หลังจากที่คนในตระกูลคนอื่นได้ยินบทสนทนาของทั้งคู่ ก็รู้สึกประหลาดใจในตัวตนคุณหนูใหญ่ของเจี่ยนอันอันเป็นอย่างมากนางไม่ใช่คุณหนูรองที่ฮ่องเต้พระราชทานสมรสให้หรอกหรือนี่แต่หลังจากได้ยินเจี่ยนอันอันยืนกรานว่าจะไม่แต่งด้วยหากไม่ใช่เยียนอ๋อง พวกเขาก็รู้สึกประทับใจในความจริงใจของเจี่ยนอันอันช่างเป็นแม่นางที่จิตใจดีงามเหลือเกิน ยอมออกเรือนแทนน้องสาวของตัวเองอย่างเด็ดเดี่ยวแน่วแน่ เลือกแต่งเข้ามาในจวนเยียนอ๋องของพวกเขายอมรับโทษเนรเทศไปตกระกำลำบากกับพวกตนอาศัยเพียงความจริงใจนี้ของนาง พวกเขาก็จะปฏิบัติต่อนางเสมือนสมาชิกในครอบครัวของตัวเองแล้วขณะนั้นเอง เหล่าทหารรักษาพระองค์ที่ได้รับคำสั่งให้ไปตรวจค้นก็กลับมากันแล้วพวกเขายืนเรียงแถวอย่างเป็นระเบียบ รายงานต่อหัวหน้าทหารรักษาพระองค์ว่า “รายงานท่านหัวหน้า คลังสมบัติในจวนเยียนอ๋องว่างเปล่าขอรับ”“ในห้องของเยียนอ๋องก็ว่างเปล่าเช่นกัน”“ในห้องของคนอื่นๆ ในตระกูลก็ว่างเปล่าเช่นกันขอรับ”หัวหน้าทหารรักษาพระองค์นิ่งอึ้งไป คนในจวนเยียนอ๋องต่างก็อึ้งเช่นกันนี่มันเรื่องอะไรกัน พวกเขาเก็บทรัพย์สินไว้ที่เดิมโดยไม่ได้ไปแตะต้องเลยนี่ แต่กลับไม่
ฮูหยินใหญ่เห็นดังนั้นก็คิดจะปราดเข้าไปขวางตรงหน้าฉู่จวินสิงนั่นคือลูกชายคนเล็กของนาง ยามนี้ถูกฮ่องเต้ทำร้ายจนถึงขนาดนี้แล้วตอนนี้แม้แต่หัวหน้าทหารรักษาพระองค์ก็ยังไม่เห็นเขาอยู่ในสายตาช่างเหมือนดังคำกล่าวที่ว่าเสือตกที่นั่งลำบากยังถูกสุนัขรังแกโดยแท้ตอนนี้ถึงต้องแลกด้วยชีวิต นางก็จะไม่ปล่อยให้พวกเขาทำร้ายลูกชายนางเด็ดขาดเจี่ยนอันอันเห็นฮูหยินใหญ่จะพุ่งเข้าไปก็รีบดึงตัวอีกฝ่ายไว้“ฮูหยินใหญ่เจ้าคะ อย่าเพิ่งหุนหันพลันแล่นเจ้าค่ะ” เจี่ยนอันอันกระซิบข้างหูฮูหยินใหญ่ฮูหยินใหญ่หันกลับมามองเจี่ยนอันอัน ไม่เข้าใจว่าเหตุใดอีกฝ่ายจึงขัดขวางตนเองขณะที่เจี่ยนอันอันกำลังพูดอยู่นั้นก็ตั้งท่าเตรียมจะซัดเข็มเงินอีกเล่มใส่หัวหน้าทหารรักษาพระองค์เข็มเงินในมือนางเล่มนี้เคลือบยาพิษเอาไว้ พอทิ่มแทงลงไปก็จะทำให้หัวหน้าทหารรักษาพระองค์ผู้นี้เป็นอัมพาตทั่วร่างทันทีถึงตอนนั้นนางก็สามารถใช้หัวหน้าทหารรักษาพระองค์มาบีบบังคับทหารรักษาพระองค์เหล่านี้ได้หัวหน้าทหารรักษาพระองค์ในยามนั้นเห็นว่ายังคงไม่มีใครก้าวออกมาเขาเงื้อดาบในมือขึ้นแล้วฟันลงบนร่างฉู่จวินสิงทันทีเห็นกับตาว่าคมดาบกำลังจะฟันล
คนเหล่านั้นยังคงร่ำร้องไม่หยุด คอยปลุกเร้าให้ชาวบ้านคนอื่น ๆ ด่าทอครอบครัวเยียนอ๋องให้ไสหัวออกไปจากแคว้นไท่ยวนแต่พวกเขาไม่กล้าโยนสิ่งของในมืออย่างแม่นยำเหมือนเดิมอีกแล้วพวกเจี่ยนอันอันถูกเหล่าทหารรักษาพระองค์ควบคุมตัวไปถึงนอกเมืองหลังออกไปนอกเมืองแล้วก็จะมีคนในครอบครัวที่มาบอกลารออยู่ที่นี่คนในครอบครัวเหล่านั้นจะนำอาหารและน้ำมาให้คนที่ถูกเนรเทศ เหล่าทหารรักษาพระองค์ที่รับผิดชอบควบคุมตัวก็จะไม่ขัดขวางนี่เป็นกฎที่มีมาแต่ช้านาน ไม่เคยมีใครล่วงละเมิดมาก่อนเจี่ยนอันอันนึกว่าคงไม่มีคนจากจวนกั๋วกงมาส่ง แต่กลับเห็นรถม้าของจวนกั๋วกงคันหนึ่งจอดอยู่ข้างทางสาวใช้คนหนึ่งจูงสุนัขดุร้ายตัวหนึ่งเดินลงมาจากรถม้าเจี่ยนอันอันจำได้ว่าสาวใช้ผู้นี้คอยรับใช้เจี่ยนหลิงเยว่เจี่ยนอันอันเข้าใจแล้ว เจี่ยนหลิงเยว่คงส่งสาวใช้ผู้นี้มาแก้แค้นที่ทำให้ตนเองเสียโฉมเป็นแน่สาวใช้ลงมาจากรถม้าแล้วก็ไม่พูดพร่ำทำเพลง สั่งให้สุนัขดุร้ายตัวนั้นเข้ามาขย้ำเจี่ยนอันอันทันทีเจ้าสุนัขตัวร้ายกระเหี้ยนกระหือรือมาแต่แรก ได้ยินคำสั่งของสาวใช้ก็กระโจนเข้าหาเจี่ยนอันอันทันทีเจี่ยนอันอันก้าวเท้าหลบการจู่โจมของสุนัขไ
ก่อนหน้านี้ตอนอยู่ในจวนเยียนอ๋อง พวกเขาค้นไม่เจอทรัพย์สมบัติเลยสักชิ้นตอนไปรายงานผลการปฏิบัติหน้าที่ เขาจะต้องถูกฮ่องเต้ลงโทษอย่างแน่นอนหัวหน้าทหารรักษาพระองค์ผูกใจเจ็บคนในครอบครัวเยียนอ๋องเพราะเรื่องนี้เองเดิมนั้นพวกเขานำชุดผ้าป่านเนื้อหยาบสำหรับให้คนในตระกูลเยียนอ๋องผลัดเปลี่ยนมาด้วยแต่ตอนริบทรัพย์กลับค้นไม่เจออะไร หัวหน้าทหารรักษาพระองค์จึงเปลี่ยนใจเขาจะปล่อยให้คนในตระกูลเหล่านี้ถูกเนรเทศทั้งที่ยังสวมชุดหรูหราเช่นนี้แหละเขาต้องการให้ทุกคนได้เห็นว่าคนที่ถูกเนรเทศเหล่านี้ล้วนแต่เป็นเชื้อพระวงศ์ทั้งสิ้นดีที่สุดคือเจอโจรดักปล้นระหว่างทาง ถึงตอนนั้นเขาก็มีเรื่องสนุกให้ดูแล้วอย่างไรเสียฮ่องเต้ก็บัญชาไว้แล้วว่าพวกเขาแค่คุมคนไปส่งก็พอไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นระหว่างทาง พวกเขาไม่จำเป็นต้องออกโรงปกป้องรอจนไปถึงเมืองร้าง เขาค่อยให้คนเหล่านี้เปลี่ยนไปใส่ชุดผ้าป่านเนื้อหยาบให้พวกเขาใช้ชีวิตอันแสนลำเค็ญในถิ่นทุรกันดารไปเถอะในไม่ช้าเหล่าทหารรักษาพระองค์ก็เริ่มย่างเนื้อสุนัขกลิ่นหอมของเนื้อโชยมาเป็นระลอก ลอยมาเข้าจมูกของคนในตระกูลเยียนอ๋องพวกเขาเห็นทหารรักษาพระองค์กินเนื้อย่า
ฉู่จวินสิงในตอนนี้ราวกับศพศพหนึ่ง ทำได้เพียงปล่อยให้มือของเจี่ยนอันอันเคลื่อนไหวตามอำเภอใจไปบนร่างกายของตนเองหลังเจี่ยนอันอันทายาให้ฉู่จวินสิงอย่างรวดเร็วจนเสร็จ ก็นำยาแก้ปวดมาบดเป็นผงนางง้างปากฉู่จวินสิง เทผงยาแก้ปวดใส่ปากเขาฉู่จวินสิงอยากถ่มยาในปากทิ้งไป แต่กลับพบว่าการเคลื่อนไหวแค่นี้ยังกลายเป็นความยากเย็นแสนเข็ญสมองของเขาทำงานเร็วจี๋ สตรีผู้นี้ต้องการทำอันใดกันแน่ นางต้องการวางยาพิษเขาเช่นนั้นหรือ?หากเป็นเช่นนั้นจริง ถึงเขากลายเป็นผีก็จะไม่ยอมปล่อยนางไปแน่ขณะที่ฉู่จวินสิงคิดเหลวไหลอยู่ ก็เห็นว่ามือฉู่อันเจ๋อกำลังถือน้ำขวดหนึ่งเขากรอกน้ำในขวดใส่ปากฉู่จวินสิงน้ำและยาไหลผ่านลำคอลงไปในท้องของฉู่จวินสิงฉู่จวินสิงหรี่ตามองฉู่อันเจ๋อไม่เข้าใจว่าเหตุใดอีกฝ่ายจึงร่วมมือกับสตรีผู้นี้มากรอกยาพิษให้เขาคนทั้งสองจดจ่ออยู่กับการป้อนยาให้ฉู่จวินสิงจนไม่ได้สังเกตว่าฉู่จวินสิงในตอนนี้ได้สติแล้ว ทั้งยังกำลังมองพวกตนอยู่หลังทำทั้งหมดนั้นเสร็จ เจี่ยนอันอันก็กล่าวกับฉู่อันเจ๋อว่า “เจ้าเฝ้าเขาไว้ให้ดี ไม่ว่าเขามีอาการอย่างไร เจ้าก็ต้องมาบอกข้าทันที”ฉู่อันเจ๋อพยักหน้าน้อย ๆ “ข้าเ
ภาพเหล่านี้ปรากฏเพียงไม่นานก็หายไปเจี่ยนอันอันรู้ว่านี่คือความสามารถในการล่วงรู้อนาคตของร่างเดิมตอนนี้นางทะลุมิติมาอยู่ในร่างนี้ ยังได้รับสืบทอดพลังของร่างเดิมแต่ความสามารถในการล่วงรู้อนาคตของร่างเดิมมีขีดจำกัด รู้ได้เพียงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นภายในสามวันข้างหน้าเท่านั้นภาพเมื่อครู่ทำให้เจี่ยนอันอันรู้ว่ากลุ่มคนชุดดำจะปรากฏตัวในค่ำคืนนี้แม้นางจะไม่รู้ว่าผู้ใดเป็นคนส่งกลุ่มคนชุดดำนี้มา แต่พวกเขาต้องมีความเกี่ยวข้องกับทหารรักษาพระองค์พวกนี้แน่นอนหึ ทหารรักษาพระองค์พวกนี้ชอบแสร้งตายกันนักใช่หรือไม่ถ้าเช่นนั้นก็ให้พวกเขาได้ลิ้มรสความทรมานก่อนก็แล้วกันเจี่ยนอันอันแยกจากฮูหยินใหญ่แล้วมายังมุมที่ค่อนข้างมืดมุมหนึ่งครั้นเห็นว่าไม่มีผู้ใดสังเกตเห็นตัวเอง เจี่ยนอันอันก็รำพึงในใจเงียบ ๆ ว่า ‘หายตัว’วินาทีถัดมานางก็หายไปแล้วเจี่ยนอันอันมายังกองทหารรักษาพระองค์ จากนั้นนำผงยาถ่ายออกมาจากช่องมิตินี่เป็นสิ่งที่นางใช้กับฮ่องเต้สุนัขไปเมื่อก่อนหน้านี้เดิมทีนางยังคิดระหว่างทางที่มาที่นี่อยู่เลยว่าจะอยู่ร่วมกับทหารรักษาพระองค์เหล่านี้แต่โดยดีทว่าดูจากตอนนี้คงไม่จำเป็นแล้วนางโรย
หากพวกผู้ใต้บังคับบัญชาพวกนั้นรู้เรื่องนี้เข้า วันหน้าเขาจะเป็นผู้นำของพวกเขาต่อไปได้อย่างไรเรื่องนี้จะกลายเป็นหัวข้อสนทนาในยามว่างอย่างไม่ต้องสงสัยเกรงว่าแม้แต่ตอนนอนก็อาจสะดุ้งตื่นเพราะเสียงหัวเราะครั้นเห็นเหล่าทหารรักษาพระองค์วิ่งมาทางนี้ หัวหน้าทหารรักษาพระองค์ก็ต้องรีบโบกมือไล่โดยพลัน“ไปทำธุระกันที่อื่น อย่ามารบกวนข้า!”ทหารรักษาพระองค์คนอื่น ๆ ไม่ได้รู้ว่าหัวหน้าของตัวเองถ่ายราดกางเกงและไม่คิดจะสงสัยเช่นกัน พวกเขาพากันวิ่งไปปลดทุกข์ที่อีกฝั่งของป่ารกร้างไม่นานก็เกิดเสียงผายลมสะเทือนฟ้าสะเทือนดินขึ้นในป่ารกร้างแห่งนี้ หลังจากที่หัวหน้าทหารรักษาพระองค์จัดการธุระเสร็จ เขากลับมีเรื่องกลัดกลุ้มใจตามมาเขาจะกลับไปอย่างไรดี จะให้สวมกางเกงที่มี ‘คราบทองคำ’ เปรอะเปื้อนก็คงไม่ใช่ทหารรักษาพระองค์คนอื่นๆ เสร็จธุระแล้วสวมกางเกงเพื่อเตรียมจะกลับไปทว่าพวกเขายังไม่ได้ทันจะได้เยื้องย่าง ท้องก็เริ่มปวดบิดขึ้นมาอีกครั้ง“ข้าไม่ไหวแล้ว ข้าต้องทำธุระต่อ พวกเจ้ากลับไปเฝ้ายามก่อนเถอะ”“ข้านั่งจนขาชาไปหมดแล้ว แต่ท้องก็ยังไม่หายปวดสักที”“มันเพราะอะไรกันแน่ หรือว่าเนื้อสุนัขตัวนั้นจะ
เจี่ยนอันอันตอบหลังจากที่ป้อนน้ำตาลกลูโคสให้ฉู่จวินสิงเสร็จเรียบร้อย “บาดแผลของพี่รองเจ้าค่อนข้างสาหัส อวัยวะภายในได้รับความเสียหาย กระดูกซี่โครงหักไปสี่ซี่”“หลังจากคืนนี้จะฟื้นหรือไม่ ก็ขึ้นอยู่กับโชคชะตาแล้ว”ถ้อยคำของเจี่ยนอันอันทำให้ฉู่อันเจ๋อกังวลในทันที“ท่านหมายความว่าพี่รองกำลังจะตายหรือ?” ฉู่อันเจ๋อคว้าแขนของเจี่ยนอันอันอย่างตื่นตระหนก “พี่สะใภ้รอง ในเมื่อท่านเป็นคนสกุลฉู่ของเราแล้ว ข้าขอร้องท่านให้ช่วยพี่รองด้วยเถิด”เจี่ยนอันอันชักแขนออก และทำท่าทางพร้อมทำสียง “ชู่ว” เพื่อให้ฉู่อันเจ๋อใจเย็นลงเมื่อครู่นี้เขาพูดเสียงดังปานนั้น หากถูกฮูหยินใหญ่ได้ยินเข้าคงตกใจกลัวเป็นแน่แท้เจี่ยนอันอันกล่าวปลอบว่า “เจ้าวางใจเถิด มีข้าอยู่ทั้งคน ข้าจะไม่ให้เขาตายไวขนาดนั้นแน่ แต่อาการบาดเจ็บของเขารุนแรงไม่น้อยเลย ต้องขึ้นอยู่กับแรงใจของเขาด้วย หากเขามีแรงใจที่เข้มแข็ง พรุ่งนี้เช้าก็จะฟื้น หรือมิเช่นนั้นก็จะหลับใหลไปตลอดกาล”ฉู่อันเจ๋อเบาใจลงเมื่อได้ยินเจี่ยนอันอันบอกว่าพี่รองจะไม่ตาย อย่างมากสุดก็แค่หลับไม่ฟื้นขอเพียงพี่รองยังมีชีวิตอยู่ เช่นนั้นก็ต้องมีหนทางรักษาเขาให้หายดีแน่นอน
กวนซินถูกส่ายแขนจนหมดคำจะพูดนางเงยหน้ามองไปทางเจี่ยนอันอัน พบว่าอีกฝ่ายพยักหน้าให้ด้วยรอยยิ้มแม้ว่ากวนซินจะยังไม่ค่อยเชื่อใจเจี่ยนอันอันนัก แต่นางก็ไม่อาจพูดอะไรได้อีกเพราะถึงอย่างไรเสีย ที่ตัวนางสามารถยืนอยู่ที่นี่ได้อย่างปลอดภัยและไม่ถูกเตียวเฉียงทำร้ายทั้งหมดต้องขอบคุณในความช่วยเหลือจากเจี่ยนอันอันนางลุกขึ้นพูดด้วยสีหน้าจนใจ “อันอัน เจ้าสอนวิธีใช้ยาพิษอย่างง่ายๆ ให้ตั๋วตั่วก่อนแล้วกัน อย่าเพิ่งสอนที่ซับซ้อนเกินไป”“ข้ากลัวว่านางจะทำตัวเองบาดเจ็บ อย่างไรข้าก็มีลูกแค่คนเดียว ไม่อาจเสียนางไปอีกคนจริงๆ”เจี่ยนอันอันเลิกคิ้ว นางนึกถึงตอนที่จับชีพจรให้กวนซินก่อนหน้านี้และพบว่าอีกฝ่ายกำลังตั้งครรภ์ดูท่าว่ากวนซินคงยังไม่รู้ว่าในท้องตัวเองมีเด็กอยู่อีกคนเจี่ยนอันอันขยับเข้าไปใกล้หูกวนซินและกระซิบว่า “เกรงว่าเจ้ายังมีลูกอีกคนที่ต้องปกป้องนะ”กวนซินฟังแล้วมีสีหน้าประหลาดใจนางยังมีลูกอีกคนงั้นหรือ นี่มันหมายความว่าอย่างไรกัน?สายตาของเจี่ยนอันอันจ้องมองไปที่ท้องของกวนซินนางยังคงใช้ระดับเสียงที่ได้ยินกันแค่สองคน “เจ้าตั้งท้องแล้ว คงไม่รู้ตัวสินะ”กวนซินถอยหลังออกไปก้าวหนึ่
กวนซินพบว่าเมื่อครู่นี้เจี่ยนอันอันไม่ได้ป้อนโอสถหนอนศพให้กับเตียวเฉียงนางอดถามไม่ได้ว่า “อันอัน เหตุใดเมื่อครู่นี้จึงไม่ป้อนโอสถหนอนศพให้เตียวเฉียงหรือ?”เจี่ยนอันอันตอบด้วยรอยยิ้ม “เมื่อครู่นี้ข้าแทงเขาด้วยเข็มอาบยาพิษไปแล้ว ไม่จำเป็นต้องเปลืองโอสถหนอนศพกับเขาอีก”กวนซินขานรับว่า “อ้อ” แล้วไม่ได้พูดอะไรอีกกระนั้นนางก็ยังคงไม่สบายใจเล็กน้อย เพราะเตียวเฉียงเป็นคนที่มีศิลปะการต่อกล้าแกร่งที่สุดในบรรดาคนเหล่านี้หากวันใดได้รับการถอนพิษ เขาต้องหวนกลับมาแก้แค้นเจี่ยนอันอันแน่นอนเจี่ยนอันอันมองออกว่ากวนซินกังวลเรื่องอะไร นางตบบ่าอีกฝ่ายอย่างแผ่วเบา“วางใจเถิด ยาพิษที่ข้าใช้กับเขามีฤทธิ์รุนแรงกว่าโอสถหนอนศพหลายเท่า”“หากหลังจากนี้เขากล้ามีความคิดสกปรกต่อเจ้า พิษในตัวเขาก็จะออกฤทธิ์อย่างรวดเร็ว”ใบหน้าของเจี่ยนอันอันมีรอยยิ้มไม่ชอบมาพากลเมื่อพูดถึงตรงนี้“บัดนี้เตียวเฉียงไม่อาจประกอบกิจทางกามได้อีกต่อไปแล้ว เขาไม่ต่างอะไรกับขันที”“ไม่เพียงเท่านั้น เมื่อใดที่เขามีความคิดที่จะลงมือ พิษในร่างกายก็จะออกฤทธิ์ทันที”กวนซินฟังจบแล้วมองเจี่ยนอันอันด้วยความตื่นตะลึงภายในใจรู้สึกตื่นเ
เมื่อสือเจี้ยกลับออกมา เจี่ยนอันอันก็ให้เขาลากแม่นมหลี่กับบ่าวรับใช้คนอื่นๆ ที่เหลือเข้าไปในลานบ้านให้หมดชิวเหลียนยืนพูดด้วยความสงสัยอยู่ด้านข้าง “ฮูหยินน้อยรอง ท่านให้พวกเขากินอะไรหรือเจ้าคะ เหตุใดจึงเหมือนยาพิษ?”เจี่ยนอันอันยิ้มบางๆ ดวงตาฉายประกายเย็นยะเยียบเหี้ยมโหด“ข้าให้พวกเขากินโอสถหนอนศพ หากพวกเขากล้ารังควานกวนซินกับฉู่ตั๋วตั่วอีก หนอนศพในตัวพวกเขาก็จะกัดกินอวัยวะภายในของพวกเขาให้สิ้นซาก”นางได้เรียนรู้วิธีใช้โอสถหนอนศพพวกนี้มาจากพ่อที่ชอบเดินทางท่องเที่ยวไปทั่วของนางสือเจี้ยที่เพิ่งเดินออกมาฟังถ้อยคำของเจี่ยนอันอันแล้วอดที่จะขนหัวลุกไม่ได้เคราะห์ดีที่เขาไม่ได้เอาแต่ทำร้ายกวนซินกับฉู่ตั๋วตั่วเหมือนพวกแม่นมหลี่มิเช่นนั้นคงมีจุดจบแบบเดียวกันเดิมทีสือเจี้ยก็เป็นคนใกล้ชิดของกวนซิน ระหว่างที่ถูกเนรเทศมาด้วยกัน แม่นมหลี่ได้พยายามซื้อตัวเขาด้วยเงินแต่สือเจี้ยเป็นคนแยกบุญคุณความแค้นชัดเจนมาโดยตลอด เขาไม่อยากเข้าพวกกับคนเลวจึงปฏิเสธแม่นมหลี่ไปเรื่องนี้ทำให้แม่นมหลี่มองว่าเขากับกวนซินเป็นพวกเดียวกันแม่นมหลี่ไม่เพียงแต่ชอบทรมานกวนซินกับฉู่ตั๋วตั่ว แต่ยังมอบงานที่ต้องใช
เจี่ยนอันอันรีบนำโอสถรักษาบาดแผลภายในเม็ดหนึ่งออกมาจากห้วงมิตินางบีบปากของฉู่ตั๋วตั่วและป้อนโอสถเข้าไปโอสถละลายทันทีที่เข้าปากและไหลเข้าสู่ร่างกายของฉู่ตั๋วตั่วอย่างรวดเร็วกวนซินมองฉู่ตั๋วตั่วไม่ละสายตา นางไม่รู้ว่าเจี่ยนอันอันป้อนโอสถอะไรให้ฉู่ตั๋วตั่วแต่เวลานี้ นางเชื่อในตัวเจี่ยนอันอันอย่างสุดหัวใจหากไม่ใช่เพราะตอนนั้นมีการรักษาจากเจี่ยนอันอัน เกรงว่านางคงตายระหว่างเดินทางไปแล้วกวนซินเห็นเปลือกตาของฉู่ตั๋วตั่วขยับ จากนั้นฟื้นคืนสติอย่างรวดเร็วเมื่อฉู่ตั๋วตั่วลืมตามาเห็นว่าผู้ที่กำลังกอดตัวเองคือกวนซิน นางก็ร้องไห้ “ฮือ” ออกมา“ตั๋วตั่ว ลูกรักของแม่ ในที่สุดเจ้าก็ฟื้น”กวนซินกอดฉู่ตั๋วตั่วแน่น น้ำตาเม็ดโตร่วงหยดลงมาฉู่ตั๋วตั่วหยุดร้องไห้และเอื้อมมือน้อยๆ ไปเช็ดน้ำตาให้กวนซิน“ท่านแม่ อย่าร้องไห้”เสียงที่ไร้เดียงสาและอ่อนแรงของฉู่ตั๋วตั่วทำให้กวนซินปวดใจหนักเข้าไปอีกเจี่ยนอันอันจับชีพจรให้ฉู่ตั๋วตั่วอีกครั้ง เมื่อพบว่าไม่ได้เป็นอะไรมากแล้วค่อยถอนหายใจด้วยความโล่งอกเคราะห์ดีที่ภายในคลังยาของนางมีโอสถรักษาแผลอยู่เยอะมากแม้จะใช้ไปเยอะมากแล้วแต่ก็ยังมีเหลืออีกมา
เพิ่งจะสิ้นเสียงของแม่นมหลี่ ป้ายคำสั่งในมือนางก็ถูกเจี่ยนอันอันแย่งไปแม่นมหลี่รู้สึกว่าภายในมือว่างเปล่า ครั้นได้สติก็พบว่าเจี่ยนอันอันกำลังถือป้ายคำสั่งไว้ในมือและมองเหยียดลงมาที่นาง“เห็นป้ายคำสั่งก็เปรียบเสมือนเห็นฮ่องเต้ ยายแก่คางคก ผู้ที่ควรคุกเข่าน่าจะเป็นเจ้ามากกว่ากระมัง!”แม่นมหลี่โกรธจนหัวแทบระเบิดนางนึกไม่ถึงว่าเจี่ยนอันอันจะกล้าแย่งป้ายคำสั่งจากมือนางนางอดกลั้นต่อความเจ็บปวดแสนสาหัสและยืนขึ้นโดยจับวงกบประตู“นังเด็กเวร คืนป้ายคำสั่งมาเดี๋ยวนี้!”แม่นมหลี่ว่าจบก็จะเข้าไปแย่งป้ายคำสั่งเจี่ยนอันอันถีบเข้าที่หัวเข่าของแม่นมหลี่ ถีบให้แม่นมหลี่คุกเข่าดังตุบ อยู่เบื้องหน้านางแม่นมหลี่ร้องโอดโอยด้วยความเจ็บปวด ครั้นจะลุกขึ้นก็ถูกเจี่ยนอันอันถีบให้ล้มลงเหมือนเดิมเจี่ยนอันอันเหยียบลงที่บ่าของแม่นมหลี่และมองลงไปที่อีกฝ่ายอย่างเย็นชาเย่อหยิ่ง“อย่าคิดว่าตัวเองเป็นคนที่ฉู่ชางเหยียนส่งมาแล้วจะกล้าทำอะไรข้าได้”“ตอนนี้ป้ายคำสั่งอยู่ในมือข้า เจ้าพบข้าแล้วก็เหมือนพบฮ่องเต้”“หากเจ้ากล้าทำอะไรไม่ดูตาม้าตาเรืออีก เช่นนั้นก็อย่าโทษที่ข้าต้องกวาดล้างผู้กระทำความผิดแทนฮ่องเต
“ผู้ใดก็ได้ช่วยด้วย ฆ่าคนแล้ว!” แม่นมหลี่แผดร้องสุดเสียงเมื่อตั้งสติได้เสียงร้องของนางเรียกให้บ่าวรับใช้คนอื่นๆ ในบ้านออกมาดูเมื่อพวกเขาวิ่งออกมาก็เห็นว่าแม่นมหลี่ทรุดอยู่ข้างประตู ส่วนเตียวเฉียงกำลังนอนหมดสติอยู่บนพื้นห่างออกไปไม่ไกลคือกวนซินกับฉู่ตั๋วตั่วเวลานี้กวนซินมีน้ำตาไหลนองหน้า ส่วนฉู่ตั๋วตั่วก็กำลังหมดสติเช่นกัน พร้อมกันนั้นยังมีหญิงสาวแปลกหน้าอีกสองนางยืนอยู่ที่ริมกำแพง พวกนางกำลังจ้องพวกเขาอย่างดุร้าย“แม่นมหลี่ นี่มันเกิดอะไรขึ้น?” บ่าวรับใช้นามว่าสือเจี้ยถามแล้วจะเข้าไปประคองแม่นมหลี่แม่นมหลี่กลัวจนตัวสั่นเทิ้ม อีกทั้งยังมีบาดแผลจากการถูกหนูกัดอยู่เต็มตัวตอนนี้นางขยับตัวเพียงเล็กน้อยก็รู้สึกเจ็บแล้ว“อย่ามาแตะตัวข้า รีบไปจัดการนังเด็กชั่วสองคนนั้น!”แม่นมหลี่พูดพลางชี้ไปทางเจี่ยนอันอันกับชิวเหลียนสือเจี้ยหันไปมองแล้วค่อยจำเจี่ยนอันอันได้เขานึกถึงยามที่ถูกทำร้ายระหว่างเดินทางเมื่อวันนั้น เจี่ยนอันอันเป็นคนป้อนโอสถรักษาให้กับเขาทำให้ร่างกายของเขาฟื้นตัวได้อย่างรวดเร็วสือเจี้ยรู้สึกซาบซึ้งต่อการช่วยเหลือของเจี่ยนอันอันมาโดยตลอด ทำให้ตอนนี้ไม่อยากจับเ
เมื่อเขาตั้งสติได้ก็พบว่ามีเด็กสาวแต่งกายเหมือนสาวใช้นางหนึ่งกำลังเหวี่ยงหวัดใส่ศีรษะตัวเอง“นังแพศยานี่กล้าดีอย่างไรมาต่อยข้า ข้าจะฆ่าเจ้าเสีย!”เตียวเฉียงตวาดด้วยความโมโหแล้วถีบใส่ชิวเหลียนนางรีบถอยไปด้านหลังหลายก้าว กุมท้องที่ถูกถีบเจ็บของตัวเองพร้อมกับถลึงตาใส่เตียวเฉียงตอนนี้ หลังจากที่กวนซินได้รับอิสระก็รีบวิ่งไปหาฉู่ตั๋วตั่วและอุ้มนางขึ้นมา“ตั๋วตั่ว เจ้าอย่าทำให้แม่กลัวสิ รีบฟื้นเร็วเข้า”ฉู่ตั๋วตั่วหลับตาแน่นและหายใจรวยรินเตียวเฉียงไม่ได้สนใจกวนซินกับฉู่ตั๋วตั่ว เขาค่อยๆ เดินเข้าไปหาชิวเหลียน“นังเด็กนี่ สงสัยจะอยากตายสินะ กล้าดีอย่างไรมาลงมือกับข้า”“รู้หรือไม่ว่าข้าเป็นผู้ใด หากบอกออกไป เกรงว่าต่อให้เจ้ามีเป็นสิบหัวก็ไม่พอให้ตัด!”เตียวเฉียงไม่เห็นชิวเหลียนอยู่ในสายตาแม้แต่น้อยเขาไม่ได้คิดว่าชิวเหลียนเป็นสาวใช้จากบ้านของฉู่จวินสิง คิดว่านางเป็นแค่สาวใช้ของชาวบ้านสักคนในหมู่บ้านชิงสุ่ยชิวเหลียนรู้สึกเจ็บอย่างรุนแรงที่ช่องท้อง เจ็บจนนางยืดตัวตรงไม่ได้นางมองเตียวเฉียงเดินเข้ามาใกล้ด้วยสีหน้าระแวดระวัง มือทั้งสองกำแน่นเป็นหมัดชิวเหลียนยังไม่ทันได้ทำอะไร เตีย
ชิวเหลียนตอบตกลงทันทีนางเร่งฝีเท้าตามหลังกวนซินสองแม่ลูก ฝีเท้าของนางเบามาก กวนซินไม่ได้ยินว่ามีคนตามมาด้านหลังเมื่อกวนซินมาถึงประตูที่พัก นางก็ได้ยินเสียงก่นด่าเสียงดังของแม่นมหลี่จากด้านใน“นังแพศยากวนซินกล้าไปกินข้าวที่บ้านเยียนอ๋อง ทั้งยังให้หนูมากัดข้า!”“เตียวเฉียง หากนังแพศยานั่นกลับมาแล้ว เจ้าอยากทำอย่างไรก็ทำเลย ข้าจะไม่สนใจอีกต่อไปแล้ว”มือที่กำลังจะผลักประตูเข้าไปของกวนซินต้องนิ่งค้างกลางอากาศนางพอจะเดาได้ว่าแม่นมหลี่ไม่มีทางปล่อยนางไปจากนั้นเสียงของเตียวเฉียงดังขึ้นตาม“แม่นมหลี่ ข้าเคยบอกตั้งนานแล้วว่าเก็บสตรีนางนั้นไปก็มีแต่จะสร้างปัญหาให้ท่าน”“ยกนางให้ข้าเถิด ข้ารับรองว่าจะสั่งสอนนางให้เชื่อฟัง”“แล้วยังมีนังหนูคนนั้นด้วย เอาไว้ข้าจัดการกวนซินเสร็จแล้วจะพานังหนูนั่นไปขายให้หอโคมเขียว”“นังหนูคนนั้นหน้าตาสะสวย รับรองว่าขายได้ราคาดี”แม่นมหลี่แค่นเสียงเย็น ตอนนี้นางไม่มีอารมณ์มาสนใจเรื่องอื่นร่างกายนางปวดระบมไปหมด คิดแต่จะกลับห้องไปนอนพักส่วนเตียวเฉียงจะจัดการกวนซินอย่างไรนั้น นั่นเป็นเรื่องของพวกเขาเอาไว้นางรักษาตัวให้หายดีแล้วค่อยสั่งสอนกวนซินใหม่
เดิมทีแม่นมหลี่ก็มีบาดแผลอยู่แล้ว จนถึงตอนนี้ก็ยังไม่หายดีตอนนี้ต้องมามีบาดแผลใหม่เพิ่มจากของเดิม เรื่องนี้ทำให้นางเคียดแค้นต่อกวนซินมากขึ้นหากไม่ใช่เพราะกวนซินไปกินข้าวที่บ้านของฉู่จวินสิง นางก็คงไม่โดนหนูกัดนางสาปแช่งในใจ ตัวนางรู้ดีว่าก้าวล่วงครอบครัวของฉู่จวินสิงไม่ได้ แต่กับกวนซิวแล้วนางไม่กลัวสักหน่อยเพียงแค่กวนซินกลับมา นางก็มีสารพัดวิธีสำหรับจัดการสองแม่ลูกคู่นี้เกรงว่าถึงเวลานั้น นางไม่ต้องลงมือ พวกบุรุษในบ้านก็สามารถทำให้กวนซินกับฉู่ตั๋วตั่วอยู่ในสภาพสะบักสะบอมเจี่ยนอันอันพบว่าเรื่องนี้ได้รับการแก้ไขอย่างสมบูรณ์แบบโดยที่ตัวเองไม่ต้องลงมือนางหันศีรษะด้วยรอยยิ้ม เห็นว่ากวนซินกำลังมีสีหน้ากลัดกลุ้ม“เป็นอะไรไป เจ้ากลัวยายแก่นั่นมากหรือ?”แม้เจี่ยนอันอันจะรู้ว่าป้ายคำสั่งในมือยายแก่เป็นของที่ได้มาจากฉู่ชางเหยียนแต่ที่นี่ไม่ใช่เมืองจิงโจว ไม่มีผู้ใดที่นี่รู้จักป้ายคำสั่งนั่นที่นางคิดไม่ถึงก็คือ กวนซินจะหวาดกลัวยายแก่มากถึงขนาดนี้กวนซินก้มหน้ามองฉู่ตั๋วตั่วที่อยู่ด้านข้างนางไม่ได้กลัวแม่นมหลี่ แต่นางกลัวว่าฉู่ตั๋วตั่วจะถูกแม่นมหลี่ทุบตีนอกจากนี้ที่นั่นยังม