ขณะที่บรรยากาศระหว่างทั้งสองคนกำลังน่าอึดอัด ฮูหยินใหญ่ซึ่งนั่งอยู่อีกทางก็หันมามองเพราะได้ยินเสียงนางรู้ว่าบุตรชายตัวเองไม่ชอบการแตะเนื้อต้องตัว แต่ตอนที่เจี่ยนอันอันทายาให้ก่อนนี้ เขาไม่เคยมีปฏิกิริยาเช่นนี้มาก่อนนางหลงเข้าใจว่าฉู่จวินสิงยอมรับเจี่ยนอันอันแล้วเสียอีกแต่ดูจากตอนนี้ นางน่าจะคิดไปเองทั้งหมดฮูหยินใหญ่เผยอปาก หมายจะเกลี้ยกล่อมให้ฉู่จวินสิงอย่าปฏิบัติตนเช่นนี้กับเจี่ยนอันอันแต่เมื่อคำพูดมาจ่ออยู่ที่ปาก นางก็รู้สึกว่ามันไม่ดีนักที่จะเข้าไปก้าวก่ายเรื่องของสองคนนี้มากเกินควรยิ่งไปกว่านั้น ปล่อยให้พวกเขาสองคนมีปฏิสัมพันธ์และทำความรู้จักกันให้มากขึ้นก็ไม่ใช่เรื่องเลวร้ายอะไรฮูหยินใหญ่เลือกที่จะปิดปากเงียบในท้ายที่สุด ก่อนละสายตามองไปทางอื่นเจี่ยนอันอันคิดจะดึงมือกลับ ทว่าฉู่จวินสิงกลับจับข้อมือนางแน่นกว่าเดิม“นี่ ปล่อยนะ ท่านจับข้าเจ็บไปหมดแล้ว” เจี่ยนอันอันขมวดคิ้วมุ่นบุรุษผู้นี้เป็นอะไรไป เหตุใดจึงเปลี่ยนสีหน้าเร็วกว่าพลิกหน้าตำราเช่นนี้ฉู่จวินสิงปล่อยมือในที่สุด เขาหันไปมองฉู่อันเจ๋อที่กำลังย่างปลา “อันเจ๋อ แบกข้าไปที่อื่นที”ฉู่อันเจ๋อหันมามองเจี่ยนอ
ฉู่อันเจ๋อกำปลาย่างในมือแน่นพลางมองไปทางหัวหน้าทหารรักษาพระองค์ด้วยสีหน้าโมโหนี่เป็นปลาที่เขาย่างมาอย่างไม่ง่ายดาย เขายังไม่ทันได้กินสักคำ แล้วจะยกให้ทหารรักษาพระองค์กินได้อย่างไรเห็นฉู่อันเจ๋อไร้ท่าทีว่าจะส่งปลาย่างมาให้ หัวหน้าทหารรักษาพระองค์ก็สะบัดแส้ฟาดใส่มืออีกฝ่ายเสียง ‘เพียะ’ ดังขึ้น ปลาในมือฉู่อันเจ๋อถูกฟาดจนร่วงลงบนพื้นฉู่อันเจ๋อโมโหจนทำท่าจะปราดเข้าไปหาหัวหน้าทหารรักษาพระองค์ แต่ถูกเจี่ยนอันอันดึงไว้เสียก่อน“พี่สะใภ้รอง ท่านอย่าดึงข้า ข้าจะอัดเขาให้ตาย!” ฉู่อันเจ๋อโกรธจนดวงตาแดงก่ำ เขาอดทนอดกลั้นต่อหัวหน้าทหารรักษาพระองค์ผู้นี้มานานแล้วเจี่ยนอันอันเอ่ยปลอบเสียงเบา “ข้าจะจัดการเรื่องนี้เอง เจ้าย่างปลาให้ทุกคนกินต่อไปเถอะ”ฉู่อันเจ๋อกำหมัดแน่น แค่นเสียงเย็นอย่างหัวเสีย แล้วกลับไปย่างปลาที่เหลือหน้ากองไฟต่อหัวหน้าทหารรักษาพระองค์เห็นฉู่อันเจ๋อกลับไปย่างปลา ปราศจากท่าทีว่าจะส่งปลามาให้โดยสิ้นเชิงเขาขยับแส้อีกครั้ง ทำท่าจะหวดใส่ฉู่อันเจ๋ออีกคราเจี่ยนอันอันรีบเข้าไปคว้าข้อมือของหัวหน้าทหารรักษาพระองค์เอาไว้นางยิ้มพลางเอ่ยกับหัวหน้าทหารรักษาพระองค์ “พี่ชาย ท่าน
เห็นภาพตรงหน้า ฉู่จวินสิงก็ฟาดมือลงกับพื้นด้วยความเดือดดาล ความเจ็บแปลบแล่นพล่านขึ้นมาจากกลางฝ่ามือฉู่จวินหลุนที่นั่งอยู่ข้างๆ มองตามทิศทางที่เจี่ยนอันอันจากไปด้วยแววตาลึกซึ้งโดยไม่พูดอะไรสักคำฟางอิ๋งพี่สะใภ้ใหญ่ที่อยู่ข้างๆ เอ่ยปลอบเสียงเบา “น้องรองอย่าเพิ่งโมโห ข้าคิดว่าอันอันไม่ใช่คนประเภทที่เจ้าคิด”แม้นางจะไม่ได้รู้จักเจี่ยนอันอันมากนัก ทว่าตลอดทางมานี้ เจี่ยนอันอันมีลักษณะนิสัยอย่างไร นางล้วนประจักษ์ด้วยสายตาตัวเองนางรู้สึกว่าเจี่ยนอันอันไม่เหมือนคนที่จะทำเรื่องนอกลู่นอกทางกับหัวหน้าทหารรักษาพระองค์อย่างที่ทุกคนเห็นฮูหยินใหญ่กับฉู่อันเจ๋อมองดูเจี่ยนอันอันนำทางหัวหน้าทหารรักษาพระองค์ตรงไปยังริมลำธารตาไม่กะพริบฮูหยินใหญ่กล่าวกับฉู่อันเจ๋อ “เจ้ารีบตามไปเร็วเข้า อย่าให้เกิดเรื่องกับอันอัน”ฉู่อันเจ๋อรีบตามหลังคนทั้งสองไปทันทีเขาเคลื่อนไหวอย่างเบามือเบาเท้า เก็บงำลมหายใจ ไม่ให้หัวหน้าทหารรักษาพระองค์สัมผัสได้ถึงการดำรงอยู่ของเขาแต่เจี่ยนอันอันกลับรู้แต่แรกแล้วว่าฉู่อันเจ๋อตามหลังมานางพาหัวหน้าทหารรักษาพระองค์มาจนถึงริมลำธารแล้วจึงหยุดเดิน“พี่ชาย ก่อนหน้านี้ข้าจับปล
ทั้งคู่หามร่างหัวหน้าทหารรักษาพระองค์ขึ้นมาแล้วโยนลงไปในลำธารหลังจัดการทั้งหมดนี้เสร็จ เจี่ยนอันอันก็แสดงท่าทางประหวั่นลนลานออกมาแล้ววิ่งไปยังสถานที่ที่ทุกคนพักผ่อนกันอยู่นางวิ่งพลางร่ำร้องเสียงดัง “แย่แล้ว หัวหน้าทหารรักษาพระองค์ตกน้ำ รีบมาช่วยคนเร็วเข้า!”ฉู่อันเจ๋อโคจรกำลังภายใน เขาแตะปลายเท้าเบาๆ ก็กระโดดขึ้นไปบนต้นไม้ได้แล้วพรางตัวท่ามกลางใบไม้ คนข้างล่างยากจะค้นพบการดำรงอยู่ของเขาทหารรักษาพระองค์เหล่านั้นได้ยินเสียงตะโกนของเจี่ยนอันอันดังมาแต่ไกลพวกเขาล้วนผุดลุกพรวดพราดเมื่อเจี่ยนอันอันวิ่งกลับมาถึงจุดพักผ่อน นางเอ่ยเสียงกระหืดกระหอบว่า “รีบ...รีบไปช่วยหัวหน้าของพวกเจ้าเร็วเข้า”หานซื่อเห็นว่ามีแค่เจี่ยนอันอันกลับมาคนเดียว นางยังพร่ำบอกให้พวกเขาไปช่วยหัวหน้าเขาก้าวยาวๆ ไม่กี่ก้าวมาถึงตรงหน้าเจี่ยนอันอัน ชักกระบี่จากหว่างเอวมาขวางไว้เหนือลำคอของนาง“พูดมา เกิดเรื่องอะไรขึ้นกันแน่ หัวหน้าของพวกข้าเล่า?”เจี่ยนอันอันแสดงท่าทางหวาดกลัวออกมา นางสั่นสะท้านไปทั้งตัว “หัว...หัวหน้าเขาตกน้ำไปแล้ว พวกเจ้ารีบไปช่วยเขาเร็วเข้า ชักช้ากว่านี้จะไม่ทันการแล้วนะ”หานซื่อขมวดคิ้
หานซื่อหาได้เชื่อคำพูดของเจี่ยนอันอันไม่ รอจนทุกคนช่วยกันหามหัวหน้าของพวกเขาขึ้นมาบนฝั่งหนึ่งในทหารรักษาพระองค์ร้องเสียงดัง “พวกเจ้าดูนั่น ตรงข้อเท้าของหัวหน้ามีงูอยู่ตัวหนึ่ง”หานซื่อได้ยินคำพูดนั้นก็เก็บกระบี่ในมือกลับเข้าฝัก เดินไปทางร่างของหัวหน้าหานซื่อมองไปที่ข้อเท้าของหัวหน้าก็พบว่ามีงูพิษสีดำตัวหนึ่งพันอยู่จริงๆขณะที่สีหน้าของหัวหน้ากลายเป็นสีดำอมม่วงร่างกายเปลี่ยนเป็นแข็งทื่อ หมดลมหายใจไปนานแล้วแค่เห็นก็รู้ว่าตายเพราะถูกพิษหานซื่อใช้กระบี่แทงงูพิษ ดึงมันออกจากร่างหัวหน้าแล้วสะบัดลงบนพื้นครั้นทหารรักษาพระองค์เหล่านั้นปราศจากหัวหน้าก็ระส่ำระสายดุจทรายในกระบะต่างคนต่างเริ่มส่งเสียงขึ้นมา“หัวหน้าตายแล้ว พวกเราควรทำอย่างไรดี?”“นั่นสิ แล้วพวกเรายังต้องคุมตัวคนของจวนเยียนอ๋องไปส่งอยู่หรือไม่?”“ทำอย่างไรดี ข้ายังไม่ได้เบี้ยหวัดของเดือนนี้เลยนะ หัวหน้าของพวกเราตายแล้ว ใครจะจ่ายเบี้ยหวัดรายเดือนให้ข้ากันเล่า?”“ถึงเวลานี้แล้วยังคิดถึงเบี้ยหวัดรายเดือนอันใดอีก รีบคิดว่าหลังจากนี้พวกเราควรทำอย่างไรดีกว่า”หานซื่อมองทหารรักษาพระองค์เหล่านั้นเล็กน้อย เขาไม่ได้เข้าไป
ตอนหัวหน้าจากไปพร้อมกับเจี่ยนอันอัน หานซื่อมองเห็นความกระสันในแววตาของเขาตอนนั้นหานซื่อก็เดาได้แล้วว่าหัวหน้าคงปรารถนาในความงามของเจี่ยนอันอันหัวหน้าคงคิดจะพาเจี่ยนอันอันมาที่นี่เพื่อขืนใจนางเห็นหานซื่อไม่พูดไม่จา เจี่ยนอันอันก็แค่นเสียงเย็นชาทีหนึ่งนางกล่าวต่อว่า “จากที่เจ้าพูด ข้ายังต้องนำยาถอนพิษมาช่วยคนที่คิดจะทำมิดีมิร้ายข้าด้วยงั้นหรือ?”วาจาของเจี่ยนอันอันทำให้ทหารรักษาพระองค์บริเวณนั้นมองไปทางหัวหน้าที่สิ้นลมไปนานแล้วเป็นตาเดียวมือที่กุมด้ามกระบี่ของพวกเขาก็ปล่อยลงมาด้วยเช่นกันถึงหานซื่อจะสนิทสนมกับหัวหน้า แต่เขาก็รู้ว่าการข่มขืนนักโทษเนรเทศคนหนึ่งเป็นเรื่องไร้ยางอายมากเพียงใดนับประสาอะไรกับที่เขายังเคยเกลี้ยกล่อมหัวหน้าว่าอย่ามัวเมาในนารีแต่หัวหน้าไม่เคยฟังคำแนะนำของเขาตอนนี้เป็นอย่างไรเล่า หัวหน้าได้รับผลจากการกระทำของตัวเองจนตัวตายเพราะพิษงูส่วนทหารรักษาพระองค์ที่ควบคุมนักโทษเนรเทศมาอย่างพวกเขาก็พลอยสูญเสียผู้นำไปด้วยทหารรักษาพระองค์เหล่านั้นตกลงสู่ความสับสนกระวนกระวายใจอีกคราทุกคนถกกันขึ้นมาอีกครั้งว่า“หัวหน้าตายแล้ว ต่อจากนี้พวกเราจะทำอย่างไรดี?”
เจี่ยนอันอันถาม “เจ้ามีนามว่าอะไร เป็นทหารรักษาพระองค์มากี่ปีแล้ว?”หานซื่ออึ้งไป แต่เขายังคงตอบตามความจริง “ข้ามีนามว่าหานซื่อ เป็นทหารรักษาพระองค์มาได้เจ็ดปีแล้ว”เจี่ยนอันอันพยักหน้า ในใจใคร่ครวญแผนการหนึ่งขึ้นมาได้นางเอ่ยกับหานซื่อว่า “ข้ารู้สึกว่าเจ้าเป็นคนซื่อสัตย์เที่ยงธรรม ก่อนหน้านี้เจ้ายังเคยให้น้ำข้ามาสองถุง เพื่อตอบแทนเจ้า ข้าคิดจะเสนอเจ้าเป็นหัวหน้าทหารรักษาพระองค์”หานซื่อได้ยินอย่างนั้นก็นิ่งอึ้งอยู่กับที่“เจ้าพูดล้อเล่นกับข้างั้นรึ เจ้าจะเสนอให้ข้าเป็นหัวหน้าทหารรักษาพระองค์?”ตำแหน่งหัวหน้าทหารรักษาพระองค์มีแต่ต้องให้ทหารรักษาพระองค์ด้วยกันคัดเลือกมาเท่านั้นนางซึ่งเป็นนักโทษที่ถูกเนรเทศคนหนึ่ง มีสิทธิ์อะไรมาเสนอเขาเป็นหัวหน้าทหารรักษาพระองค์เจี่ยนอันอันมองหานซื่อพลางเอ่ยด้วยสีหน้าจริงจัง “หากข้าบอกว่าข้ามีความสามารถพอที่จะเสนอชื่อเจ้าเป็นหัวหน้าทหารรักษาพระองค์เล่า วันหน้าเจ้าจะตอบแทนข้าอย่างไร?”หานซื่อก้มหน้า หลังนิ่งเงียบไปครู่หนึ่งก็ตอบว่า “หากข้าได้เป็นหัวหน้าทหารรักษาพระองค์จริงๆ ต่อไปหากมีอะไรเรียกใช้ข้า ข้าย่อมจะช่วยเหลือโดยไม่อิดออด”เจี่ยนอันอัน
ผ่านไปไม่นาน น้ำร้อนก็ถูกยกมาเจี่ยนอันอันนำยาถอนพิษมาละลายในน้ำนางฉีกผ้าจากบนร่างทหารรักษาพระองค์ผู้นั้นมาชิ้นหนึ่ง จุ่มจนชุ่มแล้วนำมาเช็ดปากแผลให้เขาเมื่อผ้าชุบน้ำยาเช็ดไปบนปากแผล ปากแผลก็มีฟองสีขาวฟอดขึ้นมาทันทีหลังฟองสีขาวหายไป ปากแผลก็เปลี่ยนเป็นซีดขาว กระดูกโผล่มาให้เห็นทหารรักษาพระองค์คนอื่นๆ เห็นดังนั้นก็อดจะสูดลมหายใจอย่างหนาวเหน็บไม่ได้พวกเขามุงอยู่รอบๆ มองดูเจี่ยนอันอันช่วยรักษาสหายของพวกตนหานซื่อก็นั่งอยู่ข้างๆ คอยมองเจี่ยนอันอันตาไม่กะพริบน้ำในอ่างเปลี่ยนเป็นน้ำเลือดสีดำอย่างรวดเร็วหลังเจี่ยนอันอันโยนเศษผ้าชิ้นนั้นทิ้งไปแล้ว ก็โรยผงยาใส่ปากแผลอีกครั้งนางเงยหน้าขึ้นกล่าวกับทหารรักษาพระองค์เหล่านั้น “ใครมีผ้าสำหรับพันแผลบ้าง?”ในไม่ช้าก็มีทหารรักษาพระองค์คนหนึ่งนำผ้าป่านสีขาวมาส่งให้เจี่ยนอันอันเจี่ยนอันอันพันแผลให้ทหารรักษาพระองค์ที่ถูกงูกัดผู้นั้นเสร็จ นางก็ให้เขากินยาถอนพิษหนึ่งเม็ดกินยาถอนพิษติดต่อกันสองเม็ด บวกกับกรีดเนื้อเน่าที่มีพิษทิ้งให้เขาชีวิตของทหารรักษาพระองค์ผู้นี้ก็นับว่ารักษาไว้ได้แล้วเจี่ยนอันอันลุกขึ้นยืน กล่าวกับทุกคนว่า “อีกหนึ
ว่านจื้อหมิงตกใจมากเมื่อเห็นเจี่ยนอันอันปรากฏตัวอย่างฉับพลันนางเข้ามาอยู่ในที่ว่าการมณฑลจงโจวตั้งแต่เมื่อไร เหตุใดจึงไม่เห็นนางอยู่ในการตะลุมบอนเมื่อครู่?เจี่ยนอันอันเห็นว่านจื้อหมิงไม่ตอบก็กดมีดลึกกว่าเดิมคมจากมีดสั้นจมลึกเข้าไปในผิวของว่านจื้อหมิงและกรีดคอเขาความเจ็บปวดรวดร้าวปกคลุมเข้ามา ว่านจื้อหมิงไม่กล้าชักช้า เขารีบเอ่ยตอบ “ข้าไม่เข้าใจที่เจ้าพูด สาส์นลับอะไร?”ว่านจื้อหมิงรู้ตั้งแต่ตอนที่เจี่ยนอันอันพูดคำว่าสาส์นลับแล้วว่าในหมู่คนที่เขาส่งไปมีคนทรยศอยู่เจี่ยนอันอันเห็นว่านจื้อหมิงแสร้งทำเป็นไม่รู้เรื่องก็ยิ้มเยาะและออกแรงที่มือหนักกว่าเดิมว่านจื้อหมิงรู้สึกถึงความเจ็บปวดที่ลำคออีกครั้ง เขากลัวว่าจะถูกเชือดคอในคราเดียว กลัวจนมีเหงื่อตกบริเวณหน้าผากเจี่ยนอันอันชำเลืองมองพวกฉู่จวินสิงทั้งสามคนที่กำลังต่อสู้ปราดหนึ่ง พบว่าพวกเขาสังหารทหารไปแล้วเกินครึ่งนางยิ้มเยาะว่า “เจ้าคงยังไม่เข้าใจสถานการณ์ตอนนี้สินะ”“ถ้าเช่นนั้นข้าจะช่วยบอกให้ พวกคนที่เจ้าส่งไปเมื่อคืนถูกฆ่าตายหมดแล้ว”“และข้าก็คือเจี่ยนอันอันที่สาส์นลับสั่งให้เอาชีวิต”ว่านจื้อหมิงได้ยินว่าหญิงสาวนางนี้ค
ตอนนี้พวกเขาทั้งหิวทั้งง่วง นอกจากนี้ยังวิงเวียนศีรษะเพราะตากแดดมาทั้งวันพวกทหารเอาแต่พร่ำบ่น ไม่มีผู้ใดสังเกตเห็นว่ามีคนมายืนอยู่ด้านหลังพวกตัวเองเมื่อครู่นี้ พวกฉู่จวินสิงทั้งสี่คนได้เปลี่ยนมาสวมชุดท่องราตรีที่เจี่ยนอันอันนำออกมาฉู่จวินสิงอุ้มเจี่ยนอันอันและใช้วิชาตัวเบากระโดดขึ้นไปบนหลังคาส่วนเซิ่งฟางกับเหยียนเซ่าแยกกันไปที่หลังคาอีกสองแห่งเนื่องจากท้องฟ้ามืดมาก อีกทั้งเซิ่งฟางกับเหยียนเซ่าต่างก็เก็บซ่อนกลิ่นอายของตัวเองทหารเหล่านี้จึงมองไม่เห็นทั้งสองคนเจี่ยนอันอันยังคงอยู่ในสภาวะล่องหน นางยืนอยู่ด้านหลังทหารเหล่านี้ ฟังพวกเขาบ่นถึงผู้ว่ามณฑลจงโจวมุมปากของนางยกโค้งเป็นรอยยิ้มเหี้ยมโหดหลังจากที่ฉู่จวินสิงส่งสัญญาณมือให้เซิ่งฟางกับเหยียนเซ่า ทั้งสามคนก็ชักกระบี่แทงใส่เหล่าทหารเบื้องหน้าทหารพวกนั้นได้ยินเสียงความเคลื่อนไหวและรู้สึกถึงความผิดปกติในที่สุดพวกเขารีบหันตัวกลับไปก็พบว่าด้านหลังมีคนในชุดสีดำและสวมผ้าคลุมหน้าสีดำยืนอยู่เซิ่งฟางกับเหยียนเซ่าลอบสังหารทหารไปหลายนายเช่นกัน ทันใดนั้นเอง เกิดความวุ่นวายขึ้นบนหลังคา “มีนักฆ่า!”ไม่รู้ว่าผู้ใดที่ตะโกนเสีย
เจี่ยนอันอันไม่ได้ไล่ตามไป นางท่องชื่อสมุนไพรพวกนี้ในใจแล้วต้องตกใจสมุนไพรพวกนี้ล้วนแต่มีพิษร้ายแรงแต่ไม่นาน นางก็เข้าใจได้ว่าพิษร้ายในตัวเวินอี๋ต้องถอนด้วยการใช้พิษต้านพิษและสมุนไพรเหล่านี้ก็มีสรรพคุณในการช่วยถอนพิษเช่นกันเจี่ยนอันอันจำชื่อของสมุนไพรเหล่านี้ นางนึกขึ้นได้ว่านอกกำแพงมีปืนพกกระบอกนั้นหากถูกผู้อื่นหยิบไป ไม่แน่ว่าจะเกิดเรื่องใหญ่เมื่อคิดถึงตรงนี้ เจี่ยนอันอันก็รีบกระโดดขึ้นกำแพงลานบ้านนางยืนอยู่บนกำแพง เห็นว่ากู้มั่วหลีกำลังมองมาทางนางจากบนหลังคาที่อยู่ไกลออกไปมิหนำซ้ำเขายังทำท่าส่งจูบให้นางเจี่ยนอันอันรู้สึกเหมือนกินแมลงวัน สะอิดสะเอียนจนอยากอาเจียนนางถลึงตาใส่กู้มั่วหลีแล้วกระโดดลงจากกำแพงไปเก็บปืนพกเข้าสู่ห้วงมิติบัดนี้นางเข้าใจทุกอย่างในที่ว่าการมณฑลจงโจวอย่างแจ่มแจ้งฉู่จวินสิงกำลังรอนางอยู่ นางจะมัวชักช้าไม่ได้ รีบท่องตำแหน่งของฉู่จวินสิงในใจไม่นาน นางก็มาปรากฏตัวเบื้องหน้าฉู่จวินสิงฉู่จวินสิงเห็นว่าเจี่ยนอันอันกลับมาแล้วก็โล่งใจเหมือนได้ยกภูเขาออกจากอกเซิ่งฟางกับเหยียนเซ่าไม่ได้สังเกตเห็นว่าเจี่ยนอันอันกลับมาแล้วพวกเขายังคงมองไปทางที
เจี่ยนอันอันเสมือนอ่านใจกู้มั่วหลีได้ นางเอ่ยเสียงเย็นว่า “ในเหตุการณ์สังหารหมู่เมื่อตอนนั้น เจ้าวางยาใส่เวินอี๋”“หากยังไม่มอบยาถอนพิษให้อีก ข้าจะทำให้เจ้าหายไปจากโลกนี้!”เจี่ยนอันอันว่าแล้วก็สวมถุงมือแบบพิเศษนางนำผงสลายศพกำหนึ่งออกมาจากห้วงมิติและทำทีจะสาดใส่กู้มั่วหลี กู้มั่วหลีมองผงสลายศพปราดหนึ่งก่อนจะเลิกคิ้วขึ้นนึกไม่ถึงว่าหญิงนางนี้จะชอบเล่นกับยาพิษเฉกเช่นเดียวกันกับเขาส่วนเรื่องเวินอี๋อะไรนั่น กู้มั่วหลีไม่ได้สนใจเขาเกิดความสนใจในตัวเจี่ยนอันอันเป็นอย่างมากในตอนที่เจี่ยนอันอันกำลังจะสาดผงสลายศพนี้เอง กู้มั่วหลีก็รีบร้องว่า“ข้าไม่มียาถอนพิษ แต่ข้าสามารถบอกวิธีถอนพิษให้กับเจ้าได้”รอยยิ้มเกียจคร้านปรากฏขึ้นที่มุมปากกู้มั่วหลีอีกครั้งเขากดจุดฝังเข็มสองจุดบนร่างตัวเองเพื่อหยุดยั้งการกระจายของพิษเจี่ยนอันอันหยุดการกระทำของตัวเอง นางถลึงตามองกู้มั่วหลี รอให้เขาบอกวิธีถอนพิษกู้มั่วหลีเอนตัวพิงกำแพงอย่างเกียจคร้านและพูดด้วยสุ้มเสียงเหลาะแหละ “ข้าผู้นี้เคยวางยาคนมาไม่รู้ตั้งเท่าไร”“เจ้าคนแซ่เวินที่เจ้าพูดถึงมีอาการอย่างไรหลังจากถูกวางยา?”“หากเจ้าไม่อธิบายให้
“แม่นางน้อย เอะอะก็ฆ่าแกงกันแบบนี้ไม่สมกับเป็นผู้หญิงเลยนะ”ขณะที่กู้มั่วหลีพูด คนก็ก้าวมาข้างหน้าหลายก้าวเจี่ยนอันอันเห็นอย่างนั้นก็รีบถอยหลัง ดึงระยะห่างออกจากกู้มั่วหลีกู้มั่วหลียิ่งรู้สึกว่าสตรีตรงหน้าน่าสนใจมากเขาไม่ชอบสตรีที่เป็นฝ่ายเสนอตัวเข้าหาก่อนมาแต่ไหนแต่ไรสตรีแบบเจี่ยนอันอันที่เปิดฉากต่อสู้โดยไม่พูดพร่ำทำเพลงกลับตรงจริตเขามากทีเดียว“แม่นางน้อย เจ้ามีนามว่าอะไรหรือ?”“เจ้าติดตามเยียนอ๋องผู้นั้นไปตกระกำลำบาก ต้องใช้ชีวิตอย่างอกสั่นขวัญแขวนทั้งวันแบบนั้น น่าเศร้าจะตาย”“ข้าว่า มิสู้เจ้ามาติดตามข้า รับรองว่าเจ้าจะมีกินมีใช้ไม่ขาดมือ”กู้มั่วหลีหยุดฝีเท้า มองเจี่ยนอันอันด้วยแววตาหยอกเย้าเจี่ยนอันอันถ่มน้ำลายลงข้างๆ ตวาดกลับกู้มั่วหลีว่า “หยุดพูดไร้สาระ ส่งยาถอนพิษมาเดี๋ยวนี้”“ไม่อย่างนั้นก็อย่าหาว่าข้าไม่เกรงใจ”เจี่ยนอันอันพูดอยู่ คนก็พุ่งเข้าไปหากู้มั่วหลีอย่างรวดเร็วนางเคลื่อนไหวเร็วมาก เพียงพริบตาเดียวก็มาถึงเบื้องหน้ากู้มั่วหลีปืนสั้นเก็บเสียงกระบอกหนึ่งปรากฏขึ้นในมือนาง ปลายกระบอกปืนสีดำสนิทจ่ออยู่บนหน้าผากกู้มั่วหลีแค่เพียงนางลั่นไก บุรุษตรงหน้าก
เจี่ยนอันอันใช้เข็มเงินปลดล็อกแม่กุญแจออกก็พบว่าในหีบคือเงินทองของล้ำค่าและผ้าไหมแพรพรรณรอยยิ้มค่อยๆ ปรากฏขึ้นบนใบหน้าเจี่ยนอันอันนางย่อมกวาดทรัพย์สมบัติเหล่านี้เข้ามิติโดยไม่เหลือไว้แม้แต่ชิ้นเดียวอยู่แล้วหลังจากขนสมบัติจากทุกหีบจนเกลี้ยง เจี่ยนอันอันก็ออกมาจากคลังสมบัติอย่างมีความสุขนางไม่ได้รีบร้อนไปจากจวนผู้ว่าการมณฑลจงโจว แต่เดินเตร่อยู่ข้างในรอบหนึ่งเหมือนกับที่นางคิดไว้ตอนแรก ที่นี่วางกำลังทหารไว้จำนวนมากแม้แต่บนหลังคาก็วางมือธนูไว้จำนวนมากถ้าพวกเขาบุกเข้ามาอย่างซึ่งหน้าแต่แรกก็คงถูกธนูยิงทะลุร่างจนกลายเป็นเม่นอย่างรวดเร็วเจี่ยนอันอันสำรวจสภาพภูมิประเทศและกำลังทหารในนั้นเสร็จก็จะจากไปในเวลานั้นเอง น้ำเสียงเย็นชาเสียงหนึ่งก็พลันดังขึ้นจากข้างหลัง“เจ้าจะจากไปเร็วขนาดนี้เลยหรือ ไม่เดินสำรวจจวนผู้ว่าการมณฑลจงโจวต่ออีกสักหน่อยเล่า?”เจี่ยนอันอันหันกลับไปก็เห็นบุรุษสวมหน้ากากเงินผู้หนึ่งยืนอยู่บริเวณไม่ไกลจากนางมุมปากของเขามีรอยยิ้มประดับอยู่ สายตาจับจ้องมาทางนางเจี่ยนอันอันใจหายวูบ นางคิดไม่ถึงว่าวิชาล่องหนของตนเองจะถูกคนผู้นี้มองเห็นได้เจี่ยนอันอันขมวดคิ้ว
เจี่ยนอันอันเข้าใจแล้ว มิน่าเล่าผู้ว่าการมณฑลจงโจวจึงมีกองทัพนับพันอยู่ในครอบครองที่แท้ในจวนของเขาก็ซุกซ่อนป้ายคำสั่งพยัคฆ์เอาไว้นี่เองเจี่ยนอันอันย่อมไม่ปล่อยให้ป้ายคำสั่งนี้อยู่ที่นี่ต่อไปนางเก็บป้ายคำสั่งนั้นไว้ในมิติแล้วหยิบป้ายคำสั่งขนาดเท่ากันออกมาชิ้นหนึ่งบนป้ายคำสั่งนั้นสลักรูปเฮลโลคิตตี้ที่กอดหมีน้อยเอาไว้ตัวหนึ่งเจี่ยนอันอันวางป้ายคำสั่งนั้นลงในกล่องไม้แล้วกดช่องลับเบาๆ กล่องไม้นั้นก็เด้งกลับเข้าไปเพื่อไม่ให้ผู้ว่าการมณฑลจงโจวสังเกตเห็นว่าตรงนี้มีคนเคยแตะต้องเจี่ยนอันอันซื้อของเลียนแบบภาพพู่กันโบราณจากร้านค้าในมิติออกมาจำนวนหนึ่งยามนี้นางยังไม่อยากให้ผู้ว่าการมณฑลจงโจวตายเร็วขนาดนั้นนางอยากเห็นว่าหลังจากที่ผู้ว่าการมณฑลจงโจวพบว่าป้ายคำสั่งของตนถูกสลับไปแล้วจะมีท่าทางเช่นไรแค่คิดถึงท่าทางน่าสมเพชตอนที่ผู้ว่าการมณฑลจงโจวหยิบป้ายคำสั่งปลอมขึ้นมา นางก็หัวเราะออกมาอย่างอดไม่อยู่เพื่อไม่เป็นการเสียเวลา หลังทำทุกอย่างเสร็จ เจี่ยนอันอันก็ออกมาจากห้องลับเจี่ยนอันอันกลับมาที่ศาลาอีกครั้งก็เห็นว่านจื้อหมิงผู้ว่าการมณฑลจงโจวกำลังนั่งจิบชาอยู่เขาดูไปแล้วเหมือนอาย
ฉู่จวินสิงมุ่นคิ้ว “ตอนนี้ข้างในเป็นอย่างไรบ้างก็ไม่รู้ เจ้าบุกเข้าไปแบบนี้อันตรายเกินไป ข้าไม่เห็นด้วย”ฉู่จวินสิงไม่อยากให้เจี่ยนอันอันเข้าไปเสี่ยงอันตรายตามลำพังเซิ่งฟางก็พูดเสริมว่า “น้องหญิงอันอัน ถ้าเจ้าจะเข้าไปตอนนี้ให้ได้ ข้าจะเข้าไปเป็นเพื่อนเจ้า”เจี่ยนอันอันไม่อยากให้มีคนตามไปด้วย อย่างไรเสียนางสามารถล่องหนได้ แต่คนอื่นทำไม่ได้นางยิ้มให้พวกฉู่จวินสิงพลางเอ่ย “พวกท่านรออยู่ในนี้อย่างวางใจเถอะ”นางกล่าวจบก็ขยิบตาให้ฉู่จวินสิง“อย่าลืมสิ ข้าล่องหนได้นะ”ฉู่จวินสิงได้เจี่ยนอันอันเอ่ยเตือนเช่นนี้ค่อยนึกออกว่านางสามารถล่องหนได้เซิ่งฟางกับเหยียนเซ่าได้ยินดังนั้นก็ต้องเบิกตาโพลงอย่างอดไม่อยู่พวกเขามองเจี่ยนอันอันอย่างแตกตื่น ไม่แน่ใจว่านางกำลังพูดเล่นกับพวกตนอยู่หรือเปล่าเจี่ยนอันอันอธิบายเพราะไม่อยากให้คนทั้งสองคิดอะไรเหลวไหล “ความจริงข้ามีชุดสุดล้ำค่าอยู่ชุดหนึ่ง ขอเพียงสวมชุดนี้ ข้าก็จะสามารถล่องหนได้”เจี่ยนอันอันพูดพลางซื้อเสื้อกันฝนธรรมดาของยุคปัจจุบันชุดหนึ่งจากร้านค้าในมิตินางสวมเสื้อกันฝนนั้น ในใจท่องคาถาล่องหนเงียบๆในไม่ช้า นางก็พลันหายตัวไปต่อหน้าต่อตา
เจี่ยนอันอันไม่อยากเสียเวลาอีกแล้วจึงก้าวยาวๆ ออกไปข้างนอกคนทั้งสี่ขึ้นไปนั่งบนรถม้าแล้วตรงไปยังจวนผู้ว่าการมณฑลจงโจวจวนผู้ว่าการมณฑลจงโจวไม่ได้อยู่ในอำเภอไถหยาง แต่อยู่ในเมืองหลักระหว่างทางพวกเจี่ยนอันอันรู้สึกหิว แต่ตอนนี้พวกนางไม่มีกะจิตกะใจจะไปกินข้าวในร้านอาหารเลยสักนิดเจี่ยนอันอันซื้อขนมปังกับน้ำจากร้านค้าในมิติแล้วแจกจ่ายให้พวกฉู่จวินสิงสามคนพวกเขาไม่เคยเห็นขนมปังมาก่อน ต่างมองห่อขนมปังอย่างอึ้งงัน ไม่รู้ว่าควรกินอย่างไรเจี่ยนอันอันบอกพวกเขาว่าต้องฉีกซองออกเสียก่อนจึงจะสามารถกินอาหารที่อยู่ข้างในได้คนทั้งสามฉีกซองขนมปังโดยเลียนแบบท่าทางของเจี่ยนอันอันกลิ่นหอมของขนมปังลอยเข้าจมูก ประกอบกับคนทั้งสี่กำลังหิวจึงรีบกัดกินคำโตเซิ่งฟางกินพลางถามว่า “อันอัน นี่คืออะไรหรือ เหตุใดจึงนุ่มอร่อยเช่นนี้?”เจี่ยนอันอันดื่มน้ำคำหนึ่ง กลืนขนมปังในปากลงไป“นี่คือของว่างที่ข้าทำขึ้นมาในบ้าน ข้าตั้งชื่อให้มันว่าขนมปัง”“ที่ข้ายังมีอีกเยอะ พวกท่านกินให้เต็มที่”“ขนมปังค่อนข้างติดคอ พวกท่านกินน้ำตามไปด้วย”ฉู่จวินสิงเคยเห็นน้ำแร่มาก่อน เขารู้ว่าควรเปิดของสิ่งนี้อย่างไรเขาหมุน