การกระทำของเจี่ยนอันอัน ทำให้หัวใจของฉู่จวินสิงสั่นไหวเขาคิดที่จะดึงมือกลับมา แต่กลับพบว่าตนเองไม่อาจขยับเขยื้อนได้ดั่งเก่าเจี่ยนอันอันกลับไม่ได้ใส่ใจในเรื่องนี้ ทำเพียงแค่กุมมือเอาไว้เท่านั้น นี่เป็นเพียงแค่มารยาทเล็กน้อยเท่านั้นเมื่อเห็นว่าฉู่จวินสิงไม่คัดค้านอันใด เจี่ยนอันอันจึงเอ่ยต่อ “ท่านวางใจได้ ในเมื่อข้าเลือกที่จะแต่งกับท่านแล้ว”“ข้าก็ยินยอมที่จะเป็นเชลยถูกเนรเทศไปด้วยกันกับพวกท่าน ข้าไม่มีทางที่จะหลบหนีเอาตัวรอดไประหว่างทาง” “ข้าจะคอยอยู่ข้างกายท่านตลอด และจะคอยช่วยเหลือทุกคนให้ผ่านช่วงเวลาที่ยากลำบากที่กำลังจะเกิดขึ้นนี้ไปให้ได้”คำพูดของเจี่ยนอันอัน ทำให้ฉู่จวินสิงขมวดคิ้วขึ้นโดยไม่รู้ตัวฮ่องเต้พระราชทานงานอภิเษกสมรส ให้คุณหนูรองจวนกั๋วกงแต่งงานให้กับเขาแล้วเหตุใดผู้ที่ปรากฏตัวขึ้นต่อหน้าเขาในตอนนี้ กลับเป็นคุณหนูใหญ่จวนกั๋วกงเล่า?ฉู่จวินสิงเอ่ยออกมาด้วยน้ำเสียงแหบแห้ง “ในเมื่อเจ้าไม่ใช่คุณหนูรอง เหตุใดจึงแต่งงานกับข้า?”“เจ้ารู้ว่าข้ากำลังจะกลายเป็นเพียงสามัญชนธรรมดาเท่านั้น อีกทั้งยังถูกยึดจวนแล้วเนรเทศออกไป เหตุใดเจ้าถึงยังไม่หนีไป เจ้ามีจุดประสงค์ใดกั
ฉู่จวินสิงไม่เคยพบเห็นของสิ่งนี้มาก่อน แต่ว่าของสิ่งนี้กลับทำให้เขาหายใจได้สะดวกขึ้นอีกทั้งยังช่วยไม่ให้สูดดมกลิ่นเหม็นนี่ได้สายตาของฉู่จวินสิงมองไปยังเจี่ยนอันอันด้วยความสงสัย เขาเริ่มรู้สึกประหลาดใจในตัวเจี่ยนอันอันมากยิ่งขึ้นเห็นเพียงเจี่ยนอันอันมองไปยังกลุ่มทหารรักษาพระองค์เหล่านั้นอยู่มุมปากของนางยกขึ้น ดวงตาก็โค้งงอเป็นรูปพระจันทร์เสี้ยวใบหน้าที่เดิมงดงามน่ามองอยู่แล้ว ก็เปลี่ยนเป็นงดงามยิ่งขึ้นเพราะรอยยิ้มนี้เหล่าทหารองครักษ์เหล่านั้นที่กำลังท้องไส้ปั่นป่วนกันอยู่ เริ่มขออนุญาติหัวหน้าของพวกเขาไปขับถ่ายอีกครั้งครานี้หัวหน้าของพวกเขาไม่ได้มีอาการปวดท้องเขาจ้องไปยังทหารรักษาพระองค์เหล่านั้น ก่อนจะโบกมือให้พวกเขาอย่างรำคาญ“ไป ๆ ๆ รีบไปจัดการเร็ว ๆ”“หากพวกเจ้ายังผายลมเหม็นเน่าอยู่ที่นี่อีก ข้าคงจะถูกพวกเจ้ารมกลิ่นเหม็นนี่จนตายแน่”หลังจากที่ทหารรักษาพระองค์เหล่านั้นได้รับอนุญาติแล้ว ทั้งหมดก็พากันกุมท้องแล้ววิ่งไปยังป่ารกร้างห่างไกลออกไปเมื่อมองดูทหารรักษาพระองค์ทางด้านนี้ ก็เหลือเพียงแค่หัวหน้าทหารรักษาพระองค์เท่านั้นในที่สุดเจี่ยนอันอันก็ลุกขึ้น ก้าวอาด ๆ
เนรเทศพวกเขาไปยังเมืองรกร้างยังไม่พอ ถึงขั้นยังจะส่งคนมาตามสังหารพวกเขาระหว่างทางอีกฉู่อันเจ๋อโมโหเสียจนแทบจะสบถด่าออกมา เจี่ยนอันอันรีบยื่นมือออกไปห้ามเอาไว้เสียก่อนใบหน้าของฉู่จวินสิงค่อย ๆ ปรากฏรอยยิ้มอันเย็นชาขึ้นมาเขาควรจะเดาได้มาตั้งนานแล้ว!ชายผู้นั้นเป็นที่น่าสงสัยมาโดยตลอด ทั้งยังโหดร้ายไร้ปราณีเพื่อบัลลังก์มังกรของเขา เขาสามารถฆ่าใครก็ตามที่คุกคามสถานะของเขาคนในครอบครัวอะไรกัน ในสายตาของเขา ยังเทียบไม่ได้แม้แต่หมูหมาเจี่ยนอันอันถามออกต่อ “ที่ฮ่องเต้สุนัขนั่นส่งพวกเจ้ามาคุ้มกันพวกเรา ได้มอบหมายหน้าที่อื่นให้พวกเจ้าด้วยหรือไม่?”หัวหน้าทหารรักษาพระองค์เอ่ยอย่างเหม่อลอย “ฝ่าบาทไม่ได้มอบหมายหน้าที่ใดเพิ่มเติมให้กับพวกเรา”“เพียงแต่ฝ่าบาททรงมีรับสั่ง ให้พวกเราทำหน้าที่เพียงแค่คุมตัวไปส่งเท่านั้น ไม่ทรงอนุญาตให้ยื่นมือช่วยเหลือ”“ฝ่าบาทยังทรงรับสั่งอีกว่า พวกเจ้าล้วนแต่เป็นเพียงคนชั้นต่ำไร้ค่า ตลอดทางไปนี้ ห้ามมิให้อาหารหรือน้ำดื่ม”“ต่อให้พวกเจ้าจะไม่ถูกฆ่าตาย ก็ปล่อยให้พวกเจ้าอดตายไประหว่างทาง”เมื่อฉู่จวินหลุนได้ยินมาจนถึงตรงนี้ ก็โมโหเสียจนตบลงบนที่วางแขนรถเข็
“มารดามันเถอะ รนหาที่ตาย!” ทหารรักษาพระองค์หยัดกายลุกขึ้น สบถด่าและพยายามแย่งแส้กลับมา “ปล่อย มิฉะนั้นข้าจะฆ่าเจ้า!”เจี่ยนอันอันคว้าแส้แล้วลุกขึ้นยืน ใบหน้าของนางเต็มไปด้วยความเย้ยหยันพลางเอ่ยว่า “หัวหน้าของพวกเจ้ายังไม่กล้าฆ่าข้า แล้วเจ้าเป็นใครถึงได้กล้าเอ่ยเรื่องไร้สาระเช่นนี้”“ข้าว่าเจ้ารนหาที่ตายมากกว่า เช่นนั้นตอนนี้ข้าจะช่วยสงเคราะห์ให้เจ้าก็แล้วกัน เป็นอย่างไร!”ขณะที่เจี่ยนอันอันพูด ในมือก็มีเข็มเงินปรากฏออกมาในตอนที่ทหารรักษาพระองค์มองเห็นเข็มเงินนั้น ในใจพลันกระตุกทีหนึ่ง สีหน้าก็เปลี่ยนเป็นซีดขาวเหตุใดพวกเขาถึงได้ลืมเรื่องเข็มเงินนี้ไปได้นะหากว่าสิ่งนี้แทงทะลุลงบนกายของเขา ชีวิตของพวกเขาก็คงจะไม่เหลือแล้วเมื่อคืนนี้ เพราะพวกเขาท้องเสีย ร่างกายจึงอ่อนแรงในตอนนี้ที่ต้องเดินทาง ก็รู้สึกเหมือนเหยียบลงบนปุยฝ้ายที่โยกไปมาทว่าหัวหน้าให้พวกเขาใช้แส้ปลุกให้คนในตระกูลเหล่านี้ตื่นขึ้นมา คำสั่งของหัวหน้าเขาจะไม่ฟังก็ไม่ได้และแส้เมื่อครู่นี้ เขาเองก็ต้องการจะเลี่ยงเจี่ยนอันอันไป คิดจะฟาดไปที่ฮูหยินใหญ่อันที่จริงแล้วเขาเองก็ไม่ได้ใช้แรงมากนัก เกรงว่าแส้ฟาดไปบนกายของฮ
เจี่ยนอันอันรู้สึกได้ว่ามีสายตาจับจ้องมาจากด้านหลังของนางนางหันหลังกลับไปทันที ก็พบกับฉู่จวินสิงที่กำลังจ้องมองตนเองอยู่เจี่ยนอันอันแลบลิ้นให้ฉู่จวินสิง ก่อนจะทำหน้าทะเล้นใส่ฉู่จวินสิงตกตะลึงไปในตอนแรก ก่อนจะรีบหันหน้าหนีไปมองทางด้านอื่นเจี่ยนอันอันอดไม่ได้ที่จะส่งเสียงหัวเราะออกมาเบา ๆ นางประคองฮูหยินใหญ่เดินมุ่งหน้าไปต่อจู่ ๆ ฮูหยินใหญ่ก็เหยียบลงบนก้อนหินก้อนหนึ่งเจ็บเสียจนต้องร้อง “โอ๊ย” ดังออกมา ร่างกายซวนเซจนแทบจะล้มลงบนพื้น“ฮูหยินใหญ่ เป็นอย่างไรบ้างเจ้าคะ?” เจี่ยนอันอันรีบประคองฮูหยินใหญ่ขึ้นมาฮูหยินใหญ่กัดริมฝีปากล่างด้วยสีหน้าเจ็บปวด ก่อนจะส่ายหน้าให้กับเจี่ยนอันอันเบา ๆ“ข้าไม่เป็นอะไร เพียงแต่รู้สึกเจ็บเท้ามาก” ฮูหยินใหญ่ทนต่อความเจ็บปวดรุนแรงที่เท้า ก่อนจะก้าวไปข้างหน้าอีกสองก้าวความเจ็บปวดรุนแรงที่เท้า ทำให้ฮูหยินใหญ่ไม่อาจก้าวเดินต่อไปได้ฮูหยินใหญ่ที่เดิมทีไม่เคยเดินไกลถึงขนาดนี้ เมื่อวานไม่เพียงเดินมาตลอดทั้งวันมาตอนนี้ยังเดินมาตลอดช่วงเช้าอีกนางพบว่าบนเท้านั้นมีตุ่มเลือดขนาดใหญ่ปรากฏขึ้นทว่านางก็ไม่ได้เอ่ยออกมานางไม่ต้องการให้เพียงเพราะว่าอา
ถ้อยคำของฉู่จวินหลุนทำให้หัวหน้าทหารรักษาพระองค์โกรธจนหนวดสั่นและตาถลนเขารู้ว่าฝีมือการต่อสู้ของฉู่จวินหลุนนั้นกล้าแกร่ง ทำให้ตลอดทางมานี้เขาไม่กล้าทำอะไรคนในตระกูลเหล่านี้มากนักเดิมทีคิดว่าเจี่ยนอันอันเป็นคนนอก ฉู่จวินหลุนคงไม่ออกหน้าแทนนางนึกไม่ถึงว่าฉู่จวินหลุนจะมองนางเป็นคนในครอบครัวคนหนึ่งไปแล้วหัวหน้าทหารรักษาพระองค์คับแค้นใจแต่กลับไร้ที่ระบายฉู่จวินหลุนกล่าวต่อ “ยามนี้ท่านแม่ข้ารู้สึกไม่สบาย จำเป็นต้องพักผ่อน”ถ้อยคำของเขาเจือน้ำเสียงสั่งการ ราวกับว่าเขาต่างหากที่เป็นนายของที่นี่หัวหน้าทหารรักษาพระองค์ขบเขี้ยวเคี้ยวฟันด้วยความโมโห แต่สุดท้ายก็ยอมสั่งให้ทุกคนหยุดพักอยู่ที่นี่อีกครึ่งชั่วยามค่อยเดินทางต่อเจี่ยนอันอันประคองฮูหยินใหญ่ไปนั่งพักใต้ต้นไม้ใหญ่นางกล่าวอย่างห่วงใย “ฮูหยินใหญ่ รบกวนท่านถอดรองเท้าออก ข้าจะช่วยดูบาดแผลที่เท้าให้เจ้าค่ะ”ฮูหยินใหญ่ไม่อยากถอดรองเท้าต่อหน้าธารกำนัล แต่อาการเจ็บอย่างแสนสาหัสที่เท้าก็ทำให้นางยากจะทานทนเห็นถึงอาการลังเลของฮูหยินใหญ่ เจี่ยนอันอันก็ย่อตัวลงนั่งเบื้องหน้านางเพื่อบดบังสายตาของทุกคนฮูหยินใหญ่จึงยอมถอดรองเท้าออกด้ว
เจี่ยนอันอันไม่ได้สังเกตเห็นอาการผิดปกติของฉู่จวินสิง ยามนี้นางหิวจนหูอื้อตาลายไปหมดตั้งแต่ยามเช้าจนถึงตอนนี้ ทุกคนยังไม่ได้กินอาหารหรือดื่มน้ำแม้แต่นิดเดียวแม้ว่าภายในช่องมิติของนางจะมีขนมที่นำมาจากห้องครัวหลวงเยอะมากแต่นางไม่อาจนำขนมเหล่านี้ออกมาแจกจ่ายให้กับทุกคน โดยที่มีทหารรักษาพระองค์เฝ้ามองอยู่อีกทั้งหัวหน้าทหารรักษาพระองค์ก็ไม่เคยให้ทุกคนหยุดพักแม้เพียงชั่วครู่ ส่งผลให้คนในตระกูลหิวจนไส้กิ่วในทางกลับกัน เหล่าทหารรักษาพระองค์ได้กินอาหารอิ่มท้องเจี่ยนอันอันมองไปทางทหารรักษาพระองค์ พบว่าทหารนายหนึ่งกำลังนั่งดื่มน้ำอยู่ข้างต้นไม้ตามลำพังนางจำทหารนายนั้นได้ เขาคือทหารที่นำกางเกงชั้นในไปให้หัวหน้าทหารรักษาพระองค์ดวงตาของเจี่ยนอันอันกลอกไปมา ไม่นานก็มีแผนในใจนางลุกขึ้นแล้วเดินไปหาทหารนายนั้นดวงตาของฉู่จวินสิงจ้องมาที่เจี่ยนอันอันอีกครั้งทหารผู้นี้มีนามว่า ‘หานซื่อ’ เมื่อเขาเห็นว่าเจี่ยนอันอันเดินมาทางตน ก็ชักดาบออกมาเตรียมพร้อมและร้องบอกว่า “หยุดนะ อย่าเข้ามาใกล้มากกว่านี้!”เจี่ยนอันอันไม่ถอยหนีเพราะคำพูดของเขาแต่อย่างใด นำสร้อยคอทองคำเส้นหนึ่งออกมาจากช่องมิติด
ทั้งสองเดินออกมาไม่ไกล ก็พบว่าข้างหน้ามีลำธารสายเล็กอยู่ฉู่อันเจ๋อกำลังจะวิ่งไปทางลำธารอย่างมีความสุขแต่กลับถูกเจี่ยนอันอันดึงตัวไว้“ที่นี่มีงูค่อนข้างมาก โรยผงไล่งูก่อนค่อยเข้าไปจะดีกว่า”ได้ยินเจี่ยนอันอันว่า ฉู่อันเจ๋อถึงเพิ่งมองเห็นว่าใกล้ ๆ มีงูสองสามตัวกำลังเลื้อยไปมาดูจากลวดลายแล้ว งูพวกนี้ล้วนเป็นงูที่มีพิษร้ายแรงมากฉู่อันเจ๋อรู้สึกนึกกลัวเหตุการณ์ที่จะตามมา หากถูกพวกมันสักตัวฉกเข้า ชีวิตของเขาคงจบสิ้นเพียงเท่านี้แน่เขามองเจี่ยนอันอันด้วยความซาบซึ้งใจ พบว่านางไม่มีท่าทีตื่นตระหนกตกใจแม้แต่น้อยหากเป็นผู้อื่นคงหวาดกลัวจนหน้าถอดสีไปนานแล้วฉู่อันเจ๋อชื่มชมในความกล้าหาญของเจี่ยนอันอันจากก้นบึ้งของหัวใจเจี่ยนอันอันไม่ได้สนใจสายตาของฉู่อันเจ๋อ นางนำผงไล่งูกำหนึ่งออกมาจากช่องมิติจากนั้นโรยลงบนตัวฉู่อันเจ๋อแล้วโรยลงบนร่างกายของตัวเองตามด้วยผงไล่งูเหล่านี้ งูพวกนั้นจะไม่เข้ามาใกล้พวกนางหลังจากโรยผงไล่งูเสร็จเรียบร้อย เจี่ยนอันอันก็สาวเท้าก้าวใหญ่ไปยังลำธารทันทียามที่เจี่ยนอันอันเข้ามาใกล้ งูที่กำลังเลื้อยไปมาพวกนั้นก็รีบเลื้อยห่างไป ราวกับตรวจจับได้ถึงกลิ่นอะไรบา