ปังงง
“คุณอาย”
ลอบซ์ถีบประตูจนพังภาพตรงหน้าทำให้เขาอยากจะฆ่าไอ้โจรใจโฉดคนนี้เสียตอนนี้เลยจริงๆ
“ฮือๆๆๆ”
อัญญาน้ำตาไหลพรากเมื่อได้ยินเสียงของลอบซ์เธอคิดว่าเธอจะไม่รอดน้ำมือโจรพวกนี้เสียแล้ว
“ไอ้เลว..แก”
พลั้กก
“โอ้ยย...”
ตุบ..ตับ..พลั้กๆๆ..ตุ้บ..
ลอบซ์เข้าไปต่อยโจรชุดดำที่กำลังทำมิดีมิร้ายหญิงสาวจนมันล้มลงแล้วจึงกระทืบมันอย่างหัวเสียจนสลบคากองเลือดไป
“ไอ้ชั่ว...คุณอาย..”
ชายหนุ่มสบถด่าออกมาอย่างเหลืออดและรีบเข้าไปดึงผ้าห่มมาคลุมร่างบางเอาไว้พร้อมกอดคนที่ตัวสั่นเทาอย่างรู้สึกผิด
“ฮึก..ฮือๆๆๆ..”
“.ผมขอโทษที่ปล่อยคุณไว้คนเดียว”
ลอบซ์อุ้มหญิงสาวไปนอนที่ห้องของเขาพร้อมโทรแจ้งความให้ตำรวจมารับตัวคนพวกนี้ไปดำเนินคดีเมื่อเขาจัดการเรียบร้อยแล้วจึงเข้ามาดูแลหญิงสาวในห้องตามเดิม
“ฮึกๆๆ...ฮือๆๆๆ”
เวลาผ่านไปร่วมชั่วโมงหญิงสาวก็ยังร้องไม่หยุด
“นอนนะครับผมจะอยู่ข้างๆคุณเอง”
ลอบซ์นั่งอยู่ข้างเตียงจับมือหญิงสาวเอาไว้แน่นให้เอได้อุ่นใจว่าเขาจะดูแลเธออยู่ใกล้ไม่ไปไหนทั้งยังรอให้เธอหลับสนิทแล้วเขาจึงผละตัวไปนอนอยู่ที่โซฟาข้างๆเตียงที่หญิงสาวนอนอยู่
วันต่อมา
บ้านสุทธนสินไท
“ท่านคะมีสายจากคุณลอบซ์ค่ะ”
“ลอบซ์เหรอ??”
วิรัตน์นายตำรวจยศสูงมีสีหน้าแปลกใจเล็กน้อยที่วันนี้ลอบซ์ติดต่อมาหาเขาได้ทั้งที่ขาดการติดต่อกันไปหลายปีอยู่เหมือนกัน
ช่วงสายของวัน
“คุณอายครับ..คุณอาย..ตัวร้อนจี๋เลย..”
ลอบซ์ทำอาหารเช้าเสร็จก็เข้ามาในห้องที่หญิงสาวนอนอยู่เขาวางถาดข้าวต้มไว้ที่โต๊ะข้างหัวเตียงพร้อมใช้หลังมือไปอังหน้าผากของเธอเล็กน้อยปรากฏว่าหญิงสาวตัวร้อนจนเขารู้สึกได้อย่างรวดเร็ว
“อืม..พี่ลอบซ์”
อัญญาสะลึมสะลือตื่นขึ้นในขณะที่เธอยังดอดผ้าห่มเอาไว้ที่อก
“กินข้าวก่อนครับจะได้กินยา”
อัญญานั่งก้มหน้างุดเพราะเธอยังคิดมากกับเรื่องเมื่อคืนอยู่
“เรื่องเมื่อคืนคนพวกนั้นต้องรับผิดชอบอย่างสาสมครับ”
ลอบซ์เข้าใจว่าหญิงสาวรู้สึกอย่างไรในตอนนี้
“ไม่พูดถึงคนพวกนั้นได้ไหมคะ”
“ครับผมจะไม่พูดถึงพวกมันอีก...กินข้าวนะครับ”
“ค่ะ..”
ลอบซ์ค่อยๆป้อนข้าวหญิงสาวช้าๆไมได้บังคับอะไรเธอมากนักเมื่อเธอกินเสร็จเรียบร้อยแล้วจึงให้เธอกินยาแล้วให้นอนพัก
14.00น.
“ต้องมีเรื่องให้ช่วยถึงจะติดต่อมาได้สินะ”
วิรัตน์มาหาลูกชายของเขาที่ลำปางอย่างรวดเร็วเมื่อได้รับเรื่องเขาจะไม่นิ่งนอนใจกับเรื่องความอยุติธรรมที่นี่เด็ดขาดแต่ก็แอบน้อยใจเล็กน้อยที่ลุกชายของเขาเห็นความสำคัญของเขาก็เมื่อมีเรื่องให้ช่วยเท่านั้น
“ผมไม่คิดว่าคุณพ่อจะมาเองตอนนี้เลยไม่มีอะไรต้อนรับ”
ลอบซ์ไม่คิดว่าพ่อของเขาจะขึ้นมาที่นี่ด้วยตัวเองคราแรกคิดว่าอย่างมากก็น่าจะส่งคนสนิทมาจัดการให้ขาจึงไมได้เตรียมการต้อนรับพ่อของเขาที่บ้าน
“ไม่ต้องหรอกฉันว่าจะมาคุยกับแกแล้วก็เข้าไปที่โรงพักเลยจะได้จัดการเรื่องที่แกขอร้องให้เรียบร้อย”
“ขอบคุณครับ”
“ค..คุณอาสวัสดีค่ะมาที่นี่ได้ยังไงคะ”
อัญญาเช็ดตัวเปลี่ยนเสื้อผ้าแล้วออกมาจากห้องในช่วงบ่ายเขาเห็นวิรัตน์ก็รีบเข้ามาสวัสดีทักทายทันทีไม่รู้ว่าเขามาที่นี่ได้อย่างไรดูท่าจะคุยกับลอบซ์เหมือนคนที่เคยรู้จักกันมาก่อนด้วย
“อามาจัดการเรื่องคดีของหนูวางใจนะคนชั่วต้องได้รับกรรมพักผ่อนเถอะอาขอตัวก่อน”
วิรัตน์รับไหว้หญิงสาวทั้งรีบขอตัวไปที่โรงพักเพื่อจัดการเรื่องราวให้มันจบสิ้นรวมถึงเร่องของเสี่ยเฮ็งตามที่ลุกชายของเขาขอร้องเอาไว้ด้วยเขาจะรือ้คดีออกมาใหม่ให้หมดและท่าทางจะต้องเปลี่ยนชุดตำรวจที่นี่ด้วย
“ค่ะ”
“พี่ลอบซ์รู้จักกับอาวิรัตน์ด้วยเหรอคะ”
หลังจากที่วิรัตน์ออกไปแล้วอัญญาก็หันมาถามลอบซ์ด้วยสีหน้าสงสัยพรางจูงมือของเขาไปนั่งคุยกันที่โซฟา
“เค้า..เป็นพ่อผม”
“อ..อะไรนะคะ??”
“ตั้งแต่แม่ผมเสียท่านก็ไปมีครอบครัวใหม่ผมก็ไม่ได้ติดต่อกับท่านอีกเลย”
“พึ่งรู้นะคะเนี่ยคุณพ่อก็ไม่เคยบอกเรื่องนี้กับอายเลย”
อัญญาไม่รู้มาก่อนเลยว่าชายหนุ่มจะเป็นถึงลุกคนใหญ่คนโตที่เป็นถึงนายตำรวจยศสูงที่สามารถจะสั่งย้ายใครก็ได้แบบวิรัตน์
“ดีขึ้นแล้วเหรอครับถึงออกมา”
ลอบซ์ไม่ได้อยากให้เรื่องนี้เป็นประเด็นเลยเปลี่ยนเรื่องมาถามอาการของหญิงสาว
“ค่ะ”
อัญญาพยักหน้าเธอว่าเธอก็อาการดีขึ้นกว่าเมือเช้ามาก
“ไหน..อืมตัวยังรุมๆอยู่เลยนี่ครับกินข้าวแล้วกินยาอีกรอบดีกว่าเดี๋ยวผมไปอุ่นข้าวต้มให้นะครับ”
ลอบซ์ใช้หลังมืออังหน้าผากของหญิงสาวชายหนุ่มยังรู้สึกว่าตัวของเธอยังมีไข้อยู่จึงรีบลุกไปอุ่นอาหารให้ยิงสาวเพื่อให้เธอได้กินก่อนกินยา อัญญานั่งอมยิ้มมองตามหลังของชายหนุ่มที่ดูเขาห่วงใยเธอเป็นพิเศษเธอชอบที่เขามีท่าทีห่วงใยเธอมากกว่าที่จะรำคาญเธอเหมือนแต่ก่อน
ครู่ต่อมา
“ข้าวต้มได้แล้วครับ”
อัญญานั่งมองถ้วยข้าวต้มด้วยท่าทีนิ่งเฉยรอว่าชายหนุ่มจะดูแลเธอเหมือนเมื่อเช้าหรือเปล่า
“ไม่อยากกินเหรอ”
ลอบซ์เลิกคิ้วมองหน้าอัญญาอย่างสงสัย
“พี่ลอบซ์ป้อนอายเหมือนเมื่อเข้าสิคะ”
“อ้อนเป็นเด็กเลยนะครับ”
ลอบซ์พยักหน้าเข้าใจว่าที่เธอนิ่งเมื่อครู่เป็นเพราะอะไร
“มันทำให้อายอารมณ์ดีค่ะ”
อัญญายิ้มให้ชายหนุ่มอย่างเจ้าเล่ห์เล็กน้อย
“งั้นผมยอมก็ได้ครับ”
ตอนนี้ลอบซ์ต้องยอมหญิงสาวทุกอย่างที่เขาตามใจเธอก็เพราะว่าอยากให้เธออารมณ์ดีไม่อยากให้เธอนั่งคิดถึงเรื่องที่เธอโดนทำร้ายมาอีก
สองวันต่อมา
ญี่ปุ่น
22.00น.
“ตายแล้วเกิดเรื่องแบบนี้ได้ยังไงคะแล้วอายเป็นยังไงบ้างคะ”
น้ำอิงรู้เรื่องราวที่อัญญาโดนทำร้ายเธอมีสีหน้าที่ตกใจอย่างมากไม่คิดว่าเพื่อนเธอจะมาเจอเรื่องแบบนี้ดีที่ลอบซ์ช่วยเอาไว้ได้ทัน
“ตอนนี้เห็นว่าอารมณ์ดีขึ้นเยอะไม่เป็นอะไรแล้วยัยอายถ้ามีคนคอยตามใจเดี๋ยวก็อารมณ์ดีเอง”
อัศวินรู้ว่าตอนนี้มีคนจัดการเรื่องนี้ได้ดีกว่าเขาคอยจัดการอยู่เขาจึงไม่ห่วงอะไรทางนั้นมากคราแรกที่รู้ข่าวก้อยากจะกลับไปสั่งสอนคนที่มันกล้าทำน้องสาวของเขาแต่ดีที่พ่อของเขาห้ามเอาไว้เพราะวิรัตน์พ่อของลอบซ์จะจัดการเรื่องนี้เอง
“แล้วเรื่องพ่อคุณลอบซ์นี่จริงเหรอคะ”
น้ำอิงยังคงตะลึงกับเรื่องพ่อของลอบซ์อยู่เลยเค้าเป็นคนใหญ่คนโตขนาดนั้นแต่ลอบซ์กลับเลือกที่จะตัดขาดกับพ่อตัวเองแล้วใช้ชีวิตธรรมดาๆไม่ยอมเปิดเผยกับคนอื่นว่าตัวเองเป็นใคร
“อืม..ลอบซ์ตัดขาดการติดต่อกับพ่อตัวเองตั้งแต่เค้าไปมีครอบครัวใหม่แล้วครั้งนี้น่าจะสุดทนจริงๆถึงขอร้องให้พ่อช่วย”
“แบบนี้นี่เอง...”น้ำอิงพยักหน้าเข้าใจ“มีอะไรจะบอก”ชายหนุ่มเข้ามากอดคนเป็นภรรยากระซิบข้างๆหูของเธอเบาๆ“อะไรคะ”“อีกสองวันอายกับลอบซ์จะมาที่นี่”“จริงเหรอคะ...”น้ำอิงเบิกตาโพรงดีใจเป็นพิเศษที่จะได้เจอเพื่อนเธอเสียทีเมื่อไม่ได้เจอกันร่วมสามเดือนแล้ว“ดูท่าฉันจะหัวเน่าซะแล้วล่ะมั้งดูจะคิดถึงเพื่อนขนาดนี้”อัศวินทำสีหน้าน้อยใจ“ก็ไม่ได้เจอกันนานแล้วนี่คะก็ต้องคิดถึงเป็นธรรมดา”“เธอไม่คิดถึงฉันบ้างเหรอ”“ก็คุณอาชน์อยู่กับอิงตลอดเวลานี่คะ”“ตอนฉันออกไปข้างนอกซื้อพวกของสดมาไว้ที่บ้านไง”“ก็แค่ไม่กี่ชั่วโมงเองค่ะ”น้ำอิงขมวดคิ้วเล็กน้อย“ไม่กี่ชั่วโมงเธอก็ต้องคิดถึงเพราะฉันเป็นสามีเธอ”“คุณอาชน์...”“หืม...”“เป็นขนาดนี้แล้วเหรอคะเนี่ย...”น้ำอิงส่ายหัวทั้งยังอมยิ้มให้กับความขี้อ้อนที่ไม่รู้ว่าช่วงน้าสรรหาคำอ้อนมาจากไหนนักหนา“ก็ต้องขนาดนี้แหละ”อัศวินโน้มตัวภรรยาของเขานอนลง“..อื้อ...ท..ทำอะไรคะ??”น้ำอิงถดตัวหนีเล็กน้อย“ฉันว่าฉันไม่ได้ลึกซึ้งกับเธอมานานแล้วนะ..”อัศวินกอดหญิงสาวไว้หลวมๆเพื่อไม่ให้ทับตัวของเธอ“ต...แต่ว่า..เจ้าตัวเล็กอยู่ในท้องนะคะ”น้ำอิงเข้าใจแล้วว่าเขาจะทำอะไรแต่เธอไ
“ยังไม่ได้บอกเลยอ่ะ”อัญญาก้มหน้างุดความรู้สึกในใจที่เธอเก็บซ่อนมานานมีเพียงแค่ผักหวานและน้ำอิงเท่านั้นที่รู้เธออยากจะบอกให้เจ้าตัวที่เธอแอบชอบรู้หลายครั้งแต่ก็ไมได้มีโอกาสบอกเสียที“นานแล้วนะ..”ผักหวานบุ้ยปากเล็กน้อยผิดหวังที่เธอกะจะได้ฟังข่าวดีจากอัญญาเสียหน่อย“ก็จะให้ทำยังไงก็มันยังไมได้บอกซะทีนี่นา”“รีบๆหน่อยๆเดี่ยวจะโดนสอยไปกินไม่รู้ด้วยนะ”“รู้แล้วน่า”วันต่อมา“จะไปเที่ยวป่า”“ค่ะ..พี่ลอบซ์พาอายไปนะคะ”“ง..งั้นก็ได้ครับแล้วคุณหวานจะไปด้วยหรือเปล่า”“อ่อ..เห็นหวานบ่นว่าอยากนอนพักก็เลยไม่ได้ไปค่ะ”“อ๋อ..ครับ”ชั่วโมงต่อมา“ป่าในช่วงฤดูนี้ที่นี่ดีนะคะไม่มีแมลงเลย”อัญญาเดินเที่ยวอย่างอารมณ์ดีเพราะสถานที่ที่นี่คนค่อนข้างน้อยเป็นส่วนตัวเหมาะแก่การที่เธอจะบอกบางสิ่งบางอย่างในใจกับชายหนุ่มที่เธอมีความรู้สึกดีๆด้วยความรู้สึกนี้มันมีมานานนมนี่คือสาเหตุที่เธอชอบทำตัวเอาแต่ใจกับลอบซ์อยู่บ่อยๆนั่นเองและการตามใจเธอแบบของเขาแบบนี้ล่ะมั้งที่ทำให้เธอมีใจให้เขาโดยไม่รู้ตัว“ครับอากาศก็โอเคด้วย”“พี่ลอบซ์ชอบไหมคะ”“ก็ชอบนะครับดูสงบดี”“เดินไปตรงสะพานนั่นดีกว่าค่ะ...”อัญญาเห็นว่าสะพานใหญ่ตรงห
โรงแรมXXX“จะดื่มทำไมให้เมาขนาดนี้ครับถ้าผมไม่ตามไปจะเป็นยังไง”ลอบซ์อุ้มหญิงสาวมานอนที่ห้องของเธอเขานั่งลงที่ขอบเตียงมองดูเธอพร้อมส่ายหน้ามือหนาดึงผ้านวมมาห่มให้กับคนเมาที่ตาปรืออยู่บนเตียง“อื้อ...”จู่ๆอัญญาก็พลิกตัวขึ้นมานอนซบอยู่บนอกของชายหนุ่มโดยที่เขาไม่ทันได้ตั้งตัว“คุณอาย...”“ไม่ชอบอายที่เอาแต่ใจไม่ใช่เหรอคะแล้วจะมายุ่งอะไรกับชีวิตอาย”“ยังไม่ลืมเรื่องวันนั้นอีกเหรอครับ”ลอบซ์ไม่คิดว่าคำพูดของเขาวันนั้นจะทำให้หญิงสาวฝังใจและทำตัวประชดประชันเขาจนถึงทุกวันนี้“ใครจะลืมได้เล่าเจอคนที่ตัวเองชอบว่ามาแบบนั้นอ่ะ”“คุณอาย..พูดอะไรครับ”ลอบซ์มองหน้าหญิงสาวอย่างตะลึง“อายชอบพี่ลอบซ์ชอบมานานแล้วด้วย...”ฟึ่บบบเมื่อพูดจบหญิงสาวก็ตัวอ่อนนอนฟุบลงไปที่แผงอกของชายหนุ่มอย่างไม่ได้สติ“คุณอาย...”ลอบซ์ยังคงนิ่งอึ้งกับสิ่งที่พึ่งจะได้รู้เมื่อครู่เขาพยายามผลักตัวหญิงสาวให้ไปนอนในที่ของเธอดีๆแต่มือของเธอดันกำเสื้อของเขาเอาไว้แน่นทำให้เขาต้องนอนอยู่กับเธอทั้งคืนวันต่อมา“คุณอายครับ..”ลอบซ์ขยับตัวหญิงสาวให้พระออกจากตัวเขาแต่ดูเหมือนเธอจะเกาะติดเขาหนึบไม่ยอมออกง่ายๆ“อือ...”“ปล่อยผมก่อนครับ”“
“ยังอีกเหรอแกก็ทำตัวดีกับเค้ามานานแล้วนะหรือว่าพี่ลอบซ์ของแกจะมีคนอื่นไปแล้ว”ผักหวานยังแกล้งหยอกเพื่อนเธอไม่จบไม่สิ้น“พูดอะไรอย่างนั้นเล่า”หน้าอัญญาตอนนี้จากที่ยุ่งอยู่แล้วก็ยิ่งยิ่งขึ้นไปอีกเป็นสิบเท่า“วันนี้พี่แกนึกยังไงชวนฉันมาปาร์ตี้ที่นี่กัน”ผักหวานอยากจะรู้นักว่าทำไมวันนี้พี่ชายของอัญญาถึงได้อยากจัดงานปาร์ตี้รวมตัวพวกเพื่อนๆกัน“ไม่รู้สิอยากให้บ้านครึกครื้นล่ะมั้ง”อัญญาเองก็ไม่รู้เหมือนกันแต่ก็คิดว่ามันน่าจะเป็นข้อดีทำให้บ้านนี้ครึกครื้นขึ้นมาบ้าง“สาวๆครับไปที่สนามหญ้ากันเถอะ”แดเนียลเดินมาตามสาวๆทั้งสามให้ลงไปที่สนามหญ้าหลังบ้าน“คุณมาด้วยเหรอ”ผักหวานหน้าบึ้งเล็กน้อยที่ไม่คิดว่าเขาจะมาดีด้วย“ต้องมาอยู่แล้วมาให้คุณเห็นจนเบื่อหน้าไปเลย”หลังจากที่กลับจากเกาะตอนนั้นแดเนียลก็ตามจีบผักหวานมาพักใหญ่แต่ดูเหมือนว่าเธอจะไม่ชอบหน้าเขาเอาเสียเลยทั้งที่เขาพยายามทำตัวดีๆกับเธอมาตลอด“หึ่..”ผักหวานไม่รู้ว่าเขาไปแอบปิ๊งเธอตอนไหนทั้งที่เอาแต่แกล้งเธอเธอไม่ชอบพฤติกรรมที่มีผู้หญิงเยอะของเขาที่เคยมีให้เธอได้เห็นนั้นมันยิ่งเป็นข้อที่เธอไม่อยากได้เขามาเป็นแฟน“ตาหนูมาหาคุณพ่อมาครับ”เมื่อ
เป็นเวลาตี1ที่คลับหรูแห่งนี้เต็มไปด้วยนักท่องราตรีชายหญิงที่กำลังมึนเมากันอย่างได้ที่เสียงอึกกระทึกครึกโครมจากเสียงดนตรีด้านในตัวคลับเหมือนจะเร้าใจจนชอบทำให้เกิดเหตุการณ์ตีกันอยู่เรื่อยไปจนเจ้าของคลับหรูหลายแห่งอย่างอาชน์อัศวินต้องปวดหัวกับเรื่องแบบนี้อยู่บ่อยครั้งกับพวกชอบกร่างในเวลาที่ไม่ค่อยจะได้สติซ่า.....ลอบซ์คนสนิทของอาชน์สาดน้ำในถังใหญ่ในมือไปที่กลุ่มวัยรุ่นวัยเกรียนที่อายุคงจะพึ่งผ่านเกณฑ์การเข้าสถานที่อโคจรที่มากร่างทำซ่าท้าตีท้าต่อยกับคนในคลับให้ฟื้นขึ้นมาหลังจากโนสั่งสอนกันไปจนพอตัว“ปล่อยพวกผมไปเถอะครับ”เด็กวัยรุ่นสี่ห้าคนที่อยู่ในวงล้อมบอดี้การ์ดกล้ามโตรีบคลานเข่ายกมือขอร้องชายหนุ่มที่นั่งไขว่ห้างมองจ้องพวกเขาอย่างไร้อารมณ์ชายหนุ่มที่อยู่ในชุดสูทราคาแพงสีดำปลดเนคไทหลวมๆเล็กน้อยพอไม่อึดอัดเกินไปนั่งไขว่ห้างพาดขายาวๆอยู่บนเก้าอี้ราคาแพงสายตาคมกริบของอัศวินนั้นไม่บ่งบอกถึงอารมณ์ในตอนนี้ว่ารู้สึกอย่างไรแต่คนที่มองก็ต้องเสียวสันหลังวาบเพราะพลังความอำมหิตที่แผ่ออกมามันช่างน่ากลัวเหลือเกินคงจะทำให้เด็กพวกนี้เลิกซ่ากันไปอีกนานเลยทีเดียว“จะมาทำซ่าที่นี่อีกไหม”ลอบซ์มือขวาร่าง
“จริงเหรอแก...ทำไมเค้ายอมง่ายๆล่ะ”น้ำอิงแทบไม่อยากจะเชื่อหูตัวเองเธอไม่เคยเจอพี่ชายอัญญาก็จริงแต่เธอเองก็เคยได้ยินกิตติศัพท์ความโหดดุและความน่ากลัวของพี่ชายอัญญามาบ้างไม่คิดว่าเขาจะยอมให้เพื่อนเธอใช้เส้นสายให้รับเธอเข้าทำงาน“ยอมง่ายกะผีอะไรล่ะ...ฉันแทบจะกราบเช้ากราบเย็นพี่ชายฉันอยู่แล้วแต่ที่พี่ฉันยอมเพราะผลการเรียนของเธอเลยนะ”คราแรกพี่ชายของเธอก็จะไม่ยอมง่ายๆจนเธอต้องโพทะนาความเก่งของน้ำอิงให้เขาได้ฟังและยังเอาประวัติการเรียนให้ดูพี่ชายเธอถึงยอมได้อีกอย่างเพราะเธอก็ตื๊อเขาอยู่หลายวันด้วยเหมือนกัน“ขอบใจนะทีหลังถ้ามันลำบากก็ไม่ต้องทำเพื่อฉันขนาดนั้นก็ได้”น้ำอิงรู้สึกขอบคุณอัญญาอย่างมากที่พูดได้ว่านี่คือการเสี่ยงชีวิตช่วยเธอเลยจริงๆ“ไม่ได้แกต้องได้ทำงานบริษัทพี่ฉันกับฉันเพราะเงินเดือนดีมากถ้าทำงานดีอีกอย่างถ้าคนอย่างแกไปไกลหูไกลตาฉันมีหวังโดนแกล้งตายกันพอดี”อัญญาไม่ยอมให้น้ำอิงไปทำงานที่อื่นอยู่แล้วต้องอยู่กับเธอเท่านั้นขนาดพี่ชายของผักหวานจะให้น้ำอิงไปทำงานด้วยเธอยังกันท่าว่าน้ำอิงได้งานแล้วเลยที่เธออยากให้น้ำอิงทำงานด้วยก็เพราะอยากให้เธอมีสภาพคล่องทางการเงินที่ดีขึ้นเพราะบริษัท
“ทำไมต้องเป็นแบบนี้ด้วย..ทำไมๆ..ฮือๆๆๆ”น้ำอิงนอนกอดหมอนะอื้นให้จนหลบไปด้วยอาการเหนื่อยทั้งกายและเหนื่อยทั้งใจวันต่อมา08.00 น.“ป้าจันทร์คะพี่อาชน์ไม่ทานข้าวเช้าเหรอคะ”อัญญาลงมารอพี่ชายเธอทานข้าวพักใหญ่แล้วแต่ไม่เห็นว่าพี่ชายเธอจะลงมาทานข้าวเช้าเสียทีจึงต้องถามจันทร์วาดหญิงวัยกลางคนที่เป็นหัวหน้าแม่บ้าน“คุณอาชน์บินไปที่เหนือตั้งแต่เมือคืนแล้วค่ะ”จันทร์วาดหันมาบอกคุณหนูของเธออมยิ้มเล็กน้อยครั้งนี้ก็เป็นอีกครั้งที่อัศวินนั้นไปไหนไม่บอกกล่าวน้องสาวอีกตามเคย“อ้าว..อายไม่เห็นรู้เรื่องเลย”อัญญานั่งหน้ามุ่ยอยู่ที่โต๊ะอาหารอีกตามเคยวันนี้เธอกะว่าจะคุยเรื่องขอเบิกเงินกับพี่ชายของเธอสักหน่อยเชียวแต่ถ้าหากเป็นแบบนี้เธอจะรอคุยต่อหน้าไม่ได้เธอต้องคุยตอนนี้เลยเพราะเพื่อนเธอจำเป็นต้องใช้เงินถึงแม้ว่าน้ำอิงจะปฏิเสธแต่ยังไงหากเธอเอาเงินไปยื่นให้กับมือแล้วเพื่อนเธอก็ต้องรับความช่วยเหลือเป็นแน่“...รับสิพี่อาชน์...”อัญญาต่อสายหาพี่ชายเธอหลายสิบสายก็ไม่เคยจะติดแม้แต่เบอคนสนิทอย่างล็อบซ์ในตอนนี้ก็ติดต่อไม่ได้ไม่รู้ว่าพวกเขาไปอยู่ที่ไหนกันถึงได้ทำตัวลึกลับติดต่อยากขนาดนี้ตลาดเช้าตลาดเช้าในชุมชนตอ
“งั้นเย็นนี้พี่จะพาไปฝากงานให้...พร้อมนะ”มะลิถามความแน่ใจของน้ำอิงอีกครั้ง“เย็นนี้..เอ่อ..จะ”น้ำอิงตกใจกับเรื่องเวลาอันรวดเร็วนิดหน่อยแต่ในเมื่อเริ่มงานเร็วก็จะได้เงินเร็วหากเธอไม่พร้อมก็ต้องพร้อมแล้ว“เห้ออ...พี่อาชน์นะพี่อาชน์ทำไมต้องมาติดต่อไม่ได้เวลานี้ด้วยเนี่ย”วันนี้แทบทั้งวันอัญญาเอาแต่ง่วนอยู่กับการติดต่อหาพี่ชายเธอแต่ยิ่งเหมือนอยากติดต่อเท่าไรก็ยิ่งติดต่อยากเท่านั้นRrr“หวานแกอยู่บ้านไหม..เดี๋ยวฉันไปหา..โอเคๆ”อัญญาเลือกทางเลือกสุดท้ายเพราะไม่รู้ว่าพี่ชายเธอจะกลับมาเมื่อไรเลยต้องโทรหาผักหวานเพราะหากรอพี่ชายเธอกลับกว่าจะคุยอ้อนวอนคงไม่ทันการกันพอดีถึงแม้ว่าถ้าหากเรื่องนี้น้ำอิงรู้จะโดนว่าก็เถอะ19.30 น.“รอนานไหมแก”ผักหวานเดินเข้ามาในบ้านอย่างเร่งรีบเพราะรู้ว่าเพื่อนมารอเธออยู่ที่บ้านแล้วจากปากของแม่บ้าน“พักใหญ่แล้วล่ะ”อัญญาลุกขึ้นจากโซฟาอย่างร้อนใจเมื่อเห็นเพื่อนเธอเดินเข้ามาแล้ว“ว่าแต่มีเรื่องด่วนเหรอถึงมาซะเย็นเชียว”ผักหวานไม่รู้ว่าเพื่อนเธอมีเรื่องอะไรถึงอยากจะคุยเสียเย็นเกือบจะมืดค่ำ“ก็ด่วนน่ะสิ...โอบต้องเข้าผ่าตัดสมองด่วนใช้เงินสองแสนฉันติดต่อพี่อาชน์ไม่ได้ก็เ