“แม่ว่าเรารู้อยู่แก่ใจนะเรื่องเรากับหนูอิงมันยังไง”
กิ่งเกสรรู้ดีว่าลูกชายของเธอรู้ว่าสิ่งที่มันมากกว่าที่เธอพูดออกไปมันคืออะไรเธอไม่เชื่อว่าลูกชายของเธอจะปล่อยให้ใครตามสืบเรื่องตัวเองได้ง่ายๆถ้าไม่จงใจ
ในเมื่อเรื่องมันมาถึงขนาดนี้แล้วเธอก็ขอถามสิ่งที่เธอสงสัยมานานว่าลูกชายของเธอกับน้ำอิงความสัมพันธ์ของทั้งสองเป็นยังไงกันแน่เพราะเธอจับสังเกตุได้ตั้งแต่วันที่น้ำอิงมานอนที่บ้านแล้วลูกชายของเธอแอบเข้าห้องของน้ำอิงแถมคืนที่ไปนอนที่เกาะยังพาน้ำอิงออกไปข้างนอกดึกๆดื่นๆกลับมาก็เช้าอีกต่างหากเรื่องนี้เธออยากจะฟังจากปากลูกชายของเธอเอง
อัศวินตั้งใจจะบอกเรื่องนี้กับแม่ของเขาอยู่แล้วเขาจึงเล่าเรื่องราวทั้งหมดให้แม่ของเขาฟัง...จนถึงเรื่องที่ตอนนี้น้ำอิงตั้งท้องอีกด้วย
“อาชน์...นี่แม่จะเป็นลมทำไมถึงได้ทำนิสัยแบบนี้ห้ะ”
กิ่งเกสรฟังเรื่องราวทั้งหมดเธอแทบจะลมจับที่ดูลูกชายเธอเหมือนจะโหดร้ายกับน้ำอิงเสียเหลือเกินยิ่งฟังก็ยิ่งสงสารน้ำอิงหากหญิงสาวไม่ท้องกับลูกชายของเธอตัวเธอเองจะเป็นคนช่วยน้ำอิงให้พ้นไปจากชีวิตลูกชายของเธอเสียเองแต่ก็แอบแปลกใจอยู่ไม่น้อยเมื่อรู้สึกว่าลูกชายของเธอจะมีนิสัยบางอย่างที่เปลี่ยนไปดูจะแคน้ำอิงกว่าผู้หญิงคนไหนๆทั้งที่ไม่เคยเป็นมาก่อน
“ผมจะรับผิดชอบเธอทุกอย่างครับ”
“แม่ของถามคำถามนึงรู้สึกยังไงกับหนูอิง”
“ตอนนี้ผมยังอยากให้เธออยู่ใกล้ๆไม่อยากให้ห่างไปไหนแต่ไม่รู้ว่าอนาคตข้างหน้าผมยังจะมีความรู้สึกนี้อยู่หรือเปล่า”
“กับผู้หญิงทุกคนที่ผ่านมารู้สึกแบบนี้บ้างไหม”
“ไม่ครับ”
“แล้วทำไมถึงคิดว่าวันนึงความรู้สึกอยากให้หนูอิงอยู่ใกล้ๆจะหายไป”
“ผมไม่รู้ครับ..อาจจะเป็นเพราะผมยังชอบคติที่ว่าไม่อยากผูกมัดมั้งครับ”
“งั้นก็ค้นหาคำตอบต่อไปโตจนป่านนี้แล้วแม่จะมาสอนก็คงไม่ได้”
กิ่งเกสรมองออกว่าลูกเธอกำลังมีความรักแต่ที่มองไม่ออกและไม่รู้ความคิดตัวเองก็เพราะยังไม่เคยมีความรักมาก่อนจะยึดติดก็แต่คติของตัวเองอย่างเดียวที่ไม่ชอบผูกมัดแต่ตรงกันข้ามตัวลูกชายเธอเองที่เป็นคนผูกมัดน้ำอิงเข้ามาในชีวิตท่าทางจะแกะไม่ออกเสียด้วยยังไงก็แล้วแต่เธอจะเป็นคนทำให้ลูกชายเธอรู้ใจตัวเองด้วยตัวของตัวเองเธอคงจะไปสอนอะไรเรื่องนี้ไม่ได้
“แล้วที่เราบอกจะรับผิดชอบหนูอิงจะรับผิดชอบยังไง”
“ก็ผู้ชายที่ทำผู้หญิงท้องต้องรับผิดชอบยังไงผมก็ทำแบบนั้นแหละครับ”
“เจ้าลูกคนนี้นี่ยอกย้อน”
“พาแม่ไปหาหนูอิงเดี๋ยวนี้เลย”
ครึ่งชั่วโมงต่อมา
บ้านอัศวิน
“อิงไปไหน”
อัศวินเดินหัวเสียมาถามบอดี้การ์ดที่ยืนอยู่หน้าประตูอย่างหัวเสียเมื่อเขาหาหญิงสาวไม่พบตอนนี้กิ่งเกสรเองก็ใจไม่ดีแล้วเหมือนกันกลัวว่าหญิงสาวจะหนีเตลิดไปไหนไกลเสียแล้วในตอนนี้
“เห็นเดินออกไปหน้าบ้านเมื่อสักครู่เองครับ”
บอดี้การ์ดชุดดำที่ไม่ได้ตามหญิงสาวก็เพราะรู้ว่าเธอเองเดินออกไปแบบนี้เป็นประจำอีกสักพักก็จะกลับมาเองจึงไม่ได้ใส่ใจอะไรมากมาย
“ฉันนั่งรถเข้ามาไม่เห็นใครจะอยู่ที่หน้าบ้าน”
อัศวินแผดเสียงใส่ลูกน้องของเขาทั้งในใจตอนนี้สั่นไหวกลัวว่าคนของเขาจะหนีไป
“เปิดดูกล้องดีกว่าตาอาชน์”
“ครับคุณแม่”
อัศวินเปิดดูกล้องย้อนเวลาดูในมือถือเขาเห็นหญิงสาวเดินออกไปจริงแต่แล้วก็มีแท็กซี่มารับเธอออกไปซ้ำร้ายกล้องยังเห็นแค่ผิวเผินป้ายทะเบียนของรถนั้นกลับไม่เห็นมือไม้ของอัศวินตอนนี้สั่นไปหมดใจไม่ดีเอาเสียเลยหากเธอหนีเขาไปไม่ใช่เธอคนเดียวที่หนีแต่เธอพาลูกของเขาไปด้วย
โรงพยาบาล
แกร๊กก
“พวกคุณเข้าห้องผิดหรือเปล่าครับ”
ต้นตาลกำลังนั่งคุยกับโอบที่นอนอยู่บนเตียงทั้งคู่ต่างตกใจที่จู่ๆก็มีคนแปลกหน้าเข้ามาในห้อง
“ไม่ผิดหรอกฉันเป็นสามีน้ำอิงเธออยู่ที่นี่หรือเปล่า”
อัศวินมีสีหน้าร้อนใจอย่างมากทั้งประกาศตัวว่าเขาเป็นอะไรกับน้ำอิงอย่างชัดเจนจนกิ่งเกสสรและคนในห้องเองก็อึ้งไปตามๆกัน
“..สามี!!”
โอบชะงักงันกับเรื่องที่ได้ยินเขาหลับไปแค่เดือนเดียวฟื้นมาไม่กี่วันพี่สาวเธอก็มีสามีแล้วอย่างนั้นหรือ
“พี่อิงไม่ได้มาที่นี่นะครับ”
ต้นตาลที่ตั้งสติได้ก่อนจึงรีบบอกอีกฝ่ายว่าหญิงสาวไม่ได้มาที่นี่หากมาก็คงจะเห็นอยู่ในห้องนี้แล้ว
“โอเค”
อัศวินได้ยินเช่นนั้นจึงรีบพรวดพราดออกไปเพราะเขาจะไม่รอช้าในการตามหาเธอ
“เดี๋ยวครับนี่มันอะไรกัน”
โอบรีบพูดกับกิ่งเกสรที่ยังไม่ทันได้ออกจากห้องไปว่ามันเป็นเรื่องอะไรกันที่ผู้ชายคนที่พูดว่าเป็นสามีของพี่เขาจึงดูรีบร้อนแบบนี้
“เดี๋ยวน้ามาคุยทีหลังน้ะจ๊ะ”
กิ่งเกสรก็คร้านจะอธิบายอะไรในตอนนี้เพราะเธอก็ร้อนใจไม่ต่างกับลูกชายของเธอแต่เธอสัญญาว่าวันหลังหากมีโอกาสเหมาะเจาะเธอจะอธิบายเรื่องนี้ให้พวกเขาฟังเองและรีบตามลูกชายของเธอออกไปทันทีทิ้งให้สองหนุ่มมองหน้ากันอย่างงุนงง
ทางด้านน้ำอิง
“อึก...ฮึก...ฮือๆๆ..”
ตั้งแต่อัญญาไปรับน้ำอิงตามจุดนัดพบกันแถวปั๊มน้ำมันเธอก็เห็นเพื่อนเธอร้องไม่หยุดไม่หย่อนตั้งแต่ขับรถมาจนถึงบ้านของผักหวานอีกหลังที่พึ่งจะซื้อเอาไว้แถวอยุธยาเธอรู้เรื่องราวทั้งหมดเพราะได้ยินที่พี่ชายของเธอคุยกับแม่ของเธอที่หน้าบ้านเธอยอมรับว่าตอนนี้เธอโกรธพี่ชายของเธอมากเลยทีเดียวจึงชิ่งพาตัวของเพื่อนเธอหนีมาก่อน
“ใจเย็นๆอิงฉันเข้าใจแกทุกอย่างอย่ากังวลอะไรทั้งนั้นเดี๋ยวมันจะเป็นผลกับลูกในท้องเข้าใจใช่ไหม”
อัญญากอดปลอบเพื่อนเธอที่เอาแต่สะอึกสะอื้นด้วยสีหน้าที่ไม่สู้ดีนัก
“อืม..ฮึกๆ..ฮือ.อือ”
“พักที่นี่ก่อนจะไม่มีใครรู้ว่าแกอยู่ที่นี่แน่นอนเชื่อฉัน”
ผักหวานเองก็ตกใจกับเรื่องที่พึ่งจะรู้เหมือนกันเมื่อเพื่อนมีทุกข์เธอก็ต้องปลอบใจและหาทางช่วยเหลือเอาไว้ก่อนบ้านเธอหลังนี้พึ่งจะสร้างเสร็จอยู่ติดกับริมแม่น้ำคงจะทำให้เพื่อนเธอได้อารมณ์ดีเพราะบรรยากาศบ้างและเธอให้คำมั่นว่าจะไม่มีใครรู้เรื่องที่น้ำอิงมาอยู่ที่นี่แน่นอนให้น้ำอิงสบายใจได้
“เรื่องโอบแกไม่ต้องเป็นห่วงฉันสัญญาว่าน้องแกจะไม่เป็นอะไรแล้วฉันจะดูแลโอบแทนแกเอง”อัญญารู้ว่าการที่น้ำอิงไม่หนีไปจากพี่ชายของเธอก็เพราะน่าจะเนื่องด้วยกลัวคำขู่ของพี่ชายเธอตอนนี้เธอเชื่อว่าเรื่องทุกอย่างถึงหูแม่ของเธอแล้วโอบจะไม่เป็นอะไรอีกอย่างตอนนี้ความรู้สึกของพี่ชายเธอที่มีต่อน้ำอิงเธอก็คิดว่ามันเปลี่ยนไปเช่นกันแต่แค่พี่ชายของเธอยังหาคำตอบให้ตัวเองไมได้เท่านั้น“อืม...ฮึก..ขอบ..ใจนะ..”น้ำอิงได้ยินคำนี้เธอก็โล่งใจไปเปราะหนึ่งจึงยอมล้มตัวนอนพักบนเตียงโดยดีแต่ก็ยังมีอาการสะอื้นอยู่บ้างเล็กน้อยหลังจากที่น้ำอิงหลับไปแล้วสองสาวก็มานั่งคุยกันอยู่ที่หน้าบ้านรับลมชมวิวของแม่น้ำด้วยสีหน้าที่เป็นกังวลกันนิดหน่อย“พี่อาชน์นี่สุดไปเลยนะแก”ผักหวานไม่รู้จะสรรหาคำพูดไหนมาอธิบายในความเป็นพี่ชายของเพื่อนเธอเลยจริงๆเป็นคนที่ค่อนข้างจะแปลกคนกับคนทั่วไปเสียเหลือเกิน“ถ้าวันนั้นฉันจัดการเรื่องเงินได้เรื่องนี้ก็คงไม่เกิด”อัญญาคิดถึงเรื่องในอดีตหากวันที่เพื่อนเธอต้องการเงินแล้งเงินเธออยู่ในมือของเธอโดยไม่ต้องขออนุญาตใครเรื่องก็คงไม่เป็นแบบนี้“มันอาจจะเป็นเรื่องที่ฟ้ากำหนดมาแล้วก็ได้”ผักหวานคิดในอีก
วันต่อมาบ้านใหญ่“คุณพ่อ”อัศวินเข้ามาที่บ้านใหญ่ของเขาในช่วงเช้าหน้าตาของเขาหมองคล้ำเสียยิ่งกว่าคนโดนของเพราะทั้งไม่ได้นอนและทั้งดื่มหนักจนหมดมาดนักธุรกิจ“ว่าไงลูกชายตัวดี”เอื้อการมองลูกชายของตนที่เดินเป็นศพตายซากเข้ามาหาทั้งกลิ่นตัวยังฟุ้งไปด้วยกลิ่นแอลกอฮอลล์คละคลุ้งเป็นบุญตาเสียจริงที่ได้เห็นลูกชายของเขาโดนผู้หญิงทิ้งแต่ก็ไมได้เอ่ยคำทำร้ายจิตใจอะไรขึ้นมา“คุณพ่อพึ่งมาจะไปไหนกันเหรอครับ”อัศวินมองกระเป๋าที่วางอยู่หน้าบ้านพร้อมรถตู้แสดงว่าต้องมีคนจะออกไปเที่ยวที่ไหนกันแน่“พ่อจะพาแม่เรากับน้องไปเที่ยวที่ญี่ปุ่นน่ะทริปนี้แม่เค้าอยากไปนานแล้ว”“อ่อ..ครับ...นี่ทิ้งงานไปเที่ยวแบบนี้บอกลอบซ์หรือยัง”อัศวินเหลือบสายตามองน้องสาวของเขาที่กำลังขึ้นไปนั่งรออยู่ในรถตู้เพราะไม่อยากคุยกับพี่ชายของเธอ ไร้การตอบรับจากอัญญาทั้งเธอยังหันหน้าหนีพี่ชายของเธออีกด้วย“น้องคงโกรธเราเรื่องหนูอิงน่ะ”กิ่งเกสรเดินออกจากบ้านตรงเข้ามาหาลูกชายของเธอก่อนที่จะเดินไปประชิดตัวอัญญาขวางเอาไว้ก่อนรู้ว่าลูกเธอจะต้องเข้าไปดุคนเป็นน้องอีกแน่“แล้วคุณแม่จะไปกี่วันครับ”“สักอาทิตย์เดี๋ยวก็กลับแล้วล่ะแล้วเรื่องหนูอิงเจ
ครู่ต่อมา“นี่หมอชินอิจิโร่หมอชินเป็นหมอสูติจะเป็นคนมาดูแลเราเป็นระยะนะหนูอิงเค้าเป็นลูกชายเพื่อนพ่อเอง”เอื้อการนัดชินอิจิโร่มาที่นี่เพื่อแนะนำให้รู้จักกับน้ำอิงเพราะเขาจะวานให้หมอชินมาดูแลน้ำอิงที่นี่เป็นระยะในระหว่างที่น้ำอิงอยู่ที่นี่หมอชินเป็นลูกชายของชินซาคุเพื่อนเอื้อการที่ทำธุรกิจด้วยกันที่อิตาลีที่นี่เป็นบ้านของชินซากุที่ซื้อเอาไว้นานแล้วเอื้อการเห็นว่าเวลานี้เขามีเรื่องจำเป็นที่จะต้องขอใช้ซึ่งชินซาคุก็ไม่ได้มีปัญหาอะไรทั้งยังบอกให้อยู่เหมือนบ้านตัวเองและยังให้นัดเจอกับลูกชายของเขาเพื่อให้มาดูแลคนที่อยู่ที่นี่ด้วย“ยินดีที่ได้รู้จักนะครับ”หมอชินก้มหัวลงเล็กน้อยทักทายหญิงสาว“ยินดีที่ได้รู้จักเช่นกันค่ะ”น้ำอิงทักทายหมอหนุ่มด้วยรอยยิ้ม“คุณเป็นพ่อฉันก็ต้องเป็นแม่สินะ”เมื่อครู่กิ่งเกสรได้ยินสามีของเธอแทนตัวเองว่าพ่อกับน้ำอิงเธอจึงขอแทนตัวเองว่าแม่บ้าง น้ำอิงเกิดอาการเกร็งๆกับสรรพนามที่เปลี่ยนไปของทั้งคู่เล็กน้อย“งั้นหนูอิงเรียกน้าว่าแม่เลยแล้วกันนะเหมือนที่อายเรียกไง”“เอ่อ...ค่ะ”อัญญาหันมายิ้มให้เพื่อนเธออย่างมีเลศนัยเพราะรู้ว่าพ่อกับแม่ของเธอคิดอะไรกันอยู่อาทิตย์ต่อมา“พ
สนามบิน“เที่ยวให้สบายใจนะลูกสบายใจเมื่อไรก็ค่อยกลับมา”“ค่ะคุณพ่อ”สองพ่อลูกกอดกันอยู่ที่สนามบินท่ามกลางผู้คนที่เดินขวักไขว่ไปมาวันนี้ภัคดนัยมาส่งลูกสาวของเขาตามที่เธอขอว่าอยากจะไปเที่ยวเรื่องนี้เขาเห็นดีเห็นงามด้วยที่พลอยไพรินจะเดินทางไปญี่ปุ่นเขาหวังว่าการไปเที่ยวครั้งนี้จะทำให้ลูกสาวของเขาลืมเรื่องที่ช้ำใจในตอนนี้ได้“อย่าลืมว่าพ่ออยากเห็นรอยยิ้มที่สดใสของลูกอีกครั้งนะ”“ค่ะอยู่ทางนี้ดูแลสุขภาพด้วยนะคะ”ตอนนี้พลอยไพรินพอจะทำใจได้บ้างแล้วเพียงอยากหาที่สงบๆอยู่กับตัวเองให้พ้นจากข่าวคราวที่เธอยกเลิกงานแต่งเธอจึงเลือกที่จะไปพักผ่อนที่ญี่ปุ่นคนเดียวหวังว่าการเที่ยวครั้งนี้จะเยียวยาหัวใจของเธอให้กลับมาดีขึ้นในเร็ววันเหมือนกันญี่ปุ่น“อุ้บ...แหวะ...อุบบ..เฮ้ออออ...ทำไมไม่สงสารแม่บ้างเลยคะเจ้าตัวเล็กกินอะไรไปเท่าไรก็ออกมาหมดเลยแบบนี้จะได้สารอาหารบ้างไหมคะ”น้ำอิงนั่งฟุบลงกับพื้นมือเรียวของเธอลูบหน้าท้องพร้อมส่งเสียงคุยเบาๆอาการแพ้ท้องของเธอเริ่มจะหนักขึ้นทุกวันๆจนเธอนั้นซูบลงไปเยอะ“เป็นยังไงบ้างครับคุณอิง”“หมอชิน..”“นี่ท่าทางจะแพ้หนักใช่ไหมครับ”หมอชินเห็นสีหน้าของหญิงสาวก็พอจะดูอาการ
“ไม่ต้องสงสาร”อัญญาพูดกับเพื่อนเธอด้วยแววตามุ่งมั่น“อันนี้ความแค้นส่วนตัวหรือเปล่าเนี่ย”ผักหวานแอบอมยิ้มมองหน้าเพื่อนเธออย่างมีเลศนัย“อืมก็นิดหน่อยหมั่นไส้มานาน”อัญญายอมรับว่าเรื่องที่พี่ชายเธอหาน้ำอิงไม่เจอเสียทีเธอก็แอบสะใจอยู่เหมือนกันจะได้รู้เสียบ้างว่าเวลาอยากจะติดต่อใครแล้วหาตัวยากเย็นมันรู้สึกยังไง“แกนี่จริงๆเลยนะ...จะให้พี่แกอยู่ในสภาพที่เน่าไปกว่านี้อีกสักเท่าไรถึงจะยอมบอกว่าอิงอยู่ที่ไหน”“อืม...ขอดูอีกสักพักแล้วกัน”อัญญาก็ไม่รู้ว่าเธอจะปล่อยให้พี่เธอเป็นแบบนี้ไปจนถึงเมื่อไรแต่ถ้าหากพี่ชายเธอรู้ใจตัวเองเร็วเธอก็อาจจะบอกกับเขาเร็วก็ได้“แล้วอิงเป็นไงบ้างช่วงนี้ฉันไม่ค่อยได้ติดต่ออิงเลยมัวแต่ช่วยงานพี่กร”“อารมณ์ดีขึ้นเยอะนะแต่ก็แพ้ท้องหนักอะ”“อยู่ที่นั่นน่าจะเหงาเนอะ”“เห็นว่าว่างๆก็อ่านหนังสือฟังเพลงแก้เบื่อมั้ง”“นี่ไว้เราหาเวลาว่างไปหาอิงกันไหม”ผักหวานรู้ว่าคนท้องมักจะอารมณ์แปรปรวนไปอยู่ต่างบ้านต่างเมืองอาจจะเหงาหดหู่ได้เธอเลยอยากหาเวลาว่างไปหา“ก็ดีเหมือนกันนะ”อัญญาเห็นด้วยกับเพื่อนเธอแต่ครั้งนี้คงยังรีบไปไมได้เพราะหากไปบ่อยเกินเดี๋ยวพี่ชายของเธอจะสงสัยเอาได้บ้
ญี่ปุ่น“หืม....หมอชินเหรอคะ??”น้ำอิงที่กำลังนั่งพิงหมอนอ่านหนังสืออยู่ในห้องเมื่อได้ยินว่าข้างนอกมีเสียงคนเดินเข้ามาเธอจึงเลื่อนประตูออกมาดู“..ฉันเอง..”“คุณอาชน์..”น้ำอิงผงะถอยกรูดสองสามก้าวตกใจกับคนตรงหน้าที่เขาตามหาเธอเจอได้อย่างไร อัศวินโผเข้ากอดหญิงสาวด้วยความคิดถึง“ปล่อยอิงค่ะ”น้ำอิงพยายามดันตัวชายหนุ่มให้ออกห่างจากตัวเธอแต่ดูท่าว่าจะยากเสียเหลือเกิน“ไม่..”อัศวินกระชับกอดหญิงสาวแน่นขึ้นกว่าเดิม“ปล่อย...”“ฉันขอโทษ..”ชายหนุ่มพ่นคำพูดด้วยเสียงแผ่วเบาข้างหูของหญิงสาวที่เขากอดอยู่ น้ำอิงชะงักงันไม่คิดว่าจะได้ยินคำพูดนี้จากปากของเขาคนที่หยิ่งทรนงในศักดิ์ศรีตัวเองคนที่เอาแต่ใจคนเดิมไม่เคยมีคำพูดนี้ให้เธอ“ขอโทษที่ฉันชอบบังคับจิตใจเธอเพราะฉันมันเห็นแกตัวอยากเก็บเธอเอาไว้ใกล้ๆแต่ก็ไม่มีวิธีที่ดีกว่าการบังคับ”“มาที่นี่เพียงเพื่อจะขอโทษใช่ไหมคะ..”น้ำอิงอยากจะถามเขาให้แน่ใจว่าเขามาหาเธอเพียงเพราะเรื่องแค่นี้ใช่หรือไม่หากเป็นอย่างที่อัญญาบอกกับเธอจริงมันจะต้องมีคำพูดที่มากกว่านี้แน่นอนซึ่งเธอเองก็อยากจะได้ยินคำนั้นจากปากของเขาอยู่ลึกๆเหมือนกัน“คือ..”“อิงให้อภัยคุณค่ะแล้วคุณก็ก
“คุณอาชน์ทำเป็นเหรอคะ”“เธอบอกฉันก็ได้ว่าต้องใส่อะไรบ้าง”น้ำอิงหยักหน้าตกลงเธออยากจะเห็นอยู่เหมือนกันว่าอัศวินที่ทำเป็นแต่งานเวลาเข้าครัวทำอาหารจะออกมาเป็นแบบไหน“คนแบบนี้ใช่ไหม...เอ่อ”อัศวินดูเก้ๆกังๆในขณะที่ตอนนี้ข้าวหนึ่งถ้วยใหญ่ได้เข้าไปอยู่ในกระทะผัดเรียบร้อยแล้วเขามัวแต่หันมาถามหญิงสาวทั้งที่มือก็ยังทำงานอยู่ข้าวในกระทะจึงหกอกมาเลอะเทอะ“อิงทำเองดีกว่าค่ะ”น้ำอิงคิดว่าหากมื้อนี้เธอไม่เองคงจะไม่ได้กินเป็นแน่“ก..ก็ได้”อัศวินหน้าเสียเล็กน้อยแต่ทุกอย่างก็ต้องเรียนรู้ครั้งนี้เขามองดูเธอทำก่อนก็ได้หากครั้งต้อไปเขาจะต้องทำเป็นให้ได้จะได้ดูแลเธออย่างเต็มที่หญิงสาวใช้เวลาไม่นานข้าวผัดไข่ทั้งสองจานก็มาวางอยู่ที่โต๊ะทานอาหารต่อหน้าของเธอและชายหนุ่ม“ชอบกินแบบนี้เหรอ”อัศวินมองหญิงสาวที่กำลังตักข้าวเข้าปากท่าทางที่ดูจะมีความสุขกับการกินข้าวผัดของเธอทำให้เขาต้องตั้งคำถามขึ้นทั้งมองหญิงสาวฝั่งตรงข้ามอย่างสงสัยเพราะจากที่เขาได้ลองชิมข้าวในจานแล้วรู้สึกว่ามันจะจืดชืดไม่ค่อยจะมีรสชาติอะไรเท่าไรนัก“ค่ะ..ก็กินได้แต่แบบนี้”น้ำอิงเลิกสายตามองชายหนุ่มชั่วครู่แล้วจึงกลับไปสนใจข้าวในจานของเธอต่อ
น้ำอิงอ่านหนังสืออยู่ในห้องของเธอละสายตามองหนังสือแล้วมองชายหนุ่มที่เลื่อนประตูเข้ามาด้วยใบหน้านิ่งเฉย“อ่านอะไรอยู่เหรอ”น้ำอิงไม่ได้ตอบอีกฝ่ายเธอรู้ว่าเขาเห็นเธออ่านหนังสือเกี่ยวกับคุณแม่มือใหม่อยู่ก็ยังจะถามอยากจะรู้อีกว่าหากเธอยังทำนิ่งกับเขาอยู่เขาจะทำอย่างไรจะเค้นเธอให้เธอตอบเพื่อเอาชนะตามนิสัยเดิมของเขาหรือไม่“ฉ..ฉันไม่กวนก็ได้”อัศวินนั่งฟุบลงกับพื้นข้างๆหญิงสาวหากเธอไม่อยากคุยกับเขาก็ไม่เป็นไรเขาจะขอนั่งเงียบๆอยู่ใกล้ๆกับเธอก็พอน้ำอิงนั่งอ่านหนังสือได้พักใหญ่ตอนนี้ตาของเธอก็เริ่มปรือด้วยความง่วงแต่ก็ยังฝืนอ่านเพราะอยากที่จะอ่านต่อให้มันจบ“ถ้าง่วงก็ควรจะนอนนะอย่าฝืน”อัศวินไม่อยากให้หญิงสาวได้ฝืนอ่านต่อไปหากเธอง่วงเขาก็อยากจะให้เธอได้นอนพัก“แต่อิงยังอยากอ่านนี่คะ”“นอนเถอะเดี๋ยวฉันอ่านให้ฟังก็ได้”อัศวินโน้มตัวหญิงสาวลงมานอนที่ตักของเขาพร้อมหยิบหนังสือจากมือของเธอมาอ่านต่อให้เธอได้ฟังเป็นการหาความรู้ไปในตัวของเขาด้วย“..เมื่อไรจะยอมใจอ่อนกับฉันนะ..”ชายหนุ่มอ่านหนังสือได้ไม่กี่หน้าหญิงสาวก็หลับตานอนหายใจสม่ำเสมออัศวินจึงวางหนังสือลงอมยิ้มพร้อมก้มหน้าไปกดหอมแก้มนวลของหญิงสา