ทั่วทั้งใต้หล้า ข้ามองหาเพียงเจ้า

ทั่วทั้งใต้หล้า ข้ามองหาเพียงเจ้า

last updateปรับปรุงล่าสุด : 2025-02-25
โดย:   เสี่ยวเทีย  อัปเดตเมื่อครู่นี้
ภาษา: Thai
goodnovel12goodnovel
คะแนนไม่เพียงพอ
20บท
6views
อ่าน
เพิ่มลงในห้องสมุด

แชร์:  

รายงาน
ภาพรวม
แค็ตตาล็อก
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป

กู่ซิงอีถูกสหายคนสนิทขอร้องให้ช่วยยกเลิกงานหมั้นให้ งานนี้เขาจึงต้องออกหน้าเอง ทุกอย่างดูเข้าร่องเข้ารอยแผนของเขาก็ค่อนข้างเข้าท่า แต่ไหงกลายเป็นตนที่คล้ายจะเป็นเจ้าสาวเสียเอง!

ดูเพิ่มเติม

บทล่าสุด

การดูตัวอย่างฟรี

คำโปรย และ แนะนำตัวละคร

"เขาไม่รูปงามหรือ" กู่ซิงอีถามสหายคนสนิท "รูปงามยิ่งนัก!" เซี่ยลู่หลินกล่าวด้วยความจริงจัง คราที่ฟังมิได้ทันคิด หากแต่ได้ยลอีกฝ่ายแล้ว คำพูดของสหายก็หวนมาอีกครา 'รูปงามยิ่งนัก!' กลิ่นอายรอบกายสูงส่งดั่งหยก แววตาเฉยเมยไร้สิ่งใดที่สามารถสั่นคลอนคนผู้นี้ได้ ภาพตรงหน้า...สลักลึกฝังลงในใจ แนะนำตัวละคร กู่ซิงอี : เด็กกำพร้าที่ถูกผู้เฒ่าเจ้าของโรงเตี๊ยมเก็บมาเลี้ยงดู เลี้ยงชีพโดยการหมักสุราขาย เป็นคนรักสันโดษ ใช้ชีวิตอยู่เขตชานเมือง แต่พอได้สนิทกับใครแล้วยอมมอบใจให้ทั้งหมด ช่างสังเกต ยิ้มเก่ง นิสัยร่าเริงมองโลกในแง่ดี ฉลาดและมีไหวพริบ ว่านฟู่เฉิง : ผู้นำตระกูลว่าน ซึ่งเป็นตระกูลพ่อค้าที่ร่ำรวยเป็นอันดับต้น ๆ ของแคว้นเหว่ย สมัยวัยเยาว์มีเหตุทำให้พิการไม่สามารถเดินได้จำต้องนั่งอยู่บนเก้าอี้รถเข็นตลอด เป็นคนเจ้าอารมณ์ ขี้หง...

หนังสือน่าสนใจจากยุคเดียวกัน

ความคิดเห็น

ไม่มีความคิดเห็น
20
คำโปรย และ แนะนำตัวละคร
"เขาไม่รูปงามหรือ" กู่ซิงอีถามสหายคนสนิท "รูปงามยิ่งนัก!" เซี่ยลู่หลินกล่าวด้วยความจริงจัง คราที่ฟังมิได้ทันคิด หากแต่ได้ยลอีกฝ่ายแล้ว คำพูดของสหายก็หวนมาอีกครา 'รูปงามยิ่งนัก!' กลิ่นอายรอบกายสูงส่งดั่งหยก แววตาเฉยเมยไร้สิ่งใดที่สามารถสั่นคลอนคนผู้นี้ได้ ภาพตรงหน้า...สลักลึกฝังลงในใจ แนะนำตัวละคร กู่ซิงอี : เด็กกำพร้าที่ถูกผู้เฒ่าเจ้าของโรงเตี๊ยมเก็บมาเลี้ยงดู เลี้ยงชีพโดยการหมักสุราขาย เป็นคนรักสันโดษ ใช้ชีวิตอยู่เขตชานเมือง แต่พอได้สนิทกับใครแล้วยอมมอบใจให้ทั้งหมด ช่างสังเกต ยิ้มเก่ง นิสัยร่าเริงมองโลกในแง่ดี ฉลาดและมีไหวพริบ ว่านฟู่เฉิง : ผู้นำตระกูลว่าน ซึ่งเป็นตระกูลพ่อค้าที่ร่ำรวยเป็นอันดับต้น ๆ ของแคว้นเหว่ย สมัยวัยเยาว์มีเหตุทำให้พิการไม่สามารถเดินได้จำต้องนั่งอยู่บนเก้าอี้รถเข็นตลอด เป็นคนเจ้าอารมณ์ ขี้หง
last updateปรับปรุงล่าสุด : 2025-01-30
อ่านเพิ่มเติม
บทนำ สารฤดูปีนั้นด้ายแดงเริ่มถักทอ
บทนำ สารทฤดูในเมืองจางงดงามไม่แพ้เมืองใดในแคว้นเหว่ย ยามนี้เป็นช่วงปลายฤดูแล้ว ใบไม้เริ่มแปรเปลี่ยนหลากสี กิ่งไม้เริ่มไร้ใบจนเหมือนกระดูกเรียวเล็กแต่ก็ดูงดงามแปลกตาไปอีกแบบ อากาศเองก็ไม่ร้อนอบอ้าวเฉกเช่นเดิมอีกแล้ว ดังนั้นวันนี้กู่ซิงอีจึงคึกคักเป็นพิเศษ หมักสุราหามรุ่งหามค่ำ มือหนึ่งทำงานมือหนึ่งยกสุราเข้าปากด้วยความอารมณ์ดี กลิ่นหอมของสุรากำจายทั่วปากทำให้มีแรงทำงานมากกว่าเดิม ยามเมื่อหมักสุราเสร็จสิ้นจนถึงขั้นตอนปิดผนึกแล้วเขากลับไม่ได้นำไหสุราไปเก็บในที่ซึ่งควรเก็บตั้งแต่แรก แต่กลับยกมานั่งอาบแสงจันทร์ที่ลานหน้าบ้านแทน จันทร์สกาวเต็มดวงเริ่มเอียงไปมากกว่าครึ่งแผ่นฟ้าแล้ว บ่งบอกว่าคืนนี้เขาทำงานหนักยิ่งนัก และอาจเพราะทำงานตั้งแต่เด็กกู่ซิงอีจึงสูงโปร่งกว่าบุรุษทั่วไปในเมืองจางอยู่บ้าง ยามนี้เขานั่งลงที่แคร่ไม้ไผ่กลางลานบ้านซึ่งรอบตัวเต็มไปด้วยไหสุราเกือบสิบไหที่เพิ่งยกมาวาง ‘สุราอาบแสงจันทร์ คนหมักเมามาย สุราย่อมรสชาติดี’ นี่เป็นความเชื่อส่วนตัวของเขา ปีนี้กู่ซิง
last updateปรับปรุงล่าสุด : 2025-01-30
อ่านเพิ่มเติม
บทที่ 1 (1.4) ผู้ใดบอกกันว่าชีวิตจะสงบสุข
“อาอี อาอี!” รุ่งอรุณเพิ่งมาเยือนไม่นาน ท้องนภาเริ่มอาบย้อมสีส้มแค่บางส่วน เสียงเรียกก็ดังขึ้นที่หน้าประตูบ้านของกู่ซิงอีที่ตั้งอยู่ท้ายเมืองแล้ว เจ้าของบ้านยังไม่ทันตื่นเต็มที่ก็ถูกเสียงเรียกอันคุ้นเคยปลุกขึ้นมาจากภวังค์แห่งการหลับใหล นั่นคือเสียงของเซี่ยลู่หลินสหายคนสนิทของตนเองที่กู่ซิงอีไม่มีทางจำผิด ร่างสูงเดินงัวเงียมาตามเสียงเรียก บานประตูบ้านถูกคนที่อยู่อีกฝั่งทุบจนสั่นคลอนไปหมด คิ้วเรียวขมวดมุ่นเข้าหากันด้วยความสงสัย เมื่อเปิดประตูออกแล้วเขาจึงพูดว่า “เสี่ยวลู่ เจ้ามาตะโกนหน้าบ้านผู้อื่นแต่เช้าขนาดนี้มีเรื่องด่วน...” กู่ซิงอียังไม่ทันพูดจบ เงาเล็กที่อยู่ตรงหน้าก็กระโจนเข้าหาเขา จับแขนทั้งสองข้างของเขาแน่นแล้วเขย่าไปมา “อาอี! อาอี!” เซี่ยลู่หลินกล่าวด้วยความร้อนรน “เจ้าต้องช่วยข้า ต้องช่วยข้า!” แต่ละคำที่กล่าวมาล้วนแทบฟังไม่ออก กู่ซิงอีไม่ตกใจอะไรมากนัก ปกติเซี่ยลู่หลินก็เป็นกระต่ายน้อยขี้ตื่นตูมอยู่แล้ว และแถมยังชอบโวยวายอีกด้วย ดังนั้นท่าทางแบบนี้ไม่ใช่เรื่องใหญ่ แต่ที่แปลกก็คือการที่เสี่ยวลู่มาหาเขาเช้าตรู่ขนาดนี้ต่างหาก เพราะจวนสกุลเซี่ยต
last updateปรับปรุงล่าสุด : 2025-01-30
อ่านเพิ่มเติม
บทที่ 1 (2.4) เตรียมวางแผน
“คนผู้นั้นชอบเจ้าหรือไม่” พอกู่ซิงอีถามมาถึงตรงนี้ เซี่ยลู่หลินก็พยักหน้าเพียงนิด กู่ซิงอีจึงเดาเรื่องราวได้ทั้งหมดว่าทำไมสหายยังไม่ยอมบอกเรื่องนี้กับตนสักที “เพราะฐานะของเขา?” “...” เซี่ยลู่หลินคราวนี้พยักหน้าอย่างแรง หยาดน้ำตาไหลลงมาอาบสองแก้ม นางรีบยกมือปาดออกอย่างรวดเร็ว กู่ซิงอีพอเข้าใจแล้วก็ไม่คาดคั้นเรื่องคนรักของสหายอีก แต่ปัญหาตอนนี้คือเรื่องการแต่งงานมากกว่า เซี่ยหลี่จวินบิดาของเซี่ยลู่หลินเป็นพ่อค้าที่เห็นเงินทองมาเป็นอันดับแรกสุด ทุกสิ่งทุกอย่างในสายตาของเขาคือผลกำไร ดังนั้นการแต่งงานครั้งนี้ก็คงหนีไม่พ้นเรื่องผลประโยชน์ เซี่ยหลี่จวินเป็นแบบนี้มานานแล้วกู่ซิงอีรู้จักเป็นอย่างดี สมัยก่อนนายท่านเซี่ยยังชอบสั่งห้ามให้เซี่ยลู่หลินไม่มาเล่นกับตนเพราะเขาเป็นเด็กที่กำพร้าและยากจน แถมเป็นบุรุษอีกด้วย คงกลัวว่าเซี่ยลู่หลินจะมาชอบพอกับเขาเข้าแล้วหนีตามกันไป แต่เซี่ยลู่หลินแม้จะเกรงกลัวบิดามากขนาดไหนทว่าก็ยังแอบมาหาเขาตลอด และเพราะบิดาของเซี่ยลู่หลินเข้มงวดจนเกินไปขนาดคนที่มีฐานะใกล้เคียงกันยังแทบไม่อยากให้เซี่ยลู่หลินไปพบปะ ดังนั้นทั้งคู่จึงเป็นสหายสนิท
last updateปรับปรุงล่าสุด : 2025-01-30
อ่านเพิ่มเติม
บทที่ 1 (3.4) ยังมิทันพ้นวัน ข่าวก็แพร่กระจายออกไปไกล
เมืองจางแห่งนี้ข่าวไปไวยิ่งนัก เสี่ยวลู่บอกกับเขาว่าตนได้รับการทาบทามเมื่อวานตอนเช้า แต่บิดาเพิ่งบอกนางตอนหัวค่ำ ใจนางร้อนรนอยากมาหาเขาตั้งแต่ยามดึกแล้วแต่ติดที่หาจังหวะหนีออกมาไม่ได้ พอรุ่งสางของวันนี้ถึงแอบออกมาได้ในที่สุด พอคำนวณดูนี่ยังไม่ทันพ้นวันด้วยซ้ำ ข่าวลื่อก็ดังไปทั่วเมืองแล้ว เห็นทีเรื่องนี้ก็คงยุ่งยากไปอีกเท่าตัว “ไม่แปลกหรอก ทั้งสองตระกูลเป็นตระกูลพ่อค้าเหมือนกัน ร่ำรวยพอ ๆ กัน ไม่มีใครเหนือกว่าใคร ข้าเองก็คิดว่าในสักวันต้องได้เห็นงานมงคลที่เอิกเกริกสักครั้งเช่นกัน วันนี้ก็มาถึงแล้ว!” “ฮ่า ๆ เจ้าหวังดื่มสุรามงคลสิท่า” “ทั้งสองตระกูลร่ำรวยขนาดนั้น แถมตระกูลว่านและตระกูลเซี่ยก็รักหน้ารักตามากกว่าใคร จัดงานทั้งที คงเลี้ยงคนทั้งเมือง!” “เจ้าก็กล่าวเกินไป ยังต้องไว้หน้าวังหลวงอยู่บ้าง คงต้องบอกว่าเลี้ยงคนเกินครึ่งเมืองแทน!” “ฮ่า ๆ” กู่ซิงอีได้ฟังก็หัวเราะเสียงเยียบเย็นในใจ มือบีบจอกชาแน่นขึ้นทันที หึ สุราหรือ ไว้ไปขอของข้าดื่มแทนแล้วกัน! งานแต่งในครั้งนี้ไหนเลยจะลำบากให้พวกเจ้าลากสังขารมาดื่มสุรามงคล เพราะมันจะต้องไม่เกิดขึ้น!
last updateปรับปรุงล่าสุด : 2025-01-30
อ่านเพิ่มเติม
บทที่ 1 (4.4) ยลโฉมครานั้น ภาพจำมิลืมเลือน
“ชมเกินไปแล้ว แค่คุ้นเคยเล็กน้อย ๆ เดิมข้าเป็นคนจมูกดีอยู่แล้วด้วย แต่ปกติจะได้กลิ่นขนาดนี้คงต้องทำสุราหกใส่ตัวเองกระมัง” แม่ค้าร้านน้ำตาลปั้นมองบุรุษชุดฟ้าสีพื้นที่เนื้อผ้าไม่ได้ดีมากไม่ได้หยาบมาก และค่อนข้างสะอาดสะอ้าน ดูไม่เหมือนพวกที่ชอบดื่มสุราต่างน้ำ อีกทั้งใบหน้ารูปงามที่พบยากในเมืองจางก็ดูไม่เมามายหรืออ่อนล้าอย่างกับคนที่ดื่มสุรามากจนเกินพอดีเลยสักนิด แล้วเหตุใดกลิ่นบนตัวจึงชัดเจนนัก “ข้าแค่ไปส่งสุราเท่านั้น” กู่ซิงอีกล่าวเรื่องจริงเพียงครึ่งส่วน ในตอนนั้นท่านน้าก็หันไปรับลูกค้าพอดีเขาจึงไม่ต้องหาเรื่องมาแก้ตัวอีก ครั้นพอไม่มีคนชวนคุยแล้วเขาถึงเพิ่งนึกขึ้นได้ว่าตนมาทำอะไรอยู่กลางตลาด เป็นจังหวะเดียวกับที่รถม้าสีเข้มคันหนึ่งพลันขับผ่านหน้าเขาไปพอดี คิ้วของกู่ซิงอีเลิกขึ้นเล็กน้อย รู้ได้ทันทีว่ารถคันนี้ต้องเป็นของคุณชายว่านแน่นอน เพราะตัวรถม้าออกแบบให้ค่อนข้างเตี้ยยกห่างจากพื้นไม่ถึงหนึ่งข้อศอก ดังนั้นจึงดูออกได้ง่ายว่าไม่ใช่รถม้าแบบทั่วไป และเมื่อมองตามไปก็พบว่ารถม้าได้หายเข้าไปข้างร้านว่านพอดี เลี้ยวไปในจุดอับสายตาที่คนไม่ค่อยสังเกตเห็นผ่านประตูสีน้ำตาลบานใ
last updateปรับปรุงล่าสุด : 2025-01-30
อ่านเพิ่มเติม
บทที่ 2 (1.3) สุดท้ายก็ไม่กล้าอยู่ดี
จวนตระกูลเซี่ยจะว่าใหญ่โตก็คือใหญ่โต แต่การดูแลค่อนข้างหละหลวม หรือไม่ก็อาจเป็นเพราะว่ากู่ซิงอีเข้าออกบ่อยจนชินไปแล้ว รู้ว่าควรเข้าที่ใด รู้ว่าที่หลบอยู่ตรงไหน และรู้ว่าควรมาเวลาใด ดังนั้นไม่ใช่เรื่องยากที่จะแอบย่องเข้ามาเหมือนโจรผู้หนึ่ง ยามปกติกู่ซิงอีมักจะหลบซ่อนบนต้นไม้ใกล้บานหน้าต่างห้องของเซี่ยลู่หลินแล้วใช้หินสามก้อนโยนไปกระทบหน้าต่างตามจังหวะ แต่สารทฤดูดำเนินมาครึ่งทางแล้วใบไม้จึงเริ่มร่วงหล่นใกล้หมดต้น จะหลบอย่างไรก็หลบไม่มิด ดังนั้นวันนี้กู่ซิงอีจึงเดินมาเคาะบานหน้าต่างของสหายตามจังหวะเดียวกับที่ใช้หินโยน เคาะหนึ่งครั้งเว้นไปสักพัก ช่วงเวลาที่เว้นไปก็หันมองซ้ายขวาและด้านหน้าตลอดเพื่อไม่ให้ถูกจับได้ เซี่ยลู่หลินกับเขาเป็นสหายกันมานานแบ่งแยกออกอย่างชัดเจนว่าไม่เคยคิดเกินเลย นับเป็นสหายที่ล่มหัวจมท้ายจนรู้ใจ แต่อย่างไรเสียคนทั่วไปก็คงมองว่าบุรุษและสตรีที่ไหนจะเป็นเพื่อนกันได้ แม้นพวกเขาไม่คิดอันใดแต่คนนอกย่อมต้องคิดแน่ กู่ซิงอีนึกถึงชื่อเสียงของเซี่ยลู่หลินมาก่อนเสมอจะทำให้สหายเสียชื่อไม่ได้ เวลาแอบย่องมาเล่นด้วยกันที่จวนตระกูลเซี่ยจึงต้องคอยระวังอยู่ตลอด ทว
last updateปรับปรุงล่าสุด : 2025-01-30
อ่านเพิ่มเติม
บทที่ 2 (2.3) นี่คนหรือนักบวช
กู่ซิงอีถึงขั้นเกาหัวด้วยความฉงน จู่ ๆ ก็โดนฝ่ามืออรหันต์ “จะส่งคนไปทั้งที่ก็ต้องส่งแบบที่เจ้าตัวชอบสิ บางทีคุณชายว่านอาจจะไม่ได้ชอบคนที่มีหุ่นงดงาม อาจชอบที่เรียบร้อยและเด็กกว่าตนมากก็ได้” สุดท้ายแล้วทั้งคู่ก็ถกเถียงกันอยู่นาน กู่ซิงอีที่ไม่มีงานทำเพราะหมักสุราไว้มากพอแล้วจึงอาสาไปสืบถามหาข่าวดูว่าคุณชายว่านเคยมีสตรีที่คบหาหรือไม่ หรือว่าเคยไปเที่ยวหอย่านโคมแดงแล้วเลือกสตรีแบบไหน “คุณชายว่านหรือ ไม่เห็นว่าเขาจะมีใครที่เคยชอบพอกัน” นี่คือคำกล่าวของคนที่อยู่ละแวกจวนของตระกูลว่านซึ่งมีแต่คำบอกเล่าในทำนองเดียวกันทั้งหมด กู่ซิงอีจึงเดินทางต่อไปแถวย่านโคมแดงแทน “คุณชายว่านหรือ ข้าไม่เคยเห็นเขาไปงานเลี้ยงด้วยซ้ำ” “คุณชายว่านไม่เคยมาที่แบบนี้หรอก วัน ๆ เห็นแต่ขลุกตัวอยู่ในจวนกับร้านว่านกลางเมือง” “ข้าเคยเห็นเขามาเจรจาการค้าอยู่บ้างแต่ส่วนมากไม่มาที่หอเริงรมย์ของข้าหรอก นู่น เขาแวะเข้าร้านน้ำชาแทน !” สรุปแล้วกู่ซิงอีเสียเวลาไปจนค่ำก็รู้แค่ว่าคนผู้นั้นเก็บตัวมากนัก หอเริงรมย์หรือหอรื่นเริงแต่ละที่ก็ยังไม่เคยไปและไม่เคยเรียกใครไปที่จวนเพื่อจัดงานเลี้ยงเหมือนที
last updateปรับปรุงล่าสุด : 2025-01-30
อ่านเพิ่มเติม
บทที่ 2 (3.3) ส่งเหยื่อไปล่อ
สองสามวันมานี้กู่ซิงอีคอยเฝ้าประกบตามดูคุณชายว่านอยู่ตลอด วันไหนที่คุณชายว่านออกมาจากจวนเพื่อมาร้านว่านกู่ซิงอีก็จะไปดักรอตั้งแต่ออกจากจวนตามมาจนกระทั่งถึงร้านว่าน ด้วยเพราะรถม้าตระกูลว่านเคลื่อนที่ช้ายิ่งนักเขาจึงเดินตามทันไม่เคยคลาดสายตาแม้แต่น้อย แต่ตลอดทางก็ไม่เห็นคนด้านในชายตาแลสาวคนไหน ผ้าม่านรถม้าถูกปิดไว้อย่างไรก็ยังคงปิดไว้ดังเดิมตลอดมิเคยเปิดออก แถมตอนอยู่ที่จวนคุณชายว่านก็เอาแต่ทำงานทั้งวัน ถึงตัวกู่ซิงอีจะมิได้แอบเข้าไปด้านในเพราะมีคนเดินตรวจตราอยู่ตลอด แต่แค่ปีนกำแพงอยู่ด้านนอกคอยสังเกตอยู่ห่าง ๆ ก็รู้ได้แล้วว่าคนผู้นี้บ้างานขนาดไหน เพราะห้องทำงานของคุณชายว่านก็คือเรือนที่อยู่ใกล้กับกำแพงเลยเห็นได้ว่าอีกฝ่ายไม่ออกไปไหนเลย มีเพียงคนสนิทของคุณชายว่านเท่านั้นที่เดินถือของเข้าออกอยู่ตลอดเวลา อีกทั้งเท่าที่สังเกตเห็นบ่าวรับใช้ในจวนที่เป็นสตรีก็มีแต่คนสูงวัยทั้งนั้น คล้ายว่าระวังตัวเรื่องชู้สาวไว้อยู่แล้ว วันเวลาจึงดำเนินทิ้งไปอย่างเปล่าประโยชน์ โดยยังมิทันได้เรื่องราวใดเป็นชิ้นเป็นอันเสียที ต่อมาไม่กี่วันกู่ซิงอีกับเซี่ยลู่หลินก็หาคนได้แล้ว เป็นดรุณีน้อยแรก
last updateปรับปรุงล่าสุด : 2025-01-30
อ่านเพิ่มเติม
บทที่ 3 (1.2) แย้มยลโฉมครานั้น ความทรงจำมิลืมเลือน
“เกิดอะไรขึ้น” เสียงเนิบนาบด้านในรถม้าเอ่ยถามขึ้นในชั่วขณะนั้น กู่ซิงอีได้ยินยลก็พบว่าคนผู้หนึ่งหน้าตาดีขนาดนั้นได้แล้ว เสียงเองก็ยังน่าฟังมากยิ่งนัก อดเผลอมองไปที่หน้าต่างรถม้าซึ่งมีผ้าม่านปิดอยู่มิได้ หลี่เซียวที่นั่งอยู่หน้ารถม้าก็รายงานเข้าไปให้คนด้านในฟังว่าเกิดอะไรขึ้น เมื่อครู่เขามัวแต่หันไปบอกคุณชายของตนว่าใกล้ถึงที่หมายแล้วจึงไม่ทันเห็นว่าสตรีผู้นี้ผ่านหน้ารถม้าตนตั้งแต่เมื่อไหร่ รู้ตัวอีกทีก็ตอนที่เสียงม้าร้องขึ้นมาแล้ว กู่ซิงอีหันมาสนใจฉีหย่าที่ทำท่าจะลุกแต่ก็ล้มลงไปกับพื้นต่อ พลางพิเคราะห์ในใจว่า แผนนี้ของเซี่ยลู่หลินอาจใช้ได้ผลแปดส่วนเท่านั้น เพราะส่วนมากคนที่ถูกรถม้าชนในตลาดมักจะเป็นขอทาน คนไร้บ้าน หรือพวกต้มตุ๋น สามกลุ่มนี้ล้วนมีเป้าหมายเดียวกันคือทำเพื่อหลอกเงินคนร่ำรวยอย่างคุณชายว่านเท่านั้น แต่ครั้งนี้อาจจะต่างออกไปก็ได้ เพราะว่าคนที่ถูกชนเป็นสตรีหน้าตางดงามนางหนึ่ง ความงามย่อมมีชัยไปกว่าครึ่ง ผู้ใดพบเห็นจะต้องสงสารแม่นางฉีหย่าก่อนถามไถ่ความจริงเป็นแน่ ด้านว่านฟู่เฉิงพอฟังจบแล้วว่าเกิดอะไรขึ้นก็สั่งให้หลี่เซียวไปจัดการตามสมควร เรื่องเงิน
last updateปรับปรุงล่าสุด : 2025-02-24
อ่านเพิ่มเติม
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status