ช่วงเวลาเย็นของอีกวันหนึ่ง เกรทได้ทำต้มยำกุ้งตามคำขอของมิคกี้ ซึ่งเกรทนั้นดีใจอย่างมาก ด้วยคิดไปว่ามิคกี้ติดใจรสมือในต้มยำกุ้งของเขา
“กลิ่นหอมน่ากินดี ฝีมือทำอาหารของนายนี่สุดยอดเลย”
“อ้าว ก็แม่เราขายกับข้าวที่ตลาดสด เราช่วยแม่ทำมาตั้งแต่เด็กแล้วนี่ นายจำไม่ได้เหรอ นายก็ยังไปกินบ่อยๆเลย”
“นายก็เริ่มจำไม่ได้แล้วเหมือนกัน เรามิคกี้นะไม่ใช่ต่อ เราไม่ค่อยรู้เรื่องของนายหรอก”
“มีคกี้ที่มาจากอนาคตใช่ไหม แต่คิดอีกทีเราก็เริ่มเชื่อแล้วนะ เพราะพฤติกรรมของนายนั้นจะไม่เหมือนคนยุคนี้เท่าไร”
“ตอนนี้นายอาจยังไม่เชื่อเต็มร้อย ถ้าเราอยู่ด้วยกันต่อๆไปนานๆเข้า เดี๋ยวนายก็เชื่อสนิทใจเองนั่นแหละ”
“ตอนนี้ต่อไปอยู่ไหนก็ไม่รู้หนอ ตอนนายไปอนาคตครั้งที่แล้วต่อจำอะไรไม่ได้เลยนี่”
“เราก็ไม่รู้นะ พอเราไปอนาคตเรื่องราวก็ยังอยู่ที่เดิมไม่ไปไหน แต่มีบางคนสลับร่างกันได้นะ”
“ใคร”เกรทมีสีหน้าที่งงนิดหน่อย
“เปล่า เราว่าบางคนอาจจะสลับกันก็ได้ ป่านนี้ต่อคงอยู่ในร่างของเรา แต่ไม่น่าห่วงหรอกชีวิตเราสบายกว่าเราเยอะ”
“เหรอ หวังว่าคงเป็นอย่างนั้นนะ”เกรทตักต้มยำกุ้งเต็มถ้วยแล้วนำมาวางไว้บนโต๊ะ
“หอมฟุ้งเชียว ยังร้อนอยู่เลย”
“ใช่ร้อนอยู่ เดี๋ยวค่อยกินก็ได้ เราอาบน้ำก่อนดีกว่า อาบน้ำเสร็จก็เย็นพอดี”
“นายทำไว้เยอะไหม”
“เยอะซิ กินได้ถึงพรุ่งนี้เลย”
“ก็ดี”
“เราอาบน้ำก่อนนะ”
หลังจากที่เกรทเข้าไปในห้องน้ำ มิคกี้จึงเดินไปที่โต๊ะวางถ้วยต้มยำกุ้งไว้ มิคกี้หาจานมาวางไว้หนึ่งใบแล้วจับถ้วยต้มยำกุ้งวางบนจานอีกที มิคกี้มองถ้วยต้มยำกุ้งแล้วคิดถึงหน่อย ถึงแม้หน่อยไมได้กิน แต่ถ้าร่างของหน่อยได้กินก็ยังดี เพราะเขายังจำได้ดี ว่าสัญญากับหน่อยไว้ เมื่อได้กลับมาในอดีตจะพาหน่อยไปกินกุ้ง แต่ในเมื่อหน่อยมาไมได้ เขาจึงคิดที่จะเอาใปให้สุกี้กินแทน เพราะมิคกี้คิดว่าระบบร่างกายยังเป็นของหน่อยอยู่ เพียงแต่จิตใจนั้นเป็นแค่จิตวิญญาณของสุกี้ ก่อนที่ออกจากห้องมิคกี้ตักข้าวอีกหนึ่งจาน เพื่อเอาไปให้สุกี้ในร่างหน่อยได้กิน
ก่อนที่มิคกี้ออกจากห้องเขาได้เปิดประตูทิ้งไว้ และถือต้มยำกุ้งหนึ่งถ้วย และข้าวหนึ่งจาน เมื่ออกพ้นประตูห้องเขาจึงใช้ก้นดันประตูให้ปิดไว้เฉยๆ หลังจากนั้นมิคกี้ขึ้นไปชั้นสามเพื่อไปหาสุกี้ เมื่อไปถึงหน้าห้องของสุกี้ มิคกี้จึงใช้ศีรษะโขกประตูสามสี่ครั้ง สักพักประตูก็เปิดออก มิคกี้จึงยืนยิ้มให้สุกี้
“เราเอาข้าวกับต้มยำกุ้งมาฝาก”
“คิดไงเอามาฝากเรา”
“ก็นายชอบกินไง”
“ รู้ไปถึงโน้น เข้ามา”
มิคกี้เอาต้มย้ำกุ้งกับข้าววางไว้บนโต๊ะ แล้วเขาก็นั่งลงบนเก้าอี้ และมองร่างสุกี้ไม่วางสายตา เพราะเขายังคิดถึงหน่อยอยู่ ยังไม่ได้ลืมเลือนหน่อยไปจากหัวใจ ถึงแม้หน่อยจะเหลือเพียงร่าง มิคกี้ก็ไม่สนใจอะไรทั้งนั้น
“กินซิเรามาให้แล้ว เดี๋ยวเย็นหมดนะ ไม่อร่อยด้วย”
“กินแน่นอนอยู่แล้ว กับแกล้มอย่างดีเลยรู้ไหม”
สุกี้เดินไปหยิบขวดเบียร์มาวางไว้บนโต๊ะ และหยิบแก้วมาสองใบและตักก้อนน้ำแข็งจากกระติกน้ำใส่แก้ว หลังจากนั้นวางไว้หน้ามิคกี้หนึ่งใบ และตรงสุกี้นั่งอีกหนึ่งใบ
“หน่อยดื่มเบียร์ด้วยเหรอ”มิคกี้งงนิดหน่อย
“สุกี้จร้า แต่เรียกหน่อยน่ะดีแล้ว”สุกี้เปิดขวดเบียร์เทลงแก้วของมิคกี้และของเขา
“ทำไมถึงดื่มเบียร์ล่ะ”
“กลุ้มใจนี่กลับบ้านไมได้”
“เราก็ยังกลับไม่ได้เหมือนกันนี่”
“นายมีโอกาสกลับได้ แต่เราแท่บจะไม่มีเลย เราเครียดกว่านายเยอะ”
“ก็ใช่หนอ ไม่รู้ป่านนี้หน่อยเป็นอย่างไรบ้าง”
“เลิกพูดเหอะ เครียดเปล่าๆ มาดื่มเบียร์กัน”
สุกี้กับมิคกี้ดื่มเบอร์หมดไปสองขวด พอเบียร์หมดสุกี้ก็ให้มิคกี้ลงไปซื้อต่ออีกที่ข้างล่างห้องพัก ซึ่งมิคกี้ก็ไปซื้อมาให้อย่างเต็มใจ เพราะเขาคิดไว้แล้วว่าต้องชดเชยความผิด ที่เขาทำไว้กับหน่อยและสุกี้
“นายชอบหน่อยมากเหรอ”สุกี้ถาม
“ใช่ เราชอบหน่อย”
“นายไม่ชอบเราเหรอ”
“เราไม่รู้นะ บอกไม่ถูกเหมือนกัน”
“ลองดูอีกครั้งไหมว่านายจะชอบเราได้หรือเปล่า”
“ลองอะไรล่ะ”
“ลองใจตัวเอง กล้ามีอะไรกับเราไหม”
“คือ เอ่อ”
“ไม่กล้าเหรอ”
“ไม่ใช่ นายกับจรัญมีอะไรกันแล้วนี่”
“เราไม่ได้รักจรัญนี่ แค่มีอะไรกันเฉยๆ และตอนนี้เราก็เลิกกันแล้วด้วย”
“แต่จรัญรักนายนะ”
“นั่นก็เรื่องของจรัญซิ มาคุยเรื่องของเราดีกว่า นายเคยมีอะไรกับหน่อยไหม”
“ไม่เคยเลย”
“ไม่อยากลองมีอะไรกับหน่อยเหรอ”
“นายไม่ใช่หน่อย แต่เป็นสุกี้นี่”
“เราสุกี้แต่ร่างหน่อยนะ นายชอบหน่อยไม่ใช่เหรอ ไม่อยากสัมผัสเรือนร่างของหน่อยอีกครั้งเหรอ”
“คือ”
“ไม่ต้องคือ นายรู้ตัวไหมว่านายน่ะหล่อมาก เราอยากได้นายมากเลย คืนนี้นอนกับเรานะ”
“คือ”มิคกี้เริ่มมึนสับสน อีกใจหนึ่งก็อยากได้อีกใจหนึ่งก็ไม่กล้า
“เราไปนอนบนเตียงกันเถอะมิคกี้”
สุกี้ลุกขึ้นยืนและดึงแขนของมิคกี้ ในตอนนี้ความรู้สึกอยากสัมผัสเรือนร่างของหน่อยมาเต็มอกของมิคกี้ เขาจึงลุกขึ้นยืนและเดินตามสุกี้ไปอย่างง่ายดาย พอถึงขอบเตียงสุกี้ปล่อยมือมิคกี้และเขาก็ขึ้นไปนอนบนเตียง ส่วนมิคกี้ก็ขึ้นตามไป มิคกี้ถอดเสื้อผ้าออกและก้มลงจูบที่ริมฝีปากที่อวบอิ่มของสุกี้ เขาดันปลายลิ้นเข้าไปภายในปากของสุกี้ ส่วนสุกี้ก็ตอบสนองแต่โดยดี ทั้งสองดูดปากกันอย่างฉ่ำอุรา ลิ้นตวัดพันกันอย่างถึงใจ มิคกี้ถอนริมฝีปากออกหันมาไซร้ซอกคอของสุกี้ทุกซอกไม่มีเหลือ เขาไล้ไซร้วนเวียนอยู่หลายรอบจนหนำใจ
มิคกี้ลุกขึ้นดึงปลายเสื้อของสุกี้ถลกขึ้นเหนือศีรษะ สุกี้ยกร่างและศีรษะเพื่อให้เสื้อออกจากร่างกายโดยไว เพียงเสื้อหลุดจากร่างกาย มิคกี้ก้มสัมผัสเนินอกของสุกี้ทันที เขาใช้ปลายลิ้นเลียสัมผัสหัวนมสีชมพูของสุกี้ ทั้งขบกัดและดูดเบาๆ จนสุกี้เสียวสะท้านทั่วเรือนร่าง ส่วนอีกมือของมิคกี้ก็สัมผัสหัวนมชมพูอีกข้างหนึ่งของสุกี้ มิคกี้สัมผัสสลับไปมาสองข้างอย่างอ่อนโยนและทะนุถนอม
สุกี้เสียวสะท้านทั่วเรือนร่าง จนเขาต้องตอบแทนความเสียวซ่านนี้แก่มิคกี้ สุกี้จึงพลิกร่างและดันร่างของมิคกี้ให้นอนหงาย สุกี้ปลดตะขอกางเกงของมิคกี้ออก หลังจากนั้นถอดกางเกงชั้นนอกออกก่อน จนเหลือเพียงกางเกงในสีขาวที่พองนูน สุกี้ใช้มือสัมผัสอย่างอ่อนโยน แต่ท่อนเอ็นภายในกางเกงในไม่ได้โอนโยนอย่างที่สุกี้สัมผัส แต่ตรงข้ามกันอย่างสิ้นเชิง เพราะท่อนเอ็นของมิคกี้นั้นแข็งพร้อมทะลุกางเกงในออกมา
สุกี้ดึงกางเกงในของมิคกี้ ลงออกจนถึงปลายเท้า เมื่อกางเกงในมิคกี้หลุดออกไปหมด ท่อนเอ็นของมิคกี้จึงตั้งชูชัน สุกี้เข้าไปที่หว่างขาของมิคกี้ และใช้ปลายลิ้นสัมผัสส่วนปลายสีชมพูอ่อนอย่างละมุน เขาใช้ลิ้นตวัดจนรอบส่วนปลาย ต่อจากนั้นครอบลงจนถึงรอยหยัก และดันลงไปจนถึงสุดโคนท่อนเอ็น
มิคกี้เสียวสะท้านหลับตาพริ้ม ด้วยสุกี้ทำได้ถึงใจเขาอย่างมาก ยิ่งสุกี้ใช้ริมฝีปากรูดขึ้นลงอย่างช้าๆมิคกี้ถึงกับครางออกมาอย่างสุดจะทน
“อ่า อ่า อ่าส์”
เสียงครางของมิคกี้ยิ่งทำให้สุกี้รูดท่อนเอ็นเร็วขึ้น จนมิคกี้กระดกกันใช้มือกดศีรษะของสุกี้ให้อมจนสุดโคน สุกี้ไม่ย่อท้อทำต่อให้ถึงใจ มิคกี้กลัวที่จะเสร็จก่อนเวลาอันควร เพราะสุกี้ทำได้ถึงใจของเขาอย่างมาก
“หยุดก่อน ขอเอาข้างหลังได้ไหม”มิคกี้เอ่ยขึ้น
สุกี้ถอนริมฝีปากออก จากท่อนเอ็นที่แข็งดั่งหินของมิคกี้ พอท่อนเอ็นพ้นจากปากของสุกี้เท่านั้น มิคกี้ลุกขึ้นทันทีเพราะเขาทนไม่ไหวอีกต่อไปแล้ว ด้วยแรงปราถนาอย่างแรงกล้าที่จะกระแทกบั้นท้าย มิคกี้ดันร่างของสุกี้นอนหงาย และเขาก็ดึงกางเกงของสุกี้ออกจนหมด มิคกี้ดันขาทั้งสองข้างของสุกี้เกือบแนบลำตัว
มิคกี้จับท่อนเอ็นของเขาจ่อที่ช่องทางรักของสุกี้ แล้วดันเข้าไปอย่างง่ายดายหลังจากนั้นมิคกี้ดึงออกแล้วดันเข้าไปใหม่อยู่หลายครั้ง มิคกี้โน้มตัวและใช้สองมือยันพื้นไว้ ส่วนบั้นท้ายก็โยกให้ท่อนเอ็นเข้าไปในช่องทางรัก
ความเสียวซ่านเริ่มก่อตัว สุกี้เริ่มครางอย่างแผ่วเบาจนเดังขึ้นเป็นระยๆ เสียงครางของสุกี้ทำให้มิคกี้โหมกระหน่ำใส่ไม่ยั้ง มิคกี้ซอยถี่ๆดันท่อนเอ็นให้ลึกสุดเท่าที่จะทำได้ มิคกี้โยกบั้นท้ายขึ้นลงจนเสียงเนื้อกระทบเนื้อดังลั่นสนั่นห้อง
มิคกี้พลิกร่างสุกี้นอนตะแครง ส่วนตัวของเขาก็ล้มตัวลงนอนตะแครงโดนที่ท่อนเอ็นไม่หลุดจากช่องทางรักของสุกี้ มิคกี้โยกบั้นท้ายอีกครั้งเพื่อให้ท่อนเอ็นเข้าออกที่ช่องทางรัก ส่วนมือของมิคกี้ข้างหนึ่งจับที่เอวของสุกี้ อีกข้างหนึ่งจับบี้ขย้ำเนินอกของสุกี้อย่างต่อเนื่อง ส่วนใบหน้าก็ซุกซอนไซร้ซอกคอของสุกี้ตลอดเวลา จนทำให้สุกี้นั้นใจแท่บละลาย ในรสสวาทครั้งนี้ ที่มิคกี้มอบให้สุกี้นั้นถึงใจเขาอย่างมาก มิคกี้ยังโยกบั้นท้ายไม่หยุด ซอยไม่ยั้งเช่นเดิมไม่เปลื่ยนแปลง ส่วนสุกี้นั้นได้แต่ครางด้วยความเสียวสยิวไม่หยุดหย่อน ยิ่งมิคกี้กระแทกแต่ละครั้ง สุกี้ครางไม่แผ่วเบาปล่อยออกมาจนสุดเสียงไม่ขาดสาย มิคกี้ดันร่างของสุกี้ให้พลิกคว่ำ ส่วนตัวเขาก็นอนทาบทับร่างของสุกี้ไว้ มิคกี้กระดกบั้นท้ายให้ท่อนเอ็นเข้าช่องทางรักของสุกี้ ยิ่งมิคกี้โหมกระแทกหนักขึ้น จึงทำให้ท่อนเอ็นโดนต่อมพิศวาสทุกครั้ง ทำให้สุกี้เสียวทั่วเรือนร่างจนทนไม่ไหว มิคกี้เริ่มมีเสียงกระเส่าเพราะความเสียวที่ท่อนเอ็นเพิ่มทวีคูณ มิคกี้จึงเร่งความเร็วซอยต่อไม่ยั้งรอ รัวถี่ๆเร็วๆด้วยใจที่อยากจะปลดปล่อยสิ่งที่ค้างคาในท่อนเอ็น ในส่วนของสุกี้โดนมิคกี้กระท
ต่อในร่างของมิคกี้จำเป็นต้องไปเล่นฟุตบอลการกุศลที่ต่างจังหวะ เพราะบิวปฏิเสธท่าเดียว ถึงจะชอบยูโรแค่ไหนบิวก็ไม่สามารถที่จะไปเล่นฟุตบอลได้ ต่อจึงจำเป็นต้องไปเล่นแทนมิคกี้ ซึ่งความสามรถของต่อนั้นก็ยังพอไหวเล่นได้ตามปกติ ไม่ถึงขั้นเทพอย่างมิคกี้ที่ฝึกซ้อมมาตั้งเด็ก และการแข่งขันในครั้งนี้มิคกี้ลงได้แค่ครึ่งแรก เพราะครี่งหลังเปลื่ยนตัวพักยาว ผลการแข่งขันทีมของมิคกี้แพ้ราบคาบ ถึงจะไปแข่งฟุตบอลต่างจังหวัด แต่ละคนนั้นล้วนเป็นลูกหลานไอโซคนร่ำรวย ที่พักต้องอยู่ในโรงแรมสุดหรู และต่อก็ได้พักห้องเดียวกับยูโร ซึ่งก็ได้สร้างความพึ่งพอใจให้ยูโรอย่างมาก ส่วนตัวต่อก็เฉยๆเขาไม่กลัวยูโร หรือคิดว่ายูโรจะทำอะไรเขาแบบเกรท “วันนี้นายเป็นอะไรฝีมือตกไปเยอะ” “เราก็เล่นประมาณนี้อยู่แล้วนะ”ต่อนั่งกดมือถือดู เพราะช่วงนี้ต่อติดโทรศัพท์มือถือมาก “มิคกี้นายนี่ระดับนักฟุตบอลทีมมหาวิทยาลัยเลยนะ เป็นไปไม่ได้ที่ฝีเท้านายจะมีอยู่แค่นี้”ยูโรสงสัยและจ้องมองต่ออย่างใคร่พิจารณา “มองอะไร”ต่อมองกลับ “ก็มองนายนั่นแหละ” “มองทำไม มีอะไรให้น่ามอง” “ไม่มองก็ได้อาบน้ำดีกว่า”ยูโรถอดเสื้อฟุตบอลออก หลังจากนั้นถอดกางเกงออ
ต่อนั้นไม่สามารถที่จะเรียนและเข้าใจเนื้อหาในตำราเรียนได้ เพราะมิคกี้อยู่ถึงปีสามคณะบริหารธุรกิจ เขาจึงต้องให้บิวเพื่อนรักมาติวสอนที่บ้านอยู่เป็นประจำ และในวันนี้ก็เช่นเดียวกัน ซึ่งต้องมีการทำรายงานส่ง บิวจึงต้องมาช่วยเพื่อนรักไม่งั้นต่อในร่างของมิคกี้อาจเรียนไม่จบ บิวช่วยต่อทำรายงานจนเกือบสี่ทุ่มถึงเสร็จ ซึ่งทำให้ต่อนั้นซึ้งในน้ำใจบิวเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ยิ่งหน้าตาออกแนวน่ารักสดใจ ต่อจึงมีใจให้บิวจนสุดหัวใจ “เสร็จซะทีเนาะ”บิวบิดขึ้เกียจ “ใช่ เสร็จซะที ถ้าไม่ได้นายเราคงแย่แน่เลย” “เราก็ไม่เข้าใจนายเหมือนกัน ทำกับเด็กพึ่งอยู่ปีหนึ่ง นี่จะจบการศึกษาแล้วนะ ยังไม่รู้เรื่องอะไรเลย” “เรามันโง่ไง ฉลาดสู้บิวก็ไม่ได้” “ไม่ต้องมาชมให้เปลืองน้ำลายเลย” “ชมก็ไม่ได้ ถ้างั้นไปหาอะไรกินข้างล่างไหม” “ไม่ไปหรอก อยู่บนห้องนี้แหละกลัวนางยักษ์” “นายนี่ร้ายว่าแม่เลี้ยงเราอีก” “หรือว่าไม่จริง” “ก็จริงน่ะซิ อย่าพูดเรื่องอื่นเลย บิวไปอาบก่อนเถอะ เราจะได้นอนกันซะที เราง่วงนอนมากเลยรู้ไหม” “จร้า” บิวรับคำแล้วลุกขึ้นถอดเสื้อจนเผยเห็นผิวกายที่ขาวใสออร่ากระจาย ต่อจ้องมองอย่างหื่นกระหา
ช่วงเวลาหลายวันที่ผ่านมา มิคกี้และเกรทได้ปรับความเข้าใจกันพอสมควร จึงทำให้มิคกี้ไม่ค่อยได้มีเวลาไปหาสุกี้เท่าไรหนัก ในระหว่างที่มิคกี้และเกรทกำลังกินข้าวกันพร้อมพูดคุยกันอย่างสนุกสนาน แต่ก็มีเหตุการณ์ที่ขัดจังหวะทั้งสอง “ก๊อก ก๊อก ก๊อก”เสียงเคาะประตูดังขึ้นในระหว่างที่ทั้งสองคุยกัน อย่างสนุกและออกรสชาติ “ใครกัน”มิคกี้อารมณ์เสียทันที “เดี๋ยวเราไปเปิดดูก่อนนะ”เกรทเดินไปเปิดประตูทันที “มิคกี้ อ้าวเกรท”สุชาดามองเข้าไปข้างในเพื่อดูมิคกี้ “มีอะไรสุชาดา”มิคกี้ลุกขึ้นยืน “หน่อยเป็นอะไรก็ไม่รู้ นอนซึมเรียกเท่าไรก็ไม่ตื่น เราก็ไม่รู้จะทำอย่างไงดี”สุชาดามีสีหน้าที่วิ ตกกังวลอย่างหนัก “เดี๋ยวเราขึ้นไปดู”มิคกี้รีบเดินไปที่ประตูหาสุชาดา แต่เขาก็ผ่านหน้าเกรท “เดี๋ยวเรามานะ ไปดูสุกี้ก่อน”มิคกี้หันมาพูดกับเกรท “ฮือ”เกรทพยักหน้า เกรทมีสองความรู้สึกทั้งสงสารและแอบหึงสุกี้ ที่ได้ความรักจากมิคกี้ ส่วนตัวเกรทเขานั้นไม่แน่ใจว่ามิคกี้คิดเช่นไร เมื่อมิคกี้กับสุชาดามาถึงที่ห้องของสุกี้ ก็ต้องพบสภาพสุกี้นอนซมไม่ได้สติ มิคกี้เขย่าร่างก็ไม่ขยับเขยื่อน ร่างกายของสุกี้นั้นซี
ด้วยความโกรธโมโหยูโรที่กระทำต่อมิคกี้ และแอบน้อยใจที่ยูโรมีใจให้มิคกี้ บิวจึงไปดักรอยูโรที่สนามฟุตบอล เมื่อยูโรออกมาจากสนามฟุตบอล บิวเดินเข้าไปหาทันทีและต่อว่ายูโรไม่ยั้ง “นายเป็นเพื่อนมิคกี้นะ ทำไมนายทำกับมิคกี้อย่างนั้น” “ทำอะไร” “ก็นายจะทำแบบนั้นกับมิคกี้นั่นไง” “แบบไหนบอกมาซิ”ยูโรมีสีหน้าที่กวนบิวพอสมควร “พูดตรงนี้ไม่ได้ต้องไปคุยในรถ” “ก็ได้ นายไม่ได้เอารถมาเหรอ” “เปล่า” “แผนสูงที่จะให้เราไปส่งแน่เลย” “ใช่” “ตามมา”ยูโรแสยะยิ้มแล้วเดินนำหน้าบิว เมื่อทั้งสองอยู่ในรถ บิวมองยูโรไม่ว่างสายตาเลย จนยูโรรู้สึกรำคาญ เพราะเขาไม่ค่อยชอบผู้ชายที่อ้อนแอ้นและบอบบางซักเท่าไร “มองคนหล่อทำไม” “ยอมรับว่านายหล่อ แต่นายใจไม่หล่อ” “ไม่หล่อตรงไหน” “ก็คิดไม่ดีกับมิคกี้” “นายก็คิดไม่ดีกับเราเหมือนกันไม่ใช่เหรอ นายก็เป็นคนไม่ดีด้วย” “ถึงเราจะคิดไม่ดีกับนาย แต่เราก็ไม่ได้ทำอะไรนายนี่ เพราะเรารู้ว่านายยังไม่ได้รักเรา” “รู้ก็ดีแล้ว
ช่วงเวลาที่เลวร้ายของมิคกี้นั้นกลับมาเยือนอีกครั้ง เขานั่งเฝ้าสุกี้อยู่ข้างเตียงที่ไม่แตกต่างกับหน่อยแม้แต่น้อย สุกี้ต้องใช้เครื่องช่วยหายใจและให้อาหารทางสายยาง ในห้องที่สุกี้พักนั้นเป็นห้องรวม ซึ่งมีพ่อแม่และพี่สาวของสุกี้มาอยู่ด้วยตลอด “ขอบใจเรามากนะต่อ”พ่อของหน่อยพูดขึ้น ส่วนมิคกี้ในร่างต่อพยักหน้ารับคำ “แล้วคุณอาคิดไว้ว่าจะทำอย่างไรกับหน่อยครับ” “ทางเราตกลงกันไว้แล้วว่าจะปล่อยให้หน่อยไป เพราะยื้อไว้ก็ไม่มีทางรอดไม่ใช่ว่าอาไม่รักลูก ก็เพราะอารักลูกนี่แหละที่ต้องทำอย่างนี้” มิคกี้ไม่สิทธิอะไรในตัวหน่อย เขาจึงไม่สามารถที่จะพูดอะไรออกมาได้ มิคกี้ได้แต่มองร่างของหน่อยที่มีสายระโยงระยาง แต่ภายในนั้นเป็นตัวตนของสุกี้ มิคกี้ไม่สามารถที่จะอดทนกลั้นน้ำตาไว้ได้อีกต่อไป เขาจึงรีบเข้าไปในห้องน้ำอย่างโดยเร็ว มิคกี้ปิดประตูห้องน้ำและพิงประตู เขาค่อยๆเลื่อนตัวลงต่ำ จนก้นเกือบติดพื้นมิคกี้ใช้สองมือปิดหน้า น้ำตาของเขาได้หลั่งไหลพลั่งพลูออกมาอย่างไม่ขาดสาย มิคกี้ร้องไห้แท่บขาดใจ เพราะเขาไม่สามารถที่จะทำใจได้ “มิคกี้อยู่ในนั้นหรือเปล่า”เสียงชายหนุ่มดังขึ้น มิ
ถึงแม้เกรทจะเรียนจบตามที่ตั้งเป้าไว้ แต่เขาก็ไม่ได้มีความสุขแม้แต่น้อย เพราะคนที่เขาผูกพันที่สุดนั้นได้เดินทางไปเรียนต่อต่างประเทศ ใจจริงต่อก็อยากที่จะไปเรียนที่ต่างประเทศกับบิว แต่เขาหวังไว้ว่าสักวันหนึ่งมิคกี้ตัวจริงจะได้กลับมา และตัวของเขาจะได้กลับไปสู่อดีตที่จากมา ต่อนั่งครุ่นคิดนิ่งอยู่พักใหญ่ จนพายัพเดินมาเห็นลูกชายที่นั่งนิ่งเชย เหมือนมีอะไรคาใจอยู่มากมาย “ลูกพ่อเป็นอะไรคิดถึงบิวเหรอ บอกให้ไปเรียนต่อกับบิวก็ไม่ไปเองนี่” “เปล่าครับ ผมคิดอะไรไปเรื่อยๆครับ” “ลูกก็โตแล้วควรคิดได้แล้วว่าจะทำงานอะไร แต่พ่อก็ไม่ได้เร่งรีบให้ลูกทำงานหรอกนะพักให้หายเหนื่อยก่อนค่อยว่ากันก็ได้” “ครับพ่อ” “ทำไมลูกไม่ไปเที่ยวพักผ่อนสมองซะหน่อยล่ะ” “ไม่รู้จะไปเที่ยวไปหนครับ” “พอดีพ่อจะไปทำธุระที่ต่างจังหวัดไปกับพ่อไหม” “ไปก็ได้ครับ” “ถ้างั้นพรุ่งนี้ไปเลย” “ครับพ่อ”ต่อพยักหน้ารับคำอย่างยินดี ต่อรู้สึกแปลกใจว่าทำไมพ่อของเขาพามาที่วัด แต่ต่อก็ไม่ถามไถ่ผู้เป็นพ่อของเขาแต่อย่างใด จ
บ้านทรงไทยยกสูงในพื้นที่บริ เวณหลายสิบไร่ ภายในบ้านมีร่วมสิบห้องและหนึ่งในห้องนั้น ได้มีชายหนุ่มนอนหลับอย่างสบายกายและใจ จนจวบได้เวลายามเช้าตรู่ที่เขาต้องตื่นขึ้นมา ชายหนุ่มค่อยๆลืมตาขึ้นและเขาก็พบกับสิ่งแปลกใหม่ที่ไม่เคยพานพบได้เจอ เขารีบลุกขึ้นทันทีและมองไปรอบบริเวณห้อง ที่ค่อนข้างใหญ่พอสมควรแต่ไม่ใช้ปูน ที่ชายหนุ่มเห็นนั้นเป็นไม้รอบห้องส่วนพื้นก็ไม่ต่างกัน ชาหนุ่มผู้นั้นรีบลุกยืนขึ้นและลงจากเตียง แต่เขากับต้องไปเหยียบเนื้อนุ่มๆ จนสร้างความตื่นตระหนกตกใจเขารีบกระโดดขึ้นตียงทันที “โอ๊ย ลูกพี่ มาเหยียบกันทำไม”ไก่หนุ่มน้อยรีบลุกขึ้นนั่งทันที เมื่ออเขารู้สึกเจ็บที่อก เพราะชายหนุ่มผู้นั้นได้เหยียบที่หน้าอกของเขา “นายเป็นใคร เรามาอยู่ที่นี่ได้อย่างไรกัน”มิคกี้มีสีหน้าตกใจ เพราะสิ่งที่เขาพบเจอและได้เห็นมันช่างแตกต่างจากห้องของเขาสิ้นเชิง “ลูกพี่ กินยาผิดสำแดงอะไรอีกล่ะ”ไก่เกาศีรษะแก๊กๆด้วยความมึนงง “นายจับเรามาเรียกค่าไถ่ใช่ไหม”มิคกี้มองหน้าไก่ที่กำลังมีสีหน้ามึนงง “เรียกค่าไถ่อะไรล่ะลูกพี่ ที่นี่มันบ้านของลูกพี่ บ้านกำนันบุญมี” “ใครกันกำนันบุญมี”มิคกี้มีสีหน้าที่สงสัย “ก็พ่อ