“นั่นเลขาคุณนี่คะ”
“เอ่อ..คุณอาชน์”
น้ำอิงมองไปยังผู้หญิงที่ควงแขนมากับผู้ชายเข้ามาใหม่เมื่อสายตาปะทะกับทั้งสองตัวของเธอชาวาบไม่คิดว่าจะเจอพวกเขาทั้งคู่ที่นี่มันเหมือนยิ่งตอกย้ำสถานะของเธอว่าเธอเป็นเพียงแค่คนในความลับของเขาเท่านั้นเป็นสิ่งที่เธอไม่ได้อยากเลือกตั้งแต่แรกอีกต่างหาก
“อายอยู่ที่นี่เหรอคะ”
พลอยไพรินเห็นว่าน้ำอิงนั่งรออยู่ด้านนอกแสดงว่าเธอจะต้องมากับอัญญาเป็นแน่
“ใช่ค่ะอายลองชุดอยู่ด้านในค่ะ”
น้ำอิงชี้มือไปทางด้านในห้องใหญ่ที่มีพนักงานยืนรออยู่หน้าประตูพร้อมก้มหน้าเธอเลือกที่จะไม่มองทั้งสองให้บาดตาให้ตัวเองรู้สึกหน่วง
“อ๋อ..พอดีเลยงั้นเราไปข้างในกันดีกว่าค่ะอาชน์”
เมื่อรู้ดังนั้นพลอยไพรินจึงรีบดึงมือของอัศวินเข้าไปด้านในโดยที่เจ้าตัวก็ไม่ได้ขัดขืนอะไร
ชายหนุ่มมองหญิงสาวด้วยหางตาเล็กน้อยเขาดูสีหน้าของเธอตอนนี้ก็พอจะเดาอารมณ์ออกว่าเธอคงจะไม่ได้อยากมาอยู่ในสถานการณ์แบบนี้สักเท่าไรเขาเองก็เหมือนกันแต่ก็ต้องทำไปเพราะแค่หน้าที่เท่านั้น
สิบนาทีต่อมา
“เรียบร้อยแล้วใช่ไหม”
“อืม...พอดีไม่มีอะไรต้องแก้เรากลับกันเถอะ”
“อืมม...”
ยังไม่ทันที่จะลุกยืนเต็มที่น้ำอิงก็ถึงกับเข่าทรุดเพราะหน้ามืดกะทันหัน
“อิง”
อัญญารีบทิ้งชุดในมือประคองเพื่อนเธอเอาไว้ได้ทันพนักงานในร้านต่างก็ตกใจเช่นเดียวกับอัศวินและพลอยไพรินที่พึ่งออกมาจากห้องลองทั้งหมดรีบกรูเข้ามาช่วยดูหญิงสาว
“คุณ..”
อัศวินหน้าเสียที่เห็นว่าหญิงสาวเป็นลมไปต่อหน้าต่อตาเขาชายหนุ่มรีบอุ้มหญิงสาวออกไปจากร้านตรงไปที่ลานจอดรถเพื่อที่จะพาเธอไปส่ง
โรงพยาบาล
พลอยไพรินที่กึ่งวิ่งกึ่งเดินตามอยู่ห่างๆแอบเผลอคิดไปเองว่าชายหนุ่มดูจะห่วงน้ำอิงจนเกินไปแต่ก็รีบสลัดความคิดนั้นออกเพราะรู้ว่าเขาทั้งคู่เป็นเจ้านายลูกน้องกันก็คงจะสนิทกันเป็นธรรมดา
โรงพยาบาล
“คนไข้มีอาการเพลียง่ายเพราะกำลังตั้งครรภ์อ่อนๆครับเหมือนจะมีความเครียดสะสมด้วยถ้ายังไงลองดูอาการที่นี่สักครึ่งชั่วโมงนะครับ”
“เอ่อ..ค่ะ..”
ทุกคนต่างก็อึ้งในคำที่หมอหนุ่มบอกก่อนที่เขาจะเดินออกไปคนที่ดูตกใจที่สุดแต่ไม่ออกอาการอะไรก็น่าจะเป็นอัศวินตามมาด้วยอัญญาที่ยังคงนิ่งอึ้งไม่ยอมพูดยอมจาอะไร
“...นี่พลอยคิดว่าคุณอิงไม่มีแฟนซะอีกนะคะ...”
มีคนเดียวที่ดูจะยิ้มยินดีกับเรื่องนี้เพราะคิดว่านี่คือข่าวดี
อัญญาสลดกับคำพูดของพลอยไพรินเล็กน้อยใช่เพื่อนเธอไม่มีแฟนแล้วเพื่อนเธอจะไปท้องกับใคร
“พี่อาชน์กลับไปเถอะค่ะเดี๋ยวอายจะอยู่กับอิงเอง”
อัญญาไล่พี่ชายของเธอกลับเพราะเธอจะอยู่ที่นี่เฝ้าเพื่อนของเธอเองเพราะยังมีคำถามมากมายที่อยากถามเพื่อนเธอในตอนนี้
“ไม่..เรานั่นแหละกลับบ้านเถอะดึกแล้วส่วนคุณเดี๋ยวผมจะโทรให้ลอบซ์ไปส่งที่บ้าน”
อัศวินตอบกลับน้องสาวของเขาเสียงแข็งจนอีกฝ่ายตกใจเขาอยากจะให้น้องของเขาและพลอยไพรินกลับไปก่อนเพื่อที่เขาจะได้คุยกับน้ำอิงตามลำพังถึงเรื่องลูกในท้อง
“ไม่เป็นไรค่ะพลอยรู้ว่าคุณจะต้องยุ่งเลยให้คนที่บ้านมารับงั้นพลอยขอตัวก่อนนะคะ”
พลอยไพรินรู้ดีว่าชายหนุ่มจะต้องยุ่งอยู่ทางนี้ตั้งแต่แรกเธอจึงโทรให้คนที่บ้านมารับเพราะว่าพ่อของเธอเองก็โทรตามเช่นกัน
“อายไม่กลับค่ะอายจะคุยกับอิงว่าตกลงเพื่อนอายไปท้องกับใครกันแน่”
“พี่บอกให้กลับไปก่อนไงแล้วคิดว่าเพื่อนเราจะอยากคุยอะไรตอนนี้หรือไงไม่เห็นเหรอว่าหมอบอกว่าอิงมีภาวะเครียดอยู่รอให้พ้นวันนี้ไปก่อนจะได้ไหมพี่บอกให้กลับก็กลับ”
“อายกลับก็ได้ค่ะ”
และแล้วอัญญาก็ต้องเป็นฝ่ายยอมกลับแต่โดยดีเมื่อฟังเหตุผลจากพี่ชายของเธอ
สี่ทุ่มครี่ง
“ฮึก..ฮือๆๆๆ..อือๆๆๆๆ..”
อัศวินอุ้มน้ำอิงที่เอาแต่ร้องให้เข้ามาในบ้านลูกน้องที่เฝ้าอยู่ตามจุดต่างก็พากันสงสัยว่าทั้งคู่เป็นอะไรกันแต่ก็ไม่ได้ยุ่งอะไรมากมายนักยังคงคอยอำนวยความสะดวกเดินนำหน้าเปิดประตูห้องให้แล้วจึงกลับไปทำหน้าที่ตามเดิมของตัวเอง
“จะร้องอีกนานไหม”
อัศวินถามหญิงสาวที่เขาพึ่งจะวางเธอบนเตียงเสียงแผ่วเขาไม่ได้อยากเห็นน้ำตาของเธอแต่ก็ปลอบใครไม่เก่งเช่นกัน
“..ทำไม...ไม่..ปล่อยอิงไปตั้งแต่แรกฮือๆๆๆ..”
น้ำอิงตัดพ้อบ่างอย่างในใจทั้งสะอื้นจนพูดแทบจะไม่รู้เรื่องตอนนี้เธอท้องลูกของเขาทั้งที่เขากำลังจะแต่งงานแล้วชีวิตต่อไปนี้ของเธอจะเป็นยังไงเธอยังนึกอะไรไม่ออกมืดแปดด้านไปหมด
“นอนเถอะ”
อัศวินได้แต่กอดปลอบหญิงสาวเอาไว้เขาไม่รู้ว่าจะหาคำพูดดีๆมาปลอบเธออย่างไรแต่รู้ในใจว่ายังไงลูกในท้องของเธอเขาก็จะต้องเป็นคนรับผิดชอบ
เช้าวันต่อมา
บ้านใหญ่
“มาหาแม่แต่เช้ารู้ข่าวแล้วใช่ไหม”
กิ่งเกสรนั่งมองลูกชายของเธอจากสวนหน้าบ้านที่พึ่งเดินลงมาจากรถหรูของเขาอย่างเร่งรีบ
“ข่าวอะไรครับ”
อัศวินเข้ามานั่งกับแม่ของเธอที่เก้าอี้ฝั่งตรงข้าม
“อานัยขอให้ทางเรายกเลิกการแต่งงานและถอนหมั้นเมื่อวานนี้”
“เมื่อวานนี้ผมยังเจอกับพลอยอยู่เลยนะครับ”
อัศวินมีสีหน้าแปลกใจว่าเรื่องนี้เกิดขึ้นได้อย่างไรในเมื่อเมื่อวานเขายังเจอกับพลอยไพรินและไปรับชุดกันอยู่เลย
“หนูพลอยคงน่าจะยังไม่รู้เรื่องอานัยเค้าทนไม่ได้ที่เห็นว่าลูกสาวของเขาไม่ได้รับความใส่ใจอะไรจากเราเลยก็เลยขอยกเลิกการแต่งงาน”
เรื่องนี้พลอยไพรินน่าจะไม่รู้เรื่องเพราะการตัดสินใจทั้งหมดเป็นของภัคดนัยกิ่งเกสรเองก็รู้สึกผิดกับเรื่องนี้อยู่ไม่น้อยที่ทาบทามลูกสาวของภัคดนัยให้เป็นคู่หมั้นของลูกชายเธอตั้งแต่คราแรกโดยคิดว่าลูกชายของเธอน่าจะเปลี่ยนนิสัยได้และธุรกิจของสองตระกูลก็จะมีความน่าเชื่อถือมากขึ้นแต่เปล่าเลยมันไม่ได้เป็นอย่างที่เธอคิดสักนิดลูกชายเธอกลับแทบจะทำให้เธอหมางใจกับภัคดนัยครั้งแล้วครั้งเล่า
“ผมว่ามันมีอะไรมากกว่านั้นหรือเปล่าครับ”
อัศวินรู้ว่าภัคดนัยคงมีเหตุผลในการยกเลิกการแต่งงานมากกว่าที่แม่ของเขาพูดมา
“แม่ว่าเรารู้อยู่แก่ใจนะเรื่องเรากับหนูอิงมันยังไง”กิ่งเกสรรู้ดีว่าลูกชายของเธอรู้ว่าสิ่งที่มันมากกว่าที่เธอพูดออกไปมันคืออะไรเธอไม่เชื่อว่าลูกชายของเธอจะปล่อยให้ใครตามสืบเรื่องตัวเองได้ง่ายๆถ้าไม่จงใจในเมื่อเรื่องมันมาถึงขนาดนี้แล้วเธอก็ขอถามสิ่งที่เธอสงสัยมานานว่าลูกชายของเธอกับน้ำอิงความสัมพันธ์ของทั้งสองเป็นยังไงกันแน่เพราะเธอจับสังเกตุได้ตั้งแต่วันที่น้ำอิงมานอนที่บ้านแล้วลูกชายของเธอแอบเข้าห้องของน้ำอิงแถมคืนที่ไปนอนที่เกาะยังพาน้ำอิงออกไปข้างนอกดึกๆดื่นๆกลับมาก็เช้าอีกต่างหากเรื่องนี้เธออยากจะฟังจากปากลูกชายของเธอเองอัศวินตั้งใจจะบอกเรื่องนี้กับแม่ของเขาอยู่แล้วเขาจึงเล่าเรื่องราวทั้งหมดให้แม่ของเขาฟัง...จนถึงเรื่องที่ตอนนี้น้ำอิงตั้งท้องอีกด้วย“อาชน์...นี่แม่จะเป็นลมทำไมถึงได้ทำนิสัยแบบนี้ห้ะ”กิ่งเกสรฟังเรื่องราวทั้งหมดเธอแทบจะลมจับที่ดูลูกชายเธอเหมือนจะโหดร้ายกับน้ำอิงเสียเหลือเกินยิ่งฟังก็ยิ่งสงสารน้ำอิงหากหญิงสาวไม่ท้องกับลูกชายของเธอตัวเธอเองจะเป็นคนช่วยน้ำอิงให้พ้นไปจากชีวิตลูกชายของเธอเสียเองแต่ก็แอบแปลกใจอยู่ไม่น้อยเมื่อรู้สึกว่าลูกชายของเธอจะมีนิสัยบางอย่างที่เปลี
“เรื่องโอบแกไม่ต้องเป็นห่วงฉันสัญญาว่าน้องแกจะไม่เป็นอะไรแล้วฉันจะดูแลโอบแทนแกเอง”อัญญารู้ว่าการที่น้ำอิงไม่หนีไปจากพี่ชายของเธอก็เพราะน่าจะเนื่องด้วยกลัวคำขู่ของพี่ชายเธอตอนนี้เธอเชื่อว่าเรื่องทุกอย่างถึงหูแม่ของเธอแล้วโอบจะไม่เป็นอะไรอีกอย่างตอนนี้ความรู้สึกของพี่ชายเธอที่มีต่อน้ำอิงเธอก็คิดว่ามันเปลี่ยนไปเช่นกันแต่แค่พี่ชายของเธอยังหาคำตอบให้ตัวเองไมได้เท่านั้น“อืม...ฮึก..ขอบ..ใจนะ..”น้ำอิงได้ยินคำนี้เธอก็โล่งใจไปเปราะหนึ่งจึงยอมล้มตัวนอนพักบนเตียงโดยดีแต่ก็ยังมีอาการสะอื้นอยู่บ้างเล็กน้อยหลังจากที่น้ำอิงหลับไปแล้วสองสาวก็มานั่งคุยกันอยู่ที่หน้าบ้านรับลมชมวิวของแม่น้ำด้วยสีหน้าที่เป็นกังวลกันนิดหน่อย“พี่อาชน์นี่สุดไปเลยนะแก”ผักหวานไม่รู้จะสรรหาคำพูดไหนมาอธิบายในความเป็นพี่ชายของเพื่อนเธอเลยจริงๆเป็นคนที่ค่อนข้างจะแปลกคนกับคนทั่วไปเสียเหลือเกิน“ถ้าวันนั้นฉันจัดการเรื่องเงินได้เรื่องนี้ก็คงไม่เกิด”อัญญาคิดถึงเรื่องในอดีตหากวันที่เพื่อนเธอต้องการเงินแล้งเงินเธออยู่ในมือของเธอโดยไม่ต้องขออนุญาตใครเรื่องก็คงไม่เป็นแบบนี้“มันอาจจะเป็นเรื่องที่ฟ้ากำหนดมาแล้วก็ได้”ผักหวานคิดในอีก
วันต่อมาบ้านใหญ่“คุณพ่อ”อัศวินเข้ามาที่บ้านใหญ่ของเขาในช่วงเช้าหน้าตาของเขาหมองคล้ำเสียยิ่งกว่าคนโดนของเพราะทั้งไม่ได้นอนและทั้งดื่มหนักจนหมดมาดนักธุรกิจ“ว่าไงลูกชายตัวดี”เอื้อการมองลูกชายของตนที่เดินเป็นศพตายซากเข้ามาหาทั้งกลิ่นตัวยังฟุ้งไปด้วยกลิ่นแอลกอฮอลล์คละคลุ้งเป็นบุญตาเสียจริงที่ได้เห็นลูกชายของเขาโดนผู้หญิงทิ้งแต่ก็ไมได้เอ่ยคำทำร้ายจิตใจอะไรขึ้นมา“คุณพ่อพึ่งมาจะไปไหนกันเหรอครับ”อัศวินมองกระเป๋าที่วางอยู่หน้าบ้านพร้อมรถตู้แสดงว่าต้องมีคนจะออกไปเที่ยวที่ไหนกันแน่“พ่อจะพาแม่เรากับน้องไปเที่ยวที่ญี่ปุ่นน่ะทริปนี้แม่เค้าอยากไปนานแล้ว”“อ่อ..ครับ...นี่ทิ้งงานไปเที่ยวแบบนี้บอกลอบซ์หรือยัง”อัศวินเหลือบสายตามองน้องสาวของเขาที่กำลังขึ้นไปนั่งรออยู่ในรถตู้เพราะไม่อยากคุยกับพี่ชายของเธอ ไร้การตอบรับจากอัญญาทั้งเธอยังหันหน้าหนีพี่ชายของเธออีกด้วย“น้องคงโกรธเราเรื่องหนูอิงน่ะ”กิ่งเกสรเดินออกจากบ้านตรงเข้ามาหาลูกชายของเธอก่อนที่จะเดินไปประชิดตัวอัญญาขวางเอาไว้ก่อนรู้ว่าลูกเธอจะต้องเข้าไปดุคนเป็นน้องอีกแน่“แล้วคุณแม่จะไปกี่วันครับ”“สักอาทิตย์เดี๋ยวก็กลับแล้วล่ะแล้วเรื่องหนูอิงเจ
ครู่ต่อมา“นี่หมอชินอิจิโร่หมอชินเป็นหมอสูติจะเป็นคนมาดูแลเราเป็นระยะนะหนูอิงเค้าเป็นลูกชายเพื่อนพ่อเอง”เอื้อการนัดชินอิจิโร่มาที่นี่เพื่อแนะนำให้รู้จักกับน้ำอิงเพราะเขาจะวานให้หมอชินมาดูแลน้ำอิงที่นี่เป็นระยะในระหว่างที่น้ำอิงอยู่ที่นี่หมอชินเป็นลูกชายของชินซาคุเพื่อนเอื้อการที่ทำธุรกิจด้วยกันที่อิตาลีที่นี่เป็นบ้านของชินซากุที่ซื้อเอาไว้นานแล้วเอื้อการเห็นว่าเวลานี้เขามีเรื่องจำเป็นที่จะต้องขอใช้ซึ่งชินซาคุก็ไม่ได้มีปัญหาอะไรทั้งยังบอกให้อยู่เหมือนบ้านตัวเองและยังให้นัดเจอกับลูกชายของเขาเพื่อให้มาดูแลคนที่อยู่ที่นี่ด้วย“ยินดีที่ได้รู้จักนะครับ”หมอชินก้มหัวลงเล็กน้อยทักทายหญิงสาว“ยินดีที่ได้รู้จักเช่นกันค่ะ”น้ำอิงทักทายหมอหนุ่มด้วยรอยยิ้ม“คุณเป็นพ่อฉันก็ต้องเป็นแม่สินะ”เมื่อครู่กิ่งเกสรได้ยินสามีของเธอแทนตัวเองว่าพ่อกับน้ำอิงเธอจึงขอแทนตัวเองว่าแม่บ้าง น้ำอิงเกิดอาการเกร็งๆกับสรรพนามที่เปลี่ยนไปของทั้งคู่เล็กน้อย“งั้นหนูอิงเรียกน้าว่าแม่เลยแล้วกันนะเหมือนที่อายเรียกไง”“เอ่อ...ค่ะ”อัญญาหันมายิ้มให้เพื่อนเธออย่างมีเลศนัยเพราะรู้ว่าพ่อกับแม่ของเธอคิดอะไรกันอยู่อาทิตย์ต่อมา“พ
สนามบิน“เที่ยวให้สบายใจนะลูกสบายใจเมื่อไรก็ค่อยกลับมา”“ค่ะคุณพ่อ”สองพ่อลูกกอดกันอยู่ที่สนามบินท่ามกลางผู้คนที่เดินขวักไขว่ไปมาวันนี้ภัคดนัยมาส่งลูกสาวของเขาตามที่เธอขอว่าอยากจะไปเที่ยวเรื่องนี้เขาเห็นดีเห็นงามด้วยที่พลอยไพรินจะเดินทางไปญี่ปุ่นเขาหวังว่าการไปเที่ยวครั้งนี้จะทำให้ลูกสาวของเขาลืมเรื่องที่ช้ำใจในตอนนี้ได้“อย่าลืมว่าพ่ออยากเห็นรอยยิ้มที่สดใสของลูกอีกครั้งนะ”“ค่ะอยู่ทางนี้ดูแลสุขภาพด้วยนะคะ”ตอนนี้พลอยไพรินพอจะทำใจได้บ้างแล้วเพียงอยากหาที่สงบๆอยู่กับตัวเองให้พ้นจากข่าวคราวที่เธอยกเลิกงานแต่งเธอจึงเลือกที่จะไปพักผ่อนที่ญี่ปุ่นคนเดียวหวังว่าการเที่ยวครั้งนี้จะเยียวยาหัวใจของเธอให้กลับมาดีขึ้นในเร็ววันเหมือนกันญี่ปุ่น“อุ้บ...แหวะ...อุบบ..เฮ้ออออ...ทำไมไม่สงสารแม่บ้างเลยคะเจ้าตัวเล็กกินอะไรไปเท่าไรก็ออกมาหมดเลยแบบนี้จะได้สารอาหารบ้างไหมคะ”น้ำอิงนั่งฟุบลงกับพื้นมือเรียวของเธอลูบหน้าท้องพร้อมส่งเสียงคุยเบาๆอาการแพ้ท้องของเธอเริ่มจะหนักขึ้นทุกวันๆจนเธอนั้นซูบลงไปเยอะ“เป็นยังไงบ้างครับคุณอิง”“หมอชิน..”“นี่ท่าทางจะแพ้หนักใช่ไหมครับ”หมอชินเห็นสีหน้าของหญิงสาวก็พอจะดูอาการ
“ไม่ต้องสงสาร”อัญญาพูดกับเพื่อนเธอด้วยแววตามุ่งมั่น“อันนี้ความแค้นส่วนตัวหรือเปล่าเนี่ย”ผักหวานแอบอมยิ้มมองหน้าเพื่อนเธออย่างมีเลศนัย“อืมก็นิดหน่อยหมั่นไส้มานาน”อัญญายอมรับว่าเรื่องที่พี่ชายเธอหาน้ำอิงไม่เจอเสียทีเธอก็แอบสะใจอยู่เหมือนกันจะได้รู้เสียบ้างว่าเวลาอยากจะติดต่อใครแล้วหาตัวยากเย็นมันรู้สึกยังไง“แกนี่จริงๆเลยนะ...จะให้พี่แกอยู่ในสภาพที่เน่าไปกว่านี้อีกสักเท่าไรถึงจะยอมบอกว่าอิงอยู่ที่ไหน”“อืม...ขอดูอีกสักพักแล้วกัน”อัญญาก็ไม่รู้ว่าเธอจะปล่อยให้พี่เธอเป็นแบบนี้ไปจนถึงเมื่อไรแต่ถ้าหากพี่ชายเธอรู้ใจตัวเองเร็วเธอก็อาจจะบอกกับเขาเร็วก็ได้“แล้วอิงเป็นไงบ้างช่วงนี้ฉันไม่ค่อยได้ติดต่ออิงเลยมัวแต่ช่วยงานพี่กร”“อารมณ์ดีขึ้นเยอะนะแต่ก็แพ้ท้องหนักอะ”“อยู่ที่นั่นน่าจะเหงาเนอะ”“เห็นว่าว่างๆก็อ่านหนังสือฟังเพลงแก้เบื่อมั้ง”“นี่ไว้เราหาเวลาว่างไปหาอิงกันไหม”ผักหวานรู้ว่าคนท้องมักจะอารมณ์แปรปรวนไปอยู่ต่างบ้านต่างเมืองอาจจะเหงาหดหู่ได้เธอเลยอยากหาเวลาว่างไปหา“ก็ดีเหมือนกันนะ”อัญญาเห็นด้วยกับเพื่อนเธอแต่ครั้งนี้คงยังรีบไปไมได้เพราะหากไปบ่อยเกินเดี๋ยวพี่ชายของเธอจะสงสัยเอาได้บ้
ญี่ปุ่น“หืม....หมอชินเหรอคะ??”น้ำอิงที่กำลังนั่งพิงหมอนอ่านหนังสืออยู่ในห้องเมื่อได้ยินว่าข้างนอกมีเสียงคนเดินเข้ามาเธอจึงเลื่อนประตูออกมาดู“..ฉันเอง..”“คุณอาชน์..”น้ำอิงผงะถอยกรูดสองสามก้าวตกใจกับคนตรงหน้าที่เขาตามหาเธอเจอได้อย่างไร อัศวินโผเข้ากอดหญิงสาวด้วยความคิดถึง“ปล่อยอิงค่ะ”น้ำอิงพยายามดันตัวชายหนุ่มให้ออกห่างจากตัวเธอแต่ดูท่าว่าจะยากเสียเหลือเกิน“ไม่..”อัศวินกระชับกอดหญิงสาวแน่นขึ้นกว่าเดิม“ปล่อย...”“ฉันขอโทษ..”ชายหนุ่มพ่นคำพูดด้วยเสียงแผ่วเบาข้างหูของหญิงสาวที่เขากอดอยู่ น้ำอิงชะงักงันไม่คิดว่าจะได้ยินคำพูดนี้จากปากของเขาคนที่หยิ่งทรนงในศักดิ์ศรีตัวเองคนที่เอาแต่ใจคนเดิมไม่เคยมีคำพูดนี้ให้เธอ“ขอโทษที่ฉันชอบบังคับจิตใจเธอเพราะฉันมันเห็นแกตัวอยากเก็บเธอเอาไว้ใกล้ๆแต่ก็ไม่มีวิธีที่ดีกว่าการบังคับ”“มาที่นี่เพียงเพื่อจะขอโทษใช่ไหมคะ..”น้ำอิงอยากจะถามเขาให้แน่ใจว่าเขามาหาเธอเพียงเพราะเรื่องแค่นี้ใช่หรือไม่หากเป็นอย่างที่อัญญาบอกกับเธอจริงมันจะต้องมีคำพูดที่มากกว่านี้แน่นอนซึ่งเธอเองก็อยากจะได้ยินคำนั้นจากปากของเขาอยู่ลึกๆเหมือนกัน“คือ..”“อิงให้อภัยคุณค่ะแล้วคุณก็ก
“คุณอาชน์ทำเป็นเหรอคะ”“เธอบอกฉันก็ได้ว่าต้องใส่อะไรบ้าง”น้ำอิงหยักหน้าตกลงเธออยากจะเห็นอยู่เหมือนกันว่าอัศวินที่ทำเป็นแต่งานเวลาเข้าครัวทำอาหารจะออกมาเป็นแบบไหน“คนแบบนี้ใช่ไหม...เอ่อ”อัศวินดูเก้ๆกังๆในขณะที่ตอนนี้ข้าวหนึ่งถ้วยใหญ่ได้เข้าไปอยู่ในกระทะผัดเรียบร้อยแล้วเขามัวแต่หันมาถามหญิงสาวทั้งที่มือก็ยังทำงานอยู่ข้าวในกระทะจึงหกอกมาเลอะเทอะ“อิงทำเองดีกว่าค่ะ”น้ำอิงคิดว่าหากมื้อนี้เธอไม่เองคงจะไม่ได้กินเป็นแน่“ก..ก็ได้”อัศวินหน้าเสียเล็กน้อยแต่ทุกอย่างก็ต้องเรียนรู้ครั้งนี้เขามองดูเธอทำก่อนก็ได้หากครั้งต้อไปเขาจะต้องทำเป็นให้ได้จะได้ดูแลเธออย่างเต็มที่หญิงสาวใช้เวลาไม่นานข้าวผัดไข่ทั้งสองจานก็มาวางอยู่ที่โต๊ะทานอาหารต่อหน้าของเธอและชายหนุ่ม“ชอบกินแบบนี้เหรอ”อัศวินมองหญิงสาวที่กำลังตักข้าวเข้าปากท่าทางที่ดูจะมีความสุขกับการกินข้าวผัดของเธอทำให้เขาต้องตั้งคำถามขึ้นทั้งมองหญิงสาวฝั่งตรงข้ามอย่างสงสัยเพราะจากที่เขาได้ลองชิมข้าวในจานแล้วรู้สึกว่ามันจะจืดชืดไม่ค่อยจะมีรสชาติอะไรเท่าไรนัก“ค่ะ..ก็กินได้แต่แบบนี้”น้ำอิงเลิกสายตามองชายหนุ่มชั่วครู่แล้วจึงกลับไปสนใจข้าวในจานของเธอต่อ