ร้านอาหาร
“ของขวัญสุขสันต์วันเกิดนะแกขอให้มีแฟนหล่อๆรวยๆ”
สามสาวนั่งทานอาหารกันอยู่ที่ร้านอาหารหรูโดยมื้อนี้อัญญาและผักหวานเป็นคนออกค่าใช้จ่ายทั้งหมดคนละครึ่งเนื่องจากเป็นวันเกิดของเพื่อนเธอผักหวานส่งกล่องของขวัญกล่องไม่ใหญ่มากให้น้ำอิงทั้งยังอวยพรเสียงดังฟังชัด น้ำอิงไม่ได้อยากได้พรข้อนี้เท่าไรอวยพรให้เธอไม่มีอุปสรรคในชีวิตจะดีกว่า
“นี่เค้ก...อยากได้อะไรก็ขอเอาละกัน”
อัญญาจุดเทียนในก้อนเค้กสีชมพูหวานมีรูปปั้นเหมือนเจ้าของวันเกิดอยู่ตรงกลางพร้อมยื่นให้เพื่อนเธอขอพรก่อนจะเป่า น้ำอิงหลับตาขอพรก่อนที่จะเป่าเทียนให้ดับไป
บ้านอัศวิน
“เค้กที่สั่งได้แล้วครับนาย”
“อืม..ออกไปได้”
“ครับ”
อัศวินสั่งเค้กจากร้านดังมาไว้ให้หญิงสาวตอนนี้เขาเดินวนไปวนมาตั้งตารอเวลาที่เธอจะกลับมาอย่างใจจดใจจ่ออย่างเป็นกังวลว่าเขาจะพูดอวยพรวันเกิดเธออย่างไรดี
แกร๊กก
“มาแล้วเหรอ..”
“ค่ะ”
“มานี่สิ”
เมื่อเห็นส่าหญิงสาวเปิดประตูเข้ามาพร้อมของพะลุงพะลังเขาก็รีบเข้าไปหยิบจากมือของเธอวางเอาไว้ก่อนพร้อมพาเธอมานั่งหน้าก้อนเค้กสีขาวที่เขาวางอยู่บนโต๊ะ
“อะไรคะ”
น้ำอิงงงเล็กน้อยที่ชายหนุ่มดูรุกรี้รุกรนเป็นพิเศษ
“วันเกิดเธอไง”
น้ำอิงสับสนกับอารมณ์ของเขาอยู่พอตัวก่อนหน้านี้หลังจากกลับมาจากเกาะไม่ยักอยากจะคุยกับเธอแต่มาวันนี้กลับซื้อเค้กวันเกิดให้เธอเสียอย่างนั้น
“ถ้าเธอไม่ชอบก็ไม่เป็นไรนะฉันเอาไปเก็บก็ได้”
อัศวินเห็นหญิงสาวมีสีหน้าแปลกใจทั้งยังมองมาทางเขาด้วยแววตาที่เขาก็มองไม่ออกว่าเธอรู้สึกชอบหรือไม่ชอบกับสิ่งที่เขาทำให้เพื่อเป็นการแก้เก้อเขาจึงรีบบอกกับเธอว่าถ้าหากไม่ชอบเขาก็พร้อมที่จะเอาไปเก็บ
“ยังไม่ได้บอกว่าไม่ชอบนี่คะขอบคุณนะคะ”
น้ำอิงแค่แปลกใจที่ไม่คิดว่าชายหนุ่มทำให้เธอแบบนี้และนั่นมันก็ทำให้เธอมองเห็นนิสัยอะไรบางอย่างในตัวของเขาหากจะบอกว่าเขาไม่มีความอ่อนโยนแบบเดิมคงจะไม่ใช่เพราะแค่วันเกิดของเธอซึ่งมันไม่น่าจะสำคัญอะไรกับเขาด้วยซ้ำแต่เขากลับรอที่จะเซอร์ไพรซ์เธอชักอยากจะรู้เสียแล้วว่าตัวตนจริงๆของเขามันเป็นอย่างไรกันแน่
“อืม...งั้นเดี๋ยวฉันจุดเทียนให้นะ”
อัศวินใจชื้นขึ้นมามากเมื่อรู้ว่าเธอก็ชอบสิ่งที่เขาทำให้ไม่รู้ว่าทำไมเขาต้องมากดดันตัวเองด้วยเรื่องแค่นี้ด้วยทั้งยื่นมือไปจุดเทียนที่ก้อนเค้กให้หญิงสาว
“ค่ะ”
“ขอพรสิ”
หญิงสาวหลับตาขอพรเช่นเดิมเธอขอให้ชีวิตของเธอไม่มีเรื่องทุกข์ใจอะไรที่หนักไปกว่านี้อีกแล้วและเรื่องที่เธอกังวลนี้ก็ขอให้มันจบไปโดยเร็ววัน
“เสร็จแล้วเหรอ”
“ค่ะ”
“ขอว่าอะไร”
อัศวินจ้องหน้าหญิงสาวอย่างสงสัย
“ใครเค้าบอกกันคะ”
น้ำอิงขมวดคิ้วเล็กน้อยที่อีกฝ่ายมาถามเรื่องที่เธอขอพร
“นี่ฉันให้เธอขอให้เธอมีแต่ความสุขนะ”
อัศวินเดินไปหยิบช่อกุหลาบสีขาวช่อโตยื่นให้น้ำอิงด้วยรอยยิ้มทั้งอวยพรให้เธอสิ่งที่เขาคิดตั้งนานมันมีคำนี้ที่น่าจะดีที่สุดแล้ว
“เอ่อ...ขอบคุณค่ะอิงก็หวังว่าอิงจะมีความสุขในเร็ววันนี้นะคะ”
น้ำอิงถือว่าวันนี้เธอรู้สึกว่าแปลกไปกว่าทุกวันอย่างมากไม่รู้ว่าชายหนุ่มไปกินยาไม่เขย่าขวดมาหรือเปล่าที่ดูจะทำเหมือนเธอสำคัญต่อเขาขนาดนี้เรื่องที่เขาอวยพรเธอนั้นเธอก็อยากจะให้มันเป็นจริงในเร็ววันซึ่งเขาก็น่าจะรู้ว่าเธอหมายถึงเรื่องอะไร
เดือนต่อมา
น้ำอิงตื่นขึ้นมาในช่วงเช้าเธอยังคงนอนอยู่ในอ้อมกอดของชายหนุ่มเช่นเคยดั่งทุกๆวันตอนนี้เธอชักไม่แน่ใจซะแล้วว่าเธอแอบเผลอมีใจให้เขาไปหรือเปล่าแต่เท่าที่รู้พักหลังมานี้เขาทำตัวดีขึ้นกับเธอเยอะมากแถมยังอ่อนโยนกว่าแต่ก่อนจนบางครั้งเขาก็ทำให้เธอคิดว่าเธอเป็นคนรักของเขาไปได้และเกือบจะดึงตัวเองกลับมาได้ยากทุกครั้งเธอกลัวใจของเธอตอนนี้เหลือเกินกลัวว่าวันนึงหากเธอดึงใจตัวเองกลับมาไม่ได้เธอจะเป็นอย่างไร
“ตื่นแล้วเหรอ”
ฟอดดดด
อัศวินลืมตาขึ้นมาเขาเห็นว่าหญิงสาวตื่นแล้วจึงกระชับกอดเธอพร้อมกดจมูกโด่งหอมไปที่แก้มนวลเป็นประจำดั่งที่เคยทำและดูท่าว่ามันจะเลยเถิดไปเป็นอย่างอื่นที่เธอไม่ได้อยากให้มันเกิดในตอนเช้าด้วย
“อื้อ...คุณอาชน์ลุกได้แล้วค่ะเดี๋ยวไปทำงานสายนะคะ”
น้ำอิงรู้ว่าอะไรจะเกิดจึงรีบบอกกับเขาถึงเรื่องเวลา
“แปปเดียวนะ..”
“อื้มมม...”
สุดท้ายหญิงสาวก็ต้องแพ้ให้เขาอยู่ดีบทสวาทยามเช้าดำเนินไปพักใหญ่ทั้งสองจึงอาบน้ำแต่งตัวไปทำงานกันได้เป็นแบบนี้แทบจะทุกวันจนพักหลังก็เริ่มบ่อยขึ้นจนจะกลายเป็นกิจวัตรประจำวันในตอนเช้าไปแล้ว
บริษัทXXX
พักเที่ยง
“โห..แก..มีแต่ของน่ากินทั้งนั้นเลย”
น้ำอิงเดินเข้ามาที่ร้านอาหารข้างบริษัทเธอเห็นอาหารที่วางเรียงรายอยู่บนโต๊ะก็เกิดอาการน้ำลายสอขึ้นมาทันทีหญิงสาวหย่อนก้นลงนั่งพร้อมตักลาบหมูเข้าปากด้วยท่าทางเอร็ดอร่อย
“ดูหิวเป็นพิเศษนะเนี่ย”
อัญญาที่นั่งอยู่ก่อนหน้าเห็นอาการเพื่อนสาวก็คิดว่าเธอน่าจะหิวมากถึงได้เห็นอะไรก็น่าอร่อยไปหมดทั้งที่ปกติกินอย่างกับแมวดม
“เย็นนี้แกไปเป็นเพื่อนฉันหน่อยสิจะไปเอาชุดที่ตัดไว้ใกล้ถึงวันงานแล้ว”
“อ๋อ..โอเคได้”
น้ำอิงหน้าเจื่อนเล็กน้อยเพราะรู้ว่างานที่เพื่อนเธอพูดคืองานอะไรอีกไม่กี่วันก็ถึงวันแต่งแล้วสินะ
“แล้วโอบเป็นไงบ้าง”
“อีกสามวันหมอก็ให้ออกจากโรงพยาบาลแล้วล่ะ”
“ดีแล้ว..เออแล้วเรื่องงานของต้นผักหวานหาที่ทำงานให้ได้แล้วนะเป็นร้านเค้กของพี่ปกรณ์”
“ดีเลยฉันจะได้ไปบอกน้องมัน”
ห้างสรรพสินค้า
อัญญาพาน้ำอิงมาที่ห้องเสื้อหรูเพื่อมารับชุดตอนนี้อัญญากำลังเข้าไปลองใส่อยู่ว่าต้องแก้ตรงไหนหรือไม่ส่วนน้ำอิงก็นั่งรออยู่ในร้านด้วยสีหน้าที่ไม่สู้ดีนักเพราะเธอรู้สึกหดหู่ใจกับเรื่องที่ชายหนุ่มจะต้องแต่งงานอย่างมากเพราะเธอไม่อยากเป็นคนในความลับของใครตั้งแต่แรกและตอนนี้ดูเหมือนหัวใจของเธอก็มีความรู้สึกดีๆให้กับชายหนุ่มที่น่าจะถลำลึกไปแล้วด้วย
พรางคิดว่าหากเขาปล่อยเธอไปตั้งแต่ตอนแรกเธอก็ไม่ต้องมานั่งมีความรู้สึกแบบนี้ถึงเธอไม่รู้ว่าเขาจะมีความรู้สึกดีๆกับเธอบ้างหรือเปล่าเพราะในบางครั้งเขาก็ทำตัวเหมือนเป็นคนรักที่ดีของเธอแต่ในบางครั้งก็เป็นแค่คนที่จ่ายเงินเพื่อที่จะได้ความสุขจากตัวเธอเท่านั้นตอนนี้เธอยิ่งคิดก็ยิ่งสับสน
“นั่นเลขาคุณนี่คะ”“เอ่อ..คุณอาชน์”น้ำอิงมองไปยังผู้หญิงที่ควงแขนมากับผู้ชายเข้ามาใหม่เมื่อสายตาปะทะกับทั้งสองตัวของเธอชาวาบไม่คิดว่าจะเจอพวกเขาทั้งคู่ที่นี่มันเหมือนยิ่งตอกย้ำสถานะของเธอว่าเธอเป็นเพียงแค่คนในความลับของเขาเท่านั้นเป็นสิ่งที่เธอไม่ได้อยากเลือกตั้งแต่แรกอีกต่างหาก“อายอยู่ที่นี่เหรอคะ”พลอยไพรินเห็นว่าน้ำอิงนั่งรออยู่ด้านนอกแสดงว่าเธอจะต้องมากับอัญญาเป็นแน่“ใช่ค่ะอายลองชุดอยู่ด้านในค่ะ”น้ำอิงชี้มือไปทางด้านในห้องใหญ่ที่มีพนักงานยืนรออยู่หน้าประตูพร้อมก้มหน้าเธอเลือกที่จะไม่มองทั้งสองให้บาดตาให้ตัวเองรู้สึกหน่วง“อ๋อ..พอดีเลยงั้นเราไปข้างในกันดีกว่าค่ะอาชน์”เมื่อรู้ดังนั้นพลอยไพรินจึงรีบดึงมือของอัศวินเข้าไปด้านในโดยที่เจ้าตัวก็ไม่ได้ขัดขืนอะไรชายหนุ่มมองหญิงสาวด้วยหางตาเล็กน้อยเขาดูสีหน้าของเธอตอนนี้ก็พอจะเดาอารมณ์ออกว่าเธอคงจะไม่ได้อยากมาอยู่ในสถานการณ์แบบนี้สักเท่าไรเขาเองก็เหมือนกันแต่ก็ต้องทำไปเพราะแค่หน้าที่เท่านั้นสิบนาทีต่อมา“เรียบร้อยแล้วใช่ไหม”“อืม...พอดีไม่มีอะไรต้องแก้เรากลับกันเถอะ”“อืมม...”ยังไม่ทันที่จะลุกยืนเต็มที่น้ำอิงก็ถึงกับเข่าทรุดเพราะหน้า
“แม่ว่าเรารู้อยู่แก่ใจนะเรื่องเรากับหนูอิงมันยังไง”กิ่งเกสรรู้ดีว่าลูกชายของเธอรู้ว่าสิ่งที่มันมากกว่าที่เธอพูดออกไปมันคืออะไรเธอไม่เชื่อว่าลูกชายของเธอจะปล่อยให้ใครตามสืบเรื่องตัวเองได้ง่ายๆถ้าไม่จงใจในเมื่อเรื่องมันมาถึงขนาดนี้แล้วเธอก็ขอถามสิ่งที่เธอสงสัยมานานว่าลูกชายของเธอกับน้ำอิงความสัมพันธ์ของทั้งสองเป็นยังไงกันแน่เพราะเธอจับสังเกตุได้ตั้งแต่วันที่น้ำอิงมานอนที่บ้านแล้วลูกชายของเธอแอบเข้าห้องของน้ำอิงแถมคืนที่ไปนอนที่เกาะยังพาน้ำอิงออกไปข้างนอกดึกๆดื่นๆกลับมาก็เช้าอีกต่างหากเรื่องนี้เธออยากจะฟังจากปากลูกชายของเธอเองอัศวินตั้งใจจะบอกเรื่องนี้กับแม่ของเขาอยู่แล้วเขาจึงเล่าเรื่องราวทั้งหมดให้แม่ของเขาฟัง...จนถึงเรื่องที่ตอนนี้น้ำอิงตั้งท้องอีกด้วย“อาชน์...นี่แม่จะเป็นลมทำไมถึงได้ทำนิสัยแบบนี้ห้ะ”กิ่งเกสรฟังเรื่องราวทั้งหมดเธอแทบจะลมจับที่ดูลูกชายเธอเหมือนจะโหดร้ายกับน้ำอิงเสียเหลือเกินยิ่งฟังก็ยิ่งสงสารน้ำอิงหากหญิงสาวไม่ท้องกับลูกชายของเธอตัวเธอเองจะเป็นคนช่วยน้ำอิงให้พ้นไปจากชีวิตลูกชายของเธอเสียเองแต่ก็แอบแปลกใจอยู่ไม่น้อยเมื่อรู้สึกว่าลูกชายของเธอจะมีนิสัยบางอย่างที่เปลี
“เรื่องโอบแกไม่ต้องเป็นห่วงฉันสัญญาว่าน้องแกจะไม่เป็นอะไรแล้วฉันจะดูแลโอบแทนแกเอง”อัญญารู้ว่าการที่น้ำอิงไม่หนีไปจากพี่ชายของเธอก็เพราะน่าจะเนื่องด้วยกลัวคำขู่ของพี่ชายเธอตอนนี้เธอเชื่อว่าเรื่องทุกอย่างถึงหูแม่ของเธอแล้วโอบจะไม่เป็นอะไรอีกอย่างตอนนี้ความรู้สึกของพี่ชายเธอที่มีต่อน้ำอิงเธอก็คิดว่ามันเปลี่ยนไปเช่นกันแต่แค่พี่ชายของเธอยังหาคำตอบให้ตัวเองไมได้เท่านั้น“อืม...ฮึก..ขอบ..ใจนะ..”น้ำอิงได้ยินคำนี้เธอก็โล่งใจไปเปราะหนึ่งจึงยอมล้มตัวนอนพักบนเตียงโดยดีแต่ก็ยังมีอาการสะอื้นอยู่บ้างเล็กน้อยหลังจากที่น้ำอิงหลับไปแล้วสองสาวก็มานั่งคุยกันอยู่ที่หน้าบ้านรับลมชมวิวของแม่น้ำด้วยสีหน้าที่เป็นกังวลกันนิดหน่อย“พี่อาชน์นี่สุดไปเลยนะแก”ผักหวานไม่รู้จะสรรหาคำพูดไหนมาอธิบายในความเป็นพี่ชายของเพื่อนเธอเลยจริงๆเป็นคนที่ค่อนข้างจะแปลกคนกับคนทั่วไปเสียเหลือเกิน“ถ้าวันนั้นฉันจัดการเรื่องเงินได้เรื่องนี้ก็คงไม่เกิด”อัญญาคิดถึงเรื่องในอดีตหากวันที่เพื่อนเธอต้องการเงินแล้งเงินเธออยู่ในมือของเธอโดยไม่ต้องขออนุญาตใครเรื่องก็คงไม่เป็นแบบนี้“มันอาจจะเป็นเรื่องที่ฟ้ากำหนดมาแล้วก็ได้”ผักหวานคิดในอีก
วันต่อมาบ้านใหญ่“คุณพ่อ”อัศวินเข้ามาที่บ้านใหญ่ของเขาในช่วงเช้าหน้าตาของเขาหมองคล้ำเสียยิ่งกว่าคนโดนของเพราะทั้งไม่ได้นอนและทั้งดื่มหนักจนหมดมาดนักธุรกิจ“ว่าไงลูกชายตัวดี”เอื้อการมองลูกชายของตนที่เดินเป็นศพตายซากเข้ามาหาทั้งกลิ่นตัวยังฟุ้งไปด้วยกลิ่นแอลกอฮอลล์คละคลุ้งเป็นบุญตาเสียจริงที่ได้เห็นลูกชายของเขาโดนผู้หญิงทิ้งแต่ก็ไมได้เอ่ยคำทำร้ายจิตใจอะไรขึ้นมา“คุณพ่อพึ่งมาจะไปไหนกันเหรอครับ”อัศวินมองกระเป๋าที่วางอยู่หน้าบ้านพร้อมรถตู้แสดงว่าต้องมีคนจะออกไปเที่ยวที่ไหนกันแน่“พ่อจะพาแม่เรากับน้องไปเที่ยวที่ญี่ปุ่นน่ะทริปนี้แม่เค้าอยากไปนานแล้ว”“อ่อ..ครับ...นี่ทิ้งงานไปเที่ยวแบบนี้บอกลอบซ์หรือยัง”อัศวินเหลือบสายตามองน้องสาวของเขาที่กำลังขึ้นไปนั่งรออยู่ในรถตู้เพราะไม่อยากคุยกับพี่ชายของเธอ ไร้การตอบรับจากอัญญาทั้งเธอยังหันหน้าหนีพี่ชายของเธออีกด้วย“น้องคงโกรธเราเรื่องหนูอิงน่ะ”กิ่งเกสรเดินออกจากบ้านตรงเข้ามาหาลูกชายของเธอก่อนที่จะเดินไปประชิดตัวอัญญาขวางเอาไว้ก่อนรู้ว่าลูกเธอจะต้องเข้าไปดุคนเป็นน้องอีกแน่“แล้วคุณแม่จะไปกี่วันครับ”“สักอาทิตย์เดี๋ยวก็กลับแล้วล่ะแล้วเรื่องหนูอิงเจ
ครู่ต่อมา“นี่หมอชินอิจิโร่หมอชินเป็นหมอสูติจะเป็นคนมาดูแลเราเป็นระยะนะหนูอิงเค้าเป็นลูกชายเพื่อนพ่อเอง”เอื้อการนัดชินอิจิโร่มาที่นี่เพื่อแนะนำให้รู้จักกับน้ำอิงเพราะเขาจะวานให้หมอชินมาดูแลน้ำอิงที่นี่เป็นระยะในระหว่างที่น้ำอิงอยู่ที่นี่หมอชินเป็นลูกชายของชินซาคุเพื่อนเอื้อการที่ทำธุรกิจด้วยกันที่อิตาลีที่นี่เป็นบ้านของชินซากุที่ซื้อเอาไว้นานแล้วเอื้อการเห็นว่าเวลานี้เขามีเรื่องจำเป็นที่จะต้องขอใช้ซึ่งชินซาคุก็ไม่ได้มีปัญหาอะไรทั้งยังบอกให้อยู่เหมือนบ้านตัวเองและยังให้นัดเจอกับลูกชายของเขาเพื่อให้มาดูแลคนที่อยู่ที่นี่ด้วย“ยินดีที่ได้รู้จักนะครับ”หมอชินก้มหัวลงเล็กน้อยทักทายหญิงสาว“ยินดีที่ได้รู้จักเช่นกันค่ะ”น้ำอิงทักทายหมอหนุ่มด้วยรอยยิ้ม“คุณเป็นพ่อฉันก็ต้องเป็นแม่สินะ”เมื่อครู่กิ่งเกสรได้ยินสามีของเธอแทนตัวเองว่าพ่อกับน้ำอิงเธอจึงขอแทนตัวเองว่าแม่บ้าง น้ำอิงเกิดอาการเกร็งๆกับสรรพนามที่เปลี่ยนไปของทั้งคู่เล็กน้อย“งั้นหนูอิงเรียกน้าว่าแม่เลยแล้วกันนะเหมือนที่อายเรียกไง”“เอ่อ...ค่ะ”อัญญาหันมายิ้มให้เพื่อนเธออย่างมีเลศนัยเพราะรู้ว่าพ่อกับแม่ของเธอคิดอะไรกันอยู่อาทิตย์ต่อมา“พ
สนามบิน“เที่ยวให้สบายใจนะลูกสบายใจเมื่อไรก็ค่อยกลับมา”“ค่ะคุณพ่อ”สองพ่อลูกกอดกันอยู่ที่สนามบินท่ามกลางผู้คนที่เดินขวักไขว่ไปมาวันนี้ภัคดนัยมาส่งลูกสาวของเขาตามที่เธอขอว่าอยากจะไปเที่ยวเรื่องนี้เขาเห็นดีเห็นงามด้วยที่พลอยไพรินจะเดินทางไปญี่ปุ่นเขาหวังว่าการไปเที่ยวครั้งนี้จะทำให้ลูกสาวของเขาลืมเรื่องที่ช้ำใจในตอนนี้ได้“อย่าลืมว่าพ่ออยากเห็นรอยยิ้มที่สดใสของลูกอีกครั้งนะ”“ค่ะอยู่ทางนี้ดูแลสุขภาพด้วยนะคะ”ตอนนี้พลอยไพรินพอจะทำใจได้บ้างแล้วเพียงอยากหาที่สงบๆอยู่กับตัวเองให้พ้นจากข่าวคราวที่เธอยกเลิกงานแต่งเธอจึงเลือกที่จะไปพักผ่อนที่ญี่ปุ่นคนเดียวหวังว่าการเที่ยวครั้งนี้จะเยียวยาหัวใจของเธอให้กลับมาดีขึ้นในเร็ววันเหมือนกันญี่ปุ่น“อุ้บ...แหวะ...อุบบ..เฮ้ออออ...ทำไมไม่สงสารแม่บ้างเลยคะเจ้าตัวเล็กกินอะไรไปเท่าไรก็ออกมาหมดเลยแบบนี้จะได้สารอาหารบ้างไหมคะ”น้ำอิงนั่งฟุบลงกับพื้นมือเรียวของเธอลูบหน้าท้องพร้อมส่งเสียงคุยเบาๆอาการแพ้ท้องของเธอเริ่มจะหนักขึ้นทุกวันๆจนเธอนั้นซูบลงไปเยอะ“เป็นยังไงบ้างครับคุณอิง”“หมอชิน..”“นี่ท่าทางจะแพ้หนักใช่ไหมครับ”หมอชินเห็นสีหน้าของหญิงสาวก็พอจะดูอาการ
“ไม่ต้องสงสาร”อัญญาพูดกับเพื่อนเธอด้วยแววตามุ่งมั่น“อันนี้ความแค้นส่วนตัวหรือเปล่าเนี่ย”ผักหวานแอบอมยิ้มมองหน้าเพื่อนเธออย่างมีเลศนัย“อืมก็นิดหน่อยหมั่นไส้มานาน”อัญญายอมรับว่าเรื่องที่พี่ชายเธอหาน้ำอิงไม่เจอเสียทีเธอก็แอบสะใจอยู่เหมือนกันจะได้รู้เสียบ้างว่าเวลาอยากจะติดต่อใครแล้วหาตัวยากเย็นมันรู้สึกยังไง“แกนี่จริงๆเลยนะ...จะให้พี่แกอยู่ในสภาพที่เน่าไปกว่านี้อีกสักเท่าไรถึงจะยอมบอกว่าอิงอยู่ที่ไหน”“อืม...ขอดูอีกสักพักแล้วกัน”อัญญาก็ไม่รู้ว่าเธอจะปล่อยให้พี่เธอเป็นแบบนี้ไปจนถึงเมื่อไรแต่ถ้าหากพี่ชายเธอรู้ใจตัวเองเร็วเธอก็อาจจะบอกกับเขาเร็วก็ได้“แล้วอิงเป็นไงบ้างช่วงนี้ฉันไม่ค่อยได้ติดต่ออิงเลยมัวแต่ช่วยงานพี่กร”“อารมณ์ดีขึ้นเยอะนะแต่ก็แพ้ท้องหนักอะ”“อยู่ที่นั่นน่าจะเหงาเนอะ”“เห็นว่าว่างๆก็อ่านหนังสือฟังเพลงแก้เบื่อมั้ง”“นี่ไว้เราหาเวลาว่างไปหาอิงกันไหม”ผักหวานรู้ว่าคนท้องมักจะอารมณ์แปรปรวนไปอยู่ต่างบ้านต่างเมืองอาจจะเหงาหดหู่ได้เธอเลยอยากหาเวลาว่างไปหา“ก็ดีเหมือนกันนะ”อัญญาเห็นด้วยกับเพื่อนเธอแต่ครั้งนี้คงยังรีบไปไมได้เพราะหากไปบ่อยเกินเดี๋ยวพี่ชายของเธอจะสงสัยเอาได้บ้
ญี่ปุ่น“หืม....หมอชินเหรอคะ??”น้ำอิงที่กำลังนั่งพิงหมอนอ่านหนังสืออยู่ในห้องเมื่อได้ยินว่าข้างนอกมีเสียงคนเดินเข้ามาเธอจึงเลื่อนประตูออกมาดู“..ฉันเอง..”“คุณอาชน์..”น้ำอิงผงะถอยกรูดสองสามก้าวตกใจกับคนตรงหน้าที่เขาตามหาเธอเจอได้อย่างไร อัศวินโผเข้ากอดหญิงสาวด้วยความคิดถึง“ปล่อยอิงค่ะ”น้ำอิงพยายามดันตัวชายหนุ่มให้ออกห่างจากตัวเธอแต่ดูท่าว่าจะยากเสียเหลือเกิน“ไม่..”อัศวินกระชับกอดหญิงสาวแน่นขึ้นกว่าเดิม“ปล่อย...”“ฉันขอโทษ..”ชายหนุ่มพ่นคำพูดด้วยเสียงแผ่วเบาข้างหูของหญิงสาวที่เขากอดอยู่ น้ำอิงชะงักงันไม่คิดว่าจะได้ยินคำพูดนี้จากปากของเขาคนที่หยิ่งทรนงในศักดิ์ศรีตัวเองคนที่เอาแต่ใจคนเดิมไม่เคยมีคำพูดนี้ให้เธอ“ขอโทษที่ฉันชอบบังคับจิตใจเธอเพราะฉันมันเห็นแกตัวอยากเก็บเธอเอาไว้ใกล้ๆแต่ก็ไม่มีวิธีที่ดีกว่าการบังคับ”“มาที่นี่เพียงเพื่อจะขอโทษใช่ไหมคะ..”น้ำอิงอยากจะถามเขาให้แน่ใจว่าเขามาหาเธอเพียงเพราะเรื่องแค่นี้ใช่หรือไม่หากเป็นอย่างที่อัญญาบอกกับเธอจริงมันจะต้องมีคำพูดที่มากกว่านี้แน่นอนซึ่งเธอเองก็อยากจะได้ยินคำนั้นจากปากของเขาอยู่ลึกๆเหมือนกัน“คือ..”“อิงให้อภัยคุณค่ะแล้วคุณก็ก