แชร์

บทที่ 12

ผู้เขียน: ซินต้งหรูสุ่ย
หากพวกผู้ใต้บังคับบัญชาพวกนั้นรู้เรื่องนี้เข้า วันหน้าเขาจะเป็นผู้นำของพวกเขาต่อไปได้อย่างไร

เรื่องนี้จะกลายเป็นหัวข้อสนทนาในยามว่างอย่างไม่ต้องสงสัย

เกรงว่าแม้แต่ตอนนอนก็อาจสะดุ้งตื่นเพราะเสียงหัวเราะ

ครั้นเห็นเหล่าทหารรักษาพระองค์วิ่งมาทางนี้ หัวหน้าทหารรักษาพระองค์ก็ต้องรีบโบกมือไล่โดยพลัน

“ไปทำธุระกันที่อื่น อย่ามารบกวนข้า!”

ทหารรักษาพระองค์คนอื่น ๆ ไม่ได้รู้ว่าหัวหน้าของตัวเองถ่ายราดกางเกงและไม่คิดจะสงสัยเช่นกัน พวกเขาพากันวิ่งไปปลดทุกข์ที่อีกฝั่งของป่ารกร้าง

ไม่นานก็เกิดเสียงผายลมสะเทือนฟ้าสะเทือนดินขึ้นในป่ารกร้างแห่งนี้

หลังจากที่หัวหน้าทหารรักษาพระองค์จัดการธุระเสร็จ เขากลับมีเรื่องกลัดกลุ้มใจตามมา

เขาจะกลับไปอย่างไรดี จะให้สวมกางเกงที่มี ‘คราบทองคำ’ เปรอะเปื้อนก็คงไม่ใช่

ทหารรักษาพระองค์คนอื่นๆ เสร็จธุระแล้วสวมกางเกงเพื่อเตรียมจะกลับไป

ทว่าพวกเขายังไม่ได้ทันจะได้เยื้องย่าง ท้องก็เริ่มปวดบิดขึ้นมาอีกครั้ง

“ข้าไม่ไหวแล้ว ข้าต้องทำธุระต่อ พวกเจ้ากลับไปเฝ้ายามก่อนเถอะ”

“ข้านั่งจนขาชาไปหมดแล้ว แต่ท้องก็ยังไม่หายปวดสักที”

“มันเพราะอะไรกันแน่ หรือว่าเนื้อสุนัขตัวนั้นจะมีปัญหา พวกเราถึงได้ถ่ายท้องกันหมด?”

“เวลานี้อย่าเพิ่งพูดเรื่องกินเลย รีบจัดการธุระให้เสร็จเถอะ”

ครั้นเห็นเหล่าทหารรักษาพระองค์วิ่งห่างออกไป

เหล่าคนจากจวนเยียนอ๋องล้วนแต่มีสีหน้าฉงนสงสัย

มีเพียงเจี่ยนอันอันที่ก้มหน้าลอบหัวเราะ

นางอาศัยจังหวะที่เหล่าทหารรักษาพระองค์ยังกลับมาไม่ได้มาแจกจ่ายอาหารจากในช่องมิติให้กับทุกคนด้วยความเร่งรีบ

ฮูหยินใหญ่มีสีหน้างุนงงเมื่อเห็นว่าเจี่ยนอันอันยื่นขนมมาให้อีกครั้ง

ในฐานะที่นางเป็นหวังไท่เฟย[1] นางย่อมเคยกินขนมที่ทำโดยพ่อครัวหลวง

แต่เจี่ยนอันอันไปเอาขนมพวกนี้มาจากที่ใด?

ฮูหยินใหญ่ไม่ได้ถามอะไร นางเพียงมองเงาร่างของเจี่ยนอันอันอย่างเหม่อลอย

หลังจากที่แจกจ่ายขนมเสร็จเรียบร้อย เจี่ยนอันอันก็ไปหาถุงน้ำที่ไม่ได้ใส่ผงยาถ่ายมาจากฝั่งของพวกทหารรักษาพระองค์

นางกล่าวกับทุกคนว่า “พวกเรารีบกินให้เสร็จก่อนที่พวกทหารรักษาพระองค์จะกลับมาเถิด”

สมาชิกในตระกูลเหล่านี้ทนหิวมาทั้งวัน เวลานี้ไม่มีเวลามาสนใจอะไรมากนัก แต่ละคนรีบกินขนมในมืออย่างมูมมาม

หากกระหายก็ดื่มน้ำในถุง

เจี่ยนอันอันรอจนพวกเขากินเสร็จแล้วค่อยนำถุงน้ำกลับไปวางในห่อของของเหล่าทหารรักษาพระองค์ในสภาพเดิม

คนในตระกูลล้วนมองเจี่ยนอันอันด้วยสายตาซาบซึ้งใจ

มีเพียงฮูหยินใหญ่กับฉู่จวินหลุนที่มองเจี่ยนอันอันด้วยสายตาชวนให้ขบคิด

เจี่ยนอันอันเดินมาหาฉู่จวินสิง ทำการปลดเสื้อนอกของเขาออกเพื่อตรวจดูบาดแผล

นอกจากบาดแผลภายนอกที่เพิ่มมาใหม่แล้ว ตามร่างกายของฉู่จวินสิงยังมีแผลเป็นเล็กใหญ่อีกหลายจุด

พวกนี้เป็นร่องรอยที่เกิดจากการกรำศึกมาหลายปี

โชคดีที่บาดแผลของเขากำลังสมานกันอย่างช้า ๆ ดูเหมือนว่าบาดแผลภายนอกจะไม่มีอะไรร้ายแรงแล้ว

ทว่าบาดแผลภายในจำเป็นต้องได้รับการรักษาอย่างเหมาะสม

ยิ่งไปกว่านั้น วันนี้ฉู่จวินสิงก็ไม่ได้กินอะไรตลอดทั้งวัน

ร่างกายของเขาต้องได้รับการบำรุงอย่างเร่งด่วน แต่ตอนนี้เป็นช่วงเวลาวิกฤต นางไม่สามารถฉีดสารอาหารให้กับเขา

เจี่ยนอันอันทำอะไรไม่ได้นอกจากหยิบน้ำตาลกลูโคสออกมาหนึ่งขวด

นางบีบปากของฉู่จวินสิงให้อ้าออก จากนั้นค่อย ๆ เทน้ำตาลกลูโคสลงไป

ฉู่อันเจ๋อมองมาที่ขวดยาในมือเจี่ยนอันอัน เขาถามอย่างอดไม่อยู่ว่า “พี่สะใภ้รอง ในมือท่านคือสิ่งใดหรือ?”

เจี่ยนอันอันตอบโดยไม่เงยหน้าขึ้น “นี่เป็นยาบำรุงที่จะช่วยเสริมความแข็งแรงและสมานแผลให้กับพี่รองของเจ้า”

ฉู่อันเจ๋อพยักหน้าโดยไม่ได้สงสัยอะไรก่อนจะถามอีกว่า “บาดแผลของพี่รองเป็นอย่างไรบ้าง เขาจะฟื้นเมื่อไร?”

----------------------------------------------

[1] หวังไท่เฟย หมายถึง พระชายา พระสนม หรือนางในที่เป็นพระมารดาของพระโอรสในองค์จักรพรรดิที่ได้ดำรงตำแหน่งอ๋อง

บทที่เกี่ยวข้อง

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาอ๋องผู้ถูกเนรเทศ   บทที่ 13

    เจี่ยนอันอันตอบหลังจากที่ป้อนน้ำตาลกลูโคสให้ฉู่จวินสิงเสร็จเรียบร้อย “บาดแผลของพี่รองเจ้าค่อนข้างสาหัส อวัยวะภายในได้รับความเสียหาย กระดูกซี่โครงหักไปสี่ซี่”“หลังจากคืนนี้จะฟื้นหรือไม่ ก็ขึ้นอยู่กับโชคชะตาแล้ว”ถ้อยคำของเจี่ยนอันอันทำให้ฉู่อันเจ๋อกังวลในทันที“ท่านหมายความว่าพี่รองกำลังจะตายหรือ?” ฉู่อันเจ๋อคว้าแขนของเจี่ยนอันอันอย่างตื่นตระหนก “พี่สะใภ้รอง ในเมื่อท่านเป็นคนสกุลฉู่ของเราแล้ว ข้าขอร้องท่านให้ช่วยพี่รองด้วยเถิด”เจี่ยนอันอันชักแขนออก และทำท่าทางพร้อมทำสียง “ชู่ว” เพื่อให้ฉู่อันเจ๋อใจเย็นลงเมื่อครู่นี้เขาพูดเสียงดังปานนั้น หากถูกฮูหยินใหญ่ได้ยินเข้าคงตกใจกลัวเป็นแน่แท้เจี่ยนอันอันกล่าวปลอบว่า “เจ้าวางใจเถิด มีข้าอยู่ทั้งคน ข้าจะไม่ให้เขาตายไวขนาดนั้นแน่ แต่อาการบาดเจ็บของเขารุนแรงไม่น้อยเลย ต้องขึ้นอยู่กับแรงใจของเขาด้วย หากเขามีแรงใจที่เข้มแข็ง พรุ่งนี้เช้าก็จะฟื้น หรือมิเช่นนั้นก็จะหลับใหลไปตลอดกาล”ฉู่อันเจ๋อเบาใจลงเมื่อได้ยินเจี่ยนอันอันบอกว่าพี่รองจะไม่ตาย อย่างมากสุดก็แค่หลับไม่ฟื้นขอเพียงพี่รองยังมีชีวิตอยู่ เช่นนั้นก็ต้องมีหนทางรักษาเขาให้หายดีแน่นอน

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาอ๋องผู้ถูกเนรเทศ   บทที่ 14

    เจี่ยนอันอันดีใจเป็นลิงโลดเมื่อเห็นมิติร้านค้าภายในมิติมีเงินตั้งมากมายถึงเพียงนั้น นางสามารถนำมาซื้อของในร้านค้าได้หลังจากนี้จะได้กินหลัวซือเฝิ่น[1]กับขนมให้สาแก่ใจได้แล้วไม่นึกเลยว่านางจะจับพลัดจับผลูทำเสร็จไปอีกภารกิจเจี่ยนอันอันมีความสุขจนเผลอยกยิ้มและฮัมเพลงออกมาโดยไม่รู้ตัวในยามนี้เอง ทหารรักษาพระองค์พวกนั้นก็ทยอยกันกลับมาเมื่อครู่นี้พวกเขาไปทำธุระมาอีกรอบ ยามนี้ท้องไส้จึงรู้สึกสงบลงในที่สุดพวกเขากลับมายังหน้ากองไฟและเพิ่งจะสังเกตเห็นว่าไม่มีพวกเขาคนใดอยู่เฝ้าที่นี่แม้แต่คนเดียวโชคดีที่คนของจวนเยียนอ๋องต่างก็นั่งอยู่ที่นี่ มิมีผู้ใดเล็ดลอดหนีไปมิเช่นนั้นหากมีคนหนีไป พวกเขาคงกลับไปรายงานผลการปฏิบัติภารกิจไม่ได้เหล่าทหารรักษาพระองค์ต่างนึกกลัวผลที่จะตามมาพวกเขารอแล้วรอเล่า หัวหน้าก็ไม่กลับมาสักทีทหารที่มีความสัมพันธ์ค่อนข้างดีกับหัวหน้าทหารรักษาพระองค์นายหนึ่งเห็นว่าหัวหน้าไม่กลับมาสักที ก็ลุกขึ้นยืนอย่างสุดจะทนในท้ายที่สุดเขาบอกกับทหารรักษาพระองค์คนอื่น ๆ “พวกเจ้าเฝ้าคนพวกนี้ให้ดี ข้าจะไปหาท่านหัวหน้า”ทหารนายนี้ว่าจบก็วิ่งเข้าไปในป่าครั้นเจี่ยนอันอันเ

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาอ๋องผู้ถูกเนรเทศ   บทที่ 15

    ทหารนายนั้นวิ่งกลับไปหัวหน้าทหารรักษาพระองค์แล้วดึงแขนของอีกฝ่ายเพื่อประคองให้ลุกขึ้น“เบาหน่อย ขาข้าชาจนไม่มีความรู้สึกแล้ว”หัวหน้าทหารองครักษ์ต้องพักอยู่นานจึงจะเปลี่ยนกางเกงชั้นในจากนั้นทหารนายนี้จึงประคองเขากลับไปยังจุดพักผ่อนอย่างเชื่องช้าเมื่อเจี่ยนอันอันเห็นหัวหน้าทหารรักษาพระองค์ ในที่สุดนางก็หัวเราะ “พรืด” ออกมาอย่างห้ามไม่อยู่หัวหน้าทหารรักษาพระองค์ตวาด “หัวเราะอะไร อย่าคิดว่าเจ้าเป็นคุณหนูใหญ่แห่งจวนกั๋วกงแล้วข้าจะไม่กล้าทำอะไรนะ” “ยามนี้เจ้าเป็นผู้ถูกเนรเทศ ต่อให้ตายระหว่างทางก็คงไม่มีผู้ใดช่วยเก็บศพ”หัวหน้าทหารรักษาพระองค์ทึกทักเอาเองว่าถ้อยคำของตัวเองจะทำให้เจี่ยนอันอันหวาดกลัวเจี่ยนอันอันเพียงแค่นเสียงแผ่วเบา ไม่ได้สนใจอีกฝ่ายนางคร้านจะเสวนากับเขา อย่างไรเสีย การยั่วโมโหอีกฝ่ายก็รังแต่จะทำให้นำปัญหาที่ไม่จำเป็นมาให้คนในตระกูลเปล่า ๆนางไม่อยากสร้างปัญหาให้ผู้อื่นเพราะตัวนางเองเจี่ยนอันอันหันไปมองฉู่จวินสิงที่ยังคงหมดสติปราดหนึ่งที่นี่มีฉู่อันเจ๋อดูแลอยู่ นางต้องไปปกป้องฮูหยินใหญ่ให้ปลอดภัยเจี่ยนอันอันกล่าวกับหลี่อันเจ๋อ “จงฟังให้ดี ประเดี๋ยวจะมีกล

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาอ๋องผู้ถูกเนรเทศ   บทที่ 16

    เจี่ยนอันอันเห็นดังนั้นจึงไม่รอช้า รีบหยิบเข็มเงินออกมาจากมิติและซัดไปยังชายชุดดำผู้นั้นทันทีเข็มเงินปักเข้าที่ลำคอของชายชุดดำ ก่อนที่เขาจะได้ตอบสนอง ร่างก็ล้มลงกับพื้นและสิ้นใจในทันทีเมื่อเสียงการต่อสู้ดังขึ้น เหล่าคนในตระกูลต่างก็ถูกปลุกให้ตื่นขึ้นพวกเขาลืมตาขึ้นมาก็เห็นกลุ่มคนชุดดำโผล่มาอย่างไม่คาดคิดเมื่อเห็นชายชุดดำคนหนึ่งตายอยู่ตรงหน้า บางคนก็ตกใจกลัวจนร้องไห้ออกมาทันทีชายชุดดำคนอื่น ๆ ที่เห็นเหตุการณ์ต่างก็ชะงักไปพวกเขาเห็นใบหน้าสหายของตนกลับกลายเป็นสีม่วงคล้ำไปแล้วเลือดสีดำไหลออกมาจากทวารทั้งเจ็ดของเขากลุ่มชายชุดดำรู้สึกตกใจอย่างมาก ไม่คาดคิดว่าเข็มเงินที่ปักอยู่บนลำคอของสหายนั้นจะถูกอาบด้วยยาพิษแม้แต่ทหารรักษาพระองค์ก็ยังตกใจกับเข็มเงินของเจี่ยนอันอันทุกคนหันสายตามองมาทางเจี่ยนอันอันอย่างพร้อมเพรียงฉู่จวินสิงเห็นว่าที่มุมปากของเจี่ยนอันอันยกขึ้นเล็กน้อยรอยยิ้มที่เต็มไปด้วยความกระหายเลือดและความโหดร้ายปรากฏขึ้นบนใบหน้าของนางหัวใจของฉู่จวินสิงถึงกับสั่นสะท้านสิ่งที่เขาไม่รู้ก็คือ ในยุคปัจจุบัน เจี่ยนอันอันชอบใช้เข็มเงินเป็นลูกดอกเล่นสนุกอยู่แล้วนางย

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาอ๋องผู้ถูกเนรเทศ   บทที่ 17

    กลุ่มคนชุดดำเหล่านั้นเดิมคิดว่าภารกิจลอบสังหารครั้งนี้จะสำเร็จได้โดยง่ายกลับคาดไม่ถึงว่า ท่ามกลางญาติพี่น้องเหล่านี้ จะมีนางพญามัจจุราชผู้เชี่ยวชาญการใช้พิษเช่นนี้อยู่ด้วยกลุ่มคนชุดดำสิบกว่าคนต่างนิ่งเงียบ ไม่มีใครปริปากพูดพวกเขาล้วนปฏิบัติตามคำสั่งอย่างเคร่งครัด ไม่มีทางเปิดเผยตัวผู้บงการอยู่เบื้องหลังเด็ดขาดเจี่ยนอันอันมองดูท่าทีปากแข็งไม่ยอมแพ้ของพวกเขานางจึงยิ้มเย็น ก่อนจะขว้างเข็มเงินไปยังคนหนึ่งในกลุ่มนั้นอีกครั้งชายชุดดำคนนั้นไม่ทันได้ตอบสนอง เข็มเงินก็ปักเข้าที่หัวเข่าของเขาทันทีชายชุดดำร้องด้วยความเจ็บปวด ก่อนจะทรุดตัวลงคุกเข่าข้างหนึ่งกับพื้นร่างกายของเขาเริ่มชาไปทั้งตัว แต่ในชั่วขณะต่อมากลับรู้สึกเหมือนมีแมลงนับล้านตัวกำลังกัดแทะชายชุดดำคิดในใจว่าคงจะพบจุดจบเช่นเดียวกับสหายหลายคนพวกนั้น ที่ตายภายใต้เงื้อมมือของหญิงสาวผู้นี้แน่แล้วเขาเงยหน้ามองเจี่ยนอันอันพร้อมกับแสยะยิ้มเย็นชาราวกับยอมรับความตาย“จะพูดหรือไม่พูด?” เสียงของเจี่ยนอันอันแผ่วเบาดุจเสียงกระซิบของภูตผีที่ล่องลอยเข้าโสตประสาทของชายชุดดำแม้เขาจะรู้สึกชาและเจ็บแปลบไปทั้งตัว แต่ยังคงกัดฟันแน่น ไ

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาอ๋องผู้ถูกเนรเทศ   บทที่ 18

    เมื่อเห็นหลุมเล็ก ๆ บนพื้น เหล่าผู้คนในตระกูลต่างก็อดหวาดเสียวแทนเจี่ยนอันอันไม่ได้โชคดีที่เจี่ยนอันอันหลบได้ทัน จึงไม่โดนแส้ฟาดมิเช่นนั้นหากถูกแส้นี้ฟาดลงไปคงทำให้ผิวหนังแตกยับเยินหัวหน้าทหารรักษาพระองค์ไม่คาดคิดว่าเจี่ยนอันอันจะหลบแส้ของเขาได้ เขาตวาดด้วยความโมโห “เจี่ยนอันอัน ตอนนี้เจ้าเป็นนักโทษเนรเทศ ห้ามพกของติดตัวเด็ดขาด”“ถ้าฉลาดก็รีบส่งเข็มเงินมา จะได้ไม่ต้องจะเจ็บตัว”หัวหน้าทหารรักษาพระองค์พูดจบก็สะบัดแส้แล้วฟาดไปทางเจี่ยนอันอันอีกครั้งในขณะที่แส้กำลังจะฟาดลงบนตัวเจี่ยนอันอัน ฮูหยินใหญ่ที่ยืนอยู่ด้านหลังก็ผลักนางหลบออกไปแส้จึงฟาดลงบนตัวฮูหยินใหญ่แทนฮูหยินใหญ่ร้องออกมาด้วยความเจ็บปวด พลางกุมบริเวณที่ถูกแส้ฟาดแล้วทรุดตัวลงเจี่ยนอันอันไม่คาดคิดว่าฮูหยินใหญ่จะผลักนางออกแล้วรับแส้นั้นแทนเมื่อครู่นางแค่รอให้แส้ฟาดลงมาเพื่อที่จะคว้าแส้ไว้แล้วค่อยลงโทษหัวหน้าทหารรักษาพระองค์ให้สาสมไม่คิดว่าจะกลับกลายเป็นแบบนี้ไปเสียได้“ฮูหยินใหญ่ ท่านเป็นอย่างไรบ้าง รีบนั่งลงมาให้ข้าดูเถิด” เจี่ยนอันอันรีบหันไปพยุงฮูหยินใหญ่ให้นั่งลงแล้วตรวจดูบาดแผลฮูหยินใหญ่รู้สึกเจ็บปวดจนตั

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาอ๋องผู้ถูกเนรเทศ   บทที่ 19

    เจี่ยนอันอันกล่าวอีกครั้งว่า “หากท่านหัวหน้าทหารรักษาพระองค์อยากลองลิ้มรสการถูกเข็มพิษปักดู ก็เชิญมารับไปได้เลย”“ข้าคิดว่าท่านหัวหน้าคงทราบดีว่า อยู่ในป่ารกร้างเช่นนี้ หากทหารรักษาพระองค์ตายไปสักสองสามคน ฮ่องเต้ก็คงไม่สนใจอะไร”คำพูดของเจี่ยนอันอันทำให้เหล่าทหารรักษาพระองค์ตกใจไม่น้อยสิ่งที่นางพูดนั้นถูกต้อง แม้พวกเขาจะเป็นทหารรักษาพระองค์แต่ในสายตาของฮ่องเต้ พวกเขาเทียบไม่ได้แม้แต่มดตัวหนึ่งยิ่งไปกว่านั้น ในระหว่างทางเนรเทศ ย่อมมีเหตุการณ์ไม่คาดฝันเกิดขึ้นได้เสมอหากทหารรักษาพระองค์ตายไปสักสองสามคนระหว่างทาง ก็ไม่มีใครสนใจและกลุ่มคนชุดดำเมื่อครู่ก็ถูกเจี่ยนอันอันฆ่าตายทั้งหมดไม่มีใครรู้ว่าในมือนางยังมีเข็มเงินอีกเท่าไร และไม่มีใครอยากเสี่ยงที่จะขัดใจเจี่ยนอันอันคำพูดของเจี่ยนอันอันทำให้หัวหน้าทหารรักษาพระองค์ตระหนักได้เขาเริ่มรู้สึกหวาดกลัว เมื่อนึกได้ว่าที่ผ่านมาเขาหงุดหงิดมากจนลืมไปว่าบนเข็มเงินนั้นมีพิษกลุ่มนักโทษเนรเทศเหล่านี้ ตอนนี้ไม่ต่างอะไรกับกลุ่มโจรปล้นฆ่าหากไปยั่วยุพวกเขา ในป่ารกร้างเช่นนี้ แม้ทหารรักษาพระองค์ทั้งหมดจะถูกฆ่า เกรงว่าคงไม่มีใครรู้ว่าเป็น

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาอ๋องผู้ถูกเนรเทศ   บทที่ 20

    วังหลวงนั้นมีการคุ้มกันอย่างเข้มงวดนางเป็นเพียงหญิงสาวที่อ่อนแอ หากต้องการเข้าไปในวังหลวง เกรงว่าคงถูกจับได้ตั้งแต่แรกแล้วแต่นางไม่เพียงไม่ถูกจับได้ ยังสามารถเดินเข้าคุกหลวงได้อย่างสบายใจนางไปที่คุกด้วยเหตุใด หรือจะไปปล้นตัวนักโทษหนีออกมา?แต่ในตอนนั้น ผู้คุมในคุกกลับทำเหมือนมองไม่เห็นนาง ปล่อยให้นางเดินไปมาได้ตามใจเรื่องนี้จะอธิบายได้อย่างไร?เมื่อเห็นเจี่ยนอันอันเดินเข้ามาใกล้ ฉู่จวินสิงจึงเบือนหน้าไปทางอื่นเพื่อหลบสายตาเจี่ยนอันอันเดินเข้ามาหยุดตรงหน้าฉู่จวินสิงโดยไม่พูดอะไร นางจับข้อมือของอ๋องหนุ่มขึ้นมาแล้วเริ่มตรวจชีพจรฉู่จวินสิงรู้สึกว่าข้อมือของตนถูกจับขึ้น และเห็นว่าเจี่ยนอันอันกำลังตรวจชีพจรของเขาอยู่ในใจของฉู่จวินสิงเต็มไปด้วยคำถามมากมาย เขาเปิดริมฝีปากบางเพียงเล็กน้อย แต่กลับไม่เอ่ยถามอะไรออกมาเลยสักคำเมื่อมองดูข้อมือของตนที่ถูกเจี่ยนอันอันจับไว้ พร้อมกับนิ้วเรียวเล็กที่แตะเบา ๆ บนเส้นชีพจรฉู่จวินสิงไม่ได้โกรธหรือไล่ให้เจี่ยนอันอันออกห่างจากเขาเขาปล่อยให้นางตรวจชีพจรของเขาต่อไปฉู่จวินหลุนและฉู่อันเจ๋อที่ยืนอยู่ข้าง ๆ ต่างตกตะลึงกับการกระทำของทั้งสองค

บทล่าสุด

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาอ๋องผู้ถูกเนรเทศ   บทที่ 690

    ขณะที่นางกำลังจะพูด ถังหมิงเซวียนก็ส่ายหน้าว่า “ไม่ใช่ๆ ราคาห้าหมื่นตำลึงต่างหาก”เจ้าของร้านเบิกตาโพลงโดยพลัน คิดในใจว่าเจ้าหนุ่มนี่ช่างรู้จักตั้งราคาเสียจริงบทสนทนาที่ทั้งสามคนคุยกันเมื่อครู่ทำให้เขารู้ว่าสามคนนี้ไม่ได้รู้จักกันเจ้าของร้านแค่นเสียงเย็นว่า “คุณชายท่านนี้ หากท่านต้องการซื้อเสื้อผ้าก็สามารถเดินดูได้”“แต่หากไม่ซื้อก็ขอให้รีบออกไปด้วย อย่าได้ขัดขวางการประกอบกิจการของข้า”เหยียนซวงคิดไม่ถึงเช่นกันว่าถังหมิงเซวียนจะช่วยเรียกราคาให้นางนอกจากนี้ยังสูงกว่าราคาที่นางคิดไว้มากถึงสองหมื่นตำลึงสีหน้าของเหยียนซวงค่อยๆ อ่อนลงเยอะมากถังหมิงเซวียนมองเหยียนซวงปราดหนึ่ง เห็นว่านางไม่ได้จ้องตัวเองตาขวางแบบก่อนหน้านี้อีกมุมปากยกโค้งเป็นรอยยิ้มน่ามองถังหมิงเซวียนตัดสินใจแล้ว ในเมื่อเขาพบตัวคนที่ตัวเองต้องการตามหาแล้วเขาย่อมไม่อาจเปิดเผยตัวตนของตัวเองในทันทีเพราะหากอีกฝ่ายกลัวจนหนีไปขึ้นมา เขาจะไปตามหาจากที่ใดได้อีกเขาต้องช่วยเหยียนซวงขายเสื้อผ้าในราคาสูงก่อน อีกฝ่ายจะได้ประทับใจในตัวเขาวันหน้าเขาค่อยเปิดเผยตัวตนออกมาช้าๆ ถึงเวลานั้น เหยียนซวงก็จะยอมกลับมาอยู่ข้างก

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาอ๋องผู้ถูกเนรเทศ   บทที่ 689

    ทั้งสองคนมาถึงร้านขายเสื้อผ้าแห่งหนึ่งในอำเภอไถหยางอย่างรวดเร็วเหยียนซวงนำเสื้อผ้าที่ตัวเองเย็บออกมาให้เจ้าของร้านดู“เสื้อผ้าพวกนี้ทำจากเนื้อผ้าชั้นดี ท่านลองดูว่าเป็นอย่างไร?”“ข้าเย็บทีละเข็มทีละเส้นด้วยความตั้งใจ รับรองว่าผู้พบเห็นต้องอยากซื้อแน่นอน”เจ้าของร้านหยิบเสื้อผ้าขึ้นมาดู พบว่ามันถูกเย็บอย่างประณีต นอกจากนี้ เนื้อผ้าก็ดีกว่าที่ขายในร้านของพวกเขาหลายเท่าเจ้าของร้านตาเป็นประกาย ขณะที่กำลังจะเสนอราคาซื้อก็มีคนผู้หนึ่งเดินเข้ามาในร้านวันนี้ถังหมิงเซวียนอยากซื้อเสื้อผ้าเปลี่ยนใหม่ครั้นเดินเข้ามาในร้านก็เห็นเหยียนซวงกำลังเสนอขายเสื้อผ้าที่นางเย็บขึ้นเองถังหมิงเซวียนคิดว่าตัวเองตาฝาด เขารีบเดินเข้ามายืนข้างเหยียนซวงโดยพลันจ้องมองใบหน้ามุมข้างของเหยียนซวงอย่างไม่ละสายตา ภายในใจรู้สึกประหม่ามากเขาไม่กล้าถามอีกฝ่ายว่าใช่คนที่เขาต้องการตามหาหรือไม่เหยียนซวงถูกจ้องจนเริ่มรู้สึกรำคาญ นางหันไปถลึงตาใส่ถังหมิงเซวียน“คุณชายท่านนี้ ท่านไม่ดูเสื้อผ้าแต่มามองข้าทำอันใด?”เหยียนซวงว่าจบก็กำหมัดแน่นหากอีกฝ่ายเป็นพวกบ้าตัณหาที่หน้าไม่อาย นางจะต่อยให้ศีรษะของอีกฝ่ายบวมไม

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาอ๋องผู้ถูกเนรเทศ   บทที่ 688

    ทหารไล่ล่าพวกนั้นมองพวกเขาเพียงปราดหนึ่งก็ละสายตามองไปทางอื่นหม่าลู่ได้ยินทหารไล่ล่านายหนึ่งบ่นว่า “หญิงสาวที่ขี่ม้าสองคนนั้นช่างหน้าตาอัปลักษณ์เสียจริง”ทหารไล่ล่าคนอื่นๆ พูดตาม “โตมาจนป่านนี้ ข้าไม่เคยเห็นหญิงหน้าตาอัปลักษณ์ขนาดนี้มาก่อน มองแล้วเหมือนอายุสั้นลงสิบปี”หม่าลู่หันไปถลึงตาใส่ทหารไล่ล่าสองนายนั้นเฉินเช่อได้ยินที่พวกเขาพูดเช่นกันเขากำลังจะเอ่ยปากด่าแต่ก็นึกขึ้นได้ว่า หากพูดอะไรออกไปก็เท่ากับเปิดเผยว่าตัวเองเป็นบุรุษเขาสะกดกลั้นความโมโหในใจเอาไว้ ควบม้าออกห่างจากทหารไล่ล่าพวกนั้นอย่างว่องไวเจี่ยนอันอันนั่งอยู่บนรถม้า นางไม่ได้ยินคำพูดของทหารไล่ล่าแต่อย่างใดหากได้ยินแล้วล่ะก็ คิดว่าคงหัวเราะจนปวดท้องเป็นแน่……เหยียนซวงใช้เวลาสองวันนี้ในการเย็บเสื้อผ้าชุดใหม่ออกมาหลายชุดหลังจากเย็บเสร็จเรียบร้อยก็นำไปที่บ้านของเสิ่นจือเจิ้งทันที อยากให้เขาลองสวมดูว่าพอดีตัวหรือไม่เหยียนซวงถือเสื้อผ้าชุดใหม่และเตรียมจะออกจากบ้าน แต่แล้วกลับถูกเหยียนอวี่ร้องเรียกไว้“พี่หญิง ท่านจะไปที่ใดหรือ?”เหยียนอวี่รู้ว่าเจี่ยนอันอันไม่อยู่ที่หมู่บ้านชิงสุ่ยแล้วไม่รู้เช่นกันว่าพี่

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาอ๋องผู้ถูกเนรเทศ   บทที่ 687

    เขารู้สึกผิดต่อพระคุณที่พ่อแม่เลี้ยงดูมา หากท่านทั้งสองมาเห็นสภาพอันดูไม่ได้ของเขาในตอนนี้คิดว่าคงได้ปีนขึ้นมาจากหลุมและทุบให้เขากลับไปเกิดใหม่ในท้อง!เจี่ยนอันอันเห็นทั้งสองคนตกใจกับหน้าตาของตัวเองก็หลุดหัวเราะออกมาอีกครั้งนางจงใจแต่งหน้าทั้งสองคนแบบเข้มๆ สามารถช่วยปกปิดตอหนวดสีเขียวบนใบหน้าได้เป็นอย่างดีฉู่จวินสิงมองผู้ใต้บังคับบัญชาของตัวเองถูกเจี่ยนอันอันแต่งหน้าให้มีสภาพเช่นนี้เขามองนางด้วยความรักใคร่เอ็นดู คิดในใจว่าหญิงสาวนางนี้ชอบทำอะไรที่คาดไม่ถึงทั้งยังเสนอความคิดที่เหลวไหลเช่นนี้เพื่อให้ทั้งสองคนสามารถออกจากห้องแล้ว เจี่ยนอันอันนำผ้าคลุมหน้าสองผืนจากในห้วงมิติออกมาสวมให้ทั้งสอง“เอาล่ะ เท่านี้ก็ไม่มีผู้ใดจำพวกเจ้าสองคนได้แล้ว”เจี่ยนอันอันว่าจบก็ปรบมือให้กับความคิดอันบรรเจิดของตัวเอง“นายท่าน พวกข้าต้องออกไปทั้งอย่างนี้หรือขอรับ?”เฉินเช่อไม่กล้าก้าวเท้าออกจากห้องนี้แม้แต่ก้าวเดียวจริงๆหม่าลู่มองฉู่จวินสิงด้วยสายตาขอร้องอ้อนวอนเช่นกันท่านอ๋องมองเขากับเฉินเช่อแต่งตัวเป็นสตรีโดยไม่พูดไม่จาไม่ได้พูดเกลี้ยกล่อมให้ฮูหยินคิดหาวิธีที่ดีกว่านี้แม้เพียงคำเดียว

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาอ๋องผู้ถูกเนรเทศ   บทที่ 686

    เจี่ยนอันอันไม่ได้สนใจเฉินเช่อ นางโยนกระโปรงสีเหลืองอ่อนอีกชุดให้หม่าลู่“เจ้าเองก็รีบเปลี่ยนชุด พวกเราจะมามัวเสียเวลาไม่ได้”หม่าลู่มองกระโปรงสีเหลืองอ่อนในมือ ร้องขนขื่นในใจนี่มันเรื่องบ้าอะไรกัน!เพื่อหลบหนีจากการไล่สังหารของทหารไล่ล่าแล้ว เขาไม่เพียงต้องปลอมตัวเป็นสตรีร่วมกับเฉินเฉิง แต่ยังต้องสวมชุดกระโปรงสีเหลืองอ่อนนี่ด้วยเฉินเช่อลูบหนวดเคราบนหน้าตัวเอง พูดด้วยสีหน้าขมขื่นว่า “ฮูหยิน ท่านอย่าทำให้พวกข้าลำบากใจเลยขอรับ”“ข้ามีหนวดเคราเต็มหน้า หากสวมกระโปรงสีเหลืองอ่อน ท่านไม่คิดว่าออกไปแล้วจะถูกมองเป็นตัวประหลาดหรือ”หม่าลู่พูดอย่างสุภาพ เขาหันไปมองฉู่จวินสิงด้วยสีหน้าขมขื่นอยากให้ฉู่จวินสิงช่วยพูดให้พวกเขา ฮูหยินจะได้ไม่ทำให้พวกเขาลำบากใจอีกแต่ฉู่จวินสิงกลับรู้สึกว่าความคิดของเจี่ยนอันอันไม่เลวเขาพูดด้วยสีหน้าเย็นชา “อันอันบอกให้พวกเจ้าใส่ พวกเจ้าก็ใส่ เลิกพูดจาไร้สาระ”“นายท่าน!”“ท่านอ๋อง!”เฉินเช่อกับหม่าลู่มีสีหน้าขมขื่น เมื่อครู่นี้ทั้งสองคนฝากความหวังทั้งหมดไว้ที่ฉู่จวินสิงนึกไม่ถึงว่าฉู่จวินสิงจะตามใจภรรยาตัวเองขนาดนั้นไม่ว่านางจะพูดอะไร เขาก็จะให้พว

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาอ๋องผู้ถูกเนรเทศ   บทที่ 685

    หลังจากที่ฉู่จวินสิงเล่าเรื่องที่ตัวเองกับเจี่ยนอันอันไปสั่งสอนเจ้าเมืองข่งให้ฟังก็ได้รับการตอบสนองจากเฉินเช่อและหม่าลู่ทันที“นายท่าน ท่านช่างปราดเปรื่องปรีชายิ่งนัก”หม่าลู่อดชมไม่ได้เฉินเช่อกระทุ้งหม่าลู่ “เรื่องนี้ยังต้องให้เจ้าพูดอีกหรือ นายท่านของพวกเราก็ปราดเปรื่องปรีชามาโดยตลอดอยู่แล้ว”หม่าลู่รู้ว่าเฉินเช่อเป็นพวกไม่คิดก่อนพูด เขาจึงไม่ได้โกรธเคืองต่อคำพูดของอีกฝ่ายแต่อย่างใด“นายท่านของพวกเราสละประโยชน์ส่วนตนเพื่อช่วยเหลือผู้อื่นขนาดนี้ จะได้รับกระบี่ล้ำค่าก็สมควรแล้ว”เฉินเช่อหัวเราะเบาๆ ก่อนจะพูดความคิดในใจออกมาหม่าลู่ชมอย่างไม่ยอมตามหลัง “นายท่านของพวกเราไม่เพียงมีศิลปะการต่อสู้กล้าแกร่ง แม้แต่สมองก็ยังดีกว่าพวกเรา”“มิเช่นนั้นคงไม่อาจนำทัพอันใหญ่โตของพวกเราให้ชนะศึกมากมายขนาดนั้น”คำชมยกใหญ่ต่อฉู่จวินสิงของสองคนนี้ทำให้เจี่ยนอันอันที่ฟังอยู่ด้านข้างต้องยกยิ้มผู้ใต้บังคับบัญชาของฉู่จวินสิงพูดเก่งแบบนี้กันหมดเลยหรือ ฝีปากดีกันทุกคนเลย“พวกเจ้าสองกลายเป็นคนช่างพูดช่างเจรจาแบบนี้ตั้งแต่เมื่อไร”“ที่ผ่านมาคงเอาแต่ฝึกปรือฝีปากสินะ ได้พัฒนาศิลปะการต่อสู้ของตัวเองบ

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาอ๋องผู้ถูกเนรเทศ   บทที่ 684

    ไม่ช้า พ่อบ้านก็เดินเข้ามาในห้องโถงพร้อมกับกระบี่ที่เปล่งประกายแวววาวเมื่อเห็นว่าฉู่จวินสิงกำลังพาดดาบไว้ที่คอของใต้เท้าตัวเองเขาก็ตกใจกลัวจนไม่กล้าแม้แต่จะหายใจแรงเจ้าเมืองข่งเห็นพ่อบ้านเดินเข้ามาก็รีบพูดว่า “รีบมอบกระบี่เฝินเทียนเล่มนี้ให้ใต้เท้า!”พ่อบ้านก้าวออกไปข้างหน้าด้วยความรู้สึกขนหัวลุก มอบกระบี่เฝินเทียนให้กับฉู่จวินสิงด้วยมือทั้งสองข้างเจ้าเมืองข่งพูดขึ้นอีกครั้ง “ใต้เท้า วันนี้ข้าขอมอบกระบี่เฝินเทียนให้แก่ท่าน หวังว่าท่านจะไม่กราบทูลเรื่องนี้ต่อฝ่าบาท”ฉู่จวินสิงรับกระบี่เฝินเทียน เมื่อชักกระบี่ออกจากฝัก เขาก็ต้องถูกไอเย็นจากกระบี่ปะทะใส่ทันทีฉู่จวินสิงกุมกระบี่เฝินเทียนไว้ในมือ ไอเย็นบนนั้นถูกกำลังภายในของเขาขับไล่อย่างรวดเร็วฉู่จวินสิงเอ่ยว่า “เป็นกระบี่ที่ดี!”ตอนนี้ความเย็นชาบนใบหน้าของฉู่จวินสิงค่อยๆ ลดลงเช่นกันเขาถือกระบี่เฝินเทียน มอบดาบยาวในมือให้เจี่ยนอันอัน“ในเมื่อเจ้ารู้จักอ่านสถานการณ์เช่นนี้ ข้าก็จะยอมปล่อยเจ้าไปสักครั้ง”“แต่หากเจ้ากล้าทำเรื่องที่ผิดต่อฟ้าดินเช่นนี้อีก วันใดข้ารู้ ข้าจะสังหารครอบครัวทั้งหมดของเจ้าอย่างแน่นอน”ถ้อยคำของฉู่

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาอ๋องผู้ถูกเนรเทศ   บทที่ 683

    นายน้อยรองได้ยินคนอื่นด่าตัวเองว่าโง่ก็เบะปากร้องไห้อีกครั้งในมือเจี่ยนอันอันปรากฏยาพิษเม็ดหนึ่งจังหวะที่กำลังจะโยนยาพิษเม็ดนี้เข้าปากนายน้อยรอง นางก็เห็นเจ้าเมืองข่งสืบเท้าเดินมาทางนี้เขาได้ยินถ้อยคำทั้งหมดที่เจี่ยนอันอันด่าลูกชายคนรองของเขาภายในใจเดือดดาลเป็นฟืนเป็นไฟลูกชายคนรองของเขาเคยป่วยหนักเมื่อครั้งเยาว์วัย หลังจากหายดีก็กลายเป็นคนที่สติไม่สมประกอบเช่นนี้ภายในจวนมีเพียงเขาที่สามารถด่าลูกชายคนรองว่าโง่ คนอื่นห้ามว่าร้ายแม้แต่นิดเดียวทว่าบุรุษตัวเตี้ยคนนี้กลับกล้าใช้ถ้อยคำหยาบคายเช่นนี้กับลูกชายคนรองของเขาแม้ว่าเจ้าเมืองข่งจะไม่พอใจ แต่เขากลับไม่กล้าล่วงเกินคนจากราชสำนักสองคนนี้เขาเดินมาที่เบื้องหน้าคนทั้งสอง จากนั้นพูดกับสาวใช้ด้วยความโมโห “มัวทำอะไรอยู่ รีบพานายน้อยกลับไปพักผ่อนสิ”“เจ้าค่ะ!” สาวใช้ทั้งสองขานรับแล้วประคองนายน้อยรองออกจากที่นี่นายน้อยรองเดินร้องไห้ไปตลอดทาง เสียงร้องไห้เหมือนเสียงลานี้ แม้อยู่ห่างออกไปไกลก็ยังได้ยินเจ้าเมืองข่งทำความเคารพต่อคนทั้งสอง “ใต้เท้า กรุณาตามข้าเข้าไปนั่งด้านในห้องโถง”ฉู่จวินสิงปล่อยตัวเจี่ยนอันอัน ทั้งสองคนเดิน

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาอ๋องผู้ถูกเนรเทศ   บทที่ 682

    จวนเป่าเซวียนอยู่ห่างจากที่นี่ไม่ไกลนัก ทั้งสองคนเดินเพียงไม่นานก็มาถึงหน้าจวนองครักษ์สองคนที่เฝ้าอยู่หน้าทางเข้าเห็นทั้งสองคนจะเดินเข้าไปก็ชักดาบข้างเอวออกมาขวางทันที“บังอาจ รู้หรือไม่ว่าที่นี่คือที่ใด นี่ไม่ใช่ที่ที่พวกเจ้าเข้าได้ตามใจชอบ”เพิ่งจะสิ้นเสียงขององครักษ์ ใบหน้าก็ถูกต่อยหมัดเข้าใส่ความเร็วของฉู่จวินสิงว่องไวมาก องครักษ์ยังไม่ทันจะได้ตั้งตัวก็ถูกต่อยเข้าที่ใบหน้าองครักษ์ที่เป็นคนพูดถูกต่อยให้เซถอยไปหลายก้าว ร่างกายกระแทกเข้ากับวงกบประตูก่อนจะหยุดลงองครักษ์อีกคนเห็นดังนี้ก็แกว่งดาบฟันใส่ฉู่จวินสิงแต่ดาบของเขายังไม่ทันสัมผัสถูกฉู่จวินสิงก็ถูกคลื่นพลังไร้รูปกลุ่มหนึ่งผลักใส่องครักษ์คนนั้นกระเด็นล้มลงกับพื้นโดยพลันองครักษ์รู้สึกอึดอัดในทรวงอก โลหิตพรั่งพรูออกมาทางลำคอเขาอดที่จะกระอักโลหิตคำโตออกมาไม่ได้ครานี้องครักษ์ทั้งสองไม่กล้าลงมือต่อฉู่จวินสิงอีก พวกเขามองออกว่าฉู่จวินสิงไม่ใช่คนที่จะรับมือได้ง่ายๆองครักษ์ที่ถูกต่อยหน้ารีบหันตัววิ่งเข้าไปในจวนเป่าเซวียนไม่ช้า พ่อบ้านก็พาคนกลุ่มหนึ่งออกมาเมื่อเขาเห็นฉู่จวินสิงกับเจี่ยนอันอัน ใบหน้าก็เผยรอยยิ้มออก

สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status