แชร์

ความจริงที่เจ็บปวด

หลังจากที่ทั้งสี่ มิคกี้ หน่อย ยูโร และบิว ได้กินหมูกระทะเสร็จเรียบร้อย จึงแยกย้ายกันกลับบ้าน ในส่วนของยูโรและบิวได้ขับรถกลับไปคนละคัน ส่วนมิคกี้กับหน่อยได้กลับมาด้วยกันเช่นเคย

  ในระหว่างทางที่ขับรถกลับบ้านนั้น มิคกี้มีความสุขอย่างบอกไม่ถูก เพราะได้ใกล้ชิดหน่อยที่เริ่มรักจนหมดใจ ส่วนหน่อยนั้นก็แท่บไม่แตกต่างกันเทใจให้มิคกี้จนไม่มีเหลือให้ใคร ด้วยความรักทั้งสองที่มีให้กันอย่างเหลือล้น จึงทำให้ความรู้สึกที่อยากสัมผัสเรือนกายซึ่งกันมีอย่างเต็มพิกัด

  เมื่อมาถึงบ้านทั้งสองไม่เห็นรถพายัพกับโสภิตา มิคกี้ตัวต้นคิดและอารมณ์ถวิลครุกรุ่นในวัยหนุ่มพลุกพล่านขึ้นมา เขาจึงอยากจะชวนหน่อยพากันชิวหาในรสรัก แต่หน่อยนั้นยังกล้าๆกลัวๆด้วยหลายสาเหตุจึงยังไม่อยากที่จะทำอะไรเกินเลยไปกว่านี้ เขาจึงลังเลและนั่งลงบนโซฟา

  “ทำไม่ไม่ไปในห้องนอนล่ะ”มิคกี้ถามและนั่งลงตาม

  “อิ่ม แน่นท้องนั่งสักพัก”

  “จริงด้วย หน่อยกินเยอะจนผิดสังเกต”

  “บ้านหน่อยไม่ได้รวยเหมือนมิคกี้กับสุกี้ไง ถ้าเกิดหน่อยไม่ได้อยู่ที่นี่แล้ว หน่อยก็คงไม่มีโอกาสได้กินอีก”

  “เอ่อ ถ้าได้กลับไปในอดีตนั่นเหรอ ไม่เป็นหรอกเดี๋ยวเราก็ไปซื้อมาทำกินกัน ถ้าไม่ทำกินก็ไปหาร้านอาหารกินกุ้งอย่างเดียวเลย ไม่ต้องกลัวในอดีตพ่อกำนันของเรารวย”

  “เหมือนเดิมเลยสายเปย์”

  “เดี๋ยวนี้พัฒนาใช้คำพูดสมัยใหม่ด้วย”

  “ไม่ได้หรอกมันก็ต้องมีบ้างซิ คนต้องพัฒนาตามยุคสมัย จะมาจมปลักอยู่แต่กับอดีตได้ไง  อดีตผ่านแล้วผ่านไป อนาคตมาเรื่อยๆเราก็ต้องค่อยๆเรียนรู้ไป”

  “ความผิดเกินยุคสมัยที่มาเลยนะเนี่ย”

  “ไม่ขนาดนั้นหรอก”หน่อยยิ้มอย่างสดใจ มิคกี้ก็มองด้วยใจทีจะละลายให้ได้

  “หน่อยรู้ตัวไหม ว่าหน่อยน่ารักมาก”

  “เหรอ ไม่รู้หรอก”

  “ไม่รู้ก็ไม่เป็นไร แค่เรารู้คนเดียวก็พอ”มิคกี้ยิ้มอย่างปานจะกลืนกินหน่อยไปทั้งตัว

  “ปากหวานทั้งอดีตและในอนาคตเลยนะ”

  “ไม่หวานหรอก หวานเฉพาะกับหน่อยคนเดียวต่างหาก”

  “นี่เหรอไม่หวาน ถ้าหวานจะขนาดไหน พ่อน้ำตาล”

  “ถ้าเราเป็นน้ำตาหน่อยเป็นมดได้ไหม”

  “ได้สิ จะกัดไปทั้งตัวเลย”

  “ไม่ให้กัดทั้งตัวกัดที่เดียวพอ”

  “ทะลึ่ง”หน่อยมองค้อน แต่มิคกี้มองด้วยสายตาหื่นกระหาย

  มิคกี้ยิ่งเห็นใบหน้าของหน่อยที่ขาวใสแก้มอูม เขาอย่างลองไปสัมผัสอยากจับและดอมดมให้ชื่นใจ มิคกี้จึงเอื่อมมือไปสัมผัสที่แก้มของหน่อย

  “อย่าเดี๋ยวใครมาเห็น”

  “ไม่มีหรอก ดึกป่านนี้แล้วคนรับใช้เข้าไปนอนหมดแล้ว ส่วนพ่อกับแม่ยังไม่มาเลยไม่เป็นไรแค่นิดเดียว”

  “ไม่ได้ประเจิดประเจ้อเกินไป”

  “ไม่หรอก อย่าคิดมากเลย สมัยนี้แล้วเรื่องแบบนี้เขาไม่สนใจกันหรอก”

  “นะ”เมื่อมิคกี้พูดจบเขาค่อยๆขยับใบหน้าเข้าไปใกล้แก้มของหน่อย  และเขาสัมผัสอย่างแผ่วเบาอ่อนโยนนุ่มนวล

  มิคกี้เห็นปากกระจับสีชมพูน่าสัมผัสของหน่อย มิคกี้จึงจับปลายคางของหน่อยหันมาทางใบหน้าของเขา มิคกี้ค่อยๆเลื่อนใบหน้ามาที่ปากอันอวบอิ่มของหน่อย ส่วนหน่อยใจของเขามีสองทางปฏิเสธหรือตอบรับ แต่ในช่วงเวลานี้ใจของหน่อยเอนเอียงมาทางตอบรับสัมผัสนี้ หน่อยจึงนิ่งเฉยรอริมฝีปากของมิคกี้ได้มาเชยชม เพียงเสี้ยววินาทีเดียวริมฝีปากของมิคกี้ก็มาประกบทันทีพร้อมดันปลายลิ้นเข้าไป ส่วนสองมือของมิคกี้จับใบหน้าของหน่อยไว้

  “ทำอะไรกัน”เสียงพายัพดังขึ้นลั่นห้องโถง

  มิคกี้ถอนริมฝีปากออกจากของหน่อยทันที และหันหน้ามามองเสียงที่คุ้นเคย มิคกี้ถึงกับตาค้างมองหน้าพายัพอย่างไม่กระพริบตา

  “สุกี้ ลูกรู้ไหมว่าทำอะไรลงไป”โสภิตารีบไปนั่งข้างๆหน่อยในร่างของสุกี้ ที่ตัวสั่นเป็นระยๆด้วยความความกลัว

  “ไอ้ตัวดีมึงก่อเรื่องไม่หยุดหย่อนเลย ครั้งก่อนก็กับบอมบอมม แต่ครั้งนั้นพอเข้าใจได้ แต่ครั้งนี้ สุกี้ถึงจะไม่ใช่น้องแท้ๆแต่ก็เหมือนน้อง มึงรู้จักหักห้ามใจตัวเองบ้างซิโว้ย ถ้าเรื่องนี้รู้ไปถึงไหนอายไปถึงนั้น ลูกติดพ่อกับลูกติดแม่มีความสัมพันธ์กัน”

  “มิคกี้ ป้าอุตส่าห์ไว้ใจฝากน้องไว้ แต่ทำไมถึงทำกับป้าและน้องแบบนี้”โสภิตาน้ำตาเริ่มรินไหล

  “พ่อแม่”มิคกี้พูดขึ้น

  “ไม่ต้องมาเรียกแม่ ถ้าคิดว่าฉันเป็นแม่คงไม่ทำอะไรที่น่าเกลียดแบบนี้หรอก”

  “พ่อป้า เราสองคนรักกันมันผิดตรงไหน เราไม่ใช่พี่น้องที่แท้จริง”

  “ไม่ผิดก็จริง แต่ป้ากับกับพ่อของมิคกี้เป็นสามีภรรยากัน ลูกติดเราทั้งสองก็เหมือนพี่น้องกันจะมาทำอะไรแบบนี้ไมได้ นี่ครั้งแรกใช่ไหม”

  “ครับ เรายังไม่เคยมีอะไรเกินเลยกัน ถึงมีก็ไม่แปลกที่จะทำ”

  “ไอ้มิคกี้กูไม่สนหรอกว่ามึงจะเป็นแบบไหนกูรับมึงได้หมด มึงจะชอบใครทีไหนอย่างไรกูให้อิสระกับมึงตลอด แต่ทำไมมึงไม่รู้จักหักห้ามใจตัวเองบ้าง มึงยังเป็นคนอยู่ไหม”

  “ก็เป็นคนไงมันต้องมีความรัก ที่พ่อยังมีได้เลย ตั้งแต่อดีตพ่อจีบทีเดียวสองคน”

  “ไอ้มิคกิ้”

  “ทำไม มันเรื่องจริงพ่อรับไม่ได้เหรอ”

  “เพลี้ยะ”พายัพตบหน้ามิคกี้ แต่ใจของเขากับแตกสลาย

  “มิคกี้พ่อขอโทษ พ่อไม่ได้ตั้งใจ”พายัพมือสั่นเขาทำไปด้วยความโมโห

  “พ่อไม่ได้รักผม รักแต่ตัวเอง”

  “มิคกี้”พายัพพูดเสียงอ่อย

  “คุณคะใจเย็นๆทุกอย่างมีทางแก้ไข เรามาคุยกันด้วยเหตุผล”โสภาจับแขนของพายัพไว้

  หน่อยนั่งนิ่งเงียบตัวสั่นด้วยความกลัว โดยนิสัยของหน่อยจะเป็นคนเรียบร้อยไม่มีผิดภัยกับใคร ซึ่งเหตุการณ์ในครั้งนี้โสภิตาสังเกตเห็นได้อย่างเด่นชัดว่าลูกชายของเธอเปลื่ยนไป ถ้าเป็นเมื่อก่อนจะเถียงคำไม่ตกฝาก

  “หน่อยไม่ต้องกลัวอะไร พวกเราไม่ได้ทำอะไรผิด”มิคกี้เขาไปจับมือหน่อยกุมไว้

  “มิคกี้”พายัพเริ่มเสียงดังอีกครั้ง มิคกี้จึงปล่อยมือหน่อยไว้ที่เดิม

  “แล้วเราจะทำไงดี ในเมื่อเด็กสองคนมันรักกันไปแล้ว”โสภิตาพูดจบถึงกับกุมขมับด้วยความกลัดกลุ้ม

  “ต้องแยกเด็กออกจากกัน”พายัพพูดขึ้นทันที

  “ไมได้เรารักกัน พ่อจะมาแยกเราสองคนออกจากกันไม่ได้”มิคกี้มองพ่อด้วยสายตาแข็งกร้าว

  “ฉันก็เห็นด้วย  เดี๋ยวฉันจะให้สุกี้ไปอยู่กับพ่อของเขา”

  “ลูกไม่ไป ลูกไม่อยากไปอยู่กับพ่อ”หน่อยในร่างสุกี้ไม่ค่อยถูกชะตากับแทน ที่แสนจะดิบๆโดยนิสัย ซึ่งหน่อยเข้ากับแทนไม่ได้เลยแม้แต่น้อย

  “ผมก็ไม่ให้น้องไป”มิคกี้ย้ำความคิดหน่อยอีกที

  “สุกี้ไม่ต้องไปไหน เดี๋ยวจะให้มิคกี้ไปเรียนที่ต่างประเทศ สองคนนี้ต้องแยกกันให้ไกล ถึงหน่อยจะไปอยู่กับคุณแทน ไอ้มิคกี้ของผมมันก็ตามไปหาอยู่ดี มันจะกลายเป็นสร้างความยุ่งยากให้คุณแทน”

  “ผมไม่ไปผมจะไปอยู่กับแม่ ผมไม่อยู่กับพ่อแล้ว ผมอายุเกินสิบแปดบรรลุนิตภาวะแล้ว คุณพ่อจะมาบังคับผมไม่ได้ ผมดูแลตัวเองได้”

  “ไอ้มิคกี้มึงต้องไปเรียนต่างประเทศ มึงอยู่ประเทศไทย เดี๋ยวมึงสร้างความยุ่งยากให้กับครอบครัวเราอีก”

  “พ่อก็คิดถึงแต่หน้าตัวเอง ไม่เคยคิดถึงจิตใจของลูกเลย”

  “มิคกี้พ่อยื่นคำขาด ว่าลูกต้องไปเรียนต่างประเทศ เดี๋ยวพ่อจะจัดการให้ทุกอย่าง”

  “ผมไม่ไปผมจะอยู่ที่ประเทศไทยกับแม่ พ่อก็อยู่ที่นี่คนเดียวไปเถอะ”

  มิคกี้พูดจบลุกขึ้นยืนจับมือของหน่อยวิ่งออกจากบ้านทันที เขาพาหน่อยขี้นรถแล้วขับรถออกไปอย่างรวดเร็ว โดยที่หน่อยไม่ทันคาดเข็มขัดนิรภัย ส่วนมิคกี้นั้นคาดเข็มขัดนิรภัยด้วยความเคยชิน แต่หน่อยมัวแต่ตกใจจึงลืม  ด้วยที่มิคกี้มีอารมณ์โมโห จึงไม่สามารถควบคุมอารมณ์ได้ สติจึงไม่พร้อมที่จะขับรถ พอมิคกี้ขับรถออกจากปากซอยแค่นั้น เขาไมได้มองทางขวามิคกี้เลี้ยวซ้ายทันที จึงทำให้รถที่ขับมาทางตรงพุ่งชนรถของมิคกี้พลิกคว่ำ

  ในห้องนอนที่แสนเย็นฉ่ำไปด้วยแอร์ ร่างของมิคกี้นอนหลับอย่างสบายในอุรา แต่แล้วเขาก็ต้องตกใจตื่นโดยไม่ทราบสาเหตุ มิคกี้ลืมตาขึ้นและสิ่งที่เขาเห็นคือเพดานเหนือร่างของเขา มิคกี้มองไปทางซ้ายทางขวา เขาก็จำได้ทันที ว่าที่นี่คือห้องพักของเขาในอดีต มิคกี้ครุ่นคิดเรื่องราวที่เกิดขึ้นในอนาคต เขาถึงกับตกใจ มิคกี้จึงรีบลุกขึ้นนั่งทันที เพราะเขาจำได้ครั้งสุดท้ายที่รถของเขาโดนพุ่งชน และนั่นเองที่ทำให้มิคกี้ใจหายวับ เพราะคนที่นั่งมาด้วยกับเขานั่นคือหน่อย มิคกี้รีบลงจากเตียงทันที ด้วยความอยากรู้ว่าหน่อยได้มากับเขาในอดีตไหม  พร้อมด้วยความกระวนกระวายใจเป็นอย่างยิ่ง เพราะมิคกี้ห่วงหน่อยอันเป็นที่รัก เขาจึงรีบออกจากห้องของเขาเพื่อไปหาหน่อยที่ห้องทันที

  เมื่อไปถึงหน้าห้องของหน่อย มิคกี้ทำใจอยู่พักหนึ่ง และภาวนาขอให้หน่อยได้อยู่ในห้อง มิคกี้จีงเคาะประตูสองสามครั้ง และรอสักครู่ซี่งมิคกี้ก็ได้ยินเสียงประตูค่อยๆแย้มออกมา จนเห็นหน้าคนที่เปิดประตู

  “หน่อยจริงๆด้วย”มิคกี้โผเข้ากอดทันที

  มิคกี้หารู้ไม่ว่าคนที่เขากอดนั้นไม่ใช่หน่อย แต่เป็นสุกี้ที่มาอยู่ในร่างหน่อย เมื่อหนุ่มหล่อหุ่นดีมากอดอย่างนี้ สุกี้จึงชอบและไม่ปฏิเสธว่าไม่ใช่หน่อย

  “อายคนเขาเข้ามาข้างในดีกว่า”สุกี้ดันร่างของมิคกี้ออกและจูงมือมิคกี้มานั่งที่เตียงและนั่งลง

  “ผมดีใจมากเลยที่หน่อยกลับมากับผมด้วย”มิคกี้อมยิ้ม

  “หน่อยก็ดีใจ”สุกี้ตีเนียนเป็นหน่อย เพราะเขาค่อนข้างพอใจมิคกี้พอสมควร ถึงแม้ช่วงเวลาที่ผ่านมาต่อตัวจริงที่หน้าตาเหมือนมิคกี้จะเย็นชากับสุกี้ แต่ในเมื่อค่ำคืนนี้มิคกี้ในร่างต่อมาหาถึงที่สุกี้จึงยากที่จะให้หลุดมือไป

  “สุดท้ายเราก็อยู่ด้วยกัน”มิคกี้กอดร่างของสุกี้ไว้แน่น และเขาก็พรหมจูบทั่วใบหน้าของสุกี้

  มิคกี้ประกบปากของสุกี้ใช้ปลายลิ้นดันเข้าไปภายใน ส่วนสุกี้ก็โอบกอดมิคกี้ทันทีและดึงชายเสื้อขึ้นมาถึงช่วงอก มิคกี้ถอนริมฝีปากออกจากสุกี้ เพื่อที่จะถอดเสื้อออก เพียงสุกี้เห็นเรือนร่างท่อนบนของมิคกี้ สุกี้แท่บจะถวายชีวิตให้ เพราะมีแต่มัดกล้ามและซิคแพ็ค ที่เขาชอบดูโลกโซเซียลในอนาคตที่ผ่านมา ส่วนมิคกี้ไม่รอช้าถอดเสื้อของสุกี้ออกจนเผยเห็นเรือนร่างที่ขาวผ่องใสนวลอมชมพู

  มิคกี้ประคองร่างของสุกี้ล้มตัวลงนอนบนเตียง หลังจากนั้นเขาก้มลงไซร้ซอกคอที่ขาวผุดผ่องอย่างอ่อนละมุน แล้วเลื่อนลงมายังเนินอกนมชมพู เขาใช้ปลายลิ้นสัมผัสอย่างแผ่วเบาและหนักขึ้นเป็นบางครั้ง หลังจากนั้นก็สลับไปมาทั้งสองข้าง ส่วนสุกี้นั้นสุขกายสบายอารมณ์เสียวซ่านไปทั่วเรือนร่าง จนสุกี้อดจนไม่ไหวเขาจึงพลิกตัวดันร่างของมิคกี้นอนหงาย

  สุกี้ลุกขึ้นนั่งและดึงกางทีเดียวสองตัวซ้อนออกจากร่างของมิคกี้ ส่วนมิคกี้ก็แอ่นสะโพกให้ถอดได้ง่ายขึ้น สุกี้ดึงกางเกงออกถึงปลายเท้าและหันมามองท่อนเอ็นของมิคกี้ ซึ่งไม่ได้ใหญ่อย่างที่เขาคิด แต่ก็สวยงามยาวตรงหัวอมชมพูดูสะอาดสะอ้าน ซึ่งเป็นสิ่งที่ชดเชยความใหญ่ยาวได้เป็นอย่างดี

  “ผิดหวังเหรอ”มิคกี้พูดขึ้นเพราะนี่คือปมด้วยของเขา

  “ไม่หรอกชอบความชมพูมากกว่าใหญ่ยาว”

  เมื่อสุกี้พูดจบก็ก้มลงสัมผัสส่วนปลายท่อนเอ็นทันที นี่เป็นสัมผัสแรกที่มิคกี้ได้รับ เพราะตั้งแต่เป็นหนุ่มมาเขายังไม่เคยได้มีความสัมพันธ์กับใครแบบจริงจัง มีแต่เฉียดมาฉียดไปทุกครั้ง ถึงแม้ในครั้งนี้เขารู้สึกแปลกใจในตัวหน่อย เพราะโดยนิสัยของหน่อยไม่น่าจะเริ่มต้นทำอะไรอย่างนี้ แต่เขาก็ไม่สนความคิดนี้อีกต่อไป เนื่องด้วยความใคร่ที่กำหนัดจึงเกินจะทานทนได้

บทที่เกี่ยวข้อง

บทล่าสุด

DMCA.com Protection Status