ญี่ปุ่น
“หืม....หมอชินเหรอคะ??”
น้ำอิงที่กำลังนั่งพิงหมอนอ่านหนังสืออยู่ในห้องเมื่อได้ยินว่าข้างนอกมีเสียงคนเดินเข้ามาเธอจึงเลื่อนประตูออกมาดู
“..ฉันเอง..”
“คุณอาชน์..”
น้ำอิงผงะถอยกรูดสองสามก้าวตกใจกับคนตรงหน้าที่เขาตามหาเธอเจอได้อย่างไร อัศวินโผเข้ากอดหญิงสาวด้วยความคิดถึง
“ปล่อยอิงค่ะ”
น้ำอิงพยายามดันตัวชายหนุ่มให้ออกห่างจากตัวเธอแต่ดูท่าว่าจะยากเสียเหลือเกิน
“ไม่..”
อัศวินกระชับกอดหญิงสาวแน่นขึ้นกว่าเดิม
“ปล่อย...”
“ฉันขอโทษ..”
ชายหนุ่มพ่นคำพูดด้วยเสียงแผ่วเบาข้างหูของหญิงสาวที่เขากอดอยู่ น้ำอิงชะงักงันไม่คิดว่าจะได้ยินคำพูดนี้จากปากของเขาคนที่หยิ่งทรนงในศักดิ์ศรีตัวเองคนที่เอาแต่ใจคนเดิมไม่เคยมีคำพูดนี้ให้เธอ
“ขอโทษที่ฉันชอบบังคับจิตใจเธอเพราะฉันมันเห็นแกตัวอยากเก็บเธอเอาไว้ใกล้ๆแต่ก็ไม่มีวิธีที่ดีกว่าการบังคับ”
“มาที่นี่เพียงเพื่อจะขอโทษใช่ไหมคะ..”
น้ำอิงอยากจะถามเขาให้แน่ใจว่าเขามาหาเธอเพียงเพราะเรื่องแค่นี้ใช่หรือไม่หากเป็นอย่างที่อัญญาบอกกับเธอจริงมันจะต้องมีคำพูดที่มากกว่านี้แน่นอนซึ่งเธอเองก็อยากจะได้ยินคำนั้นจากปากของเขาอยู่ลึกๆเหมือนกัน
“คือ..”
“อิงให้อภัยคุณค่ะแล้วคุณก็กลับไปได้แล้วเรื่องลูกฉันขอเป็นคนดูแลเองแล้วคุณก็กลับไปใช้ชีวิตแบบเดิมของคุณเถอะจะได้ไม่มีอะไรมาผูกมัด”
ดูท่าแล้วชายหนุ่มคงจะมีเรื่องมาพูดกับเธอแค่เพียงเท่านี้จริงๆท่าทีอึกอักของเขาทำให้เธอค่อนข้างผิดหวังเล็กน้อยแต่นั่นก็ไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไรมากเพราะเธอทำใจไว้แล้วว่ายังไงเธอก็คงจะต้องเป็นคุณแม่เลี้ยงเดี่ยวแล้วปล่อยให้ชายหนุ่มกลับไปใช้ชีวิตแบบเดิมที่เขาเคยอยู่มาก่อนที่จะเจอเธออยู่แล้วทั้งยังรีบปิดประตูหนีเขาก่อนที่เธอจะมีน้ำตาไหลมานองหน้าเพราะความรู้สึกหน่วงในใจ
“ฉันกลับไปใช้ชีวิตแบบเดิมไม่ได้ฉันต้องการเธอกับลูกนะอิง”
อัศวินเกาะประตูพูดกับหญิงสาวเขารู้ว่าเธอได้ยินที่เขาพูดชัดทุกคำ
“แน่ใจเหรอคะว่าต้องการเมื่อวันไหนคุณเบื่อฉันแล้วคุณก็ทิ้งฉันอยู่ดีตอนนี้คุณยังเห็นฉันเป็นแค่ของเล่นชิ้นใหม่เท่านั้นเพราะฉะนั้นเราเลิกยุ่งกันซะตอนนี้จะดีกว่าค่ะ”
น้ำอิงนั่งเอาหลังพิงประตูอย่างเหนื่อยใจเธอตอบเขากลับไปทั้งที่ในใจเจ็บกับคำพูดตัวเองเหมือนกัน
“ไม่อิง...ฉันรักเธอฉันปล่อยเธอไปไม่ได้ได้ยินไหม..เปิดประตูให้ฉันนะอิง”
อัศวินพูดเสียงดังฟังชัดเขาขอร้องให้เธอออกมาคุยกับเขาอันที่จริงประตูแค่นี้เขาพังไปหรือดึงเปิดได้อย่างง่ายดายแต่ตอนนี้เขาจะไม่ทำตัวเป็นคนเอาแต่ใจกับเธออีกแล้ว
“ไม่ค่ะ..แล้วก็ห้ามมาบังคับอะไรอิงด้วย”
น้ำอิงนิ่งอึ้งไปชั่วขณะรอยยิ้มหวานฉีกออกมาอย่างเขินอายคำนี้สิที่หัวใจของเธออยากจะได้ยินแต่เธอจะไม่ยอมเป็นคนที่เชื่อฟังอะไรเขาง่ายๆอีกต่อไปแล้วในเมื่อเขาอ่อนกับเธอเธอก็จะต้องทำอะไรสักอย่างเพื่อพิสูจน์อีกสักนิดว่าเขาจะทนอ่อนให้เธอได้นานแค่ไหนแล้วเธอถึงจะเชื่อว่าเขาพร้อมที่จะเป็นอัศวินคนใหม่เป็นพ่อที่ดีของลูกเธอได้
“ฉันขออยู่ใกล้ๆเธอดูแลเธอได้ไหมแต่จะไม่กวนใจอะไรทั้งนั้น”
อัศวินขอแค่น้ำอิงไม่ไล่เขาก็พอเขาจะตามง้อเธอจนกว่าเธอจะยอมคุยดีๆกับเขา
กลางดึก
“โอยย...ฟู่ๆๆ”
อัศวินนอนเฝ้าหน้าห้องของหญิงสาวเขาไม่ยอมออกห่างจากหน้าห้องของเธอไปไหนเพราะกลัวว่าเธอจะหนีเขาไปอีกอากาศตอนนี้ค่อนข้างหนาวมากหนาวจนชายหนุ่มนอนขดกุมมือเป่าลมร้อนใส่ตัวสั่นเทาเป็นลูกแมวตกน้ำ
“อื้อ..มม”
น้ำอิงรู้สึกตัวตื่นขึ้นมาช่วงกลางดึกเธอนึกขึ้นได้ว่าชายหนุ่มอยู่นอกห้องเธอจึงลุกขึ้นเพื่อจะไปดูว่าเขานั้นไปหรือยังเพราะที่นี่ข้างนอกหนาวมากอยู่เหมือนกันหากไม่อยู่ในห้องที่มีเครื่องปรับอุณหภูมิ
“คุณอาชน์..”
น้ำอิงเลื่อนประตูออกมาปรากฏว่าชายหนุ่มนั้นนอนขดตัวงออยู่ที่หน้าห้องของเธอยังไม่ได้ออกไปไหน
“น..หนาว..”
อัศวินพูดกับหญิงสาวตาปรือ
“ไปนอนข้างในเถอะค่ะ”
หญิงสาวหยิบผ้าห่มในห้องเธอเอามาพันตัวของเขาเอาไว้ทั้งช่วยพยุงชายหนุ่มเข้ามาด้านในและปูฟูกนอนให้เขาอีกที่
“หนาว”
อัศวินโน้มตัวลงนอนบนฟูกพร้อมดึงหญิงสาวมากอดก่ายตัวเธอเอาไว้
“คุณอาชน์..”
“อืมม..ฉันหนาวขออยู่แบบนี้ก่อนนะ”
อัศวินได้โอกาสนี้กอดก่ายอยู่กับหญิงสาวมีหรือเขาจะปล่อยให้โอกาสนี้มันหลุดลอยไปง่ายๆเพราะเธอคือของรักของหวงของเขา
วันต่อมา
“อื้อ..กำลังสบายเลย”
อัศวินกระชับกอดหญิงสาวเมื่อรู้ว่าเธอกำลังจะลุกออกไปจากเขาในช่วงเช้า
“ปล่อยอิงก่อนค่ะ”
น้ำอิงขมวดคิ้วหันไปมองชายหนุ่มที่นอนซ้อนตัวของเธออยู่ตอนนี้เธอจะต้องออกไปอาบน้ำอาบท่าและทำอาหารเช้าเพื่อที่จะได้กินอาหารตรงเวลา
“ไม่”
อัศิวนเผลอพ่นคำเอาแต่ใจออกมาเพราะยังรู้สึกว่าอยากที่จะนอนกอดหญิงสาวอยู่
“ก็ยังเอาแต่ใจเหมือนเดิม”
น้ำอิงสบถให้เขาได้ยินเล็กน้อยเพื่อเป็นการเตือนครั้งแรกอยากรู้เหมือนกันว่าเขาจะยอมเธอหรือไม่
“ปล่อยก็ได้แต่ขออยู่ใกล้ๆได้ไหม”
เมื่อได้ยินเช่นนั้นอัศวินจึงรีบละการกอดก่ายจากหญิงสาวทันทีเพราะรู้ว่าทำตัวเอาแต่ใจกับเธออีกแล้ว
ช่วงสายน้ำอิงยืนหั่นผักอยู่ในครัวเธอหันไปมองชายหนุ่มที่กำลังถือของพะลุงพะลังเข้ามาด้านในตอนนี้จมูกของเธอไวต่อกลิ่นมากรู้สึกมวนท้องขึ้นมาเรื่อยๆ
“อาหารฉันสั่งมาเอง”
อัศวินชูกล่องอาหารใกล้หน้าของหญิงสาวหวังว่าเธอจะพอใจที่เขาเอาใจใส่เธอ
“อือ..อุ้บบบ...แหวะ...”
ไม่กี่วินาทีน้ำอิงก็ต้องวิ่งพรวดเข้าห้องน้ำอย่างรวดเร็วเพราะเธอยิ่งได้กลิ่นใกล้ๆก็แทบจะอาเจียนพุ่งออกมาทั้งที่ในท้องตอนนี้ก็ยังไม่มีอะไรตกถึงท้องจะให้มันอาเจียนออก
“โอเคไหม..”
อัศวินรีบทิ้งของในมือเข้าไปลูบหลังให้น้ำอิงอย่างรวดเร็วด้วยสีหน้าที่ไม่สู้ดีนัก
“เหม็นค่ะ”
น้ำอิงชี้ไม้ชี้มือหวังจะบอกว่าอาหารที่เขาซื้อมาเธอไม่ได้ชอบกลิ่นมันเลยสักนิด
“งั้นเดี๋ยวฉันเอาไปทิ้งละกัน”
อัศวินรู้ว่าเธอเหม็นเขาก็จะเอามันไปทิ้งอะไรที่เธอกินไมได้เขาก็จะไม่กินเด็ดขาดจะไม่ยอมเอาเปรียบเธอแน่นอน
“เอ่อ...เสียดายค่ะถ้าคุณจะกินเดี๋ยวอิงไปนั่งในห้องก็ได้”
“ไม่...อะไรที่เธอกินไม่ได้ฉันก็จะไม่กิน”
อัศวินพยุงหญิงสาวออกมาด้านนอกเพื่อนั่งพักคำพูดของเขาเกือบทำให้น้ำอิงหลุดอมยิ้มออกมาแต่เธอก็ต้องเก็บอาการเอาไว้ไม่ให้หลุดในตอนนี้เธออยากจะลองใจของเขาอีกสักพัก
“เดี๋ยวอิงขอไปทำกับข้าวก่อนนะคะ”
“เดี๋ยวฉันทำให้”
“คุณอาชน์ทำเป็นเหรอคะ”“เธอบอกฉันก็ได้ว่าต้องใส่อะไรบ้าง”น้ำอิงหยักหน้าตกลงเธออยากจะเห็นอยู่เหมือนกันว่าอัศวินที่ทำเป็นแต่งานเวลาเข้าครัวทำอาหารจะออกมาเป็นแบบไหน“คนแบบนี้ใช่ไหม...เอ่อ”อัศวินดูเก้ๆกังๆในขณะที่ตอนนี้ข้าวหนึ่งถ้วยใหญ่ได้เข้าไปอยู่ในกระทะผัดเรียบร้อยแล้วเขามัวแต่หันมาถามหญิงสาวทั้งที่มือก็ยังทำงานอยู่ข้าวในกระทะจึงหกอกมาเลอะเทอะ“อิงทำเองดีกว่าค่ะ”น้ำอิงคิดว่าหากมื้อนี้เธอไม่เองคงจะไม่ได้กินเป็นแน่“ก..ก็ได้”อัศวินหน้าเสียเล็กน้อยแต่ทุกอย่างก็ต้องเรียนรู้ครั้งนี้เขามองดูเธอทำก่อนก็ได้หากครั้งต้อไปเขาจะต้องทำเป็นให้ได้จะได้ดูแลเธออย่างเต็มที่หญิงสาวใช้เวลาไม่นานข้าวผัดไข่ทั้งสองจานก็มาวางอยู่ที่โต๊ะทานอาหารต่อหน้าของเธอและชายหนุ่ม“ชอบกินแบบนี้เหรอ”อัศวินมองหญิงสาวที่กำลังตักข้าวเข้าปากท่าทางที่ดูจะมีความสุขกับการกินข้าวผัดของเธอทำให้เขาต้องตั้งคำถามขึ้นทั้งมองหญิงสาวฝั่งตรงข้ามอย่างสงสัยเพราะจากที่เขาได้ลองชิมข้าวในจานแล้วรู้สึกว่ามันจะจืดชืดไม่ค่อยจะมีรสชาติอะไรเท่าไรนัก“ค่ะ..ก็กินได้แต่แบบนี้”น้ำอิงเลิกสายตามองชายหนุ่มชั่วครู่แล้วจึงกลับไปสนใจข้าวในจานของเธอต่อ
น้ำอิงอ่านหนังสืออยู่ในห้องของเธอละสายตามองหนังสือแล้วมองชายหนุ่มที่เลื่อนประตูเข้ามาด้วยใบหน้านิ่งเฉย“อ่านอะไรอยู่เหรอ”น้ำอิงไม่ได้ตอบอีกฝ่ายเธอรู้ว่าเขาเห็นเธออ่านหนังสือเกี่ยวกับคุณแม่มือใหม่อยู่ก็ยังจะถามอยากจะรู้อีกว่าหากเธอยังทำนิ่งกับเขาอยู่เขาจะทำอย่างไรจะเค้นเธอให้เธอตอบเพื่อเอาชนะตามนิสัยเดิมของเขาหรือไม่“ฉ..ฉันไม่กวนก็ได้”อัศวินนั่งฟุบลงกับพื้นข้างๆหญิงสาวหากเธอไม่อยากคุยกับเขาก็ไม่เป็นไรเขาจะขอนั่งเงียบๆอยู่ใกล้ๆกับเธอก็พอน้ำอิงนั่งอ่านหนังสือได้พักใหญ่ตอนนี้ตาของเธอก็เริ่มปรือด้วยความง่วงแต่ก็ยังฝืนอ่านเพราะอยากที่จะอ่านต่อให้มันจบ“ถ้าง่วงก็ควรจะนอนนะอย่าฝืน”อัศวินไม่อยากให้หญิงสาวได้ฝืนอ่านต่อไปหากเธอง่วงเขาก็อยากจะให้เธอได้นอนพัก“แต่อิงยังอยากอ่านนี่คะ”“นอนเถอะเดี๋ยวฉันอ่านให้ฟังก็ได้”อัศวินโน้มตัวหญิงสาวลงมานอนที่ตักของเขาพร้อมหยิบหนังสือจากมือของเธอมาอ่านต่อให้เธอได้ฟังเป็นการหาความรู้ไปในตัวของเขาด้วย“..เมื่อไรจะยอมใจอ่อนกับฉันนะ..”ชายหนุ่มอ่านหนังสือได้ไม่กี่หน้าหญิงสาวก็หลับตานอนหายใจสม่ำเสมออัศวินจึงวางหนังสือลงอมยิ้มพร้อมก้มหน้าไปกดหอมแก้มนวลของหญิงสา
20.30 น.“ฉันเป็นห่วงเธอกับลูกมากรู้ไหมคราวหน้าคราวหลังระวังกว่านี้หน่อย”อัศวินนั่งกอดหญิงสาวจากทางด้านหลังในขณะที่เขากำลังนั่งอ่านหนังสือให้เธอฟังอยู่เขาวางหนังสือลงหลังจากที่อ่านไปได้พักใหญ่พลันนึกถึงเหตุการณ์เมื่อกลางวันแล้วก็อดจะย้ำให้หญิงสาวเรื่องเมื่อกลางวันไม่ได้เพราะเป็นห่วงเธออย่างมากและรู้สึกไม่ค่อยดีเท่าไรเมื่อเห็นเธอจะต้องเจ็บตัว“รู้แล้วค่ะ... คุณอาชน์จะห่วงอิงกับลูกแบบนี้ตลอดไปหรือเปล่าคะ”น้ำอิงพยักหน้ารับเธอหันหลังไปมองหน้าของเขาตาใสอยากได้คำตอบจากปากของเขาว่าถ้าหากเธอไมท้องแล้วเขาจะห่วงเธอแบบนี้ตลอดไปหรือไม่“แน่สิ... เธอคือส่วนหนึ่งในชีวิตของฉันไปแล้วยังไงฉันก็ต้องห่วงเธอกับลูกอยู่แล้ว”อัศวินมองหน้าหญิงสาวจริงจังคำตอบของเขาออกมาจากหัวใจ“แล้วคุณอาชน์จะกลับมาเป็นคนที่เอาแต่ใจกับอิงเหมือนเดิมอีกหรือเปล่า”“ตอนนี้ฉันก็ว่าฉันยอมเธอเยอะแล้วนะ”“จะยอมและดูแลแบบนี้ตลอดไปใช่ไหมคะ??”“ต..ลอด..ไป...??..หมายความว่าเธอจะให้ฉันดูแลเธอตลอดไปใช่ไหม”อัศวินขมวดคิ้วหลี่ตาเล็กน้อยในเมื่อเฮพูดคำว่าตลอดไปแสดงว่าเธออยากให้เขามาอยู่ในชีวิตของเธอด้วยเป็นแน่ น้ำอิงฉีกยิ้มกว้างให้ชายหนุ่มท
ลำปางบ้านเรือนไทยลอบซ์นอนอยู่ที่เปลใต้ถุนบ้านเรือนไทยของยายของเขาที่นี่ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงไปยังคงความร่มรื่นไว้อย่างไม่ต่างจากเดิมหลังจากที่ยายของเขาเสียไปเมื่อกลับมาถึงบ้านลอบซ์ก็จัดการทำความสะอาดบ้านครั้งใหญ่เพราะที่นี่ไม่มีใครดูแลด้านในมานานบ้านเรือนไทยของยายของเขาอายุเกือบจะห้าสิบปีแต่ทุกอย่างยังคงสภาพดีหลังบ้านเป็นที่ดินหลายร้อยไร่ห่างออกไปไม่ไกลตอนนี้เป็นทุ่งนาสลับกับบ่อน้ำและพื้นที่เลี้ยงสัตว์ทำไร่สวนผสมของยายของเขาที่ตกทอดมาเป็นมรดกของเขาที่เป็นหลานชายเพียงคนเดียวโดยมีคนงานดูแลอยู่ตลอดและที่ดินที่ให้ชาวบ้านเช่าทำกินที่อื่นที่ไม่ได้ติดกับบ้านอีกหลายสิบไร่ตอนนี้กำลังมีปัญหาเพราะมีคนมีอิทธิพลรุกล้ำเข้ามาทำไร่ในที่ดินของเขาอยู่หลายที่หากไม่มีชาวบ้านติดต่อเขาไปก็คงจะไม่รู้ตอนนี้ที่เขากลับมาก็คิดว่าจะมาสะสางเรื่องนี้ให้มันจบๆไปถึงจะมีอิทธิพลแค่ไหนเขาก็ไม่เกรงกลัวบ้านเสี่ยเฮ็ง“ผมว่าคงจะเข้าใจผิดกันล่ะมั้งครับ”“หากคิดว่าเข้าใจผิดนี่ก็คือภาพถ่ายจากดาวเทียมที่ผมขยายมาแล้วเสี่ยดูให้เต็มตานะครับว่ามันเกินมาเท่าไรหากยังไม่จัดการให้รวดเร็วผมคงต้องแจ้งความ”ลอบซ์เข้าไปที่บ้านของเสี่ย
โรงพัก“ผมว่าคุณอาจจะเข้าใจผิดมากกว่าไหนล่ะหลักฐานถ้าไม่มีคุณกลับไปก่อนเถอะ”สารวัตรวัยกลางคนที่รับเรื่องของชายหนุ่มยังไม่ทันได้ฟังที่เล่าจบก็หาว่าเขาเข้าใจผิดเสียแล้วพร้อมเปรยตามองลอบซ์อย่างไม่สนใจตำรวจที่นั่งอยู่ด้วยกันก็เช่นกันเหมือนเห็นการแจ้งความของเขาเป็นเรื่องไร้สาระ“บริการประชาชนแบบนี้เหรอคะชื่อนามสกุลอะไรเหตุการณ์เป็นยังไงยังไม่ได้ถามเลยไล่กลับซะแล้ว”อัญญาไม่พอใจกับตำรวจในโรงพักที่นี่เลยโวยวายยกใหญ่“คุณอายกลับกันก่อนเถอะครับ”ลอบซ์พอจะเดาออกกว่าคนที่นี่เป็นอย่างไรเขาจึงต้องถอยออกมาก่อนและดึงอัญญาออกมาด้วย“....หึ้ย...”อัญญาไม่พอใจอย่างมากที่ลอบซ์เหมือนจะยอมคนพวกนั้นง่ายๆ ลอบซ์ไม่ได้พูดอะไรเพียงแต่จูงมือหญิงสาวมาที่รถแล้วเปิดประตูให้เธอเข้าไปนั่ง“ทำไมยอมออกมาง่ายๆคะ”อัญญาเห็นลอบซ์ขึ้นมานั่งบนรถเรียบร้อยแล้วจึงถามอีกฝ่ายด้วยความสงสัยเพราะปกติแล้วลอบซ์เห็นความถูกต้องเป็นที่หนึ่งแต่ครั้งนี้เขาทำไมยอมง่ายๆ“ดูก็รู้ว่าเค้าเป็นคนของใคร”ลอบซ์คิดว่าพูดแค่นี้หญิงสาวก็น่าจะเข้าใจได้ในตอนนี้เข้าเป็นฝ่ายเสียเปรียบจะต้องจัดการอะไรให้รอบคอบเสียก่อนและเขาจะไม่ปล่อยให้ความอยุติธรรมนี้ม
ปังงง“คุณอาย”ลอบซ์ถีบประตูจนพังภาพตรงหน้าทำให้เขาอยากจะฆ่าไอ้โจรใจโฉดคนนี้เสียตอนนี้เลยจริงๆ“ฮือๆๆๆ”อัญญาน้ำตาไหลพรากเมื่อได้ยินเสียงของลอบซ์เธอคิดว่าเธอจะไม่รอดน้ำมือโจรพวกนี้เสียแล้ว“ไอ้เลว..แก”พลั้กก“โอ้ยย...”ตุบ..ตับ..พลั้กๆๆ..ตุ้บ..ลอบซ์เข้าไปต่อยโจรชุดดำที่กำลังทำมิดีมิร้ายหญิงสาวจนมันล้มลงแล้วจึงกระทืบมันอย่างหัวเสียจนสลบคากองเลือดไป“ไอ้ชั่ว...คุณอาย..”ชายหนุ่มสบถด่าออกมาอย่างเหลืออดและรีบเข้าไปดึงผ้าห่มมาคลุมร่างบางเอาไว้พร้อมกอดคนที่ตัวสั่นเทาอย่างรู้สึกผิด“ฮึก..ฮือๆๆๆ..”“.ผมขอโทษที่ปล่อยคุณไว้คนเดียว”ลอบซ์อุ้มหญิงสาวไปนอนที่ห้องของเขาพร้อมโทรแจ้งความให้ตำรวจมารับตัวคนพวกนี้ไปดำเนินคดีเมื่อเขาจัดการเรียบร้อยแล้วจึงเข้ามาดูแลหญิงสาวในห้องตามเดิม“ฮึกๆๆ...ฮือๆๆๆ”เวลาผ่านไปร่วมชั่วโมงหญิงสาวก็ยังร้องไม่หยุด“นอนนะครับผมจะอยู่ข้างๆคุณเอง”ลอบซ์นั่งอยู่ข้างเตียงจับมือหญิงสาวเอาไว้แน่นให้เอได้อุ่นใจว่าเขาจะดูแลเธออยู่ใกล้ไม่ไปไหนทั้งยังรอให้เธอหลับสนิทแล้วเขาจึงผละตัวไปนอนอยู่ที่โซฟาข้างๆเตียงที่หญิงสาวนอนอยู่วันต่อมาบ้านสุทธนสินไท“ท่านคะมีสายจากคุณลอบซ์ค่ะ”“ลอบซ
“แบบนี้นี่เอง...”น้ำอิงพยักหน้าเข้าใจ“มีอะไรจะบอก”ชายหนุ่มเข้ามากอดคนเป็นภรรยากระซิบข้างๆหูของเธอเบาๆ“อะไรคะ”“อีกสองวันอายกับลอบซ์จะมาที่นี่”“จริงเหรอคะ...”น้ำอิงเบิกตาโพรงดีใจเป็นพิเศษที่จะได้เจอเพื่อนเธอเสียทีเมื่อไม่ได้เจอกันร่วมสามเดือนแล้ว“ดูท่าฉันจะหัวเน่าซะแล้วล่ะมั้งดูจะคิดถึงเพื่อนขนาดนี้”อัศวินทำสีหน้าน้อยใจ“ก็ไม่ได้เจอกันนานแล้วนี่คะก็ต้องคิดถึงเป็นธรรมดา”“เธอไม่คิดถึงฉันบ้างเหรอ”“ก็คุณอาชน์อยู่กับอิงตลอดเวลานี่คะ”“ตอนฉันออกไปข้างนอกซื้อพวกของสดมาไว้ที่บ้านไง”“ก็แค่ไม่กี่ชั่วโมงเองค่ะ”น้ำอิงขมวดคิ้วเล็กน้อย“ไม่กี่ชั่วโมงเธอก็ต้องคิดถึงเพราะฉันเป็นสามีเธอ”“คุณอาชน์...”“หืม...”“เป็นขนาดนี้แล้วเหรอคะเนี่ย...”น้ำอิงส่ายหัวทั้งยังอมยิ้มให้กับความขี้อ้อนที่ไม่รู้ว่าช่วงน้าสรรหาคำอ้อนมาจากไหนนักหนา“ก็ต้องขนาดนี้แหละ”อัศวินโน้มตัวภรรยาของเขานอนลง“..อื้อ...ท..ทำอะไรคะ??”น้ำอิงถดตัวหนีเล็กน้อย“ฉันว่าฉันไม่ได้ลึกซึ้งกับเธอมานานแล้วนะ..”อัศวินกอดหญิงสาวไว้หลวมๆเพื่อไม่ให้ทับตัวของเธอ“ต...แต่ว่า..เจ้าตัวเล็กอยู่ในท้องนะคะ”น้ำอิงเข้าใจแล้วว่าเขาจะทำอะไรแต่เธอไ
“ยังไม่ได้บอกเลยอ่ะ”อัญญาก้มหน้างุดความรู้สึกในใจที่เธอเก็บซ่อนมานานมีเพียงแค่ผักหวานและน้ำอิงเท่านั้นที่รู้เธออยากจะบอกให้เจ้าตัวที่เธอแอบชอบรู้หลายครั้งแต่ก็ไมได้มีโอกาสบอกเสียที“นานแล้วนะ..”ผักหวานบุ้ยปากเล็กน้อยผิดหวังที่เธอกะจะได้ฟังข่าวดีจากอัญญาเสียหน่อย“ก็จะให้ทำยังไงก็มันยังไมได้บอกซะทีนี่นา”“รีบๆหน่อยๆเดี่ยวจะโดนสอยไปกินไม่รู้ด้วยนะ”“รู้แล้วน่า”วันต่อมา“จะไปเที่ยวป่า”“ค่ะ..พี่ลอบซ์พาอายไปนะคะ”“ง..งั้นก็ได้ครับแล้วคุณหวานจะไปด้วยหรือเปล่า”“อ่อ..เห็นหวานบ่นว่าอยากนอนพักก็เลยไม่ได้ไปค่ะ”“อ๋อ..ครับ”ชั่วโมงต่อมา“ป่าในช่วงฤดูนี้ที่นี่ดีนะคะไม่มีแมลงเลย”อัญญาเดินเที่ยวอย่างอารมณ์ดีเพราะสถานที่ที่นี่คนค่อนข้างน้อยเป็นส่วนตัวเหมาะแก่การที่เธอจะบอกบางสิ่งบางอย่างในใจกับชายหนุ่มที่เธอมีความรู้สึกดีๆด้วยความรู้สึกนี้มันมีมานานนมนี่คือสาเหตุที่เธอชอบทำตัวเอาแต่ใจกับลอบซ์อยู่บ่อยๆนั่นเองและการตามใจเธอแบบของเขาแบบนี้ล่ะมั้งที่ทำให้เธอมีใจให้เขาโดยไม่รู้ตัว“ครับอากาศก็โอเคด้วย”“พี่ลอบซ์ชอบไหมคะ”“ก็ชอบนะครับดูสงบดี”“เดินไปตรงสะพานนั่นดีกว่าค่ะ...”อัญญาเห็นว่าสะพานใหญ่ตรงห