สนามบิน
“เที่ยวให้สบายใจนะลูกสบายใจเมื่อไรก็ค่อยกลับมา”
“ค่ะคุณพ่อ”
สองพ่อลูกกอดกันอยู่ที่สนามบินท่ามกลางผู้คนที่เดินขวักไขว่ไปมาวันนี้ภัคดนัยมาส่งลูกสาวของเขาตามที่เธอขอว่าอยากจะไปเที่ยวเรื่องนี้เขาเห็นดีเห็นงามด้วยที่พลอยไพรินจะเดินทางไปญี่ปุ่นเขาหวังว่าการไปเที่ยวครั้งนี้จะทำให้ลูกสาวของเขาลืมเรื่องที่ช้ำใจในตอนนี้ได้
“อย่าลืมว่าพ่ออยากเห็นรอยยิ้มที่สดใสของลูกอีกครั้งนะ”
“ค่ะอยู่ทางนี้ดูแลสุขภาพด้วยนะคะ”
ตอนนี้พลอยไพรินพอจะทำใจได้บ้างแล้วเพียงอยากหาที่สงบๆอยู่กับตัวเองให้พ้นจากข่าวคราวที่เธอยกเลิกงานแต่งเธอจึงเลือกที่จะไปพักผ่อนที่ญี่ปุ่นคนเดียวหวังว่าการเที่ยวครั้งนี้จะเยียวยาหัวใจของเธอให้กลับมาดีขึ้นในเร็ววันเหมือนกัน
ญี่ปุ่น
“อุ้บ...แหวะ...อุบบ..เฮ้ออออ...ทำไมไม่สงสารแม่บ้างเลยคะเจ้าตัวเล็กกินอะไรไปเท่าไรก็ออกมาหมดเลยแบบนี้จะได้สารอาหารบ้างไหมคะ”
น้ำอิงนั่งฟุบลงกับพื้นมือเรียวของเธอลูบหน้าท้องพร้อมส่งเสียงคุยเบาๆอาการแพ้ท้องของเธอเริ่มจะหนักขึ้นทุกวันๆจนเธอนั้นซูบลงไปเยอะ
“เป็นยังไงบ้างครับคุณอิง”
“หมอชิน..”
“นี่ท่าทางจะแพ้หนักใช่ไหมครับ”
หมอชินเห็นสีหน้าของหญิงสาวก็พอจะดูอาการออกดีที่เขาเตรียมพวกยาแก้แพ้มาให้เธอด้วย
“อืมม..ค่ะ”
“นี่ยาบำรุงครรภ์ครับส่วนนี่แก้แพ้คงจะพอทุเลาลงได้หน่อยนะครับ”
“ขอบคุณค่ะ...”
“ระหว่างนี้ยังมีอาการเครียดอะไรบ้างหรือเปล่าครับ”
“ไม่ค่อยแล้วล่ะค่ะ”
“ผมเอาหนังสือมาฝากครับเกี่ยวกับการเป็นคุณแม่มือใหม่แล้วนี่ก็ไฟล์เพลงเอาไว้เปิดคลอเวลาก่อนนอนก็จะทำให้หลับดีครับ”
หมอชินหยิบหนังสือออกมาจากกระเป๋าของเขายื่นให้หญิงสาวที่โต๊ะตรงหน้าของเธอ
“ขอบคุณนะคะ”
น้ำอิงยิ้มกว้างขอบคุณหมอหนุ่มเธอกำลังอยากหาอะไรอ่านอยู่พอดี
“ส่วนอาหารที่ผมสั่งให้คนมาส่งทุกวันคุณอิงทานได้ทุกอย่างใช่ไหมครับ”
“อิงทานได้ค่ะไม่ได้มีปัญหาแต่พอหมดจานเท่านั้นแหละค่ะก็ออกหมดเลย”
“งั้นเดี๋ยวผมจะลองสับเปลี่ยนอาหารให้เรื่อยๆนะครับส่วนเรื่องแพ้ก็คงต้องรออีกสักระยะก็คงจะเบาลงทนหน่อยนะครับ”
“ค่ะ...”
“หมอชินมาดูแลอิงแทบทุกวันเลยขอบคุณนะคะ”
“ไม่เป็นไรครับโรงพยาบาลที่ผมทำงานอยู่ก็อยู่ใกล้ๆนี่เองวันหยุดเดี๋ยวผมจะพาคุณอิงออกไปเดินเที่ยวบ้างนะครับ”
“อืม...ก็ดีเหมือนกันค่ะขอบคุณนะคะ”
“ยังไงอย่าลืมทานยาบำรุงพักผ่อนให้เพียงพอด้วยนะครับเดี๋ยวผมต้องขอตัวกลับก่อน”
“ค่ะ”
สองวันต่อมา
“อืม...ตรงไหนนะ...หา..นั่นไง”
พลอยไพรินกำลังยืนมองมือถือของเธอที่ริมถนนเธอเปิดดูข้อมูลว่าร้านอาหารที่เธออยากจะมาอยู่แถวนี้แต่ก็ไม่เห็นเสียทีเมื่อเงยหน้าขึ้นอีกครั้งลองมองดูให้กว้างขึ้นจึงเห็นว่าร้านที่เธอตามหาอยู่เยื้องออกไปทางซ้ายกับตรงหน้าของเธอนิดหน่อย
พลั้กกก
“อร้ายยยยย...”
“...ขอโทษค่ะ...เอ่อ.โกเมนนาไซ..”
ด้วยความที่ดีใจจนไม่ทันได้มองอะไรเธอจึงชนกับชายคนนึงเข้าด้วยความตกใจจึงรีบขอโทษอีกฝ่ายเป็นภาษาไทยและต่อด้วยภาษาญี่ปุ่นเมื่อนึกขึ้นได้
“เป็นอะไรมากหรือเปล่าครับ”
หมอชินรีบหันมาคว้าหญิงสาวเอาไว้กลัวว่าเธอจะล้มเมื่อเห็นว่าเธอพูดภาษาไทยเขาจึงรีบพูดภาษาไทยกับเธอ
“พูดไทยได้เหรอคะ”
พลอยไพรินแหงนมองคนข้างหน้าที่ตัวสูงเกินกว่าเธอไปมากหน้าตาของเขาออกจะตี๋แต่มีคิ้วที่เข้มและท่าทางเรียบร้อยดูยังไงก็ไม่น่าจะใช่คนไทยแต่ก็คงจะพูดภาษาไทยได้เท่านั้น
“ครับ”
“เมื่อกี้ขอโทษทีนะคะ”
พลอยไพรินรีบขอโทษคนตรงหน้าอีกครั้งพร้อมวิ่งเข้าร้านไปอย่างรวดเร็วด้วยความดีใจที่เธอได้มาร้านอาหารที่อยากจะมาเสียที
“ครับ..”
หมอชินยืนเกาหัวแกรกๆเล็กน้อยกับท่าทีรีบร้อนของเธอ
“เอ่อ..คุณ...”
เขาเห็นว่ามีบางอย่างหล่นอยู่ที่พื้นน่าจะเป็นสร้อยข้อมือของเธอคงเผลอทำหล่นเมื่อครู่พอเขาจะหันไปหาเธออีกทีก็ไม่เจอเสียแล้วจึงเก็บสร้อยเส้นนั้นเอาไว้
เรือนรวีกานต์
“นี่ตกลงจะมานั่งเฝ้าผมทั้งวันเลยใช่ไหมครับ”
โอบนั่งมองชายหนุ่มที่บอกว่าตัวเองเป็นพี่เขยของตนอยู่บนรถเข็นเพราะตอนนี้เขายังเดินไม่ถนัดต้องทำกายภาพอีกสักพักผลจากการผ่าตัดและการที่นอนติดเตียงนานสายตาของโอบมองชายหนุ่มตรงหน้าอย่างผิดหวังที่ไม่รู้ว่าพี่สาวของเขาเอาคนขี้เมามาเป็นพ่อของลูกได้ยังไง
“พี่สาวหายไปทั้งคนไม่รู้สึกกังวลบ้างเลยหรือไง”
อัศวินตาแดงก่ำผมเผ้ายุ่งเหยิงกึ่งนั่งกึ่งนอนอยู่บนโซฟาในห้องของโอบเขาอยู่ในชุดกางเกงนอนกับเสื้อยืดสีขาวดูไม่เหมือนนักธุรกิจใหญ่โตเลยสักนิดทั้งยังแปลกใจที่ดูน้องชายของน้ำอิงจะไม่มีทีท่าเป็นห่วงพี่สาวตัวเองที่หายไปเอาเสียเลย
“กังวลแล้วผมจะทำอะไรได้ครับตอนนี้แค่จะเดินผมยังเดินไม่ถนัดเลย”
ที่เขาไม่กังวลก็เพราะรู้ดีว่าพี่สาวอยู่ที่ไหนแล้วหายไปเพราะอะไรแต่ก็หาคำตอบที่มันฟังขึ้นให้อีกฝ่ายได้ฟังถ้าอยากจะได้ยินคำตอบของเขานัก
“หรือว่ารู้ว่าพี่เราอยู่ไหน”
อัศวินจ้องน้องชายของน้ำอิงเขม็งพร้อมขมวดคิ้ว
“อย่าเพ้อเจ้อไปหน่อยเลยครับคุณพี่เขยพี่สาวผมเค้าไม่มีวันให้ตัวเองไปอยู่ในที่ที่อันตรายหรอกครับ”
“หื้มมมม...อึกๆๆๆๆ”
อัศวินถอนหายใจอย่างไม่มีหวังทั้งยังยกขวดเครื่องดื่มในมือมาดื่มปานว่ามันเป็นน้ำเปล่า
“เอาแต่ดื่มเดี๋ยวก็ตายก่อนจะได้เจอพี่ผมพอดี”
“พยาบาลมาถึงแล้วครับคุณโอบ”
“ขอตัวก่อนนะครับ”
บอดี้การ์ดชุดดำเดินเข้ามาตามโอบในห้องโอบเห็นว่าได้จังหวะพอดีจึงขอตัวออกไปก่อนหากอัศวินจะนั่งอยู่ที่นี่หรือจะกลับก็ตามใจ
“นี่พี่ฉันจะบ้าไปกว่านี้อีกไหมเนี่ย”
อัญญาที่กำลังนั่งคุยกับผักหวานอยู่ในห้องของเธอพรางมองไปนอนกหน้าต่างมองไปที่เรือนของคุณย่าเธอเห็นพี่ชายของเธอเดินโซซัดโซเซออกมาก็ต้องถึงกับมีสีหน้าระอาที่ดูพี่ชายเธอจะเอาแต่ดื่มหนักขึ้นทุกวัน
“น่าสงสารอยู่เหมือนกันนะแก”
ผักหวานมองเห็นพฤติกรรมของพี่ชายเพื่อนเธอเหมือนกันบอกตามตรงว่าตอนนี้เธอชักจะสงสารอัศวินเสียแล้ว
“ไม่ต้องสงสาร”อัญญาพูดกับเพื่อนเธอด้วยแววตามุ่งมั่น“อันนี้ความแค้นส่วนตัวหรือเปล่าเนี่ย”ผักหวานแอบอมยิ้มมองหน้าเพื่อนเธออย่างมีเลศนัย“อืมก็นิดหน่อยหมั่นไส้มานาน”อัญญายอมรับว่าเรื่องที่พี่ชายเธอหาน้ำอิงไม่เจอเสียทีเธอก็แอบสะใจอยู่เหมือนกันจะได้รู้เสียบ้างว่าเวลาอยากจะติดต่อใครแล้วหาตัวยากเย็นมันรู้สึกยังไง“แกนี่จริงๆเลยนะ...จะให้พี่แกอยู่ในสภาพที่เน่าไปกว่านี้อีกสักเท่าไรถึงจะยอมบอกว่าอิงอยู่ที่ไหน”“อืม...ขอดูอีกสักพักแล้วกัน”อัญญาก็ไม่รู้ว่าเธอจะปล่อยให้พี่เธอเป็นแบบนี้ไปจนถึงเมื่อไรแต่ถ้าหากพี่ชายเธอรู้ใจตัวเองเร็วเธอก็อาจจะบอกกับเขาเร็วก็ได้“แล้วอิงเป็นไงบ้างช่วงนี้ฉันไม่ค่อยได้ติดต่ออิงเลยมัวแต่ช่วยงานพี่กร”“อารมณ์ดีขึ้นเยอะนะแต่ก็แพ้ท้องหนักอะ”“อยู่ที่นั่นน่าจะเหงาเนอะ”“เห็นว่าว่างๆก็อ่านหนังสือฟังเพลงแก้เบื่อมั้ง”“นี่ไว้เราหาเวลาว่างไปหาอิงกันไหม”ผักหวานรู้ว่าคนท้องมักจะอารมณ์แปรปรวนไปอยู่ต่างบ้านต่างเมืองอาจจะเหงาหดหู่ได้เธอเลยอยากหาเวลาว่างไปหา“ก็ดีเหมือนกันนะ”อัญญาเห็นด้วยกับเพื่อนเธอแต่ครั้งนี้คงยังรีบไปไมได้เพราะหากไปบ่อยเกินเดี๋ยวพี่ชายของเธอจะสงสัยเอาได้บ้
ญี่ปุ่น“หืม....หมอชินเหรอคะ??”น้ำอิงที่กำลังนั่งพิงหมอนอ่านหนังสืออยู่ในห้องเมื่อได้ยินว่าข้างนอกมีเสียงคนเดินเข้ามาเธอจึงเลื่อนประตูออกมาดู“..ฉันเอง..”“คุณอาชน์..”น้ำอิงผงะถอยกรูดสองสามก้าวตกใจกับคนตรงหน้าที่เขาตามหาเธอเจอได้อย่างไร อัศวินโผเข้ากอดหญิงสาวด้วยความคิดถึง“ปล่อยอิงค่ะ”น้ำอิงพยายามดันตัวชายหนุ่มให้ออกห่างจากตัวเธอแต่ดูท่าว่าจะยากเสียเหลือเกิน“ไม่..”อัศวินกระชับกอดหญิงสาวแน่นขึ้นกว่าเดิม“ปล่อย...”“ฉันขอโทษ..”ชายหนุ่มพ่นคำพูดด้วยเสียงแผ่วเบาข้างหูของหญิงสาวที่เขากอดอยู่ น้ำอิงชะงักงันไม่คิดว่าจะได้ยินคำพูดนี้จากปากของเขาคนที่หยิ่งทรนงในศักดิ์ศรีตัวเองคนที่เอาแต่ใจคนเดิมไม่เคยมีคำพูดนี้ให้เธอ“ขอโทษที่ฉันชอบบังคับจิตใจเธอเพราะฉันมันเห็นแกตัวอยากเก็บเธอเอาไว้ใกล้ๆแต่ก็ไม่มีวิธีที่ดีกว่าการบังคับ”“มาที่นี่เพียงเพื่อจะขอโทษใช่ไหมคะ..”น้ำอิงอยากจะถามเขาให้แน่ใจว่าเขามาหาเธอเพียงเพราะเรื่องแค่นี้ใช่หรือไม่หากเป็นอย่างที่อัญญาบอกกับเธอจริงมันจะต้องมีคำพูดที่มากกว่านี้แน่นอนซึ่งเธอเองก็อยากจะได้ยินคำนั้นจากปากของเขาอยู่ลึกๆเหมือนกัน“คือ..”“อิงให้อภัยคุณค่ะแล้วคุณก็ก
“คุณอาชน์ทำเป็นเหรอคะ”“เธอบอกฉันก็ได้ว่าต้องใส่อะไรบ้าง”น้ำอิงหยักหน้าตกลงเธออยากจะเห็นอยู่เหมือนกันว่าอัศวินที่ทำเป็นแต่งานเวลาเข้าครัวทำอาหารจะออกมาเป็นแบบไหน“คนแบบนี้ใช่ไหม...เอ่อ”อัศวินดูเก้ๆกังๆในขณะที่ตอนนี้ข้าวหนึ่งถ้วยใหญ่ได้เข้าไปอยู่ในกระทะผัดเรียบร้อยแล้วเขามัวแต่หันมาถามหญิงสาวทั้งที่มือก็ยังทำงานอยู่ข้าวในกระทะจึงหกอกมาเลอะเทอะ“อิงทำเองดีกว่าค่ะ”น้ำอิงคิดว่าหากมื้อนี้เธอไม่เองคงจะไม่ได้กินเป็นแน่“ก..ก็ได้”อัศวินหน้าเสียเล็กน้อยแต่ทุกอย่างก็ต้องเรียนรู้ครั้งนี้เขามองดูเธอทำก่อนก็ได้หากครั้งต้อไปเขาจะต้องทำเป็นให้ได้จะได้ดูแลเธออย่างเต็มที่หญิงสาวใช้เวลาไม่นานข้าวผัดไข่ทั้งสองจานก็มาวางอยู่ที่โต๊ะทานอาหารต่อหน้าของเธอและชายหนุ่ม“ชอบกินแบบนี้เหรอ”อัศวินมองหญิงสาวที่กำลังตักข้าวเข้าปากท่าทางที่ดูจะมีความสุขกับการกินข้าวผัดของเธอทำให้เขาต้องตั้งคำถามขึ้นทั้งมองหญิงสาวฝั่งตรงข้ามอย่างสงสัยเพราะจากที่เขาได้ลองชิมข้าวในจานแล้วรู้สึกว่ามันจะจืดชืดไม่ค่อยจะมีรสชาติอะไรเท่าไรนัก“ค่ะ..ก็กินได้แต่แบบนี้”น้ำอิงเลิกสายตามองชายหนุ่มชั่วครู่แล้วจึงกลับไปสนใจข้าวในจานของเธอต่อ
น้ำอิงอ่านหนังสืออยู่ในห้องของเธอละสายตามองหนังสือแล้วมองชายหนุ่มที่เลื่อนประตูเข้ามาด้วยใบหน้านิ่งเฉย“อ่านอะไรอยู่เหรอ”น้ำอิงไม่ได้ตอบอีกฝ่ายเธอรู้ว่าเขาเห็นเธออ่านหนังสือเกี่ยวกับคุณแม่มือใหม่อยู่ก็ยังจะถามอยากจะรู้อีกว่าหากเธอยังทำนิ่งกับเขาอยู่เขาจะทำอย่างไรจะเค้นเธอให้เธอตอบเพื่อเอาชนะตามนิสัยเดิมของเขาหรือไม่“ฉ..ฉันไม่กวนก็ได้”อัศวินนั่งฟุบลงกับพื้นข้างๆหญิงสาวหากเธอไม่อยากคุยกับเขาก็ไม่เป็นไรเขาจะขอนั่งเงียบๆอยู่ใกล้ๆกับเธอก็พอน้ำอิงนั่งอ่านหนังสือได้พักใหญ่ตอนนี้ตาของเธอก็เริ่มปรือด้วยความง่วงแต่ก็ยังฝืนอ่านเพราะอยากที่จะอ่านต่อให้มันจบ“ถ้าง่วงก็ควรจะนอนนะอย่าฝืน”อัศวินไม่อยากให้หญิงสาวได้ฝืนอ่านต่อไปหากเธอง่วงเขาก็อยากจะให้เธอได้นอนพัก“แต่อิงยังอยากอ่านนี่คะ”“นอนเถอะเดี๋ยวฉันอ่านให้ฟังก็ได้”อัศวินโน้มตัวหญิงสาวลงมานอนที่ตักของเขาพร้อมหยิบหนังสือจากมือของเธอมาอ่านต่อให้เธอได้ฟังเป็นการหาความรู้ไปในตัวของเขาด้วย“..เมื่อไรจะยอมใจอ่อนกับฉันนะ..”ชายหนุ่มอ่านหนังสือได้ไม่กี่หน้าหญิงสาวก็หลับตานอนหายใจสม่ำเสมออัศวินจึงวางหนังสือลงอมยิ้มพร้อมก้มหน้าไปกดหอมแก้มนวลของหญิงสา
20.30 น.“ฉันเป็นห่วงเธอกับลูกมากรู้ไหมคราวหน้าคราวหลังระวังกว่านี้หน่อย”อัศวินนั่งกอดหญิงสาวจากทางด้านหลังในขณะที่เขากำลังนั่งอ่านหนังสือให้เธอฟังอยู่เขาวางหนังสือลงหลังจากที่อ่านไปได้พักใหญ่พลันนึกถึงเหตุการณ์เมื่อกลางวันแล้วก็อดจะย้ำให้หญิงสาวเรื่องเมื่อกลางวันไม่ได้เพราะเป็นห่วงเธออย่างมากและรู้สึกไม่ค่อยดีเท่าไรเมื่อเห็นเธอจะต้องเจ็บตัว“รู้แล้วค่ะ... คุณอาชน์จะห่วงอิงกับลูกแบบนี้ตลอดไปหรือเปล่าคะ”น้ำอิงพยักหน้ารับเธอหันหลังไปมองหน้าของเขาตาใสอยากได้คำตอบจากปากของเขาว่าถ้าหากเธอไมท้องแล้วเขาจะห่วงเธอแบบนี้ตลอดไปหรือไม่“แน่สิ... เธอคือส่วนหนึ่งในชีวิตของฉันไปแล้วยังไงฉันก็ต้องห่วงเธอกับลูกอยู่แล้ว”อัศวินมองหน้าหญิงสาวจริงจังคำตอบของเขาออกมาจากหัวใจ“แล้วคุณอาชน์จะกลับมาเป็นคนที่เอาแต่ใจกับอิงเหมือนเดิมอีกหรือเปล่า”“ตอนนี้ฉันก็ว่าฉันยอมเธอเยอะแล้วนะ”“จะยอมและดูแลแบบนี้ตลอดไปใช่ไหมคะ??”“ต..ลอด..ไป...??..หมายความว่าเธอจะให้ฉันดูแลเธอตลอดไปใช่ไหม”อัศวินขมวดคิ้วหลี่ตาเล็กน้อยในเมื่อเฮพูดคำว่าตลอดไปแสดงว่าเธออยากให้เขามาอยู่ในชีวิตของเธอด้วยเป็นแน่ น้ำอิงฉีกยิ้มกว้างให้ชายหนุ่มท
ลำปางบ้านเรือนไทยลอบซ์นอนอยู่ที่เปลใต้ถุนบ้านเรือนไทยของยายของเขาที่นี่ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงไปยังคงความร่มรื่นไว้อย่างไม่ต่างจากเดิมหลังจากที่ยายของเขาเสียไปเมื่อกลับมาถึงบ้านลอบซ์ก็จัดการทำความสะอาดบ้านครั้งใหญ่เพราะที่นี่ไม่มีใครดูแลด้านในมานานบ้านเรือนไทยของยายของเขาอายุเกือบจะห้าสิบปีแต่ทุกอย่างยังคงสภาพดีหลังบ้านเป็นที่ดินหลายร้อยไร่ห่างออกไปไม่ไกลตอนนี้เป็นทุ่งนาสลับกับบ่อน้ำและพื้นที่เลี้ยงสัตว์ทำไร่สวนผสมของยายของเขาที่ตกทอดมาเป็นมรดกของเขาที่เป็นหลานชายเพียงคนเดียวโดยมีคนงานดูแลอยู่ตลอดและที่ดินที่ให้ชาวบ้านเช่าทำกินที่อื่นที่ไม่ได้ติดกับบ้านอีกหลายสิบไร่ตอนนี้กำลังมีปัญหาเพราะมีคนมีอิทธิพลรุกล้ำเข้ามาทำไร่ในที่ดินของเขาอยู่หลายที่หากไม่มีชาวบ้านติดต่อเขาไปก็คงจะไม่รู้ตอนนี้ที่เขากลับมาก็คิดว่าจะมาสะสางเรื่องนี้ให้มันจบๆไปถึงจะมีอิทธิพลแค่ไหนเขาก็ไม่เกรงกลัวบ้านเสี่ยเฮ็ง“ผมว่าคงจะเข้าใจผิดกันล่ะมั้งครับ”“หากคิดว่าเข้าใจผิดนี่ก็คือภาพถ่ายจากดาวเทียมที่ผมขยายมาแล้วเสี่ยดูให้เต็มตานะครับว่ามันเกินมาเท่าไรหากยังไม่จัดการให้รวดเร็วผมคงต้องแจ้งความ”ลอบซ์เข้าไปที่บ้านของเสี่ย
โรงพัก“ผมว่าคุณอาจจะเข้าใจผิดมากกว่าไหนล่ะหลักฐานถ้าไม่มีคุณกลับไปก่อนเถอะ”สารวัตรวัยกลางคนที่รับเรื่องของชายหนุ่มยังไม่ทันได้ฟังที่เล่าจบก็หาว่าเขาเข้าใจผิดเสียแล้วพร้อมเปรยตามองลอบซ์อย่างไม่สนใจตำรวจที่นั่งอยู่ด้วยกันก็เช่นกันเหมือนเห็นการแจ้งความของเขาเป็นเรื่องไร้สาระ“บริการประชาชนแบบนี้เหรอคะชื่อนามสกุลอะไรเหตุการณ์เป็นยังไงยังไม่ได้ถามเลยไล่กลับซะแล้ว”อัญญาไม่พอใจกับตำรวจในโรงพักที่นี่เลยโวยวายยกใหญ่“คุณอายกลับกันก่อนเถอะครับ”ลอบซ์พอจะเดาออกกว่าคนที่นี่เป็นอย่างไรเขาจึงต้องถอยออกมาก่อนและดึงอัญญาออกมาด้วย“....หึ้ย...”อัญญาไม่พอใจอย่างมากที่ลอบซ์เหมือนจะยอมคนพวกนั้นง่ายๆ ลอบซ์ไม่ได้พูดอะไรเพียงแต่จูงมือหญิงสาวมาที่รถแล้วเปิดประตูให้เธอเข้าไปนั่ง“ทำไมยอมออกมาง่ายๆคะ”อัญญาเห็นลอบซ์ขึ้นมานั่งบนรถเรียบร้อยแล้วจึงถามอีกฝ่ายด้วยความสงสัยเพราะปกติแล้วลอบซ์เห็นความถูกต้องเป็นที่หนึ่งแต่ครั้งนี้เขาทำไมยอมง่ายๆ“ดูก็รู้ว่าเค้าเป็นคนของใคร”ลอบซ์คิดว่าพูดแค่นี้หญิงสาวก็น่าจะเข้าใจได้ในตอนนี้เข้าเป็นฝ่ายเสียเปรียบจะต้องจัดการอะไรให้รอบคอบเสียก่อนและเขาจะไม่ปล่อยให้ความอยุติธรรมนี้ม
ปังงง“คุณอาย”ลอบซ์ถีบประตูจนพังภาพตรงหน้าทำให้เขาอยากจะฆ่าไอ้โจรใจโฉดคนนี้เสียตอนนี้เลยจริงๆ“ฮือๆๆๆ”อัญญาน้ำตาไหลพรากเมื่อได้ยินเสียงของลอบซ์เธอคิดว่าเธอจะไม่รอดน้ำมือโจรพวกนี้เสียแล้ว“ไอ้เลว..แก”พลั้กก“โอ้ยย...”ตุบ..ตับ..พลั้กๆๆ..ตุ้บ..ลอบซ์เข้าไปต่อยโจรชุดดำที่กำลังทำมิดีมิร้ายหญิงสาวจนมันล้มลงแล้วจึงกระทืบมันอย่างหัวเสียจนสลบคากองเลือดไป“ไอ้ชั่ว...คุณอาย..”ชายหนุ่มสบถด่าออกมาอย่างเหลืออดและรีบเข้าไปดึงผ้าห่มมาคลุมร่างบางเอาไว้พร้อมกอดคนที่ตัวสั่นเทาอย่างรู้สึกผิด“ฮึก..ฮือๆๆๆ..”“.ผมขอโทษที่ปล่อยคุณไว้คนเดียว”ลอบซ์อุ้มหญิงสาวไปนอนที่ห้องของเขาพร้อมโทรแจ้งความให้ตำรวจมารับตัวคนพวกนี้ไปดำเนินคดีเมื่อเขาจัดการเรียบร้อยแล้วจึงเข้ามาดูแลหญิงสาวในห้องตามเดิม“ฮึกๆๆ...ฮือๆๆๆ”เวลาผ่านไปร่วมชั่วโมงหญิงสาวก็ยังร้องไม่หยุด“นอนนะครับผมจะอยู่ข้างๆคุณเอง”ลอบซ์นั่งอยู่ข้างเตียงจับมือหญิงสาวเอาไว้แน่นให้เอได้อุ่นใจว่าเขาจะดูแลเธออยู่ใกล้ไม่ไปไหนทั้งยังรอให้เธอหลับสนิทแล้วเขาจึงผละตัวไปนอนอยู่ที่โซฟาข้างๆเตียงที่หญิงสาวนอนอยู่วันต่อมาบ้านสุทธนสินไท“ท่านคะมีสายจากคุณลอบซ์ค่ะ”“ลอบซ