“เรื่องโอบแกไม่ต้องเป็นห่วงฉันสัญญาว่าน้องแกจะไม่เป็นอะไรแล้วฉันจะดูแลโอบแทนแกเอง”
อัญญารู้ว่าการที่น้ำอิงไม่หนีไปจากพี่ชายของเธอก็เพราะน่าจะเนื่องด้วยกลัวคำขู่ของพี่ชายเธอตอนนี้เธอเชื่อว่าเรื่องทุกอย่างถึงหูแม่ของเธอแล้วโอบจะไม่เป็นอะไรอีกอย่างตอนนี้ความรู้สึกของพี่ชายเธอที่มีต่อน้ำอิงเธอก็คิดว่ามันเปลี่ยนไปเช่นกันแต่แค่พี่ชายของเธอยังหาคำตอบให้ตัวเองไมได้เท่านั้น
“อืม...ฮึก..ขอบ..ใจนะ..”
น้ำอิงได้ยินคำนี้เธอก็โล่งใจไปเปราะหนึ่งจึงยอมล้มตัวนอนพักบนเตียงโดยดีแต่ก็ยังมีอาการสะอื้นอยู่บ้างเล็กน้อย
หลังจากที่น้ำอิงหลับไปแล้วสองสาวก็มานั่งคุยกันอยู่ที่หน้าบ้านรับลมชมวิวของแม่น้ำด้วยสีหน้าที่เป็นกังวลกันนิดหน่อย
“พี่อาชน์นี่สุดไปเลยนะแก”
ผักหวานไม่รู้จะสรรหาคำพูดไหนมาอธิบายในความเป็นพี่ชายของเพื่อนเธอเลยจริงๆเป็นคนที่ค่อนข้างจะแปลกคนกับคนทั่วไปเสียเหลือเกิน
“ถ้าวันนั้นฉันจัดการเรื่องเงินได้เรื่องนี้ก็คงไม่เกิด”
อัญญาคิดถึงเรื่องในอดีตหากวันที่เพื่อนเธอต้องการเงินแล้งเงินเธออยู่ในมือของเธอโดยไม่ต้องขออนุญาตใครเรื่องก็คงไม่เป็นแบบนี้
“มันอาจจะเป็นเรื่องที่ฟ้ากำหนดมาแล้วก็ได้”
ผักหวานคิดในอีกแง่มากกว่า
“แกคิดงั้นเหรอ”
“แล้วแกคิดว่าพี่แกจะเอาไงต่อ”
เรื่องนี้ผักหวานจะต้องถามคนในเพราะคิดว่าอัญญาน่าจะรู้ดีที่สุดว่าพี่ชายของตัวเองจะเอายังไงกับเรื่องนี้ต่อไป
“ฉันคิดว่าก็ต้องตามหาอิงจนพลิกแผ่นดินแต่ฉันจะให้ตามหาเสียให้เข็ดอีกสองวันฉันจะพาอิงไปญี่ปุ่น”
อัญญาพูดด้วยสีหน้าเอาจริงเธออยากจะทำให้พี่ชายของเอได้รับรู้ถึงความสูญเสียบ้างเพราะเขามีแต่ได้กับได้มาตลอดแล้ว
“ญี่ปุ่น??”
“อืมฉันจะทำให้พี่อาชน์ได้รู้ใจตัวเองซะทีว่ารักอิงมันเข้าไปแล้ว”
เรื่องที่อัญญาพูดมาเธอแน่ใจล้านเปอร์เซ็น
“แกรู้ใจพี่แกไง”
ผักหวานขมวดคิ้วสงสัย
“พี่ฉันเปลี่ยนไปมากจากการที่ได้ฟังเรื่องที่พี่ฉันคุยกับคุณแม่ฉันว่าพี่อาชน์รักอิงแต่ไม่รู้ตัวเองเพราะตลอดเวลาที่ผ่านมาใช้ผู้หญิงโคตรเปลืองแถมยังมีคติบ้าๆมาปิดกั้นหัวใจเพราะชอบคิดว่าตัวเองจะรักคนแบบไม่ผูกมัด”
“พูดถึงถ้าพี่แกรักอิงมันทำไมต้องเล่นแง่บังคับขู่อะไรเพื่อนเราขนาดนั้นอะ”
“เพราะการเข้าหาผู้หญิงของพี่อาชน์มันห่วยน่ะสิ..แถมยังติดนิสัยชอบออกคำสั่งฉันจะรอดูสักวันพี่อาชน์จะต้องเป็นเสือสิ้นลายเพราะอิงนี่แหละ”
“อย่าลืมนะว่านี่จะถึงวันแต่งงานพี่แกแล้วอะเรื่องนี้ใหญ่เลย”
เรื่องอีกเรื่องที่ต้องกังวลที่ผักหวานคิดก็น่าจะเป็นเรื่องงานแต่งของพี่ชายเพื่อนเธอทั้งที่มีลูกคาท้องน้ำอิงอยู่
“อานัยขอถอนหมั้นไปแล้วจะ....คงทนพฤติกรรมที่พี่ชายฉันไม่สนใจลูกสาวเค้าไม่ไหว”
“เฮ้ย...ก็ดีนี่...เอาจริงฉันก็สงสารพี่พลอยเหมือนกันนะทั้งรักทั้งยอมทุกอย่างเพื่อที่จะได้แต่งงานกับพี่แกแต่พอจะถึงวันแต่งกลับงานล่มซะงั้น”
“ฉันว่าดีแล้วนะที่เป็นแบบนี้เพราะฉันก็สงสารลูกผู้หญิงด้วยกันเหมือนกันแกคิดดูหากแต่งไปนานวันพี่พลอยก็มีแต่จะรักพี่อาชน์มากขึ้นเธอจะทนให้พี่อาชน์มีผู้หญิงไปเรื่อยๆอย่างไม่รู้สึกเจ็บคงจะไม่มีทางพี่อาชน์ก็พอพี่อาชน์แต่อย่างว่าเค้าถูกเลี้ยงมาให้มีความเป็นผู้นำสูงเพื่อสืบทอดกิจการจึงทำให้ชอบตัดสินใจอะไรเองไม่ฟังใคร”
“แล้วแกคิดว่าเพื่อนเราจะมีใจให้พี่แกบ้างเปล่าอะ”
“เรื่องนี้ฉันคิดว่าคงจะมีแต่บอกอะไรออกไปไม่ได้มากกว่า”
“โหยย...ทำไมดูคู่นี้มันซับซ้อนจังปวดหัวๆเรารีบกลับกันก่อนเถอะเดี๋ยวพี่แกจะสงสัยเอา”
“โอเคๆ”
ผักหวานคร้านจะคิดอะไรต่อกับเรื่องนี้ทั้งยังชวนเพื่อนเธอกลับจากที่นี่ก่อนที่อัศวินจะสงสัยว่าน้องสาวตัวเองหายไปไหน
ทางด้านอัศวิน
22.00น.
อึกๆๆๆ
เพล้งงงงง
อัศวินไม่เข้าบริษัทเขานั่งดื่มตั้งแต่ช่วงเย็นอย่างหัวเสียขวดไวน์ราคาแพงถูกปาทิ้งระเนระนาดหลังจากดื่มเสร็จ
“อยู่ที่ไหนของเธอนะอิง”
อัศวินกัดฟันกรอดที่หญิงสาวกล้าที่จะหนีเขาไปได้โดยไม่เกรงกลัวอะไรแม้แต่นิดเดียว
บ้านใหญ่
“อืม..แม่ก็เห็นด้วยกับความคิดเรานะแต่ทีหลังทำอะไรบอกแม่ด้วยใจหายไปหมดนึกว่าจะเสียหลานกับลูกสะใภ้ไปซะแล้ว”
กิ่งเกสรรับรู้เรื่องราวจากอัญญาว่าเธอเป็นคนพาน้ำอิงหนีไปและคิดที่จะพาไปอยู่ที่ญี่ปุ่นสักพักเรื่องนี้เธอก็เห็นด้วยกับลุกสาวของเธอเพราะหากน้ำอิงไม่อยู่ก็จะมีเวลาให้ลุกชายของเธอได้ถามตัวเองมากขึ้นว่าหัวใจของเขาต้องการน้ำอิงมากแค่ไหน
“หืมม...ลูกสะใภ้”
อัญญาหลี่ตามองแม่ของเธออย่างมีเลศนัยที่ดูแม่ของเธอจะเห่อหลานกับสะใภ้คนใหม่เสียเหลือเกิน
“ทีนี้ก็รอดูว่าพี่เราจะบ้าได้ขนาดไหน”
“ยิ่งบ้ามากก็น่าจะรักมากใช่ไหมคะ”
สองแม่ลูกดูจะเข้ากันเป็นปี่เป็นขลุ่ยอัญญาดีใจที่เธอมีแม่ของเธอเป็นพรรคพวกเพราะมันจะทำให้เรื่องนี้ปิดมิดมากกว่าเดิม
วันต่อมา
“ลอบซ์นายจัดการให้คนสืบมาให้เร็วที่สุดว่าอิงอยู่ที่ไหนวันที่น้องของเธอออกจากโรงพยาบาลให้ไปรับเค้ามาอยู่ที่นี่”
“ครับคุณอาชน์”
วันทั้งวันอัศวินยุ่งอยู่กับเรื่องของน้ำอิงไม่เว้นว่างเขาจะต้องหาเธอให้เจอได้ในเร็ววันนี้ไห้ได้หากเขาพาน้องของเธอมาอยู่ที่นี่ด้วยกันยังไงคนที่ห่วงน้องชายอย่างเธอจะต้องตามมาที่นี่เป็นแน่
บ้านภัคดนัย
“ฮึก..ฮือๆๆๆ...”
“หักอกหักใจเถอะลูกรักตัวเองให้มากๆ”
“คุณพ่อ...ฮือๆๆๆ”
ตั้งแต่รู้ข่าวเรื่องการยกเลิกงานแต่งพลอยไพรินก็เอาแต่ร้องให้ไม่ขาดสายเธอเสียใจกับเรื่องนี้อย่างมากแถมเรื่องที่เธอพึ่งรู้ทำเอาเธอช็อกอยู่ไม่น้อยรูปภาพที่พ่อของให้เธอดูทำให้เธอเข้าใจได้ว่าคนที่อัศวินอยู่ด้วยทุกวันทุกคืนคือน้ำอิงแถมตอนนี้เธอยังตั้งท้องขึ้นมาอีกด้วยไม่ต้องเดาก็รู้ว่าเป็นลูกของใคร ภัคดนัยคอยกอดปลอบลูกสาวของเขาเอาไว้เงียบๆหากลูกของเขาอยากจะร้องก็จงร้องให้พอใจเพราะร้องตอนนี้ยังจะดีกว่าปล่อยให้เรื่องมันเลยเถิดให้ลูกสาวของเขาแต่งงานไปแล้วร้องให้ทุกวันก็คงไม่ดีเท่าไร
บ้านริมน้ำ
น้ำอิงตื่นขึ้นมาในตอนเช้าเธอยืนพิงหน้าต่างมองแม่น้ำอย่างเหม่อลอยนึกอิจฉาฝูงนกที่กำลังบินอย่างอิสระอยู่ในใจเล็กๆเธอสบายใจขึ้นมานิดหน่อยที่ได้ออกห่างมาจากอัศวินได้ ตอนนี้เธอตั้งใจไว้แล้วว่าลูกในท้องนั้นเธอจะเป็นคนดูแลเองและจะได้ไม่ต้องอยู่เป็นตัวปัญหาของอัศวินกับพลอยไพรินที่กำลังจะแต่งงานกันให้เธอเลือกเจ็บวันนี้ยังจะดีเสียกว่าปล่อยให้ยืดเยื้อไปเรื่อยๆ
วันต่อมาบ้านใหญ่“คุณพ่อ”อัศวินเข้ามาที่บ้านใหญ่ของเขาในช่วงเช้าหน้าตาของเขาหมองคล้ำเสียยิ่งกว่าคนโดนของเพราะทั้งไม่ได้นอนและทั้งดื่มหนักจนหมดมาดนักธุรกิจ“ว่าไงลูกชายตัวดี”เอื้อการมองลูกชายของตนที่เดินเป็นศพตายซากเข้ามาหาทั้งกลิ่นตัวยังฟุ้งไปด้วยกลิ่นแอลกอฮอลล์คละคลุ้งเป็นบุญตาเสียจริงที่ได้เห็นลูกชายของเขาโดนผู้หญิงทิ้งแต่ก็ไมได้เอ่ยคำทำร้ายจิตใจอะไรขึ้นมา“คุณพ่อพึ่งมาจะไปไหนกันเหรอครับ”อัศวินมองกระเป๋าที่วางอยู่หน้าบ้านพร้อมรถตู้แสดงว่าต้องมีคนจะออกไปเที่ยวที่ไหนกันแน่“พ่อจะพาแม่เรากับน้องไปเที่ยวที่ญี่ปุ่นน่ะทริปนี้แม่เค้าอยากไปนานแล้ว”“อ่อ..ครับ...นี่ทิ้งงานไปเที่ยวแบบนี้บอกลอบซ์หรือยัง”อัศวินเหลือบสายตามองน้องสาวของเขาที่กำลังขึ้นไปนั่งรออยู่ในรถตู้เพราะไม่อยากคุยกับพี่ชายของเธอ ไร้การตอบรับจากอัญญาทั้งเธอยังหันหน้าหนีพี่ชายของเธออีกด้วย“น้องคงโกรธเราเรื่องหนูอิงน่ะ”กิ่งเกสรเดินออกจากบ้านตรงเข้ามาหาลูกชายของเธอก่อนที่จะเดินไปประชิดตัวอัญญาขวางเอาไว้ก่อนรู้ว่าลูกเธอจะต้องเข้าไปดุคนเป็นน้องอีกแน่“แล้วคุณแม่จะไปกี่วันครับ”“สักอาทิตย์เดี๋ยวก็กลับแล้วล่ะแล้วเรื่องหนูอิงเจ
ครู่ต่อมา“นี่หมอชินอิจิโร่หมอชินเป็นหมอสูติจะเป็นคนมาดูแลเราเป็นระยะนะหนูอิงเค้าเป็นลูกชายเพื่อนพ่อเอง”เอื้อการนัดชินอิจิโร่มาที่นี่เพื่อแนะนำให้รู้จักกับน้ำอิงเพราะเขาจะวานให้หมอชินมาดูแลน้ำอิงที่นี่เป็นระยะในระหว่างที่น้ำอิงอยู่ที่นี่หมอชินเป็นลูกชายของชินซาคุเพื่อนเอื้อการที่ทำธุรกิจด้วยกันที่อิตาลีที่นี่เป็นบ้านของชินซากุที่ซื้อเอาไว้นานแล้วเอื้อการเห็นว่าเวลานี้เขามีเรื่องจำเป็นที่จะต้องขอใช้ซึ่งชินซาคุก็ไม่ได้มีปัญหาอะไรทั้งยังบอกให้อยู่เหมือนบ้านตัวเองและยังให้นัดเจอกับลูกชายของเขาเพื่อให้มาดูแลคนที่อยู่ที่นี่ด้วย“ยินดีที่ได้รู้จักนะครับ”หมอชินก้มหัวลงเล็กน้อยทักทายหญิงสาว“ยินดีที่ได้รู้จักเช่นกันค่ะ”น้ำอิงทักทายหมอหนุ่มด้วยรอยยิ้ม“คุณเป็นพ่อฉันก็ต้องเป็นแม่สินะ”เมื่อครู่กิ่งเกสรได้ยินสามีของเธอแทนตัวเองว่าพ่อกับน้ำอิงเธอจึงขอแทนตัวเองว่าแม่บ้าง น้ำอิงเกิดอาการเกร็งๆกับสรรพนามที่เปลี่ยนไปของทั้งคู่เล็กน้อย“งั้นหนูอิงเรียกน้าว่าแม่เลยแล้วกันนะเหมือนที่อายเรียกไง”“เอ่อ...ค่ะ”อัญญาหันมายิ้มให้เพื่อนเธออย่างมีเลศนัยเพราะรู้ว่าพ่อกับแม่ของเธอคิดอะไรกันอยู่อาทิตย์ต่อมา“พ
สนามบิน“เที่ยวให้สบายใจนะลูกสบายใจเมื่อไรก็ค่อยกลับมา”“ค่ะคุณพ่อ”สองพ่อลูกกอดกันอยู่ที่สนามบินท่ามกลางผู้คนที่เดินขวักไขว่ไปมาวันนี้ภัคดนัยมาส่งลูกสาวของเขาตามที่เธอขอว่าอยากจะไปเที่ยวเรื่องนี้เขาเห็นดีเห็นงามด้วยที่พลอยไพรินจะเดินทางไปญี่ปุ่นเขาหวังว่าการไปเที่ยวครั้งนี้จะทำให้ลูกสาวของเขาลืมเรื่องที่ช้ำใจในตอนนี้ได้“อย่าลืมว่าพ่ออยากเห็นรอยยิ้มที่สดใสของลูกอีกครั้งนะ”“ค่ะอยู่ทางนี้ดูแลสุขภาพด้วยนะคะ”ตอนนี้พลอยไพรินพอจะทำใจได้บ้างแล้วเพียงอยากหาที่สงบๆอยู่กับตัวเองให้พ้นจากข่าวคราวที่เธอยกเลิกงานแต่งเธอจึงเลือกที่จะไปพักผ่อนที่ญี่ปุ่นคนเดียวหวังว่าการเที่ยวครั้งนี้จะเยียวยาหัวใจของเธอให้กลับมาดีขึ้นในเร็ววันเหมือนกันญี่ปุ่น“อุ้บ...แหวะ...อุบบ..เฮ้ออออ...ทำไมไม่สงสารแม่บ้างเลยคะเจ้าตัวเล็กกินอะไรไปเท่าไรก็ออกมาหมดเลยแบบนี้จะได้สารอาหารบ้างไหมคะ”น้ำอิงนั่งฟุบลงกับพื้นมือเรียวของเธอลูบหน้าท้องพร้อมส่งเสียงคุยเบาๆอาการแพ้ท้องของเธอเริ่มจะหนักขึ้นทุกวันๆจนเธอนั้นซูบลงไปเยอะ“เป็นยังไงบ้างครับคุณอิง”“หมอชิน..”“นี่ท่าทางจะแพ้หนักใช่ไหมครับ”หมอชินเห็นสีหน้าของหญิงสาวก็พอจะดูอาการ
“ไม่ต้องสงสาร”อัญญาพูดกับเพื่อนเธอด้วยแววตามุ่งมั่น“อันนี้ความแค้นส่วนตัวหรือเปล่าเนี่ย”ผักหวานแอบอมยิ้มมองหน้าเพื่อนเธออย่างมีเลศนัย“อืมก็นิดหน่อยหมั่นไส้มานาน”อัญญายอมรับว่าเรื่องที่พี่ชายเธอหาน้ำอิงไม่เจอเสียทีเธอก็แอบสะใจอยู่เหมือนกันจะได้รู้เสียบ้างว่าเวลาอยากจะติดต่อใครแล้วหาตัวยากเย็นมันรู้สึกยังไง“แกนี่จริงๆเลยนะ...จะให้พี่แกอยู่ในสภาพที่เน่าไปกว่านี้อีกสักเท่าไรถึงจะยอมบอกว่าอิงอยู่ที่ไหน”“อืม...ขอดูอีกสักพักแล้วกัน”อัญญาก็ไม่รู้ว่าเธอจะปล่อยให้พี่เธอเป็นแบบนี้ไปจนถึงเมื่อไรแต่ถ้าหากพี่ชายเธอรู้ใจตัวเองเร็วเธอก็อาจจะบอกกับเขาเร็วก็ได้“แล้วอิงเป็นไงบ้างช่วงนี้ฉันไม่ค่อยได้ติดต่ออิงเลยมัวแต่ช่วยงานพี่กร”“อารมณ์ดีขึ้นเยอะนะแต่ก็แพ้ท้องหนักอะ”“อยู่ที่นั่นน่าจะเหงาเนอะ”“เห็นว่าว่างๆก็อ่านหนังสือฟังเพลงแก้เบื่อมั้ง”“นี่ไว้เราหาเวลาว่างไปหาอิงกันไหม”ผักหวานรู้ว่าคนท้องมักจะอารมณ์แปรปรวนไปอยู่ต่างบ้านต่างเมืองอาจจะเหงาหดหู่ได้เธอเลยอยากหาเวลาว่างไปหา“ก็ดีเหมือนกันนะ”อัญญาเห็นด้วยกับเพื่อนเธอแต่ครั้งนี้คงยังรีบไปไมได้เพราะหากไปบ่อยเกินเดี๋ยวพี่ชายของเธอจะสงสัยเอาได้บ้
ญี่ปุ่น“หืม....หมอชินเหรอคะ??”น้ำอิงที่กำลังนั่งพิงหมอนอ่านหนังสืออยู่ในห้องเมื่อได้ยินว่าข้างนอกมีเสียงคนเดินเข้ามาเธอจึงเลื่อนประตูออกมาดู“..ฉันเอง..”“คุณอาชน์..”น้ำอิงผงะถอยกรูดสองสามก้าวตกใจกับคนตรงหน้าที่เขาตามหาเธอเจอได้อย่างไร อัศวินโผเข้ากอดหญิงสาวด้วยความคิดถึง“ปล่อยอิงค่ะ”น้ำอิงพยายามดันตัวชายหนุ่มให้ออกห่างจากตัวเธอแต่ดูท่าว่าจะยากเสียเหลือเกิน“ไม่..”อัศวินกระชับกอดหญิงสาวแน่นขึ้นกว่าเดิม“ปล่อย...”“ฉันขอโทษ..”ชายหนุ่มพ่นคำพูดด้วยเสียงแผ่วเบาข้างหูของหญิงสาวที่เขากอดอยู่ น้ำอิงชะงักงันไม่คิดว่าจะได้ยินคำพูดนี้จากปากของเขาคนที่หยิ่งทรนงในศักดิ์ศรีตัวเองคนที่เอาแต่ใจคนเดิมไม่เคยมีคำพูดนี้ให้เธอ“ขอโทษที่ฉันชอบบังคับจิตใจเธอเพราะฉันมันเห็นแกตัวอยากเก็บเธอเอาไว้ใกล้ๆแต่ก็ไม่มีวิธีที่ดีกว่าการบังคับ”“มาที่นี่เพียงเพื่อจะขอโทษใช่ไหมคะ..”น้ำอิงอยากจะถามเขาให้แน่ใจว่าเขามาหาเธอเพียงเพราะเรื่องแค่นี้ใช่หรือไม่หากเป็นอย่างที่อัญญาบอกกับเธอจริงมันจะต้องมีคำพูดที่มากกว่านี้แน่นอนซึ่งเธอเองก็อยากจะได้ยินคำนั้นจากปากของเขาอยู่ลึกๆเหมือนกัน“คือ..”“อิงให้อภัยคุณค่ะแล้วคุณก็ก
“คุณอาชน์ทำเป็นเหรอคะ”“เธอบอกฉันก็ได้ว่าต้องใส่อะไรบ้าง”น้ำอิงหยักหน้าตกลงเธออยากจะเห็นอยู่เหมือนกันว่าอัศวินที่ทำเป็นแต่งานเวลาเข้าครัวทำอาหารจะออกมาเป็นแบบไหน“คนแบบนี้ใช่ไหม...เอ่อ”อัศวินดูเก้ๆกังๆในขณะที่ตอนนี้ข้าวหนึ่งถ้วยใหญ่ได้เข้าไปอยู่ในกระทะผัดเรียบร้อยแล้วเขามัวแต่หันมาถามหญิงสาวทั้งที่มือก็ยังทำงานอยู่ข้าวในกระทะจึงหกอกมาเลอะเทอะ“อิงทำเองดีกว่าค่ะ”น้ำอิงคิดว่าหากมื้อนี้เธอไม่เองคงจะไม่ได้กินเป็นแน่“ก..ก็ได้”อัศวินหน้าเสียเล็กน้อยแต่ทุกอย่างก็ต้องเรียนรู้ครั้งนี้เขามองดูเธอทำก่อนก็ได้หากครั้งต้อไปเขาจะต้องทำเป็นให้ได้จะได้ดูแลเธออย่างเต็มที่หญิงสาวใช้เวลาไม่นานข้าวผัดไข่ทั้งสองจานก็มาวางอยู่ที่โต๊ะทานอาหารต่อหน้าของเธอและชายหนุ่ม“ชอบกินแบบนี้เหรอ”อัศวินมองหญิงสาวที่กำลังตักข้าวเข้าปากท่าทางที่ดูจะมีความสุขกับการกินข้าวผัดของเธอทำให้เขาต้องตั้งคำถามขึ้นทั้งมองหญิงสาวฝั่งตรงข้ามอย่างสงสัยเพราะจากที่เขาได้ลองชิมข้าวในจานแล้วรู้สึกว่ามันจะจืดชืดไม่ค่อยจะมีรสชาติอะไรเท่าไรนัก“ค่ะ..ก็กินได้แต่แบบนี้”น้ำอิงเลิกสายตามองชายหนุ่มชั่วครู่แล้วจึงกลับไปสนใจข้าวในจานของเธอต่อ
น้ำอิงอ่านหนังสืออยู่ในห้องของเธอละสายตามองหนังสือแล้วมองชายหนุ่มที่เลื่อนประตูเข้ามาด้วยใบหน้านิ่งเฉย“อ่านอะไรอยู่เหรอ”น้ำอิงไม่ได้ตอบอีกฝ่ายเธอรู้ว่าเขาเห็นเธออ่านหนังสือเกี่ยวกับคุณแม่มือใหม่อยู่ก็ยังจะถามอยากจะรู้อีกว่าหากเธอยังทำนิ่งกับเขาอยู่เขาจะทำอย่างไรจะเค้นเธอให้เธอตอบเพื่อเอาชนะตามนิสัยเดิมของเขาหรือไม่“ฉ..ฉันไม่กวนก็ได้”อัศวินนั่งฟุบลงกับพื้นข้างๆหญิงสาวหากเธอไม่อยากคุยกับเขาก็ไม่เป็นไรเขาจะขอนั่งเงียบๆอยู่ใกล้ๆกับเธอก็พอน้ำอิงนั่งอ่านหนังสือได้พักใหญ่ตอนนี้ตาของเธอก็เริ่มปรือด้วยความง่วงแต่ก็ยังฝืนอ่านเพราะอยากที่จะอ่านต่อให้มันจบ“ถ้าง่วงก็ควรจะนอนนะอย่าฝืน”อัศวินไม่อยากให้หญิงสาวได้ฝืนอ่านต่อไปหากเธอง่วงเขาก็อยากจะให้เธอได้นอนพัก“แต่อิงยังอยากอ่านนี่คะ”“นอนเถอะเดี๋ยวฉันอ่านให้ฟังก็ได้”อัศวินโน้มตัวหญิงสาวลงมานอนที่ตักของเขาพร้อมหยิบหนังสือจากมือของเธอมาอ่านต่อให้เธอได้ฟังเป็นการหาความรู้ไปในตัวของเขาด้วย“..เมื่อไรจะยอมใจอ่อนกับฉันนะ..”ชายหนุ่มอ่านหนังสือได้ไม่กี่หน้าหญิงสาวก็หลับตานอนหายใจสม่ำเสมออัศวินจึงวางหนังสือลงอมยิ้มพร้อมก้มหน้าไปกดหอมแก้มนวลของหญิงสา
20.30 น.“ฉันเป็นห่วงเธอกับลูกมากรู้ไหมคราวหน้าคราวหลังระวังกว่านี้หน่อย”อัศวินนั่งกอดหญิงสาวจากทางด้านหลังในขณะที่เขากำลังนั่งอ่านหนังสือให้เธอฟังอยู่เขาวางหนังสือลงหลังจากที่อ่านไปได้พักใหญ่พลันนึกถึงเหตุการณ์เมื่อกลางวันแล้วก็อดจะย้ำให้หญิงสาวเรื่องเมื่อกลางวันไม่ได้เพราะเป็นห่วงเธออย่างมากและรู้สึกไม่ค่อยดีเท่าไรเมื่อเห็นเธอจะต้องเจ็บตัว“รู้แล้วค่ะ... คุณอาชน์จะห่วงอิงกับลูกแบบนี้ตลอดไปหรือเปล่าคะ”น้ำอิงพยักหน้ารับเธอหันหลังไปมองหน้าของเขาตาใสอยากได้คำตอบจากปากของเขาว่าถ้าหากเธอไมท้องแล้วเขาจะห่วงเธอแบบนี้ตลอดไปหรือไม่“แน่สิ... เธอคือส่วนหนึ่งในชีวิตของฉันไปแล้วยังไงฉันก็ต้องห่วงเธอกับลูกอยู่แล้ว”อัศวินมองหน้าหญิงสาวจริงจังคำตอบของเขาออกมาจากหัวใจ“แล้วคุณอาชน์จะกลับมาเป็นคนที่เอาแต่ใจกับอิงเหมือนเดิมอีกหรือเปล่า”“ตอนนี้ฉันก็ว่าฉันยอมเธอเยอะแล้วนะ”“จะยอมและดูแลแบบนี้ตลอดไปใช่ไหมคะ??”“ต..ลอด..ไป...??..หมายความว่าเธอจะให้ฉันดูแลเธอตลอดไปใช่ไหม”อัศวินขมวดคิ้วหลี่ตาเล็กน้อยในเมื่อเฮพูดคำว่าตลอดไปแสดงว่าเธออยากให้เขามาอยู่ในชีวิตของเธอด้วยเป็นแน่ น้ำอิงฉีกยิ้มกว้างให้ชายหนุ่มท