“ไม่ต้องสงสาร”
อัญญาพูดกับเพื่อนเธอด้วยแววตามุ่งมั่น
“อันนี้ความแค้นส่วนตัวหรือเปล่าเนี่ย”
ผักหวานแอบอมยิ้มมองหน้าเพื่อนเธออย่างมีเลศนัย
“อืมก็นิดหน่อยหมั่นไส้มานาน”
อัญญายอมรับว่าเรื่องที่พี่ชายเธอหาน้ำอิงไม่เจอเสียทีเธอก็แอบสะใจอยู่เหมือนกันจะได้รู้เสียบ้างว่าเวลาอยากจะติดต่อใครแล้วหาตัวยากเย็นมันรู้สึกยังไง
“แกนี่จริงๆเลยนะ...จะให้พี่แกอยู่ในสภาพที่เน่าไปกว่านี้อีกสักเท่าไรถึงจะยอมบอกว่าอิงอยู่ที่ไหน”
“อืม...ขอดูอีกสักพักแล้วกัน”
อัญญาก็ไม่รู้ว่าเธอจะปล่อยให้พี่เธอเป็นแบบนี้ไปจนถึงเมื่อไรแต่ถ้าหากพี่ชายเธอรู้ใจตัวเองเร็วเธอก็อาจจะบอกกับเขาเร็วก็ได้
“แล้วอิงเป็นไงบ้างช่วงนี้ฉันไม่ค่อยได้ติดต่ออิงเลยมัวแต่ช่วยงานพี่กร”
“อารมณ์ดีขึ้นเยอะนะแต่ก็แพ้ท้องหนักอะ”
“อยู่ที่นั่นน่าจะเหงาเนอะ”
“เห็นว่าว่างๆก็อ่านหนังสือฟังเพลงแก้เบื่อมั้ง”
“นี่ไว้เราหาเวลาว่างไปหาอิงกันไหม”
ผักหวานรู้ว่าคนท้องมักจะอารมณ์แปรปรวนไปอยู่ต่างบ้านต่างเมืองอาจจะเหงาหดหู่ได้เธอเลยอยากหาเวลาว่างไปหา
“ก็ดีเหมือนกันนะ”
อัญญาเห็นด้วยกับเพื่อนเธอแต่ครั้งนี้คงยังรีบไปไมได้เพราะหากไปบ่อยเกินเดี๋ยวพี่ชายของเธอจะสงสัยเอาได้
บ้านอัศวิน
“คุณอาชน์ครับขวดเครื่องดื่มนี่มันจะเต็มห้องไปหมดแล้วนะครับ”
ลอบซ์เดินเก็บขวดเครื่องดื่มใส่ถังขยะไปปากก็พรางบ่นเจ้านายของเขาไปที่อาการหนักขึ้นทุกวัน
“นายก็รีบหาอิงให้เจอไวๆสิฉันจะได้เลิกดื่ม”
“เฮ้ออ....ไปเที่ยวญี่ปุ่นดูไหมครับเผื่อจะได้สบายใจขึ้น”
“ทำไมต้องเป็นญี่ปุ่น”
อัศวินขมวดคิ้วสงสัยว่าทำไมลอบซ์ต้องเจาะจงพูดชื่อประเทศที่จะให้เขาไปเที่ยวแบบเจาะจงขนาดนั้นด้วยแถมเรื่องเที่ยวที่ออกมาจากปากของลอบซ์มันก็ยิ่งดูแปลกๆ
“เอ่อ..ผมเห็นว่าตอนนี้ที่นั่นอากาศกำลังดีแค่นั้นน่ะครับ”
ลอบซ์แอบคิดในใจว่าเจ้านายของเขาคงจะเข้าใจอะไรได้ง่ายๆเพราะเขาไม่เคยพูดเรื่องเที่ยวให้เจ้านายของเขาฟังเลยตั้งแต่อยู่ด้วยกันมา
สามวันต่อมา
ญี่ปุ่น
“หื้มมม...หอมจัง..”
น้ำอิงวางจานข้าวผัดไข่ที่เธอพึ่งจะทำเสร็จลงบนโต๊ะอาหารพร้อมนั่งลงกับพื้นสูดดมอาหารที่เธอพึ่งทำเสร็จใหม่ๆสองสามวันมานี้ไม่รู้นึกอย่างไรเธอจึงขอให้หมอชินซื้อวัตถุดิบมาไว้ให้เพื่อที่จะทำข้าวผัดไข่กินเองในทุกๆวันและแทบจะทุกมื้ออีกด้วย
“อื้มมม...ท่าทางเราจะชอบเมนูนี้ใช่ไหมปล่อยให้แม่กินได้อยู่อย่างเดียวเนี่ย...เดี๋ยวกินเสร็จแล้วอาหมอจะมารับเราไปเที่ยวกันนะคะ”
หญิงสาวตักข้าวคำโตเคี้ยวตุ้ยๆอย่างเอร็ดอร่อยพร้อมทั้งใช้มือเรียวลูบท่องอมยิ้มเบาๆดูท่าลูกในท้องอขงเธอจะชอบข้าวผัดไข่จืดๆนี้เสียแล้ว
สวนสาธารณะ
“หมอชินมาที่นี่บ่อยเหรอคะ”
น้ำอิงนั่งที่เก้าอี้ไม้กับหมอชินได้พักใหญ่แล้วทั้งคู่คุยกันในเรื่องสัพเพเหระทั่วไปน้ำอิงไม่คิดว่าหมอหนุ่มโปรไฟล์ดีอย่างเขาจะเลือกมาทำงานแถวชนบทแถมยังเลือกที่จะใช้ชีวิตสมถะอีกต่างหาก
“ครับเวลาว่างๆผมก็จะมานั่งที่นี่บ่อยๆผ่อนคลายดีครับ”
“จริงด้วยค่ะวิวที่นี่น่ามองมากๆแทบอยากจะนอนอยู่ที่นี่เลยล่ะค่ะ”
“ขนาดนั้นเลยเหรอครับ.”
“ค่ะ..555”
น้ำอิงดูร่าเริงกว่าตอนที่มาที่นี่ครั้งแรกเยอะด้วยสภาพแวดล้อมที่เป็นอยู่และเธอได้ใช้ชีวิตอยู่คนเดียวโดยที่ไม่มีเรื่องกวนใจแถมหมอชินเองก็เป็นเหมือนพี่ชายคนนึงที่คุยกันถูกคออีกด้วย
บ่ายของวัน
หมอชินกับน้ำอิงนั่งเล่นที่สวนสาธารณะพักใหญ่จึงไปหาร้านทานมื้อกลางวันกันใกล้ๆเสร็จแล้วหมอชินจึงกลับมาส่งน้ำอิงที่บ้าน
“ขอบคุณนะคะหมอชิน”
น้ำอิงก้มหัวให้ชายหนุ่มเล็กน้อยเป็นการขอบคุณเขาที่พาเธอออกไปเปิดหูเปิดตา
“ผมกลับก่อนนะครับ”
“ค่ะ”
หญิงสาวยิ้มกว้างให้ชายหนุ่มมองดูเขาขับรถกลับไปจนสุดครู่หนึ่งจึงหันหลังกลับเข้าบ้าน น้ำอิงชะงักการเดินเล็กน้อยเมื่อรู้สึกว่าเมื่อครู่ในขณะที่เธอกำลังจะหันหลังกลับเข้าบ้านมีใครบางคนยืนอยู่เธอจึงหันกลับไปมองให้แน่ใจ
“ตาฝาดงั้นเหรอ”
เมื่อเห็นว่าไม่มีอะไรเธอจึงบุ้ยปากเล็กน้อยเพราะคิดว่าตัวเองตาฝาดแล้วจึงเข้าบ้านไป
บ้านใหญ่
“พี่อาชน์ไปญี่ปุ่นทำไมอายไม่เห็นรู้เรื่องเลยคะ”
อัญญากลับมาจากทำงานก็เดินตรงเข้ามาที่ห้องของพ่อกับแม่ของเธอด้วยสีหน้าที่ไม่สบอารมณ์เพราะรู้จากบอดี้การ์ดที่บ้านว่าพี่ชายเธอนั้นไปที่ญี่ปุ่นตั้งแต่เมื่อวาน
“เราจะไปขวางพี่เค้าหรือไง”
กิ่งเกสรมองหน้าลูกสาวของเธอทั้งอมยิ้มเล็กน้อย
“ใช่ค่ะ....คนที่ไม่รู้ใจตัวเองไปก็มีแต่จะทำให้เพื่อนอายเสียใจเปล่าๆ”
“ใครว่าพี่เราไม่รู้ใจตัวเอง”
เอื้อการหันบอกลูกสาวของเขาอย่างมีเลศนัย
“คะ??”
อัญญาไม่เข้าใจคำที่พ่อของเธอพูด
สองวันก่อนหน้า
เที่ยงคืน
ก๊อกๆๆๆ
“พ่อครับแม่ครับ”
แกร๊กกก
“มาเคาะห้องแม่ทำไมดึกๆดื่นๆมีอะไร”
กิ่งเกสรตื่นขึ้นมาเปิดประตูให้ลุกชายของเธอที่มาหาเสียดึกดื่นเที่ยงคืน
“อิงอยู่ที่ไหนของญี่ปุ่นครับ”
หลังจากที่คิดไตร่ตรองกับคำที่ลอบซ์พูดกับเขาก็เข้าใจไม่ยากว่าหญิงสาวอยู่ที่ไหนและคนที่จะทำให้น้ำอิงไปอยู่ที่นั่นได้ก็ไม่ใช่ใครถ้าไม่ใช่พ่อกับแม่ของเขา
“ไปเอาเรื่องนี้มาจากไหน”
“ผมรู้ก็แล้วกันครับบอกที่อยู่ของเธอให้ผม”
“แกสั่งพ่อเหรอ”
เอื้อการนั่งมองลูกชายของเขาอยู่ปลายเตียงด้วยสีหน้านิ่งเฉยแต่แอบเสียงแข็งใส่ลูกชายของเขาเล็กน้อย
“ขอร้องนะครับคุณพ่อคุณแม่...ผมอยากเจอเธอได้โปรดให้ผมกราบนะครับผมเสียเธอกับลูกไม่ได้จริงๆ”
อัศวินนั่งทรุดลงกับพื้นอย่างหมดอะไรตายอยากเขาพูดกับพ่อของเขาเสียงอ่อนอย่างคนไม่มีที่พึ่งหวังว่าพ่อกับแม่ของเขาจะเมตตา
“ทำไม...”
อัศวินยังคงนิ่งงันไม่พูดจาอะไรได้แต่ก้มหน้าก้มตา
“ไม่มีคำตอบงั้นเหรอ..ถ้าปากหนักนักก็ไปหาเอาเอง”
เอื้อการรู้ดีว่าลูกชายของเขาเป็นคนฟรอมจัดขนาดไหนแต่เรื่องแบบนี้เขาก็ต้องอ่อนให้เป็นเหมือนกัน
“ผมรักเธอครับผมเสียเธอไปไม่ได้ขอให้ผมได้เจอเธอนะครับผมอยากขอโทษเธอ”
และแล้วคำพูดจากหัวใจของเขาก็ได้ออกมาหลายวันมานี้เขาทบทวนกับตัวเองครั้งแล้วครั้งเล่ากับความรู้สึกของเขาที่มีต่อน้ำอิงและมันก็คือคำทั้งหมดที่เขาพูดออกมาเธอคือของรักของเขาที่เขาจะไม่ยอมเสียเธอไปได้อีกอย่างที่เขาอยากพูดกับเธอตอนนี้ก็คือคำว่าขอโทษขอโทษที่เขาทำร้ายจิตใจของเธอ
“ก็แค่เนี้ยยยยย...ไม่รู้ว่าปากหนักเหมือนใคร”
กิ่งเกสรยิ่มอ่อนพร้อมหันไปมองหน้าคนเป็นสามีที่ตอนนี้ก็นั่งยิ้มอ่อนอยู่เหมือนกัน
ญี่ปุ่น“หืม....หมอชินเหรอคะ??”น้ำอิงที่กำลังนั่งพิงหมอนอ่านหนังสืออยู่ในห้องเมื่อได้ยินว่าข้างนอกมีเสียงคนเดินเข้ามาเธอจึงเลื่อนประตูออกมาดู“..ฉันเอง..”“คุณอาชน์..”น้ำอิงผงะถอยกรูดสองสามก้าวตกใจกับคนตรงหน้าที่เขาตามหาเธอเจอได้อย่างไร อัศวินโผเข้ากอดหญิงสาวด้วยความคิดถึง“ปล่อยอิงค่ะ”น้ำอิงพยายามดันตัวชายหนุ่มให้ออกห่างจากตัวเธอแต่ดูท่าว่าจะยากเสียเหลือเกิน“ไม่..”อัศวินกระชับกอดหญิงสาวแน่นขึ้นกว่าเดิม“ปล่อย...”“ฉันขอโทษ..”ชายหนุ่มพ่นคำพูดด้วยเสียงแผ่วเบาข้างหูของหญิงสาวที่เขากอดอยู่ น้ำอิงชะงักงันไม่คิดว่าจะได้ยินคำพูดนี้จากปากของเขาคนที่หยิ่งทรนงในศักดิ์ศรีตัวเองคนที่เอาแต่ใจคนเดิมไม่เคยมีคำพูดนี้ให้เธอ“ขอโทษที่ฉันชอบบังคับจิตใจเธอเพราะฉันมันเห็นแกตัวอยากเก็บเธอเอาไว้ใกล้ๆแต่ก็ไม่มีวิธีที่ดีกว่าการบังคับ”“มาที่นี่เพียงเพื่อจะขอโทษใช่ไหมคะ..”น้ำอิงอยากจะถามเขาให้แน่ใจว่าเขามาหาเธอเพียงเพราะเรื่องแค่นี้ใช่หรือไม่หากเป็นอย่างที่อัญญาบอกกับเธอจริงมันจะต้องมีคำพูดที่มากกว่านี้แน่นอนซึ่งเธอเองก็อยากจะได้ยินคำนั้นจากปากของเขาอยู่ลึกๆเหมือนกัน“คือ..”“อิงให้อภัยคุณค่ะแล้วคุณก็ก
“คุณอาชน์ทำเป็นเหรอคะ”“เธอบอกฉันก็ได้ว่าต้องใส่อะไรบ้าง”น้ำอิงหยักหน้าตกลงเธออยากจะเห็นอยู่เหมือนกันว่าอัศวินที่ทำเป็นแต่งานเวลาเข้าครัวทำอาหารจะออกมาเป็นแบบไหน“คนแบบนี้ใช่ไหม...เอ่อ”อัศวินดูเก้ๆกังๆในขณะที่ตอนนี้ข้าวหนึ่งถ้วยใหญ่ได้เข้าไปอยู่ในกระทะผัดเรียบร้อยแล้วเขามัวแต่หันมาถามหญิงสาวทั้งที่มือก็ยังทำงานอยู่ข้าวในกระทะจึงหกอกมาเลอะเทอะ“อิงทำเองดีกว่าค่ะ”น้ำอิงคิดว่าหากมื้อนี้เธอไม่เองคงจะไม่ได้กินเป็นแน่“ก..ก็ได้”อัศวินหน้าเสียเล็กน้อยแต่ทุกอย่างก็ต้องเรียนรู้ครั้งนี้เขามองดูเธอทำก่อนก็ได้หากครั้งต้อไปเขาจะต้องทำเป็นให้ได้จะได้ดูแลเธออย่างเต็มที่หญิงสาวใช้เวลาไม่นานข้าวผัดไข่ทั้งสองจานก็มาวางอยู่ที่โต๊ะทานอาหารต่อหน้าของเธอและชายหนุ่ม“ชอบกินแบบนี้เหรอ”อัศวินมองหญิงสาวที่กำลังตักข้าวเข้าปากท่าทางที่ดูจะมีความสุขกับการกินข้าวผัดของเธอทำให้เขาต้องตั้งคำถามขึ้นทั้งมองหญิงสาวฝั่งตรงข้ามอย่างสงสัยเพราะจากที่เขาได้ลองชิมข้าวในจานแล้วรู้สึกว่ามันจะจืดชืดไม่ค่อยจะมีรสชาติอะไรเท่าไรนัก“ค่ะ..ก็กินได้แต่แบบนี้”น้ำอิงเลิกสายตามองชายหนุ่มชั่วครู่แล้วจึงกลับไปสนใจข้าวในจานของเธอต่อ
น้ำอิงอ่านหนังสืออยู่ในห้องของเธอละสายตามองหนังสือแล้วมองชายหนุ่มที่เลื่อนประตูเข้ามาด้วยใบหน้านิ่งเฉย“อ่านอะไรอยู่เหรอ”น้ำอิงไม่ได้ตอบอีกฝ่ายเธอรู้ว่าเขาเห็นเธออ่านหนังสือเกี่ยวกับคุณแม่มือใหม่อยู่ก็ยังจะถามอยากจะรู้อีกว่าหากเธอยังทำนิ่งกับเขาอยู่เขาจะทำอย่างไรจะเค้นเธอให้เธอตอบเพื่อเอาชนะตามนิสัยเดิมของเขาหรือไม่“ฉ..ฉันไม่กวนก็ได้”อัศวินนั่งฟุบลงกับพื้นข้างๆหญิงสาวหากเธอไม่อยากคุยกับเขาก็ไม่เป็นไรเขาจะขอนั่งเงียบๆอยู่ใกล้ๆกับเธอก็พอน้ำอิงนั่งอ่านหนังสือได้พักใหญ่ตอนนี้ตาของเธอก็เริ่มปรือด้วยความง่วงแต่ก็ยังฝืนอ่านเพราะอยากที่จะอ่านต่อให้มันจบ“ถ้าง่วงก็ควรจะนอนนะอย่าฝืน”อัศวินไม่อยากให้หญิงสาวได้ฝืนอ่านต่อไปหากเธอง่วงเขาก็อยากจะให้เธอได้นอนพัก“แต่อิงยังอยากอ่านนี่คะ”“นอนเถอะเดี๋ยวฉันอ่านให้ฟังก็ได้”อัศวินโน้มตัวหญิงสาวลงมานอนที่ตักของเขาพร้อมหยิบหนังสือจากมือของเธอมาอ่านต่อให้เธอได้ฟังเป็นการหาความรู้ไปในตัวของเขาด้วย“..เมื่อไรจะยอมใจอ่อนกับฉันนะ..”ชายหนุ่มอ่านหนังสือได้ไม่กี่หน้าหญิงสาวก็หลับตานอนหายใจสม่ำเสมออัศวินจึงวางหนังสือลงอมยิ้มพร้อมก้มหน้าไปกดหอมแก้มนวลของหญิงสา
20.30 น.“ฉันเป็นห่วงเธอกับลูกมากรู้ไหมคราวหน้าคราวหลังระวังกว่านี้หน่อย”อัศวินนั่งกอดหญิงสาวจากทางด้านหลังในขณะที่เขากำลังนั่งอ่านหนังสือให้เธอฟังอยู่เขาวางหนังสือลงหลังจากที่อ่านไปได้พักใหญ่พลันนึกถึงเหตุการณ์เมื่อกลางวันแล้วก็อดจะย้ำให้หญิงสาวเรื่องเมื่อกลางวันไม่ได้เพราะเป็นห่วงเธออย่างมากและรู้สึกไม่ค่อยดีเท่าไรเมื่อเห็นเธอจะต้องเจ็บตัว“รู้แล้วค่ะ... คุณอาชน์จะห่วงอิงกับลูกแบบนี้ตลอดไปหรือเปล่าคะ”น้ำอิงพยักหน้ารับเธอหันหลังไปมองหน้าของเขาตาใสอยากได้คำตอบจากปากของเขาว่าถ้าหากเธอไมท้องแล้วเขาจะห่วงเธอแบบนี้ตลอดไปหรือไม่“แน่สิ... เธอคือส่วนหนึ่งในชีวิตของฉันไปแล้วยังไงฉันก็ต้องห่วงเธอกับลูกอยู่แล้ว”อัศวินมองหน้าหญิงสาวจริงจังคำตอบของเขาออกมาจากหัวใจ“แล้วคุณอาชน์จะกลับมาเป็นคนที่เอาแต่ใจกับอิงเหมือนเดิมอีกหรือเปล่า”“ตอนนี้ฉันก็ว่าฉันยอมเธอเยอะแล้วนะ”“จะยอมและดูแลแบบนี้ตลอดไปใช่ไหมคะ??”“ต..ลอด..ไป...??..หมายความว่าเธอจะให้ฉันดูแลเธอตลอดไปใช่ไหม”อัศวินขมวดคิ้วหลี่ตาเล็กน้อยในเมื่อเฮพูดคำว่าตลอดไปแสดงว่าเธออยากให้เขามาอยู่ในชีวิตของเธอด้วยเป็นแน่ น้ำอิงฉีกยิ้มกว้างให้ชายหนุ่มท
ลำปางบ้านเรือนไทยลอบซ์นอนอยู่ที่เปลใต้ถุนบ้านเรือนไทยของยายของเขาที่นี่ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงไปยังคงความร่มรื่นไว้อย่างไม่ต่างจากเดิมหลังจากที่ยายของเขาเสียไปเมื่อกลับมาถึงบ้านลอบซ์ก็จัดการทำความสะอาดบ้านครั้งใหญ่เพราะที่นี่ไม่มีใครดูแลด้านในมานานบ้านเรือนไทยของยายของเขาอายุเกือบจะห้าสิบปีแต่ทุกอย่างยังคงสภาพดีหลังบ้านเป็นที่ดินหลายร้อยไร่ห่างออกไปไม่ไกลตอนนี้เป็นทุ่งนาสลับกับบ่อน้ำและพื้นที่เลี้ยงสัตว์ทำไร่สวนผสมของยายของเขาที่ตกทอดมาเป็นมรดกของเขาที่เป็นหลานชายเพียงคนเดียวโดยมีคนงานดูแลอยู่ตลอดและที่ดินที่ให้ชาวบ้านเช่าทำกินที่อื่นที่ไม่ได้ติดกับบ้านอีกหลายสิบไร่ตอนนี้กำลังมีปัญหาเพราะมีคนมีอิทธิพลรุกล้ำเข้ามาทำไร่ในที่ดินของเขาอยู่หลายที่หากไม่มีชาวบ้านติดต่อเขาไปก็คงจะไม่รู้ตอนนี้ที่เขากลับมาก็คิดว่าจะมาสะสางเรื่องนี้ให้มันจบๆไปถึงจะมีอิทธิพลแค่ไหนเขาก็ไม่เกรงกลัวบ้านเสี่ยเฮ็ง“ผมว่าคงจะเข้าใจผิดกันล่ะมั้งครับ”“หากคิดว่าเข้าใจผิดนี่ก็คือภาพถ่ายจากดาวเทียมที่ผมขยายมาแล้วเสี่ยดูให้เต็มตานะครับว่ามันเกินมาเท่าไรหากยังไม่จัดการให้รวดเร็วผมคงต้องแจ้งความ”ลอบซ์เข้าไปที่บ้านของเสี่ย
โรงพัก“ผมว่าคุณอาจจะเข้าใจผิดมากกว่าไหนล่ะหลักฐานถ้าไม่มีคุณกลับไปก่อนเถอะ”สารวัตรวัยกลางคนที่รับเรื่องของชายหนุ่มยังไม่ทันได้ฟังที่เล่าจบก็หาว่าเขาเข้าใจผิดเสียแล้วพร้อมเปรยตามองลอบซ์อย่างไม่สนใจตำรวจที่นั่งอยู่ด้วยกันก็เช่นกันเหมือนเห็นการแจ้งความของเขาเป็นเรื่องไร้สาระ“บริการประชาชนแบบนี้เหรอคะชื่อนามสกุลอะไรเหตุการณ์เป็นยังไงยังไม่ได้ถามเลยไล่กลับซะแล้ว”อัญญาไม่พอใจกับตำรวจในโรงพักที่นี่เลยโวยวายยกใหญ่“คุณอายกลับกันก่อนเถอะครับ”ลอบซ์พอจะเดาออกกว่าคนที่นี่เป็นอย่างไรเขาจึงต้องถอยออกมาก่อนและดึงอัญญาออกมาด้วย“....หึ้ย...”อัญญาไม่พอใจอย่างมากที่ลอบซ์เหมือนจะยอมคนพวกนั้นง่ายๆ ลอบซ์ไม่ได้พูดอะไรเพียงแต่จูงมือหญิงสาวมาที่รถแล้วเปิดประตูให้เธอเข้าไปนั่ง“ทำไมยอมออกมาง่ายๆคะ”อัญญาเห็นลอบซ์ขึ้นมานั่งบนรถเรียบร้อยแล้วจึงถามอีกฝ่ายด้วยความสงสัยเพราะปกติแล้วลอบซ์เห็นความถูกต้องเป็นที่หนึ่งแต่ครั้งนี้เขาทำไมยอมง่ายๆ“ดูก็รู้ว่าเค้าเป็นคนของใคร”ลอบซ์คิดว่าพูดแค่นี้หญิงสาวก็น่าจะเข้าใจได้ในตอนนี้เข้าเป็นฝ่ายเสียเปรียบจะต้องจัดการอะไรให้รอบคอบเสียก่อนและเขาจะไม่ปล่อยให้ความอยุติธรรมนี้ม
ปังงง“คุณอาย”ลอบซ์ถีบประตูจนพังภาพตรงหน้าทำให้เขาอยากจะฆ่าไอ้โจรใจโฉดคนนี้เสียตอนนี้เลยจริงๆ“ฮือๆๆๆ”อัญญาน้ำตาไหลพรากเมื่อได้ยินเสียงของลอบซ์เธอคิดว่าเธอจะไม่รอดน้ำมือโจรพวกนี้เสียแล้ว“ไอ้เลว..แก”พลั้กก“โอ้ยย...”ตุบ..ตับ..พลั้กๆๆ..ตุ้บ..ลอบซ์เข้าไปต่อยโจรชุดดำที่กำลังทำมิดีมิร้ายหญิงสาวจนมันล้มลงแล้วจึงกระทืบมันอย่างหัวเสียจนสลบคากองเลือดไป“ไอ้ชั่ว...คุณอาย..”ชายหนุ่มสบถด่าออกมาอย่างเหลืออดและรีบเข้าไปดึงผ้าห่มมาคลุมร่างบางเอาไว้พร้อมกอดคนที่ตัวสั่นเทาอย่างรู้สึกผิด“ฮึก..ฮือๆๆๆ..”“.ผมขอโทษที่ปล่อยคุณไว้คนเดียว”ลอบซ์อุ้มหญิงสาวไปนอนที่ห้องของเขาพร้อมโทรแจ้งความให้ตำรวจมารับตัวคนพวกนี้ไปดำเนินคดีเมื่อเขาจัดการเรียบร้อยแล้วจึงเข้ามาดูแลหญิงสาวในห้องตามเดิม“ฮึกๆๆ...ฮือๆๆๆ”เวลาผ่านไปร่วมชั่วโมงหญิงสาวก็ยังร้องไม่หยุด“นอนนะครับผมจะอยู่ข้างๆคุณเอง”ลอบซ์นั่งอยู่ข้างเตียงจับมือหญิงสาวเอาไว้แน่นให้เอได้อุ่นใจว่าเขาจะดูแลเธออยู่ใกล้ไม่ไปไหนทั้งยังรอให้เธอหลับสนิทแล้วเขาจึงผละตัวไปนอนอยู่ที่โซฟาข้างๆเตียงที่หญิงสาวนอนอยู่วันต่อมาบ้านสุทธนสินไท“ท่านคะมีสายจากคุณลอบซ์ค่ะ”“ลอบซ
“แบบนี้นี่เอง...”น้ำอิงพยักหน้าเข้าใจ“มีอะไรจะบอก”ชายหนุ่มเข้ามากอดคนเป็นภรรยากระซิบข้างๆหูของเธอเบาๆ“อะไรคะ”“อีกสองวันอายกับลอบซ์จะมาที่นี่”“จริงเหรอคะ...”น้ำอิงเบิกตาโพรงดีใจเป็นพิเศษที่จะได้เจอเพื่อนเธอเสียทีเมื่อไม่ได้เจอกันร่วมสามเดือนแล้ว“ดูท่าฉันจะหัวเน่าซะแล้วล่ะมั้งดูจะคิดถึงเพื่อนขนาดนี้”อัศวินทำสีหน้าน้อยใจ“ก็ไม่ได้เจอกันนานแล้วนี่คะก็ต้องคิดถึงเป็นธรรมดา”“เธอไม่คิดถึงฉันบ้างเหรอ”“ก็คุณอาชน์อยู่กับอิงตลอดเวลานี่คะ”“ตอนฉันออกไปข้างนอกซื้อพวกของสดมาไว้ที่บ้านไง”“ก็แค่ไม่กี่ชั่วโมงเองค่ะ”น้ำอิงขมวดคิ้วเล็กน้อย“ไม่กี่ชั่วโมงเธอก็ต้องคิดถึงเพราะฉันเป็นสามีเธอ”“คุณอาชน์...”“หืม...”“เป็นขนาดนี้แล้วเหรอคะเนี่ย...”น้ำอิงส่ายหัวทั้งยังอมยิ้มให้กับความขี้อ้อนที่ไม่รู้ว่าช่วงน้าสรรหาคำอ้อนมาจากไหนนักหนา“ก็ต้องขนาดนี้แหละ”อัศวินโน้มตัวภรรยาของเขานอนลง“..อื้อ...ท..ทำอะไรคะ??”น้ำอิงถดตัวหนีเล็กน้อย“ฉันว่าฉันไม่ได้ลึกซึ้งกับเธอมานานแล้วนะ..”อัศวินกอดหญิงสาวไว้หลวมๆเพื่อไม่ให้ทับตัวของเธอ“ต...แต่ว่า..เจ้าตัวเล็กอยู่ในท้องนะคะ”น้ำอิงเข้าใจแล้วว่าเขาจะทำอะไรแต่เธอไ