วันต่อมา
“อ้าวอิงไปเดินเล่นมาเหรอ”
อัญญานั่งเล่นมือถืออยู่ที่โซฟาที่ห้องโถงเห็นน้ำอิงเดินเข้ามาก็คิดว่าเพื่อนเธอน่าจะตื่นแต่เช้าก่อนที่เธอจะตื่นไปเดินเล่นเป็นแน่
“อืม...ขอตัวอาบน้ำก่อนนะ”
“อืมม..”
น้ำอิงเดินเข้ามาในบ้านในช่วงสายเธอคิดว่าอัญญายังไม่ตื่นเสียอีกเมื่อได้ยินว่าเพื่อนเธอทักแบบนั้นก็เออออไปเลยตามเลยดีที่อัญญาไม่ได้สงสัยอะไร
สิบโมงเช้า
“ไปอิง”
อัญญาเปิดประตูเข้ามาเรียกเพื่อนเธอให้ออกไปข้างนอกเพราะแดเนียลบอกกับแม่เธอว่าวันนี้จะพาพวกเธอไปล่องเรือเล่นกัน
“ไปไหน”
น้ำอิงทำหน้าสงสัย
“พี่แดเนียลจะพาเราไปนั่งเรือเล่นกัน”
“ไม่ไปได้ไหม”
“เป็นอะไรรึเปล่า”
“อยากนอนรู้สึกปวดหัวแปลกๆ”
“อืม..ก็ได้งั้นนอนพักเถอะ”
อัญญามีสีหน้าผิดหวังนิดหน่อยแต่เมื่อเพื่อนเธอไม่อยากจะไปเธอก็ไม่บังคับ
น้ำอิงรู้ว่าหากไปเธอจะต้องเจอกับอัศวินอีกแล้วมันจะไปสนุกอะไรในเมื่อไปแล้วเธอก็มีแต่ความกังวล
ท่าเรือ
“หนูอิงล่ะ”
กิ่งเกสรเห็นเพียงผักหวานกับลูกสาวของเธอเดินตรงมาที่ท่าเรือเท่านั้นแปลกใจว่าทำไมจึงไม่มีน้ำอิงเดินมาด้วย
“อิงไม่ไปค่ะแม่เห็นบอกอยากนอนพัก”
“อ้าวเหรอ...โอเคงั้นเราลงเรือกันเถอะ”
“แล้วพี่อาชน์ล่ะคะพี่ลอบซ์”
อัญญาที่กำลังเตรียมจะลงเรือเธอแอบสังเกตว่าไม่มีพี่ชายของเธออยู่ด้วยจึงหันไปถามคนสนิทที่แทบจะตัวติดกันตลอดว่าเจ้านายของเขาไปไหน
“คุณอาชน์อยากให้คุณอายเที่ยวให้สนุกครับ”
“อ๋อ..งั้นดีเลยค่ะ”
อัญญาพยักหน้ารับเข้าใจทั้งฉีกยิ้มออกมาที่เขาไม่มาก็ดีกับเธอเหมือนกัน
“นี่คุณ...อยู่ห่างๆผมเอาไว้นะเดี๋ยวจะโดนจับถ่วงน้ำไม่รู้ด้วย”
เมื่อออกเรือมากันได้พักใหญ่ทุกคนต่างก็หามุมนั่งชมบรรยากาศรอบๆเป็นของตัวเองปิดกับแดเนียลที่จ้องแต่จะหาเรื่องผักหวาน
“พูดงี้อยากปากแตกเหรอคะ??”
หญิงสาวตอกกลับด้วยรอยยิ้มจนชายหนุ่มหลี่ตามองเธอด้วยสายตาเจ้าเล่ห์เล็กน้อยที่ดูท่าแล้วเธอจะเป็นคนไม่ยอมคนเลยจริงๆ
“เมื่อไรคู่นั้นเค้าจะเลิกแยกเขี้ยวใส่กันคะคุณแม่”
อัญญาเดินเข้ามาคุยกับแม่ของเธอที่นั่งอยู่ที่หัวเรือ
“แรกๆก็แยกเขี้ยวแบบนี้แหละ”
“หมายความว่าไงคะ”
อัญญาไม่เข้าใจความหมายที่แม่ของเธอพูด
“อ๋อ..เปล่ามาถ่ายรูปให้แม่หน่อยสิ”
“ได้ค่ะ”
กิ่งเกสรคิดว่าสักวันลูกสาวของเธอก็ต้องเข้าใจในสิ่งที่เธอได้พูดวันนี้ว่าอนาคตอะไรจะเกิดขึ้นต่อไป
“เฮ้อ....”
น้ำอิงเดินเล่นริมชายหาดด้วยใจที่เหม่อลอยเธอมองไปที่ทะเลอันแสนกว้างยิ่งมองว่ามันกว้างในใจของเธอก็ยิ่งรู้สึกว้าเหว่และจู่ๆก็คิดถึงแม่ของเธอมาเสียอย่างนั้นอยากจะรู้ว่าหากแม่เธอรู้ว่าเธอทำตัวอย่างไรแม่เธอจะผิดหวังหรือเปล่าหากเลือกได้เธอจะทำแบบที่ตัดสินใจของานจากมะลิวันนั้นหรือเปล่าตอนนี้ความคิดมากมายของเธอทันวนเวียนอยู่ในหัวอย่างไม่หยุดนิ่ง
“ทำไมไม่ไปนั่งเรือเล่นกับเพื่อนๆเธอล่ะ”
“คุณอาชน์....คุณไม่ได้ไปกับพวกเค้าเหรอคะ??”
น้ำอิงหลุดจากภวังค์เมื่อได้ยินเสียงอันคุ้นเคยที่ทำให้เธอต้องตกใจ
“เห็นหน้าฉันจะต้องตกใจขนาดนั้นเลยหรือไง”
อัศวินรู้สึกว่าเขาเข้าใกล้เธอทีไรเธอจะมองเขาเป็นเหมือนอะไรที่มันไม่น่าอยู่ใกล้ตลอดเขาชักจะไม่ค่อยพอใจกับสิ่งนี้เสียแล้ว น้ำอิงตัดสินใจเดินหนีจากตรงที่เธอยินไปอย่างรวดเร็ว
“จะไปไหน”
อัศวินมีหรือจะปล่อยให้เธอเดินหนีเขาไปดื้อๆ
“กลับไปที่บ้านค่ะ”
“ฉันมันไม่น่าอยู่ใกล้ขนาดนั้นเลยหรือไงจะบอกอะไรให้ผู้หญิงแทบทุกคนไม่อยากที่จะปฏิเสธฉัน”
ด้วยความไม่พอใจของชายหนุ่มจึงหลุดโพร่งความในในจออกมา
“คุณก็ไปหาผู้หญิงพวกนั้นสิคะ”
น้ำอิงหยุดชะงักการเดินทั้งยังหันมาจ้องหน้าเขาเขม็งบอกสิ่งที่เธอคิดอยู่ในใจเหมือนกันแล้วจึงหันหลังกลับเดินเข้าบ้านไป อัศวินรู้สึกเจ็บจี๊ดในอกเล็กน้อยจากถ้อยคำของหญิงสาวเขาไม่เคยมีอาการแบบนี้มาก่อนหากเป็นคนอื่นพูดเขาคงเฉยๆแต่นี่เป็นเธอหญิงสาวที่เขาพยายามเข้าหาแอบบอกใจตัวเองทุกวันว่าให้เบื่อเธอโดยเร็วแต่ดูท่าใจมันจะทำตรงหันข้ามกลับเรียกหาเธอหนักขึ้นทุกวัน
สองวันต่อมา
ตั้งแต่กลับมาจากเกาะอัศวินก็ทำตัวห่างเหินหญิงสาวให้เธอได้รู้สึกว่าเวลาที่เขาไม่สนใจมันเป็นอย่างไรแต่ดูเหมือนเธอจะชอบเสียมากกว่าจึงทำให้เขานั่งหัวเสียไม่ได้งานมาสองวันแล้ว
“อายดูรีบจะไปไหนเหรอ”
อัศวินเห็นว่าพึ่งจะเลิกงานแต่น้องสาวของเขาดูรีบจะกลับเสียเหลือเกินจึงเข้ามาถามลอบซ์ว่าน้องของเขาจะรีบไปไหน
“เห็นว่าจะไปฉลองงานวันเกิดคุณอิงน่ะครับ”
“อ่อ..อืม...”
ชายหนุ่มพยักหน้ารับทั้งสีหน้ายังดูมีความครุ่นคิดอะไรเล็กน้อย
“มีอะไรหรือเปล่าครับ”
“เปล่าหรอกฉันกลับก่อนนะ”
ลอบซ์มองเจ้านายของเขาด้วยสีหน้าสงสัยหากเขาเดาไม่ผิดเรื่องที่เจ้านายของเขาดูรีบๆคงจะไม่วายเป็นเพราะเรื่องวันเกอดน้ำอิงเป็นแน่
ร้านดอกไม้
“เลือกแบบได้เลยค่ะหรืออยากได้แบบไหนบอกได้นะคะ”
หญิงสาวหน้าหวานเจ้าของร้านดอกไม้เดินมาต้อนรับชายหนุ่มด้วยตัวเองเมื่อเห็นว่าเขาเดินเข้าร้านมาอย่างเงอะๆงะๆด้วยความที่ไม่เคยเข้าร้านแบบนี้
“เอ่อ..ผมจะให้เธอในวันเกิดครับผมเองก็เลือกไม่เป็น”
อัศวินหน้าเจื่อนเล็กน้อยเขาเองก็เลือกไม่เป็นและไม่รู้ว่าผู้หญิงจะชอบอะไรแบบไหน
“คนพิเศษใช่ไหมคะ..”
หญิงสาวถามคนเป็นลุกค้าด้วยสีหน้าสงสัยว่าคนๆนั้นที่เขาจะซื้อดอกไม้ให้เป็นคนใกล้ชิดสนิทแค่ไหนหรือแค่คนรู้จัก
“คือ..เธอเป็นเลขาผมน่ะครับ.”
“ปกติไม่เคยมาเลือกซื้อดอกไม้เองเลยใช่ไหมคะ”
คำถามที่หญิงสาวถามเพราะดูลักษณะแล้วชายหนุ่มคงน่าจะไม่เคยเข้าร้านดอกไม้เองด้วยซ้ำหรือท่าทางจะไม่เคยคิดจะซื้อดอกให้ใครด้วยจึงดูลังเลเป็นพิเศษทั้งที่คนแต่งตัวภูมิฐานอย่างเขาและมาดนักธุรกิจจะมีน้อยเรื่องที่ลังเลนอกจากเรื่องนั้นมันจะส่งผลต่อความรู้สึกที่อ่อนโยนมากๆเธอจึงทายได้ว่าเธอคนนี้ที่ชายหนุ่มจะซื้อดอกไม้ให้ต้องไม่ใช่แค่เลขาธรรมดาแน่นนอน
“ครับ”
“เข้าใจแล้วค่ะเดี๋ยวฉันจัดการให้นะคะ”
หญิงสาวยิ้มอ่อนให้ชายหนุ่มเล็กน้อยแล้วเธอจึงรีบไปจัดการจัดช่อดอกไม้ให้ชายหนุ่ม
ร้านอาหาร“ของขวัญสุขสันต์วันเกิดนะแกขอให้มีแฟนหล่อๆรวยๆ”สามสาวนั่งทานอาหารกันอยู่ที่ร้านอาหารหรูโดยมื้อนี้อัญญาและผักหวานเป็นคนออกค่าใช้จ่ายทั้งหมดคนละครึ่งเนื่องจากเป็นวันเกิดของเพื่อนเธอผักหวานส่งกล่องของขวัญกล่องไม่ใหญ่มากให้น้ำอิงทั้งยังอวยพรเสียงดังฟังชัด น้ำอิงไม่ได้อยากได้พรข้อนี้เท่าไรอวยพรให้เธอไม่มีอุปสรรคในชีวิตจะดีกว่า“นี่เค้ก...อยากได้อะไรก็ขอเอาละกัน”อัญญาจุดเทียนในก้อนเค้กสีชมพูหวานมีรูปปั้นเหมือนเจ้าของวันเกิดอยู่ตรงกลางพร้อมยื่นให้เพื่อนเธอขอพรก่อนจะเป่า น้ำอิงหลับตาขอพรก่อนที่จะเป่าเทียนให้ดับไปบ้านอัศวิน“เค้กที่สั่งได้แล้วครับนาย”“อืม..ออกไปได้”“ครับ”อัศวินสั่งเค้กจากร้านดังมาไว้ให้หญิงสาวตอนนี้เขาเดินวนไปวนมาตั้งตารอเวลาที่เธอจะกลับมาอย่างใจจดใจจ่ออย่างเป็นกังวลว่าเขาจะพูดอวยพรวันเกิดเธออย่างไรดีแกร๊กก“มาแล้วเหรอ..”“ค่ะ”“มานี่สิ”เมื่อเห็นส่าหญิงสาวเปิดประตูเข้ามาพร้อมของพะลุงพะลังเขาก็รีบเข้าไปหยิบจากมือของเธอวางเอาไว้ก่อนพร้อมพาเธอมานั่งหน้าก้อนเค้กสีขาวที่เขาวางอยู่บนโต๊ะ“อะไรคะ”น้ำอิงงงเล็กน้อยที่ชายหนุ่มดูรุกรี้รุกรนเป็นพิเศษ“วันเกิดเธอไง”น้ำอ
“นั่นเลขาคุณนี่คะ”“เอ่อ..คุณอาชน์”น้ำอิงมองไปยังผู้หญิงที่ควงแขนมากับผู้ชายเข้ามาใหม่เมื่อสายตาปะทะกับทั้งสองตัวของเธอชาวาบไม่คิดว่าจะเจอพวกเขาทั้งคู่ที่นี่มันเหมือนยิ่งตอกย้ำสถานะของเธอว่าเธอเป็นเพียงแค่คนในความลับของเขาเท่านั้นเป็นสิ่งที่เธอไม่ได้อยากเลือกตั้งแต่แรกอีกต่างหาก“อายอยู่ที่นี่เหรอคะ”พลอยไพรินเห็นว่าน้ำอิงนั่งรออยู่ด้านนอกแสดงว่าเธอจะต้องมากับอัญญาเป็นแน่“ใช่ค่ะอายลองชุดอยู่ด้านในค่ะ”น้ำอิงชี้มือไปทางด้านในห้องใหญ่ที่มีพนักงานยืนรออยู่หน้าประตูพร้อมก้มหน้าเธอเลือกที่จะไม่มองทั้งสองให้บาดตาให้ตัวเองรู้สึกหน่วง“อ๋อ..พอดีเลยงั้นเราไปข้างในกันดีกว่าค่ะอาชน์”เมื่อรู้ดังนั้นพลอยไพรินจึงรีบดึงมือของอัศวินเข้าไปด้านในโดยที่เจ้าตัวก็ไม่ได้ขัดขืนอะไรชายหนุ่มมองหญิงสาวด้วยหางตาเล็กน้อยเขาดูสีหน้าของเธอตอนนี้ก็พอจะเดาอารมณ์ออกว่าเธอคงจะไม่ได้อยากมาอยู่ในสถานการณ์แบบนี้สักเท่าไรเขาเองก็เหมือนกันแต่ก็ต้องทำไปเพราะแค่หน้าที่เท่านั้นสิบนาทีต่อมา“เรียบร้อยแล้วใช่ไหม”“อืม...พอดีไม่มีอะไรต้องแก้เรากลับกันเถอะ”“อืมม...”ยังไม่ทันที่จะลุกยืนเต็มที่น้ำอิงก็ถึงกับเข่าทรุดเพราะหน้า
“แม่ว่าเรารู้อยู่แก่ใจนะเรื่องเรากับหนูอิงมันยังไง”กิ่งเกสรรู้ดีว่าลูกชายของเธอรู้ว่าสิ่งที่มันมากกว่าที่เธอพูดออกไปมันคืออะไรเธอไม่เชื่อว่าลูกชายของเธอจะปล่อยให้ใครตามสืบเรื่องตัวเองได้ง่ายๆถ้าไม่จงใจในเมื่อเรื่องมันมาถึงขนาดนี้แล้วเธอก็ขอถามสิ่งที่เธอสงสัยมานานว่าลูกชายของเธอกับน้ำอิงความสัมพันธ์ของทั้งสองเป็นยังไงกันแน่เพราะเธอจับสังเกตุได้ตั้งแต่วันที่น้ำอิงมานอนที่บ้านแล้วลูกชายของเธอแอบเข้าห้องของน้ำอิงแถมคืนที่ไปนอนที่เกาะยังพาน้ำอิงออกไปข้างนอกดึกๆดื่นๆกลับมาก็เช้าอีกต่างหากเรื่องนี้เธออยากจะฟังจากปากลูกชายของเธอเองอัศวินตั้งใจจะบอกเรื่องนี้กับแม่ของเขาอยู่แล้วเขาจึงเล่าเรื่องราวทั้งหมดให้แม่ของเขาฟัง...จนถึงเรื่องที่ตอนนี้น้ำอิงตั้งท้องอีกด้วย“อาชน์...นี่แม่จะเป็นลมทำไมถึงได้ทำนิสัยแบบนี้ห้ะ”กิ่งเกสรฟังเรื่องราวทั้งหมดเธอแทบจะลมจับที่ดูลูกชายเธอเหมือนจะโหดร้ายกับน้ำอิงเสียเหลือเกินยิ่งฟังก็ยิ่งสงสารน้ำอิงหากหญิงสาวไม่ท้องกับลูกชายของเธอตัวเธอเองจะเป็นคนช่วยน้ำอิงให้พ้นไปจากชีวิตลูกชายของเธอเสียเองแต่ก็แอบแปลกใจอยู่ไม่น้อยเมื่อรู้สึกว่าลูกชายของเธอจะมีนิสัยบางอย่างที่เปลี
“เรื่องโอบแกไม่ต้องเป็นห่วงฉันสัญญาว่าน้องแกจะไม่เป็นอะไรแล้วฉันจะดูแลโอบแทนแกเอง”อัญญารู้ว่าการที่น้ำอิงไม่หนีไปจากพี่ชายของเธอก็เพราะน่าจะเนื่องด้วยกลัวคำขู่ของพี่ชายเธอตอนนี้เธอเชื่อว่าเรื่องทุกอย่างถึงหูแม่ของเธอแล้วโอบจะไม่เป็นอะไรอีกอย่างตอนนี้ความรู้สึกของพี่ชายเธอที่มีต่อน้ำอิงเธอก็คิดว่ามันเปลี่ยนไปเช่นกันแต่แค่พี่ชายของเธอยังหาคำตอบให้ตัวเองไมได้เท่านั้น“อืม...ฮึก..ขอบ..ใจนะ..”น้ำอิงได้ยินคำนี้เธอก็โล่งใจไปเปราะหนึ่งจึงยอมล้มตัวนอนพักบนเตียงโดยดีแต่ก็ยังมีอาการสะอื้นอยู่บ้างเล็กน้อยหลังจากที่น้ำอิงหลับไปแล้วสองสาวก็มานั่งคุยกันอยู่ที่หน้าบ้านรับลมชมวิวของแม่น้ำด้วยสีหน้าที่เป็นกังวลกันนิดหน่อย“พี่อาชน์นี่สุดไปเลยนะแก”ผักหวานไม่รู้จะสรรหาคำพูดไหนมาอธิบายในความเป็นพี่ชายของเพื่อนเธอเลยจริงๆเป็นคนที่ค่อนข้างจะแปลกคนกับคนทั่วไปเสียเหลือเกิน“ถ้าวันนั้นฉันจัดการเรื่องเงินได้เรื่องนี้ก็คงไม่เกิด”อัญญาคิดถึงเรื่องในอดีตหากวันที่เพื่อนเธอต้องการเงินแล้งเงินเธออยู่ในมือของเธอโดยไม่ต้องขออนุญาตใครเรื่องก็คงไม่เป็นแบบนี้“มันอาจจะเป็นเรื่องที่ฟ้ากำหนดมาแล้วก็ได้”ผักหวานคิดในอีก
วันต่อมาบ้านใหญ่“คุณพ่อ”อัศวินเข้ามาที่บ้านใหญ่ของเขาในช่วงเช้าหน้าตาของเขาหมองคล้ำเสียยิ่งกว่าคนโดนของเพราะทั้งไม่ได้นอนและทั้งดื่มหนักจนหมดมาดนักธุรกิจ“ว่าไงลูกชายตัวดี”เอื้อการมองลูกชายของตนที่เดินเป็นศพตายซากเข้ามาหาทั้งกลิ่นตัวยังฟุ้งไปด้วยกลิ่นแอลกอฮอลล์คละคลุ้งเป็นบุญตาเสียจริงที่ได้เห็นลูกชายของเขาโดนผู้หญิงทิ้งแต่ก็ไมได้เอ่ยคำทำร้ายจิตใจอะไรขึ้นมา“คุณพ่อพึ่งมาจะไปไหนกันเหรอครับ”อัศวินมองกระเป๋าที่วางอยู่หน้าบ้านพร้อมรถตู้แสดงว่าต้องมีคนจะออกไปเที่ยวที่ไหนกันแน่“พ่อจะพาแม่เรากับน้องไปเที่ยวที่ญี่ปุ่นน่ะทริปนี้แม่เค้าอยากไปนานแล้ว”“อ่อ..ครับ...นี่ทิ้งงานไปเที่ยวแบบนี้บอกลอบซ์หรือยัง”อัศวินเหลือบสายตามองน้องสาวของเขาที่กำลังขึ้นไปนั่งรออยู่ในรถตู้เพราะไม่อยากคุยกับพี่ชายของเธอ ไร้การตอบรับจากอัญญาทั้งเธอยังหันหน้าหนีพี่ชายของเธออีกด้วย“น้องคงโกรธเราเรื่องหนูอิงน่ะ”กิ่งเกสรเดินออกจากบ้านตรงเข้ามาหาลูกชายของเธอก่อนที่จะเดินไปประชิดตัวอัญญาขวางเอาไว้ก่อนรู้ว่าลูกเธอจะต้องเข้าไปดุคนเป็นน้องอีกแน่“แล้วคุณแม่จะไปกี่วันครับ”“สักอาทิตย์เดี๋ยวก็กลับแล้วล่ะแล้วเรื่องหนูอิงเจ
ครู่ต่อมา“นี่หมอชินอิจิโร่หมอชินเป็นหมอสูติจะเป็นคนมาดูแลเราเป็นระยะนะหนูอิงเค้าเป็นลูกชายเพื่อนพ่อเอง”เอื้อการนัดชินอิจิโร่มาที่นี่เพื่อแนะนำให้รู้จักกับน้ำอิงเพราะเขาจะวานให้หมอชินมาดูแลน้ำอิงที่นี่เป็นระยะในระหว่างที่น้ำอิงอยู่ที่นี่หมอชินเป็นลูกชายของชินซาคุเพื่อนเอื้อการที่ทำธุรกิจด้วยกันที่อิตาลีที่นี่เป็นบ้านของชินซากุที่ซื้อเอาไว้นานแล้วเอื้อการเห็นว่าเวลานี้เขามีเรื่องจำเป็นที่จะต้องขอใช้ซึ่งชินซาคุก็ไม่ได้มีปัญหาอะไรทั้งยังบอกให้อยู่เหมือนบ้านตัวเองและยังให้นัดเจอกับลูกชายของเขาเพื่อให้มาดูแลคนที่อยู่ที่นี่ด้วย“ยินดีที่ได้รู้จักนะครับ”หมอชินก้มหัวลงเล็กน้อยทักทายหญิงสาว“ยินดีที่ได้รู้จักเช่นกันค่ะ”น้ำอิงทักทายหมอหนุ่มด้วยรอยยิ้ม“คุณเป็นพ่อฉันก็ต้องเป็นแม่สินะ”เมื่อครู่กิ่งเกสรได้ยินสามีของเธอแทนตัวเองว่าพ่อกับน้ำอิงเธอจึงขอแทนตัวเองว่าแม่บ้าง น้ำอิงเกิดอาการเกร็งๆกับสรรพนามที่เปลี่ยนไปของทั้งคู่เล็กน้อย“งั้นหนูอิงเรียกน้าว่าแม่เลยแล้วกันนะเหมือนที่อายเรียกไง”“เอ่อ...ค่ะ”อัญญาหันมายิ้มให้เพื่อนเธออย่างมีเลศนัยเพราะรู้ว่าพ่อกับแม่ของเธอคิดอะไรกันอยู่อาทิตย์ต่อมา“พ
สนามบิน“เที่ยวให้สบายใจนะลูกสบายใจเมื่อไรก็ค่อยกลับมา”“ค่ะคุณพ่อ”สองพ่อลูกกอดกันอยู่ที่สนามบินท่ามกลางผู้คนที่เดินขวักไขว่ไปมาวันนี้ภัคดนัยมาส่งลูกสาวของเขาตามที่เธอขอว่าอยากจะไปเที่ยวเรื่องนี้เขาเห็นดีเห็นงามด้วยที่พลอยไพรินจะเดินทางไปญี่ปุ่นเขาหวังว่าการไปเที่ยวครั้งนี้จะทำให้ลูกสาวของเขาลืมเรื่องที่ช้ำใจในตอนนี้ได้“อย่าลืมว่าพ่ออยากเห็นรอยยิ้มที่สดใสของลูกอีกครั้งนะ”“ค่ะอยู่ทางนี้ดูแลสุขภาพด้วยนะคะ”ตอนนี้พลอยไพรินพอจะทำใจได้บ้างแล้วเพียงอยากหาที่สงบๆอยู่กับตัวเองให้พ้นจากข่าวคราวที่เธอยกเลิกงานแต่งเธอจึงเลือกที่จะไปพักผ่อนที่ญี่ปุ่นคนเดียวหวังว่าการเที่ยวครั้งนี้จะเยียวยาหัวใจของเธอให้กลับมาดีขึ้นในเร็ววันเหมือนกันญี่ปุ่น“อุ้บ...แหวะ...อุบบ..เฮ้ออออ...ทำไมไม่สงสารแม่บ้างเลยคะเจ้าตัวเล็กกินอะไรไปเท่าไรก็ออกมาหมดเลยแบบนี้จะได้สารอาหารบ้างไหมคะ”น้ำอิงนั่งฟุบลงกับพื้นมือเรียวของเธอลูบหน้าท้องพร้อมส่งเสียงคุยเบาๆอาการแพ้ท้องของเธอเริ่มจะหนักขึ้นทุกวันๆจนเธอนั้นซูบลงไปเยอะ“เป็นยังไงบ้างครับคุณอิง”“หมอชิน..”“นี่ท่าทางจะแพ้หนักใช่ไหมครับ”หมอชินเห็นสีหน้าของหญิงสาวก็พอจะดูอาการ
“ไม่ต้องสงสาร”อัญญาพูดกับเพื่อนเธอด้วยแววตามุ่งมั่น“อันนี้ความแค้นส่วนตัวหรือเปล่าเนี่ย”ผักหวานแอบอมยิ้มมองหน้าเพื่อนเธออย่างมีเลศนัย“อืมก็นิดหน่อยหมั่นไส้มานาน”อัญญายอมรับว่าเรื่องที่พี่ชายเธอหาน้ำอิงไม่เจอเสียทีเธอก็แอบสะใจอยู่เหมือนกันจะได้รู้เสียบ้างว่าเวลาอยากจะติดต่อใครแล้วหาตัวยากเย็นมันรู้สึกยังไง“แกนี่จริงๆเลยนะ...จะให้พี่แกอยู่ในสภาพที่เน่าไปกว่านี้อีกสักเท่าไรถึงจะยอมบอกว่าอิงอยู่ที่ไหน”“อืม...ขอดูอีกสักพักแล้วกัน”อัญญาก็ไม่รู้ว่าเธอจะปล่อยให้พี่เธอเป็นแบบนี้ไปจนถึงเมื่อไรแต่ถ้าหากพี่ชายเธอรู้ใจตัวเองเร็วเธอก็อาจจะบอกกับเขาเร็วก็ได้“แล้วอิงเป็นไงบ้างช่วงนี้ฉันไม่ค่อยได้ติดต่ออิงเลยมัวแต่ช่วยงานพี่กร”“อารมณ์ดีขึ้นเยอะนะแต่ก็แพ้ท้องหนักอะ”“อยู่ที่นั่นน่าจะเหงาเนอะ”“เห็นว่าว่างๆก็อ่านหนังสือฟังเพลงแก้เบื่อมั้ง”“นี่ไว้เราหาเวลาว่างไปหาอิงกันไหม”ผักหวานรู้ว่าคนท้องมักจะอารมณ์แปรปรวนไปอยู่ต่างบ้านต่างเมืองอาจจะเหงาหดหู่ได้เธอเลยอยากหาเวลาว่างไปหา“ก็ดีเหมือนกันนะ”อัญญาเห็นด้วยกับเพื่อนเธอแต่ครั้งนี้คงยังรีบไปไมได้เพราะหากไปบ่อยเกินเดี๋ยวพี่ชายของเธอจะสงสัยเอาได้บ้