ผู้คุมหลายคนได้กลิ่นเหม็นรุนแรงจากการผายลม แต่พวกเขาไม่กล้าอุดจมูกหรือหลบเลี่ยงทำได้เพียงกลั้นใจและเร่งฝีเท้าให้เร็วขึ้นด้วยสีหน้าไร้ความรู้สึกขันทีใหญ่ก็วิ่งตามออกมาด้วย ขณะเดินตามหลังฮ่องเต้ก็มีสีหน้ากังวลเขากลัวจริง ๆ ว่าฮ่องเต้อาจพลาดปล่อยลมออกมา แล้วเผลอทำเลอะในกางเกงเจี่ยนอันอันที่ล่องหนอยู่ มองเห็นท่าทางน่าสมเพชของฮ่องเต้สุนัขที่ดูเหมือนจะถ่ายไม่หยุด นางก็แทบจะกลั้นหัวเราะไว้ไม่อยู่ยาระบายที่นางใช้ไม่มีทางแก้ได้ พอจะทำให้ฮ่องเต้สุนัขนี้ถ่ายไม่หยุดถึงเจ็ดวันเจ็ดคืนเมื่อเห็นว่าเวลาได้ที่แล้ว เจี่ยนอันอันก็ออกจากวังหลวงแล้วกลับมาที่เกี้ยวแต่งงานในทันทีในเวลานี้ เกี้ยวแต่งงานได้หยุดอยู่หน้าจวนเยียนอ๋องแล้วไร้เงาของชายฉกรรจ์สี่คนที่หามเกี้ยวมาเจี่ยนอันอันดึงผ้าคลุมหน้าสีแดงออก ก่อนจะเปิดม่านเกี้ยวแล้วก้าวออกมาอย่างมั่นใจนางเห็นว่าหน้าจวนเยียนอ๋องได้ถูกล้อมโดยทหารรักษาพระองค์แล้วเสียงร้องไห้และเสียงด่าทอดังมาจากภายในจวนเยียนอ๋องเจี่ยนอันอันไม่สนใจทหารรักษาพระองค์เหล่านั้น นางก้าวเดินเข้าไปในจวนเยียนอ๋องอย่างไม่ลังเลทันทีที่นางเดินเข้าไปก็เห็นว่าภายในจวนเยียนอ
หลังจากที่คนในตระกูลคนอื่นได้ยินบทสนทนาของทั้งคู่ ก็รู้สึกประหลาดใจในตัวตนคุณหนูใหญ่ของเจี่ยนอันอันเป็นอย่างมากนางไม่ใช่คุณหนูรองที่ฮ่องเต้พระราชทานสมรสให้หรอกหรือนี่แต่หลังจากได้ยินเจี่ยนอันอันยืนกรานว่าจะไม่แต่งด้วยหากไม่ใช่เยียนอ๋อง พวกเขาก็รู้สึกประทับใจในความจริงใจของเจี่ยนอันอันช่างเป็นแม่นางที่จิตใจดีงามเหลือเกิน ยอมออกเรือนแทนน้องสาวของตัวเองอย่างเด็ดเดี่ยวแน่วแน่ เลือกแต่งเข้ามาในจวนเยียนอ๋องของพวกเขายอมรับโทษเนรเทศไปตกระกำลำบากกับพวกตนอาศัยเพียงความจริงใจนี้ของนาง พวกเขาก็จะปฏิบัติต่อนางเสมือนสมาชิกในครอบครัวของตัวเองแล้วขณะนั้นเอง เหล่าทหารรักษาพระองค์ที่ได้รับคำสั่งให้ไปตรวจค้นก็กลับมากันแล้วพวกเขายืนเรียงแถวอย่างเป็นระเบียบ รายงานต่อหัวหน้าทหารรักษาพระองค์ว่า “รายงานท่านหัวหน้า คลังสมบัติในจวนเยียนอ๋องว่างเปล่าขอรับ”“ในห้องของเยียนอ๋องก็ว่างเปล่าเช่นกัน”“ในห้องของคนอื่นๆ ในตระกูลก็ว่างเปล่าเช่นกันขอรับ”หัวหน้าทหารรักษาพระองค์นิ่งอึ้งไป คนในจวนเยียนอ๋องต่างก็อึ้งเช่นกันนี่มันเรื่องอะไรกัน พวกเขาเก็บทรัพย์สินไว้ที่เดิมโดยไม่ได้ไปแตะต้องเลยนี่ แต่กลับไม่
ฮูหยินใหญ่เห็นดังนั้นก็คิดจะปราดเข้าไปขวางตรงหน้าฉู่จวินสิงนั่นคือลูกชายคนเล็กของนาง ยามนี้ถูกฮ่องเต้ทำร้ายจนถึงขนาดนี้แล้วตอนนี้แม้แต่หัวหน้าทหารรักษาพระองค์ก็ยังไม่เห็นเขาอยู่ในสายตาช่างเหมือนดังคำกล่าวที่ว่าเสือตกที่นั่งลำบากยังถูกสุนัขรังแกโดยแท้ตอนนี้ถึงต้องแลกด้วยชีวิต นางก็จะไม่ปล่อยให้พวกเขาทำร้ายลูกชายนางเด็ดขาดเจี่ยนอันอันเห็นฮูหยินใหญ่จะพุ่งเข้าไปก็รีบดึงตัวอีกฝ่ายไว้“ฮูหยินใหญ่เจ้าคะ อย่าเพิ่งหุนหันพลันแล่นเจ้าค่ะ” เจี่ยนอันอันกระซิบข้างหูฮูหยินใหญ่ฮูหยินใหญ่หันกลับมามองเจี่ยนอันอัน ไม่เข้าใจว่าเหตุใดอีกฝ่ายจึงขัดขวางตนเองขณะที่เจี่ยนอันอันกำลังพูดอยู่นั้นก็ตั้งท่าเตรียมจะซัดเข็มเงินอีกเล่มใส่หัวหน้าทหารรักษาพระองค์เข็มเงินในมือนางเล่มนี้เคลือบยาพิษเอาไว้ พอทิ่มแทงลงไปก็จะทำให้หัวหน้าทหารรักษาพระองค์ผู้นี้เป็นอัมพาตทั่วร่างทันทีถึงตอนนั้นนางก็สามารถใช้หัวหน้าทหารรักษาพระองค์มาบีบบังคับทหารรักษาพระองค์เหล่านี้ได้หัวหน้าทหารรักษาพระองค์ในยามนั้นเห็นว่ายังคงไม่มีใครก้าวออกมาเขาเงื้อดาบในมือขึ้นแล้วฟันลงบนร่างฉู่จวินสิงทันทีเห็นกับตาว่าคมดาบกำลังจะฟันล
คนเหล่านั้นยังคงร่ำร้องไม่หยุด คอยปลุกเร้าให้ชาวบ้านคนอื่น ๆ ด่าทอครอบครัวเยียนอ๋องให้ไสหัวออกไปจากแคว้นไท่ยวนแต่พวกเขาไม่กล้าโยนสิ่งของในมืออย่างแม่นยำเหมือนเดิมอีกแล้วพวกเจี่ยนอันอันถูกเหล่าทหารรักษาพระองค์ควบคุมตัวไปถึงนอกเมืองหลังออกไปนอกเมืองแล้วก็จะมีคนในครอบครัวที่มาบอกลารออยู่ที่นี่คนในครอบครัวเหล่านั้นจะนำอาหารและน้ำมาให้คนที่ถูกเนรเทศ เหล่าทหารรักษาพระองค์ที่รับผิดชอบควบคุมตัวก็จะไม่ขัดขวางนี่เป็นกฎที่มีมาแต่ช้านาน ไม่เคยมีใครล่วงละเมิดมาก่อนเจี่ยนอันอันนึกว่าคงไม่มีคนจากจวนกั๋วกงมาส่ง แต่กลับเห็นรถม้าของจวนกั๋วกงคันหนึ่งจอดอยู่ข้างทางสาวใช้คนหนึ่งจูงสุนัขดุร้ายตัวหนึ่งเดินลงมาจากรถม้าเจี่ยนอันอันจำได้ว่าสาวใช้ผู้นี้คอยรับใช้เจี่ยนหลิงเยว่เจี่ยนอันอันเข้าใจแล้ว เจี่ยนหลิงเยว่คงส่งสาวใช้ผู้นี้มาแก้แค้นที่ทำให้ตนเองเสียโฉมเป็นแน่สาวใช้ลงมาจากรถม้าแล้วก็ไม่พูดพร่ำทำเพลง สั่งให้สุนัขดุร้ายตัวนั้นเข้ามาขย้ำเจี่ยนอันอันทันทีเจ้าสุนัขตัวร้ายกระเหี้ยนกระหือรือมาแต่แรก ได้ยินคำสั่งของสาวใช้ก็กระโจนเข้าหาเจี่ยนอันอันทันทีเจี่ยนอันอันก้าวเท้าหลบการจู่โจมของสุนัขไ
ก่อนหน้านี้ตอนอยู่ในจวนเยียนอ๋อง พวกเขาค้นไม่เจอทรัพย์สมบัติเลยสักชิ้นตอนไปรายงานผลการปฏิบัติหน้าที่ เขาจะต้องถูกฮ่องเต้ลงโทษอย่างแน่นอนหัวหน้าทหารรักษาพระองค์ผูกใจเจ็บคนในครอบครัวเยียนอ๋องเพราะเรื่องนี้เองเดิมนั้นพวกเขานำชุดผ้าป่านเนื้อหยาบสำหรับให้คนในตระกูลเยียนอ๋องผลัดเปลี่ยนมาด้วยแต่ตอนริบทรัพย์กลับค้นไม่เจออะไร หัวหน้าทหารรักษาพระองค์จึงเปลี่ยนใจเขาจะปล่อยให้คนในตระกูลเหล่านี้ถูกเนรเทศทั้งที่ยังสวมชุดหรูหราเช่นนี้แหละเขาต้องการให้ทุกคนได้เห็นว่าคนที่ถูกเนรเทศเหล่านี้ล้วนแต่เป็นเชื้อพระวงศ์ทั้งสิ้นดีที่สุดคือเจอโจรดักปล้นระหว่างทาง ถึงตอนนั้นเขาก็มีเรื่องสนุกให้ดูแล้วอย่างไรเสียฮ่องเต้ก็บัญชาไว้แล้วว่าพวกเขาแค่คุมคนไปส่งก็พอไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นระหว่างทาง พวกเขาไม่จำเป็นต้องออกโรงปกป้องรอจนไปถึงเมืองร้าง เขาค่อยให้คนเหล่านี้เปลี่ยนไปใส่ชุดผ้าป่านเนื้อหยาบให้พวกเขาใช้ชีวิตอันแสนลำเค็ญในถิ่นทุรกันดารไปเถอะในไม่ช้าเหล่าทหารรักษาพระองค์ก็เริ่มย่างเนื้อสุนัขกลิ่นหอมของเนื้อโชยมาเป็นระลอก ลอยมาเข้าจมูกของคนในตระกูลเยียนอ๋องพวกเขาเห็นทหารรักษาพระองค์กินเนื้อย่า
ฉู่จวินสิงในตอนนี้ราวกับศพศพหนึ่ง ทำได้เพียงปล่อยให้มือของเจี่ยนอันอันเคลื่อนไหวตามอำเภอใจไปบนร่างกายของตนเองหลังเจี่ยนอันอันทายาให้ฉู่จวินสิงอย่างรวดเร็วจนเสร็จ ก็นำยาแก้ปวดมาบดเป็นผงนางง้างปากฉู่จวินสิง เทผงยาแก้ปวดใส่ปากเขาฉู่จวินสิงอยากถ่มยาในปากทิ้งไป แต่กลับพบว่าการเคลื่อนไหวแค่นี้ยังกลายเป็นความยากเย็นแสนเข็ญสมองของเขาทำงานเร็วจี๋ สตรีผู้นี้ต้องการทำอันใดกันแน่ นางต้องการวางยาพิษเขาเช่นนั้นหรือ?หากเป็นเช่นนั้นจริง ถึงเขากลายเป็นผีก็จะไม่ยอมปล่อยนางไปแน่ขณะที่ฉู่จวินสิงคิดเหลวไหลอยู่ ก็เห็นว่ามือฉู่อันเจ๋อกำลังถือน้ำขวดหนึ่งเขากรอกน้ำในขวดใส่ปากฉู่จวินสิงน้ำและยาไหลผ่านลำคอลงไปในท้องของฉู่จวินสิงฉู่จวินสิงหรี่ตามองฉู่อันเจ๋อไม่เข้าใจว่าเหตุใดอีกฝ่ายจึงร่วมมือกับสตรีผู้นี้มากรอกยาพิษให้เขาคนทั้งสองจดจ่ออยู่กับการป้อนยาให้ฉู่จวินสิงจนไม่ได้สังเกตว่าฉู่จวินสิงในตอนนี้ได้สติแล้ว ทั้งยังกำลังมองพวกตนอยู่หลังทำทั้งหมดนั้นเสร็จ เจี่ยนอันอันก็กล่าวกับฉู่อันเจ๋อว่า “เจ้าเฝ้าเขาไว้ให้ดี ไม่ว่าเขามีอาการอย่างไร เจ้าก็ต้องมาบอกข้าทันที”ฉู่อันเจ๋อพยักหน้าน้อย ๆ “ข้าเ
ภาพเหล่านี้ปรากฏเพียงไม่นานก็หายไปเจี่ยนอันอันรู้ว่านี่คือความสามารถในการล่วงรู้อนาคตของร่างเดิมตอนนี้นางทะลุมิติมาอยู่ในร่างนี้ ยังได้รับสืบทอดพลังของร่างเดิมแต่ความสามารถในการล่วงรู้อนาคตของร่างเดิมมีขีดจำกัด รู้ได้เพียงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นภายในสามวันข้างหน้าเท่านั้นภาพเมื่อครู่ทำให้เจี่ยนอันอันรู้ว่ากลุ่มคนชุดดำจะปรากฏตัวในค่ำคืนนี้แม้นางจะไม่รู้ว่าผู้ใดเป็นคนส่งกลุ่มคนชุดดำนี้มา แต่พวกเขาต้องมีความเกี่ยวข้องกับทหารรักษาพระองค์พวกนี้แน่นอนหึ ทหารรักษาพระองค์พวกนี้ชอบแสร้งตายกันนักใช่หรือไม่ถ้าเช่นนั้นก็ให้พวกเขาได้ลิ้มรสความทรมานก่อนก็แล้วกันเจี่ยนอันอันแยกจากฮูหยินใหญ่แล้วมายังมุมที่ค่อนข้างมืดมุมหนึ่งครั้นเห็นว่าไม่มีผู้ใดสังเกตเห็นตัวเอง เจี่ยนอันอันก็รำพึงในใจเงียบ ๆ ว่า ‘หายตัว’วินาทีถัดมานางก็หายไปแล้วเจี่ยนอันอันมายังกองทหารรักษาพระองค์ จากนั้นนำผงยาถ่ายออกมาจากช่องมิตินี่เป็นสิ่งที่นางใช้กับฮ่องเต้สุนัขไปเมื่อก่อนหน้านี้เดิมทีนางยังคิดระหว่างทางที่มาที่นี่อยู่เลยว่าจะอยู่ร่วมกับทหารรักษาพระองค์เหล่านี้แต่โดยดีทว่าดูจากตอนนี้คงไม่จำเป็นแล้วนางโรย
หากพวกผู้ใต้บังคับบัญชาพวกนั้นรู้เรื่องนี้เข้า วันหน้าเขาจะเป็นผู้นำของพวกเขาต่อไปได้อย่างไรเรื่องนี้จะกลายเป็นหัวข้อสนทนาในยามว่างอย่างไม่ต้องสงสัยเกรงว่าแม้แต่ตอนนอนก็อาจสะดุ้งตื่นเพราะเสียงหัวเราะครั้นเห็นเหล่าทหารรักษาพระองค์วิ่งมาทางนี้ หัวหน้าทหารรักษาพระองค์ก็ต้องรีบโบกมือไล่โดยพลัน“ไปทำธุระกันที่อื่น อย่ามารบกวนข้า!”ทหารรักษาพระองค์คนอื่น ๆ ไม่ได้รู้ว่าหัวหน้าของตัวเองถ่ายราดกางเกงและไม่คิดจะสงสัยเช่นกัน พวกเขาพากันวิ่งไปปลดทุกข์ที่อีกฝั่งของป่ารกร้างไม่นานก็เกิดเสียงผายลมสะเทือนฟ้าสะเทือนดินขึ้นในป่ารกร้างแห่งนี้ หลังจากที่หัวหน้าทหารรักษาพระองค์จัดการธุระเสร็จ เขากลับมีเรื่องกลัดกลุ้มใจตามมาเขาจะกลับไปอย่างไรดี จะให้สวมกางเกงที่มี ‘คราบทองคำ’ เปรอะเปื้อนก็คงไม่ใช่ทหารรักษาพระองค์คนอื่นๆ เสร็จธุระแล้วสวมกางเกงเพื่อเตรียมจะกลับไปทว่าพวกเขายังไม่ได้ทันจะได้เยื้องย่าง ท้องก็เริ่มปวดบิดขึ้นมาอีกครั้ง“ข้าไม่ไหวแล้ว ข้าต้องทำธุระต่อ พวกเจ้ากลับไปเฝ้ายามก่อนเถอะ”“ข้านั่งจนขาชาไปหมดแล้ว แต่ท้องก็ยังไม่หายปวดสักที”“มันเพราะอะไรกันแน่ หรือว่าเนื้อสุนัขตัวนั้นจะ
มองดูร่างกายผอมบางของเจียงหว่านเอ๋อร์สั่นเทิ้มเบาๆ เพราะร้องไห้เจี่ยนอันอันเดินเข้าไปนั่งด้านข้างนางยกมือตบหลังเจียงหว่านเอ๋อร์อย่างแผ่วเบา“พี่สะใภ้อย่าร้องไห้อีกเลย ข้าคิดว่าท่านคงเข้าใจข้าผิดเป็นแน่”ทว่าเจียงหว่านเอ๋อร์ฟังคำว่าพี่สะใภ้แล้วกลับรู้สึกว่าไม่รื่นหูเอาเสียเลยนางนึกถึงคำพูดที่เสิ่นจือเจิ้งบอกนางเมื่อวาน บอกว่าเจี่ยนอันอันเป็นน้องหญิงของเขา บอกให้นางดีต่อเจี่ยนอันอันบัดนี้เจี่ยนอันอันยังจะมาเรียกนางว่าพี่สะใภ้อีกหรือว่าความสัมพันธ์ระหว่างพวกเขาจะแน่นแฟ้นใกล้ชิดมากกว่าเดิม!เจียงหว่านเอ๋อร์ยิ่งคิดก็ยิ่งเสียใจ ตัวนางไม่ได้มีรูปโฉมงดงามอย่างเจี่ยนอันอันไม่ได้มีความสามารถแบบเจี่ยนอันอันที่สามารถถอนวิชาไสยศาสตร์ของเฉียนซื่อได้แต่ถึงอย่างไรนางก็ให้กำเนิดทายาทเพื่อเสิ่นจือเจิ้ง ซ้ำยังล้มป่วยเพราะเหตุนี้หรือว่าการทุ่มเททั้งหมดของนางจะไม่มากพอ?ในทางกลับกัน เจี่ยนอันอันแค่ช่วยถอนวิชาไสยศาสตร์ให้เสิ่นจือเจิ้งด้วยซ้ำไปหลังจากที่เสิ่นจือเจิ้งคืนสติก็รักและทะนุถนอมเจี่ยนอันอันมากจะไม่ให้นางน้อยใจและว้าวุ่นใจได้อย่างไรเจียงหว่านเอ๋อร์ไม่พูดอะไร แต่ร่างกายของนา
เจี่ยนอันอันรีบหยิบยาแก้อักเสบกระปุกหนึ่งออกมาจากในมิติเพื่อทำลายความอึดอัดนี้“พี่ใหญ่ วันนี้ข้ายังต้องให้ยาแก้อักเสบท่านอีก แบบนี้ร่างกายท่านจะได้ดีขึ้นเร็วหน่อย”เสิ่นจือเจิ้งไม่ได้พูดอะไร สายตายังคงจ้องมองฉู่จวินสิงอย่างเย็นชาเขายื่นมือข้างหนึ่งออกมารอให้เจี่ยนอันอันให้ยาแก้อักเสบเจี่ยนอันอันแทงเข็มให้ยาแก้อักเสบให้เสิ่นจือเจิ้งอย่างคล่องแคล่วเสียงเคาะประตูดังขึ้นเวลานั้นเองเสียงเจียงหว่านเอ๋อร์ดังมาจากข้างนอก“ท่านพี่ ข้าได้ยินคังเอ๋อร์บอกว่าแม่นางเจี่ยนมาหา”“ข้าเข้าไปได้หรือไม่?”เจี่ยนอันอันมองไปทางเสิ่นจือเจิ้ง เห็นเขาขมวดคิ้ว สีหน้าเผยความรำคาญใจออกมา“ห้ามเข้ามา ตอนนี้ข้าไม่อยากเห็นเจ้า” เสิ่นจือเจิ้งกล่าวอย่างอารมณ์ไม่ดี“ท่านพี่ ข้า...”“ไปให้พ้น!”เจียงหว่านเอ๋อร์ที่ยืนอยู่หน้าประตูได้ยินคำพูดนี้ดังมาจากในห้องแล้วก็รู้สึกน้อยใจเหตุใดพอเจี่ยนอันอันมาแล้ว เสิ่นจือเจิ้งจึงมีท่าทีหงุดหงิดรำคาญนางเช่นนี้นางทำผิดอะไรกันแน่ ตอนนี้แค่อยากเห็นเสิ่นจือเจิ้งก็ยังกลายเป็นความเพ้อฝัน?เจียงหว่านเอ๋อร์หมุนตัวจากไปทั้งดวงตาแดงก่ำนางอัดอั้นตันใจเหลือจะกล่าวจึงวิ่ง
เจี่ยนอันอันโอดครวญอยู่บนเตียงอุ่นสักพักก็ลุกขึ้นนั่งวันนี้นางมีเรื่องต้องไปจัดการ เรือนของเสิ่นจือเจิ้งต้องสร้างไว้แต่เนิ่นๆ ถึงจะดีหลังคนทั้งสองอาบน้ำออกมาจากห้องก็เห็นชาวบ้านหลายคนมายืนอยู่ในลานเรือนแล้วพวกเขากำลังพูดอะไรบางเกี่ยวกับท่อนไม้เหล่านั้นฉู่อันเจ๋อกับเหยียนเซ่ายืนฟังชาวบ้านพูดอะไรอยู่หน้าท่อนไม้ซ่างชิวกล่าว “ท่อนไม้พวกนี้สามารถสร้างเรือนหลังใหญ่ได้เลยทีเดียว อย่างน้อยก็สร้างได้ห้าห้องเชียวละ”อวี๋ว่านพยักหน้าเอ่ยว่า “ท่อนไม้พวกนี้พอใช้งานจริงๆ เกรงแต่ว่าซื้อท่อนไม้มามากมายขนาดนี้ คงใช้เงินไปไม่น้อยเลยกระมัง”ยามนั้นเหล่าสาวใช้ทำอาหารเสร็จยกมาตั้งโต๊ะเรียบร้อย คนตระกูลฉู่มานั่งลงแล้วเริ่มรับประทานอาหารเจี่ยนอันอันมองคนในหมู่บ้านเหล่านั้นแล้วถามพวกเขาว่าจะกินข้าวด้วยกันหรือไม่?พวกชาวบ้านรีบโบกไม้โบกมือ บอกว่าพวกตนกินมื้อเช้ามาแล้วจ้าวลิ่วเห็นอาหารเต็มโต๊ะเหล่านั้นแล้วก็น้ำลายไหลอย่างอดไม่อยู่ใบหน้าของเขาแสดงความอิจฉาออกมาถ้าที่บ้านเขาสามารถกินอาหารอร่อยแบบนี้ได้ก็ดีน่ะสิหลังกินอาหารอย่างรวดเร็ว เจี่ยนอันอันกับฉู่จวินสิงก็พาพวกชาวบ้านไปยังที่พักของกวน
เห็นฉู่จวินสิงไม่พอใจจริงๆ เจี่ยนอันอันก็ดึงมือเขามาพลางแสดงท่าทางบอกให้เขานั่งลงข้างตนเอง“เอาละ ที่ข้าพูดไปเมื่อครู่ ความจริงก็แค่หลอกท่านเล่น”“ข้าจะบอกความจริงให้ท่านฟังก็แล้วกัน เสิ่นจือเจิ้งเป็นพี่ใหญ่ของข้า”พี่ใหญ่อะไรกัน เจ้าคิดว่าข้าจะเชื่องั้นรึ?ฉู่จวินสิงมุ่นคิ้ว สายตาจ้องดวงตาเจี่ยนอันอันเขม็งหมายจะค้นหาพิรุธจากแววตาของนางเจี่ยนอันอันเห็นว่าเป้าหมายของตนเองบรรลุแล้วก็ไม่อยากแกล้งเขาอีกแต่เห็นท่าทางหึงหวงของเขาแล้วก็ชักรู้สึกกลัวขึ้นมาเจี่ยนอันอันแลบลิ้น เอ่ยยิ้มๆ ว่า “ตอนนี้ข้าจะพูดเรื่องจริงจังแล้ว ท่านฟังแล้วก็อย่าตกใจเกินไปนะ”ฉู่จวินสิงไม่ส่งเสียง เขาอยากฟังเหมือนกันว่าเจี่ยนอันอันจะพูดอะไรออกมาเจี่ยนอันอันเก็บรอยยิ้มกลับไป กล่าวด้วยสีหน้าจริงจังว่า “เสิ่นจือเจิ้งคือพี่ใหญ่ของข้าจริงๆ”“ที่อยู่ในร่างกายเขาตอนนี้ ไม่ใช่เสิ่นจือเจิ้งคนเดิม แต่เป็นพี่ชายแท้ๆ ของข้า”เห็นฉู่จวินสิงมีท่าทางเหมือนฟังไม่เข้าใจ เจี่ยนอันอันก็เล่าเรื่องของคนทั้งสองออกมาจนหมดฉู่จวินสิงยืนยันว่าเจี่ยนอันอันไม่ได้โกหกเขาแล้ว ในที่สุดสีหน้าเย็นชาของเขาก็อ่อนโยนลงมากไอเย็นบนร่า
“ข้าเข้าไปดูได้หรือไม่?” ฉู่จวินสิงค่อนข้างสนใจห้องอาบน้ำนั่นมากทีเดียวเจี่ยนอันอันส่ายหน้าเบาๆ “ห้องอาบน้ำนี้มีแค่ข้าที่สามารถเข้าไปได้ คนนอกเข้าไปไม่ได้”ฉู่จวินสิงร้องอ้อคำหนึ่งแล้วก็ไม่ได้พูดอะไรอีกเห็นฉู่จวินสิงมีท่าทางผิดหวังเช่นนั้น เจี่ยนอันอันก็ได้แต่เปลี่ยนหัวข้อสนทนา“จวินสิง ข้ามีเรื่องอยากบอกท่าน ท่านฟังแล้วอย่าตกใจเกินไปนะ”ฉู่จวินสิงเลิกคิ้วขึ้นน้อยๆ เจี่ยนอันอันเป็นคนที่ทะลุมิติมาเขายังรับได้ตอนนี้ยังมีเรื่องไหนที่ทำให้เขาตกใจได้อีกหรือเจี่ยนอันอันนึกสนุกขึ้นมากะทันหัน ทันใดนั้นก็อยากแกล้งฉู่จวินสิงขึ้นมานางดึงมือฉู่จวินสิงมาอยู่ตรงหน้าตนเองแล้วก้มหน้าเล่นมือเขาไปมา“ท่านก็รู้เรื่องที่เสิ่นจือเจิ้งต้องคุณไสย หลังจากข้าแก้คุณไสยที่เฉียนซื่อทำใส่เขา เขาก็ได้สติคืนมา”“เขาจำคนในตระกูลเสิ่นไม่ได้ แต่เขากลับจำข้าได้”เจี่ยนอันอันกล่าวถึงตรงนี้ก็เงยหน้ามองฉู่จวินสิง อยากเห็นความเปลี่ยนแปลงบนสีหน้าเขาฉู่จวินสิงขมวดคิ้วแน่น สีหน้าที่แต่เดิมอ่อนโยนก็ค่อยๆ บึ้งตึงขึ้นมาอดีตฮ่องเต้มีประสงค์จะประทานสมรสให้ทั้งสองครอบครัว เขาพอรู้มาบ้างไม่มากก็น้อยแต่ยามนั้นเจี
คนทั้งหลายออกมานอกร้านเพื่อดูคนงานของที่ร้านขนท่อนไม้มาข้างนอกเซิ่งฟางอดพูดไม่ได้ว่า “ท่อนไม้เยอะขนาดนี้ พวกเจ้าจะขนกลับไปที่หมู่บ้านชิงสุ่ยกันยังไง”“ไม่อย่างนั้นพวกเจ้ารออยู่ที่นี่ก่อน ข้ากลับที่ว่าการอำเภอไปเอารถม้ามาสักสองคันดีหรือไม่”เจี่ยนอันอันโบกมือยิ้มๆ “พี่ใหญ่เซิ่งอย่าลืมสิว่าข้ามีถุงเฉียนคุนอยู่”“ท่อนไม้พวกนี้สามารถเอาเก็บไว้ในถุงเฉียนคุนได้”คำพูดของเจี่ยนอันอันทำให้เซิ่งฟางนึกขึ้นมาได้ขุมทรัพย์ในเมืองอินเป่ยก็ถูกเจี่ยนอันอันเก็บไว้ในถุงเฉียนคุนเหมือนกันไม่ใช่หรือมีเพียงเจี่ยนอันอันกับฉู่จวินสิงที่รู้ว่านั่นไม่ใช่ถุงเฉียนคุน แต่เป็นมิติที่ติดตัวเจี่ยนอันอันมาต่างหากเจ้าของร้านได้ยินบทสนทนาระหว่างทั้งสองแล้วก็นึกสงสัยขึ้นมาหมู่บ้านชิงสุ่ยขึ้นชื่อว่าเป็นสถานที่แสนยากจนในเมืองอินเป่ยสตรีผู้นี้สามารถล้วงเงินจำนวนมากขนาดนั้นออกมาโดยไม่กะพริบตาดูอย่างไรนางก็ไม่เหมือนคนหมู่บ้านชิงสุ่ยกลับเป็นแม่นางน้อยหน้าตาพริ้มเพราผู้นั้นเสียอีกที่เป็นไปได้มากว่าคงเป็นคนหมู่บ้านชิงสุ่ยไม่มีใครรู้ว่าเจ้าของร้านกำลังคิดอะไรอยู่ เจี่ยนอันอันก็ไม่สนว่าจะมีคนล่วงรู้เรื่องที่ต
เจี่ยนอันอันเมื่อได้ยินก็มีความสุขขึ้นมาหากว่าได้ในราคาที่ถูกลงแล้วยังไม่เอาอีก ก็คงจะโง่เขลาแล้วในเมื่อสามารถใช้เงินน้อยลงเพื่อซื้อไม้ชั้นดีได้ แน่นอนว่านางต้องย่อมยินดี“พี่เซิ่ง เช่นนั้นก็อย่ารอช้ากันเลย พวกเราไปซื้อไม้กันตอนนี้เถอะ”ทั้งสี่คนนั่งบนรถม้า แล้วเดินทางมุ่งหน้าไปยังร้านค้าไม่นานพวกเขาก็มาถึงยังประตูร้านขายไม้ ทั้งสี่คนลงจากรถม้า แล้วเดินก้าวใหญ่เข้าไปในร้านค้าเถ้าแก่ร้านเมื่อเห็นว่าเซิ่งฟางมา ก็รีบออกมาต้อนรับจากด้านหลังโต๊ะ“นายอำเภอเซิ่ง วันนี้มาได้อย่างไรกัน ต้องการซื้อไม้อย่างนั้นหรือ?”เซิ่งฟางพยักหน้าออกมาเบาๆ “ข้าต้องการซื้อไม้เอาไปสร้างบ้าน ที่เจ้ามีไม้ดีอะไรแนะนำบ้างหรือไม่?”เถ้าแก่ร้านเดิมก็ขอบคุณเซิ่งฟางที่ช่วยเขาตามไม้ที่หายไปกลับมา แน่นอนว่าย่อมต้องพยายามช่วยเขาเลือกไม้ออกมาสามชนิดเจี่ยนอันอันมองไปยังเถ้าแก่ร้านที่มีอายุกว่าห้าสิบปี ตัวสูงผอม แต่แรงกลับมีอยู่ไม่น้อยเขานำไม้ทั้งสามชนิดวางไว้ด้านหน้าของพวกเขา รอให้พวกเขาเลือกที่ตนเองชื่นชอบเท่านั้นเจี่ยนอันอันไม่เข้าใจเรื่องของไม้เช่นนี้มากนักนางเพียงจ่ายเงิน ส่วนเรื่องการเลือกนั่น คงต้อ
เจี่ยนอันอันไม่ได้ใส่ใจมากนัก“ข้าเพียงแค่ดื่มไปเล็กน้อยเท่านั้น กลับเป็นเหวินอิงที่ดื่มไปค่อนข้างมาก”เจี่ยนอันอันกัดฟันแล้วยิ้มให้ฉู่จวินสิง แล้วอดไม่ได้ที่จะเรอออกมาเซิ่งฟางฟังทั้งสองคนพูดคุยกัน ก็รีบหันกายกลับมา เมื่อเห็นว่าเจี่ยนอันอันกลับมาแล้ว ใบหน้าของเขาก็ค่อยๆ เผยรอยยิ้มขึ้นมา“น้องอันอันกลับมาแล้ว”“เจ้ารีบพูดมา ว่าได้พบเหวินอิงหรือไม่?”“ตอนนี้นางเป็นอย่างไรบ้าง คิดถึงข้าหรือไม่?”เซิ่งฟางเป็นเหมือนราวกับปืนใหญ่ ที่ถามคำถามออกมามากมายอารมณ์ของเขาในตอนนี้ดูตื่นเต้นมากเสียยิ่งกว่าใคร ดูเหมือนว่าเจี่ยนอันอันไม่เพียงแต่ได้พบกับเจี่ยนอันอัน ยังจะดื่มเหล้ากับนางอีกด้วยเจี่ยนอันอันหยิบถ้วยชาบนโต๊ะหินขึ้นมา ดื่มน้ำชาเข้าไปคำหนึ่ง เพื่อระงับอาการเรอเอาหล้าออกมานั้นลงไปเซิ่งฟางจ้องไปยังเจี่ยนอันอันอย่างไม่เลื่อนสายตาไปที่ใด รอเพียงแต่ให้นางพูดถึงเรื่องของเหวินออกมาเจี่ยนอันอันนั่งลงบนม้าหิน แล้วโบกมือให้ฉู่จวินสิงและเซิ่งฟางนั่งลงซ่างตงเยว่ในตอนนี้เองก็ถูกคำพูดของพวกเขาปลุกให้ตื่นขึ้นมาแล้ว เมื่อเห็นว่าเจี่ยนอันอันกลับมา ในที่สุดนางก็ถอนหายใจออกมาด้วยความโล่งอก“รอ
เหวินอิงยิ่งพูดก็ยิ่งโมโห ยังสบถคำหยาบคายออกมาอีกหลายคำนางดื่มเหล้าผลไม้ในชามไปจนหมดในตอนที่รินให้ตัวเองเพิ่มนั้น เหวินอิงถึงได้พบว่า เหล้าในชามของเจี่ยนอันอันยังเหลืออีกกว่าครึ่ง“ทำไมเจ้าถึงได้ไม่ดื่มมัน หรือว่ารังเกียจที่เหล้าผลไม่ที่ข้าซื้อมาไม่อร่อย?”เหวินอิงพูดขึ้นพลางลิ้มรสที่มีในปาก เหล้านี่ก็อร่อยดีนี่ในกลิ่นหอมของเหล้า ยังผสมไปด้วยรสผลไม้จางๆเจี่ยนอันอันยิ้มออกมา แล้วหยิบเหล้าขึ้นมาจิบไปอีกคำ“เจ้าอย่ามัวแต่มาดื่มเหล้าให้หมด กินอาหารให้มากเข้า”“อาหารสี่จานนี่ข้าคนเดียวคงจะกินไม่หมด เจ้าก็กินเสียหน่อย”เจี่ยนอันอันมองไปที่อาหารทั้งสี่จานบนโต๊ะ ดูเมือนว่าจะอร่อยเสียยิ่งกว่าอาหารทั้งหมดเมื่อครั้งก่อนที่นางมายังค่ายเทียนอวิ๋นเสียอีก“ค่ายเทียนอวิ๋นมีคนทำอาหารแล้วหรือ?” เจี่ยนอันอันอดไม่ได้ที่จะถามออกไป“อย่าพูดถึงเลย ในหมู่พี่น้องที่คลุ้มคลั่งเหล่านั้นของข้า ก็มีคนที่เคยเป็นพ่อครัวมาก่อน”“ในตอนนั้นเขาตายอย่างน่าอนาถที่สุด หลังจากที่ทำร้ายพี่น้องไปหลายคนแล้ว เขาก็เชือดคอตัวเอง”เหวินอิงพูดมาจนถึงตรงนี้ ก็รินเหล้าให้เจี่ยนอันอันจนเต็ม“ในเมื่อเจ้าบอกว่าคนพวกนั้