เมื่อเห็นหลุมเล็ก ๆ บนพื้น เหล่าผู้คนในตระกูลต่างก็อดหวาดเสียวแทนเจี่ยนอันอันไม่ได้โชคดีที่เจี่ยนอันอันหลบได้ทัน จึงไม่โดนแส้ฟาดมิเช่นนั้นหากถูกแส้นี้ฟาดลงไปคงทำให้ผิวหนังแตกยับเยินหัวหน้าทหารรักษาพระองค์ไม่คาดคิดว่าเจี่ยนอันอันจะหลบแส้ของเขาได้ เขาตวาดด้วยความโมโห “เจี่ยนอันอัน ตอนนี้เจ้าเป็นนักโทษเนรเทศ ห้ามพกของติดตัวเด็ดขาด”“ถ้าฉลาดก็รีบส่งเข็มเงินมา จะได้ไม่ต้องจะเจ็บตัว”หัวหน้าทหารรักษาพระองค์พูดจบก็สะบัดแส้แล้วฟาดไปทางเจี่ยนอันอันอีกครั้งในขณะที่แส้กำลังจะฟาดลงบนตัวเจี่ยนอันอัน ฮูหยินใหญ่ที่ยืนอยู่ด้านหลังก็ผลักนางหลบออกไปแส้จึงฟาดลงบนตัวฮูหยินใหญ่แทนฮูหยินใหญ่ร้องออกมาด้วยความเจ็บปวด พลางกุมบริเวณที่ถูกแส้ฟาดแล้วทรุดตัวลงเจี่ยนอันอันไม่คาดคิดว่าฮูหยินใหญ่จะผลักนางออกแล้วรับแส้นั้นแทนเมื่อครู่นางแค่รอให้แส้ฟาดลงมาเพื่อที่จะคว้าแส้ไว้แล้วค่อยลงโทษหัวหน้าทหารรักษาพระองค์ให้สาสมไม่คิดว่าจะกลับกลายเป็นแบบนี้ไปเสียได้“ฮูหยินใหญ่ ท่านเป็นอย่างไรบ้าง รีบนั่งลงมาให้ข้าดูเถิด” เจี่ยนอันอันรีบหันไปพยุงฮูหยินใหญ่ให้นั่งลงแล้วตรวจดูบาดแผลฮูหยินใหญ่รู้สึกเจ็บปวดจนตั
เจี่ยนอันอันกล่าวอีกครั้งว่า “หากท่านหัวหน้าทหารรักษาพระองค์อยากลองลิ้มรสการถูกเข็มพิษปักดู ก็เชิญมารับไปได้เลย”“ข้าคิดว่าท่านหัวหน้าคงทราบดีว่า อยู่ในป่ารกร้างเช่นนี้ หากทหารรักษาพระองค์ตายไปสักสองสามคน ฮ่องเต้ก็คงไม่สนใจอะไร”คำพูดของเจี่ยนอันอันทำให้เหล่าทหารรักษาพระองค์ตกใจไม่น้อยสิ่งที่นางพูดนั้นถูกต้อง แม้พวกเขาจะเป็นทหารรักษาพระองค์แต่ในสายตาของฮ่องเต้ พวกเขาเทียบไม่ได้แม้แต่มดตัวหนึ่งยิ่งไปกว่านั้น ในระหว่างทางเนรเทศ ย่อมมีเหตุการณ์ไม่คาดฝันเกิดขึ้นได้เสมอหากทหารรักษาพระองค์ตายไปสักสองสามคนระหว่างทาง ก็ไม่มีใครสนใจและกลุ่มคนชุดดำเมื่อครู่ก็ถูกเจี่ยนอันอันฆ่าตายทั้งหมดไม่มีใครรู้ว่าในมือนางยังมีเข็มเงินอีกเท่าไร และไม่มีใครอยากเสี่ยงที่จะขัดใจเจี่ยนอันอันคำพูดของเจี่ยนอันอันทำให้หัวหน้าทหารรักษาพระองค์ตระหนักได้เขาเริ่มรู้สึกหวาดกลัว เมื่อนึกได้ว่าที่ผ่านมาเขาหงุดหงิดมากจนลืมไปว่าบนเข็มเงินนั้นมีพิษกลุ่มนักโทษเนรเทศเหล่านี้ ตอนนี้ไม่ต่างอะไรกับกลุ่มโจรปล้นฆ่าหากไปยั่วยุพวกเขา ในป่ารกร้างเช่นนี้ แม้ทหารรักษาพระองค์ทั้งหมดจะถูกฆ่า เกรงว่าคงไม่มีใครรู้ว่าเป็น
วังหลวงนั้นมีการคุ้มกันอย่างเข้มงวดนางเป็นเพียงหญิงสาวที่อ่อนแอ หากต้องการเข้าไปในวังหลวง เกรงว่าคงถูกจับได้ตั้งแต่แรกแล้วแต่นางไม่เพียงไม่ถูกจับได้ ยังสามารถเดินเข้าคุกหลวงได้อย่างสบายใจนางไปที่คุกด้วยเหตุใด หรือจะไปปล้นตัวนักโทษหนีออกมา?แต่ในตอนนั้น ผู้คุมในคุกกลับทำเหมือนมองไม่เห็นนาง ปล่อยให้นางเดินไปมาได้ตามใจเรื่องนี้จะอธิบายได้อย่างไร?เมื่อเห็นเจี่ยนอันอันเดินเข้ามาใกล้ ฉู่จวินสิงจึงเบือนหน้าไปทางอื่นเพื่อหลบสายตาเจี่ยนอันอันเดินเข้ามาหยุดตรงหน้าฉู่จวินสิงโดยไม่พูดอะไร นางจับข้อมือของอ๋องหนุ่มขึ้นมาแล้วเริ่มตรวจชีพจรฉู่จวินสิงรู้สึกว่าข้อมือของตนถูกจับขึ้น และเห็นว่าเจี่ยนอันอันกำลังตรวจชีพจรของเขาอยู่ในใจของฉู่จวินสิงเต็มไปด้วยคำถามมากมาย เขาเปิดริมฝีปากบางเพียงเล็กน้อย แต่กลับไม่เอ่ยถามอะไรออกมาเลยสักคำเมื่อมองดูข้อมือของตนที่ถูกเจี่ยนอันอันจับไว้ พร้อมกับนิ้วเรียวเล็กที่แตะเบา ๆ บนเส้นชีพจรฉู่จวินสิงไม่ได้โกรธหรือไล่ให้เจี่ยนอันอันออกห่างจากเขาเขาปล่อยให้นางตรวจชีพจรของเขาต่อไปฉู่จวินหลุนและฉู่อันเจ๋อที่ยืนอยู่ข้าง ๆ ต่างตกตะลึงกับการกระทำของทั้งสองค
การกระทำของเจี่ยนอันอัน ทำให้หัวใจของฉู่จวินสิงสั่นไหวเขาคิดที่จะดึงมือกลับมา แต่กลับพบว่าตนเองไม่อาจขยับเขยื้อนได้ดั่งเก่าเจี่ยนอันอันกลับไม่ได้ใส่ใจในเรื่องนี้ ทำเพียงแค่กุมมือเอาไว้เท่านั้น นี่เป็นเพียงแค่มารยาทเล็กน้อยเท่านั้นเมื่อเห็นว่าฉู่จวินสิงไม่คัดค้านอันใด เจี่ยนอันอันจึงเอ่ยต่อ “ท่านวางใจได้ ในเมื่อข้าเลือกที่จะแต่งกับท่านแล้ว”“ข้าก็ยินยอมที่จะเป็นเชลยถูกเนรเทศไปด้วยกันกับพวกท่าน ข้าไม่มีทางที่จะหลบหนีเอาตัวรอดไประหว่างทาง” “ข้าจะคอยอยู่ข้างกายท่านตลอด และจะคอยช่วยเหลือทุกคนให้ผ่านช่วงเวลาที่ยากลำบากที่กำลังจะเกิดขึ้นนี้ไปให้ได้”คำพูดของเจี่ยนอันอัน ทำให้ฉู่จวินสิงขมวดคิ้วขึ้นโดยไม่รู้ตัวฮ่องเต้พระราชทานงานอภิเษกสมรส ให้คุณหนูรองจวนกั๋วกงแต่งงานให้กับเขาแล้วเหตุใดผู้ที่ปรากฏตัวขึ้นต่อหน้าเขาในตอนนี้ กลับเป็นคุณหนูใหญ่จวนกั๋วกงเล่า?ฉู่จวินสิงเอ่ยออกมาด้วยน้ำเสียงแหบแห้ง “ในเมื่อเจ้าไม่ใช่คุณหนูรอง เหตุใดจึงแต่งงานกับข้า?”“เจ้ารู้ว่าข้ากำลังจะกลายเป็นเพียงสามัญชนธรรมดาเท่านั้น อีกทั้งยังถูกยึดจวนแล้วเนรเทศออกไป เหตุใดเจ้าถึงยังไม่หนีไป เจ้ามีจุดประสงค์ใดกั
ฉู่จวินสิงไม่เคยพบเห็นของสิ่งนี้มาก่อน แต่ว่าของสิ่งนี้กลับทำให้เขาหายใจได้สะดวกขึ้นอีกทั้งยังช่วยไม่ให้สูดดมกลิ่นเหม็นนี่ได้สายตาของฉู่จวินสิงมองไปยังเจี่ยนอันอันด้วยความสงสัย เขาเริ่มรู้สึกประหลาดใจในตัวเจี่ยนอันอันมากยิ่งขึ้นเห็นเพียงเจี่ยนอันอันมองไปยังกลุ่มทหารรักษาพระองค์เหล่านั้นอยู่มุมปากของนางยกขึ้น ดวงตาก็โค้งงอเป็นรูปพระจันทร์เสี้ยวใบหน้าที่เดิมงดงามน่ามองอยู่แล้ว ก็เปลี่ยนเป็นงดงามยิ่งขึ้นเพราะรอยยิ้มนี้เหล่าทหารองครักษ์เหล่านั้นที่กำลังท้องไส้ปั่นป่วนกันอยู่ เริ่มขออนุญาติหัวหน้าของพวกเขาไปขับถ่ายอีกครั้งครานี้หัวหน้าของพวกเขาไม่ได้มีอาการปวดท้องเขาจ้องไปยังทหารรักษาพระองค์เหล่านั้น ก่อนจะโบกมือให้พวกเขาอย่างรำคาญ“ไป ๆ ๆ รีบไปจัดการเร็ว ๆ”“หากพวกเจ้ายังผายลมเหม็นเน่าอยู่ที่นี่อีก ข้าคงจะถูกพวกเจ้ารมกลิ่นเหม็นนี่จนตายแน่”หลังจากที่ทหารรักษาพระองค์เหล่านั้นได้รับอนุญาติแล้ว ทั้งหมดก็พากันกุมท้องแล้ววิ่งไปยังป่ารกร้างห่างไกลออกไปเมื่อมองดูทหารรักษาพระองค์ทางด้านนี้ ก็เหลือเพียงแค่หัวหน้าทหารรักษาพระองค์เท่านั้นในที่สุดเจี่ยนอันอันก็ลุกขึ้น ก้าวอาด ๆ
เนรเทศพวกเขาไปยังเมืองรกร้างยังไม่พอ ถึงขั้นยังจะส่งคนมาตามสังหารพวกเขาระหว่างทางอีกฉู่อันเจ๋อโมโหเสียจนแทบจะสบถด่าออกมา เจี่ยนอันอันรีบยื่นมือออกไปห้ามเอาไว้เสียก่อนใบหน้าของฉู่จวินสิงค่อย ๆ ปรากฏรอยยิ้มอันเย็นชาขึ้นมาเขาควรจะเดาได้มาตั้งนานแล้ว!ชายผู้นั้นเป็นที่น่าสงสัยมาโดยตลอด ทั้งยังโหดร้ายไร้ปราณีเพื่อบัลลังก์มังกรของเขา เขาสามารถฆ่าใครก็ตามที่คุกคามสถานะของเขาคนในครอบครัวอะไรกัน ในสายตาของเขา ยังเทียบไม่ได้แม้แต่หมูหมาเจี่ยนอันอันถามออกต่อ “ที่ฮ่องเต้สุนัขนั่นส่งพวกเจ้ามาคุ้มกันพวกเรา ได้มอบหมายหน้าที่อื่นให้พวกเจ้าด้วยหรือไม่?”หัวหน้าทหารรักษาพระองค์เอ่ยอย่างเหม่อลอย “ฝ่าบาทไม่ได้มอบหมายหน้าที่ใดเพิ่มเติมให้กับพวกเรา”“เพียงแต่ฝ่าบาททรงมีรับสั่ง ให้พวกเราทำหน้าที่เพียงแค่คุมตัวไปส่งเท่านั้น ไม่ทรงอนุญาตให้ยื่นมือช่วยเหลือ”“ฝ่าบาทยังทรงรับสั่งอีกว่า พวกเจ้าล้วนแต่เป็นเพียงคนชั้นต่ำไร้ค่า ตลอดทางไปนี้ ห้ามมิให้อาหารหรือน้ำดื่ม”“ต่อให้พวกเจ้าจะไม่ถูกฆ่าตาย ก็ปล่อยให้พวกเจ้าอดตายไประหว่างทาง”เมื่อฉู่จวินหลุนได้ยินมาจนถึงตรงนี้ ก็โมโหเสียจนตบลงบนที่วางแขนรถเข็
“มารดามันเถอะ รนหาที่ตาย!” ทหารรักษาพระองค์หยัดกายลุกขึ้น สบถด่าและพยายามแย่งแส้กลับมา “ปล่อย มิฉะนั้นข้าจะฆ่าเจ้า!”เจี่ยนอันอันคว้าแส้แล้วลุกขึ้นยืน ใบหน้าของนางเต็มไปด้วยความเย้ยหยันพลางเอ่ยว่า “หัวหน้าของพวกเจ้ายังไม่กล้าฆ่าข้า แล้วเจ้าเป็นใครถึงได้กล้าเอ่ยเรื่องไร้สาระเช่นนี้”“ข้าว่าเจ้ารนหาที่ตายมากกว่า เช่นนั้นตอนนี้ข้าจะช่วยสงเคราะห์ให้เจ้าก็แล้วกัน เป็นอย่างไร!”ขณะที่เจี่ยนอันอันพูด ในมือก็มีเข็มเงินปรากฏออกมาในตอนที่ทหารรักษาพระองค์มองเห็นเข็มเงินนั้น ในใจพลันกระตุกทีหนึ่ง สีหน้าก็เปลี่ยนเป็นซีดขาวเหตุใดพวกเขาถึงได้ลืมเรื่องเข็มเงินนี้ไปได้นะหากว่าสิ่งนี้แทงทะลุลงบนกายของเขา ชีวิตของพวกเขาก็คงจะไม่เหลือแล้วเมื่อคืนนี้ เพราะพวกเขาท้องเสีย ร่างกายจึงอ่อนแรงในตอนนี้ที่ต้องเดินทาง ก็รู้สึกเหมือนเหยียบลงบนปุยฝ้ายที่โยกไปมาทว่าหัวหน้าให้พวกเขาใช้แส้ปลุกให้คนในตระกูลเหล่านี้ตื่นขึ้นมา คำสั่งของหัวหน้าเขาจะไม่ฟังก็ไม่ได้และแส้เมื่อครู่นี้ เขาเองก็ต้องการจะเลี่ยงเจี่ยนอันอันไป คิดจะฟาดไปที่ฮูหยินใหญ่อันที่จริงแล้วเขาเองก็ไม่ได้ใช้แรงมากนัก เกรงว่าแส้ฟาดไปบนกายของฮ
เจี่ยนอันอันรู้สึกได้ว่ามีสายตาจับจ้องมาจากด้านหลังของนางนางหันหลังกลับไปทันที ก็พบกับฉู่จวินสิงที่กำลังจ้องมองตนเองอยู่เจี่ยนอันอันแลบลิ้นให้ฉู่จวินสิง ก่อนจะทำหน้าทะเล้นใส่ฉู่จวินสิงตกตะลึงไปในตอนแรก ก่อนจะรีบหันหน้าหนีไปมองทางด้านอื่นเจี่ยนอันอันอดไม่ได้ที่จะส่งเสียงหัวเราะออกมาเบา ๆ นางประคองฮูหยินใหญ่เดินมุ่งหน้าไปต่อจู่ ๆ ฮูหยินใหญ่ก็เหยียบลงบนก้อนหินก้อนหนึ่งเจ็บเสียจนต้องร้อง “โอ๊ย” ดังออกมา ร่างกายซวนเซจนแทบจะล้มลงบนพื้น“ฮูหยินใหญ่ เป็นอย่างไรบ้างเจ้าคะ?” เจี่ยนอันอันรีบประคองฮูหยินใหญ่ขึ้นมาฮูหยินใหญ่กัดริมฝีปากล่างด้วยสีหน้าเจ็บปวด ก่อนจะส่ายหน้าให้กับเจี่ยนอันอันเบา ๆ“ข้าไม่เป็นอะไร เพียงแต่รู้สึกเจ็บเท้ามาก” ฮูหยินใหญ่ทนต่อความเจ็บปวดรุนแรงที่เท้า ก่อนจะก้าวไปข้างหน้าอีกสองก้าวความเจ็บปวดรุนแรงที่เท้า ทำให้ฮูหยินใหญ่ไม่อาจก้าวเดินต่อไปได้ฮูหยินใหญ่ที่เดิมทีไม่เคยเดินไกลถึงขนาดนี้ เมื่อวานไม่เพียงเดินมาตลอดทั้งวันมาตอนนี้ยังเดินมาตลอดช่วงเช้าอีกนางพบว่าบนเท้านั้นมีตุ่มเลือดขนาดใหญ่ปรากฏขึ้นทว่านางก็ไม่ได้เอ่ยออกมานางไม่ต้องการให้เพียงเพราะว่าอา
สวีจงฉือเห็นถังหมิงเซวียนไม่พูดอะไร เพียงแต่มองไปที่สมุนไพรเขาจึงคิดไปเองว่าถังหมิงเซวียนอาจกังวลว่าสมุนไพรแพงเกินไป ไม่มีเงินพอที่จะซื้อสมุนไพรมากขนาดนั้นเขารีบพูดขึ้นว่า “คุณชายไม่ต้องกังวลเรื่องค่ายา ร้านยาจี้เฉ่าถังแห่งนี้เป็นของเจี่ยนอันอัน ท่านเพียงบอกชื่อสมุนไพรมาข้าจะจัดให้”ถังหมิงเซวียนไม่คาดคิดเลยว่าร้านขายยาจี้เฉ่าถังที่ใหญ่ขนาดนี้จะเป็นของเจี่ยนอันอันเมื่อเห็นว่าสวีจงฉือกำลังจะหยิบสมุนไพรเพิ่ม เขาจึงรีบกล่าวว่า “เท่านี้ก็เพียงพอแล้ว มากไปจะเป็นการสิ้นเปลือง”ถังหมิงเซวียนร้อนใจอยากจะนำสมุนไพรกลับไป จึงไม่ได้พูดคุยอะไรกับสวีจงฉือเพิ่มเติมเขาหยิบห่อสมุนไพรหลายห่อแล้วหันหลังเตรียมจะออกไป“คุณชายโปรดรอก่อน” สวีจงฉือรีบรุดออกมาจากด้านหลังโต๊ะคิดเงินเขาเรียกถังหมิงเซวียนไว้ กล่าวอย่างไม่แน่ใจนักว่า “คุณชายช่วยพาข้าไปยังอำเภอไถหยางด้วยได้หรือไม่ ข้าอยากไปดูว่าเถ้าแก่ของข้าตอนนี้เป็นอย่างไรบ้าง”ถังหมิงเซวียนคิดในใจว่าร้านจี้เฉ่าถังเป็นของเจี่ยนอันอัน แถมสมุนไพรทั้งหมดนี้เขายังไม่ต้องเสียเงินสักอีแปะเดียวเขาจึงไม่มีเหตุผลที่จะปฏิเสธคำขอของอีกฝ่าย“ได้สิ ถ้าเช่นนั้
ระหว่างทางไปยังร้านขายยา ถังหมิงเซวียนกลับครุ่นคิดในใจว่า ผู้ใดกันแน่ที่ลงมือกับเจี่ยนอันอันด้วยพิษร้ายแรงเช่นนี้?พิษนี้มีลักษณะเฉพาะที่ซับซ้อน หากไม่สามารถหาสมุนไพรชั้นเลิศได้ เกรงว่าคงไม่อาจรักษาเจี่ยนอันอันได้โชคดีที่ก่อนออกจากบ้าน เขาพกเงินติดตัวมาบ้างหากซื้อสมุนไพรชั้นเลิศ เงินที่เขามีก็เพียงพอ แต่จะหมดเกลี้ยงในทันทีเขาทำได้เพียงช่วยเจี่ยนอันอันให้รอดชีวิตก่อน แล้วค่อยขอค่ายาจากนางในภายหลังถังหมิงเซวียนมาถึงร้านขายยาแห่งหนึ่งอย่างรวดเร็ว เขากระโดดลงจากม้าแล้วรีบเดินเข้าไปในร้านไม่นานนัก เขาก็เดินออกมาด้วยความจนใจเขาเอ่ยถามถึงสมุนไพรชั้นเลิศหลายชนิดที่ต้องการกับเถ้าแก่ กลับได้รับเพียงการส่ายหน้า“ร้านของข้าขายแต่สมุนไพรทั่วไป ไม่มีสมุนไพรชั้นเลิศพวกนั้นที่ท่านกล่าวถึง” ถังหมิงเซวียนเดินเข้าร้านขายยาอีกสองสามแห่งติดต่อกัน แต่ก็ยังหาซื้อไม่ได้เขาลูบที่ใบหน้าม้าเบา ๆ แล้วกระซิบที่ข้างหูมันว่า “วันนี้คงต้องลำบากเจ้าให้วิ่งทางไกลสักหน่อยแล้ว”ถังหมิงเซวียนพูดพลางขึ้นขี่หลังม้า มุ่งหน้าไปยังตัวเมืองเขาจำได้ว่าเมื่อครั้งก่อนที่ไปยังตัวเมืองเพื่อตามหาหญิงสาวที่หนีงานแ
ฉู่จวินสิงก้าวเท้าเร็วรี่เข้ามายืนตรงหน้าถังหมิงเซวียน เอ่ยด้วยน้ำเสียงร้อนรนว่า “คุณชายถัง เจ้ารีบดูเถิดว่าอันอันเป็นอะไรไป?”ถังหมิงเซวียนมองเจี่ยนอันอันที่อยู่ในอ้อมแขนของฉู่จวินสิง เห็นนางหลับตาสนิท ใบหน้าซีดเซียว ริมฝีปากดำคล้ำแม้แต่บริเวณลำคอของนาง ยังปรากฏรอยดำปื้นใหญ่ถังหมิงเซวียนรู้ได้ทันทีว่าเจี่ยนอันอันถูกพิษร้ายแรง“รีบอุ้มนางไปห้องของข้าเร็วเข้า”ถังหมิงเซวียนกล่าวจบก็วิ่งขึ้นบันไดไปยังชั้นสองฉู่จวินสิงรีบตามไปติด ๆ ส่วนคนอื่น ๆ ต่างรออยู่หน้าโรงเตี๊ยม“อันอันเป็นอะไรไป?”เมื่อเข้าไปในห้อง ฉู่จวินสิงจึงวางเจี่ยนอันอันลงบนเตียงใบหน้าของเขาฉายแววร้อนรน หวังให้ผู้ที่หมดสติในยามนี้เป็นตัวเขาเอง ไม่ใช่เจี่ยนอันอันถังหมิงเซวียนตรวจชีพจรของเจี่ยนอันอัน เมื่อสัมผัสได้ถึงพิษในร่างของนางที่กำลังคืบคลานเข้าสู่หัวใจเขารีบหันไปบอกฉู่จวินสิงให้ออกไป เขาต้องรักษาเจี่ยนอันอันทันทีฉู่จวินสิงไม่ยอมออกไปอย่างเด็ดขาด เจี่ยนอันอันคือภรรยาของเขา เขาต้องการเห็นเจี่ยนอันอันฟื้นขึ้นมาด้วยตาของตนเองถังหมิงเซวียนเห็นฉู่จวินสิงไม่ยอมออกไป เขาจึงได้แต่กล่าวอย่างอ่อนใจว่า “ตอนนี้แม
เจี่ยนอันอันไม่รู้ว่าบริเวณคอที่ถูกกู้มั่วหลีบีบได้กลายเป็นสีดำเมื่อความรู้สึกชาเริ่มรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ เจี่ยนอันอันก็รู้สึกหายใจไม่ออกเวลานี้ รถม้าได้เดินทางมาถึงเนินเขาสือหลี่เจี่ยนอันอันหายใจคำโต อยากให้ความความรู้สึกหายใจไม่ออกเช่นนี้ผ่านพ้นไปโดยเร็วฉู่จวินสิงสังเกตเห็นอาการผิดปกติของเจี่ยนอันอัน เขารีบคว้าแขนทั้งสองข้างของนาง“อันอัน เจ้าเป็นอะไร?”เจี่ยนอันอันอยากพูด แต่นางกลับพบว่าตัวเองเปล่งเสียงอะไรไม่ออกนางนำยาถอนพิษออกมาจากห้วงมิติด้วยมือสั่นเทิ้ม ขณะที่กำลังจะใส่เข้าปากก็รู้สึกว่าภาพเบื้องหน้ามืดดับเจี่ยนอันอันสบถในใจ นางนั้นวูบหมดสติไปยาเม็ดที่อยู่ในมือกลิ้งออกจากรถม้าไม่มีผู้ใดมองเห็นยาถอนพิษเม็ดนั้น ทุกคนตื่นตกใจกับอาการของเจี่ยนอันอัน“อันอัน!”“แม่นางเจี่ยน!”ทุกคนบนรถม้ารู้สึกตกใจกับอาการของเจี่ยนอันอันทุกคนร้องเรียกชื่อของเจี่ยนอันอัน ทว่านางกลับไม่ตอบสนองแม้แต่น้อยฉู่จวินสิงตะโกนด้วยความร้อนใจ “เลี้ยวกลับ กลับไปที่อำเภอไถหยาง”เหยียนเซ่าซึ่งรับหน้าที่ขับรถม้าเห็นเจี่ยนอันอันหมดสติก็เลี้ยวรถม้ากลับไปทางอำเภอไถหยางทันทีหัวใจของฉู่จวินสิงกระด
เมื่อเจี่ยนอันอันปรากฏตัวอีกครั้ง นางก็พบว่าตัวเองไม่ได้กลับมาที่หมู่บ้านชิงสุ่ยแต่อย่างใดแต่มาอยู่ที่อำเภอไถหยางเจี่ยนอันอันไม่เข้าใจ เหตุใดฟังก์ชันเคลื่อนย้ายมวลสสารของนางถึงได้ค่อยๆ เสื่อมประสิทธิภาพเคราะห์ดีที่นางออกจากจวนเป่าจวิ้นได้อย่างรวดเร็ว ไม่ถูกกู้มั่วหลีเจอตัวในตอนนี้เอง เจี่ยนอันอันสังเกตเห็นว่าบรรดาเจ้าหน้าที่ทางการจากที่ว่าการอำเภอเหมือนกำลังตามหาอะไรกันอยู่ครั้นพวกเขาหันมาเห็นเจี่ยนอันอันก็รีบวิ่งเข้ามาหา“แม่นางเจี่ยน ท่านหายไปที่ใดมา พวกข้าตามหากันแทบแย่”บรรดาเจ้าหน้าที่ทางการหอบหายใจ แต่ละคนถอนหายใจด้วยความโล่งอกเพียงแค่ตามหาตัวเจี่ยนอันอันพบ พวกเขาก็จะกลับไปรายงานกับท่านนายอำเภอได้แล้วเจี่ยนอันอันรู้ว่าการหายตัวไปอย่างฉับพลันของตัวเองคงทำให้ฉู่จวินสิงออกมาตามหาอีกแล้วเป็นแน่นางกำลังจะพูดอะไรก็ได้ยินเสียงรถม้าในไม่ช้าก็เห็นเงาร่างที่มีทีท่าร้อนใจของฉู่จวินสิงบนรถม้าไม่ได้มีแค่เขาคนเดียว แต่ยังมีพวกจ้าวอู่กับจ้าวลิ่วด้วยดูแล้วการหายตัวไปของนางน่าจะเป็นที่รับรู้ของคนอื่นๆ ในหมู่บ้านชิงสุ่ยเช่นกันทุกคนต่างออกมาช่วยตามหากันหมดเมื่อฉู่จวินสิง
เจี่ยนหลิงเยว่กัดฟันด้วยความเคียดแค้น ตอนนี้นางเจ็บปวดรวดร้าวไปทั้งร่างจนพูดอะไรไม่ออกสายตาจ้องมองไปทางประตู ทว่ากู้มั่วหลีกลับไม่ปรากฏกายแต่อย่างใดเจี่ยนอันอันรู้ว่าเจี่ยนหลิงเยวี่ยคิดอะไร นางหัวเราะเบาๆ ว่า “กู้มั่วหลีหนีไปแล้ว อย่าหวังว่าเขาจะมาช่วยเจ้า”เจี่ยนอันอันว่าพลางโน้มตัวลงไปตบให้เจี่ยนหลิงเยว่หันหน้ามาจากนั้นโรยผงยาพิษลงบนใบหน้าของเจี่ยนหลิงเยว่ เจี่ยนหลิงเยว่หลบไม่ทัน นางรู้สึกคันบนใบหน้าทันที“กรี๊ด หน้าข้า!” เจี่ยนหลิงเยว่กรีดร้องพลางยกมือขึ้นเกาหน้าอย่างแรงรอยโลหิตหลายรอยปรากฏบนใบหน้าอย่างรวดเร็วเดิมทีเจี่ยนหลิงเยว่ก็เจ็บปวดจนแทบเจียนตายอยู่แล้ว ตอนนี้ยังมาถูกเจี่ยนอันอันโรยผงยาพิษใส่อีกตอนนี้นางแทบจะอยากตายให้พ้นๆ ไปด้วยซ้ำแต่นางจะตายไม่ได้ กว่าจะมาถึงเมืองอินเป่ยไม่ใช่ง่ายๆ แม้แต่ฉู่จวินสิงก็ยังไม่เคยพบ จะยอมตายง่ายแบบนี้ได้อย่างไรเจี่ยนหลิงเยว่ตัวสั่นเทิ้ม นางถลึงตาใส่เจี่ยนอันอัน “เจ้าโรยอะไรใส่ข้ากันแน่?”เจี่ยนอันอันยักไหล่ “ก็ไม่ได้มีอะไร ก็แค่ผงยาพิษที่ข้าคิดค้นขึ้นมาใหม่ ทดลองใช้กับหน้าเจ้าดูว่าได้ผลหรือไม่”ถ้อยคำของเจี่ยนอันอันทำให้เจี่ยน
เสียงของกู้มั่วหลีดังขึ้นอีกครั้ง “น้องสาวของเจ้าจะมีชีวิตได้อีกไม่นาน หากเจ้ารีบนักก็ตามไปอยู่เป็นเพื่อนนางเลยเถิด”ขณะที่กู้มั่วหลีพูด แววตาของเขาทอประกายชั่วร้ายเหี้ยมโหดมือของเขาบีบแรงขึ้น บีบจนเจี่ยนอันอันหายใจไม่ออกหนักกว่าเดิมเจี่ยนอันอันกำกริชในมือไว้แน่น เตรียมจะแทงเข้าที่คอของกู้มั่วหลีแต่ในจังหวะนี้เอง จู่ๆ มือที่กำลังบีบคอนางก็คลายออกกู้มั่วหลีก้าวถอยหลังสองสามก้าว มุมปากมีโลหิตสายหนึ่งไหลออกมาเจี่ยนอันอันรีบหายใจสูดอากาศคำโตเมื่อได้รับอิสรภาพครั้นเงยหน้ามองไปทางกู้มั่วหลีก็พบว่าเขาหน้าซีดไม่ต่างจากกระดาษโลหิตที่ไหลออกมาทางมุมปากมีปริมาณมากยิ่งขึ้นดูเหมือนเม็ดยาพิษน่าจะออกฤทธิ์แล้วเจ้าหมอนี่บอกว่ายาพิษใช้ไม่ได้ผลกับตัวเองมิใช่หรือ ตอนนี้คงได้ลิ้มรสความรู้สึกของการถูกพิษร้ายกัดกินแล้วใช่หรือไม่?กู้มั่วหลีกุมหน้าอกกระอักโลหิตอย่างแรงเรียวคิ้วเขาขมวดกันแน่น แววตาฉายแววประหลาดใจหลายปีมานี้ เขาคอยคิดค้นและพัฒนายาพิษอยู่ตลอดเพื่อทดสอบประสิทธิภาพของยาพิษแล้ว เขาจะทดลองยาพิษทุกตัวที่คิดค้นกับร่างกายตัวเองสามารถพูดได้ว่า เขาฝึกฝนจนมีคุณสมบัติร่างกายที่สา
เขาจ้องมองเจี่ยนอันอันอยู่สองสามวินาทีก่อนจะปล่อยตัวนาง“ในเมื่ออยากเห็นหน้าตาของข้ามากขนาดนั้น เช่นนั้นเจ้าก็ช่วยถอดหน้ากากให้ข้าเองเถอะ”เจี่ยนอันอันใช้มือข้างหนึ่งปิดปากกู้มั่วหลี ไม่อยากให้เขาฉวยโอกาสจุมพิตนางแต่มืออีกข้างกำลังถือขวดยาพิษไว้อยู่ หากจะถอดหน้ากากก็ต้องเก็บขวดยาพิษก่อนเจี่ยนอันอันลังเลครู่หนึ่ง ตัดสินใจเก็บขวดยาพิษกลับสู่ห้วงมิตินางถอดหน้ากากของกู้มั่วหลีอย่างรวดเร็วด้วยมือข้างเดียวดวงหน้าที่หล่อเหลาจนปวงชนทั่วหล้าต้องตกตะลึงปรากฏสู่สายตาของเจี่ยนอันอันแต่ดวงหน้านี้มีความชั่วร้ายเจืออยู่หลายส่วนกู้มั่วหลีเห็นเจี่ยนอันอันจ้องมองตัวเองด้วยท่าทีตื่นตะลึงมุมปากของเขายกโค้ง จุมพิตในฝ่ามือเจี่ยนอันอันอย่างแผ่วเบาเจี่ยนอันอันสะอิดสะเอียนจนเกือบจะอาเจียนออกมานางโยนหน้ากากลงพื้น ขวดยาพิษที่เปิดฝาแล้วปรากฏในมือ“เป็นอย่างไร เคลิบเคลิ้มหลงใหลไปกับใบหน้าของข้าแล้วใช่หรือไม่?”กู้มั่วหลีคิดว่าเจี่ยนอันอันหลงใหลในตัวเอง ภายในดวงตาเย็นยะเยียบของเขาเผยรอยยิ้มออกมาเจี่ยนอันอันมีรอยยิ้มบนใบหน้าเช่นกัน แต่รอยยิ้มนี้กลับเจือด้วยโหดเหี้ยมกระหายเลือดนางกล่าวด้วยรอ
เจี่ยนหลิงเยว่ยืนอยู่ด้านนอก นางทาบหูกับประตูเพื่อแอบฟังบทสนทนาด้านในแต่เสียงพูดของทั้งสองคนเบามาก นางไม่ได้ยินอะไรแม้แต่คำเดียวในตอนนี้เอง ประตูห้องได้เปิดออกเมื่อประตูเปิดออก ร่างกายของเจี่ยนหลิงเยว่ก็เซเข้าสู่อ้อมอกของกู้มั่วหลีเพราะเสียการทรงตัวเจี่ยนหลิงเยว่รีบผละออกจากร่างเขาด้วยความตกใจ นางก้มหน้าอธิบายว่า “คุณชายกู้ ข้าเพียงอยากรู้เท่านั้นว่าท่านจะออกมาเมื่อไร ไม่ได้แอบฟังแม้แต่น้อย”กู้มั่วหลีดึงมือเจี่ยนหลิงเยว่และพานางออกจากที่นี่เจี่ยนหลิงเยว่คิดว่าตัวเองจะถูกกู้มั่วหลีดุด่า นึกไม่ถึงว่าอีกฝ่ายไม่ได้โกรธเคืองแต่อย่างใดนางลอบยินดีในใจ ดูแล้วกู้มั่วหลีคงประทับใจในความงามของนางเป็นแน่แล้วตอนนี้เขามีแต่จะทะนุถนอมนางด้วยซ้ำ จะดุด่าลงได้อย่างไรกู้มั่วหลีไม่ได้พูด ทว่าความเย็นยะเยียบภายในแววตาเขากลับเพิ่มขึ้นหลายส่วนทั้งที่เกิดจากบิดาคนเดียวกันแท้ๆ ทว่าอุปนิสัยของทั้งสองคนกลับต่างกันราวฟ้ากับเหวเขาชอบหญิงสาวแบบเจี่ยนอันอัน ทุกครั้งที่พบกันจะต้องปากคอเราะร้ายเสมอ ไม่เคยแสดงความอ่อนแอผิดกับเจี่ยนหลิงเยว่ที่แสร้งทำตัวใสซื่อไร้เดียงสาทั้งยังคิดว่าตัวเองงดงามปา