[ทำไร่ + ถูกเนรเทศ + เชี่ยวชาญทั้งแพทย์และยาพิษ + มิติพิเศษ + นิยายสุดมัน + นางเอกเก่ง + โรแมนติกหวานซึ้ง] เมื่อตื่นขึ้นมาก็ทะลุมิติมาอยู่ในยุคโบราณ ถูกบังคับให้แต่งงานแทนคนอื่น และกำลังจะถูกเนรเทศ ไม่เป็นไร นางมีมิติพิเศษที่เก็บเสบียงได้ไม่จำกัด! บิดาใจร้ายจะตัดขาดความสัมพันธ์พ่อลูกหรือ? เก็บหนังสือตัดขาดไว้ให้ดี อย่ามาร้องขออ้อนวอนทีหลังล่ะ! ต่อไปจะต้องมีชีวิตที่แสนรัดทดหรือ? ไม่ต้องรีบร้อน เราก็ขนสมบัติของพ่อบัดซบไปให้หมดก่อนแล้วค่อยไปก็ยังไม่สาย! ตระกูลสามีโดนหมายยึดทรัพย์สินหรือ? ไม่ต้องกลัว เราก็ขนทรัพย์สินของบ้านสามีออกมาให้หมดก่อน ปล่อยให้ฮ่องเต้สุนัขได้เจอแต่ความว่างเปล่า! แม้แต่ทรัพย์สมบัติในคลังหลวงของฮ่องเต้ก็ขนไปให้หมด เงินสักแดงก็อย่าได้เหลือทิ้งไว้! ถูกลอบสังหารระหว่างถูกเนรเทศหรือ? นางมีเข็มเงินอาบยาพิษอยู่ในมือ หากพวกเจ้ามาก็อย่าหวังว่าจะรอดกลับไปได้! มีมิติร้านค้าสมัยใหม่อยู่ในมือ พวกข้าจะเดินเฉิดฉายไปยังแดนเนรเทศอย่างไม่หวาดหวั่น ดินแดนเนรเทศที่ยากจนถึงขนาดที่นกยังไม่ยอมถ่ายมูลทิ้งไว้ พวกข้าจะสร้างเมืองหลวงใหม่ให้เจริญรุ่งเรืองเอง! ว่าไงนะ ฮ่องเต้สุนัขส่งทหารมาบุกเมืองหรือ? สู้กลับไป! นางจะชำระบัญชีทั้งเก่าและใหม่ให้หมด จนฮ่องเต้สุนัขไม่มีแม้แต่กางเกงในเหลือให้ใส่เลย!
Lihat lebih banyakทหารผู้นั้นถูกคำพูดของเจี่ยนอันอันตอกจนหน้าหงาย อ้าปากพูดไม่ออกเขาเป็นเพียงทหารเล็กๆ ผู้หนึ่ง ใต้เท้าต้องการพบพวกเขาเพื่อหารือเรื่องอันใด ย่อมไม่บอกให้เขาล่วงรู้อยู่แล้วเขาจึงทำหน้าเจื่อน พลางกล่าววิงวอน “แม่นางเจี่ยนโปรดอย่าได้กลั่นแกล้งเราเลย เราเพียงทำตามหน้าที่เท่านั้น”“ส่วนใต้เท้าจะหารือเรื่องสำคัญประการใด เราคงมิอาจล่วงรู้ได้”เจี่ยนอันอันคิดจะปฏิเสธอีก กลับได้ยินฉู่จวินสิงกล่าวตอบ “เราไปดูก่อนแล้วค่อยว่าเถิด”“ก็ได้” เจี่ยนอันอันจึงยอมรับปากโดยง่ายรถม้าตามหลังทหารกลุ่มนั้น มุ่งไปทางจวนราชเลขาธิการทหารเหล่านี้ล้วนเคยไปหมู่บ้านชิงสุ่ย แต่ไม่เคยพบหน้าเจี่ยนอันอันพวกเขาตามหาแทบจะพลิกทั่วเมืองอินเป่ย ก็ยังไม่พบแม้แต่เงาของเจี่ยนอันอันเดิมคิดว่าคงจะคว้าน้ำเหลวกลับไปแน่แล้ว จู่ๆ กลับมาพบฉู่จวินสิงและเจี่ยนอันอันที่นี่ได้ดีที่ทั้งคู่ยอมไปพบใต้เท้าแต่โดยดี หาไม่พวกเขาคงไม่รู้จะกลับไปรายงานอย่างไรไม่นานพวกเขาก็มาถึงจวนราชเลขาธิการ เจี่ยนอันอันและฉู่จวินสิงลงจากรถม้า เดินตามเหล่าทหารเข้าไปในจวนพ่อบ้านเห็นพวกเขากลับมา ซ้ำมีคนติดตามมาข้างหลัง คือคนที่ใต้เท้าต้องการพบตัว
เจี่ยนอันอันรับเอาโฉนดที่ดินไปดูแวบหนึ่ง กำลังคิดจะหยิบพู่กันจากห้วงมิติออกมา พลันได้ยินซินเจ๋อกล่าว “ข้ามีพู่กันอยู่”กล่าวพลาง วิ่งเข้าไปในบ้าน นำเอาพู่กันออกมาเจี่ยนอันอันรับพู่กันมาแล้ว เขียนชื่อตนเองลงในใบโฉนดซินเจ๋อจดจำชื่อของเจี่ยนอันอันไว้ แล้วทั้งคู่ต่างก็ประทับลายนิ้วมือลงในโฉนดซ้ำอีก เจี่ยนอันอันจึงนำใบโฉนดไปเก็บไว้ในห้วงมิตินับว่าน่าดีใจ เพราะนางใช้เงินเพียงสองร้อยตำลึง ก็สามารถซื้อคฤหาสน์หลังใหญ่นี้มาได้ยังนับว่าได้กำไรเสียด้วยซ้ำซินเจ๋อก็ดีใจเช่นกัน เขาไม่เพียงได้พบหมอเทวดาหญิงอีกครั้ง ยังได้รู้ชื่อของนางอีกเขากล่าวด้วยความดีใจ “หมอเทวดาหญิง ท่านกับคุณชายท่านนี้ ต่อไปจะมาพำนักที่นี่ใช่หรือไม่?”เจี่ยนอันอันโบกมือ “ข้าคงจะไม่อยู่ แต่ซื้อให้พี่น้องของสามีข้าต่างหาก”“อ้อ” ซินเจ๋อรู้สึกผิดหวังเล็กน้อย เพราะคิดว่าเจี่ยนอันอันจะมาอยู่เอง เผื่อวันหน้าเขามีอาการปวดหัวตัวร้อนอย่างไร จะได้มาหาเจี่ยนอันอัน ให้นางช่วยรักษาบ้างและเขายังไม่ตายใจที่จะถามต่อ “เช่นนั้นขอถามท่านหมอเทวดาหญิง ท่านพักอาศัยอยู่ที่ใด?”“เผื่อวันหน้ามีโรคภัยไข้เจ็บรุมเร้า จะได้ไปหาเพื่อให้ท่
เจี่ยนอันอันเหลือบมองสีท้องฟ้าแวบหนึ่ง ตอนนี้ท้องฟ้ากำลังมืดขึ้นทีละนิดถ้ารอถึงวันพรุ่งนี้ค่อยมาดูบ้าน เกรงว่าบ้านหลังนี้เป็นไปได้มากว่าคงขายให้คนอื่นไปแล้วเหมือนดังคำกล่าวหากปล่อยไว้นานก็อาจเกิดเหตุเปลี่ยนแปลงที่ไม่คาดฝันขึ้นได้ นางไปดูบ้านก่อนดีกว่า ถ้าเข้าท่า นางจะได้ซื้อบ้านเสียเลย“ไม่ทราบว่าเถ้าแก่พาข้าไปดูบ้านได้หรือไม่?”คำพูดของเจี่ยนอันอันได้รับคำตอบรับจากซินเจ๋อทันที“หมอเทวดาหญิงโปรดตามข้ามา บ้านข้าอยู่ห่างจากที่นี่ไม่ไกล”ซินเจ๋อพูดจบก็บอกให้ลูกจ้างเฝ้าร้านส่วนเขาพาเจี่ยนอันอันกับฉู่จวินสิงตรงไปยังบ้านของตัวเองบ้านหลังนั้นของเขาอยู่ห่างจากร้านเชียนมู่ถังไม่ไกลจริงๆ แค่เดินข้ามถนนเส้นเดียวก็ถึงแล้วซินเจ๋อหยิบกุญแจออกมา หลังเปิดประตูบ้านแล้วก็ให้คนทั้งสองเข้าไปชมดูเจี่ยนอันอันเดินนำเข้าไปในบ้านก่อนก็เห็นว่าบ้านหลังนี้กว้างมาก ห้องข้างในก็มีอยู่หลายห้องเช่นกันพอให้ผู้ใต้บังคับบัญชาเหล่านั้นของฉู่จวินสิงพักอาศัยได้คนทั้งสองเข้าไปดูแต่ละห้องอย่างคร่าวๆ ก็เห็นว่าข้างในนั้นได้รับการตกแต่งอย่างเป็นระเบียบแม้แต่เครื่องครัวในห้องครัวก็ยังมีครบครันฉู่จวินสิงพอ
หลายวันมานี้ไม่เพียงแต่ชาวบ้านเหล่านั้นในเมืองหลัก แม้แต่เถ้าแก่โรงเตี๊ยมก็กำลังตามหาเจี่ยนอันอันอยู่เช่นกันพวกเขาเพียงรู้จักหน้าตาของเจี่ยนอันอัน แต่กลับไม่รู้จักชื่อของนางพวกเขาสอบถามมาหลายวันแล้ว แต่ก็ยังไม่รู้เลยว่าเจี่ยนอันอันอาศัยอยู่ที่ไหนแต่คิดไม่ถึงเลยว่า เจี่ยนอันอันจะเป็นฝ่ายมาหาเขาเสียเองเห็นนางจะจ่ายเงินให้เขา เถ้าแก่โรงเตี๊ยมรีบโบกไม้โบกมือกล่าวว่า “ข้ารับเงินของหมอเทวดาหญิงไม่ได้หรอก ยาที่ท่านขายให้คราวก่อนช่วยชีวิตพวกข้าไว้นะ”“คนที่ท่านพามาจะพักอยู่กี่วันล้วนไม่มีปัญหา ข้าให้พวกเขาพักโดยไม่คิดเงิน”เจี่ยนอันอันได้ยินแล้วก็เลิกคิ้ว นางคิดในใจว่าตอนนั้นตนเองแค่ให้ยารักษาวัณโรคไปจำนวนหนึ่งเท่านั้นเองนอกจากนี้ ยังไม่ได้ให้พวกเขาไปเปล่าๆ เสียหน่อย ตนเองก็ได้รับเงินกลับมาเช่นกันคิดไม่ถึงว่าเถ้าแก่โรงเตี๊ยมร้านนี้จะยังจำนางได้ด้วยเถ้าแก่โรงเตี๊ยมเห็นเจี่ยนอันอันมองเขาอย่างอึ้งๆ เขากล่าวอย่างมีความสุขว่า“แม่นางอาจไม่รู้ ตอนวัณโรคระบาดคราวก่อน คนในครอบครัวข้าล้วนติดโรคกันหมด”“ถ้าไม่ได้ยาของแม่นาง เกรงว่าคนในครอบครัวข้าคงต้องตายไปเพราะการระบาดของวัณโรคครั้งนั
ขอเพียงเข้าไปในเมืองอินเป่ย นางก็ไม่จำเป็นต้องสวมหน้ากากไว้บนใบหน้าอีก สามารถเปิดเผยรูปโฉมของตนเองต่อคนอื่นได้แล้วหลายวันนี้นางไม่อาจไปเจอพี่ใหญ่เสิ่นจือเจิ้ง ไม่รู้ว่าช่วงที่ผ่านมาเขาเป็นอย่างไรบ้างตอนนี้นางคิดถึงพี่ใหญ่ของตัวเองเหลือเกินฉู่จวินสิงเห็นว่าที่นี่คือบริเวณรอบนอกเมืองอินเป่ยแล้ว ย่อมไม่อยากเสียเวลาอยู่บนถนนต่อไปมีเพียงกลับไปถึงเมืองอินเป่ย พวกเขาถึงจะวางใจได้ทางด้านฉู่ชางเหยียนคิดอย่างไรก็คงคิดไม่ถึงว่า พวกเขาไม่เพียงไม่ตาย แต่ยังลอบกลับเมืองจิงโจวไปกระทำเรื่องราวมากมายเช่นนี้คนทั้งคณะกับรถม้าสามคันมุ่งหน้าตรงไปยังประตูเมืองอินเป่ยเมื่อมาถึงหน้าประตูเมือง หม่าลู่ก็ถือหนังสือผ่านทางที่เตรียมไว้ล่วงหน้าแล้วกระโดดลงไปจากรถม้าเขาเคาะประตูเมืองอย่างหนักหน่วง ในไม่ช้าก็มีทหารพิทักษ์เมืองมาเปิดประตูออกเป็นช่องเล็กๆ“พวกเจ้าเป็นผู้ใด ไม่รู้รึว่าที่นี่ห้ามเข้ามาตามอำเภอใจ?”หม่าลู่นำหนังสือผ่านทางออกมาพลางเอ่ยอย่างยิ้มแย้มว่า “ท่านเจ้าหน้าที่ พวกข้าถูกเนรเทศมาที่นี่ หวังว่าท่านเจ้าหน้าที่จะอำนวยความสะดวกให้ด้วย”ทหารพิทักษ์เมืองเหลือบมองหนังสือผ่านทางนั้นแวบหนึ่
เจี่ยนอันอันรู้สึกว่าหลิวซื่อดูจะสุขภาพไม่ดีเท่าไร ตอนนางประคองหลิวซื่อเข้าไปในครัวก็แอบทาบมือลงบนข้อมือของนาง“โรคนี้ของท่านเป็นมานานเท่าใดแล้ว?”หลิวซื่อครุ่นคิดแล้วว่า “ตอนนี้คงสองปีได้แล้วกระมัง เป็นโรคที่มักจะวิงเวียนศีรษะอยู่บ่อยๆ ข้าไม่เป็นไรหรอก เจ้ารีบไปพักผ่อนเถอะ”เจี่ยนอันอันตรวจพบว่าหลิวซื่อมีอาการวิงเวียนศีรษะระดับกลาง หากปล่อยไว้เช่นนี้ต่อไปจะยิ่งรุนแรงมากนางกล่าวด้วยสีหน้าจริงจัง “ข้าเห็นว่าพวกท่านล้วนแต่จิตใจดีกันทั้งครอบครัว ถ้าท่านเชื่อใจข้าก็รับยาขวดนี้ไว้ สามารถรักษาอาการวิงเวียนศีรษะของท่านได้”เจี่ยนอันอันพูดอยู่ ในมือก็มีขวดกระเบื้องขวดหนึ่งเพิ่มเข้ามาหลิวซื่อหันกลับมามองเจี่ยนอันอันอย่างประหลาดใจ “เจ้ารักษาโรคเป็นด้วย?”“ข้าพอจะรู้วิชาแพทย์อยู่บ้าง” เจี่ยนอันอันพูดถ่อมตัวแล้วส่งขวดกระเบื้องในมือให้หลิวซื่อ “ท่านรับยาขวดนี้ไปกินเถอะ หนึ่งวันสามครั้ง ครั้งละหนึ่งเม็ด ล้วนแต่ต้องกินหลังอาหาร”หลิวซื่อรับขวดกระเบื้องไป เทยาเม็ดจากในนั้นลงมาหนึ่งเม็ดโดยไม่หยุดคิด แล้วกินยาพร้อมดื่มน้ำกลืนลงไปเพิ่งกินยาลงไปได้ไม่นาน หลิวซื่อที่เดิมทียังวิงเวียนศีรษะอยู่บ้
เนื่องจากจู่ๆ ก็มีคนจำนวนมากปรากฏตัวขึ้นในลานเรือน คนในครอบครัวเลี่ยวเฉิงวั่งจึงออกมาดูที่ลานเรือนกันหมดหลีซื่อ ภรรยาของเลี่ยวเฉิงวั่งเดินออกมาถาม “ตาเฒ่า คนพวกนี้เป็นใครรึ?”เลี่ยวเฉิงวั่งบอกเรื่องที่พวกเขาจะพักอยู่ที่นี่ต่อคนในครอบครัวคนทั้งครอบครัวไม่มีความเห็นแย้ง หากทักทายทุกคนอย่างอบอุ่นยิ่งในความคิดของพวกเขา ขอเพียงสามารถช่วยเหลือคนอื่นได้ นั่นก็จะเป็นการสั่งสมบุญกุศลสำหรับพวกเขาในภายภาคหน้าส่วนคนเหล่านี้ดูแล้วก็ไม่เหมือนว่าจะเป็นคนไม่ดี พวกเขายิ่งไม่มีความคิดเห็นอย่างอื่นลูกชายกับลูกสะใภ้เห็นดังนั้นก็จะไปจัดการข้าวของต่างๆ ในห้องสามห้องนั้นพวกหม่าลู่เห็นอย่างนั้นก็รีบบอกว่า “ไม่ต้องลำบากหรอก พวกข้าแค่มีที่ให้พักก็พอแล้ว”เลี่ยวอี้ผู้เป็นลูกชายหัวเราะฮ่าๆ “ไม่ลำบากเลย แค่เก็บข้าวของข้างในออกมา จัดการนิดหน่อยก็เสร็จแล้ว”เจี่ยนอันอันเห็นคนบ้านนี้มีจิตใจเอื้อเฟื้อถึงเพียงนี้ นางก็ไม่อยากพักอยู่ที่นี่โดยไม่ตอบแทนอะไรเลยนางจึงหยิบเงินออกมาส่งให้พวกเขาแต่คนบ้านนี้กลับไม่ต้องการเงิน ยังบอกว่าพวกเขาทำแบบนี้ล้วนแต่เป็นการสั่งสมบุญกุศลเพื่อตนเองทั้งนั้นเจี่ยนอันอันเห
ในขณะที่เครื่องแต่งกายของเจี่ยนอันอันและฉู่จวินสิง ก็ดูค่อนข้างหรูหราอยู่หากบอกว่าตนเป็นพ่อค้าเร่ ก็พอเชื่อถือได้บ้างผู้เป็นหัวหน้าทหารมองด้วยสายตาเย็นชา พร้อมกล่าวเสียงเย็น “กินข้าวอิ่มแล้ว ให้รีบไปจากที่นี่ซะบริเวณนี้มักมีสัตว์ป่าออกมาเพ่นพ่าน หากเกิดเรื่องอันใดขึ้น อย่าหาว่าข้าไม่เตือนพวกเจ้าก่อนล่ะ”ขณะพูดนั้น ยังได้เหลียวมองนกแร้งสองตัวที่อยู่ไม่ไกลนักดีที่บริเวณนั้นพอมีเนื้อดิบให้พวกมันได้แบ่งปัน หาไม่มนุษย์กลุ่มนี้อาจกลายเป็นอาหารอันโอชะของพวกมันก็ได้เจี่ยนอันอันรีบกล่าวขอบคุณ พร้อมบอกว่าหลังกินข้าวเสร็จจะรีบเดินทางต่อทันทีหัวหน้าทหารเห็นพวกเขาล้วนเป็นคนแปลกหน้า ไม่ใช่คนที่ต้องการจะจับตัวเมื่อกล่าวจบจึงพูดกับทหารอื่น “พวกเราไปเถิด”ทหารทั้งกลุ่มขี่ม้าจากไป เจี่ยนอันอันโยนเนื้อดิบให้นกแร้งสองตัวกินเพิ่มอีกเมื่อกินข้าวเสร็จแล้ว ทุกคนพักผ่อนครู่หนึ่งแล้วจึงขึ้นรถม้าเดินทางต่อไปหลังจากพ้นเส้นทางลัดแล้ว ก็มาถึงทางหลวงเช่นเดิมนกแร้งสองตัวก็เห็นใจเหล่ามนุษย์ จึงไม่ได้นำพาพวกเขาไปยังทางลัดอีกหลังจากพวกมันบินจนเหนื่อย ก็จะไปพักผ่อนที่หลังคารถม้าเพราะมีนกแร้งสองต
เจี่ยนอันอันลืมตาขึ้นโดยพลัน จึงเห็นฉู่จวินสิงกำลังจ้องมองนางด้วยความห่วงใยอยู่และสายตายังมองไปถึงหน้าท้องนางด้วยเจี่ยนอันอันเพิ่งตระหนักว่าเพราะเมื่อครู่แอบถอนหายใจ จึงทำให้ฉู่จวินสิงเข้าใจนางผิดไปนางยิ้มจนเห็นฟัน “ข้ามิได้เจ็บป่วยอันใด ลูกในท้องก็ยังไม่เป็นตัว ท่านไม่ต้องกังวลมากนัก”“เช่นนั้นเมื่อครู่ เหตุใดเจ้าจึงถอนหายใจ?” ฉู่จวินสิงยังคงห่วงใยต่อสุขภาพของเจี่ยนอันอันเพราะยามนี้นางกำลังตั้งครรภ์ อีกทั้งหลายวันนี้ก็ติดตามเขาเดินทางรอนแรมไปหลายแห่งหากนางรู้สึกไม่สบายแห่งใดจริง คงไม่ยอมเอ่ยปากพูดโดยง่ายฉู่จวินสิงเริ่มรู้นิสัยเจี่ยนอันอันมากขึ้น นางเป็นหญิงที่เข้มแข็งมาโดยตลอดไม่เคยแสดงการออดอ้อนฉอเลาะออกมาให้เห็นต่อให้มีกิจกรรมบนเตียงกับเขา ถูกเขาตักตวงความสุขเสียจนอ่อนแรงหรือแม้กระทั่งปวดหลังเมื่อยเอว ก็หาได้ปริปากโอดครวญแม้แต่สักครั้งไม่และครั้งนี้ ฉู่จวินสิงก็เชื่อว่าเพราะนางเกรงว่าเขาจะเป็นห่วง จึงบอกว่าตนไม่เป็นไรมากเจี่ยนอันอันมิได้เอ่ยถึงเรื่องราวในคลังอาวุธ นางจึงกล่าวมุสา“ข้าถอนใจเพราะเราไม่อาจเดินทางต่อด้วยทางหลักอีก การมาทางอ้อมเช่นนี้ เกรงว่าอาจต้อง
เจี่ยนอันอันยังคงงัวเงีย รู้สึกเหมือนมีใครบางคนกำลังจับมือของนางและบังคับให้นางกดนิ้วลงบนบางสิ่งบางอย่างนางตอบสนองทันทีด้วยการฟาดฝ่ามือกลับไปเต็มแรงทันใดนั้นก็มีเสียง ‘เพียะ’ ดังขึ้นตามด้วยเสียงคำรามอย่างเกรี้ยวกราดของชายวัยกลางคน“นังเด็กอกตัญญู กล้าดียังไงมาทำร้ายบิดาของเจ้า! ข้าจะส่งเจ้าไปหามารดาที่ตายไปแล้วของเจ้าเดี๋ยวนี้!”เมื่อเจี่ยนอันอันได้ยินคำพูดนั้น หัวใจของนางพลันเย็นเยียบทันทีคนบ้าอะไรกล้าด่าแม่ของนางเช่นนี้ รนหาที่ตาย!เจี่ยนอันอันลืมตาขึ้นทันที เห็นชายแปลกหน้าในชุดโบราณกำลังเงื้อมมือขึ้นหมายจะฟาดหน้านางเจี่ยนอันอันแค่นเสียงเย็นชา ก่อนจะเตะเข้าที่ท้องของชายคนนั้นเต็มแรงชายคนนั้นถูกเตะจนถอยหลังไปหลายก้าวกว่าจะหยุดลงได้ในฐานะที่เป็นกั๋วกงแห่งแคว้นไท่ยวน ถูกบุตรีแท้ ๆ ทำร้าย ซ้ำยังถูกทำร้ายต่อหน้าธารกำนัลเช่นนี้อีกใบหน้าของเจี่ยนกั๋วกงเขียวคล้ำด้วยความโกรธ เขาจ้องมองเจี่ยนอันอันด้วยดวงตาแดงก่ำเขาก้าวไปข้างหน้าสองสามก้าว หมายจะบีบคอเจี่ยนอันอันให้ตายทันใดนั้น ฮูหยินรองก็รีบพูดขึ้นว่า “นายท่าน ตอนนี้ยังฆ่านางไม่ได้นะเจ้าคะ”“หากนางตาย ใครจะไปแต่งกับเยียน...
Komen