วันต่อมา
บ้านใหญ่
“คุณพ่อ”
อัศวินเข้ามาที่บ้านใหญ่ของเขาในช่วงเช้าหน้าตาของเขาหมองคล้ำเสียยิ่งกว่าคนโดนของเพราะทั้งไม่ได้นอนและทั้งดื่มหนักจนหมดมาดนักธุรกิจ
“ว่าไงลูกชายตัวดี”
เอื้อการมองลูกชายของตนที่เดินเป็นศพตายซากเข้ามาหาทั้งกลิ่นตัวยังฟุ้งไปด้วยกลิ่นแอลกอฮอลล์คละคลุ้งเป็นบุญตาเสียจริงที่ได้เห็นลูกชายของเขาโดนผู้หญิงทิ้งแต่ก็ไมได้เอ่ยคำทำร้ายจิตใจอะไรขึ้นมา
“คุณพ่อพึ่งมาจะไปไหนกันเหรอครับ”
อัศวินมองกระเป๋าที่วางอยู่หน้าบ้านพร้อมรถตู้แสดงว่าต้องมีคนจะออกไปเที่ยวที่ไหนกันแน่
“พ่อจะพาแม่เรากับน้องไปเที่ยวที่ญี่ปุ่นน่ะทริปนี้แม่เค้าอยากไปนานแล้ว”
“อ่อ..ครับ...นี่ทิ้งงานไปเที่ยวแบบนี้บอกลอบซ์หรือยัง”
อัศวินเหลือบสายตามองน้องสาวของเขาที่กำลังขึ้นไปนั่งรออยู่ในรถตู้เพราะไม่อยากคุยกับพี่ชายของเธอ ไร้การตอบรับจากอัญญาทั้งเธอยังหันหน้าหนีพี่ชายของเธออีกด้วย
“น้องคงโกรธเราเรื่องหนูอิงน่ะ”
กิ่งเกสรเดินออกจากบ้านตรงเข้ามาหาลูกชายของเธอก่อนที่จะเดินไปประชิดตัวอัญญาขวางเอาไว้ก่อนรู้ว่าลูกเธอจะต้องเข้าไปดุคนเป็นน้องอีกแน่
“แล้วคุณแม่จะไปกี่วันครับ”
“สักอาทิตย์เดี๋ยวก็กลับแล้วล่ะแล้วเรื่องหนูอิงเจอเธอหรือยัง”
กิ่งเกสรแย้มถามความคืบหน้าเรื่องที่ลูกชายของเธอจ้างคนไปตามสืบเรื่องน้ำอิง
“ยังเลยครับ”
อัศวินก้มหน้าเล็กน้อยส่ายหัวไปมาพร้อมทั้งถอนหายใจ
“ตายแล้วนี่หลานแม่จะเป็นยังไงบ้างนะเดี๋ยวแม่ไปก่อนนะ”
กิ่งเกสรทิ้งท้ายก่อนที่จะขึ้นรถไปเหมือนเติมไฟให้ในใจลูกชายของเธอมันร้อนรุ่มยิ่งกว่าเดิม
บริษัทXXX
“ให้คนไปรับโอบมาที่บ้านหรือยัง”
อัศวินเดินเข้ามาที่ห้องทำงานของลอบซ์เพื่อสอบถามเรื่องที่เขาให้ไปจัดการเรียบร้อยดีหรือไม่
“คุณกิ่งให้คนไปรับน้องคุณอิงมาก่อนหน้าเราแล้วครับเหมือนจะให้ไปอยู่ที่เรือนรวีกานต์มีพยาบาลพิเศษคอยดูแลอยู่”
ลอบซ์ส่งคนไปรับเรียบร้อยแล้วแต่ก็ได้ทราบมาว่าแม่ของเจ้านายของเขาได้ส่งคนไปรับก่อนเรียบร้อยแล้วเพื่อให้โอบมาอยู่ที่เรือนรวีกานต์เรือนไม้ข้างบ้านใหญ่ที่เป็นเรือนของคุณย่าชายหนุ่มและจ้างพยาบาลพิเศษมาคอยดูแล
“อ๋อ...งั้นให้คนไปดูที่นั่นบ่อยๆแล้วกัน”
“ครับ”
อัศวินไมได้กังวลใจอะไรกับเรื่องนี้หากรู้ว่าน้องชายของหญิงสาวยังอยู่ในเขตการปกครองของเขาอยู่เขาก็สามารถส่งคนไปดูได้เรื่อยๆไม่ได้มีปัญหาอะไร
ญี่ปุ่น
“เพลียไหมหนูอิง”
กิ่งเกสรและสามีของเธอพาน้ำอิงมาอยู่ที่บ้านเพื่อนของเขาที่เป็นคนญี่ปุ่นที่นี่มีความเป็นชนบทและส่วนตัวใช้ได้แถมบรรยากาศยังดีเหมาะกับคนที่กำลังท้องอีกด้วยบ้านหลังนี้ที่กิ่งเกสรจะให้น้ำอิงมาอยู่เป็นบ้านสไตล์ญี่ปุ่นแท้ออกจะโบราณนิดหน่อยแต่เครื่องอำนวยความสะดวกที่นี่มีครบครันและทันสมัยอย่างมาก
“ไม่ค่อยเท่าไรค่ะคุณน้า”
“กินขนมรองท้องก่อนน้ารู้ว่าเราน่าจะหิว”
กิ่งเกสรรีบหยิบขนมที่เธอเอาติดกระเป๋าเอาไว้ให้น้ำอิงได้กินรองท้องก่อนที่จะสั่งอาหารมาเพราะรู้ว่าคนท้องจะหิวบ่อยและก็ไม่ควรปล่อยให้ตัวเองหิวด้วยจากประสบการณ์ที่เธอเคยท้องลูกสองคนมา
“ที่นี่บรรยากาศดีจังเลยนะคะไม่หนาวมากกำลังดี”
อัญญาชอบญี่ปุ่นในช่วงนี้เสียเหลือเกินที่ไม่ได้หนาวจนทำให้เธอใส่เสื้อผ้าน้อยชิ้นไม่ได้เพราะเธอจะเที่ยวแต่งตัวสวยถ่ายรูปให้มันทั่วทุกที่ในเมืองนี้ไปเลย
ครึ่งชั่วโมงต่อมา
“สบายใจขึ้นมาบ้างยัง”
สองสาวนั่งคุยกันอยู่ที่ระเบียงไม้หลังบ้านที่เป็นธารน้ำตกเล็กๆไหลผ่าน
“อืม...แล้วโอบเป็นไงบ้าง”
น้ำอิงสบายใจขึ้นมากเมื่อรู้ว่าไกลจากชายหนุ่มมาอีกประเทศคงทำให้เธอเธอน่าจะลืมเข้าได้ง่ายขึ้นถึงไม่ง่ายก็คงนึกถึงเขาน้อยลงเรื่องที่เธอเป็นห่วงตอนนี้ก็คือน้องชายของเธอกลัวว่าเขาจะโมโหที่เธอหายไปแล้วพาลไปหาเรื่องน้องชายของเธออย่างที่เขาเคยพูด
“น้องแกเข้าใจทุกอย่างดีตอนนี้อยู่ที่บ้านเรือนไม้ของคุณย่าฉันที่นั่นปลอดภัยจะไม่มีใครทำอะไรน้องแกได้แล้วฉันก็เชื่อว่าพี่อาชน์จะไม่ทำ”
“แล้วจะอยู่ที่นี่เป็นอาทิตย์เลยเหรออีกไม่กี่วันก็ถึงวันแต่งงานของคุณอาชน์แล้วนี่”
“งานถูกยกเลิกไปแล้ว”
“อะไรนะ....เพราะฉันหรือเปล่า”
น้ำอิงมีสีหน้าตกใจอย่างเห็นได้ชัด
“ไม่เกี่ยวกับแกหรอกอานัยเค้าเป็นฝ่ายขอยกเลิกเองเพราะเค้าเห็นว่าพี่อาชน์ไม่ได้รักพี่พลอยเลยสักนิด”
“อย่างงั้นเหรอ”
น้ำอิงยังมีสีหน้าสงสัยคนที่ไม่ได้รักกันจะหมั้นจนถึงจะแต่งกันได้อย่างไร
“พี่ฉันเค้ารักแก”
อัญญาพูดด้วยสีหน้าจริงจังอย่างที่เธอเข้าใจและมั่นใจ
“อะไรนะ..ม..ไม่ใช่มั้ง”
น้ำอิงส่ายหัวหงึกหงักเพื่อนเธอคงเข้าใจอะไรผิดเป็นแน่
“ที่พี่อาชน์ยอมหมั้นกับพี่พลอยเพราเป็นความต้องการของคุณแม่ในตอนนั้นและเพื่อเพิ่มความน่าเชื่อถือทางธุรกิจพี่อาชน์มีข้อตกลงกับพี่พลอยว่าเขาจะใช้ชีวิตคู่กันอย่างไม่ผูกมัดด้วยความที่พี่พลอยรักพี่อาชน์ข้างเดียวก็เลยยอมทุกอย่างแต่อานัยคงยอมทนเห็นลูกสาวตัวเองทำตัวไม่มีค่าแบบนั้นไม่ได้ก็เลยขอถอนหมั้นยกเลิกงานแต่งไปเองส่วนเรื่องที่ฉันเชื่อว่าพี่อาชน์รักแกก็เพราะเขาไม่เคยเป็นแบบนี้กับผู้หญิงคนไหนถึงเขาจะดูเป็นคนเย็นชาพูดจาหวานหูไม่เป็นแต่ลึกๆแล้วเค้ารักแกแต่แค่ไม่รู้ใจตัวเองเท่านั้น”
น้ำอิงนั่งอึ้งกับเรื่องที่เพื่อนเธอเล่ามาให้ฟังไม่อยากจะเชื่อว่าอัศวินจะมีใจให้เธอทั้งที่ท่าทางเขาจะเอาแต่ใจกับเธอตลอดเวลาน้อยครั้งที่จะพูดดีมีเพียงแค่พักหลังมานี้เท่านั้นและคำพูดดีไม่กี่ครั้งของเขาก็ทำให้เธอให้ใจเขาไปแล้วด้วย
“แกจะไม่เชื่อก็ได้แล้วแกล่ะคิดยังไงกับพี่ชายฉัน”
“เอ่อ...”
น้ำอิงก้มหน้าลงหลบสายตาของเพื่อนเธอเล็กน้อย
“ไม่ต้องบอกฉันตอนนี้ก็ได้”
อัญญาเห็นว่าน้ำอิงมีท่าทีอึกอักไม่สบายใจที่จะตอบเธอก็ไม่อยากเค้นเดี๋ยวจะพาลคิดมากไปเปล่าๆแค่นี้เธอก็พอจะเดาอาการเพื่อนเธอออกแล้ว
ครู่ต่อมา“นี่หมอชินอิจิโร่หมอชินเป็นหมอสูติจะเป็นคนมาดูแลเราเป็นระยะนะหนูอิงเค้าเป็นลูกชายเพื่อนพ่อเอง”เอื้อการนัดชินอิจิโร่มาที่นี่เพื่อแนะนำให้รู้จักกับน้ำอิงเพราะเขาจะวานให้หมอชินมาดูแลน้ำอิงที่นี่เป็นระยะในระหว่างที่น้ำอิงอยู่ที่นี่หมอชินเป็นลูกชายของชินซาคุเพื่อนเอื้อการที่ทำธุรกิจด้วยกันที่อิตาลีที่นี่เป็นบ้านของชินซากุที่ซื้อเอาไว้นานแล้วเอื้อการเห็นว่าเวลานี้เขามีเรื่องจำเป็นที่จะต้องขอใช้ซึ่งชินซาคุก็ไม่ได้มีปัญหาอะไรทั้งยังบอกให้อยู่เหมือนบ้านตัวเองและยังให้นัดเจอกับลูกชายของเขาเพื่อให้มาดูแลคนที่อยู่ที่นี่ด้วย“ยินดีที่ได้รู้จักนะครับ”หมอชินก้มหัวลงเล็กน้อยทักทายหญิงสาว“ยินดีที่ได้รู้จักเช่นกันค่ะ”น้ำอิงทักทายหมอหนุ่มด้วยรอยยิ้ม“คุณเป็นพ่อฉันก็ต้องเป็นแม่สินะ”เมื่อครู่กิ่งเกสรได้ยินสามีของเธอแทนตัวเองว่าพ่อกับน้ำอิงเธอจึงขอแทนตัวเองว่าแม่บ้าง น้ำอิงเกิดอาการเกร็งๆกับสรรพนามที่เปลี่ยนไปของทั้งคู่เล็กน้อย“งั้นหนูอิงเรียกน้าว่าแม่เลยแล้วกันนะเหมือนที่อายเรียกไง”“เอ่อ...ค่ะ”อัญญาหันมายิ้มให้เพื่อนเธออย่างมีเลศนัยเพราะรู้ว่าพ่อกับแม่ของเธอคิดอะไรกันอยู่อาทิตย์ต่อมา“พ
สนามบิน“เที่ยวให้สบายใจนะลูกสบายใจเมื่อไรก็ค่อยกลับมา”“ค่ะคุณพ่อ”สองพ่อลูกกอดกันอยู่ที่สนามบินท่ามกลางผู้คนที่เดินขวักไขว่ไปมาวันนี้ภัคดนัยมาส่งลูกสาวของเขาตามที่เธอขอว่าอยากจะไปเที่ยวเรื่องนี้เขาเห็นดีเห็นงามด้วยที่พลอยไพรินจะเดินทางไปญี่ปุ่นเขาหวังว่าการไปเที่ยวครั้งนี้จะทำให้ลูกสาวของเขาลืมเรื่องที่ช้ำใจในตอนนี้ได้“อย่าลืมว่าพ่ออยากเห็นรอยยิ้มที่สดใสของลูกอีกครั้งนะ”“ค่ะอยู่ทางนี้ดูแลสุขภาพด้วยนะคะ”ตอนนี้พลอยไพรินพอจะทำใจได้บ้างแล้วเพียงอยากหาที่สงบๆอยู่กับตัวเองให้พ้นจากข่าวคราวที่เธอยกเลิกงานแต่งเธอจึงเลือกที่จะไปพักผ่อนที่ญี่ปุ่นคนเดียวหวังว่าการเที่ยวครั้งนี้จะเยียวยาหัวใจของเธอให้กลับมาดีขึ้นในเร็ววันเหมือนกันญี่ปุ่น“อุ้บ...แหวะ...อุบบ..เฮ้ออออ...ทำไมไม่สงสารแม่บ้างเลยคะเจ้าตัวเล็กกินอะไรไปเท่าไรก็ออกมาหมดเลยแบบนี้จะได้สารอาหารบ้างไหมคะ”น้ำอิงนั่งฟุบลงกับพื้นมือเรียวของเธอลูบหน้าท้องพร้อมส่งเสียงคุยเบาๆอาการแพ้ท้องของเธอเริ่มจะหนักขึ้นทุกวันๆจนเธอนั้นซูบลงไปเยอะ“เป็นยังไงบ้างครับคุณอิง”“หมอชิน..”“นี่ท่าทางจะแพ้หนักใช่ไหมครับ”หมอชินเห็นสีหน้าของหญิงสาวก็พอจะดูอาการ
“ไม่ต้องสงสาร”อัญญาพูดกับเพื่อนเธอด้วยแววตามุ่งมั่น“อันนี้ความแค้นส่วนตัวหรือเปล่าเนี่ย”ผักหวานแอบอมยิ้มมองหน้าเพื่อนเธออย่างมีเลศนัย“อืมก็นิดหน่อยหมั่นไส้มานาน”อัญญายอมรับว่าเรื่องที่พี่ชายเธอหาน้ำอิงไม่เจอเสียทีเธอก็แอบสะใจอยู่เหมือนกันจะได้รู้เสียบ้างว่าเวลาอยากจะติดต่อใครแล้วหาตัวยากเย็นมันรู้สึกยังไง“แกนี่จริงๆเลยนะ...จะให้พี่แกอยู่ในสภาพที่เน่าไปกว่านี้อีกสักเท่าไรถึงจะยอมบอกว่าอิงอยู่ที่ไหน”“อืม...ขอดูอีกสักพักแล้วกัน”อัญญาก็ไม่รู้ว่าเธอจะปล่อยให้พี่เธอเป็นแบบนี้ไปจนถึงเมื่อไรแต่ถ้าหากพี่ชายเธอรู้ใจตัวเองเร็วเธอก็อาจจะบอกกับเขาเร็วก็ได้“แล้วอิงเป็นไงบ้างช่วงนี้ฉันไม่ค่อยได้ติดต่ออิงเลยมัวแต่ช่วยงานพี่กร”“อารมณ์ดีขึ้นเยอะนะแต่ก็แพ้ท้องหนักอะ”“อยู่ที่นั่นน่าจะเหงาเนอะ”“เห็นว่าว่างๆก็อ่านหนังสือฟังเพลงแก้เบื่อมั้ง”“นี่ไว้เราหาเวลาว่างไปหาอิงกันไหม”ผักหวานรู้ว่าคนท้องมักจะอารมณ์แปรปรวนไปอยู่ต่างบ้านต่างเมืองอาจจะเหงาหดหู่ได้เธอเลยอยากหาเวลาว่างไปหา“ก็ดีเหมือนกันนะ”อัญญาเห็นด้วยกับเพื่อนเธอแต่ครั้งนี้คงยังรีบไปไมได้เพราะหากไปบ่อยเกินเดี๋ยวพี่ชายของเธอจะสงสัยเอาได้บ้
ญี่ปุ่น“หืม....หมอชินเหรอคะ??”น้ำอิงที่กำลังนั่งพิงหมอนอ่านหนังสืออยู่ในห้องเมื่อได้ยินว่าข้างนอกมีเสียงคนเดินเข้ามาเธอจึงเลื่อนประตูออกมาดู“..ฉันเอง..”“คุณอาชน์..”น้ำอิงผงะถอยกรูดสองสามก้าวตกใจกับคนตรงหน้าที่เขาตามหาเธอเจอได้อย่างไร อัศวินโผเข้ากอดหญิงสาวด้วยความคิดถึง“ปล่อยอิงค่ะ”น้ำอิงพยายามดันตัวชายหนุ่มให้ออกห่างจากตัวเธอแต่ดูท่าว่าจะยากเสียเหลือเกิน“ไม่..”อัศวินกระชับกอดหญิงสาวแน่นขึ้นกว่าเดิม“ปล่อย...”“ฉันขอโทษ..”ชายหนุ่มพ่นคำพูดด้วยเสียงแผ่วเบาข้างหูของหญิงสาวที่เขากอดอยู่ น้ำอิงชะงักงันไม่คิดว่าจะได้ยินคำพูดนี้จากปากของเขาคนที่หยิ่งทรนงในศักดิ์ศรีตัวเองคนที่เอาแต่ใจคนเดิมไม่เคยมีคำพูดนี้ให้เธอ“ขอโทษที่ฉันชอบบังคับจิตใจเธอเพราะฉันมันเห็นแกตัวอยากเก็บเธอเอาไว้ใกล้ๆแต่ก็ไม่มีวิธีที่ดีกว่าการบังคับ”“มาที่นี่เพียงเพื่อจะขอโทษใช่ไหมคะ..”น้ำอิงอยากจะถามเขาให้แน่ใจว่าเขามาหาเธอเพียงเพราะเรื่องแค่นี้ใช่หรือไม่หากเป็นอย่างที่อัญญาบอกกับเธอจริงมันจะต้องมีคำพูดที่มากกว่านี้แน่นอนซึ่งเธอเองก็อยากจะได้ยินคำนั้นจากปากของเขาอยู่ลึกๆเหมือนกัน“คือ..”“อิงให้อภัยคุณค่ะแล้วคุณก็ก
“คุณอาชน์ทำเป็นเหรอคะ”“เธอบอกฉันก็ได้ว่าต้องใส่อะไรบ้าง”น้ำอิงหยักหน้าตกลงเธออยากจะเห็นอยู่เหมือนกันว่าอัศวินที่ทำเป็นแต่งานเวลาเข้าครัวทำอาหารจะออกมาเป็นแบบไหน“คนแบบนี้ใช่ไหม...เอ่อ”อัศวินดูเก้ๆกังๆในขณะที่ตอนนี้ข้าวหนึ่งถ้วยใหญ่ได้เข้าไปอยู่ในกระทะผัดเรียบร้อยแล้วเขามัวแต่หันมาถามหญิงสาวทั้งที่มือก็ยังทำงานอยู่ข้าวในกระทะจึงหกอกมาเลอะเทอะ“อิงทำเองดีกว่าค่ะ”น้ำอิงคิดว่าหากมื้อนี้เธอไม่เองคงจะไม่ได้กินเป็นแน่“ก..ก็ได้”อัศวินหน้าเสียเล็กน้อยแต่ทุกอย่างก็ต้องเรียนรู้ครั้งนี้เขามองดูเธอทำก่อนก็ได้หากครั้งต้อไปเขาจะต้องทำเป็นให้ได้จะได้ดูแลเธออย่างเต็มที่หญิงสาวใช้เวลาไม่นานข้าวผัดไข่ทั้งสองจานก็มาวางอยู่ที่โต๊ะทานอาหารต่อหน้าของเธอและชายหนุ่ม“ชอบกินแบบนี้เหรอ”อัศวินมองหญิงสาวที่กำลังตักข้าวเข้าปากท่าทางที่ดูจะมีความสุขกับการกินข้าวผัดของเธอทำให้เขาต้องตั้งคำถามขึ้นทั้งมองหญิงสาวฝั่งตรงข้ามอย่างสงสัยเพราะจากที่เขาได้ลองชิมข้าวในจานแล้วรู้สึกว่ามันจะจืดชืดไม่ค่อยจะมีรสชาติอะไรเท่าไรนัก“ค่ะ..ก็กินได้แต่แบบนี้”น้ำอิงเลิกสายตามองชายหนุ่มชั่วครู่แล้วจึงกลับไปสนใจข้าวในจานของเธอต่อ
น้ำอิงอ่านหนังสืออยู่ในห้องของเธอละสายตามองหนังสือแล้วมองชายหนุ่มที่เลื่อนประตูเข้ามาด้วยใบหน้านิ่งเฉย“อ่านอะไรอยู่เหรอ”น้ำอิงไม่ได้ตอบอีกฝ่ายเธอรู้ว่าเขาเห็นเธออ่านหนังสือเกี่ยวกับคุณแม่มือใหม่อยู่ก็ยังจะถามอยากจะรู้อีกว่าหากเธอยังทำนิ่งกับเขาอยู่เขาจะทำอย่างไรจะเค้นเธอให้เธอตอบเพื่อเอาชนะตามนิสัยเดิมของเขาหรือไม่“ฉ..ฉันไม่กวนก็ได้”อัศวินนั่งฟุบลงกับพื้นข้างๆหญิงสาวหากเธอไม่อยากคุยกับเขาก็ไม่เป็นไรเขาจะขอนั่งเงียบๆอยู่ใกล้ๆกับเธอก็พอน้ำอิงนั่งอ่านหนังสือได้พักใหญ่ตอนนี้ตาของเธอก็เริ่มปรือด้วยความง่วงแต่ก็ยังฝืนอ่านเพราะอยากที่จะอ่านต่อให้มันจบ“ถ้าง่วงก็ควรจะนอนนะอย่าฝืน”อัศวินไม่อยากให้หญิงสาวได้ฝืนอ่านต่อไปหากเธอง่วงเขาก็อยากจะให้เธอได้นอนพัก“แต่อิงยังอยากอ่านนี่คะ”“นอนเถอะเดี๋ยวฉันอ่านให้ฟังก็ได้”อัศวินโน้มตัวหญิงสาวลงมานอนที่ตักของเขาพร้อมหยิบหนังสือจากมือของเธอมาอ่านต่อให้เธอได้ฟังเป็นการหาความรู้ไปในตัวของเขาด้วย“..เมื่อไรจะยอมใจอ่อนกับฉันนะ..”ชายหนุ่มอ่านหนังสือได้ไม่กี่หน้าหญิงสาวก็หลับตานอนหายใจสม่ำเสมออัศวินจึงวางหนังสือลงอมยิ้มพร้อมก้มหน้าไปกดหอมแก้มนวลของหญิงสา
20.30 น.“ฉันเป็นห่วงเธอกับลูกมากรู้ไหมคราวหน้าคราวหลังระวังกว่านี้หน่อย”อัศวินนั่งกอดหญิงสาวจากทางด้านหลังในขณะที่เขากำลังนั่งอ่านหนังสือให้เธอฟังอยู่เขาวางหนังสือลงหลังจากที่อ่านไปได้พักใหญ่พลันนึกถึงเหตุการณ์เมื่อกลางวันแล้วก็อดจะย้ำให้หญิงสาวเรื่องเมื่อกลางวันไม่ได้เพราะเป็นห่วงเธออย่างมากและรู้สึกไม่ค่อยดีเท่าไรเมื่อเห็นเธอจะต้องเจ็บตัว“รู้แล้วค่ะ... คุณอาชน์จะห่วงอิงกับลูกแบบนี้ตลอดไปหรือเปล่าคะ”น้ำอิงพยักหน้ารับเธอหันหลังไปมองหน้าของเขาตาใสอยากได้คำตอบจากปากของเขาว่าถ้าหากเธอไมท้องแล้วเขาจะห่วงเธอแบบนี้ตลอดไปหรือไม่“แน่สิ... เธอคือส่วนหนึ่งในชีวิตของฉันไปแล้วยังไงฉันก็ต้องห่วงเธอกับลูกอยู่แล้ว”อัศวินมองหน้าหญิงสาวจริงจังคำตอบของเขาออกมาจากหัวใจ“แล้วคุณอาชน์จะกลับมาเป็นคนที่เอาแต่ใจกับอิงเหมือนเดิมอีกหรือเปล่า”“ตอนนี้ฉันก็ว่าฉันยอมเธอเยอะแล้วนะ”“จะยอมและดูแลแบบนี้ตลอดไปใช่ไหมคะ??”“ต..ลอด..ไป...??..หมายความว่าเธอจะให้ฉันดูแลเธอตลอดไปใช่ไหม”อัศวินขมวดคิ้วหลี่ตาเล็กน้อยในเมื่อเฮพูดคำว่าตลอดไปแสดงว่าเธออยากให้เขามาอยู่ในชีวิตของเธอด้วยเป็นแน่ น้ำอิงฉีกยิ้มกว้างให้ชายหนุ่มท
ลำปางบ้านเรือนไทยลอบซ์นอนอยู่ที่เปลใต้ถุนบ้านเรือนไทยของยายของเขาที่นี่ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงไปยังคงความร่มรื่นไว้อย่างไม่ต่างจากเดิมหลังจากที่ยายของเขาเสียไปเมื่อกลับมาถึงบ้านลอบซ์ก็จัดการทำความสะอาดบ้านครั้งใหญ่เพราะที่นี่ไม่มีใครดูแลด้านในมานานบ้านเรือนไทยของยายของเขาอายุเกือบจะห้าสิบปีแต่ทุกอย่างยังคงสภาพดีหลังบ้านเป็นที่ดินหลายร้อยไร่ห่างออกไปไม่ไกลตอนนี้เป็นทุ่งนาสลับกับบ่อน้ำและพื้นที่เลี้ยงสัตว์ทำไร่สวนผสมของยายของเขาที่ตกทอดมาเป็นมรดกของเขาที่เป็นหลานชายเพียงคนเดียวโดยมีคนงานดูแลอยู่ตลอดและที่ดินที่ให้ชาวบ้านเช่าทำกินที่อื่นที่ไม่ได้ติดกับบ้านอีกหลายสิบไร่ตอนนี้กำลังมีปัญหาเพราะมีคนมีอิทธิพลรุกล้ำเข้ามาทำไร่ในที่ดินของเขาอยู่หลายที่หากไม่มีชาวบ้านติดต่อเขาไปก็คงจะไม่รู้ตอนนี้ที่เขากลับมาก็คิดว่าจะมาสะสางเรื่องนี้ให้มันจบๆไปถึงจะมีอิทธิพลแค่ไหนเขาก็ไม่เกรงกลัวบ้านเสี่ยเฮ็ง“ผมว่าคงจะเข้าใจผิดกันล่ะมั้งครับ”“หากคิดว่าเข้าใจผิดนี่ก็คือภาพถ่ายจากดาวเทียมที่ผมขยายมาแล้วเสี่ยดูให้เต็มตานะครับว่ามันเกินมาเท่าไรหากยังไม่จัดการให้รวดเร็วผมคงต้องแจ้งความ”ลอบซ์เข้าไปที่บ้านของเสี่ย