Share

ตอนที่34 แทบจะเหมือนคนบ้า

ครู่ต่อมา

“นี่หมอชินอิจิโร่หมอชินเป็นหมอสูติจะเป็นคนมาดูแลเราเป็นระยะนะหนูอิงเค้าเป็นลูกชายเพื่อนพ่อเอง”

เอื้อการนัดชินอิจิโร่มาที่นี่เพื่อแนะนำให้รู้จักกับน้ำอิงเพราะเขาจะวานให้หมอชินมาดูแลน้ำอิงที่นี่เป็นระยะในระหว่างที่น้ำอิงอยู่ที่นี่หมอชินเป็นลูกชายของชินซาคุเพื่อนเอื้อการที่ทำธุรกิจด้วยกันที่อิตาลีที่นี่เป็นบ้านของชินซากุที่ซื้อเอาไว้นานแล้วเอื้อการเห็นว่าเวลานี้เขามีเรื่องจำเป็นที่จะต้องขอใช้ซึ่งชินซาคุก็ไม่ได้มีปัญหาอะไรทั้งยังบอกให้อยู่เหมือนบ้านตัวเองและยังให้นัดเจอกับลูกชายของเขาเพื่อให้มาดูแลคนที่อยู่ที่นี่ด้วย

“ยินดีที่ได้รู้จักนะครับ”

หมอชินก้มหัวลงเล็กน้อยทักทายหญิงสาว

“ยินดีที่ได้รู้จักเช่นกันค่ะ”

น้ำอิงทักทายหมอหนุ่มด้วยรอยยิ้ม

“คุณเป็นพ่อฉันก็ต้องเป็นแม่สินะ”

เมื่อครู่กิ่งเกสรได้ยินสามีของเธอแทนตัวเองว่าพ่อกับน้ำอิงเธอจึงขอแทนตัวเองว่าแม่บ้าง น้ำอิงเกิดอาการเกร็งๆกับสรรพนามที่เปลี่ยนไปของทั้งคู่เล็กน้อย

“งั้นหนูอิงเรียกน้าว่าแม่เลยแล้วกันนะเหมือนที่อายเรียกไง”

“เอ่อ...ค่ะ”

อัญญาหันมายิ้มให้เพื่อนเธออย่างมีเลศนัยเพราะรู้ว่าพ่อกับแม่ของเธอคิดอะไรกันอยู่

อาทิตย์ต่อมา

“พอเถอะครับคุณอาชน์พรุ่งนี้มีประชุมนะครับ”

ลอบซ์ปวดหัวกับเจ้านายของเขามากที่เป็นอาทิตย์แล้วที่ไม่ได้ไปทำงานแถมยังเอาแต่ดื่มหนักแทบทุกคืนเมื่อตื่นมาก็จ้องแต่ถามเรื่องของน้ำอิงว่าเจอเธอแล้วหรือยังเมื่อได้คำตอบไม่ตรงใจก็หัวเสียไปทั้งวันจนใครก็เข้าหน้าไม่ติดแล้วในเวลานี้

“นายก็ประชุมแทนฉันแล้วกันลอบซ์”

“ได้ยังไงล่ะครับ”

ลอบซ์นั่งกุมขมับอยู่ข้างๆกับเจ้านายของเขาพร้อมส่ายหัวให้กับอาการของเจ้านายที่ไม่เคยเป็นมาก่อนหรือว่าเขาจะต้องบอกความจริงกับเจ้านายของเขาดีว่าน้ำอิงนั้นอยู่ที่ไหนเผื่ออะไรๆมันจะดีกว่านี้ก็ได้

“ถ้าคุณอาชน์เจอคุณน้ำอิงแล้วจะทำยังไงต่อไปครับ”

ลอบซ์ตัดสินใจถามคำถามกับเจ้านายของเขาหากวันนี้เจ้านายของเขารู้ใจตัวเองแล้วเขาก็จะยอมทำผิดสัญญาที่ให้ไว้กับกิ่งเกสรบอกความจริงว่าน้ำอิงอยู่ที่ไหน

“ฉ...ฉัน...จะไม่ยอมให้เธอหนีฉันไปอีก”

อัศวินตอบในสิ่งที่หัวของเขาคิดตอนนี้เขาจะไม่ยอมปล่อยเธอไปไหนอีกเพราะการห่างเธอนานเป็นอาทิตย์แบบนี้มันทำให้เขาคิดถึงเธอแทบขาดใจ

“ด้วยเหตุผลอะไรคะพี่อาชน์”

อัญญากับพ่อและแม่ของเธอกลับมาจากญี่ปุ่นก็ตรงมาที่บ้านของพี่อัศซินหลังนี้ที่เธอพึ่งจะเคยมาหญิงสาวเดินดุ่มๆเข้ามายืนต่อหน้าพี่ชายของเธอและมองค้อนไปที่ลอบซ์เพราะรู้ว่าลอบซ์จะทำอะไรที่เธอไม่อยากให้ทำหากเธอมาช้ากว่านี้อีกนิดเดียวแผนคงพังแน่

คำพูดเมื่อครู่ของพี่ชายเธอมันทำให้เธออยากจะตบหน้าเขาสักฉาดแต่ก็ทำไม่ได้เนื่องจากที่เขาเป็นพี่ชายของเธอคำพูดที่ดูว่ายังไม่หมดความเห็นแก่ตัวแบบนี้ก็ไม่สมควรที่จะได้รับฟังความจริงในตอนนี้ว่าน้ำอิงอยู่ที่ไหน

“ดูสภาพแกซิตาอาชน์งานการก็ไม่ไปทำ”

กิ่งเกสรเดินตามลูกสาวของเธอมาติดๆพรางบ่นลูกชายของเธอด้วยสีหน้าไม่สบอารมณ์เล็กน้อย

“คุณพ่อ..คุณแม่..”

“นี่ลูกชายฉันจริงๆเหรอเนี่ย”

เอื้อการยอมรับเลยว่าลูกชายของเขาในวันนี้ไม่เหมือนคนที่เขาเคยรู้จักแม้แต่น้อยความรักมันทำให้ลูกชายของเขาเปลี่ยนไปได้เพียงนี้เชียวหรือ

“อิงได้ติดต่อหาเราบ้างหรือเปล่าอาย”

อัญญายังคงไม่ให้คำตอบพี่ของเธอ

“ตอบสิ...อายยย...ตอบพี่สิ”

อัศวินเดินเข้ามาหาน้องสาวของเขาจับไหล่ของเธอพร้อมถามอย่างต้องการคำตอบในตอนนี้แต่น้องสาวของเขากลับนิ่งเงียบจ้องตาของเขาเขม็งทำให้เขาฟิวส์ขาดแผดเสียงใส่อัญญาเหมือนคนไม่มีสติจนลอบซ์ต้องมาดึงตัวเขากลับไปนั่งที่เดิม

“อย่ามาอาละวาดใส่น้องนะถ้าแม่เป็นหนูอิงแม่ก็ไม่กลับมาหรอกกลับมาเจอคนเอาแต่ใจแบบนี้”

กิ่งเกสรอดที่จะพูดทำร้ายจิตใจลูกชายของเธอไม่ได้เพราะไม่ชอบพฤติกรรมใส่อารมณ์เมื่อครู่ที่ลูกชายของเธอทำแบบนั้นกับน้องสาวตัวเองได้

“จะซ้ำเติมผมไปถึงไหนครับคุณแม่”

“ฉันจะเข้าบริษัทแทนแกสักพักพนักงานเจอเจ้านายสภาพนี้คงหมดความเชื่อถือกันพอดี”

เอื้อการเห็นทีจะปล่อยบริษัทเอาไว้แบบนี้ไม่ได้เขาจำเป็นต้องเข้าไปทำงานแทนลูกชายของเขาเองก่อนในตอนนี้เสียแล้ว

“อายรู้นะคะว่าพี่ลอบซ์ต้องการจะทำอะไร”

เมื่อกลับมาถึงบ้านอัญญาเดินรีบเดินตามเข้าไปที่บ้านพักของลอบซ์ที่อยู่หลังบ้านใหญ่ด้วยสายตาคาดโทษอีกฝ่ายเธอรู้ว่าเขาเกือบจะบอกความจริงกับพี่ชายของเธอไปแล้วเป็นแน่ว่าน้ำอิงอยู่ที่ไหน

“ดูสภาพคุณอาชน์ตอนนี้สิครับไม่แน่หากสองคนเค้าได้เจอกันแล้วได้คุยกันอะไรๆมันอาจจะดีกว่านี้ก็ได้นะครับ”

ลอบซ์ไม่ได้ปฏิเสธว่าเขาจะไม่ทำแบบนั้นเขาเพียงแค่คิดว่าหากทั้งสองได้มีโอกาสคุยกันในตอนนี้อะไรๆมันอาจจะดีขึ้นกว่าที่คิดก็เป็นได้

“ดีอะไรล่ะดูพี่ชายอายยังพูดจาเอาแต่ใจตัวเองอยู่เลย”

อัญญาพ่นเสียงออกมาพร้อมกอดอกอย่างไม่พอใจรู้สึกว่าลอบซ์คงจะเข้าข้างพี่ของเธอเพราะเห็นเป็นผู้ชายด้วยกันเสียมากกว่า

“คุณอายเข้าไปในบ้านใหญ่ดีกว่าครับนี่มันดึกแล้วเดี๋ยวคนอื่นเห็นเข้ามันจะดูไม่ดี”

“นี่พี่ลอบซ์ไล่อายเหรอคะ...จำเอาไว้เลยนะคะว่าอายจะตามติดพี่ลอบซ์ทุกฝีก้าวอย่าหวังว่าจะมีโอกาสบอกพี่อาชน์ได้ว่าอิงอยู่ที่ไหน”

อัญญาเปลี่ยนจากอาการหน้าบึ้งเป็นการแยกเขี้ยวใส่ลอบซ์ทันทีเมื่อคำพูดของเขาเหมือนยจะเป็นการไล่เธอทางอ้อม

“แล้วแต่คุณอายเลยครับ”

ลอบซ์รู้ว่าหากอัญญาจะทำอะไรเธอคงทำได้อยู่แล้วเพราะฉะนั้นเขาก็จะปล่อยให้เธอทำตามใจตัวเองไปคงห้ามอะไรไม่ได้

“พี่ลอบซ์พูดแบบนี้รำคาญอายใช่ไหมคะ”

ดูเหมือนอัญญาจะไม่ค่อยพอใจลอบซ์เอาเสียอย่างมากในตอนนี้

“คุณอายคิดไปเองแล้วครับ”

ลอบซ์ยืนมองหญิงสาวด้วยสีหน้าระอาดูเหมือนว่าเขาพูดอะไรก็ไม่เข้าหูหญิงสาวไปเสียทุกอย่างในตอนนี้

“พี่ลอบซ์...บบบ”

อัญญาแผดเสียงใส่ชายหนุ่มพร้อมกำมือแน่นอย่างคนเอาแต่ใจ

“จะตะโกนทำไมครับ”

ลอบซ์รีบเข้ามาโอบหญิงสาวปิดปากของเธอเอาไว้เพราะกลัวว่าคนอื่นจะเข้ามามุงดูพวกเขาเสียก่อนว่าทะเลาะอะไรกัน

“หึ้ยยยยย...”

อัญญารีบปัดมือของชายหนุ่มออกพร้อมเดินกลับออกไปอย่างไม่สบอารมณ์

“เฮ้อ....กดขี่ได้กับเราเท่านั้นแหละน้า”

ลอบซ์ส่ายหัวพรางมองหญิงสาวที่เดินกระฟัดกระเฟียดออกไปท่าทีที่เอาแต่ใจของเธอดูท่าจะเป็นกับเขาอยู่คนเดียวเท่านั้น

Related chapter

Latest chapter

DMCA.com Protection Status