ะ”
เมื่อปล่อยให้หญิงสาวได้กอดเขาสักพักเมื่อเธอเริ่มนิ่งลงเขาจึงเอ่ยปากพูดกับร่างบางถึงเรื่องที่เธอหนีเขาไป
“......เอ่อ......”
อินทิราผละจากการกอดชายหนุ่มแล้วหันมามองหน้าคนตรงหน้าอย่างสงสัย
“ห่วงพี่ขนาดนี้หนีพี่ไปทำไม”
อิทธิกรอมยิ้มพร้อมก้มไปมองหน้าหญิงสาวตาแป๋วพร้อมส่งคำถามให้เธออีกครา
“นี่พี่อิทมองเห็น..”
อินทิราเห็นสายตาของเขากับคำพูดก็พอจะรู้ว่าเธอโดนเขาหลอกจึงรีบลุกพลางจะหนีชายหนุ่มออกไป
“เดี๋ยว...ออมอย่าหนีพี่ไปอีกเลยนะ”
มีหรือที่อิทธิกรจะปล่อยให้หญิงสาวหนีเขาไปอีกเขารีบรวบเธอมากอดเอาไว้ไม่ปล่อยให้หลุดไปได้เด็ดขาด
“ออมไม่ใช่คู่หมั้นของพี่..พี่อันต่างหาก”
หญิงสาวพูดไปสะอื้นไปคำนี้มันทำให้เธอเจ็บหัวใจเหลือเกิน
“พี่รู้แล้วก็รู้มาตั้งนานแล้วด้วยพี่รู้ว่าเรื่องที่ออมมาอยู่กับพี่เพราะโดนบังคับ...แต่ตอนนี้เรารักกันแล้วพี่ก็รักออมมากด้วยเรากลับมาอยู่ด้วยกันเถอะนะพี่สาวออมเธอไม่ได้รักพี่แม้แต่นิดเดียวเธอรักเงินของพี่มากกว่าแล้วเธอก็ไปจากพี่แล้วด้วย”
อิทธิกรรู้เรื่องราวทุกอย่างเขาไม่ได้โกรธเธอเพราเขารู้ว่าหญิงสาวไม่ได้ประสงค์ร้ายต่อเขาแม้แต่น้อยและตอนนี้เขาก็จะไม่ยอมให้คนบ้านนั้นมาแทรกระหว่างเขากับเธอได้อีก
“อึก...ฮือๆๆ..พี่อิทออมคิดถึงพี่อิทมากๆเลยค่ะ..ฮือๆๆๆ”
อินทิราหันไปสวมกอดชายหนุ่มอีกครั้งพร้อมปล่อยน้ำตาออกมาอีกรอบด้วยความคิดถึงชายหนุ่มอย่างปิดไม่ได้
“พี่ก็คิดถึงออมมากๆเหมือนกัน..กลับไปกับพี่นะคนดี”
“ค่ะ”
อิทธิกรยิ้มกว้างพร้อมกอดลูบหลังปลอบคนที่สะอื้นตัวโยนอย่างสุขหัวใจที่รู้ว่าตอนนี้เขาได้คนรักของเขากลับมาแล้ว
“เย่!!!...”
หลังจากที่ทั้งสองเข้าใจกันดีแล้วกองเชียร์ที่นั่งซุ่มดูอยู่ไม่ห่างก็ส่งเสียงดีใจกันยกใหญ่
“ทุกคน”
อินทิราได้ยินเสียงบางเสียงที่เธอค้นเคยจึงรีบหันไปดูปรากฏว้าตอนนี้ทุกคนยืนยิ้มพร้อมหน้าพร้อมตากันทำเอาเธอค่อนข้างงงว่าอาเทอร์ไปรู้จักกับพวกเพื่อนๆเธอได้ยังไง
“ใช่ทุกคนช่วยกันทำให้เรากลับมาอยู่ด้วยกันเหมือนเดิมไง”
อิทธิกรหันมายิ้มให้หญิงสาวพร้อมบอกกับเธอว่าทุกคนนั้นช่วยกันทำให้เธอกับเขาได้พบกันและก็เข้าใจกันอย่างตอนนี้
โต๊ะอาหาร
“ไม่น่าเชื่อเลยนะคะว่าโลกจะกลมขนาดนี้”
อินทิราได้รู้ว่าอาเทอร์กับพวกเพื่อนของเธอรู้จักกันได้ยังไงก็รู้สึกว่าโลกนี้มันช่างกลมเหลือเกินไหนจะทำให้เธอได้มารู้จักกับอาเทอร์อีก
“ใช่ครับ”
อาเทอร์เองตอนที่รู้เรื่องก็ยังแปลกใจอยู่ไม่หาย
“แหมคุณอาเทอร์กับน้องแอลหลอกพี่ซะเชื่อสนิทเลยนะคะ”
อินทิราอดเอ่ยปากแซวอาเทอร์กับเอลิซ่าสองพี่น้องคู่นี้ไม่ได้ที่ร่วมแผนการกับเพื่อนสาวเธอซะอย่างดิบดี
“โกหกให้คนรักกันไม่บาปค่ะ”
เอลิซ่าทำสีหน้าทะเล้นเธอแค่อยากให้คนสองคนที่ควรจะอยู่ด้วยกันได้กลับมาอยู่ด้วยกันเท่านั้นเอง
“ฮ่าๆๆ”
ทุกคนต่างขำกับสีหน้าและท่าทางของเอลิซ่าที่หาทางเอาตัวรอดจากการคาดโทษของอินทิราได้อย่างไหลลื่น
“อืมม..อึก”
อิทธิกรเมื่อนั่งที่โต๊ะอาหารนานๆแล้วเขาก็เริ่มที่จะเวียนหัวกับกลิ่นอาหารเสียแล้วไม่รู้เหมือนกันว่าไอ้อาการแบบนี้เมื่อไรมันจะหายไปเขาเองก็ให้หมอตรวจแล้วแต่ก็ยังหาสาเหตุไม่เจอเหมือนกัน
“พี่อิทยังไม่หายอาการนี้อีกเหรอคะ”
อินทิราเห็นอาการของชายหนุ่มเธอก็คิ้วขมวดทันทีคิดว่าเขาจะหายจากอาการนี้แล้วเสียอีก
“อืม..พี่ก็ให้หมอตรวจแล้วนะแต่หมอก็บอกว่าไม่มีอะไร”
อิทธิกรหันไปตอบหญิงสาวด้วยสีหน้าที่แอบเซ็งเล็กน้อย
“คงจะเป็นเพราะ...เรื่องนั้นแหละมั้งแกก็บอกคุณอิทเค้าสักทีสิ”
พีรยาพอจะเข้าใจว่าอาการที่ชายหนุ่มเป็นเกิดจากอะไรคงจะแพ้ท้องแทนเพื่อนเธอล่ะสิจึงพยายามให้เพื่อนสาวของเธอบอกเรื่องลูกในท้องเสียที
“เอ่อ...อาการที่พี่อิทเป็นน่าจะแพ้ท้องแทนออมน่ะค่ะ”
ถึงตอนนี้แล้วอินทิราเองก็ไม่ได้มีความจำเป็นต้องปิดเรื่องนี้กับพ่อของลูกในท้องเธอแล้วหละ
“ฮะ...จ..จริงเหรอออมแล้วรู้ตั้งแต่เมื่อไรทำไมไม่บอกพี่...นี่แสดงว่าออมตั้งใจจะพาลูกหนีไปจากพี่ด้วยใช่ไหม”
อิทธิกรถึงกับใจเต้นไม่เป็นจังหวะเมื่อรู้ว่าตัวเองจะได้เป็นพ่อคนแต่ความดีใจมันก็ร่วมมาด้วยกับความหดหู่ใจนี่ถ้าเขาไม่ฉลาดพอที่จะรู้ว่าคนที่อยู่กับเขาในวันที่มองเห็นไม่ใช่อินทิราตัวจริงเขาก็คงจะไม่รู้ตลอดไปสินะว่าเขาเป็นพ่อคน
“อะ..เอ่อ...”
อินทิราถึงกับหน้าซีดเพราะเรื่องนี้เธอก็ผิดเต็มๆที่คิดพรากพ่อพรากลูกทั้งที่ชายหนุ่มยังไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเขามีลูกอยู่ในท้องเธอ
“ทำไมใจร้ายกับพี่แบบนี้ล่ะออม”อิทธิกรเริ่มคิ้วขมวดจ้องอินทิราตาเขม็ง“.....”ตอนนี้ทุกคนต่างมองหน้ากันล่อกแล่กที่ดูว่าเรื่องนี้จะทำให้อิทธิกรมีสีหน้าที่บึ้งตึงเปลี่ยนไปอย่างเห็นได้ชัด“ไม่ต้องกลัวพี่จะโกรธหรอกพี่ไม่โกรธตอนนี้พี่ดีใจที่สุดเลยยย”อิทธิกรคลายสีหน้าที่เคร่งเครียดออกแล้วฉีกยิ้มออกมารวบกอดหญิงสาวอย่างแนบแน่นอีกครั้งคราแรกเขานั้นยอมรับว่ามีอารมณ์ขุ่นเคืองอยู่บ้างแต่ก็พยายามสลัดมันออกไปให้ได้เพราะตอนนี้เขาเจอเธอแล้วอยากจะใช้ทุกเวลาทุกนาทีที่อยู่กับหญิงสาวให้มีความสุขที่สุด“เฮ้อ..ตกอกตกใจหมด”พีรยาถึงกับถอนหายใจทุกคนก็เช่นกันนึกว่าจะมีเหตุพ่อแง่แม่งอนกันเสียอีกแล้ว“คุณอาเทอร์ครับผมคงจะไม่ให้ออมไปทำงานกับคุณแล้วนะครับ”อิทธิกรคงไม่ให้หญิงสาวต้องทำงานให้ลำบากอีกต่อไปแล้วอีกอย่างเธอก็ท้องอ่อนๆอยู่ด้วยต่อไปนี้เขาจะดูแลเธอเอง“ผมเข้าใจครับ”อาเทอร์รู้แล้วว่ามันจะต้องเป็นแบบนี้ยังไงเขาก็ยินดีอยู่แล้วที่เห็นอินทิรามีความสุข“แอลก็ทำใจไว้บ้างแล้วค่ะยังไงเดี๋ยวแอลจะให้พี่อาทพาแอลไปหาพี่ออมบ่อยๆนะคะ”เอลิซ่าทำใจไว้แล้วถึงเธอจะเจอกับอินทิราได้ไม่นานแต่ด้วยความที่หญิงสาวเป็นคนอบอุ่นจึง
“ทุกคน”อินทิราถึงกับน้ำตาคลอที่ทุกคนเซอร์ไพรซ์เธอแบบนี้เธอรู้ว่าอิทธิกรคงจะรู้เห็นด้วยไม่อย่างนั้นคงจะไม่รีบกลับและทำท่าทีแปลกๆจนเธอต้องสงสัย“นี่ครับแหวน”อิทธิกรเห็นทุกคนเปิดตัวออกมากันหมดแล้วเขาก็เดินถือกล่องแหวนเพชรที่แม่ของเขาให้เอาไว้เพื่อให้คนที่เขารักมาคุกเข่าต่อหน้าหญิงสาว“พี่อิท”อินทิราถึงกับนั่งตัวเกร็งที่ชายหนุ่มทำอะไรโรแมนติกแบบนี้“จดทะเบียนแล้วจะไม่มีแหวนได้ยังไง” อิทธิกรดึงมือเล็กของหญิงสาวมาพร้อมสวมแหวนไปที่นิ้วนางข้างซ้ายขนาดของแหวนของแม่เขาเข้ากับนิ้วมือของเธอได้อย่างดี“ขอบคุณนะคะ”อินทิราโผเข้ากอดชายหนุ่มอย่างสุขสุดหัวใจผู้ชายคนนี้คนที่กอดเธออยู่นั้นเป็นคนที่มอบคำว่าครอบครัวที่สมบูรณ์และชีวิตใหม่ให้เธออย่างแท้จริง“งุ้ยยเขินนน”พีรยายืนดูสองคนนั้นกอดกันไปก็หน้าแดงไปเพรารู้สึกเขินกับการกระทำของทั้งคู่ด้วยความที่ยินดีกับเพื่อนเธอด้วยทั้งเธอและพรณภัทร์ต่างก็น้ำตาคลอเล็กๆด้วยความสุขหัวใจ“ทานกันเต็มที่เลยนะคะในครัวมีอาหารอีกเพียบค่ะ”ตอนนี้ทุกคนรวมตัวอยู่ที่โต๊ะอาหารเพราะหลังจากผ่านช่วงเวลาที่ค่อนข้างจะซึ้งใจกันไปแล้วตอนนี้ก็เป็นเวลาพร้อมหน้าพร้อมตาปาร์ตี้ทานอาหาร
“อ..เอ่อ..พี่อาท”พีรยาเห็นว่าคำนี้มีแต่เอลิซ่าน้องสาวของเขาเท่านั้นที่เรียกซึ่งถ้าชายหนุ่มให้เธอเรียกเขาแบบนี้ก็รู้สึกแปลกๆเล็กน้อยแต่มันก็ทำให้เธอเคอะเขินกว่าจะพูดคำนั้นออกมาได้“ยังไม่นอนอีกเหรอครับเห็นคุณอิทส่งข้อความบอกว่าพรุ่งนี้เค้าจะพาพวกเราไปเที่ยวที่แปลงดอกคอสมอสที่ไร่อีกฝั่งแต่เช้า”“พีคได้รับข้อความแล้วค่ะเดี๋ยวพรุ่งนี้พีคจะแต่งตัวสวยๆไปถ่ายรูป”พีรยาเองก็ได้รับข้อความจากอิทธิกรเมื่อสักพักเหมือนกันตอนนี้เธอเองก็ได้จัดเตรียมชุดสำหรับถ่ายรูปกับเหล่าดอกไม้เอาไว้แล้ว“พรุ่งนี้ผมอาสาเป็นตากล้องให้เองครับแต่ว่าคุณพีคไม่ต้องแต่งตัวอะไรมากก็สวยอยู่แล้วครับ”อาเทอร์อดที่จะพูดหยอดคำหวานกับหญิงสาวไม่ได้อย่างเธอในสายตาของเขาไม่ต้องแต่งอะไรก็สวยอยู่แล้ว“ปากหวานจังคนบ้าเอ้ย..”พีรยากลั้นยิ้มจนหน้าแดงพร้อมพูดกับตัวเองเบาๆ“อะไรนะครับ”อาเทอร์ได้เอียงหูฟังหญิงสาวแต่เขาก็ได้ยินที่เธอพูดไม่ค่อยถนัดเท่าไร“เปล่าค่ะ..คืนนี้พระจันทร์สวยดีนะคะ”พีรยารีบเปลี่ยนเรื่องคุยทันทีที่ชายหนุ่มทำหน้าสงสัยเธอจะมาเขินเขาจนเสียอาการตรงนี้ไม่ได้“คนตรงหน้าผมสวยกว่า”“อีกแล้วนะคะ...พีคไปนอนแล้วฝันดีค่ะ”ถึงต
“ก็พี่ห่วงของพี่นี่นา”อิทธิกรหน้าเสียเล็กน้อยที่โดนหญิงสาวตอกลับมาแบบนั้นเขารู้ว่าเธอแค่ท้องแต่เขาเองก็แค่ห่วงคิดในใจว่าทำไมหญิงสาวไม่เข้าใจเขาบ้าง“อะไรของพี่อิทเนี่ย”อินทิราส่ายหัวหงึกหงักพร้อมหน้าตึงเล็กน้อยเดินจ้ำอ้าวหนีชายหนุ่มไปให้พ้นๆจะได้ไม่ต้องคอยมาบ่นให้เธอระวังใกล้ๆหูอีก“เดี๋ยวพลอยเดินรอพี่ด้วยสิ...เดินช้าๆเดี๋ยวหกล้ม”อิทธิกรจำต้องสาวเท้ายาวๆให้เดินตามคนเป็นภรรยาทันพร้อมปากก็ยังปรามไม่ให้หญิงสาวเดินไปไวแบบนั้นอีกหลังจากที่ทุกคนเพลิดเพลินกับบรรยากาศยามเช้าในสวนดอกไม้เรียบร้อยแล้วก็กลับเข้ามาทานอาหารเช้ากันพร้อมหน้าพร้อมตาเมื่อทานเสร็จต่างก็แยกย้ายกันพักและเดินชมวิวกันต่อเพราะที่นี่ไม่ได้มีเพียงแค่แปลงดอกไม้เพียงอย่างเดียวยังมีสถานที่จัดไว้ให้ถ่ายรูปเป็นตามจุดอีกมากมายที่จัดเอาไว้“พลอย”ภัคนัยเห็นพรณภัทร์ปลีกตัวมานั่งคนเดียวที่เก้าอี้ใต้ต้นไม้ใหญ่ใกล้ๆกับซุ้มทานข้าวข้างๆก็มีไม้ค้ำยันคู่ใจของเธอวางพาดอยู่ใกล้ๆเขาจึงเดินเข้าไปนั่งข้างๆเธอ“....”พรณภัทร์หน้าตึงเล็กน้อยไม่ได้อะไรชายหนุ่มหากเขาอยากจะนั่งข้างๆเธอก็ขอให้นั่งเงียบๆก็แล้วกันเพราะเธออยากจะอยู่เงียบๆ“อีกสองวันถ้
เดือนต่อมากรุงเทพมหานครอิทธิกรพาอินทิรามาพักอยู่บ้านที่กรุงเทพของเขาสักพักแล้วเพราะเขาต้องเข้ามาทำงานที่บริษัทเหมือนเดิม“วันนี้เหนื่อยไหมคะ”เมื่ออินทิราเห็นคนเป็นสามีกลับบ้านมาก็รีบเอาน้ำเย็นๆมาต้อนรับเพราะเห็นสามีของเธอดูยุ่งๆทุกวัน“เห็นหน้าออมพี่ก็ไม่เหนื่อยแล้ว”อิทธิกรเองถึงจะเหนื่อยเพียงใดแต่เขาก็รับมือไหวและไม่เอามาพูดในบ้านให้คนเป็นภรรยาที่กำลังท้องอยู่กังวลกับเขาไปด้วยเด็ดขาด“วันนี้คุณแม่กับยัยเอมกลับมาแล้วพวกเค้าจะมาทานข้าวที่บ้านเราด้วย”อิทธิกรรู้ว่าแม่กับน้องของเขากลับมาได้เป็นวันแล้วบ่นอยากจะมาหาอินทิราใจจะขาดเพราะอยากรู้ว่าหลานในท้องมีพัฒนาการไปอย่างไรบ้างแล้ว“ตายจริงพี่อิทไม่บอกออมให้เร็วกว่านี้คะออมจะเตรียมอาหารไว้รอ”อินทิราตำหนิคนเป็นสามีเพราะหากบอกเธอให้เร็วกว่านี้เธอเองก็จะเข้าครัวทำอาหารไว้ต้อนรับแม่และน้องสามีของเธอเอง“ออมไม่ต้องทำหรอกพี่สั่งแม่บ้านไว้แล้วขืนพี่บอกออมก่อนก็คงจะต้องลงมือทำเองใช่ไหมล่ะ”“..ค่ะ..”อิทธิกรคิดถูกที่บอกแม่บ้านอย่างเดียวจะดีกว่าเพราะไม่เช่นนั้นคนเป็นภรรยาของเขาจะต้องเหนื่อยทำอาหารอีเป็นแน่ท้องยังอ่อนๆอยู่เขาไม่อยากให้หญิงสาวทำอะ
“แม่ว่าคงต้องปล่อยให้อัญชัญได้เรียนรู้ด้วยตัวเองสักพักไม่นานคงจะปรับตัวได้เอง”“ค่ะคุณแม่”อรุณาเองก็พอจะรู้อยู่ว่าอัญชัญเป็นอย่างไรแต่คนเรามันก็ต้องโตขึ้นไปทุกวันยังไงเธอก็คิดว่าชีวิตที่อัญชัญจะต้องเจอจะเป็นการสอนเด็กสาวเองว่าจะต้องรับมือกับมันยังไงเธอเชื่อว่าคนที่มีสำนึกดีอย่างอัญชัญจะต้องผ่านมันไปได้บ้านโรจน์วินิจวรกุล18.00 น.“ช่วงนี้อินเลิฟวันหยุดก็หายไปแต่เช้ากลับมาซะเย็นทุกเลยนะ”ภัคดนัยที่นั่งอยู่หน้าบ้านในช่วงเย็นเห็นคนเป็นน้องสาวกลับมาเห็นเดินอารมณ์ดีเข้ามาก็ต้องเอ่ยปากพูดตามประสาพี่ชายหยอกน้องสาว“น้องก็ขอมีความสุขอยู่ใกล้แฟนบ้างอะไรบ้าง...ใครจะไปเหมือนคนบางคนที่น่าอิจฉาได้อยู่ใกล้คนที่อยากอยู่ใกล้ตลอด”พีรยาไม่เองก็ไม่ลืมที่จะยอกย้อนพี่ชายเธอกลับตามนิสัยของเธอ“พีคกลับมาก็ดีแล้วฉันมีเรื่องจะคุยกับแกอยู่พอดี”พรณภัทร์รีบเดินมาจูงมือเพื่อนสาวของเธอเข้าไปคุยอย่างรีบร้อนตอนนี้หญิงสาวเดินเหินได้สะดวกขึ้นเกือบร้อยเปอร์เซ็นเพราะถอดเฝือกออกนานแล้ว“อ๋อ..อืมไปคุยกันในห้องดีกว่า” พีรยาเห็นสีหน้าของเพื่อนสาวเธอก็พอจะเดาออกว่ามีธุระสำคัญจึงให้เข้าไปคุยในห้องเธอจะดีกว่า“มีอะไรหรือเ
“อิๆๆๆ”พีรยาเองไม่ได้ไปหายาให้พี่ชายเธอที่ไหนเพียงแต่กลับเข้าไปในห้องของเธอก็เท่านั้นตอนนี้หญิงสาวดีดดิ้นดีใจอยู่บนเตียงนอนที่แผนของเธอสำเร็จอีกแล้วตอนนี้ก็เหลือแค่พี่ชายเธอเองเท่านั้นที่จะช่วยให้ตัวเองได้สมหวังหรือเปล่าแกร็กกกกก“......”ภัคดนัยที่กำลังนั่งพิงหัวเตียงอ่านหนังสืออยู่ถึงกับเงยหน้ามองหญิงสาวด้วยสีหน้าที่แปลกใจเล็กน้อยที่เธอรีบร้อนเข้าห้องของเขามาด้วยในมือถือกะละมังน้ำเข้ามาอย่างรีบร้อน“พี่ภาคย์เป็นอะไรมากหรือเปล่าคะเดี๋ยวพลอยจะเช็ดตัวให้ก่อนนะคะยัยพลอยน่าจะกำลังไปหายามาเป็นถึงหมอทำไมไม่ดูแลตัวเองปล่อยให้ป่วยหนักแบบนี้ได้ไงล่ะคะ”พรณภัทร์วางกะละมังน้ำที่โต๊ะวางของข้างเตียงของชายหนุ่มพร้อมใช้ผ้าชุบน้ำบิดหมาดๆเตรียมที่จะเช็ดตัวให้คนที่นั่งพิงหัวเตียงอยู่“........???”ภัคดนัยมองการกระทำของหญิงสาวอย่างสงสัยในคราแรกแต่เมื่อได้ยินว่าน้องสาวของเขากำลังจะไปเอายามาให้จากปากหญิงสาวเขาก็เข้าใจได้ทันทีว่านี่คงจะเป็นการเล่นอะไรแผลงๆของน้องสาวของเขาอีกแล้วสินะ“ตัวก็ไม่ได้ร้อนนี่นา”พรณภัทร์นั่งลงข้างๆชายหนุ่มในมืออีกผ้าถือผ้าเอาไว้ด้วยสีหน้าที่เป็นกังวลส่วนมืออีกข้างก็ยื่นไปแตะที
บริษัทXXX17.00 น.“ทำอะไรอยู่เหรอ”“ออมถักกระเป๋าจิ๋วอยู่ค่ะเสร็จแล้ว2ใบน่ารักไหมคะ”อิทธิกรหิ้วคนเป็นภรรยามาที่ทำงานด้วยแทบจะทุกวันให้เธอมานั่งๆนอนๆที่นี่จนเธอเบื่อต้องหาอะไรทำในระหว่างที่เขาทำงานอยู่“พี่ชักจะอิจฉาไหมพรมในมือออมซะแล้วสิดูออมจะสนใจมันมากกว่าพี่”ชายหนุ่มลงนั่งบนโซฟาข้างๆกับภรรยาพร้อมใช้มือโอบไหล่ของเธอเอาไว้หลวมๆมีสีหน้าที่แกล้งทำเป็นแอบงอนเล็กน้อยที่วันนี้เธอเอาแต่นั่งจดจ่ออยู่กับก้อนไหมพรม“หืม..ออมก็สนใจพี่อิทตลอดนั่นแหละค่ะทำเป็นน้อยใจไปได้”อินทิราถึงกับต้องหยุดมือแล้วหันมาโอบกอดสามีขี้งอนของเธอที่อิจฉาแม้กระทั่งไหมพรมพร้อมบอกกับเขาใจจริงว่าเธอไม่เคยไม่สนใจเขาเลยแม้แต่นิดเดียว“แหม..เอมมาผิดจังหวะหรือเปล่าคะพี่อิท”ไอรดาเผลอเข้าห้องทำงานพี่ชายเธอโดยที่ไม่ได้เคาะประตูไม่คิดว่าทั้งสองกำลังหวานกันอยู่“มีอะไรเหรอเอม”อิทธิกรหันไปถามคนเป็นน้องสาวว่าที่เข้ามามีเรื่องอะไร“พอดีเอมนัดช่างที่เราสั่งตัดชุดเอาไว้ที่บ้านค่ะตอนนี้ชุดเสร็จแล้วเหลือแค่ให้เจ้าบ่าวเจ้าสาวไปลอง”ไอรดาต้องการมาบอกให้ทั้งสองรีบกลับบ้านเพราะตอนนี้เธอนัดช่างที่ตัดชุดให้ไปรอที่บ้านหลังจากที่พวกเธอเล