Share

บทที่ 12

หากพวกผู้ใต้บังคับบัญชาพวกนั้นรู้เรื่องนี้เข้า วันหน้าเขาจะเป็นผู้นำของพวกเขาต่อไปได้อย่างไร

เรื่องนี้จะกลายเป็นหัวข้อสนทนาในยามว่างอย่างไม่ต้องสงสัย

เกรงว่าแม้แต่ตอนนอนก็อาจสะดุ้งตื่นเพราะเสียงหัวเราะ

ครั้นเห็นเหล่าทหารรักษาพระองค์วิ่งมาทางนี้ หัวหน้าทหารรักษาพระองค์ก็ต้องรีบโบกมือไล่โดยพลัน

“ไปทำธุระกันที่อื่น อย่ามารบกวนข้า!”

ทหารรักษาพระองค์คนอื่น ๆ ไม่ได้รู้ว่าหัวหน้าของตัวเองถ่ายราดกางเกงและไม่คิดจะสงสัยเช่นกัน พวกเขาพากันวิ่งไปปลดทุกข์ที่อีกฝั่งของป่ารกร้าง

ไม่นานก็เกิดเสียงผายลมสะเทือนฟ้าสะเทือนดินขึ้นในป่ารกร้างแห่งนี้

หลังจากที่หัวหน้าทหารรักษาพระองค์จัดการธุระเสร็จ เขากลับมีเรื่องกลัดกลุ้มใจตามมา

เขาจะกลับไปอย่างไรดี จะให้สวมกางเกงที่มี ‘คราบทองคำ’ เปรอะเปื้อนก็คงไม่ใช่

ทหารรักษาพระองค์คนอื่นๆ เสร็จธุระแล้วสวมกางเกงเพื่อเตรียมจะกลับไป

ทว่าพวกเขายังไม่ได้ทันจะได้เยื้องย่าง ท้องก็เริ่มปวดบิดขึ้นมาอีกครั้ง

“ข้าไม่ไหวแล้ว ข้าต้องทำธุระต่อ พวกเจ้ากลับไปเฝ้ายามก่อนเถอะ”

“ข้านั่งจนขาชาไปหมดแล้ว แต่ท้องก็ยังไม่หายปวดสักที”

“มันเพราะอะไรกันแน่ หรือว่าเนื้อสุนัขตัวนั้นจะมีปัญหา พวกเราถึงได้ถ่ายท้องกันหมด?”

“เวลานี้อย่าเพิ่งพูดเรื่องกินเลย รีบจัดการธุระให้เสร็จเถอะ”

ครั้นเห็นเหล่าทหารรักษาพระองค์วิ่งห่างออกไป

เหล่าคนจากจวนเยียนอ๋องล้วนแต่มีสีหน้าฉงนสงสัย

มีเพียงเจี่ยนอันอันที่ก้มหน้าลอบหัวเราะ

นางอาศัยจังหวะที่เหล่าทหารรักษาพระองค์ยังกลับมาไม่ได้มาแจกจ่ายอาหารจากในช่องมิติให้กับทุกคนด้วยความเร่งรีบ

ฮูหยินใหญ่มีสีหน้างุนงงเมื่อเห็นว่าเจี่ยนอันอันยื่นขนมมาให้อีกครั้ง

ในฐานะที่นางเป็นหวังไท่เฟย[1] นางย่อมเคยกินขนมที่ทำโดยพ่อครัวหลวง

แต่เจี่ยนอันอันไปเอาขนมพวกนี้มาจากที่ใด?

ฮูหยินใหญ่ไม่ได้ถามอะไร นางเพียงมองเงาร่างของเจี่ยนอันอันอย่างเหม่อลอย

หลังจากที่แจกจ่ายขนมเสร็จเรียบร้อย เจี่ยนอันอันก็ไปหาถุงน้ำที่ไม่ได้ใส่ผงยาถ่ายมาจากฝั่งของพวกทหารรักษาพระองค์

นางกล่าวกับทุกคนว่า “พวกเรารีบกินให้เสร็จก่อนที่พวกทหารรักษาพระองค์จะกลับมาเถิด”

สมาชิกในตระกูลเหล่านี้ทนหิวมาทั้งวัน เวลานี้ไม่มีเวลามาสนใจอะไรมากนัก แต่ละคนรีบกินขนมในมืออย่างมูมมาม

หากกระหายก็ดื่มน้ำในถุง

เจี่ยนอันอันรอจนพวกเขากินเสร็จแล้วค่อยนำถุงน้ำกลับไปวางในห่อของของเหล่าทหารรักษาพระองค์ในสภาพเดิม

คนในตระกูลล้วนมองเจี่ยนอันอันด้วยสายตาซาบซึ้งใจ

มีเพียงฮูหยินใหญ่กับฉู่จวินหลุนที่มองเจี่ยนอันอันด้วยสายตาชวนให้ขบคิด

เจี่ยนอันอันเดินมาหาฉู่จวินสิง ทำการปลดเสื้อนอกของเขาออกเพื่อตรวจดูบาดแผล

นอกจากบาดแผลภายนอกที่เพิ่มมาใหม่แล้ว ตามร่างกายของฉู่จวินสิงยังมีแผลเป็นเล็กใหญ่อีกหลายจุด

พวกนี้เป็นร่องรอยที่เกิดจากการกรำศึกมาหลายปี

โชคดีที่บาดแผลของเขากำลังสมานกันอย่างช้า ๆ ดูเหมือนว่าบาดแผลภายนอกจะไม่มีอะไรร้ายแรงแล้ว

ทว่าบาดแผลภายในจำเป็นต้องได้รับการรักษาอย่างเหมาะสม

ยิ่งไปกว่านั้น วันนี้ฉู่จวินสิงก็ไม่ได้กินอะไรตลอดทั้งวัน

ร่างกายของเขาต้องได้รับการบำรุงอย่างเร่งด่วน แต่ตอนนี้เป็นช่วงเวลาวิกฤต นางไม่สามารถฉีดสารอาหารให้กับเขา

เจี่ยนอันอันทำอะไรไม่ได้นอกจากหยิบน้ำตาลกลูโคสออกมาหนึ่งขวด

นางบีบปากของฉู่จวินสิงให้อ้าออก จากนั้นค่อย ๆ เทน้ำตาลกลูโคสลงไป

ฉู่อันเจ๋อมองมาที่ขวดยาในมือเจี่ยนอันอัน เขาถามอย่างอดไม่อยู่ว่า “พี่สะใภ้รอง ในมือท่านคือสิ่งใดหรือ?”

เจี่ยนอันอันตอบโดยไม่เงยหน้าขึ้น “นี่เป็นยาบำรุงที่จะช่วยเสริมความแข็งแรงและสมานแผลให้กับพี่รองของเจ้า”

ฉู่อันเจ๋อพยักหน้าโดยไม่ได้สงสัยอะไรก่อนจะถามอีกว่า “บาดแผลของพี่รองเป็นอย่างไรบ้าง เขาจะฟื้นเมื่อไร?”

----------------------------------------------

[1] หวังไท่เฟย หมายถึง พระชายา พระสนม หรือนางในที่เป็นพระมารดาของพระโอรสในองค์จักรพรรดิที่ได้ดำรงตำแหน่งอ๋อง

Related chapter

Latest chapter

DMCA.com Protection Status