Share

เส้นทางที่ต้องเลือก

  ช่วงเวลาหลายวันที่ผ่านมามิคกี้ได้แต่ติดตามข่าวของหน่อยในร่างสุกี้ เขาไม่สามารถที่จะไปเยื่อมได้เลยแม้แต่ครั้งเดียว มิคกี้จึงอยู่แต่ในบ้านของสุชาดาอย่างเหงาเศร้าซึม จนกระทั่งเมื่อทราบข่าวว่าสุกี้ได้ออกมาจากโรงพยาบาลแล้ว แต่ก็ออกมาในสภาพที่เป็นเจ้าชายนิทรา นั่นก็เท่ากับสร้างความเจ็บซ้ำในใจของมิคกี้หนักขึ้นกว่าเดิมอีกเท่าตัว

 ในระหว่างที่มิคกี้นั่งอยู่ในห้องรับแขกกับสุชาดา คนขับรถของพายัพก็ได้เข้ามาหารับมิคกี้ตามคำสั่งของพายัพ

  “คุณมิคกี้คุณพ่อให้มารับครับ”คนขับรถพูดขึ้นเมื่อเข้ามาในห้องรับแขกของบ้านสุชาดา

  “จะมารับได้ไงไม่เห็นโทรมาบอกก่อน ทำแบบนี้มันใช้ไม่ได้ คิดจะมารับก็มาอย่างนั้นเหรอ”สุชาดามีสีหน้าที่ไม่ค่อยพอใจอย่างมาก

  “อันนี้ ผมก็ไม่รู้จะพูดอย่างไรดีครับ ผมแค่มาตามคำสั่งที่ท่านรัฐมนตรีให้มารับคุณมิคกี้”

  “แม่ครับ ผมอยากกลับไปอยู่กับพ่อครับ แต่ไม่ใช่เพราะอยากสบายนะครับ คือ ผมอยากที่จะไปดูแลหน่อย เอ่อ สุกี้ล่ะครับ”มิคกี้มีแววตาที่ขอร้องสุชาดา

  “ให้มันได้อย่างนี้ซิ ในเมื่ออยากไปก็ไปแม่ไม่บังคับหรอก ถ้าไปที่โน้นมีปัญหาอะไร บอกแม่มาเลยนะเดี๋ยวแม่จะลุยเอง”

  “ครับแม่”

  มิคกี้รู้สึกดีใจอย่างมากที่ได้กลับบ้านพ่อของเขา เพราะจะได้ไปเห็นหน้าหน่อยคนที่เขารัก หลังจากที่มิคกี้ล่ำลาสุชาดาผู้เป็นแม่ มิคกี้ก็ได้ออกจากบ้านของสุชาดา มุ่งตรงไปยังบ้านรัฐมนตรีพายัพทันที เมื่อมิคกี้ไปถึงบ้านพ่อของเขา มิคกี้รีบวิ่งลงจากรถทันที  เพราะอยากรู้ว่าหน่อยเป็นอย่างไรบ้าง

  “สุกี้อยู่ไหนเหรอ”มิคกี้ถามคนรับใช้ทันที

  “อยู่ในห้องเดิมของคุณสุกี้ค่ะ”

  มิคกี้รีบเข้าไปหาทันที เพราะทางสะดวกเนื่องด้วยคุณหญิงโสภิตาไม่อยู่ เพียงมิคกี้เปิดประตูเข้าไปแค่นั้นเขาก็ตกใจทันที เพราะสภาพของหน่อยไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป ซูบผอมลงอย่างชัดเจน ภาพที่มิคกี้เห็นตรงหน้าเป็นภาพที่มิคกี้ปวดร้าวจิตใจยิ่งนัก เพราะร่างกายของหน่อยนั้นไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป เพราะต้องให้อาหารทางสายยางและให้ออกซิเจนตลอดเวลา

  มิคกี้ค่อยๆเดินเข้าไปใกล้ๆโดยมีพยาบาลพิเศษนั่งข้างๆเฝ้าหน่อยไม่ห่าง มิคกี้ยืนดูหน่อยหายใจอย่างเหน็ดเหนื่อย ถึงแม้จะมีเครื่องช่วยหายใจก็ตามที

  “หน่อย”มิคกี้เอื้อมมือไปจับมือของหน่อยมากุมไว้

  “พี่พยาบาลครับ หน่อยมีโอกาสหายไหมครับ”

  “คุณสุกี้เหรอคะ”พยาบาลสงสัยในชื่อที่มิคกี้เรียก

  “ครับสุกี้ แต่ผมจะเรียกหน่อยครับ”

  “พยาบาลก็ตอบไม่ได้ เราแค่รักษาแบบประคับประคองกันไปก่อน”

  “ครับ ผมขออยู่กับสุกี้สองคนได้ไหมครับ”

  “คือ”

  “นะครับ ผมขอร้อง”

  “ก็ได้ค่ะ”

  พยาบาลสาวได้ออกไปจากห้องด้วยความลังเล แต่เธอก็เห็นใจมิคกี้ที่มีทาที่เศร้าซึม เธอจึงตัดสินใจเปิดโอกาสให้มิคกี้ได้อยู่กับหน่อยตามลำพัง

  “หน่อยเราขอโทษ เราไม่ได้ตั้งใจเราไม่น่าวู่วามไปเลย”มิคกี้น้ำตาไหลซึมออกมาอย่างไม่รู้ตัว

  มิคกี้มองใบหน้าของหน่อยที่นิ่งเฉย และหายใจอย่างหอบเหนื่อย หน้าอกของหน่อยกระเพื่อมตลอดเวลา ยิ่งมิคกี้มองยิ่งสงสารหน่อยแท่บขาดใจ

  “หน่อยต้องฟื้นนะ เราจะกลับไปในอดีตด้วยกันอีกครั้ง”

  “ถ้าพวกเราได้กลับไป เราจะไปเที่ยวกินกุ้งที่หน่อยชอบ”

  “หน่อยต้องตื่นขึ้นมาเจอเรานะ”

  ในระหว่างที่มิคกี้กำลังพร่ำพรรณนาถึงหน่อยอยู่นั้น โสภิตาได้เข้ามาในห้องแล้วเห็นมิคกี้ใจของเธอร้อนรนทันที

  “ออกไปเดี๋ยวนี้เลยมิคกี้”โสภิตาตวาดทันทีเมื่อเธอเข้ามาที่ห้องของสุกี้

  โสภิตาใช้สายตาพิฆาตมองมิคกี้ ในใจของเธอตอนนี้โทษมิคกี้เป็นต้นเหตุแห่งโศกนาฏกรรมครั้งนี้

  “คุณใจเย็นๆหน่อยซิ”พายัพเอ่ยขึ้น

  “สุกี้ไม่ใช่ลูกคุณนี่ มิคกี้ต่างหากลูกคุณ”

  “ถึงสุกี้ไม่ใช่ลูกผม แต่ผมก็รักเหมือนลูกนะ”

  “ฉันไม่เชื่อ เพราะฉันยังไม่รักมิคกี้เหมือนลูกเลย”

  “โสภิตาทำไมพูดอย่างนั้น”พายัพเสียงเข้มขึ้นทันที

  “ฉันพูดเรื่องจริง และฉันผิดหวังในตัวคุณด้วย ที่เลี้ยงลูกไม่ได้ดี ใช้แต่อารมณ์ไม่มีเหตุผล ฉันไม่น่าแต่งงานกับคุณเลย”โสภิตาปราดตามองพายัพ

  “เอาล่ะ เรื่องมันก็ผ่านมาแล้ว มิคกี้ออกไปก่อนรอให้แม่เขาใจเย็นก่อนค่อยมาใหม่”

  “ฉันไม่ใช่แม่มิคกี้อย่าเรียกฉันว่าแม่”

  “ครับพ่อ”มิคกี้รับคำ

  “วันหลังคุณก็ให้มิคกี้มาหาสุกี้บ้างก็ได้ ไหนๆเรื่องมันก็ผ่านมาแล้ว เด็กสองคนมันก็รักกัน เผื่อจะมีปาฏิหาริย์เกิดขึ้นก็ได้ ประมาณใจถึงใจ”

  โสภิตาครุ่นคิดชั่วครู่และเห็นด้วยกับคำพูดของพายัพ แต่เธอก็ยังหวาดระแวงมิคกี้อยู่ดี เธอไม่ไวใจมิคกี้ว่าจะก่อเรื่องอะไรอีก แต่เธอก็จะลองเสี่ยงดูสักครั้งเผื่อจะมีปาฏิหารย์

  “เดี๋ยวก่อน”โสภิตาเรียกมิคกี้ให้หยุด

  “ฉันไม่ว่าอะไรหรอกนะ ถ้าเธอจะเข้ามาดูสุกี้ แต่ต้องให้พยาบาลอยู่ด้วย ฉันกลัวเธอจะทำพลาด ทำให้ลูกฉันตายอีกจะทำไง”

  “เธอ มิคกี้จะทำอะไรได้และอีกอย่างหนึ่ง สุกี้ก็นอนนิ่งอยู่อย่างนั้น”พายัพพูดขึ้น

  “ไม่รู้แหละนี่คือคำสั่ง”โสภิตาเชิดหน้าขึ้น

  “ครับ”มิคกี้รับคำและเดินออกจากห้องไปด้วยใจที่แสนทุกข์ ภาพหน่อยหายใจหอบเหนื่อยติดตาเขาไม่จางหาย ตอนนี้ใจของเขาปวดร้าวยิ่งนัก

  ทุกๆวันมิคกี้จะมาหาหน่อย ตั้งแต่ตอนเช้าก่อนที่จะไปเรียน และหลังจากกลับมาจากมหาวิทยาลัยเขาก็จะมาหาหน่อยทันที มิคกี้มาทุกวันทุกเวลาไม่เคยขาด จึงทำให้เขาขาดการติดต่อกับยูโรเพื่อนรักของเขา ซึ่งช่วงเวลาที่เป็นอยู่นี่ยูโรอดเป็นห่วงมิคกี้ไม่ได้ เขาจึงมาหามิคกี้ที่บ้าน และเป็นจังหวะเดียวกันที่บิวเพื่อนอีกคนของมิคกี้ก็มาด้วย

  “อ้าว ยูโร”บิวยิ้มให้ยูโร

  “ฮือ”ยูโรแค่พยักหน้า

  ในส่วนลึกของจิตใจของยูโรนั้นเขาก็อดอิจฉาบิวไม่ได้ ที่มิคกี้ให้ความสำคัญและดูแลเทคแคร์เป็นอย่างดี เพราะนิสัยของบิวจะมาแนวซื่อๆไร้เดียงสาแต่บางครั้งก็แอบร้าย

  “ไม่รู้มิคกี้เป็นไงบ้างเนาะ”บิวนั่งลงบนโซฟาที่ห้องรับแขก

  “จะดีได้ไงน้องเขาเป็นอย่างนี้นี่”ยูโรพูดเสียงห้วนๆ

ในช่วงที่เจอร้านหมูกระทะยูโรก็ไม่ได้คิดอะไรมากกับบิว แต่พอรู้ว่าบิวนั้นสนิทกับมิคกี้มาก เขาเลยแอบหึงหวงอยู่เหมือนกัน เพราะบิวออกแนวหวานๆซึ่งยูโรก็พอรู้มาบ้างมิคกี้ชอบผู้ชายแนวนี้ ในส่วนตัวของยูโรเองนั้นเขาชอบมิคกี้อย่างมาก ถึงแม้มิคกี้จะมีรสนิยมแนวเดียวกับเขา แต่ยูโรก็ตั้งปณิธานไว้ว่าจะเปลื่ยนมิคกี้หรือตัวเองให้ตรงกันให้ได้ นั่นเลยทำให้ยูโรกลัวมิคกี้เผลอใจไปรักบิว ถ้าเป็นเช่นนั้นเขารับไม่ค่อยได้ ถึงแม้มิคกี้จะพยายามเชียร์เขากับบิวก็ตามที เพราะยูโรไม่ค่อยชอบผู้ชายแนวหวานแบบนี้

  “มาพร้อมกันด้วย ใจตรงกันนี่”มิคกี้เอ่ยขึ้น

  “บังเอิญมากกว่า”ยูโรพูด

  “ก็นั่นแหละ ความบังเอิญมักจะมาก่อนและตามมาด้วยความรัก”มิคกี้พยายามฝืนยิ้มเอาใจเพื่อน ถึงแม้ตอนนี้เขาจะไม่ค่อยอารมณ์พูดคุยเท่าไร

  “สุกี้เป็นไงบ้าง”บิวถาม

  “ทรงๆทรุดๆนั่นแหละ แค่ประคับประคอง”มิคกี้มีสีหน้าเศร้าลง

  “นายก็อย่าโทษตัวเองเลย นายทำดีที่สุดแล้ว เราว่าสักวันต้องมีปาฏิหาริย์”ยูโรขยับเข้าใกล้มิคกี้และเม้มปากพยักหน้า เพื่อให้กำลังใจมิคกี้

  “ขอบใจนายมากนะ พวกนายเป็นเพื่อนที่ดีของเรามากเลย”

  “เพื่อนไม่ทิ้งกันอยู่แล้ว ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้นกับนาย เราจะอยู่ข้างเคียงนายตลอดนะ”บิวยิ้มให้มิคกี้

  ยูโรแอบมองทั้งสองยิ้มให้กันใจเขาแท่บจะกระโดดไปเตะบิวให้ยับเยิน แต่ก็ทำอะไรไม่ได้มากกว่าทำหน้านิ่งๆเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น ทั้งที่ใจร้อนรนด้วยความอิจฉา

  “ขอบใจมากนะบิวที่ปลอบใจเรา  นายได้แต่ปลอบใจเราเมื่อไรจะมีคนรู้ใจบ้าง”

  “ไม่มีเลยที่รู้ใจเรา ที่รู้ใจเราก็มีบอมบอมซึ่งก็อยู่ต่างประเทศ ที่เหลือก็นายนี่แหละที่รู้ใจเราที่สุด”บิวยิ้ม

  “พูดถึงบอมบอมก็คิดถึงหนอ วันที่พวกเราสามคนอยู่ด้วยกัน แต่ตอนนี้เขามีความสุขกับพี่ก็อตไปแล้ว เหลือแต่เราสองคนนี่แหละที่ยังค้างอยู่”

  “ไปพูดทำไมความหลังต้องอยู่กับปัจจุบันซิ ถ้านายลองมองรอบๆตัวนายอาจจะเจอคนที่รักนายจริงก็ได้”ยูโรพูดขึ้นด้วยความโมโห

  “ใช่ บิวมองรอบๆตัวซิมีคนเสนอมาแล้วนี่”มิคกี้รู้ว่าหมายถึงใคร แต่เขาทำแกลังไม่รู้

  “บ้า พูดไปเรื่อย”บิวมองหน้ายูโรแวบหนึ่งแล้วหันไปทางอื่น เพราะค่อนข้างอายพอสมควรที่มิคกี้พูดแบบนี้ให้ยูโรได้ยิน

  “เราจะกลับแล้วนะ”ยูโรอารมณ์ไม่ดีที่มิคกี้ไม่สนใจเขาซักเท่าไร

  “อ้าวจะรีบกลับไปไหนพึ่งมาเองไม่ใช่เหรอ”มิคกี้หน้าเหวอทันทีเลยทีเดียว

  “เรามีธุระต้องกลับแล้ว”

  “แล้วบิวล่ะ”มิคกี้หันมามองบิว

  “กลับซิ ถ้างั้นเรากลับก่อนนะ”

  “โชคดีนะเพื่อน”มิคกี้เดินไปส่งยูโรและบิวที่หน้าบ้าน

  “บิวมาอย่างไง”มิคกี้ถาม

  “ให้คนขับรถมาส่งน่ะ เดี๋ยวก็มารับ”

  “โอ๊ย ไม่ต้องหรอกให้ยูโรไปส่ง ใช่ไหมยูโรจะไปส่งบิวเพื่อนเรา”มิคกี้ส่งสายตาเว้าวอนเพื่อนรัก

  “ก็ได้”ยูโรตอบห้วนๆ

  บิวขึ้นรถของยูโรด้วยใจที่เต้นระรัว เพราะยูโรนี่ก็สเป็คของบิวอยู่แล้ว เพราะเขาชอบแนวหล่อเข้มล่ำ แต่บิวก็พอจะดูออกว่ายูโรไม่ค่อยได้สนใจเขาเท่าไรนัก แต่บิวก็ยังไม่ยอมแพ้จะจีบยูโรให้ติดจงได้ ในระหว่างอยู่บนรถบิวจึงชวนยูโรคุย

  “กินข้าวมาหรือยัง”บิวถาม

  “กินแล้ว ถามทำไม หิวเหรอ ถ้าหิวก็ทนเอาหน่อย ถึงบ้านค่อยไปกินที่บ้านของนายก็แล้วกัน”ยูโรตอบห้วนๆ

  “ไม่หิวหรอกนึกว่านายหิวจะได้ชวนกิน”

  “ไม่หิว ถึงหิวก็ไม่กิน”

  “อ้าวทำไมไม่อยากกิน ระวังเป็นโรคกระเพาะนะ ถ้าเป็นแล้วหายยากต้องกินข้าวให้ตรงเวลา”

  “กระเพาะใครกระเพาะมันไม่ต้องห่วงหรอก”

  “ไม่ห่วงไม่ได้หรอกเราเป็นเพื่อนกันแล้ว เพื่อนก็เป็นห่วงเพื่อนถ้าไม่ห่วงเพื่อนจะให้ไปห่วงแมวที่ไหน”

  “นายเข้าใจอะไรยากจริงๆ”

  “ไม่เข้าใจยากหรอก ก็เพราะเราเข้าใจนายไง ว่าเป็นโรคกระเพาะ มันไม่ดีต่อร่างกายของนายนะ  ทิ้งไว้นานๆอาจเป็นโรคที่หนักกว่าเดิมได้”

  “เรียนหมอเหรอ”

  “ไม่ได้เรียนหมอหรอก เด็กประถมยังรู้เลย หรือว่านายไม่รู้เรื่องนี้”

  “รู้แต่ไม่อยากให้ใครมายุ่ง”

  “อ่อ ไม่อยากให้ใครมายุ่ง แต่ไม่ใช่เราแน่นอนใช่ไหม เพราะเราเป็นเพื่อนนายแล้วหลังจากมิคกี้แนะนำให้รู้จัก เราจึงสามารถยุ่งเรื่องของนายได้”

  “นายนี่มันจริงๆเลย ถามหน่อยนายกับมิคกี้มีอะไรกันมากกว่าเพื่อนไหม”

  “โอ๊ยยิ่งกว่าเพื่อนอีก นายไม่รู้อะไร เราเคยนอนกันด้วยสามคนเลยนะ ตอนเราถูกแกล้งมิคกี้จะคอยช่วยตลอด มิคกี้คือฮีโร่ของเราเลยนะ”

  “นายรักมิคกี้ใช่ไหม”ยูโรมองหน้าบิวแวบหนึ่ง

  “ใช่ รักซิ คนดีๆแบบนี้ไม่รักก็บ้าแล้ว หรือว่านายไม่รักมิคกี้”

  “รักซิ”ยูโรเผลอตอบ

  “ก็นั่นไงนายยังรักเลยทำไมเราจะไม่รักล่ะ”บิวพูดพาซื่อเพราะเขารักมิคกี้แบบเพื่อน และไม่เคยคิดเกินเลยไปกว่านี้อีกเลย

  “รัก รัก รัก”ยูโรพูดย้ำๆหลายๆครั้ง

  ยูโรโมโหและรำคาญบิวอย่างมากเขาจึงอยากแกล้งบิว ยูโรจึงจอดรถข้างปั้มน้ำมันและหันไปมองบิว ที่กำลังมีสีหน้าท่าทางที่งงอยู่พอสมควร

  “จอดทำไมนายปวดฉี่เหรอ”

  “เรามีธุระนายลงตรงนี้ได้ไหม”ยูโรพูดห้วนๆ

  “ได้สิ ไม่มีปัญหานายไปทำธุระของนายเถอะ เดี๋ยวเราขึ้นแท็กซี่กลับ”บิวยิ้มให้ยูโรแล้วลงจากรถ เมื่อบิวยืนอยู่ข้างปั้มน้ำมันแล้ว เขาก็โบกมือพร้อมยิ้มหวานให้ยูโร

  ในส่วนยูโรแท่บเป็นประสาทเพราะเจอบิวที่พูดทิ่มแทงใจเขาทุกคำพูด เขามองบิวโบกมือแล้วยิ่งหงุดหงิด ยูโรจึงรีบขับรถออกไปทันที เพราะแกล้งขนาดนี้ยังยิ้มให้เขาอีก

  ค่ำคืนนี้มิคกี้นอนไม่หลับรู้สึกกระสับกระส่าย อย่างไม่เคยเป็นมาก่อน เขานอนพลิกไปพลิกมาอยู่หลายตลบก็ไม่หลับ มิคกี้จึงลุกขึ้นนั่งและพลันคิดถึงหน่อยขึ้นมา เขาจึงเดินลงไปข้างล่างและยืนอยู่หน้าห้องของหน่อยสักพักหนึ่ง ก่อนตัดสินใจเปิดประตูเข้าไป ซึ่งเขาก็เห็นพยาบาลนอนหลับอยู่ มิคกี้จึงค่อยๆย่องไปดูหน่อย

  มิคกี้มองหน้าหน่อยค้างไว้อยู่นานพอสมควร ส่วนมือของเขาก็จับมือของหน่อยไว้ มิคกี้พยายามส่งความรู้สึกถึงหน่อย ให้รู้ถึงความในใจของเขา มิคกี้รู้สึกได้ว่ามือของหน่อยเริ่มขยับ หลังจากนั้นลืมตาขึ้น พร้อมน้ำตาที่ไหลพราก

  “หน่อยฟื้นแล้ว พยาบาลหน่อยฟื้นแล้ว”มิคกี้หันหน้าไปทางพยาบาล

  พยาบาลสาวรู้สึกตัวและตกใจที่เห็นมิคกี้  พยาบาลสาวรีบลุกขึ้นมาดูสุกี้ทันที เธอเห็นตาของสุกี้ที่เปล่งประกายและน้ำตาที่ไหลออกมา แต่เป็นแค่ช่วงเวลาสั้นๆ และหลังจากนั้นตาก็หรี่ลงทีละน้อย

  “หน่อยตื่นอย่าหลับ”มิคกี้รู้สึกได้ว่ามือน้อยๆของหน่อยค่อยๆอ่อนแรงลง ดวงตาที่หรี่ลงมองหน้ามิคกี้ค้างไว้เพียงเสี้ยววินาที หลังจากนั้นก็ค่อยๆหลับพร้อมน้ำตาที่ไหลออกมาสองข้างของหน่อย

  พยาบาลสาวรีบจับชีพจรทันที ซึ่งได้ช้าไปแล้วหน่อยได้สิ้นลมหายใจชั่วเวลาไม่นาน พยาบาลสาวรีบจึงปั้มหัวใจของหน่อยทันที

  “คุณมิคกี้บอกให้คนขับรถเตรียมตัวไปโรงพยาบาลค่ะ”

  “ครับ”

  มิคกี้รีบออกจากห้องของสุกี้และตะโกนลั่นบ้าน  บอกให้ทุกคนได้รับรู้เรื่องราวที่เกิดขึ้นซึ่งทางพายัพและโสภิตาได้เตรียมรถและคนขับรถพร้อมสรรพทุกเมื่อ ถ้าเกิดเหตุฉุกเฉินสามารถที่จะไปโรงพยาบาลได้ทันที มิคกี้จึงตะโกนอีกครั้ง  เมื่อพายัพและโสภิตาได้ยินทั้งสองจึงลงมาข้างล่าง ส่วนมิคกี้ก็เข้าไปในห้องเอาใจช่วยหน่อย

  เมื่อโสภิตาและพายัพเข้ามาในห้องของสุกี้ แล้วเห็นมิคกี้ยืนข้างๆเตียงใจของโสภิตาเธอร้อนลุ่มทันที ยิ่งเห็นพยาบาลปั้มหัวใจสุกี้เธอยิ่งเตรียมตัวโทษมิคกี้อย่างไร้เหตุผล โสภิตาจึงเดินไปดึงมิคกี้ออกมานอกห้อง

  “เพลี้ยะ”

  “แม่ตบผมทำไม”มิคกี้ถามด้วยความตกใจ

  “คุณตบหน้ามิคกี้ลูกผมทำไม”พายัพถาม

  “ก็มันนั่นแหละที่ทำให้สุกี้ป็นเจ้าชายนิทรา แค่นั้นยังไม่พอไปรบกวนสุกี้จนหยุดหายใจ ถ้าไม่ใช่มันก็เพราะใครล่ะ”

  โสภิตายังไม่หยุดอยู่แค่นั้นทั้งตบทั้งตีทั้งผลัก จนร่างของมิคกี้ไปกระแทกผนังห้อง หลังจากนั้นมิคกี้รู้สึกเจ็บที่ศีรษะและสลบนิ่งไปในที่สุด

Related chapters

Latest chapter

DMCA.com Protection Status