โรงพัก
“ผมว่าคุณอาจจะเข้าใจผิดมากกว่าไหนล่ะหลักฐานถ้าไม่มีคุณกลับไปก่อนเถอะ”
สารวัตรวัยกลางคนที่รับเรื่องของชายหนุ่มยังไม่ทันได้ฟังที่เล่าจบก็หาว่าเขาเข้าใจผิดเสียแล้วพร้อมเปรยตามองลอบซ์อย่างไม่สนใจตำรวจที่นั่งอยู่ด้วยกันก็เช่นกันเหมือนเห็นการแจ้งความของเขาเป็นเรื่องไร้สาระ
“บริการประชาชนแบบนี้เหรอคะชื่อนามสกุลอะไรเหตุการณ์เป็นยังไงยังไม่ได้ถามเลยไล่กลับซะแล้ว”
อัญญาไม่พอใจกับตำรวจในโรงพักที่นี่เลยโวยวายยกใหญ่
“คุณอายกลับกันก่อนเถอะครับ”
ลอบซ์พอจะเดาออกกว่าคนที่นี่เป็นอย่างไรเขาจึงต้องถอยออกมาก่อนและดึงอัญญาออกมาด้วย
“....หึ้ย...”
อัญญาไม่พอใจอย่างมากที่ลอบซ์เหมือนจะยอมคนพวกนั้นง่ายๆ ลอบซ์ไม่ได้พูดอะไรเพียงแต่จูงมือหญิงสาวมาที่รถแล้วเปิดประตูให้เธอเข้าไปนั่ง
“ทำไมยอมออกมาง่ายๆคะ”
อัญญาเห็นลอบซ์ขึ้นมานั่งบนรถเรียบร้อยแล้วจึงถามอีกฝ่ายด้วยความสงสัยเพราะปกติแล้วลอบซ์เห็นความถูกต้องเป็นที่หนึ่งแต่ครั้งนี้เขาทำไมยอมง่ายๆ
“ดูก็รู้ว่าเค้าเป็นคนของใคร”
ลอบซ์คิดว่าพูดแค่นี้หญิงสาวก็น่าจะเข้าใจได้ในตอนนี้เข้าเป็นฝ่ายเสียเปรียบจะต้องจัดการอะไรให้รอบคอบเสียก่อนและเขาจะไม่ปล่อยให้ความอยุติธรรมนี้มันอยู่ยั่งยืนแบบนี้ต่อไปแน่นนอน
ก๊อกๆ
“พวกคุณมาแจ้งความเกี่ยวกับเสี่ยเฮ็งใช่ไหมครับ”
“ครับ”
ลอบซ์ได้ยินเสียงเคาะกระจกจึงเลื่อนกระจกเพื่อคุยกับตำรวจที่ดูท่าทางว่ามีเรื่องจะคุยกับเขาแล้วก็เป็นเช่นนั้นจริงๆ
“ผมขอบอกไว้เลยว่าที่นี่แทบทั้งโรงพักคนของเสี่ยเฮ็งทั้งหมดหากใครไม่ยอมเป็นพวกมันก็จะโดนเด้งไปทีละคนสอง
คน”
“รวมถึงคุณด้วยเหรอครับ”
ลอบซ์ดูท่าทีตำรวจชั้นผู้น้อยคนนี้ก็มีความขุ่นเคืองใจกับเรื่องราวที่ไม่ยุติธรรมแบบนี้เหมือนกัน
“ทำได้ล่ะครับผมก็มีปากท้องลูกเมียที่ต้องเลี้ยงในเมื่ออุดมการณ์มันกินไม่ได้”
“ผมขอตัวก่อนนะครับ”
ลอบซ์ดูท่าว่าเขาจะต้องเร่งมือจัดการเรื่องนี้ให้มันจบไปอย่างรวดเร็วเสียแล้วแค่มือของเขาคนเดียวคงไม่ไหวแน่ต้องหาคนช่วย
“แบบนี้ยังจะมีอยู่อีกเหรอคะ...โอ้ยอายล่ะเชื่อเลย”
อัญญาหน้านิ่วคิ้วขมวดที่รู้ว่าอิทธิพลเถื่อนในยุคที่โลกมันเจริญแล้วมันยังจะมีอยู่อีก
“ผมก็อยากให้คนแบบนี้มันหมดไปจากโลกนี้เสียทีเหมือนกัน”
วันต่อมา
18.00น.
โรงพยาบาล
“เป็นยังไงบ้างครับลุงหมาย”
ลอบซ์เข้ามาเยี่ยมสมหมายในช่วงเย็นพร้อมซื้อของกินมาให้ยิ่งเห็นสภาพชายแก่แล้วเขาก็ยิ่งเจ็บใจที่คนพวกนั้นทำกับคนที่ไม่มีทางสู้อย่างลุงสมหมายได้
“ดีขึ้นมาหน่อยแล้วล่ะครับ”
สมหมายก็ตอบไปตามสภาพก็ดีขึ้นจากเมื่อวานแต่แผลตามตัวก็ยังมีระบมอยู่เหมือนกัน
“ผมอยากรู้ว่าชาวบ้านต้องทนพฤติกรรมเสี่ยเฮ็งมานานแค่ไหน”
“ก็ทำอะไรมันไม่ได้เหมือนอย่างตอนนี้นี่แหละครับ”
สมหมายก้มหน้าลงด้วยแววตาเศร้าสร้อยเล็กน้อยคนอย่างเสี่ยเฮ็งมันอยู่เหนือกฎหมายไปเสียแล้วครั้นจะใช้กฎหมู่ก็ไม่มีใครเอ ชนะคนพวกนั้นได้เลย
“อืม..ผมเข้าใจแล้วลุงพักผ่อนเถอะครับเดี่ยวพรุ่งนี้ผมจะมาเยี่ยมใหม่”
บ้านเรือนไทย
19.00น.
“หืม...พี่ลอบซ์เหรอ”
อัญญาอาบน้ำพึ่งจะเสร็จเธออยู่ในชุดนอนสีหวานไม่ได้ใส่บราเธอได้ยินเสียงคนกำลังเปิดประตูจึงหยิบผ้าขนหนูมาคลุมพาดบ่าเอาไว้เพราะกลัวว่าคนที่เข้ามาจะรู้ว่าเธอใส่ชุดนอนเพียงตัวเดียว
“หึ่..”
ชายชุดดำสามคนค่อยๆเดินเข้ามาในห้องของหญิงสาวพวกมันปิดหน้าเหลือเพียงดวงตาที่เปิดเอาไว้เท่านั้นทั้งสบถเสียงออกมาจากลำคออย่างพึงพอใจที่เห็นว่ามีสาวสวยอยู่ในบ้านตอนนี้เพียงคนเดียว
“พวกนายเป็นใคร??”
อัญญาส่งเสียงดังถามชายทั้งสามอย่างกล้าๆกลัวๆพร้อมทั้งขยับหมายจะหาอะไรป้องกันตัวแต่ในห้องนี้ก็ไม่มีเอาเสียเลย
“ท่าทางจะมีอะไรให้เล่นมากกว่าเผาบ้านนี้ซะแล้วสิ”
“ผ..เผาบ้าน...พวกนายคือคนของเสี่ยเฮ็งซวยนั่นใช่ไหม”
อัญญาพอจะเดาออกว่าคนพวกนี้เป็นคนของใครเธอจึงพ่นคำด่าชายฉกรรจ์พวกนั้นเสียงฝาด
“ดูจะปากดีซะด้วย”
“ไอ้พวกคนชั่ว”
อัญญาพยายามสะบัดแขนจากคนที่เข้ามาดึงตัวเธอทั้งยังพ่นคำด่าทอไม่หยุด
“เมียไอ้หน้าอ่อนนี่ก็สวยดีเหมือนกันนี่หว่า”
“ทำอะไรปล่อยฉันนะไอ้พวกคนชั่วบอกให้ปล่อยไง”
“ไม่...เฮ้ยพวกแกแกไปข้างนอกก่อนฉันขอทำอะไรสนุกๆก่อนว่ะ”
“ได้ครับเสี่ยน้อย”
ชายสองคนเดินออกไปด้านนอกทิ้งให้หญิงสาวอยู่กับเจ้านายของเขาเพียงแค่สองต่อสองส่วนพวกเขาก็ไปดูต้นทางและหากเจ้านายของพวกเขาใจดีก็คงจะได้มีความสุขต่อจากเจ้านายอีกด้วย
“ไอ้บ้า..”
พลั้กกกก
“อ้ะ..”
อัญญานอนตัวงออยู่บนเตียงด้วยความเจ็บจุกท้องน้อยจนร้องออกมาแทบจะไม่มีเสียงมือน้อยกำหมัดแน่นในหัวของเธอเรียกหาแต่ลอบซ์หวังว่าให้เขากลับมาทันที่จะช่วยเธอให้รอดมือจากพวกคนชั่วพวกนี้ได้
“เงียบปากได้ซะทีนะ”
โจรชุดดำพลิกร่างบางให้นอนหงายทั้งยังก้มล้มตัวไปสูดดมกล่นหญิงสาวอยู่บนเตียง
“อื้อ..อึก..ฮือๆๆ..พ..ลอบซ์ช่วย..ด้วย.”
อัญญาสะอื้นเล็กๆอย่างไม่มีเสียงเพราะยังคงจุกมือไม้ของเธอพยายามปกป้องตัวเองอย่างเต็มที่เท่าที่จะทำได้แต่ดูเหมือนมันจะไม่สามารถทำอะไรคนที่กำลังทำร้ายร่างกายและจิตใจเธอได้เลย
“มีแรงแค่นี้เองเหรอ”
โจรชุดดำส่งเสียงเย้ยหยันหญิงสาวที่พยายามจะปกป้องตัวเองแต่ทำไมได้พร้อมถอดหมวกคลุมหน้าออกเพื่อที่จะได้สูดดมกลินกายสาวให้เต็มจมูก
“หืมม...พวกแกมาทำอะไร...คุณอาย”
ลอบซ์ขับรถเข้ามาในบ้านพร้อมลงรถอย่างรวดเร็วเมื่อเห็นว่ามีคนใส่ชุดดำท่าทางไม่น่าไว้ใจอยู่หน้าบ้านหัวใจของเขาเต้นแรงแทบจะออกมาอยู่ด้านนอกเพราะเป็นห่วงอัญญา
“ถอยไป”
“ไม่ถอยโว้ย”
พลั้ก..ตุ้บ...ตั้บบบ..
ลอบซ์ใช้เวลาไม่กี่วิก็จัดการชายชุดดำทั้งสองจนหมดสติและรีบขึ้นมาที่ห้องที่หญิงสาวอยู่
“ฮือๆๆ..”
แคว้กก
“อื้อ..”
อัญญาสะดุ้งเฮือกเมื่อชายโฉดฉีกเสื้อเธอจนขาดวิ่นเผยให้เห็นของสงวนของเธอแล้วขึงข้อมือของเธอทั้งสองกดเอาไว้ที่เตียง
ปังงง“คุณอาย”ลอบซ์ถีบประตูจนพังภาพตรงหน้าทำให้เขาอยากจะฆ่าไอ้โจรใจโฉดคนนี้เสียตอนนี้เลยจริงๆ“ฮือๆๆๆ”อัญญาน้ำตาไหลพรากเมื่อได้ยินเสียงของลอบซ์เธอคิดว่าเธอจะไม่รอดน้ำมือโจรพวกนี้เสียแล้ว“ไอ้เลว..แก”พลั้กก“โอ้ยย...”ตุบ..ตับ..พลั้กๆๆ..ตุ้บ..ลอบซ์เข้าไปต่อยโจรชุดดำที่กำลังทำมิดีมิร้ายหญิงสาวจนมันล้มลงแล้วจึงกระทืบมันอย่างหัวเสียจนสลบคากองเลือดไป“ไอ้ชั่ว...คุณอาย..”ชายหนุ่มสบถด่าออกมาอย่างเหลืออดและรีบเข้าไปดึงผ้าห่มมาคลุมร่างบางเอาไว้พร้อมกอดคนที่ตัวสั่นเทาอย่างรู้สึกผิด“ฮึก..ฮือๆๆๆ..”“.ผมขอโทษที่ปล่อยคุณไว้คนเดียว”ลอบซ์อุ้มหญิงสาวไปนอนที่ห้องของเขาพร้อมโทรแจ้งความให้ตำรวจมารับตัวคนพวกนี้ไปดำเนินคดีเมื่อเขาจัดการเรียบร้อยแล้วจึงเข้ามาดูแลหญิงสาวในห้องตามเดิม“ฮึกๆๆ...ฮือๆๆๆ”เวลาผ่านไปร่วมชั่วโมงหญิงสาวก็ยังร้องไม่หยุด“นอนนะครับผมจะอยู่ข้างๆคุณเอง”ลอบซ์นั่งอยู่ข้างเตียงจับมือหญิงสาวเอาไว้แน่นให้เอได้อุ่นใจว่าเขาจะดูแลเธออยู่ใกล้ไม่ไปไหนทั้งยังรอให้เธอหลับสนิทแล้วเขาจึงผละตัวไปนอนอยู่ที่โซฟาข้างๆเตียงที่หญิงสาวนอนอยู่วันต่อมาบ้านสุทธนสินไท“ท่านคะมีสายจากคุณลอบซ์ค่ะ”“ลอบซ
“แบบนี้นี่เอง...”น้ำอิงพยักหน้าเข้าใจ“มีอะไรจะบอก”ชายหนุ่มเข้ามากอดคนเป็นภรรยากระซิบข้างๆหูของเธอเบาๆ“อะไรคะ”“อีกสองวันอายกับลอบซ์จะมาที่นี่”“จริงเหรอคะ...”น้ำอิงเบิกตาโพรงดีใจเป็นพิเศษที่จะได้เจอเพื่อนเธอเสียทีเมื่อไม่ได้เจอกันร่วมสามเดือนแล้ว“ดูท่าฉันจะหัวเน่าซะแล้วล่ะมั้งดูจะคิดถึงเพื่อนขนาดนี้”อัศวินทำสีหน้าน้อยใจ“ก็ไม่ได้เจอกันนานแล้วนี่คะก็ต้องคิดถึงเป็นธรรมดา”“เธอไม่คิดถึงฉันบ้างเหรอ”“ก็คุณอาชน์อยู่กับอิงตลอดเวลานี่คะ”“ตอนฉันออกไปข้างนอกซื้อพวกของสดมาไว้ที่บ้านไง”“ก็แค่ไม่กี่ชั่วโมงเองค่ะ”น้ำอิงขมวดคิ้วเล็กน้อย“ไม่กี่ชั่วโมงเธอก็ต้องคิดถึงเพราะฉันเป็นสามีเธอ”“คุณอาชน์...”“หืม...”“เป็นขนาดนี้แล้วเหรอคะเนี่ย...”น้ำอิงส่ายหัวทั้งยังอมยิ้มให้กับความขี้อ้อนที่ไม่รู้ว่าช่วงน้าสรรหาคำอ้อนมาจากไหนนักหนา“ก็ต้องขนาดนี้แหละ”อัศวินโน้มตัวภรรยาของเขานอนลง“..อื้อ...ท..ทำอะไรคะ??”น้ำอิงถดตัวหนีเล็กน้อย“ฉันว่าฉันไม่ได้ลึกซึ้งกับเธอมานานแล้วนะ..”อัศวินกอดหญิงสาวไว้หลวมๆเพื่อไม่ให้ทับตัวของเธอ“ต...แต่ว่า..เจ้าตัวเล็กอยู่ในท้องนะคะ”น้ำอิงเข้าใจแล้วว่าเขาจะทำอะไรแต่เธอไ
“ยังไม่ได้บอกเลยอ่ะ”อัญญาก้มหน้างุดความรู้สึกในใจที่เธอเก็บซ่อนมานานมีเพียงแค่ผักหวานและน้ำอิงเท่านั้นที่รู้เธออยากจะบอกให้เจ้าตัวที่เธอแอบชอบรู้หลายครั้งแต่ก็ไมได้มีโอกาสบอกเสียที“นานแล้วนะ..”ผักหวานบุ้ยปากเล็กน้อยผิดหวังที่เธอกะจะได้ฟังข่าวดีจากอัญญาเสียหน่อย“ก็จะให้ทำยังไงก็มันยังไมได้บอกซะทีนี่นา”“รีบๆหน่อยๆเดี่ยวจะโดนสอยไปกินไม่รู้ด้วยนะ”“รู้แล้วน่า”วันต่อมา“จะไปเที่ยวป่า”“ค่ะ..พี่ลอบซ์พาอายไปนะคะ”“ง..งั้นก็ได้ครับแล้วคุณหวานจะไปด้วยหรือเปล่า”“อ่อ..เห็นหวานบ่นว่าอยากนอนพักก็เลยไม่ได้ไปค่ะ”“อ๋อ..ครับ”ชั่วโมงต่อมา“ป่าในช่วงฤดูนี้ที่นี่ดีนะคะไม่มีแมลงเลย”อัญญาเดินเที่ยวอย่างอารมณ์ดีเพราะสถานที่ที่นี่คนค่อนข้างน้อยเป็นส่วนตัวเหมาะแก่การที่เธอจะบอกบางสิ่งบางอย่างในใจกับชายหนุ่มที่เธอมีความรู้สึกดีๆด้วยความรู้สึกนี้มันมีมานานนมนี่คือสาเหตุที่เธอชอบทำตัวเอาแต่ใจกับลอบซ์อยู่บ่อยๆนั่นเองและการตามใจเธอแบบของเขาแบบนี้ล่ะมั้งที่ทำให้เธอมีใจให้เขาโดยไม่รู้ตัว“ครับอากาศก็โอเคด้วย”“พี่ลอบซ์ชอบไหมคะ”“ก็ชอบนะครับดูสงบดี”“เดินไปตรงสะพานนั่นดีกว่าค่ะ...”อัญญาเห็นว่าสะพานใหญ่ตรงห
โรงแรมXXX“จะดื่มทำไมให้เมาขนาดนี้ครับถ้าผมไม่ตามไปจะเป็นยังไง”ลอบซ์อุ้มหญิงสาวมานอนที่ห้องของเธอเขานั่งลงที่ขอบเตียงมองดูเธอพร้อมส่ายหน้ามือหนาดึงผ้านวมมาห่มให้กับคนเมาที่ตาปรืออยู่บนเตียง“อื้อ...”จู่ๆอัญญาก็พลิกตัวขึ้นมานอนซบอยู่บนอกของชายหนุ่มโดยที่เขาไม่ทันได้ตั้งตัว“คุณอาย...”“ไม่ชอบอายที่เอาแต่ใจไม่ใช่เหรอคะแล้วจะมายุ่งอะไรกับชีวิตอาย”“ยังไม่ลืมเรื่องวันนั้นอีกเหรอครับ”ลอบซ์ไม่คิดว่าคำพูดของเขาวันนั้นจะทำให้หญิงสาวฝังใจและทำตัวประชดประชันเขาจนถึงทุกวันนี้“ใครจะลืมได้เล่าเจอคนที่ตัวเองชอบว่ามาแบบนั้นอ่ะ”“คุณอาย..พูดอะไรครับ”ลอบซ์มองหน้าหญิงสาวอย่างตะลึง“อายชอบพี่ลอบซ์ชอบมานานแล้วด้วย...”ฟึ่บบบเมื่อพูดจบหญิงสาวก็ตัวอ่อนนอนฟุบลงไปที่แผงอกของชายหนุ่มอย่างไม่ได้สติ“คุณอาย...”ลอบซ์ยังคงนิ่งอึ้งกับสิ่งที่พึ่งจะได้รู้เมื่อครู่เขาพยายามผลักตัวหญิงสาวให้ไปนอนในที่ของเธอดีๆแต่มือของเธอดันกำเสื้อของเขาเอาไว้แน่นทำให้เขาต้องนอนอยู่กับเธอทั้งคืนวันต่อมา“คุณอายครับ..”ลอบซ์ขยับตัวหญิงสาวให้พระออกจากตัวเขาแต่ดูเหมือนเธอจะเกาะติดเขาหนึบไม่ยอมออกง่ายๆ“อือ...”“ปล่อยผมก่อนครับ”“
“ยังอีกเหรอแกก็ทำตัวดีกับเค้ามานานแล้วนะหรือว่าพี่ลอบซ์ของแกจะมีคนอื่นไปแล้ว”ผักหวานยังแกล้งหยอกเพื่อนเธอไม่จบไม่สิ้น“พูดอะไรอย่างนั้นเล่า”หน้าอัญญาตอนนี้จากที่ยุ่งอยู่แล้วก็ยิ่งยิ่งขึ้นไปอีกเป็นสิบเท่า“วันนี้พี่แกนึกยังไงชวนฉันมาปาร์ตี้ที่นี่กัน”ผักหวานอยากจะรู้นักว่าทำไมวันนี้พี่ชายของอัญญาถึงได้อยากจัดงานปาร์ตี้รวมตัวพวกเพื่อนๆกัน“ไม่รู้สิอยากให้บ้านครึกครื้นล่ะมั้ง”อัญญาเองก็ไม่รู้เหมือนกันแต่ก็คิดว่ามันน่าจะเป็นข้อดีทำให้บ้านนี้ครึกครื้นขึ้นมาบ้าง“สาวๆครับไปที่สนามหญ้ากันเถอะ”แดเนียลเดินมาตามสาวๆทั้งสามให้ลงไปที่สนามหญ้าหลังบ้าน“คุณมาด้วยเหรอ”ผักหวานหน้าบึ้งเล็กน้อยที่ไม่คิดว่าเขาจะมาดีด้วย“ต้องมาอยู่แล้วมาให้คุณเห็นจนเบื่อหน้าไปเลย”หลังจากที่กลับจากเกาะตอนนั้นแดเนียลก็ตามจีบผักหวานมาพักใหญ่แต่ดูเหมือนว่าเธอจะไม่ชอบหน้าเขาเอาเสียเลยทั้งที่เขาพยายามทำตัวดีๆกับเธอมาตลอด“หึ่..”ผักหวานไม่รู้ว่าเขาไปแอบปิ๊งเธอตอนไหนทั้งที่เอาแต่แกล้งเธอเธอไม่ชอบพฤติกรรมที่มีผู้หญิงเยอะของเขาที่เคยมีให้เธอได้เห็นนั้นมันยิ่งเป็นข้อที่เธอไม่อยากได้เขามาเป็นแฟน“ตาหนูมาหาคุณพ่อมาครับ”เมื่อ
เป็นเวลาตี1ที่คลับหรูแห่งนี้เต็มไปด้วยนักท่องราตรีชายหญิงที่กำลังมึนเมากันอย่างได้ที่เสียงอึกกระทึกครึกโครมจากเสียงดนตรีด้านในตัวคลับเหมือนจะเร้าใจจนชอบทำให้เกิดเหตุการณ์ตีกันอยู่เรื่อยไปจนเจ้าของคลับหรูหลายแห่งอย่างอาชน์อัศวินต้องปวดหัวกับเรื่องแบบนี้อยู่บ่อยครั้งกับพวกชอบกร่างในเวลาที่ไม่ค่อยจะได้สติซ่า.....ลอบซ์คนสนิทของอาชน์สาดน้ำในถังใหญ่ในมือไปที่กลุ่มวัยรุ่นวัยเกรียนที่อายุคงจะพึ่งผ่านเกณฑ์การเข้าสถานที่อโคจรที่มากร่างทำซ่าท้าตีท้าต่อยกับคนในคลับให้ฟื้นขึ้นมาหลังจากโนสั่งสอนกันไปจนพอตัว“ปล่อยพวกผมไปเถอะครับ”เด็กวัยรุ่นสี่ห้าคนที่อยู่ในวงล้อมบอดี้การ์ดกล้ามโตรีบคลานเข่ายกมือขอร้องชายหนุ่มที่นั่งไขว่ห้างมองจ้องพวกเขาอย่างไร้อารมณ์ชายหนุ่มที่อยู่ในชุดสูทราคาแพงสีดำปลดเนคไทหลวมๆเล็กน้อยพอไม่อึดอัดเกินไปนั่งไขว่ห้างพาดขายาวๆอยู่บนเก้าอี้ราคาแพงสายตาคมกริบของอัศวินนั้นไม่บ่งบอกถึงอารมณ์ในตอนนี้ว่ารู้สึกอย่างไรแต่คนที่มองก็ต้องเสียวสันหลังวาบเพราะพลังความอำมหิตที่แผ่ออกมามันช่างน่ากลัวเหลือเกินคงจะทำให้เด็กพวกนี้เลิกซ่ากันไปอีกนานเลยทีเดียว“จะมาทำซ่าที่นี่อีกไหม”ลอบซ์มือขวาร่าง
“จริงเหรอแก...ทำไมเค้ายอมง่ายๆล่ะ”น้ำอิงแทบไม่อยากจะเชื่อหูตัวเองเธอไม่เคยเจอพี่ชายอัญญาก็จริงแต่เธอเองก็เคยได้ยินกิตติศัพท์ความโหดดุและความน่ากลัวของพี่ชายอัญญามาบ้างไม่คิดว่าเขาจะยอมให้เพื่อนเธอใช้เส้นสายให้รับเธอเข้าทำงาน“ยอมง่ายกะผีอะไรล่ะ...ฉันแทบจะกราบเช้ากราบเย็นพี่ชายฉันอยู่แล้วแต่ที่พี่ฉันยอมเพราะผลการเรียนของเธอเลยนะ”คราแรกพี่ชายของเธอก็จะไม่ยอมง่ายๆจนเธอต้องโพทะนาความเก่งของน้ำอิงให้เขาได้ฟังและยังเอาประวัติการเรียนให้ดูพี่ชายเธอถึงยอมได้อีกอย่างเพราะเธอก็ตื๊อเขาอยู่หลายวันด้วยเหมือนกัน“ขอบใจนะทีหลังถ้ามันลำบากก็ไม่ต้องทำเพื่อฉันขนาดนั้นก็ได้”น้ำอิงรู้สึกขอบคุณอัญญาอย่างมากที่พูดได้ว่านี่คือการเสี่ยงชีวิตช่วยเธอเลยจริงๆ“ไม่ได้แกต้องได้ทำงานบริษัทพี่ฉันกับฉันเพราะเงินเดือนดีมากถ้าทำงานดีอีกอย่างถ้าคนอย่างแกไปไกลหูไกลตาฉันมีหวังโดนแกล้งตายกันพอดี”อัญญาไม่ยอมให้น้ำอิงไปทำงานที่อื่นอยู่แล้วต้องอยู่กับเธอเท่านั้นขนาดพี่ชายของผักหวานจะให้น้ำอิงไปทำงานด้วยเธอยังกันท่าว่าน้ำอิงได้งานแล้วเลยที่เธออยากให้น้ำอิงทำงานด้วยก็เพราะอยากให้เธอมีสภาพคล่องทางการเงินที่ดีขึ้นเพราะบริษัท
“ทำไมต้องเป็นแบบนี้ด้วย..ทำไมๆ..ฮือๆๆๆ”น้ำอิงนอนกอดหมอนะอื้นให้จนหลบไปด้วยอาการเหนื่อยทั้งกายและเหนื่อยทั้งใจวันต่อมา08.00 น.“ป้าจันทร์คะพี่อาชน์ไม่ทานข้าวเช้าเหรอคะ”อัญญาลงมารอพี่ชายเธอทานข้าวพักใหญ่แล้วแต่ไม่เห็นว่าพี่ชายเธอจะลงมาทานข้าวเช้าเสียทีจึงต้องถามจันทร์วาดหญิงวัยกลางคนที่เป็นหัวหน้าแม่บ้าน“คุณอาชน์บินไปที่เหนือตั้งแต่เมือคืนแล้วค่ะ”จันทร์วาดหันมาบอกคุณหนูของเธออมยิ้มเล็กน้อยครั้งนี้ก็เป็นอีกครั้งที่อัศวินนั้นไปไหนไม่บอกกล่าวน้องสาวอีกตามเคย“อ้าว..อายไม่เห็นรู้เรื่องเลย”อัญญานั่งหน้ามุ่ยอยู่ที่โต๊ะอาหารอีกตามเคยวันนี้เธอกะว่าจะคุยเรื่องขอเบิกเงินกับพี่ชายของเธอสักหน่อยเชียวแต่ถ้าหากเป็นแบบนี้เธอจะรอคุยต่อหน้าไม่ได้เธอต้องคุยตอนนี้เลยเพราะเพื่อนเธอจำเป็นต้องใช้เงินถึงแม้ว่าน้ำอิงจะปฏิเสธแต่ยังไงหากเธอเอาเงินไปยื่นให้กับมือแล้วเพื่อนเธอก็ต้องรับความช่วยเหลือเป็นแน่“...รับสิพี่อาชน์...”อัญญาต่อสายหาพี่ชายเธอหลายสิบสายก็ไม่เคยจะติดแม้แต่เบอคนสนิทอย่างล็อบซ์ในตอนนี้ก็ติดต่อไม่ได้ไม่รู้ว่าพวกเขาไปอยู่ที่ไหนกันถึงได้ทำตัวลึกลับติดต่อยากขนาดนี้ตลาดเช้าตลาดเช้าในชุมชนตอ