ต่อนั้นไม่สามารถที่จะเรียนและเข้าใจเนื้อหาในตำราเรียนได้ เพราะมิคกี้อยู่ถึงปีสามคณะบริหารธุรกิจ เขาจึงต้องให้บิวเพื่อนรักมาติวสอนที่บ้านอยู่เป็นประจำ และในวันนี้ก็เช่นเดียวกัน ซึ่งต้องมีการทำรายงานส่ง บิวจึงต้องมาช่วยเพื่อนรักไม่งั้นต่อในร่างของมิคกี้อาจเรียนไม่จบ
บิวช่วยต่อทำรายงานจนเกือบสี่ทุ่มถึงเสร็จ ซึ่งทำให้ต่อนั้นซึ้งในน้ำใจบิวเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ยิ่งหน้าตาออกแนวน่ารักสดใจ ต่อจึงมีใจให้บิวจนสุดหัวใจ
“เสร็จซะทีเนาะ”บิวบิดขึ้เกียจ
“ใช่ เสร็จซะที ถ้าไม่ได้นายเราคงแย่แน่เลย”
“เราก็ไม่เข้าใจนายเหมือนกัน ทำกับเด็กพึ่งอยู่ปีหนึ่ง นี่จะจบการศึกษาแล้วนะ ยังไม่รู้เรื่องอะไรเลย”
“เรามันโง่ไง ฉลาดสู้บิวก็ไม่ได้”
“ไม่ต้องมาชมให้เปลืองน้ำลายเลย”
“ชมก็ไม่ได้ ถ้างั้นไปหาอะไรกินข้างล่างไหม”
“ไม่ไปหรอก อยู่บนห้องนี้แหละกลัวนางยักษ์”
“นายนี่ร้ายว่าแม่เลี้ยงเราอีก”
“หรือว่าไม่จริง”
“ก็จริงน่ะซิ อย่าพูดเรื่องอื่นเลย บิวไปอาบก่อนเถอะ เราจะได้นอนกันซะที เราง่วงนอนมากเลยรู้ไหม”
“จร้า”
บิวรับคำแล้วลุกขึ้นถอดเสื้อจนเผยเห็นผิวกายที่ขาวใสออร่ากระจาย ต่อจ้องมองอย่างหื่นกระหายใคร่อยากได้ ยิ่งให้นมสีชมพูเขารู้สึกหิวอยากเข้าไปสัมผัสดื่มดูด
“มองอะไร”บิวรีบเอามือปิดหัวนมทันที
“มองคนน่ารัก”ต่อยิ้ม
“รู้แล้วน่ารัก ไม่ต้องชมทุกเวลาหรอก”
บิวมองต่ออยู่พักหนึ่ง เขาจึงเดินเข้าห้องน้ำไป ปล่อยให้ต่อนั่งเพ้อมโนตามลำพัง ต่อรู้สึกตื่นเต้นที่จะได้ใกล้ชิดกับบิว และอยากได้สัมผัสบิวในคืนนี้ แต่เขาก็ยังไม่รู้ว่าจะทำอย่างไร จนบิวอาบน้ำเสร็จออกมา ต่อก็ยังนั่งนิ่งไม่ขยับกายไปไหน
“ไปอาบน้ำได้แล้ว จะได้เข้ามานอนกัน”
“นอนกัน”ต่อย้ำ
“ก็ใช่น่ะสิ”
“นายยอมนอนกับเราเหรอ”
“ถ้าไม่ให้นอนกับนายแล้วจะให้เรานอนกับใคร หรือว่าจะให้เราไปนอนกับยูโร”
“เปล่า ๆ เราไปอาบน้ำก่อน อย่าพึ่งหลับล่ะ เราอาบน้ำไม่นานหรอก”ต่อรีบเปลื่ยนเสื้อผ้าและเข้าไปในห้องน้ำทันที
บิวส่ายหน้าด้วยความเอ็นดูต่อในร่างมิคกี้ บิวยืนยิ้มอยู่พัก หลังจากนั้นเขาก็ขึ้นไปนอนบนเตียง และหลับตาลงแต่ยังไม่ได้หลับซะทีเดียว เมื่อต่อออกมาจากห้องน้ำ เขาได้เห็นบิวนอนนิ่งๆ ต่อก็คิดว่าบิวคงอ่อยเขา และรอเขาจนเผลอหลับไปอย่างแน่นอน
ต่อจึงเช็ดตัวให้แห้งแล้วขึ้นไปบนเตียง เขาจ้องมองหน้าบิวแล้วอมยิ้ม หลังจากนั้นเขาค่อยๆก้มศีรษะจุมพิตที่แก้มของบิว แต่ไม่มีปฏิกิริยาตอบสนองจากบิว เพราะเขาได้หลับลงไปแล้วอย่างง่าย
ต่อจึงนอนลงข้างๆ และโอบกอดบิวอย่างทะนุถนอม ถึงตอนนี้เขาอยากมีความสัมพันธ์ทางกายกับบิวใจจะขาด แต่เขาก็อดใจไว้รอให้บิวตื่นตอนเช้าก่อน เพราะพรุ่งนี้ยังมีเวลาอีกทั้งวันที่จะสามารถสานต่อความสัมพันธ์นี้ได้ ต่อนอนกอดบิวจนหลับตามไปในที่สุด
ใกล้รุ่งสางต่อรู้สึกตื่นตัวและตื่นเต้น เขาลืมตาขึ้นเห็นบิวนอนตะแครงหันหลังให้เขา จิตใจของเขาตอนนี้ อยากจะสัมผัสบั้นท้ายที่กลมตึง ต่อค่อยๆเอื่อมมือแตะที่ก้นของบิว ต่อขย้ำนิดหน่อยและปล่อยออก
ต่อชะโงกหน้ามองใบหน้าของบิวที่กำลังหลับปุ๋ย เขาก้มลงจูบที่แก้มของบิวและไล่ลงสัมผัสที่ซอกคอ ส่วนมืออีกข้างหนึ่งก็ล้วงเข้าไปภายในกางเกงของบิว เพื่อที่จะจับก้นที่แสนนุ่มของบิว เขาลูบไล้สัมผัส และใช้มือแหย่ล้ำเข้าไปกลีบช่องทางรัก ต่อใช้นิ้วค่อยๆแหย่เข้าที่ช่องทางรัก ส่วนริมฝีปากก็ซอกซอนไซร้ซอกคอไม่หยุดหย่อน
บิวยิ้มฉ่ำอุรา บิวกำลังฝันว่ายูโรเป็นฝ่ายกระทำเขา จนปล่อยอารมณ์ฝันไปไกล ต่อเอานิ้วมือที่แหย่ที่ช่องทางรักออก และค่อยๆดึงกางเกงนอนของบิวออกจนพ้นบั้นท้าย ต่อลูบบั้นท้ายที่ขาวเนียนของบิว
“ขอเอาข้างหลังนะ”ต่อพูดขึ้น
“ฮือ”
ต่อแสนดีใจที่บิวตอบรับ เขาจึงถอดกางเกงออกจนท่อนเอ็นกระเด้งแข็งชูชัน ต่อเอาจ่อที่ช่องทางรัก ด้วยความที่บิวไม่ค่อยเจอเรื่องแบบนี้บ่อย เขาจึงรู้สึกเจ็บจึงพลิกร่างตะแครงหันหน้ามามอง และเขาก็ลืมตาขึ้น บิวตกใจดึงกางเกงขึ้นทันที และมองไปที่ท่อนเอ็นขนาดเล็กแต่ขยายใหญ่เต็มตัวของต่อ บิวตกใจลุกขึ้นนั่งทันที
“มิคกี้นายทำอะไรลงไป เราเป็นเพื่อนกันนะ”
“ใช่ เราเป็นเพื่อนกัน แต่เราก็รักกันได้นะ สามารถที่จะมีอะไรกันก็ได้”มิคกี้ดึงกางเกงปิดท่อนเอ็นและลุกขึ้นนั่งตามบิว
“แต่ไม่ใช่กับเรา”
“ทำไมล่ะ”ต่อมีสีหน้าที่ไม่เข้าใจ
“เรามีความเป็นเพื่อนมากกว่าที่จะเป็นแฟน”
“ก็มีหลายคู่จากเพื่อนกลายมาเป็นแฟน”
“นั่นมันก็จริงแต่เราทำไม่ได้หรอก อย่างแรกนายเป็นแฟนเก่าของเพื่อนสนิทเรา ถึงแม้ตอนนี้เราจะไม่ค่อยสนิทกับบอมบอมแล้วก็ตาม แต่เราก็ยังไม่สามารถที่จะทำเช่นนั้นได้”
“เราไม่รู้ว่าเรื่องราวระหว่างนายกับบอมบอมเกิดอะไรขี้นน่ะ แต่ที่เรารู้เราชอบนายมาก”
“ที่นายชอบเรา นายคิดว่าเราคงเป็นตัวแทนบอมบอม เราทำใจไม่ได้หรอกที่นายจะคิดเช่นนั้น”
“เราไม่ใช่มิคกี้ เราต่อมาจากอดีต ตัวเราไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกับมิคกี้”
“เพ้อเจ้อไปกันใหญ่ เรายื่นคำขาดถ้านายยังมายุ่มย่ามกับเราเรื่องนี้อีก เราเลิกคบกันทันที”
“ใช่สิ เราไม่ใช่ยูโรนี่ เราไม่ใช่คนสำคัญสำหรับนาย”ต่อหน้าบึ้ง
“นายนั่นแหละเป็นคนสำคัญสำหรับเรา เพราะนายช่วยเหลือเราหลาอยย่างเรายังจำได้ไม่ลืม แต่ยูโรแค่คนที่เราแอบชอบ แต่ท้ายที่สุดถ้าเขาไม่ชอบเรา ทุกอย่างมันก็จบเราก็ทำใจได้ แต่นายไม่ใช่นายเป็นเพื่อน เป็นผู้มีพระคุณกับเรา นายต้องสำคัญมากกว่ายูโรอยู่แล้ว”
“ถ้าเป็นอย่างงั้นนายก็ต้องรักเราได้”
“ไม่ได้ นายเป็นเพื่อนที่เรารักที่สุด ถ้านายไม่อยากจะเสียเพื่อนไปนายควรทำใจ รักเราแบเพื่อนเหมือนแต่ก่อน เราเข้าใจนายอกหักจากบอมบอม แล้วสุกี้คนที่นายรักได้เสียชีวิตไปแล้ว นายคงทำใจลำบาก แต่เราเป็นเพื่อนนายน่ะมิคกี้”
ต่อรู้สึกเศร้าใจเสียความรู้สึกที่มีต่อบิวอย่างมาก เขาก็ไม่เข้าใจตัวเองเหมือนกันถึงมาชอบบิวได้มากมายขนาดนี้ แต่ทำไมเขาถึงไม่รู้สึกชอบยูโรแม้แต่น้อย
“นายรักยูโร แต่ ยูโรไม่ได้รักนายนี่”
“เรารู้ แต่เราจะทำให้ยูโรรักเราให้ได้”
“เราก็เช่นเดียวกัน เราจะทำให้นายรักเราให้ได้”
“มิคกี้ มันไม่เหมือนกัน เรามีเพื่อนที่ลักษณะคล้ายๆเรา บอมบอม สุกี้ นายสนใจไหมเราจะติดต่อให้นาย และมีหลายคนแอบชอบนายอยู่เหมือนกัน”
“เราไม่เอาใครทั้งนั้น เอ่อ ทำไมยูโรจะไม่เหมือน ไอ้ยูโรมันยังรักเราได้”ต่อเผลอพูดออกไปอย่างไม่ได้ตั้งใจ
“เป็นไปไม่ได้ ยูโรเป็นเหมือนนาย อย่ามาเพ้อเจ้อ”
ในเมื่อต่อเผลอพูดออกไปแล้ว เขาจึงตัดสินใจจะพูดความจริงให้หมด เพื่อที่จะให้บิวได้ทำใจเรื่องยูโร ถึงแม้เรื่องนี้ไม่สามารถที่จะทำให้บิวรักเขาได้ แต่อย่างน้อยสามารถทำให้บิวเลิกรักยูโรได้ แค่นี้ต่อก็พอใจอย่างมาก เพราะอนาคตเขาสามารถที่จะทำให้บิวรักเขาได้ ต่อคิดไว้เช่นนั้น
“เพ้อเจออะไร มันจะมาลักหลับเรา แต่เราไม่ยอม แต่มันก็ยอม”
“ยอมอะไร”
“ยอมเป็นของเราไง มันยอมเป็นทุกอย่าง ยอมให้เราเอาข้างหลังยอมอมให้เรา”
บิวตกตะลึงกับคำพูดของต่อ แต่เมื่อเขาคิดให้ถี่ถ้วนอีกครั้ง ซึ่งบิวก็เห็นความเป็นไปได้หลายอย่าง เพราะทุกครั้งที่ยูโรอยู่กับต่อ เขาจะมีอาการที่ดีใจเป็นพิเศษ เขายังอดแปลกใจไมได้เลยว่าสายตาที่ยูโรมองมิคกี้นั้น ไม่น่าใช่สายตาที่มองแบบเพื่อน
“ทำไมนายไม่ยอม”
“ก็เราไม่ได้รักยูโรแต่เรารักนาย”
“นายรู้สึกหรือยัง”
“รู้สึกอะไร”
“นายก็น่าจะเข้าใจความรู้สึกของยูโรตอนนี้ ที่นายปฏิเสธปฏิเสธยูโรน่ะ และอีกอย่างนายถูกเราปฏิเสธด้วย นายรับความรู้สึกนี้สองอย่างในเวลาเดียวกัน”
“เราไม่เข้าใจ เราไม่คิดอะไรทั้งนั้น”ต่อมีสีหน้าที่งงนิดหน่อย
“ถ้านายอยากอยู่อย่างเจ็บๆ นายก็อยู่ไป แต่เราไม่เอาด้วยหรอก”
“นายก็เจ็บเหมือนกันกับยูโร”
“เราไม่อยู่หรอกแบบเจ็บๆ ถ้าท้ายที่สุดแล้วยูโรไม่สามารถรักเราได้ ทุกอย่างก็จบ”
บิวคิดไว้แล้วว่าจะไปหายูโรที่บ้าน เพื่อไปสอบถามความจริงที่ต่อพูดมานั้นจริงเท็จแค่ไหน
“แต่ว่า บิวเราทำใจไม่ได้จริงๆ”
“ แต่เราคิดว่านายทำใจได้ เพราะกับบอมบอมนายยังทำใจได้เลย ไหนจะสุกี้อีก นายทำใจเร็วเวอร์”
ต่อมองหน้าบิวแล้วก้มหน้าลงต่ำลง เพราะทั้งสองคนที่บิวว่ามาต่อไม่รู้จัก แต่ไม่รู้จะสามารถอธิบายให้บิวเข้าใจได้อย่างไง ส่วนบิวมองต่อแล้วหลับตาถอนหายใจ และคิดว่าจะต้องไปเคลียร์กับยูโรให้จบเรื่องรักสามเส้าซักที
ช่วงเวลาหลายวันที่ผ่านมา มิคกี้และเกรทได้ปรับความเข้าใจกันพอสมควร จึงทำให้มิคกี้ไม่ค่อยได้มีเวลาไปหาสุกี้เท่าไรหนัก ในระหว่างที่มิคกี้และเกรทกำลังกินข้าวกันพร้อมพูดคุยกันอย่างสนุกสนาน แต่ก็มีเหตุการณ์ที่ขัดจังหวะทั้งสอง “ก๊อก ก๊อก ก๊อก”เสียงเคาะประตูดังขึ้นในระหว่างที่ทั้งสองคุยกัน อย่างสนุกและออกรสชาติ “ใครกัน”มิคกี้อารมณ์เสียทันที “เดี๋ยวเราไปเปิดดูก่อนนะ”เกรทเดินไปเปิดประตูทันที “มิคกี้ อ้าวเกรท”สุชาดามองเข้าไปข้างในเพื่อดูมิคกี้ “มีอะไรสุชาดา”มิคกี้ลุกขึ้นยืน “หน่อยเป็นอะไรก็ไม่รู้ นอนซึมเรียกเท่าไรก็ไม่ตื่น เราก็ไม่รู้จะทำอย่างไงดี”สุชาดามีสีหน้าที่วิ ตกกังวลอย่างหนัก “เดี๋ยวเราขึ้นไปดู”มิคกี้รีบเดินไปที่ประตูหาสุชาดา แต่เขาก็ผ่านหน้าเกรท “เดี๋ยวเรามานะ ไปดูสุกี้ก่อน”มิคกี้หันมาพูดกับเกรท “ฮือ”เกรทพยักหน้า เกรทมีสองความรู้สึกทั้งสงสารและแอบหึงสุกี้ ที่ได้ความรักจากมิคกี้ ส่วนตัวเกรทเขานั้นไม่แน่ใจว่ามิคกี้คิดเช่นไร เมื่อมิคกี้กับสุชาดามาถึงที่ห้องของสุกี้ ก็ต้องพบสภาพสุกี้นอนซมไม่ได้สติ มิคกี้เขย่าร่างก็ไม่ขยับเขยื่อน ร่างกายของสุกี้นั้นซี
ด้วยความโกรธโมโหยูโรที่กระทำต่อมิคกี้ และแอบน้อยใจที่ยูโรมีใจให้มิคกี้ บิวจึงไปดักรอยูโรที่สนามฟุตบอล เมื่อยูโรออกมาจากสนามฟุตบอล บิวเดินเข้าไปหาทันทีและต่อว่ายูโรไม่ยั้ง “นายเป็นเพื่อนมิคกี้นะ ทำไมนายทำกับมิคกี้อย่างนั้น” “ทำอะไร” “ก็นายจะทำแบบนั้นกับมิคกี้นั่นไง” “แบบไหนบอกมาซิ”ยูโรมีสีหน้าที่กวนบิวพอสมควร “พูดตรงนี้ไม่ได้ต้องไปคุยในรถ” “ก็ได้ นายไม่ได้เอารถมาเหรอ” “เปล่า” “แผนสูงที่จะให้เราไปส่งแน่เลย” “ใช่” “ตามมา”ยูโรแสยะยิ้มแล้วเดินนำหน้าบิว เมื่อทั้งสองอยู่ในรถ บิวมองยูโรไม่ว่างสายตาเลย จนยูโรรู้สึกรำคาญ เพราะเขาไม่ค่อยชอบผู้ชายที่อ้อนแอ้นและบอบบางซักเท่าไร “มองคนหล่อทำไม” “ยอมรับว่านายหล่อ แต่นายใจไม่หล่อ” “ไม่หล่อตรงไหน” “ก็คิดไม่ดีกับมิคกี้” “นายก็คิดไม่ดีกับเราเหมือนกันไม่ใช่เหรอ นายก็เป็นคนไม่ดีด้วย” “ถึงเราจะคิดไม่ดีกับนาย แต่เราก็ไม่ได้ทำอะไรนายนี่ เพราะเรารู้ว่านายยังไม่ได้รักเรา” “รู้ก็ดีแล้ว
ช่วงเวลาที่เลวร้ายของมิคกี้นั้นกลับมาเยือนอีกครั้ง เขานั่งเฝ้าสุกี้อยู่ข้างเตียงที่ไม่แตกต่างกับหน่อยแม้แต่น้อย สุกี้ต้องใช้เครื่องช่วยหายใจและให้อาหารทางสายยาง ในห้องที่สุกี้พักนั้นเป็นห้องรวม ซึ่งมีพ่อแม่และพี่สาวของสุกี้มาอยู่ด้วยตลอด “ขอบใจเรามากนะต่อ”พ่อของหน่อยพูดขึ้น ส่วนมิคกี้ในร่างต่อพยักหน้ารับคำ “แล้วคุณอาคิดไว้ว่าจะทำอย่างไรกับหน่อยครับ” “ทางเราตกลงกันไว้แล้วว่าจะปล่อยให้หน่อยไป เพราะยื้อไว้ก็ไม่มีทางรอดไม่ใช่ว่าอาไม่รักลูก ก็เพราะอารักลูกนี่แหละที่ต้องทำอย่างนี้” มิคกี้ไม่สิทธิอะไรในตัวหน่อย เขาจึงไม่สามารถที่จะพูดอะไรออกมาได้ มิคกี้ได้แต่มองร่างของหน่อยที่มีสายระโยงระยาง แต่ภายในนั้นเป็นตัวตนของสุกี้ มิคกี้ไม่สามารถที่จะอดทนกลั้นน้ำตาไว้ได้อีกต่อไป เขาจึงรีบเข้าไปในห้องน้ำอย่างโดยเร็ว มิคกี้ปิดประตูห้องน้ำและพิงประตู เขาค่อยๆเลื่อนตัวลงต่ำ จนก้นเกือบติดพื้นมิคกี้ใช้สองมือปิดหน้า น้ำตาของเขาได้หลั่งไหลพลั่งพลูออกมาอย่างไม่ขาดสาย มิคกี้ร้องไห้แท่บขาดใจ เพราะเขาไม่สามารถที่จะทำใจได้ “มิคกี้อยู่ในนั้นหรือเปล่า”เสียงชายหนุ่มดังขึ้น มิ
ถึงแม้เกรทจะเรียนจบตามที่ตั้งเป้าไว้ แต่เขาก็ไม่ได้มีความสุขแม้แต่น้อย เพราะคนที่เขาผูกพันที่สุดนั้นได้เดินทางไปเรียนต่อต่างประเทศ ใจจริงต่อก็อยากที่จะไปเรียนที่ต่างประเทศกับบิว แต่เขาหวังไว้ว่าสักวันหนึ่งมิคกี้ตัวจริงจะได้กลับมา และตัวของเขาจะได้กลับไปสู่อดีตที่จากมา ต่อนั่งครุ่นคิดนิ่งอยู่พักใหญ่ จนพายัพเดินมาเห็นลูกชายที่นั่งนิ่งเชย เหมือนมีอะไรคาใจอยู่มากมาย “ลูกพ่อเป็นอะไรคิดถึงบิวเหรอ บอกให้ไปเรียนต่อกับบิวก็ไม่ไปเองนี่” “เปล่าครับ ผมคิดอะไรไปเรื่อยๆครับ” “ลูกก็โตแล้วควรคิดได้แล้วว่าจะทำงานอะไร แต่พ่อก็ไม่ได้เร่งรีบให้ลูกทำงานหรอกนะพักให้หายเหนื่อยก่อนค่อยว่ากันก็ได้” “ครับพ่อ” “ทำไมลูกไม่ไปเที่ยวพักผ่อนสมองซะหน่อยล่ะ” “ไม่รู้จะไปเที่ยวไปหนครับ” “พอดีพ่อจะไปทำธุระที่ต่างจังหวัดไปกับพ่อไหม” “ไปก็ได้ครับ” “ถ้างั้นพรุ่งนี้ไปเลย” “ครับพ่อ”ต่อพยักหน้ารับคำอย่างยินดี ต่อรู้สึกแปลกใจว่าทำไมพ่อของเขาพามาที่วัด แต่ต่อก็ไม่ถามไถ่ผู้เป็นพ่อของเขาแต่อย่างใด จ
บ้านทรงไทยยกสูงในพื้นที่บริ เวณหลายสิบไร่ ภายในบ้านมีร่วมสิบห้องและหนึ่งในห้องนั้น ได้มีชายหนุ่มนอนหลับอย่างสบายกายและใจ จนจวบได้เวลายามเช้าตรู่ที่เขาต้องตื่นขึ้นมา ชายหนุ่มค่อยๆลืมตาขึ้นและเขาก็พบกับสิ่งแปลกใหม่ที่ไม่เคยพานพบได้เจอ เขารีบลุกขึ้นทันทีและมองไปรอบบริเวณห้อง ที่ค่อนข้างใหญ่พอสมควรแต่ไม่ใช้ปูน ที่ชายหนุ่มเห็นนั้นเป็นไม้รอบห้องส่วนพื้นก็ไม่ต่างกัน ชาหนุ่มผู้นั้นรีบลุกยืนขึ้นและลงจากเตียง แต่เขากับต้องไปเหยียบเนื้อนุ่มๆ จนสร้างความตื่นตระหนกตกใจเขารีบกระโดดขึ้นตียงทันที “โอ๊ย ลูกพี่ มาเหยียบกันทำไม”ไก่หนุ่มน้อยรีบลุกขึ้นนั่งทันที เมื่ออเขารู้สึกเจ็บที่อก เพราะชายหนุ่มผู้นั้นได้เหยียบที่หน้าอกของเขา “นายเป็นใคร เรามาอยู่ที่นี่ได้อย่างไรกัน”มิคกี้มีสีหน้าตกใจ เพราะสิ่งที่เขาพบเจอและได้เห็นมันช่างแตกต่างจากห้องของเขาสิ้นเชิง “ลูกพี่ กินยาผิดสำแดงอะไรอีกล่ะ”ไก่เกาศีรษะแก๊กๆด้วยความมึนงง “นายจับเรามาเรียกค่าไถ่ใช่ไหม”มิคกี้มองหน้าไก่ที่กำลังมีสีหน้ามึนงง “เรียกค่าไถ่อะไรล่ะลูกพี่ ที่นี่มันบ้านของลูกพี่ บ้านกำนันบุญมี” “ใครกันกำนันบุญมี”มิคกี้มีสีหน้าที่สงสัย “ก็พ่อ
เมื่อมิคกี้กินข้าวไข่เจียวที่จันทราหญิงสาวที่อ้างเป็นแม่ทอดให้กินแล้ว เขาก็ได้ออกมานั่งนอกชานกับกำนันบุญมีและจันทรา หลังจากนั้นกำนันบุญมีจึงถามไถ่เรื่องเรียนให้คลายสงสัย “แล้วมึงจะไปสมัครเรียนเมื่อไร”กำนันบุญมีมองหน้ามิคกี้ด้วยความอิ่มเอม “อีกสองสามวันเดี๋ยวไปสมัครครับ” “มึงอยากได้อะไรบอกพ่อมา เดี๋ยวพ่อจัดหาให้ทุกอย่าง พ่อดีใจมากที่มึงคิดได้ซะที” “พ่อ”จันทราหยิกที่แขนเพื่อเตือนสติสามี เพราะจันทรากลัวว่าลูกชายจะขออะไรที่เกินไป “แม่จันทรานี่มาหยิกพ่อทำไม” “พ่อครับ ทุกอย่างที่จะหาให้ผมเลยใช่ไหม”มิคกี้ยิ้มในใจทันที “ใช่ซิว่ะพ่อจะโกหกมึงทำไม” “ถ้างั้นผมขอเลยนะ”มิคกี้ถึงจะไม่รู้ว่าสองคนนี้เป็นใคร แต่ที่เขาเริ่มแน่ใจแล้วว่าสองคนนี้รักเขาเหมือนลูกแท้ๆแน่นอน มิคกี้จึงเริ่มสนิทใจที่จะขอสิ่งต่างๆ “ไอ้ไก่มึงไปเตรียมปากกากับสมุดมาจดเดี๋ยวนี้”เมื่อไก่ได้ยินคำสั่งของกำนัน เขาจึงรีบไปนำสมุดปากกามาเตรียมจดทันที “อย่างแรกในห้องนอนของผม ไม่มีเฟอร์นิเจอร์อะไรเลย ผมขอ ทีวีจอแบน จอตู้หนาๆโบราณๆ แบบที่ตั้งอยู่กลางบ้านนั่นไม่เอานะ แล้วก็แอร์ด้วยมันร้อนมาก ผมเป็นคนขี้ร้อน นอนไม่ค่อยหลับถ้
มิคกี้ชวนเกรทมาที่บ้าน ส่วนเกรทก็ตามมาอย่างง่ายดาย เพราะแต่ก่อนเกรทก็มาเป็นประจำ พึ่งหายไปช่วงที่เรียนจบ เพราะเกรทต้องเตรียมตัวสอบเข้ามหาวิทยาลัย เมื่อมาถึงที่บ้านของกำนัน เกรทก็ชวนมิคกี้เป็นเล่นน้ำที่แม่น้ำ ที่ทั้งสองเคยเล่นกันเป็นประจำ เมื่อมาถึงที่บ้านกำนันบุญมี มิคกี้ได้ให้ไก่เอาของที่ซื้อมา ไปเก็บไว้ที่ห้องของมิคกี้ หลังจากนั้นมิคกี้กลับเกรทก็เดินไปยังแม่น้ำ ซึ่งไม่ไกลจากบ้านกำนันบุญมีมากนัก “ตกลงนายจะเรียนไหม”เกรทเป็นฝ่ายถามก่อน พร้อมเดินนำทางไปยังแม่น้ำ ซึ่งเขาก็แปลกใจเหมือนกันที่มิคกี้บอกจำทางไปแม่น้ำไมได้“เรียนซิ อีกสองสามวันจะไปสมัครสอบ”“นายจะเรียนคณะอะไรล่ะ แล้วเรียนที่ไหน”“ที่มหาลัยพิพัฒนเมธา คณะ รัฐศาสตร์ ตอนแรกจะเรียนบริหาร พ่อไม่ให้เรียนอยากให้เราเรียนรัฐศาสตร์ “แปลก ปกติพ่อกำนันให้ไปซ้ายนายจะไปขวา จะทำอะไรตรงข้ามตลอด แต่อะไรดลใจนายให้ตามใจพ่อกำนัน”“ก็ท่านเป็นพ่อไง เราก็ตามใจท่านซักหน่อย นายล่ะเรียนคณะอะไร”“อักษรศาสตร์ มหาวิทยาลัยเดียวกับนายนั่นแหละ”“ว้าว สุดยอดไปเลย”“อะไรของนาย ว้าว ว้าว ว้าว เราล่ะปวดกับคำพูดของนายจังเลย”“อีกหน่อยเดี๋ยวก็ชิน”“คงน
“ไม่ลืมหรอก ว่าแต่นายจะมาจริงหรือเปล่าก็แค่นั้นแหละ” มิคกี้เปลื่ยนช่องไปเรื่อยๆก็ยังมีรายการเก่าๆละครโบราณ เขาเลยคิดว่าช่องต่างๆรีรันละครกันทุกช่อง จนมิคกี้ย้ายมาที่ช่อง15 เป็นรายการข่าวภาคเย็น “สวัสดีครับ วันนี้วันที่ 1 มีนาคม พ.ศ.2538 เป็นวันหวยออก ผลรางวัลที่1 411454 ครับ”มิคกี้เริ่มงงและสับสนเพราะปีนี้มันปีที่2567 ทำไมข่าวรายงานหวยออกเป็นวันที่1มีนาคม 2538 มิคกี้หันไปหาเกรทที่เปลื่ยนเสื้อผ้าเสร็จแล้ว และกำลังจะขึ้นไปนอนบนเตียง“ปีนี้ปี 2567ไม่ใช่เหรอ ทำไมนักข่าวบอกว่า 2538ว่ะ แค่วันเดือนปียังรายงงานผิดเลย”มิคกี้พูดขึ้น“นายนั่นแหละประสาทแดก นักข่าวเขาก็พูดถูกแล้วนี่ปีนี้ พ.ศ.2538”“ไม่ใช่ปีนี้ 67”“ยังจะมาเถียงนายดูปฏิทินโน้นปีนี้ 38”“นายนั่นแหละประสาทปีนี้67”มิคกี้เดินไปดูปฏิทินซึ่งก็เป็นปี2538 จริงๆ“เป็นไงเชื่อหรือยัง”“ไม่ใช่หรอก ปฏิทินปีนี้67ต่างหาก”ถึงมิคกี้จะเถียงเกรทคอเป็นเอ็น แต่เขาก็หวั่นใจอยู่เหมือนกันมิคกี้จึงย้ายช่องทีวีใหม่ซึ่งก็มีแค่ 13 15 17 19 14 เขาย้ายวนมาวนไปก็มีแค่ห้าช่อง จนเขาเริ่มหงุดหงิดจนเหวี่ยงรีโมททิ้งบนที่นอน“ทำไมมีแค่ห้าช่องเอง เดี๋ยวนี้เป็