กลุ่มคนชุดดำเหล่านั้นเดิมคิดว่าภารกิจลอบสังหารครั้งนี้จะสำเร็จได้โดยง่ายกลับคาดไม่ถึงว่า ท่ามกลางญาติพี่น้องเหล่านี้ จะมีนางพญามัจจุราชผู้เชี่ยวชาญการใช้พิษเช่นนี้อยู่ด้วยกลุ่มคนชุดดำสิบกว่าคนต่างนิ่งเงียบ ไม่มีใครปริปากพูดพวกเขาล้วนปฏิบัติตามคำสั่งอย่างเคร่งครัด ไม่มีทางเปิดเผยตัวผู้บงการอยู่เบื้องหลังเด็ดขาดเจี่ยนอันอันมองดูท่าทีปากแข็งไม่ยอมแพ้ของพวกเขานางจึงยิ้มเย็น ก่อนจะขว้างเข็มเงินไปยังคนหนึ่งในกลุ่มนั้นอีกครั้งชายชุดดำคนนั้นไม่ทันได้ตอบสนอง เข็มเงินก็ปักเข้าที่หัวเข่าของเขาทันทีชายชุดดำร้องด้วยความเจ็บปวด ก่อนจะทรุดตัวลงคุกเข่าข้างหนึ่งกับพื้นร่างกายของเขาเริ่มชาไปทั้งตัว แต่ในชั่วขณะต่อมากลับรู้สึกเหมือนมีแมลงนับล้านตัวกำลังกัดแทะชายชุดดำคิดในใจว่าคงจะพบจุดจบเช่นเดียวกับสหายหลายคนพวกนั้น ที่ตายภายใต้เงื้อมมือของหญิงสาวผู้นี้แน่แล้วเขาเงยหน้ามองเจี่ยนอันอันพร้อมกับแสยะยิ้มเย็นชาราวกับยอมรับความตาย“จะพูดหรือไม่พูด?” เสียงของเจี่ยนอันอันแผ่วเบาดุจเสียงกระซิบของภูตผีที่ล่องลอยเข้าโสตประสาทของชายชุดดำแม้เขาจะรู้สึกชาและเจ็บแปลบไปทั้งตัว แต่ยังคงกัดฟันแน่น ไ
เมื่อเห็นหลุมเล็ก ๆ บนพื้น เหล่าผู้คนในตระกูลต่างก็อดหวาดเสียวแทนเจี่ยนอันอันไม่ได้โชคดีที่เจี่ยนอันอันหลบได้ทัน จึงไม่โดนแส้ฟาดมิเช่นนั้นหากถูกแส้นี้ฟาดลงไปคงทำให้ผิวหนังแตกยับเยินหัวหน้าทหารรักษาพระองค์ไม่คาดคิดว่าเจี่ยนอันอันจะหลบแส้ของเขาได้ เขาตวาดด้วยความโมโห “เจี่ยนอันอัน ตอนนี้เจ้าเป็นนักโทษเนรเทศ ห้ามพกของติดตัวเด็ดขาด”“ถ้าฉลาดก็รีบส่งเข็มเงินมา จะได้ไม่ต้องจะเจ็บตัว”หัวหน้าทหารรักษาพระองค์พูดจบก็สะบัดแส้แล้วฟาดไปทางเจี่ยนอันอันอีกครั้งในขณะที่แส้กำลังจะฟาดลงบนตัวเจี่ยนอันอัน ฮูหยินใหญ่ที่ยืนอยู่ด้านหลังก็ผลักนางหลบออกไปแส้จึงฟาดลงบนตัวฮูหยินใหญ่แทนฮูหยินใหญ่ร้องออกมาด้วยความเจ็บปวด พลางกุมบริเวณที่ถูกแส้ฟาดแล้วทรุดตัวลงเจี่ยนอันอันไม่คาดคิดว่าฮูหยินใหญ่จะผลักนางออกแล้วรับแส้นั้นแทนเมื่อครู่นางแค่รอให้แส้ฟาดลงมาเพื่อที่จะคว้าแส้ไว้แล้วค่อยลงโทษหัวหน้าทหารรักษาพระองค์ให้สาสมไม่คิดว่าจะกลับกลายเป็นแบบนี้ไปเสียได้“ฮูหยินใหญ่ ท่านเป็นอย่างไรบ้าง รีบนั่งลงมาให้ข้าดูเถิด” เจี่ยนอันอันรีบหันไปพยุงฮูหยินใหญ่ให้นั่งลงแล้วตรวจดูบาดแผลฮูหยินใหญ่รู้สึกเจ็บปวดจนตั
เจี่ยนอันอันกล่าวอีกครั้งว่า “หากท่านหัวหน้าทหารรักษาพระองค์อยากลองลิ้มรสการถูกเข็มพิษปักดู ก็เชิญมารับไปได้เลย”“ข้าคิดว่าท่านหัวหน้าคงทราบดีว่า อยู่ในป่ารกร้างเช่นนี้ หากทหารรักษาพระองค์ตายไปสักสองสามคน ฮ่องเต้ก็คงไม่สนใจอะไร”คำพูดของเจี่ยนอันอันทำให้เหล่าทหารรักษาพระองค์ตกใจไม่น้อยสิ่งที่นางพูดนั้นถูกต้อง แม้พวกเขาจะเป็นทหารรักษาพระองค์แต่ในสายตาของฮ่องเต้ พวกเขาเทียบไม่ได้แม้แต่มดตัวหนึ่งยิ่งไปกว่านั้น ในระหว่างทางเนรเทศ ย่อมมีเหตุการณ์ไม่คาดฝันเกิดขึ้นได้เสมอหากทหารรักษาพระองค์ตายไปสักสองสามคนระหว่างทาง ก็ไม่มีใครสนใจและกลุ่มคนชุดดำเมื่อครู่ก็ถูกเจี่ยนอันอันฆ่าตายทั้งหมดไม่มีใครรู้ว่าในมือนางยังมีเข็มเงินอีกเท่าไร และไม่มีใครอยากเสี่ยงที่จะขัดใจเจี่ยนอันอันคำพูดของเจี่ยนอันอันทำให้หัวหน้าทหารรักษาพระองค์ตระหนักได้เขาเริ่มรู้สึกหวาดกลัว เมื่อนึกได้ว่าที่ผ่านมาเขาหงุดหงิดมากจนลืมไปว่าบนเข็มเงินนั้นมีพิษกลุ่มนักโทษเนรเทศเหล่านี้ ตอนนี้ไม่ต่างอะไรกับกลุ่มโจรปล้นฆ่าหากไปยั่วยุพวกเขา ในป่ารกร้างเช่นนี้ แม้ทหารรักษาพระองค์ทั้งหมดจะถูกฆ่า เกรงว่าคงไม่มีใครรู้ว่าเป็น
วังหลวงนั้นมีการคุ้มกันอย่างเข้มงวดนางเป็นเพียงหญิงสาวที่อ่อนแอ หากต้องการเข้าไปในวังหลวง เกรงว่าคงถูกจับได้ตั้งแต่แรกแล้วแต่นางไม่เพียงไม่ถูกจับได้ ยังสามารถเดินเข้าคุกหลวงได้อย่างสบายใจนางไปที่คุกด้วยเหตุใด หรือจะไปปล้นตัวนักโทษหนีออกมา?แต่ในตอนนั้น ผู้คุมในคุกกลับทำเหมือนมองไม่เห็นนาง ปล่อยให้นางเดินไปมาได้ตามใจเรื่องนี้จะอธิบายได้อย่างไร?เมื่อเห็นเจี่ยนอันอันเดินเข้ามาใกล้ ฉู่จวินสิงจึงเบือนหน้าไปทางอื่นเพื่อหลบสายตาเจี่ยนอันอันเดินเข้ามาหยุดตรงหน้าฉู่จวินสิงโดยไม่พูดอะไร นางจับข้อมือของอ๋องหนุ่มขึ้นมาแล้วเริ่มตรวจชีพจรฉู่จวินสิงรู้สึกว่าข้อมือของตนถูกจับขึ้น และเห็นว่าเจี่ยนอันอันกำลังตรวจชีพจรของเขาอยู่ในใจของฉู่จวินสิงเต็มไปด้วยคำถามมากมาย เขาเปิดริมฝีปากบางเพียงเล็กน้อย แต่กลับไม่เอ่ยถามอะไรออกมาเลยสักคำเมื่อมองดูข้อมือของตนที่ถูกเจี่ยนอันอันจับไว้ พร้อมกับนิ้วเรียวเล็กที่แตะเบา ๆ บนเส้นชีพจรฉู่จวินสิงไม่ได้โกรธหรือไล่ให้เจี่ยนอันอันออกห่างจากเขาเขาปล่อยให้นางตรวจชีพจรของเขาต่อไปฉู่จวินหลุนและฉู่อันเจ๋อที่ยืนอยู่ข้าง ๆ ต่างตกตะลึงกับการกระทำของทั้งสองค
การกระทำของเจี่ยนอันอัน ทำให้หัวใจของฉู่จวินสิงสั่นไหวเขาคิดที่จะดึงมือกลับมา แต่กลับพบว่าตนเองไม่อาจขยับเขยื้อนได้ดั่งเก่าเจี่ยนอันอันกลับไม่ได้ใส่ใจในเรื่องนี้ ทำเพียงแค่กุมมือเอาไว้เท่านั้น นี่เป็นเพียงแค่มารยาทเล็กน้อยเท่านั้นเมื่อเห็นว่าฉู่จวินสิงไม่คัดค้านอันใด เจี่ยนอันอันจึงเอ่ยต่อ “ท่านวางใจได้ ในเมื่อข้าเลือกที่จะแต่งกับท่านแล้ว”“ข้าก็ยินยอมที่จะเป็นเชลยถูกเนรเทศไปด้วยกันกับพวกท่าน ข้าไม่มีทางที่จะหลบหนีเอาตัวรอดไประหว่างทาง” “ข้าจะคอยอยู่ข้างกายท่านตลอด และจะคอยช่วยเหลือทุกคนให้ผ่านช่วงเวลาที่ยากลำบากที่กำลังจะเกิดขึ้นนี้ไปให้ได้”คำพูดของเจี่ยนอันอัน ทำให้ฉู่จวินสิงขมวดคิ้วขึ้นโดยไม่รู้ตัวฮ่องเต้พระราชทานงานอภิเษกสมรส ให้คุณหนูรองจวนกั๋วกงแต่งงานให้กับเขาแล้วเหตุใดผู้ที่ปรากฏตัวขึ้นต่อหน้าเขาในตอนนี้ กลับเป็นคุณหนูใหญ่จวนกั๋วกงเล่า?ฉู่จวินสิงเอ่ยออกมาด้วยน้ำเสียงแหบแห้ง “ในเมื่อเจ้าไม่ใช่คุณหนูรอง เหตุใดจึงแต่งงานกับข้า?”“เจ้ารู้ว่าข้ากำลังจะกลายเป็นเพียงสามัญชนธรรมดาเท่านั้น อีกทั้งยังถูกยึดจวนแล้วเนรเทศออกไป เหตุใดเจ้าถึงยังไม่หนีไป เจ้ามีจุดประสงค์ใดกั
ฉู่จวินสิงไม่เคยพบเห็นของสิ่งนี้มาก่อน แต่ว่าของสิ่งนี้กลับทำให้เขาหายใจได้สะดวกขึ้นอีกทั้งยังช่วยไม่ให้สูดดมกลิ่นเหม็นนี่ได้สายตาของฉู่จวินสิงมองไปยังเจี่ยนอันอันด้วยความสงสัย เขาเริ่มรู้สึกประหลาดใจในตัวเจี่ยนอันอันมากยิ่งขึ้นเห็นเพียงเจี่ยนอันอันมองไปยังกลุ่มทหารรักษาพระองค์เหล่านั้นอยู่มุมปากของนางยกขึ้น ดวงตาก็โค้งงอเป็นรูปพระจันทร์เสี้ยวใบหน้าที่เดิมงดงามน่ามองอยู่แล้ว ก็เปลี่ยนเป็นงดงามยิ่งขึ้นเพราะรอยยิ้มนี้เหล่าทหารองครักษ์เหล่านั้นที่กำลังท้องไส้ปั่นป่วนกันอยู่ เริ่มขออนุญาติหัวหน้าของพวกเขาไปขับถ่ายอีกครั้งครานี้หัวหน้าของพวกเขาไม่ได้มีอาการปวดท้องเขาจ้องไปยังทหารรักษาพระองค์เหล่านั้น ก่อนจะโบกมือให้พวกเขาอย่างรำคาญ“ไป ๆ ๆ รีบไปจัดการเร็ว ๆ”“หากพวกเจ้ายังผายลมเหม็นเน่าอยู่ที่นี่อีก ข้าคงจะถูกพวกเจ้ารมกลิ่นเหม็นนี่จนตายแน่”หลังจากที่ทหารรักษาพระองค์เหล่านั้นได้รับอนุญาติแล้ว ทั้งหมดก็พากันกุมท้องแล้ววิ่งไปยังป่ารกร้างห่างไกลออกไปเมื่อมองดูทหารรักษาพระองค์ทางด้านนี้ ก็เหลือเพียงแค่หัวหน้าทหารรักษาพระองค์เท่านั้นในที่สุดเจี่ยนอันอันก็ลุกขึ้น ก้าวอาด ๆ
เนรเทศพวกเขาไปยังเมืองรกร้างยังไม่พอ ถึงขั้นยังจะส่งคนมาตามสังหารพวกเขาระหว่างทางอีกฉู่อันเจ๋อโมโหเสียจนแทบจะสบถด่าออกมา เจี่ยนอันอันรีบยื่นมือออกไปห้ามเอาไว้เสียก่อนใบหน้าของฉู่จวินสิงค่อย ๆ ปรากฏรอยยิ้มอันเย็นชาขึ้นมาเขาควรจะเดาได้มาตั้งนานแล้ว!ชายผู้นั้นเป็นที่น่าสงสัยมาโดยตลอด ทั้งยังโหดร้ายไร้ปราณีเพื่อบัลลังก์มังกรของเขา เขาสามารถฆ่าใครก็ตามที่คุกคามสถานะของเขาคนในครอบครัวอะไรกัน ในสายตาของเขา ยังเทียบไม่ได้แม้แต่หมูหมาเจี่ยนอันอันถามออกต่อ “ที่ฮ่องเต้สุนัขนั่นส่งพวกเจ้ามาคุ้มกันพวกเรา ได้มอบหมายหน้าที่อื่นให้พวกเจ้าด้วยหรือไม่?”หัวหน้าทหารรักษาพระองค์เอ่ยอย่างเหม่อลอย “ฝ่าบาทไม่ได้มอบหมายหน้าที่ใดเพิ่มเติมให้กับพวกเรา”“เพียงแต่ฝ่าบาททรงมีรับสั่ง ให้พวกเราทำหน้าที่เพียงแค่คุมตัวไปส่งเท่านั้น ไม่ทรงอนุญาตให้ยื่นมือช่วยเหลือ”“ฝ่าบาทยังทรงรับสั่งอีกว่า พวกเจ้าล้วนแต่เป็นเพียงคนชั้นต่ำไร้ค่า ตลอดทางไปนี้ ห้ามมิให้อาหารหรือน้ำดื่ม”“ต่อให้พวกเจ้าจะไม่ถูกฆ่าตาย ก็ปล่อยให้พวกเจ้าอดตายไประหว่างทาง”เมื่อฉู่จวินหลุนได้ยินมาจนถึงตรงนี้ ก็โมโหเสียจนตบลงบนที่วางแขนรถเข็
“มารดามันเถอะ รนหาที่ตาย!” ทหารรักษาพระองค์หยัดกายลุกขึ้น สบถด่าและพยายามแย่งแส้กลับมา “ปล่อย มิฉะนั้นข้าจะฆ่าเจ้า!”เจี่ยนอันอันคว้าแส้แล้วลุกขึ้นยืน ใบหน้าของนางเต็มไปด้วยความเย้ยหยันพลางเอ่ยว่า “หัวหน้าของพวกเจ้ายังไม่กล้าฆ่าข้า แล้วเจ้าเป็นใครถึงได้กล้าเอ่ยเรื่องไร้สาระเช่นนี้”“ข้าว่าเจ้ารนหาที่ตายมากกว่า เช่นนั้นตอนนี้ข้าจะช่วยสงเคราะห์ให้เจ้าก็แล้วกัน เป็นอย่างไร!”ขณะที่เจี่ยนอันอันพูด ในมือก็มีเข็มเงินปรากฏออกมาในตอนที่ทหารรักษาพระองค์มองเห็นเข็มเงินนั้น ในใจพลันกระตุกทีหนึ่ง สีหน้าก็เปลี่ยนเป็นซีดขาวเหตุใดพวกเขาถึงได้ลืมเรื่องเข็มเงินนี้ไปได้นะหากว่าสิ่งนี้แทงทะลุลงบนกายของเขา ชีวิตของพวกเขาก็คงจะไม่เหลือแล้วเมื่อคืนนี้ เพราะพวกเขาท้องเสีย ร่างกายจึงอ่อนแรงในตอนนี้ที่ต้องเดินทาง ก็รู้สึกเหมือนเหยียบลงบนปุยฝ้ายที่โยกไปมาทว่าหัวหน้าให้พวกเขาใช้แส้ปลุกให้คนในตระกูลเหล่านี้ตื่นขึ้นมา คำสั่งของหัวหน้าเขาจะไม่ฟังก็ไม่ได้และแส้เมื่อครู่นี้ เขาเองก็ต้องการจะเลี่ยงเจี่ยนอันอันไป คิดจะฟาดไปที่ฮูหยินใหญ่อันที่จริงแล้วเขาเองก็ไม่ได้ใช้แรงมากนัก เกรงว่าแส้ฟาดไปบนกายของฮ