ทั้งสองเดินออกมาไม่ไกล ก็พบว่าข้างหน้ามีลำธารสายเล็กอยู่ฉู่อันเจ๋อกำลังจะวิ่งไปทางลำธารอย่างมีความสุขแต่กลับถูกเจี่ยนอันอันดึงตัวไว้“ที่นี่มีงูค่อนข้างมาก โรยผงไล่งูก่อนค่อยเข้าไปจะดีกว่า”ได้ยินเจี่ยนอันอันว่า ฉู่อันเจ๋อถึงเพิ่งมองเห็นว่าใกล้ ๆ มีงูสองสามตัวกำลังเลื้อยไปมาดูจากลวดลายแล้ว งูพวกนี้ล้วนเป็นงูที่มีพิษร้ายแรงมากฉู่อันเจ๋อรู้สึกนึกกลัวเหตุการณ์ที่จะตามมา หากถูกพวกมันสักตัวฉกเข้า ชีวิตของเขาคงจบสิ้นเพียงเท่านี้แน่เขามองเจี่ยนอันอันด้วยความซาบซึ้งใจ พบว่านางไม่มีท่าทีตื่นตระหนกตกใจแม้แต่น้อยหากเป็นผู้อื่นคงหวาดกลัวจนหน้าถอดสีไปนานแล้วฉู่อันเจ๋อชื่มชมในความกล้าหาญของเจี่ยนอันอันจากก้นบึ้งของหัวใจเจี่ยนอันอันไม่ได้สนใจสายตาของฉู่อันเจ๋อ นางนำผงไล่งูกำหนึ่งออกมาจากช่องมิติจากนั้นโรยลงบนตัวฉู่อันเจ๋อแล้วโรยลงบนร่างกายของตัวเองตามด้วยผงไล่งูเหล่านี้ งูพวกนั้นจะไม่เข้ามาใกล้พวกนางหลังจากโรยผงไล่งูเสร็จเรียบร้อย เจี่ยนอันอันก็สาวเท้าก้าวใหญ่ไปยังลำธารทันทียามที่เจี่ยนอันอันเข้ามาใกล้ งูที่กำลังเลื้อยไปมาพวกนั้นก็รีบเลื้อยห่างไป ราวกับตรวจจับได้ถึงกลิ่นอะไรบา
ฮูหยินใหญ่ดื่มไปหลายอึกก่อนจะหยุดลงฉู่จวินสิงมองมารดาของตัวเองดื่มน้ำตาปริบ ๆ เขาเองก็อยากดื่มเช่นกันแต่กลับอายที่จะเอ่ยปากขอจากเจี่ยนอันอันแม้ว่าเจี่ยนอันอันจะเป็นภรรยาที่ยังไม่ได้เข้าพิธีของเขา แต่ทั้งสองไม่เคยรู้จักกันมาก่อน ยิ่งไม่ต้องพูดถึงเรื่องจะมีความรู้สึกใด ๆ ต่อกันเขาไม่อาจลดศักดิ์ศรีไปขอน้ำดื่มจากสตรีแปลกหน้าได้ยามนี้ปากของฉู่จวินสิงแห้งผาก ริมฝีปากเริ่มแตกลอกเจี่ยนอันอันรับรู้ได้ถึงสายตาคู่หนึ่งที่จ้องมองมาเมื่อหันไปมองจึงพบว่าฉู่จวินสิงกำลังจ้องนางอย่างไม่ละสายตาจังหวะที่สายตาของทั้งสองสบเข้าด้วยกัน ฉู่จวินสิงก็รีบเบนศีรษะมองไปทางอื่นทันทีเจี่ยนอันอันพึมพำเสียงเบา “พิลึกคนชะมัด”นางถือถุงน้ำเดินไปนั่งข้างฉู่จวินสิงฉู่จวินสิงรับรู้ได้ถึงการมาถึงของเจี่ยนอันอัน เขาหันไปกล่าวกับนางด้วยสุ้มเสียงเย็นชา “มีธุระอะไร?”เจี่ยนอันอันเขย่าถุงน้ำในมือ จนได้ยินเสียงน้ำกระทบกันจากด้านในดังออกมา “อยากดื่มหรือไม่ อยากดื่มก็ต้องเชื่อฟัง อย่าทำให้ข้าโมโห” เจี่ยนอันอันจงใจหยอกล้อฉู่จวินสิงฉู่จวินสิงแค่นเสียงเย็นชาแต่ไม่พูดอะไรเจี่ยนอันอันยกยิ้มมุมปากแล้วกล่าวต่อ “ร
ขณะที่บรรยากาศระหว่างทั้งสองคนกำลังน่าอึดอัด ฮูหยินใหญ่ซึ่งนั่งอยู่อีกทางก็หันมามองเพราะได้ยินเสียงนางรู้ว่าบุตรชายตัวเองไม่ชอบการแตะเนื้อต้องตัว แต่ตอนที่เจี่ยนอันอันทายาให้ก่อนนี้ เขาไม่เคยมีปฏิกิริยาเช่นนี้มาก่อนนางหลงเข้าใจว่าฉู่จวินสิงยอมรับเจี่ยนอันอันแล้วเสียอีกแต่ดูจากตอนนี้ นางน่าจะคิดไปเองทั้งหมดฮูหยินใหญ่เผยอปาก หมายจะเกลี้ยกล่อมให้ฉู่จวินสิงอย่าปฏิบัติตนเช่นนี้กับเจี่ยนอันอันแต่เมื่อคำพูดมาจ่ออยู่ที่ปาก นางก็รู้สึกว่ามันไม่ดีนักที่จะเข้าไปก้าวก่ายเรื่องของสองคนนี้มากเกินควรยิ่งไปกว่านั้น ปล่อยให้พวกเขาสองคนมีปฏิสัมพันธ์และทำความรู้จักกันให้มากขึ้นก็ไม่ใช่เรื่องเลวร้ายอะไรฮูหยินใหญ่เลือกที่จะปิดปากเงียบในท้ายที่สุด ก่อนละสายตามองไปทางอื่นเจี่ยนอันอันคิดจะดึงมือกลับ ทว่าฉู่จวินสิงกลับจับข้อมือนางแน่นกว่าเดิม“นี่ ปล่อยนะ ท่านจับข้าเจ็บไปหมดแล้ว” เจี่ยนอันอันขมวดคิ้วมุ่นบุรุษผู้นี้เป็นอะไรไป เหตุใดจึงเปลี่ยนสีหน้าเร็วกว่าพลิกหน้าตำราเช่นนี้ฉู่จวินสิงปล่อยมือในที่สุด เขาหันไปมองฉู่อันเจ๋อที่กำลังย่างปลา “อันเจ๋อ แบกข้าไปที่อื่นที”ฉู่อันเจ๋อหันมามองเจี่ยนอ
ฉู่อันเจ๋อกำปลาย่างในมือแน่นพลางมองไปทางหัวหน้าทหารรักษาพระองค์ด้วยสีหน้าโมโหนี่เป็นปลาที่เขาย่างมาอย่างไม่ง่ายดาย เขายังไม่ทันได้กินสักคำ แล้วจะยกให้ทหารรักษาพระองค์กินได้อย่างไรเห็นฉู่อันเจ๋อไร้ท่าทีว่าจะส่งปลาย่างมาให้ หัวหน้าทหารรักษาพระองค์ก็สะบัดแส้ฟาดใส่มืออีกฝ่ายเสียง ‘เพียะ’ ดังขึ้น ปลาในมือฉู่อันเจ๋อถูกฟาดจนร่วงลงบนพื้นฉู่อันเจ๋อโมโหจนทำท่าจะปราดเข้าไปหาหัวหน้าทหารรักษาพระองค์ แต่ถูกเจี่ยนอันอันดึงไว้เสียก่อน“พี่สะใภ้รอง ท่านอย่าดึงข้า ข้าจะอัดเขาให้ตาย!” ฉู่อันเจ๋อโกรธจนดวงตาแดงก่ำ เขาอดทนอดกลั้นต่อหัวหน้าทหารรักษาพระองค์ผู้นี้มานานแล้วเจี่ยนอันอันเอ่ยปลอบเสียงเบา “ข้าจะจัดการเรื่องนี้เอง เจ้าย่างปลาให้ทุกคนกินต่อไปเถอะ”ฉู่อันเจ๋อกำหมัดแน่น แค่นเสียงเย็นอย่างหัวเสีย แล้วกลับไปย่างปลาที่เหลือหน้ากองไฟต่อหัวหน้าทหารรักษาพระองค์เห็นฉู่อันเจ๋อกลับไปย่างปลา ปราศจากท่าทีว่าจะส่งปลามาให้โดยสิ้นเชิงเขาขยับแส้อีกครั้ง ทำท่าจะหวดใส่ฉู่อันเจ๋ออีกคราเจี่ยนอันอันรีบเข้าไปคว้าข้อมือของหัวหน้าทหารรักษาพระองค์เอาไว้นางยิ้มพลางเอ่ยกับหัวหน้าทหารรักษาพระองค์ “พี่ชาย ท่าน
เห็นภาพตรงหน้า ฉู่จวินสิงก็ฟาดมือลงกับพื้นด้วยความเดือดดาล ความเจ็บแปลบแล่นพล่านขึ้นมาจากกลางฝ่ามือฉู่จวินหลุนที่นั่งอยู่ข้างๆ มองตามทิศทางที่เจี่ยนอันอันจากไปด้วยแววตาลึกซึ้งโดยไม่พูดอะไรสักคำฟางอิ๋งพี่สะใภ้ใหญ่ที่อยู่ข้างๆ เอ่ยปลอบเสียงเบา “น้องรองอย่าเพิ่งโมโห ข้าคิดว่าอันอันไม่ใช่คนประเภทที่เจ้าคิด”แม้นางจะไม่ได้รู้จักเจี่ยนอันอันมากนัก ทว่าตลอดทางมานี้ เจี่ยนอันอันมีลักษณะนิสัยอย่างไร นางล้วนประจักษ์ด้วยสายตาตัวเองนางรู้สึกว่าเจี่ยนอันอันไม่เหมือนคนที่จะทำเรื่องนอกลู่นอกทางกับหัวหน้าทหารรักษาพระองค์อย่างที่ทุกคนเห็นฮูหยินใหญ่กับฉู่อันเจ๋อมองดูเจี่ยนอันอันนำทางหัวหน้าทหารรักษาพระองค์ตรงไปยังริมลำธารตาไม่กะพริบฮูหยินใหญ่กล่าวกับฉู่อันเจ๋อ “เจ้ารีบตามไปเร็วเข้า อย่าให้เกิดเรื่องกับอันอัน”ฉู่อันเจ๋อรีบตามหลังคนทั้งสองไปทันทีเขาเคลื่อนไหวอย่างเบามือเบาเท้า เก็บงำลมหายใจ ไม่ให้หัวหน้าทหารรักษาพระองค์สัมผัสได้ถึงการดำรงอยู่ของเขาแต่เจี่ยนอันอันกลับรู้แต่แรกแล้วว่าฉู่อันเจ๋อตามหลังมานางพาหัวหน้าทหารรักษาพระองค์มาจนถึงริมลำธารแล้วจึงหยุดเดิน“พี่ชาย ก่อนหน้านี้ข้าจับปล
ทั้งคู่หามร่างหัวหน้าทหารรักษาพระองค์ขึ้นมาแล้วโยนลงไปในลำธารหลังจัดการทั้งหมดนี้เสร็จ เจี่ยนอันอันก็แสดงท่าทางประหวั่นลนลานออกมาแล้ววิ่งไปยังสถานที่ที่ทุกคนพักผ่อนกันอยู่นางวิ่งพลางร่ำร้องเสียงดัง “แย่แล้ว หัวหน้าทหารรักษาพระองค์ตกน้ำ รีบมาช่วยคนเร็วเข้า!”ฉู่อันเจ๋อโคจรกำลังภายใน เขาแตะปลายเท้าเบาๆ ก็กระโดดขึ้นไปบนต้นไม้ได้แล้วพรางตัวท่ามกลางใบไม้ คนข้างล่างยากจะค้นพบการดำรงอยู่ของเขาทหารรักษาพระองค์เหล่านั้นได้ยินเสียงตะโกนของเจี่ยนอันอันดังมาแต่ไกลพวกเขาล้วนผุดลุกพรวดพราดเมื่อเจี่ยนอันอันวิ่งกลับมาถึงจุดพักผ่อน นางเอ่ยเสียงกระหืดกระหอบว่า “รีบ...รีบไปช่วยหัวหน้าของพวกเจ้าเร็วเข้า”หานซื่อเห็นว่ามีแค่เจี่ยนอันอันกลับมาคนเดียว นางยังพร่ำบอกให้พวกเขาไปช่วยหัวหน้าเขาก้าวยาวๆ ไม่กี่ก้าวมาถึงตรงหน้าเจี่ยนอันอัน ชักกระบี่จากหว่างเอวมาขวางไว้เหนือลำคอของนาง“พูดมา เกิดเรื่องอะไรขึ้นกันแน่ หัวหน้าของพวกข้าเล่า?”เจี่ยนอันอันแสดงท่าทางหวาดกลัวออกมา นางสั่นสะท้านไปทั้งตัว “หัว...หัวหน้าเขาตกน้ำไปแล้ว พวกเจ้ารีบไปช่วยเขาเร็วเข้า ชักช้ากว่านี้จะไม่ทันการแล้วนะ”หานซื่อขมวดคิ้
หานซื่อหาได้เชื่อคำพูดของเจี่ยนอันอันไม่ รอจนทุกคนช่วยกันหามหัวหน้าของพวกเขาขึ้นมาบนฝั่งหนึ่งในทหารรักษาพระองค์ร้องเสียงดัง “พวกเจ้าดูนั่น ตรงข้อเท้าของหัวหน้ามีงูอยู่ตัวหนึ่ง”หานซื่อได้ยินคำพูดนั้นก็เก็บกระบี่ในมือกลับเข้าฝัก เดินไปทางร่างของหัวหน้าหานซื่อมองไปที่ข้อเท้าของหัวหน้าก็พบว่ามีงูพิษสีดำตัวหนึ่งพันอยู่จริงๆขณะที่สีหน้าของหัวหน้ากลายเป็นสีดำอมม่วงร่างกายเปลี่ยนเป็นแข็งทื่อ หมดลมหายใจไปนานแล้วแค่เห็นก็รู้ว่าตายเพราะถูกพิษหานซื่อใช้กระบี่แทงงูพิษ ดึงมันออกจากร่างหัวหน้าแล้วสะบัดลงบนพื้นครั้นทหารรักษาพระองค์เหล่านั้นปราศจากหัวหน้าก็ระส่ำระสายดุจทรายในกระบะต่างคนต่างเริ่มส่งเสียงขึ้นมา“หัวหน้าตายแล้ว พวกเราควรทำอย่างไรดี?”“นั่นสิ แล้วพวกเรายังต้องคุมตัวคนของจวนเยียนอ๋องไปส่งอยู่หรือไม่?”“ทำอย่างไรดี ข้ายังไม่ได้เบี้ยหวัดของเดือนนี้เลยนะ หัวหน้าของพวกเราตายแล้ว ใครจะจ่ายเบี้ยหวัดรายเดือนให้ข้ากันเล่า?”“ถึงเวลานี้แล้วยังคิดถึงเบี้ยหวัดรายเดือนอันใดอีก รีบคิดว่าหลังจากนี้พวกเราควรทำอย่างไรดีกว่า”หานซื่อมองทหารรักษาพระองค์เหล่านั้นเล็กน้อย เขาไม่ได้เข้าไป
ตอนหัวหน้าจากไปพร้อมกับเจี่ยนอันอัน หานซื่อมองเห็นความกระสันในแววตาของเขาตอนนั้นหานซื่อก็เดาได้แล้วว่าหัวหน้าคงปรารถนาในความงามของเจี่ยนอันอันหัวหน้าคงคิดจะพาเจี่ยนอันอันมาที่นี่เพื่อขืนใจนางเห็นหานซื่อไม่พูดไม่จา เจี่ยนอันอันก็แค่นเสียงเย็นชาทีหนึ่งนางกล่าวต่อว่า “จากที่เจ้าพูด ข้ายังต้องนำยาถอนพิษมาช่วยคนที่คิดจะทำมิดีมิร้ายข้าด้วยงั้นหรือ?”วาจาของเจี่ยนอันอันทำให้ทหารรักษาพระองค์บริเวณนั้นมองไปทางหัวหน้าที่สิ้นลมไปนานแล้วเป็นตาเดียวมือที่กุมด้ามกระบี่ของพวกเขาก็ปล่อยลงมาด้วยเช่นกันถึงหานซื่อจะสนิทสนมกับหัวหน้า แต่เขาก็รู้ว่าการข่มขืนนักโทษเนรเทศคนหนึ่งเป็นเรื่องไร้ยางอายมากเพียงใดนับประสาอะไรกับที่เขายังเคยเกลี้ยกล่อมหัวหน้าว่าอย่ามัวเมาในนารีแต่หัวหน้าไม่เคยฟังคำแนะนำของเขาตอนนี้เป็นอย่างไรเล่า หัวหน้าได้รับผลจากการกระทำของตัวเองจนตัวตายเพราะพิษงูส่วนทหารรักษาพระองค์ที่ควบคุมนักโทษเนรเทศมาอย่างพวกเขาก็พลอยสูญเสียผู้นำไปด้วยทหารรักษาพระองค์เหล่านั้นตกลงสู่ความสับสนกระวนกระวายใจอีกคราทุกคนถกกันขึ้นมาอีกครั้งว่า“หัวหน้าตายแล้ว ต่อจากนี้พวกเราจะทำอย่างไรดี?”