Share

บทที่ 32

Author: ซินต้งหรูสุ่ย
เห็นภาพตรงหน้า ฉู่จวินสิงก็ฟาดมือลงกับพื้นด้วยความเดือดดาล ความเจ็บแปลบแล่นพล่านขึ้นมาจากกลางฝ่ามือ

ฉู่จวินหลุนที่นั่งอยู่ข้างๆ มองตามทิศทางที่เจี่ยนอันอันจากไปด้วยแววตาลึกซึ้งโดยไม่พูดอะไรสักคำ

ฟางอิ๋งพี่สะใภ้ใหญ่ที่อยู่ข้างๆ เอ่ยปลอบเสียงเบา “น้องรองอย่าเพิ่งโมโห ข้าคิดว่าอันอันไม่ใช่คนประเภทที่เจ้าคิด”

แม้นางจะไม่ได้รู้จักเจี่ยนอันอันมากนัก ทว่าตลอดทางมานี้ เจี่ยนอันอันมีลักษณะนิสัยอย่างไร นางล้วนประจักษ์ด้วยสายตาตัวเอง

นางรู้สึกว่าเจี่ยนอันอันไม่เหมือนคนที่จะทำเรื่องนอกลู่นอกทางกับหัวหน้าทหารรักษาพระองค์อย่างที่ทุกคนเห็น

ฮูหยินใหญ่กับฉู่อันเจ๋อมองดูเจี่ยนอันอันนำทางหัวหน้าทหารรักษาพระองค์ตรงไปยังริมลำธารตาไม่กะพริบ

ฮูหยินใหญ่กล่าวกับฉู่อันเจ๋อ “เจ้ารีบตามไปเร็วเข้า อย่าให้เกิดเรื่องกับอันอัน”

ฉู่อันเจ๋อรีบตามหลังคนทั้งสองไปทันที

เขาเคลื่อนไหวอย่างเบามือเบาเท้า เก็บงำลมหายใจ ไม่ให้หัวหน้าทหารรักษาพระองค์สัมผัสได้ถึงการดำรงอยู่ของเขา

แต่เจี่ยนอันอันกลับรู้แต่แรกแล้วว่าฉู่อันเจ๋อตามหลังมา

นางพาหัวหน้าทหารรักษาพระองค์มาจนถึงริมลำธารแล้วจึงหยุดเดิน

“พี่ชาย ก่อนหน้านี้ข้าจับปล
Locked Chapter
Continue Reading on GoodNovel
Scan code to download App

Related chapters

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาอ๋องผู้ถูกเนรเทศ   บทที่ 33

    ทั้งคู่หามร่างหัวหน้าทหารรักษาพระองค์ขึ้นมาแล้วโยนลงไปในลำธารหลังจัดการทั้งหมดนี้เสร็จ เจี่ยนอันอันก็แสดงท่าทางประหวั่นลนลานออกมาแล้ววิ่งไปยังสถานที่ที่ทุกคนพักผ่อนกันอยู่นางวิ่งพลางร่ำร้องเสียงดัง “แย่แล้ว หัวหน้าทหารรักษาพระองค์ตกน้ำ รีบมาช่วยคนเร็วเข้า!”ฉู่อันเจ๋อโคจรกำลังภายใน เขาแตะปลายเท้าเบาๆ ก็กระโดดขึ้นไปบนต้นไม้ได้แล้วพรางตัวท่ามกลางใบไม้ คนข้างล่างยากจะค้นพบการดำรงอยู่ของเขาทหารรักษาพระองค์เหล่านั้นได้ยินเสียงตะโกนของเจี่ยนอันอันดังมาแต่ไกลพวกเขาล้วนผุดลุกพรวดพราดเมื่อเจี่ยนอันอันวิ่งกลับมาถึงจุดพักผ่อน นางเอ่ยเสียงกระหืดกระหอบว่า “รีบ...รีบไปช่วยหัวหน้าของพวกเจ้าเร็วเข้า”หานซื่อเห็นว่ามีแค่เจี่ยนอันอันกลับมาคนเดียว นางยังพร่ำบอกให้พวกเขาไปช่วยหัวหน้าเขาก้าวยาวๆ ไม่กี่ก้าวมาถึงตรงหน้าเจี่ยนอันอัน ชักกระบี่จากหว่างเอวมาขวางไว้เหนือลำคอของนาง“พูดมา เกิดเรื่องอะไรขึ้นกันแน่ หัวหน้าของพวกข้าเล่า?”เจี่ยนอันอันแสดงท่าทางหวาดกลัวออกมา นางสั่นสะท้านไปทั้งตัว “หัว...หัวหน้าเขาตกน้ำไปแล้ว พวกเจ้ารีบไปช่วยเขาเร็วเข้า ชักช้ากว่านี้จะไม่ทันการแล้วนะ”หานซื่อขมวดคิ้

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาอ๋องผู้ถูกเนรเทศ   บทที่ 34

    หานซื่อหาได้เชื่อคำพูดของเจี่ยนอันอันไม่ รอจนทุกคนช่วยกันหามหัวหน้าของพวกเขาขึ้นมาบนฝั่งหนึ่งในทหารรักษาพระองค์ร้องเสียงดัง “พวกเจ้าดูนั่น ตรงข้อเท้าของหัวหน้ามีงูอยู่ตัวหนึ่ง”หานซื่อได้ยินคำพูดนั้นก็เก็บกระบี่ในมือกลับเข้าฝัก เดินไปทางร่างของหัวหน้าหานซื่อมองไปที่ข้อเท้าของหัวหน้าก็พบว่ามีงูพิษสีดำตัวหนึ่งพันอยู่จริงๆขณะที่สีหน้าของหัวหน้ากลายเป็นสีดำอมม่วงร่างกายเปลี่ยนเป็นแข็งทื่อ หมดลมหายใจไปนานแล้วแค่เห็นก็รู้ว่าตายเพราะถูกพิษหานซื่อใช้กระบี่แทงงูพิษ ดึงมันออกจากร่างหัวหน้าแล้วสะบัดลงบนพื้นครั้นทหารรักษาพระองค์เหล่านั้นปราศจากหัวหน้าก็ระส่ำระสายดุจทรายในกระบะต่างคนต่างเริ่มส่งเสียงขึ้นมา“หัวหน้าตายแล้ว พวกเราควรทำอย่างไรดี?”“นั่นสิ แล้วพวกเรายังต้องคุมตัวคนของจวนเยียนอ๋องไปส่งอยู่หรือไม่?”“ทำอย่างไรดี ข้ายังไม่ได้เบี้ยหวัดของเดือนนี้เลยนะ หัวหน้าของพวกเราตายแล้ว ใครจะจ่ายเบี้ยหวัดรายเดือนให้ข้ากันเล่า?”“ถึงเวลานี้แล้วยังคิดถึงเบี้ยหวัดรายเดือนอันใดอีก รีบคิดว่าหลังจากนี้พวกเราควรทำอย่างไรดีกว่า”หานซื่อมองทหารรักษาพระองค์เหล่านั้นเล็กน้อย เขาไม่ได้เข้าไป

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาอ๋องผู้ถูกเนรเทศ   บทที่ 35

    ตอนหัวหน้าจากไปพร้อมกับเจี่ยนอันอัน หานซื่อมองเห็นความกระสันในแววตาของเขาตอนนั้นหานซื่อก็เดาได้แล้วว่าหัวหน้าคงปรารถนาในความงามของเจี่ยนอันอันหัวหน้าคงคิดจะพาเจี่ยนอันอันมาที่นี่เพื่อขืนใจนางเห็นหานซื่อไม่พูดไม่จา เจี่ยนอันอันก็แค่นเสียงเย็นชาทีหนึ่งนางกล่าวต่อว่า “จากที่เจ้าพูด ข้ายังต้องนำยาถอนพิษมาช่วยคนที่คิดจะทำมิดีมิร้ายข้าด้วยงั้นหรือ?”วาจาของเจี่ยนอันอันทำให้ทหารรักษาพระองค์บริเวณนั้นมองไปทางหัวหน้าที่สิ้นลมไปนานแล้วเป็นตาเดียวมือที่กุมด้ามกระบี่ของพวกเขาก็ปล่อยลงมาด้วยเช่นกันถึงหานซื่อจะสนิทสนมกับหัวหน้า แต่เขาก็รู้ว่าการข่มขืนนักโทษเนรเทศคนหนึ่งเป็นเรื่องไร้ยางอายมากเพียงใดนับประสาอะไรกับที่เขายังเคยเกลี้ยกล่อมหัวหน้าว่าอย่ามัวเมาในนารีแต่หัวหน้าไม่เคยฟังคำแนะนำของเขาตอนนี้เป็นอย่างไรเล่า หัวหน้าได้รับผลจากการกระทำของตัวเองจนตัวตายเพราะพิษงูส่วนทหารรักษาพระองค์ที่ควบคุมนักโทษเนรเทศมาอย่างพวกเขาก็พลอยสูญเสียผู้นำไปด้วยทหารรักษาพระองค์เหล่านั้นตกลงสู่ความสับสนกระวนกระวายใจอีกคราทุกคนถกกันขึ้นมาอีกครั้งว่า“หัวหน้าตายแล้ว ต่อจากนี้พวกเราจะทำอย่างไรดี?”

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาอ๋องผู้ถูกเนรเทศ   บทที่ 36

    เจี่ยนอันอันถาม “เจ้ามีนามว่าอะไร เป็นทหารรักษาพระองค์มากี่ปีแล้ว?”หานซื่ออึ้งไป แต่เขายังคงตอบตามความจริง “ข้ามีนามว่าหานซื่อ เป็นทหารรักษาพระองค์มาได้เจ็ดปีแล้ว”เจี่ยนอันอันพยักหน้า ในใจใคร่ครวญแผนการหนึ่งขึ้นมาได้นางเอ่ยกับหานซื่อว่า “ข้ารู้สึกว่าเจ้าเป็นคนซื่อสัตย์เที่ยงธรรม ก่อนหน้านี้เจ้ายังเคยให้น้ำข้ามาสองถุง เพื่อตอบแทนเจ้า ข้าคิดจะเสนอเจ้าเป็นหัวหน้าทหารรักษาพระองค์”หานซื่อได้ยินอย่างนั้นก็นิ่งอึ้งอยู่กับที่“เจ้าพูดล้อเล่นกับข้างั้นรึ เจ้าจะเสนอให้ข้าเป็นหัวหน้าทหารรักษาพระองค์?”ตำแหน่งหัวหน้าทหารรักษาพระองค์มีแต่ต้องให้ทหารรักษาพระองค์ด้วยกันคัดเลือกมาเท่านั้นนางซึ่งเป็นนักโทษที่ถูกเนรเทศคนหนึ่ง มีสิทธิ์อะไรมาเสนอเขาเป็นหัวหน้าทหารรักษาพระองค์เจี่ยนอันอันมองหานซื่อพลางเอ่ยด้วยสีหน้าจริงจัง “หากข้าบอกว่าข้ามีความสามารถพอที่จะเสนอชื่อเจ้าเป็นหัวหน้าทหารรักษาพระองค์เล่า วันหน้าเจ้าจะตอบแทนข้าอย่างไร?”หานซื่อก้มหน้า หลังนิ่งเงียบไปครู่หนึ่งก็ตอบว่า “หากข้าได้เป็นหัวหน้าทหารรักษาพระองค์จริงๆ ต่อไปหากมีอะไรเรียกใช้ข้า ข้าย่อมจะช่วยเหลือโดยไม่อิดออด”เจี่ยนอันอัน

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาอ๋องผู้ถูกเนรเทศ   บทที่ 37

    ผ่านไปไม่นาน น้ำร้อนก็ถูกยกมาเจี่ยนอันอันนำยาถอนพิษมาละลายในน้ำนางฉีกผ้าจากบนร่างทหารรักษาพระองค์ผู้นั้นมาชิ้นหนึ่ง จุ่มจนชุ่มแล้วนำมาเช็ดปากแผลให้เขาเมื่อผ้าชุบน้ำยาเช็ดไปบนปากแผล ปากแผลก็มีฟองสีขาวฟอดขึ้นมาทันทีหลังฟองสีขาวหายไป ปากแผลก็เปลี่ยนเป็นซีดขาว กระดูกโผล่มาให้เห็นทหารรักษาพระองค์คนอื่นๆ เห็นดังนั้นก็อดจะสูดลมหายใจอย่างหนาวเหน็บไม่ได้พวกเขามุงอยู่รอบๆ มองดูเจี่ยนอันอันช่วยรักษาสหายของพวกตนหานซื่อก็นั่งอยู่ข้างๆ คอยมองเจี่ยนอันอันตาไม่กะพริบน้ำในอ่างเปลี่ยนเป็นน้ำเลือดสีดำอย่างรวดเร็วหลังเจี่ยนอันอันโยนเศษผ้าชิ้นนั้นทิ้งไปแล้ว ก็โรยผงยาใส่ปากแผลอีกครั้งนางเงยหน้าขึ้นกล่าวกับทหารรักษาพระองค์เหล่านั้น “ใครมีผ้าสำหรับพันแผลบ้าง?”ในไม่ช้าก็มีทหารรักษาพระองค์คนหนึ่งนำผ้าป่านสีขาวมาส่งให้เจี่ยนอันอันเจี่ยนอันอันพันแผลให้ทหารรักษาพระองค์ที่ถูกงูกัดผู้นั้นเสร็จ นางก็ให้เขากินยาถอนพิษหนึ่งเม็ดกินยาถอนพิษติดต่อกันสองเม็ด บวกกับกรีดเนื้อเน่าที่มีพิษทิ้งให้เขาชีวิตของทหารรักษาพระองค์ผู้นี้ก็นับว่ารักษาไว้ได้แล้วเจี่ยนอันอันลุกขึ้นยืน กล่าวกับทุกคนว่า “อีกหนึ

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาอ๋องผู้ถูกเนรเทศ   บทที่ 38

    ฮูหยินใหญ่หยิบปลาที่ย่างเสร็จแล้วส่งมาให้เจี่ยนอันอัน“หิวแย่แล้วสินะ รีบกินปลาเถิด”เจี่ยนอันอันรับปลาย่างมาอย่างดีใจ แล้วกินทีละคำโตๆแม้ปลาย่างนี้จะไม่ได้ใส่เกลือ แต่กินแล้วก็ยังสดใหม่มากฮูหยินใหญ่มองเจี่ยนอันอันด้วยแววตานิยมชมเชยอย่างยิ่งเมื่อครู่ตอนฉู่อันเจ๋อแบกทหารรักษาพระองค์ที่ถูกงูกัดกลับมา นางก็ถามฉู่อันเจ๋อแล้วว่าเกิดอะไรขึ้นฉู่อันเจ๋อจึงเล่าเรื่องราวทั้งหมดให้ฮูหยินใหญ่ฟังฮูหยินใหญ่ได้ยินแล้วก็อึ้งไปนางคิดไม่ถึงเลยว่าเจี่ยนอันอันจะฉลาดเกินคนเช่นนี้เจี่ยนอันอันไม่เพียงวางแผนสังหารหัวหน้าทหารรักษาพระองค์ที่ยโสโอหังผู้นั้นนางยังสามารถทำให้ทหารรักษาพระองค์คนอื่นๆ ไม่กล้าแคลงใจในตัวนางอีกด้วยน่าเสียดายที่นางเป็นสตรีผู้หนึ่ง หากเป็นบุรุษ ในอนาคตนางจะต้องเป็นผู้ปกครองที่ดีได้อย่างแน่นอนฉู่อันเจ๋อเล่าเรื่องราวให้ฮูหยินใหญ่ฟังเสร็จก็วิ่งไปหาฉู่จวินสิงกับฉู่จวินหลุน บอกเล่าเรื่องนี้ต่อพวกเขาฉู่จวินสิงที่เดิมทียังเข้าใจเจี่ยนอันอันผิด หลังจากฟังเรื่องราวทั้งหมดแล้ว ในใจก็บังเกิดระลอกบางอย่างที่ต่างไปจากเดิมจนกระทั่งเขาเห็นเจี่ยนอันอันประคองหานซื่อกลับมา แล้วเห

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาอ๋องผู้ถูกเนรเทศ   บทที่ 39

    ทุกคนเข้าไปในเมืองเฉาซานแล้ว หานซื่อก็ตั้งใจว่าจะหาโรงเตี๊ยมสักแห่งให้ทุกคนพักผ่อนสักคืนแล้วค่อยเดินทางต่อทหารรักษาพระองค์ที่ถูกงูกัดผู้นั้นได้สติคืนมานานแล้วเขาพบว่าตนเองนอนอยู่บนหลังม้า และรู้จากทหารรักษาพระองค์คนอื่นว่าอดีตหัวหน้าตายแล้วพวกเขาสนับสนุนให้หานซื่อเป็นหัวหน้าคนใหม่ของพวกตนเห็นหานซื่อหัวหน้าคนใหม่เดินนำทางอยู่ข้างหน้า เขาก็รู้สึกเกรงใจยิ่งนักจึงจะลงมาจากบนหลังม้าหานซื่อได้ยินเสียงความเคลื่อนไหวก็หันกลับมาพูดว่า “เจ้านอนบนหลังม้าไปเถอะ รอพวกเราหาโรงเตี๊ยมได้แล้วค่อยพักผ่อนดีๆ สักคืน”ทหารรักษาพระองค์ผู้นั้นพยักหน้าอย่างเกรงอกเกรงใจ หมอบลงไปบนหลังม้าตามเดิมเจี่ยนอันอันเดินเข้ามามอบยาถอนพิษให้ทหารรักษาพระองค์ผู้นั้นกินอีกเม็ดรอให้ผ่านไปอีกหนึ่งชั่วยาม พิษในร่างกายเขาก็นับว่ากำจัดออกหมดสิ้นแล้วเดิมนั้นนักโทษเนรเทศไม่สามารถเดินทางบนทางหลวงได้ ทำได้แค่เดินทางอ้อมไปเมืองอินเป่ยแต่หานซื่อเห็นแก่บุญคุณของเจี่ยนอันอัน เขาจึงตัดสินใจไม่ทำตามธรรมเนียม แต่เปลี่ยนไปเดินทางบนทางหลวงขณะที่เมืองเฉาซานแห่งนี้คือเส้นทางที่จำเป็นต้องผ่านเพื่อไปยังเมืองอินเป่ยอย่างไรเส

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาอ๋องผู้ถูกเนรเทศ   บทที่ 40

    ฉู่จื่อซีเงียบมากจริงๆ เจี่ยนอันอันจึงไม่เคยสังเกตเขาอย่างจริงๆ จังๆสายฟ้าสว่างวาบอีกครา ทำให้ใบหน้าของฉู่จื่อซีชัดเจนขึ้นมาเจี่ยนอันอันค่อยสังเกตว่าสีหน้าของฉู่จื่อซีไม่สู้ดีนัก ค่อนข้างจะหมองคล้ำนางนั่งยองลงมากุมมือฉู่จื่อซีพลางเอ่ย “จื่อซีเด็กดี ให้ข้าจับชีพจรหน่อยได้หรือไม่?”ฉู่จื่อซีหันหน้าไปมองฟางอิ๋งมารดาของตนเองฟางอิ๋งพยักหน้าให้เขา ฉู่จื่อซีค่อยยื่นมือน้อยออกมาข้างหนึ่งเจี่ยนอันอันแย้มยิ้มให้ฉู่จื่อซี คิดในใจว่าเด็กคนนี้ว่าง่ายดีจริงๆนางเริ่มจับชีพจรให้ฉู่จื่อซีครั้นได้จับชีพจร คิ้วของเจี่ยนอันอันก็ขมวดแน่นขึ้นทุกทีใบหน้าที่เดิมทียิ้มแย้มก็เปลี่ยนเป็นเคร่งขรึมฟางอิ๋งเห็นเช่นนั้นก็รีบถามว่า “เป็นอะไรไป ร่างกายจื่อซีลูกข้ามีปัญหาหรือ?”คำพูดของนางดึงดูดความสนใจของญาติคนอื่นๆฉู่จวินสิงก็มองมาทางนี้ด้วยเช่นกันฉู่จวินหลุนหมุนล้อรถเข็นตรงมาทางนี้เจี่ยนอันอันวางมือฉู่จื่อซีลง เอ่ยด้วยสีหน้าจริงจัง “มีปัญหาจริงๆ”คำพูดของนางทำให้จิตใจฟางอิ๋งเขม็งเกลียวขึ้นมา“ลูกข้าป่วยเป็นอะไรหรือ?” ฟางอิ๋งรีบร้อนถามนางประจักษ์ในความสามารถของเจี่ยนอันอันแล้ว ทราบว่าอีกฝ

Latest chapter

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาอ๋องผู้ถูกเนรเทศ   บทที่ 650

    จนกระทั่งม้าที่เจี่ยนอันอันขี่อยู่ได้กลิ่นควันของกระดาษเงินกระดาษทองที่กำลังเผา มันอดไม่ได้ที่จะจามออกมาเสียงดังชายหนุ่มพลันคว้ากระบี่ข้างกายขึ้นมาด้วยสีหน้าตื่นตัว หันมองไปยังเบื้องหลังทว่าไม่มีผู้ใดเลยแม้แต่คนเดียว ในศาลบรรพชนแห่งนี้ นอกจากเขาแล้วก็ไม่มีแม้แต่เงาของผู้ใดชายหนุ่มลอบถอนหายใจด้วยความโล่งอก อย่างน้อยก็ไม่มีทหารที่ถูกส่งมาไล่ล่าทว่าในตอนที่เขาหันหน้ามานั้น เจี่ยนอันอันกลับต้องสะดุ้งในใจเมื่อได้เห็นใบหน้าของเขาครึ่งหนึ่งบนใบหน้าของชายหนุ่ม ผิวหนังส่วนหนึ่งหลอมละลายจนติดกันบางจุดยังมีน้ำหนองไหลออกมา ดูน่าสะพรึงกลัวยิ่งนักเจี่ยนอันอันคิดในใจว่า ชายผู้นี้คงเคยถูกไฟคลอกมาก่อน และไม่ได้รับการรักษาอย่างทันทวงทีเขาคุกเข่าอยู่ในศาลบรรพชนด้วยใบหน้าเช่นนี้ เกรงว่าหากบิดามารดาในโลงศพของเขาได้เห็นเข้าก็คงจะตกใจจนสะดุ้งลุกขึ้นมาเป็นแน่เมื่อฉู่จวินสิงเห็นใบหน้าของชายผู้นี้ คิ้วของเขาขมวดเข้าหากันแน่นกว่าเดิมบัดนี้ ฉู่จวินสิงและเจี่ยนอันอันยังคงอยู่ในสภาวะล่องหนทำให้ชายหนุ่มไม่อาจล่วงรู้ถึงการมาของพวกเขา“เหตุใดจึงเป็นเขา?” ฉู่จวินสิงเผลอพึมพำออกมาเจี่ยนอันอันมอง

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาอ๋องผู้ถูกเนรเทศ   บทที่ 649

    ฉู่จวินสิงเอ่ยว่า “พวกเขามีนามว่าหม่าลู่ เฉินเช่อ เจียงหลิว ลู่ซาน และหลิ่วหยวน”เจี่ยนอันอันจดจำชื่อของทั้งห้าคนไว้ในใจนางให้ฉู่จวินสิงจับบังเหียนม้าให้แน่น เช่นนี้แล้วพวกเขาจะได้เคลื่อนย้ายในชั่วพริบตาไปถึงจุดหมายพร้อมกับม้าที่ขี่อยู่ได้ทั้งสองตั้งจิตแน่วแน่ นึกถึงชื่อของเหล่าทหารใต้บัญชาพวกนั้น ในชั่วพริบตาพวกเขาก็อันตรธานหายไปจากที่เดิมเมื่อปรากฏกายขึ้นอีกครา ก็พบว่าตนมาอยู่ในหมู่บ้านแห่งหนึ่งบ้านเรือนโดยรอบล้วนปิดประตูสนิท ไม่อาจรู้ได้ว่าคนที่พวกเขาตามหาจะอยู่ที่นี่หรือไม่เจี่ยนอันอันกระตุกมุมปากเล็กน้อย คิดในใจว่าคุณสมบัติของยาเคลื่อนย้ายในชั่วพริบตาว่ายังไม่สมบูรณ์พอเห็นทีว่าจะเป็นเพราะเมื่อตอนนางหลอมยา นางรีบร้อนเกินไป หากมีเวลาเพิ่มอีกสักหน่อย นางคงจะหลอมยาเคลื่อนย้ายในชั่วพริบตาที่สมบูรณ์แบบกว่านี้ได้บัดนี้ต้องหาทางพัฒนาประสิทธิภาพของยาให้มากขึ้น มิฉะนั้น หากต้องใช้การเคลื่อนย้ายในชั่วพริบตาอีกครั้ง ก็ไม่รู้เลยว่าจะถูกส่งไปยังที่ใดอีกแต่ตอนนี้ควรทำอย่างไรดี หรือจะให้พวกเขาเดินเคาะประตูไปทีละบ้าน ถามชาวบ้านว่ามีผู้ใดพบเห็นคนที่พวกเขาตามหาบ้างหรือไม่กระนั้นหรือ

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาอ๋องผู้ถูกเนรเทศ   บทที่ 648

    เจี่ยนอันอันไม่เคยบอกฉู่จวินสิงเกี่ยวกับภารกิจของมิตินางจึงแต่งเรื่องโกหกขึ้นมา “ข้าไม่เคยแปลงโฉมมาก่อน พอได้คิดว่ากลับไปถึงเมืองจิงโจวแล้วจะได้ลองดูแปลงโฉมดู ข้าก็ตื่นเต้นขึ้นมา”คิ้วของฉู่จวินสิงที่ขมวดมุ่นอยู่ก่อนหน้านี้ ค่อย ๆ คลายลงเล็กน้อยสำหรับเขาวิชาแปลงโฉมง่ายดายไม่ต่างจากการกินข้าวแต่สำหรับเจี่ยนอันอัน กลับเป็นสิ่งแปลกใหม่และน่าตื่นเต้น“ในโลกของเจ้า ไม่มีผู้ใดที่รู้วิชาแปลงโฉมหรือ?”ฉู่จวินสิงพลันรู้สึกสงสัย โลกของเจี่ยนอันอันเป็นเช่นไรกันแน่?เจี่ยนอันอันส่ายศีรษะเบา ๆ “วิชาแปลงโฉมข้าเคยเห็นแค่ในละครเท่านั้น แต่ก็เป็นของปลอม”“ศาสตร์แปลงโฉมที่แท้จริง สูญหายไปนานแล้ว”เจี่ยนอันอันกล่าวถึงตรงนี้ ก็นึกถึงการแสดงเปลี่ยนหน้ากากเสฉวนขึ้นมาได้นางอดไม่ได้ที่จะเอ่ยชมขึ้นว่า “แต่ในโลกของข้าก็มีศาสตร์แปลกใหม่เช่นกัน เรียกว่าวิชาเปลี่ยนหน้า”ฉู่จวินสิงเกิดความสนใจขึ้นมาทันที เขาอยากรู้ว่าวิชาเปลี่ยนหน้าที่นางพูดถึง จะเหมือนกับวิชาแปลงโฉมของเขาหรือไม่เขาไม่ได้ถามออกมา เพียงรอให้เจี่ยนอันอันเล่าต่อไปเองเจี่ยนอันอันกล่าวต่อด้วยความตื่นเต้นว่า “วิชาเปลี่ยนหน้าของพวกเราก็

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาอ๋องผู้ถูกเนรเทศ   บทที่ 647

    ฉู่จวินสิงถือหน้ากากหนังมนุษย์สองผืนไว้ในมือ ก่อนยิ้มบาง ๆ “พวกเราปลอมตัวเป็นพวกมันแล้วกลับเข้าเมืองจิงโจวกันเถิด”เจี่ยนอันอันมองดูหน้ากากหนังมนุษย์ทั้งสองแผ่น แล้วเข้าใจถึงจุดประสงค์ของฉู่จวินสิงทันทีนางเคยเห็นในละครหรืออ่านในนิยายว่า มีคนในยุคโบราณไม่น้อยที่เชี่ยวชาญวิชาแปลงโฉมนางไม่คาดคิดเลยว่าฉู่จวินสิงก็มีความสามารถด้านการแปลงโฉมนี่เป็นศาสตร์ที่นางหลงใหลมาโดยตลอดสายตาของเจี่ยนอันอันที่มองฉู่จวินสิง เปล่งประกายไปด้วยความชื่มชมฉู่จวินสิงจัดเก็บหน้ากากหนังมนุษย์อย่างระมัดระวัง แล้วส่งให้เจี่ยนอันอัน ให้นางช่วยเก็บไว้ในมิติก่อนเจี่ยนอันอันรับหน้ากากหนังมนุษย์มาเก็บเข้าไปในมิติ หลังล้างทำความสะอาดแล้วก็นำไปแช่ในน้ำพุวิญญาณ“แล้วจากนี้พวกเราควรทำเช่นไรต่อ?”“ในเมื่อจะปลอมตัวเป็นอิ่นเจียงกับหน่วยกล้าตายเพื่อแฝงตัวเข้าไปในเมืองจิงโจว ก็ไม่ควรกลับไปเร็วเกินไปนัก”“พวกเราจะขี่ม้าไปอย่างช้า ๆ เมื่อใกล้ถึงเมืองจิงโจว ข้าจะช่วยเจ้าแปลงโฉมเอง”ฉู่จวินสิงเอ่ยพลางเดินไปเลือกม้าที่ดีที่สุดสองตัวเขาถอดอานม้าที่เหลืออีกสี่ตัวออก ก่อนจะฟาดลงบนบั้นท้ายของพวกมันอย่างแรงม้าทั้งสี่ร

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาอ๋องผู้ถูกเนรเทศ   บทที่ 646

    เขาพยายามเพ่งมองใบหน้าของเจี่ยนอันอันให้ชัดเจน ทว่าโลหิตทำให้ดวงตาพร่ามัวจนเขามองอะไรไม่ชัดเลยมองเห็นแค่ร่างหญิงสาวบอบบางผู้หนึ่งยืนอยู่ตรงหน้าเขาเสียงของเจี่ยนอันอันไพเราะเสนาะหู ทว่าคำที่นางพูดออกมากลับทำให้ผู้คนขนลุกไปถึงปลายเท้า“ท่านพี่ ท่านลงมือถลกหนังหน้าเขาแล้ว ข้าว่าถลกหนังมันทั้งตัวไปเลยดีหรือไม่”“ข้าไม่เคยเห็นการถลกหนังคนทั้งเป็นมาก่อน คิดดูแล้วน่าตื่นเต้นไม่น้อย”หน่วยกล้าตายได้ยินก็รู้สึกขนลุกทันที สตรีผู้นี้เหตุใดจึงโหดเหี้ยมถึงเพียงนี้นางยังเป็นสตรีอยู่หรือไม่?หน่วยกล้าตายกัดฟันแน่น ดวงตาสีเลือดซึ่งไร้เปลือกตาจ้องเขม็งไปที่เจี่ยนอันอันด้วยแรงอาฆาตฉู่จวินสิงกระชับวงแขนที่โอบรัดเอวของเจี่ยนอันอันแน่นขึ้น หญิงสาวผู้นี้ช่างกล้าพูดเสียจริงเจี่ยนอันอันหันมายิ้มกว้างให้ฉู่จวินสิงแล้วกล่าวว่า “ข้าพูดเล่นเท่านั้น การถลกหนังทั้งเป็นมันนองเลือดเกินไป ข้ากลัวว่าเห็นมากเกินไปแล้วจะฝันร้ายเอาได้”หน่วยกล้าตายที่ได้ยินเช่นนั้นแอบถอนหายใจโล่งอกบัดนี้เขาเพียงหวังให้ตนตายอย่างรวดเร็ว ไม่อยากทนรับความเจ็บปวดอันแสนทรมานนี้อีกต่อไปเจี่ยนอันอันมองดูสภาพของหน่วยกล้าตายที่ก

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาอ๋องผู้ถูกเนรเทศ   บทที่ 645

    “เรื่องที่เจ้าพูดมาพวกนี้ ข้าคาดเดาได้แต่แรกแล้ว”คำพูดของฉู่จวินสิงทำให้หัวใจอิ่นเจียงพลันกระตุกวูบนี่หมายความว่าข้อมูลที่เขาให้ไปยังไม่สามารถทำให้ฉู่จวินสิงพอใจได้น่ะสิ?อิ่นเจียงเค้นสมองคิดหาวิธีเอาชีวิตรอดแต่แม้เขาจะเป็นคนของฉู่ชางเหยียน แต่เรื่องที่รู้กลับมีไม่มากนักหากไม่ใช่เพราะฉู่ชางเหยียนส่งพวกเขามาสังหารครอบครัวฉู่จวินสิงที่เมืองอินเป่ย เกรงว่าเขาก็คงไม่รู้เรื่องนี้ละเอียดเช่นนี้เหมือนกันฉู่จวินสิงมองอิ่นเจียงด้วยสีหน้าเย็นชา “ถ้าเจ้าไม่มีข้อมูลอย่างอื่นอีก ข้าจะลงมือแล้วนะ”ฉู่จวินสิงว่าพลาง มีดสั้นในมือก็แทงมายังใบหน้าอิ่นเจียงอีกครั้งอิ่นเจียงตกใจจนหัวใจแทบกระดอนออกมาจากคอหอยในที่สุดเขาก็นึกถึงความลับที่สำคัญกว่านั้นขึ้นมาได้จึงโพล่งออกมาว่า “เยียนอ๋องโปรดไว้ชีวิตด้วย ข้ายังรู้อีกเรื่อง”ฉู่จวินสิงหยุดมือ มองอิ่นเจียงด้วยสายตาเย็นเฉียบ รอให้อีกฝ่ายพูดต่อไปอิ่นเจียงรีบพูดออกมาว่า “หลังจากรัชทายาทถูกทำลายวรยุทธ์ก็ถูกคุมขังอยู่ในคุกหลวง”“แต่ครึ่งเดือนก่อน อยู่ดีๆ รัชทายาทก็เสียสติ บัดเดี๋ยวร้องไห้บัดเดี๋ยวหัวเราะอยู่ในคุกหลวงทั้งวัน ทั้งยังใช้ศีรษะโขกกำแพง

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาอ๋องผู้ถูกเนรเทศ   บทที่ 644

    มือฉู่จวินสิงหยุดชะงัก อิ่นเจียงเข้าใจว่าฉู่จวินสิงถูกเขาโน้มน้าวได้แล้วเขารีบคุกเข่าลงตรงหน้าฉู่จวินสิง โขกศีรษะอย่างหนักหน่วงสามครั้งเลือดสดๆ ไหลลงมาตามปากแผล หยดลงบนสาบเสื้อ“ขอเพียงเยียนอ๋องยอมละเว้นข้า ข้าจะบอกความลับทุกอย่างต่อเยียนอ๋อง”อิ่นเจียงโขกศีรษะพลางพร่ำพูดอ้อนวอนฉู่จวินสิงไม่ได้คิดจะเถือหนังหน้าอิ่นเจียงเร็วปานนั้นเขารู้ว่าอิ่นเจียงอยู่ข้างกายฉู่ชางเหยียนมานานปีย่อมรู้ความลับเกี่ยวกับฉู่ชางเหยียนมากมายหลายเรื่องเขาจะรอจนอิ่นเจียงบอกความลับทั้งหมดออกมาแล้วค่อยเถือหนังหน้าของอีกฝ่ายฉู่จวินสิงกล่าวด้วยสีหน้าบึ้งตึง “ทางที่ดีเจ้าจงบอกข้ามาทั้งหมด ไม่อย่างนั้นเจ้าก็รู้ฝีมือข้าดี”คราวนี้อิ่นเจียงไม่กล้าปิดบังอีกแล้ว บอกแผนการของฉู่ชางเหยียนออกมาจนหมดเมื่อหนึ่งเดือนก่อน ทหารรักษาพระองค์ที่ควบคุมครอบครัวฉู่จวินสิงมาแดนเนรเทศกลับไปถึงเมืองจิงโจวฉู่ชางเหยียนรู้จากปากหานซื่อว่า ที่แท้หัวหน้าทหารรักษาพระองค์ถูกหมีดำกัดตายระหว่างทางส่งตัวนักโทษเนรเทศพวกเขายังได้รับบาดเจ็บไม่น้อยเพราะเหตุนี้ ส่วนฉู่จวินสิงเสียชีวิตกะทันหันระหว่างทางฉู่ชางเหยียนพอใจอย่างมาก ตกร

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาอ๋องผู้ถูกเนรเทศ   บทที่ 643

    อิ่นเจียงเบิกตามองหนังหน้าของหน่วยกล้าตายผู้นั้นถูกฉู่จวินสิงเถือออกมาหัวใจเขาเต้นกระหน่ำกล่าวกันว่าเยียนอ๋องโหดเหี้ยมอำมหิต ปฏิบัติต่อศัตรูโดยไม่เลือกวิธีการแต่การได้มาเห็นภาพนี้ด้วยตาตัวเองทำให้หนังศีรษะของอิ่นเจียงชาหนึบเจี่ยนอันอันที่ยืนอยู่บนต้นไม้เห็นภาพตรงหน้าแล้วก็ต้องนึกเลื่อมใสฉู่จวินสิงในใจนี่เป็นครั้งแรกที่นางได้เห็นด้านที่โหดร้ายเช่นนี้ของฉู่จวินสิงคิดไม่ถึงว่าพอฉู่จวินสิงจะโหดขึ้นมา เทียบกับนางแล้วยังโหดกว่าเสียอีกฉู่จวินสิงถือหนังหน้าที่สมบูรณ์ดีแผ่นนั้นพลางก้าวยาวๆ มาทางอิ่นเจียงอิ่นเจียงตกใจถอยหลังกรูด เขากล่าวอย่างลนลานว่า “เจ้าจะทำอะไร เจ้าอย่าเข้ามานะ”ฉู่จวินสิงไม่มีทีท่าว่าจะหยุดชะงักฝีเท้าแม้แต่น้อย เขาเดินมาถึงตรงหน้าอิ่นเจียง ก้มตัวลงจ้องมองอีกฝ่าย“ถ้าเจ้ายังไม่พูดความจริงอีกก็จะมีจุดจบเหมือนเขา”อิ่นเจียงมองหน่วยกล้าตายที่ถูกถลกหนังหน้าพร้อมกับรู้สึกหนังศีรษะชาวาบลักษณะที่เลือดเนื้อเลอะเลือนแบบนั้น ถึงจะเป็นอิ่นเจียงที่โหดเหี้ยมอำมหิตก็ยังหวาดกลัวจนทำใจมองตรงๆ ไม่ลงหน่วยกล้าตายอีกสามคนเห็นอย่างนั้นก็ล้วนตกใจกลัวจนตัวสั่นความตายหาได้น่

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาอ๋องผู้ถูกเนรเทศ   บทที่ 642

    ฉู่จวินสิงหยิบกระบี่บนพื้นขึ้นมาแล้วก้าวเท้ายาวๆ ตรงมาหาอิ่นเจียงอิ่นเจียงกัดฟันตวาดว่า “ฉู่จวินสิง เจ้าฆ่าข้าไม่ได้ ไม่อย่างนั้นถ้าฝ่าบาททรงทราบจะต้องไม่ปล่อยเจ้ากับครอบครัวเจ้าไปแน่!”ฉู่จวินสิงหัวเราะเสียงเย็น กระบี่ในมือชี้ไปยังใบหน้าอิ่นเจียง“เจ้าคิดว่าฉู่ชางเหยียนจะรู้ว่าเจ้าถูกข้าสังหารงั้นรึ?”“อย่าลืมสิว่าตอนที่เจ้าทรมานข้า ในสายตาฉู่ชางเหยียน ข้าเป็นคนที่ใกล้จะตายแล้ว”อิ่นเจียงถูกคำพูดของฉู่จวินสิงทำให้โมโหจนกระอักเลือดออกมาคำหนึ่งฉู่จวินสิงพูดถูก ตอนนั้นเขาถูกทรมานจนเหลือแค่ลมหายใจสุดท้ายประกอบกับความลำบากตรากตรำจากการเดินทาง หากพิจารณาจากสภาพของฉู่จวินสิงในยามนั้น เกรงว่าคงตายไปตั้งแต่ระหว่างทางแล้วส่วนที่เขานำหน่วยกล้าตายมาเมืองอินเป่ยในครั้งนี้ก็เป็นคำสั่งของฉู่ชางเหยียนฉู่ชางเหยียนให้พวกเขามาที่เมืองอินเป่ยอย่างลับๆ เพื่อสังหารครอบครัวฉู่จวินสิงฉู่ชางเหยียนไม่คิดจะปล่อยให้ครอบครัวของฉู่จวินสิงรอดไปแม้แต่คนเดียวอยู่แล้ว แต่เขาไม่อยากถูกครหาว่าสังหารพี่น้องร่วมสายเลือดตั้งแต่เพิ่งขึ้นครองราชย์ครอบครัวฉู่จวินสิงถูกเนรเทศมาที่เมืองอินเป่ยนานปานนี้ ต่อให้พ

Scan code to read on App
DMCA.com Protection Status