ด้วยความโกรธโมโหยูโรที่กระทำต่อมิคกี้ และแอบน้อยใจที่ยูโรมีใจให้มิคกี้ บิวจึงไปดักรอยูโรที่สนามฟุตบอล เมื่อยูโรออกมาจากสนามฟุตบอล บิวเดินเข้าไปหาทันทีและต่อว่ายูโรไม่ยั้ง
“นายเป็นเพื่อนมิคกี้นะ ทำไมนายทำกับมิคกี้อย่างนั้น”
“ทำอะไร”
“ก็นายจะทำแบบนั้นกับมิคกี้นั่นไง”
“แบบไหนบอกมาซิ”ยูโรมีสีหน้าที่กวนบิวพอสมควร
“พูดตรงนี้ไม่ได้ต้องไปคุยในรถ”
“ก็ได้ นายไม่ได้เอารถมาเหรอ”
“เปล่า”
“แผนสูงที่จะให้เราไปส่งแน่เลย”
“ใช่”
“ตามมา”ยูโรแสยะยิ้มแล้วเดินนำหน้าบิว
เมื่อทั้งสองอยู่ในรถ บิวมองยูโรไม่ว่างสายตาเลย จนยูโรรู้สึกรำคาญ เพราะเขาไม่ค่อยชอบผู้ชายที่อ้อนแอ้นและบอบบางซักเท่าไร
“มองคนหล่อทำไม”
“ยอมรับว่านายหล่อ แต่นายใจไม่หล่อ”
“ไม่หล่อตรงไหน”
“ก็คิดไม่ดีกับมิคกี้”
“นายก็คิดไม่ดีกับเราเหมือนกันไม่ใช่เหรอ นายก็เป็นคนไม่ดีด้วย”
“ถึงเราจะคิดไม่ดีกับนาย แต่เราก็ไม่ได้ทำอะไรนายนี่ เพราะเรารู้ว่านายยังไม่ได้รักเรา”
“รู้ก็ดีแล้ว และจะไม่มีวันรักผู้ชายร่างบางแบบนายหรอก”
“ตามใจ แต่ผู้ชายร่างหนาเขาก็ไม่ชอบนายหรอก”
“สักวันเราจะทำให้ชอบให้ได้”
“ฝันไปเถอะ มิคกี้เขาชอบแบบเรา ส่วนายเป็นแค่เพื่อนก็ถือว่าดีแล้ว อย่าคิดเป็นอื่นเลย”
“พูดแบบนี้ชอบมิคกี้เหรอ”
“ไม่ได้ชอบ และ ไม่มีวันชอบ ความเป็นเพื่อนนั้นมันยาวนานกว่าคนรัก เหมือนนายไงตอนนี้ความเป็นเพื่อนแท่บจะไม่มีแล้ว”บิวหัวเราะ
“ปากดีนักนะ เราก็ไม่มีวันเป็นเพื่อนกับนาย ยิ่งคนรักฝันไปเถอะ”
“แต่เราฝันว่าได้นายทุกคืนเลย ได้อมของนาย นายเอาข้างหลังเรา ได้กอดนาย ได้ทำทุกอย่างเลย”
“ฝันบ้าๆ เลิกฝันไปเลย”
“ใครเลิกความฝันได้ล่ะ”บิวยิ้มเพราะเถียงชนะ
“อยากได้เราจนต้องเก็บเอาไปฝันเลยเหรอ”
“ใช่ เราอยากได้นายมาก”
“ถ้างั้นจัดให้”ยูโรมองหาโรงแรมม่านรูดทันทีในระหว่างขับรถอยู่
“นายจะทำอะไรเรา”
“ก็ทำอย่างที่นายฝันไง”
“นายไม่กล้าหรอก เพราะนายไม่ได้รักเรา ถ้านายกล้าเราก็ยอม”บิวหัวเราะ
“ปากดีจะเอาให้บานเลย”
“ท่าจะจริงเพราะของนายใหญ่มาก”
“ใหญ่กว่ามิคกี้ใช่ไหม”
“แน่นอนใหญ่กว่า”
“เสร็จแน่คืนนี้บิว”
“จะรอ”บิวอมยิ้ม และ ลึกๆหวังว่าเป็นเช่นนั้น
ยูโรมองหาโรงแรมม่านรูดเพื่อที่จะเข้าไปจัดการบิว เพราะความปากดีและท้าทายเขาจึงทนไม่ไหวอยากสั่งสอนให้เข็ดขยาด เมื่อเห็นโรงแรมม่านรูดยูโรเลี้ยวรถเข้าไปในทันที
“นายเอาจริงเหรอ”บิวมีสีหน้าที่หวั่นวิตก
“เอาจริงซิ”
ยูโรเลี้ยวรถเข้าที่จอดรถ เด็กปิดม่าน ก็วิ่งมารูดม่านทันที บิวเริ่มรู้สึกกลัวเพราะสีหน้ายูโรนั้นเอาจริง แต่บิวก็แอบดีใจเล็กๆถึงแม้จะไม่เกิดจากความรักก็ตาม
“ลงมาเลย”บิวลงจากรถและเดินตามยูโรเข้าไปในห้องนอน
“แก้ผ้าเดี๋ยวนี้”
“นายจะทำอะไรเรานะ”บิวเริ่มผิดสังเกต
“นายแก้ก่อนสิ”บิวพูดกลับ
“ได้”ยูโรถอดชุดฟุตบอลออกจนหมด บิวมองตาค้างเพราะมีแต่มัดกล้าม โดยเฉพาะที่ท่อนเอ็น ถึงจะยังไม่ขยายใหญ่ก็ยังดูใหญ่มาก
“ถึงเวลาที่นายต้องถอดแล้ว”ยูโรเดินเข้าไปหา
“ไม่อ่ะ นายจะทำอะไร ไม่มีการเล้าโลมกอดจูบซักหน่อยเหรอ”
“ไม่มีเราชอบแบบดิบๆ”
“แบบนี้มันดิบไปเราไม่ชอบ”
“แต่เราชอบ”
“ไม่เอาพาเรากลับบ้านเดี๋ยวนี้”บิวเดินหนี
“ไม่ต้องกลับ นายต้องอมของเราก่อน ให้เราเอาข้างหลังด้วย”
“ไม่เอา”
“ได้ มึงอยากให้เล้าโลมเหรอ”
ยูโรเดินเข้าไปหาบิวแล้วจับร่างบิวผลักลงที่เตียง หลังจากนั้นเขาก็ไซร้ซอกคอของบิว ยูโรเน้นดูดอย่างเดียวเพื่อให้เป็นรอยแดง
“เราไม่เอาแล้ว ปล่อยนะ คอเราแดงหมดแล้ว”
“เรื่องของนาย”
ยูโรไซร้ซอกคอของบิวอย่างบ้าคลั่ง ส่วนสองมือก็บี้ขย้ำหัวนมของบิว ยูโรดึงปลายเสื้อออกเหนือศีรษะของบิว หลังจากนั้นก้มลงดูดขบหัวนมของบิว จนบิวรู้สึกเจ็บมากกว่าเสียว แต่เขาก็ทนอดใจคิดไปว่าเผื่อจะดีกว่านี้
ยูโรถอดกางเกงของบิวออกจนหมด และจับร่างของบิวพลิกคว่ำ หลังจากนั้นเขาก็ใช้สองมือตีก้นบิวรัวๆ
“แค่นี้แหละ”
เมื่อยูโรพูดจบก็ใส่เสื้อผ้าทันที เพราะเขาไม่สามารถที่จะทำอะไรต่อจากนี้ได้ เขาไม่ชอบอะไรที่ขาวใสออร่าแบบนี้ ยูโรชอบแบบแมนๆ
“อะไร”บิวหันหน้ามามองยูโร
“นายอยู่นี่แหละเราไปแล้วนะ หาทางกลับเองก็แล้วกัน”
ยูโรใส่เสื้อผ้าเสร็จก็ออกจากห้องไป สักพักเสียงรถก็ดังขึ้นและแล่นออกไปอย่างรวดเร็ว พอบิวใส่เสื้อผ้าเสร็จก็ไม่ทันแล้ว บิวไม่กล้าที่จะเดินออกไปคนเดียว เขาจึงกลับเข้ามาที่ห้องและนั่งร้องไห้ด้วยความเสียใจ บิวเสียใจและตกใจในไม่สามารถที่จะคิดแก้ปัญหานี้ได้ แต่แล้วก็มีเสียงสวรรค์มาช่วย เสียงโทรศัพท์ของเขาได้ดังขั้น
“อยู่ไหนเอ่ย”ต่อในร่างมิคกี้โทรหาทางไลน์
“มิคกี้นายช่วยเราด้วย”บิวร้องไห้หนักกว่าเดิมอีกหลายเท่า
“นายเป็นอะไรอยู่ที่ไหน”
“โรงแรมม่านรูด”
“นายไปอยู่นั่นได้ไง”เสียงต่อสั่นระเยือก
“ยูโรพาเรามาแล้วทิ้งเราไว้นี้”
“นายกับยูโร”ต่อยังพูดไม่จบบิวชิงพูดก่อน
“เราไม่ได้มีอะไรกัน ยูโรหลอกเรามาที่นี่แล้วทิ้งเราไป”
“ไอ้ยูโรอย่าให้เจอหน้า กูจะตะบันหน้าให้หงายเลย”
“เรื่องนั้นเอาไว้ก่อน นายมารับเราก่อนเถอะ”
“นายอยู่ที่ไหนเนี่ย”
“เราก็ไม่รู้เหมือนกัน”
“ถ้านายไม่รู้แล้วเราจะไปรับนายได้อย่างล่ะ”
“เดี๋ยวเราส่งโลเคชั่นไปให้นาย”
“เราใช้ไม่เป็นหรอกไอ้จีพีเอสนั่นน่ะ”
“นายเป็นบ้าไปแล้วเหรอ”
“เอ่อ เดี๋ยวดูในยูทป เขาคงมีวิธีสอนใช้”
“แค่นี้นะ มาเร็วๆนะ”บิวพูดเสียงสั่น
บิวเช็ดน้ำตาที่เริ่มไม่ไหลออกมา เพราะเขาเริ่มอุ่นใจที่ต่อจะมาพาเขาออกไปจากที่โรงแรมแห่งนี้ บิวนั่งรอต่อในร่างมิคกี้หลายชั่วโมง เพราะเขาไม่ค่อยชำนาญทาง กว่าจะมาถึงก็ดึกพอสมควร
“ก๊อก ก๊อก ก๊อก”
บิวรีบไปเปิดประตูทันที เขาดีใจมากที่เห็นหน้าต่อ บิวโผล่เข้าไปกอดต่อทันที บิวน้ำตาไหลอีกครั้ง
“ไม่ต้องร้องไห้แล้ว เรามาพานายกลับบ้านแล้วไง”
“นายมาช้านี่ เราก็นึกว่านายจะไม่มาแล้ว”
“มาซิ นายเป็นคนที่เรารัก”
“แต่เรา”
“ไม่ต้องพูดอะไรอีกแล้ว เราเข้าใจนายดี”
“ขอบใจนายมากนะ ที่เข้าใจเราทุกเรื่อง”
“เดี๋ยวเราไปส่งที่บ้านนะ”
“ฮือ”
ต่อขับรถตามเส้นทางที่บิวบอกเพื่อไปส่งบิวที่บ้าน ส่วนใจของเขานั้นแค้นเคืองยูโรยิ่งนัก เขาก็ไม่เข้าใจยูโรเหมือนกัน ในเมื่อไม่ชอบบิวก็แค่ปฏิเสธ ทำไมถึงต้องทำกันขนาดนี้
“ยูโรนี่ทำกับนายเกินไปนะ”
“ช่างเขาเถอะทุกอย่างมันจบแล้ว ต่อแต่นี้ไปเราจะไม่ไปยุ่งกับยูโร”
“ถ้างั้นเราก็มีสิทธิใช่ไหม”
“ไม่มีสิทธิหรอก เราบอกนายตั้งหลายรอบแล้ว เรื่องของเรามันเป็นไปไม่ได้”
“ทำไมล่ะ”
“สักวันนายจะเข้าใจ และอีกอย่างในโลกนี้ไม่ได้มีแค่เราคนเดียว”
“แต่”
“ไม่ต้องแต่หรอก ถึงบ้านเราแล้ว ขอบใจมากนะมิคกี้ นายเป็นเพื่อนที่ดีที่สุดของเรา”
เพียงบิวลงจากรถ ใจของต่อร้าวรานอีกครั้ง เขาคิดไปว่าการมาช่วยบิวในครั้งนี้น่าจะให้บิวใจอ่อน แต่ก็ไม่เป็นผลอันใดกับเขาเลย แต่อีกสิ่งที่มีผลกับจิตใจของต่อคือยูโรทำร้ายบิว ซึ่งเขาทนไม่ได้ ต่อกำลังจะโทรหายูโรเพื่อนัดมากระทืบหน้าบ้าน แต่เสียงโทรศัพท์มือถือก็ดังขึ้น
“ฮัลโหล มีอะไรบิว”
“อย่าไปทำอะไรยูโรนะ เราไม่ได้สงสารยูโรหรอก แต่เราสงสารนายมากกว่า เพราะนายเป็นลูกรัฐมนตรี ถ้านายทำอะไรไม่ดีลงไป มันส่งผลเสียถึงพ่อแม่นายด้วยรู้ไหม”
“ฮือ ขอบใจมาก”
“แค่นี้นะ”
บิวนั้นเรียกสติต่อกลับคืนมา เพราะสิ่งที่บิวเตือนนั้นมันเป็นความจริง ถ้าเขาทำอะไรลงไปกับยูโร ผลกระทบตามมาทันที ถึงแม้พ่อแม่ของมิคกี้จะไม่ใช่พ่อแม่จริงๆของเขา แต่ต่อก็ได้รับการดูแลเอาใจใส่อย่างดี เมื่อต่อคิดได้เช่นนั้นเขาจึงวกรถกลับบ้าน ด้วยหัวใจที่ยังแอบหวังว่า บิวจะเห็นคุณค่าของเขาสักวันหนึ่ง
ช่วงเวลาที่เลวร้ายของมิคกี้นั้นกลับมาเยือนอีกครั้ง เขานั่งเฝ้าสุกี้อยู่ข้างเตียงที่ไม่แตกต่างกับหน่อยแม้แต่น้อย สุกี้ต้องใช้เครื่องช่วยหายใจและให้อาหารทางสายยาง ในห้องที่สุกี้พักนั้นเป็นห้องรวม ซึ่งมีพ่อแม่และพี่สาวของสุกี้มาอยู่ด้วยตลอด “ขอบใจเรามากนะต่อ”พ่อของหน่อยพูดขึ้น ส่วนมิคกี้ในร่างต่อพยักหน้ารับคำ “แล้วคุณอาคิดไว้ว่าจะทำอย่างไรกับหน่อยครับ” “ทางเราตกลงกันไว้แล้วว่าจะปล่อยให้หน่อยไป เพราะยื้อไว้ก็ไม่มีทางรอดไม่ใช่ว่าอาไม่รักลูก ก็เพราะอารักลูกนี่แหละที่ต้องทำอย่างนี้” มิคกี้ไม่สิทธิอะไรในตัวหน่อย เขาจึงไม่สามารถที่จะพูดอะไรออกมาได้ มิคกี้ได้แต่มองร่างของหน่อยที่มีสายระโยงระยาง แต่ภายในนั้นเป็นตัวตนของสุกี้ มิคกี้ไม่สามารถที่จะอดทนกลั้นน้ำตาไว้ได้อีกต่อไป เขาจึงรีบเข้าไปในห้องน้ำอย่างโดยเร็ว มิคกี้ปิดประตูห้องน้ำและพิงประตู เขาค่อยๆเลื่อนตัวลงต่ำ จนก้นเกือบติดพื้นมิคกี้ใช้สองมือปิดหน้า น้ำตาของเขาได้หลั่งไหลพลั่งพลูออกมาอย่างไม่ขาดสาย มิคกี้ร้องไห้แท่บขาดใจ เพราะเขาไม่สามารถที่จะทำใจได้ “มิคกี้อยู่ในนั้นหรือเปล่า”เสียงชายหนุ่มดังขึ้น มิ
ถึงแม้เกรทจะเรียนจบตามที่ตั้งเป้าไว้ แต่เขาก็ไม่ได้มีความสุขแม้แต่น้อย เพราะคนที่เขาผูกพันที่สุดนั้นได้เดินทางไปเรียนต่อต่างประเทศ ใจจริงต่อก็อยากที่จะไปเรียนที่ต่างประเทศกับบิว แต่เขาหวังไว้ว่าสักวันหนึ่งมิคกี้ตัวจริงจะได้กลับมา และตัวของเขาจะได้กลับไปสู่อดีตที่จากมา ต่อนั่งครุ่นคิดนิ่งอยู่พักใหญ่ จนพายัพเดินมาเห็นลูกชายที่นั่งนิ่งเชย เหมือนมีอะไรคาใจอยู่มากมาย “ลูกพ่อเป็นอะไรคิดถึงบิวเหรอ บอกให้ไปเรียนต่อกับบิวก็ไม่ไปเองนี่” “เปล่าครับ ผมคิดอะไรไปเรื่อยๆครับ” “ลูกก็โตแล้วควรคิดได้แล้วว่าจะทำงานอะไร แต่พ่อก็ไม่ได้เร่งรีบให้ลูกทำงานหรอกนะพักให้หายเหนื่อยก่อนค่อยว่ากันก็ได้” “ครับพ่อ” “ทำไมลูกไม่ไปเที่ยวพักผ่อนสมองซะหน่อยล่ะ” “ไม่รู้จะไปเที่ยวไปหนครับ” “พอดีพ่อจะไปทำธุระที่ต่างจังหวัดไปกับพ่อไหม” “ไปก็ได้ครับ” “ถ้างั้นพรุ่งนี้ไปเลย” “ครับพ่อ”ต่อพยักหน้ารับคำอย่างยินดี ต่อรู้สึกแปลกใจว่าทำไมพ่อของเขาพามาที่วัด แต่ต่อก็ไม่ถามไถ่ผู้เป็นพ่อของเขาแต่อย่างใด จ
บ้านทรงไทยยกสูงในพื้นที่บริ เวณหลายสิบไร่ ภายในบ้านมีร่วมสิบห้องและหนึ่งในห้องนั้น ได้มีชายหนุ่มนอนหลับอย่างสบายกายและใจ จนจวบได้เวลายามเช้าตรู่ที่เขาต้องตื่นขึ้นมา ชายหนุ่มค่อยๆลืมตาขึ้นและเขาก็พบกับสิ่งแปลกใหม่ที่ไม่เคยพานพบได้เจอ เขารีบลุกขึ้นทันทีและมองไปรอบบริเวณห้อง ที่ค่อนข้างใหญ่พอสมควรแต่ไม่ใช้ปูน ที่ชายหนุ่มเห็นนั้นเป็นไม้รอบห้องส่วนพื้นก็ไม่ต่างกัน ชาหนุ่มผู้นั้นรีบลุกยืนขึ้นและลงจากเตียง แต่เขากับต้องไปเหยียบเนื้อนุ่มๆ จนสร้างความตื่นตระหนกตกใจเขารีบกระโดดขึ้นตียงทันที “โอ๊ย ลูกพี่ มาเหยียบกันทำไม”ไก่หนุ่มน้อยรีบลุกขึ้นนั่งทันที เมื่ออเขารู้สึกเจ็บที่อก เพราะชายหนุ่มผู้นั้นได้เหยียบที่หน้าอกของเขา “นายเป็นใคร เรามาอยู่ที่นี่ได้อย่างไรกัน”มิคกี้มีสีหน้าตกใจ เพราะสิ่งที่เขาพบเจอและได้เห็นมันช่างแตกต่างจากห้องของเขาสิ้นเชิง “ลูกพี่ กินยาผิดสำแดงอะไรอีกล่ะ”ไก่เกาศีรษะแก๊กๆด้วยความมึนงง “นายจับเรามาเรียกค่าไถ่ใช่ไหม”มิคกี้มองหน้าไก่ที่กำลังมีสีหน้ามึนงง “เรียกค่าไถ่อะไรล่ะลูกพี่ ที่นี่มันบ้านของลูกพี่ บ้านกำนันบุญมี” “ใครกันกำนันบุญมี”มิคกี้มีสีหน้าที่สงสัย “ก็พ่อ
เมื่อมิคกี้กินข้าวไข่เจียวที่จันทราหญิงสาวที่อ้างเป็นแม่ทอดให้กินแล้ว เขาก็ได้ออกมานั่งนอกชานกับกำนันบุญมีและจันทรา หลังจากนั้นกำนันบุญมีจึงถามไถ่เรื่องเรียนให้คลายสงสัย “แล้วมึงจะไปสมัครเรียนเมื่อไร”กำนันบุญมีมองหน้ามิคกี้ด้วยความอิ่มเอม “อีกสองสามวันเดี๋ยวไปสมัครครับ” “มึงอยากได้อะไรบอกพ่อมา เดี๋ยวพ่อจัดหาให้ทุกอย่าง พ่อดีใจมากที่มึงคิดได้ซะที” “พ่อ”จันทราหยิกที่แขนเพื่อเตือนสติสามี เพราะจันทรากลัวว่าลูกชายจะขออะไรที่เกินไป “แม่จันทรานี่มาหยิกพ่อทำไม” “พ่อครับ ทุกอย่างที่จะหาให้ผมเลยใช่ไหม”มิคกี้ยิ้มในใจทันที “ใช่ซิว่ะพ่อจะโกหกมึงทำไม” “ถ้างั้นผมขอเลยนะ”มิคกี้ถึงจะไม่รู้ว่าสองคนนี้เป็นใคร แต่ที่เขาเริ่มแน่ใจแล้วว่าสองคนนี้รักเขาเหมือนลูกแท้ๆแน่นอน มิคกี้จึงเริ่มสนิทใจที่จะขอสิ่งต่างๆ “ไอ้ไก่มึงไปเตรียมปากกากับสมุดมาจดเดี๋ยวนี้”เมื่อไก่ได้ยินคำสั่งของกำนัน เขาจึงรีบไปนำสมุดปากกามาเตรียมจดทันที “อย่างแรกในห้องนอนของผม ไม่มีเฟอร์นิเจอร์อะไรเลย ผมขอ ทีวีจอแบน จอตู้หนาๆโบราณๆ แบบที่ตั้งอยู่กลางบ้านนั่นไม่เอานะ แล้วก็แอร์ด้วยมันร้อนมาก ผมเป็นคนขี้ร้อน นอนไม่ค่อยหลับถ้
มิคกี้ชวนเกรทมาที่บ้าน ส่วนเกรทก็ตามมาอย่างง่ายดาย เพราะแต่ก่อนเกรทก็มาเป็นประจำ พึ่งหายไปช่วงที่เรียนจบ เพราะเกรทต้องเตรียมตัวสอบเข้ามหาวิทยาลัย เมื่อมาถึงที่บ้านของกำนัน เกรทก็ชวนมิคกี้เป็นเล่นน้ำที่แม่น้ำ ที่ทั้งสองเคยเล่นกันเป็นประจำ เมื่อมาถึงที่บ้านกำนันบุญมี มิคกี้ได้ให้ไก่เอาของที่ซื้อมา ไปเก็บไว้ที่ห้องของมิคกี้ หลังจากนั้นมิคกี้กลับเกรทก็เดินไปยังแม่น้ำ ซึ่งไม่ไกลจากบ้านกำนันบุญมีมากนัก “ตกลงนายจะเรียนไหม”เกรทเป็นฝ่ายถามก่อน พร้อมเดินนำทางไปยังแม่น้ำ ซึ่งเขาก็แปลกใจเหมือนกันที่มิคกี้บอกจำทางไปแม่น้ำไมได้“เรียนซิ อีกสองสามวันจะไปสมัครสอบ”“นายจะเรียนคณะอะไรล่ะ แล้วเรียนที่ไหน”“ที่มหาลัยพิพัฒนเมธา คณะ รัฐศาสตร์ ตอนแรกจะเรียนบริหาร พ่อไม่ให้เรียนอยากให้เราเรียนรัฐศาสตร์ “แปลก ปกติพ่อกำนันให้ไปซ้ายนายจะไปขวา จะทำอะไรตรงข้ามตลอด แต่อะไรดลใจนายให้ตามใจพ่อกำนัน”“ก็ท่านเป็นพ่อไง เราก็ตามใจท่านซักหน่อย นายล่ะเรียนคณะอะไร”“อักษรศาสตร์ มหาวิทยาลัยเดียวกับนายนั่นแหละ”“ว้าว สุดยอดไปเลย”“อะไรของนาย ว้าว ว้าว ว้าว เราล่ะปวดกับคำพูดของนายจังเลย”“อีกหน่อยเดี๋ยวก็ชิน”“คงน
“ไม่ลืมหรอก ว่าแต่นายจะมาจริงหรือเปล่าก็แค่นั้นแหละ” มิคกี้เปลื่ยนช่องไปเรื่อยๆก็ยังมีรายการเก่าๆละครโบราณ เขาเลยคิดว่าช่องต่างๆรีรันละครกันทุกช่อง จนมิคกี้ย้ายมาที่ช่อง15 เป็นรายการข่าวภาคเย็น “สวัสดีครับ วันนี้วันที่ 1 มีนาคม พ.ศ.2538 เป็นวันหวยออก ผลรางวัลที่1 411454 ครับ”มิคกี้เริ่มงงและสับสนเพราะปีนี้มันปีที่2567 ทำไมข่าวรายงานหวยออกเป็นวันที่1มีนาคม 2538 มิคกี้หันไปหาเกรทที่เปลื่ยนเสื้อผ้าเสร็จแล้ว และกำลังจะขึ้นไปนอนบนเตียง“ปีนี้ปี 2567ไม่ใช่เหรอ ทำไมนักข่าวบอกว่า 2538ว่ะ แค่วันเดือนปียังรายงงานผิดเลย”มิคกี้พูดขึ้น“นายนั่นแหละประสาทแดก นักข่าวเขาก็พูดถูกแล้วนี่ปีนี้ พ.ศ.2538”“ไม่ใช่ปีนี้ 67”“ยังจะมาเถียงนายดูปฏิทินโน้นปีนี้ 38”“นายนั่นแหละประสาทปีนี้67”มิคกี้เดินไปดูปฏิทินซึ่งก็เป็นปี2538 จริงๆ“เป็นไงเชื่อหรือยัง”“ไม่ใช่หรอก ปฏิทินปีนี้67ต่างหาก”ถึงมิคกี้จะเถียงเกรทคอเป็นเอ็น แต่เขาก็หวั่นใจอยู่เหมือนกันมิคกี้จึงย้ายช่องทีวีใหม่ซึ่งก็มีแค่ 13 15 17 19 14 เขาย้ายวนมาวนไปก็มีแค่ห้าช่อง จนเขาเริ่มหงุดหงิดจนเหวี่ยงรีโมททิ้งบนที่นอน“ทำไมมีแค่ห้าช่องเอง เดี๋ยวนี้เป็
เมื่อมิคกี้มาถึงบ้านก็เห็นคุณหญิงโสภิตาแม่ของเขานั่งรอยอยู่ที่ห้องรับแขก พร้อมกับพายัพพ่อของเขาซึ่งเป็นรัฐมนตรี และอีกหนึ่งคนชายหนุ่มรุ่นเดียวกับพ่อแม่ของเขา “มิคกี้มานี่หน่อย”คุณหญิงโสภิตาปราดสายตามองมิคกี้ จนมิคกี้ไม่กล้าปฏิเสธที่จะเดินเข้ามา “มีอะไรเหรอครับแม่” “นั่งลงก่อนซิ ยืนค้ำหัวผู้ใหญ่อยู่ได้” “ครับแม่”มิคกี้นั่งลงๆข้างๆพ่อของเขา “เดี๋ยวแม่จะแนะนำเพื่อนแม่ให้รู้จักนะ นี่อาเกรท เพื่อนร่วมรุ่นของแม่คณะอักษรศาสตร์ ที่มหาวิทยาลัยพิพัฒนเมธา” “หวัดดีครับอา”เพียงมิคกี้หันไปมองหน้าเกรทเขาถึงกับตกใจ เพราะทั้งชื่อและหน้าคุ้นมาก มิคกี้จึงคิดย้อนหลังก่อนหน้าที่เขาสลบไป ทั้งชื่อและหน้าตานั่นคือเกรทชัดๆ เพียงแต่ตอนนี้ดูมีอายุขึ้น แต่เค้าโครงหน้ายังเหมือนเกรทตอนหนุ่ม ที่เขาพึ่งได้พบเจอเมื่อไม่นานนี้ ซึ่งมิคกี้คิดว่าเป็นความฝัน “หน้าตาเหมือน โสภิตา มากเลย ส่วนรูปร่างสูงใหญ่ได้พ่อแน่ๆ”เกรทยิ้มให้มิคกี้ ซึ่งมิคกี้ก็ยิ้มตอบ “ขอบคุณครับ แต่ผมคุ้นหน้าคุณอามากเลย” “อาจจะเห็นในรูปก็ได้นะ เพราะอากับคุณแม่มิคกี้ก็ถ่ายรูปด้วยกันบ่อยๆ” “ผมว่าเห็นในฝันตอนอาหนุ่มๆ” “มิคกี้”คุณหญิงโ
มิคกี้สะลืมสะลืออยู่บนหัวบันได้บ้านของกำนันบุญมี ตอนนี้เขารู้สึกมึนๆงงและสับสนเสียงของผู้คนบนบ้าน พอมิคกี้ลืมตาก็เห็นกำนันบุญมียืนอยู่ตรงหน้า “ไอ้ต่อมึงจะไปสอบไหม ถ้าไม่สอบสิ่งที่มึงขอกูจะยืดคืนให้หมด ไม่ต้องเอาสักอย่างกูอุตส่าห์ตามใจมึงทุกสิ่งที่มึงอยากได้” “สอบอะไร”มิคกี้มึนงงและเริ่มที่จะจำได้นิดหน่อย “สอบเข้ามหาวิทยาลัยไง มึงรับปากกูแล้วว่าจะสอบ แล้วมึงมาเปลื่ยนใจได้อย่างไง” “อ๋อ ก็ไปสอบไงไปเลย เดี๋ยวไปเก็บเสื้อผ้าก่อน”มิคกี้กำลังจะเดินเข้าห้อง เพราะเขาเริ่มที่จะจำความต่างๆได้แล้ว “ไม่ต้องไปเลย กูให้ไอ้ไก่เตรียมไว้มึงหมดแล้ว” “ถ้างั้นไปได้เลย แล้วไปอย่างไงล่ะพ่อ” “เดี๋ยวกูจะให้อามึงไปด้วย” “อาไหน”มิคกี้งง “ก็อานกของมึงไง ทำเป็นจำไม่ได้ไอ้นี่มันวอนซะแล้ว” “ถ้างั้นก็ไปเลย”มิคกี้เอ่ยขึ้นแบบงง “โชคดีนะต่อ” จันทราเดินเขามาใกล้ๆมิคกี้เพื่ออวยพร “ครับแม่”มิคกี้ยกมือไหว้จันทราและหันไปไหว้กำนันบุญมี “รีบไปอย่ามัวลีลากูเห็นแล้วรำคาญลูกตา”พ่อกำนันพูดขึ้น “ครับ กำนันบุญมี”เมื่อมิคกี้พูดจบเขาก็รีบลงบันได้ไปในทันที “ไอ้ต่อ ถึงกูจะเป็นกำนันกูก็เป็นพ่อมึงนะ”กำนันตะ