Share

บทที่ 35

Author: ซินต้งหรูสุ่ย
last update Last Updated: 2024-10-29 19:42:56
ตอนหัวหน้าจากไปพร้อมกับเจี่ยนอันอัน หานซื่อมองเห็นความกระสันในแววตาของเขา

ตอนนั้นหานซื่อก็เดาได้แล้วว่าหัวหน้าคงปรารถนาในความงามของเจี่ยนอันอัน

หัวหน้าคงคิดจะพาเจี่ยนอันอันมาที่นี่เพื่อขืนใจนาง

เห็นหานซื่อไม่พูดไม่จา เจี่ยนอันอันก็แค่นเสียงเย็นชาทีหนึ่ง

นางกล่าวต่อว่า “จากที่เจ้าพูด ข้ายังต้องนำยาถอนพิษมาช่วยคนที่คิดจะทำมิดีมิร้ายข้าด้วยงั้นหรือ?”

วาจาของเจี่ยนอันอันทำให้ทหารรักษาพระองค์บริเวณนั้นมองไปทางหัวหน้าที่สิ้นลมไปนานแล้วเป็นตาเดียว

มือที่กุมด้ามกระบี่ของพวกเขาก็ปล่อยลงมาด้วยเช่นกัน

ถึงหานซื่อจะสนิทสนมกับหัวหน้า แต่เขาก็รู้ว่าการข่มขืนนักโทษเนรเทศคนหนึ่งเป็นเรื่องไร้ยางอายมากเพียงใด

นับประสาอะไรกับที่เขายังเคยเกลี้ยกล่อมหัวหน้าว่าอย่ามัวเมาในนารี

แต่หัวหน้าไม่เคยฟังคำแนะนำของเขา

ตอนนี้เป็นอย่างไรเล่า หัวหน้าได้รับผลจากการกระทำของตัวเองจนตัวตายเพราะพิษงู

ส่วนทหารรักษาพระองค์ที่ควบคุมนักโทษเนรเทศมาอย่างพวกเขาก็พลอยสูญเสียผู้นำไปด้วย

ทหารรักษาพระองค์เหล่านั้นตกลงสู่ความสับสนกระวนกระวายใจอีกครา

ทุกคนถกกันขึ้นมาอีกครั้งว่า

“หัวหน้าตายแล้ว ต่อจากนี้พวกเราจะทำอย่างไรดี?”
Locked Chapter
Continue to read this book on the APP

Related chapters

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาอ๋องผู้ถูกเนรเทศ   บทที่ 36

    เจี่ยนอันอันถาม “เจ้ามีนามว่าอะไร เป็นทหารรักษาพระองค์มากี่ปีแล้ว?”หานซื่ออึ้งไป แต่เขายังคงตอบตามความจริง “ข้ามีนามว่าหานซื่อ เป็นทหารรักษาพระองค์มาได้เจ็ดปีแล้ว”เจี่ยนอันอันพยักหน้า ในใจใคร่ครวญแผนการหนึ่งขึ้นมาได้นางเอ่ยกับหานซื่อว่า “ข้ารู้สึกว่าเจ้าเป็นคนซื่อสัตย์เที่ยงธรรม ก่อนหน้านี้เจ้ายังเคยให้น้ำข้ามาสองถุง เพื่อตอบแทนเจ้า ข้าคิดจะเสนอเจ้าเป็นหัวหน้าทหารรักษาพระองค์”หานซื่อได้ยินอย่างนั้นก็นิ่งอึ้งอยู่กับที่“เจ้าพูดล้อเล่นกับข้างั้นรึ เจ้าจะเสนอให้ข้าเป็นหัวหน้าทหารรักษาพระองค์?”ตำแหน่งหัวหน้าทหารรักษาพระองค์มีแต่ต้องให้ทหารรักษาพระองค์ด้วยกันคัดเลือกมาเท่านั้นนางซึ่งเป็นนักโทษที่ถูกเนรเทศคนหนึ่ง มีสิทธิ์อะไรมาเสนอเขาเป็นหัวหน้าทหารรักษาพระองค์เจี่ยนอันอันมองหานซื่อพลางเอ่ยด้วยสีหน้าจริงจัง “หากข้าบอกว่าข้ามีความสามารถพอที่จะเสนอชื่อเจ้าเป็นหัวหน้าทหารรักษาพระองค์เล่า วันหน้าเจ้าจะตอบแทนข้าอย่างไร?”หานซื่อก้มหน้า หลังนิ่งเงียบไปครู่หนึ่งก็ตอบว่า “หากข้าได้เป็นหัวหน้าทหารรักษาพระองค์จริงๆ ต่อไปหากมีอะไรเรียกใช้ข้า ข้าย่อมจะช่วยเหลือโดยไม่อิดออด”เจี่ยนอันอัน

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาอ๋องผู้ถูกเนรเทศ   บทที่ 37

    ผ่านไปไม่นาน น้ำร้อนก็ถูกยกมาเจี่ยนอันอันนำยาถอนพิษมาละลายในน้ำนางฉีกผ้าจากบนร่างทหารรักษาพระองค์ผู้นั้นมาชิ้นหนึ่ง จุ่มจนชุ่มแล้วนำมาเช็ดปากแผลให้เขาเมื่อผ้าชุบน้ำยาเช็ดไปบนปากแผล ปากแผลก็มีฟองสีขาวฟอดขึ้นมาทันทีหลังฟองสีขาวหายไป ปากแผลก็เปลี่ยนเป็นซีดขาว กระดูกโผล่มาให้เห็นทหารรักษาพระองค์คนอื่นๆ เห็นดังนั้นก็อดจะสูดลมหายใจอย่างหนาวเหน็บไม่ได้พวกเขามุงอยู่รอบๆ มองดูเจี่ยนอันอันช่วยรักษาสหายของพวกตนหานซื่อก็นั่งอยู่ข้างๆ คอยมองเจี่ยนอันอันตาไม่กะพริบน้ำในอ่างเปลี่ยนเป็นน้ำเลือดสีดำอย่างรวดเร็วหลังเจี่ยนอันอันโยนเศษผ้าชิ้นนั้นทิ้งไปแล้ว ก็โรยผงยาใส่ปากแผลอีกครั้งนางเงยหน้าขึ้นกล่าวกับทหารรักษาพระองค์เหล่านั้น “ใครมีผ้าสำหรับพันแผลบ้าง?”ในไม่ช้าก็มีทหารรักษาพระองค์คนหนึ่งนำผ้าป่านสีขาวมาส่งให้เจี่ยนอันอันเจี่ยนอันอันพันแผลให้ทหารรักษาพระองค์ที่ถูกงูกัดผู้นั้นเสร็จ นางก็ให้เขากินยาถอนพิษหนึ่งเม็ดกินยาถอนพิษติดต่อกันสองเม็ด บวกกับกรีดเนื้อเน่าที่มีพิษทิ้งให้เขาชีวิตของทหารรักษาพระองค์ผู้นี้ก็นับว่ารักษาไว้ได้แล้วเจี่ยนอันอันลุกขึ้นยืน กล่าวกับทุกคนว่า “อีกหนึ

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาอ๋องผู้ถูกเนรเทศ   บทที่ 38

    ฮูหยินใหญ่หยิบปลาที่ย่างเสร็จแล้วส่งมาให้เจี่ยนอันอัน“หิวแย่แล้วสินะ รีบกินปลาเถิด”เจี่ยนอันอันรับปลาย่างมาอย่างดีใจ แล้วกินทีละคำโตๆแม้ปลาย่างนี้จะไม่ได้ใส่เกลือ แต่กินแล้วก็ยังสดใหม่มากฮูหยินใหญ่มองเจี่ยนอันอันด้วยแววตานิยมชมเชยอย่างยิ่งเมื่อครู่ตอนฉู่อันเจ๋อแบกทหารรักษาพระองค์ที่ถูกงูกัดกลับมา นางก็ถามฉู่อันเจ๋อแล้วว่าเกิดอะไรขึ้นฉู่อันเจ๋อจึงเล่าเรื่องราวทั้งหมดให้ฮูหยินใหญ่ฟังฮูหยินใหญ่ได้ยินแล้วก็อึ้งไปนางคิดไม่ถึงเลยว่าเจี่ยนอันอันจะฉลาดเกินคนเช่นนี้เจี่ยนอันอันไม่เพียงวางแผนสังหารหัวหน้าทหารรักษาพระองค์ที่ยโสโอหังผู้นั้นนางยังสามารถทำให้ทหารรักษาพระองค์คนอื่นๆ ไม่กล้าแคลงใจในตัวนางอีกด้วยน่าเสียดายที่นางเป็นสตรีผู้หนึ่ง หากเป็นบุรุษ ในอนาคตนางจะต้องเป็นผู้ปกครองที่ดีได้อย่างแน่นอนฉู่อันเจ๋อเล่าเรื่องราวให้ฮูหยินใหญ่ฟังเสร็จก็วิ่งไปหาฉู่จวินสิงกับฉู่จวินหลุน บอกเล่าเรื่องนี้ต่อพวกเขาฉู่จวินสิงที่เดิมทียังเข้าใจเจี่ยนอันอันผิด หลังจากฟังเรื่องราวทั้งหมดแล้ว ในใจก็บังเกิดระลอกบางอย่างที่ต่างไปจากเดิมจนกระทั่งเขาเห็นเจี่ยนอันอันประคองหานซื่อกลับมา แล้วเห

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาอ๋องผู้ถูกเนรเทศ   บทที่ 39

    ทุกคนเข้าไปในเมืองเฉาซานแล้ว หานซื่อก็ตั้งใจว่าจะหาโรงเตี๊ยมสักแห่งให้ทุกคนพักผ่อนสักคืนแล้วค่อยเดินทางต่อทหารรักษาพระองค์ที่ถูกงูกัดผู้นั้นได้สติคืนมานานแล้วเขาพบว่าตนเองนอนอยู่บนหลังม้า และรู้จากทหารรักษาพระองค์คนอื่นว่าอดีตหัวหน้าตายแล้วพวกเขาสนับสนุนให้หานซื่อเป็นหัวหน้าคนใหม่ของพวกตนเห็นหานซื่อหัวหน้าคนใหม่เดินนำทางอยู่ข้างหน้า เขาก็รู้สึกเกรงใจยิ่งนักจึงจะลงมาจากบนหลังม้าหานซื่อได้ยินเสียงความเคลื่อนไหวก็หันกลับมาพูดว่า “เจ้านอนบนหลังม้าไปเถอะ รอพวกเราหาโรงเตี๊ยมได้แล้วค่อยพักผ่อนดีๆ สักคืน”ทหารรักษาพระองค์ผู้นั้นพยักหน้าอย่างเกรงอกเกรงใจ หมอบลงไปบนหลังม้าตามเดิมเจี่ยนอันอันเดินเข้ามามอบยาถอนพิษให้ทหารรักษาพระองค์ผู้นั้นกินอีกเม็ดรอให้ผ่านไปอีกหนึ่งชั่วยาม พิษในร่างกายเขาก็นับว่ากำจัดออกหมดสิ้นแล้วเดิมนั้นนักโทษเนรเทศไม่สามารถเดินทางบนทางหลวงได้ ทำได้แค่เดินทางอ้อมไปเมืองอินเป่ยแต่หานซื่อเห็นแก่บุญคุณของเจี่ยนอันอัน เขาจึงตัดสินใจไม่ทำตามธรรมเนียม แต่เปลี่ยนไปเดินทางบนทางหลวงขณะที่เมืองเฉาซานแห่งนี้คือเส้นทางที่จำเป็นต้องผ่านเพื่อไปยังเมืองอินเป่ยอย่างไรเส

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาอ๋องผู้ถูกเนรเทศ   บทที่ 40

    ฉู่จื่อซีเงียบมากจริงๆ เจี่ยนอันอันจึงไม่เคยสังเกตเขาอย่างจริงๆ จังๆสายฟ้าสว่างวาบอีกครา ทำให้ใบหน้าของฉู่จื่อซีชัดเจนขึ้นมาเจี่ยนอันอันค่อยสังเกตว่าสีหน้าของฉู่จื่อซีไม่สู้ดีนัก ค่อนข้างจะหมองคล้ำนางนั่งยองลงมากุมมือฉู่จื่อซีพลางเอ่ย “จื่อซีเด็กดี ให้ข้าจับชีพจรหน่อยได้หรือไม่?”ฉู่จื่อซีหันหน้าไปมองฟางอิ๋งมารดาของตนเองฟางอิ๋งพยักหน้าให้เขา ฉู่จื่อซีค่อยยื่นมือน้อยออกมาข้างหนึ่งเจี่ยนอันอันแย้มยิ้มให้ฉู่จื่อซี คิดในใจว่าเด็กคนนี้ว่าง่ายดีจริงๆนางเริ่มจับชีพจรให้ฉู่จื่อซีครั้นได้จับชีพจร คิ้วของเจี่ยนอันอันก็ขมวดแน่นขึ้นทุกทีใบหน้าที่เดิมทียิ้มแย้มก็เปลี่ยนเป็นเคร่งขรึมฟางอิ๋งเห็นเช่นนั้นก็รีบถามว่า “เป็นอะไรไป ร่างกายจื่อซีลูกข้ามีปัญหาหรือ?”คำพูดของนางดึงดูดความสนใจของญาติคนอื่นๆฉู่จวินสิงก็มองมาทางนี้ด้วยเช่นกันฉู่จวินหลุนหมุนล้อรถเข็นตรงมาทางนี้เจี่ยนอันอันวางมือฉู่จื่อซีลง เอ่ยด้วยสีหน้าจริงจัง “มีปัญหาจริงๆ”คำพูดของนางทำให้จิตใจฟางอิ๋งเขม็งเกลียวขึ้นมา“ลูกข้าป่วยเป็นอะไรหรือ?” ฟางอิ๋งรีบร้อนถามนางประจักษ์ในความสามารถของเจี่ยนอันอันแล้ว ทราบว่าอีกฝ

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาอ๋องผู้ถูกเนรเทศ   บทที่ 41

    ฉู่จวินสิงที่ไม่ได้เอ่ยวาจามานานข่มความเจ็บปวดเอาไว้ แล้วกล่าวขึ้นว่า “พิษนี้พอจะมีทางแก้หรือไม่?”เพียงหนึ่งประโยคนี้ก็ทำให้ความหวังของทุกคนถูกจุดประกายขึ้นอีกครั้งเหล่าสมาชิกจวนเยียนอ๋องล้วนหันไปมองเจี่ยนอันอันด้วยสายตาเต็มไปด้วยความคาดหวังเจี่ยนอันอันตรวจชีพจรของฉู่จื่อซีอีกครั้ง ในวัดร้างพลันเงียบสนิท แม้กระทั่งกองทหารรักษาพระองค์ยังหยุดพูดพวกเขาต่างจับจ้องไปยังเจี่ยนอันอันเพื่อรอฟังคำตอบจากนางหลังจากตรวจชีพจรอยู่ครู่หนึ่ง นางถึงได้กล่าวขึ้นว่า “แม้พิษนี้จะเป็นพิษเรื้อรังที่ร้ายแรง แต่ข้ามีวิธีแก้ได้”คำนี้ทำให้ใบหน้าของเหล่าญาติพี่น้องได้คลายความกังวลและเผยรอยยิ้มเบาใจออกมาหัวใจของทุกคนที่เคยหนักอึ้งก็เบาลงทันทีพวกเขาล้วนเชื่อมั่นในเจี่ยนอันอัน หากนางกล่าวว่าสามารถรักษาได้ ก็ย่อมเป็นจริงตามนั้นฉู่จวินหลุนเอ่ยขึ้นว่า “ไม่ว่าวิธีใดก็ตาม ขอแค่เจ้ารักษาบุตรข้าให้หายดี ต่อให้ต้องแลกด้วยเลือดของข้า ข้าก็ยินดี”เจี่ยนอันอันโบกมือเบาๆ แล้วกล่าวว่า “ไม่จำเป็นถึงเพียงนั้น ข้าจะใช้วิธีอื่นเพื่อรักษาร่างกายของจื่อซี”ขณะที่ทั้งสองกำลังสนทนาอยู่ จู่ๆ ฉู่จื่อซีก็เบิกตากว้าง

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาอ๋องผู้ถูกเนรเทศ   บทที่ 42

    เจี่ยนอันอันกล่าวจบ ก็ถือถุงน้ำเดินกลับไปนั่งยังตำแหน่งเดิมนางหาได้ส่งคืนถุงน้ำให้หานซื่อไม่ และหานซื่อเองก็ไม่ได้เอ่ยปากขอคืน เพราะเขายังมีถุงน้ำอีกหลายใบที่ใส่น้ำจนเต็ม เพียงพอให้ดื่มสำหรับตลอดการเดินทางส่วนน้ำถุงนั้นก็เก็บไว้ให้เป็นของเด็กน้อยใช้รักษาโรคไปเถิดเจี่ยนอันอันนั่งลงได้ไม่นาน ก็ปรากฏร่างสองร่างเข้ามาใกล้นางเมื่อเจี่ยนอันอันหันไป นางเห็นฉู่อันเจ๋อแบกฉู่จวินสิงมาถึงข้างกายนางไม่ได้ใส่ใจฉู่จวินสิงเลย เพราะในยามนี้นางไม่ได้มีกะจิตกะใจจะพูดคุยกับเขาฉู่จวินสิงเห็นท่าทีเช่นนี้ของเจี่ยนอันอัน เขาอ้าปากเหมือนจะกล่าววาจา แต่สุดท้ายกลับไม่รู้ว่าจะพูดสิ่งใดออกมาฉู่อันเจ๋อรู้สถานการณ์ดี จึงผละไปคุยกับมารดาของตนแทนทั้งสองคน คนหนึ่งนั่ง อีกคนหนึ่งนอน ต่างจมอยู่ในความเงียบงันภายนอกฝนตกหนักราวกับฟ้ารั่ว เสียงเม็ดฝนกระทบชายคาดัง ‘เปาะแปะ’ อย่างต่อเนื่องในขณะนั้นเอง ภาพหนึ่งก็ปรากฏขึ้นในสายตาของเจี่ยนอันอันภาพนั้นคือภาพที่พวกเขากำลังจะเดินทางออกจากเมืองเฉาซานในวันพรุ่ง เพื่อมุ่งหน้าสู่ตีนเขาแห่งหนึ่งเมื่อข้ามเขาลูกนั้นไป เดินต่ออีกหนึ่งวัน ก็จะถึงจุดหมายปลายทาง ซึ่

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาอ๋องผู้ถูกเนรเทศ   บทที่ 43

    เจี่ยนอันอันหย่อนเม็ดยาสีส้มลงในถุงน้ำ หลังจากเขย่าถุงน้ำเบาๆ แล้ว นางก็ลุกขึ้นเดินไปหาฟางอิ๋งนางส่งถุงน้ำให้ฟางอิ๋งพร้อมกล่าวกำชับว่า “อีกหนึ่งชั่วยาม ให้จื่อซีดื่มเพียงอึกเดียว ยานี้ไม่ควรดื่มมากไป ดื่มอึกเดียวก็เพียงพอแล้ว”ฟางอิ๋งรับถุงน้ำไว้ด้วยสีหน้าซาบซึ้งใจพลางกล่าวขอบคุณเจี่ยนอันอันเมื่อเจี่ยนอันอันกลับมานั่งที่เดิม นางก็เห็นฉู่จวินสิงนั่งกัดฟันแน่นด้วยความเจ็บปวดความเจ็บสาหัสในร่างกายของเขากำเริบขึ้นอีกครั้งครั้งนี้เขารู้สึกว่าแม้แต่การหายใจก็เริ่มยากลำบากขึ้นเจี่ยนอันอันเห็นดังนั้นจึงรีบย่อตัวลงเพื่อตรวจชีพจรเขาโชคดีที่อาการของฉู่จวินสิงเกิดจากการที่ร่างกายพักผ่อนไม่เพียงพอ ประกอบกับบาดแผลภายนอกที่อาการหนักขึ้น ถึงได้ทำให้เขารู้สึกทรมานเช่นนี้นางกล่าวกับฉู่จวินสิงว่า “ข้าจะต้องเปิดเสื้อของท่าน เพื่อใส่ยารักษาบาดแผล หากท่านยังขัดขืนการรักษาของข้าเหมือนคราก่อน เช่นนั้นชั่วชีวิตนี้ข้าจะไม่สนใจว่าท่านจะเป็นตายร้ายดีอย่างไรอีก”ฉู่จวินสิงพยักหน้าเบาๆ โดยมิได้เอ่ยคำใด เจี่ยนอันอันจึงค่อยๆ เปิดเสื้อคลุมของเขาออก พบว่าบาดแผลบางจุดอักเสบและเริ่มเน่าแล้วบางจุดยังมีหน

Latest chapter

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาอ๋องผู้ถูกเนรเทศ   บทที่ 280

    ในปีนั้นตอนที่เกิดการสังหารหมู่ขึ้น คนในครอบครัวของจงซิ่นเองก็ไม่รอดลูกชายลูกสะใภ้ของเขา ล้วนแต่ตายในน้ำมือของศัตรูจงซิ่นเพื่อที่จะแก้แค้นให้คนในครอบครัว ก็โวยวายที่จะไปฆ่าคนในราชวงศ์ในตอนนั้นเวินอี๋พยายามห้ามเอาไว้อย่างเต็มที่ แล้วยังบอกเขาว่าด้านนอกนั้นวุ่นวายเป็นอย่างมากถึงแม้ว่าเขาจะมีแรงพละกำลังเต็มที่ ทว่าเพียงแค่สองหมัดยากจะเอาชนะสี่มือได้เขาอยากจะแก้แค้นก็ไม่ควรจะรีบร้อนในตอนนี้รอจนเมื่อดึกสงัดผู้คนเงียบสงบลง ค่อยไปแก้แค้นก็ยังไม่สายทว่าจงซิ่นในตอนนั้นถูกความแค้นท่วมท้นทำให้ตาบอดไป เขายืนกรานจะไปแก้แค้นคนที่สังหารครอบครัวเขาจงซิ่นไม่ได้ฟังคำเกลี้ยกล่อมของเวินอี๋ หยิบมีดเล่นยาวแล้วเดินออกไปเวินอี๋กังวลในความปลอดภัยของจงซิ่น แต่ก็ไม่อยากทิ้งจงหลานเอาไว้ที่บ้านเพียงลำพัง พ่อแม่ของจงหลานเพื่อที่จะปกป้องนางแล้ว ถึงได้ตายไปภายใต้คมมีดของศัตรูหากว่านางถูกฆ่า เกรงว่าจงซิ่นคงไม่อาจใช้ชีวิตได้อย่างปกติไปตลอดเพื่อที่จะปกป้องจงหลาน เวินอี๋จึงรออยู่ที่บ้านรอจนเมื่อจงซิ่นกลับมาพร้อมกับบาดแผลทั่วร่างกาย ก็มองเห็นเวินอี๋นอนอยู่กลางลานบ้านแล้วจงหลานอายุสองขวบนั่งร้อ

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาอ๋องผู้ถูกเนรเทศ   บทที่ 279

    และในตอนที่จงซิ่นกำลังสงสัยอยู่นั้น เซิ่งฟางก็เดินเข้ามาในตอนที่รู้ว่าจะไปบ้านของจงซิ่นเพื่อช่วยคน เซิ่งฟางเองก็ไม่ได้คัดค้านฉู่จวินสิงให้จงซิ่นขึ้นมานั่งบนรถม้า ไม่นานนักก็พากันเดินทางไปยังบ้านของจงซิ่นตลอดทาง จงซิ่นอดที่จะมองไปยังเจี่ยนอันอันเป็นระยะๆ ไม่ได้เขาพบว่าเจี่ยนอันอันเต็มไปด้วยความสงบนิ่ง เหมือนว่าจะมีความมั่นใจอย่างเต็มที่ที่จะช่วยเวินอี๋เอาไว้ทว่าไม่ว่าเขาจะมองอย่างไรก็รู้สึกว่าเจี่ยนอันอันอายุยังน้อย ไม่เหมือนกับคนที่มีทักษะทางการแพทย์เจี่ยนอันอันรู้ว่าจงซิ่นกำลังสงสัยในความสามารถขอองตน แต่นางไม่ใส่ใจนางแน่ใจว่าจะรักษาร่างกายเวินอี๋ได้ระหว่างทางไปยังบ้านของจงซิ่น จงซิ่นก็ได้รู้ว่าเจี่ยนอันอันเป็นภรรยาของฉู่จวินสิงรถม้าไม่นานนักก็มาถึงประตูบ้านจงซิ่น จงซิ่นลงมาจากรถม้าก่อน เคาะประตูดังขึ้นประตูถูกเปิดออกอย่างรวดเร็ว เด็กน้อยอายุราวเจ็ดแปดขวบคนหนึ่งโผล่หัวออกมาเมื่อนางเห็นว่าจงซิ่นกลับมาแล้ว ก็รีบเปิดประตูเรือนขึ้น“ท่านปู่ ท่านรีบไปดูเข้า ท่านลุงเวินไม่สบายอีกแล้ว”จงซิ่นได้ยินคำนี้เข้า ก็รีบเดินเข้าไปทว่าเขาเพิ่งจะเดินไปได้เพียงแค่ไม่กี่ก้าว ก็ค

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาอ๋องผู้ถูกเนรเทศ   บทที่ 278

    จงซิ่นจ้องมองฉู่จวินสิงขึ้นๆ ลงๆ อยู่ครู่หนึ่ง ก็ยิ่งขมวดคิ้วแน่นขึ้น“ท่านคือเยียนอ๋องคนนั้นที่ถูกเนรเทศมายังเมืองอินเป่ยหรือ?”ฉู่จวินสิงเมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายจำตนเองได้ ก็พยักหน้าออกมา “เป็นข้าเอง”จงซิ่นที่เดิมขมวดคิ้วอยู่ก็ผ่อนคลายลงทันทีเขาเคยได้ยินเวินอี๋พูดออกมา เยียนอ๋องจากแคว้นไท่ยวนทั้งกล้าหาญและเก่งการสู้รบ ทำความดีความชอบให้แคว้นไท่ยวนมาไม่น้อย ส่วนวิชาลูกเตะทลายเมฆานั้น ก็เป็นเยียนอ๋องที่สร้างขึ้นมาจงซิ่นอยากจะพบกับเยียนอ๋องมานานแล้ว กลับไม่คิดเลยว่าจะมาพบกับเขาได้ที่นี่จงซิ่นรีบกำหมัดโค้งกายทำความเคารพฉู่จวินสิง“ข้าน้อยจงซิ่น คารวะเยียนอ๋อง”ฉู่จวินสิงรีบพูดขึ้น “มาตอนนี้ข้าไม่ใช่เยียนอ๋องอะไรนั่นอีกแล้ว เจ้าไม่จำเป็นต้องทำความเคารพอะไรเช่นนี้อีก”จงซิ่นยืดตัวขึ้น ใบหน้าค่อยๆ เผยให้เห็นรอยยิ้มยินดีขึ้นมา“ข้าอยางจะพบกับเยียนอ๋องมานานแล้ว กลับไม่คิดเลยว่า จะมาพบกับท่านที่นี่ได้”จงซิ่นตื่นเต้นมากเช่นนี้ ทำให้ฉู่จวินสิงประหลาดใจเล็กน้อย“ผู้เฒ่าจงไปเรียนลูกเตะทลายเมฆามาจากที่ใดกัน?”วิชาเตะนี้เขาเคยสอนไปเพียงแค่คนเดียวเท่านั้น และคนคนนั้นก็ตายไปในสนามรบเมื

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาอ๋องผู้ถูกเนรเทศ   บทที่ 277

    จ้าวลิ่วกอดความทะเยอทะยานมายังเมืองหลวง แต่ก็พบว่าที่นี้หาเงินได้ไม่ง่ายเหมือนอย่างที่เขาคิดเอาไว้เดิมทีเขาก็ไม่ได้มีความสามารถอะไร ในตอนที่อยู่ที่บ้านก็ไม่เคยไปทำงานที่ทุ่งนาอะไรเลยหลังจากที่มาในเมืองแล้ว เขาถึงกับอึ้งตะลึงไปโลกภายนอกที่เต็มไปด้วยสีสันสวยงาม แตกต่างไปจากความสงบสุขของหมู่บ้านชิงสุ่ยอย่างสิ้นเชิงจ้าวลิ่วคลุกคลีอยู่ด้านนอกมาสองปี แต่กลับคลุกคลีจนกลายเป็นคนที่ไม่มีคุณธรรมหากว่าถูกครอบครัวจางต้าเห็นเข้า ไม่รู้ว่าจะดุด่าเขาว่าอย่างไรแต่ที่ทำให้เขาคิดไม่ถึงก็คือ หญิงสาวที่อยู่เบื้องหน้าเขาจะรู้จักกับพี่ห้าของเขาได้ไม่นานจ้าวลิ่วก็โพล่งออกมา “ข้าไม่รู้จักจ้าวอู่”เขาเพิ่งจะพูดคำนี้ออกมาจบ ก็เสียใจเสียจนอยากจะกัดลิ้นของตนเองทิ้งเสียเมื่อครู่นี้เจี่ยนอันอันไม่ได้พูดถึงชื่อของจ้าวอู่ แต่ตอนนี้เหมือนว่าเขาจะสารภาพมันออกไปเองแล้วเจี่ยนอันอันกลอกตาไปมาให้จ้าวลิ่ว นางไม่ได้เปิดโปงเขา แต่พูดกับเซิ่งฟางออกมา“พี่เซิ่ง ท่านนำตัวเขากลับไปขังที่ว่าการอำเภอเสียก่อน”“รอจนเมื่อเรื่องของพวกเราจัดการกันเรียบร้อยแล้ว ข้าจะกลับมาสั่งสอนเขาให้ดีๆ”เซิ่งฟางพยักหน้า แล้วจ้อง

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาอ๋องผู้ถูกเนรเทศ   บทที่ 276

    ผู้คนที่ผ่านไปมาจดจำเซิ่งฟางได้นานแล้ว แต่พวกเขาเพียงแต่ยืนอยู่ด้านข้าง ไม่มีใครช่วยพูดให้จ้าวลิ่วถึงแม้ว่าพวกเขาจะยังโกรธแค้นอยู่ในใจเพราะเรื่องสังหารหมู่ในปีนั้นแต่พวกเขาก็ไม่ล่วงเกินเจ้าหน้าที่ทางการ ต่างก็พากันคอยเป็นผู้รับชมอยู่ด้านข้างจ้าวลิ่วเมื่อเห็นว่าไม่มีใครคอยช่วยพูดแทนเขา ก็โมโหเป็นอย่างมาก คิดที่จะดิ้นรนให้หลุดรอดออกมาจากมือของจงซิ่นทว่ามือของจงซิ่นที่จับเขาเอาไว้ก็ยิ่งออกแรงมากยิ่งขึ้นจ้าวลิ่วเจ็บเสียจนต้องกัดฟัน ทั่วทั้งกายอดไม่ได้ที่จะสั่นเทาขึ้นมาข้อมือของเขาแทบจะหัก ชายชราผู้นี้ทำไมถึงไม่ยอมปล่อยเขาไปเซิ่งฟางยกมือขึ้น แล้วเหวี่ยงไปยังใบหน้าอีกด้านหนึ่งของจ้าวลิ่วสองฝ่ามือนี้ ทำเสียจนใบหน้าของจ้าวลิ่วบวมจนกลายเป็นหมูมุมปากของจ้าวลิ่วมีเลือดไหลซึมออกมาผู้คนที่ผ่านไปมาคอยดูอยู่ด้านข้าง ก็ตกใจเสียจนต้องก้าวถอยหลังไปพวกเขาต่างก็ลอบยินดีที่ตนเองไม่ได้ปากมากช่วยพูดให้กับจ้าวลิ่วมิฉะนั้นแล้วฝ่ามือนี้ เกรงว่าคงจะตกลงบนใบหน้าของพวกเขาแทนจ้าวลิ่วถูกตบเสียจนวิงเวียนดวงตาพร่ามัว ในตอนนี้เขารู้สึกเสียใจขึ้นมาแล้วจริงๆเขาควรจะหยิบเอาถุงเงินนั่น ไปร้านอาห

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาอ๋องผู้ถูกเนรเทศ   บทที่ 275

    เมื่อเห็นว่ากีบม้ากำลังจะตกลงบนกายของขอทาน ท่ามกลางกลุ่มคนนั้นจู่ๆ ก็มีเสียงคนร้องดังขึ้น“จ้าวลิ่ว เจ้าบ้านี่ไม่ต้องการชีวิตแล้วอย่างนั้นหรือ!”คนนั้นเมื่อพูดจบ ก็รีบพุ่งเข้ามาเตะลงบนกายของจ้าวลิ่วจ้าวลิ่วที่เดิมทีผอมบางอ่อนแรง เมื่อถูกเตะเข้าก็กลิ้งไปริมถนนกีบม้าตกลงบนถนนอย่างแรง ม้าส่งเสียงร้องดังขึ้น หลังจากที่กีบม้าเหยียบลงบนพื้นอย่างแรงเพียงไม่กี่ครั้ง ถึงได้หยุดลง ในตอนที่เจี่ยนอันอันได้ยินคนผู้นั้นเรียกขอทานว่าจ้าวลิ่วนั้น ก็อดที่จะขมวดคิ้วขึ้นมาไม่ได้นางจำที่จ้าวอู่พูดได้ว่า เขามีน้องหกอยู่คนหนึ่งเข้ามาในเมืองเมื่อสองปีก่อนเขาตามหาน้องหกคนนั้นมาสองปีกว่า ก็ตามหาไม่พบส่วนน้องหกคนนั้นของเขา ชื่อว่าจ้าวลิ่วเจี่ยนอันอันมองไปยังจ้าวลิ่วด้วยความสงสัย พบเพียงใบหน้าของเขาสกปรกอย่างมากไม่มีทางที่จะมองรูปลักษณ์เดิมได้ชัดเจนจ้าวลิ่วลุกขึ้นมา แล้วรีบไปยังเบื้องหน้าของคนที่เตะเขาอย่างไม่ยินยอม“ตาเฒ่านี่ เตะข้าทำอะไรกัน?”“เจ้ารู้หรือไม่ที่เจ้าเพิ่งจะทำไปเมื่อครู่นี้ มาทำลายเรื่องดีๆ ของข้าไปอย่างสิ้นเชิง”เจี่ยนอันอันมองไปยังคนที่เตะจ้าวลิ่ว ก็พบว่าอีกฝ่ายนั้นเป็นชา

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาอ๋องผู้ถูกเนรเทศ   บทที่ 274

    “หวังว่าท่านจะรักษาคำพูด” เจี่ยนอันอันพูดจบ ก็โบกมือขึ้น “ท่านไปได้แล้ว เรื่องที่ท่านมายังที่ว่าการอำเภอ ห้ามบอกผู้อื่น”เจ้าเมืองตานรีบตอบรับออกมา เขาหันไปมองยังเซิ่งฟาง ก็พบว่าอีกฝ่ายพยักหน้าให้กับเขาหลังจากที่เจ้าเมืองตานโค้งคำนับให้กับทั้งสี่คนแล้ว ก็รีบเดินออกไปในตอนที่เขามายังที่ว่าการอำเภอนั้น ไม่ได้นั่งเกี้ยว และก็ไม่ได้สวมเครื่องแบบทางการมา เพียงแต่สวมเสื้อผ้าธรรมดาเท่านั้นเขาเองก็กลัวว่าตนเองจะสะดุดตาจนเกินไป แล้วถูกคนของผู้ว่ามณฑลจงโจวจดจำได้เข้าหลังจากที่เดินออกจากที่ว่าการอำเภอแล้วนั้น เจ้าเมืองตานก็รีบมุ่งหน้ากลับไปยังจวนของตนเองเขาก้มหน้าเดินอย่างเร่งรีบ จนชนเข้ากับคนผู้หนึ่งเจ้าเมืองตานเงยหน้าขึ้น ก็พบกับขอทานที่ทั่วทั้งเนื้อตัวสกปรกมอมแมม ถูกเขาชนจนล้มลงกับพื้นขอทานล้มลงร้อง “โอ๊ย” ออกมา ใบหน้าที่สกปรกนั้นเต็มไปด้วยความเจ็บปวดเจ้าเมืองตานรีบร้อนกลับไปยังจวน จึงไม่ได้สนใจขอทานนั่น เขาส่งเสียงเย็นชา ก่อนจะรีบจากไปที่เขาไม่รู้ก็คือ ในตอนที่เขาชนเข้ากับขอทานเมื่อครู่นี้นั้น ถุงเงินตรงเอวของเขา ได้ตกไปอยู่ในมือของขอทานนั่นแล้วขอทานส่งเสียงร้องดัง “โอ๊ย”

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาอ๋องผู้ถูกเนรเทศ   บทที่ 273

    สายตาของเจี่ยนอันอันจ้องเขม็งไปยังใบหน้าของเจ้าเมืองตาน อย่างจะคิดมองหาท่าทีโกหกจากสีหน้าของเขาในตอนที่เจ้าเมืองพูดออกมานั้น สีหน้าของเขาดูเคร่งขรึม สายตาเผยให้เห็นความโกรธแค้นออกมาดูเหมือนว่าเขาจะไม่ได้พูดโกหก สายตาของเจี่ยนอันอันดูเย็นชา จนทำให้ในใจของเจ้าเมืองตานที่มองดูเกิดความหวาดกลัวขึ้นมาเขาไม่กล้าที่จะสบสายตากับเจี่ยนอันอัน จึงทำได้เพียงมองไปยังทิศทางอื่นเจี่ยนอันอันพูดออกมาอย่างเย็นชา “ท่านเพิ่งจะพูดออกมาว่า ท่านสนิทชิดเชื้อกันท่านผู้ว่ามณฑลจงโจว”“แล้วทำไมท่านยังจะนำเรื่องนี้มาบอกพวกเราอีก”“ท่านไม่กลัวหรือว่าคำที่ท่านพูดออกมาเหล่านี้ จะลอยเข้าหูผู้ว่ามณฑลจงโจวเข้า?”แน่นอกว่าเจ้าเมืองตานย่อมหวาดกลัว เพียงแต่ว่าเขาไม่อยากสมคบคิดกับคนชั่วอีกในตอนแรกที่เขามีความสัมพันธ์อันดีกับผู้ว่ามณฑลจงโจวนั้น ทั้งหมดก็เป็นเพียงเพราะว่าพวกเขาล้วนแต่เป็นคนบ้านเกิดเดียวกัน เขาถือว่าผู้ว่ามณฑลเป็นคนสนิท ไม่ว่าเรื่องอะไรก็จะหารือกับอีกฝ่ายมาโดยตลอดเพียงแต่ที่ทำให้เขาคิดไม่ถึงนั้น ผู้ว่ามณฑลจงโจวจะเข้าร่วมสมคบคิดกับคนที่มาเพื่อทำการสังหารหมู่ในปีนั้นไม่เพียงแต่เท่านี้ เขาเพื่

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาอ๋องผู้ถูกเนรเทศ   บทที่ 272

    เขาไม่คิดเลยว่าอ๋องเจ็ดที่มาทำการสังหารหมู่ในปีนั้น จะสมคบคิดกันกับผู้ว่ามณฑลจงโจวส่วนอ๋องเจ็ดคนนั้น ตอนนี้ก็กลายฮ่องเต้ของแคว้นไท่ยวนแล้วในใจของเจ้าเมืองตานเต้นรัวเขาไม่รู้ว่าควรจะเคาะประตูดีหรือไม่ แล้วนำเรื่องที่เซิ่งฟางกลับมาแล้ว แถมยังกลายเป็นนายอำเภอบอกกับท่านผู้ว่าการมณฑลจงโจวไปคนในห้องโถงทั้งสองคน ไม่รู้เลยว่ายังมีคนแอบฟังอยู่ด้านนอกอีกคนผู้ว่ามณฑลจงโจวให้ทหารองค์รักษ์ออกไป ก็เพราะว่าไม่อยากให้คนนอกมาได้ยินเขาพูดคุยอยู่กับแขกนอกจากนี้แล้วแขกลึกลับคนนั้น บางทีอาจจะอาศัยสถานะที่สูงส่งกว่าตน ไม่ได้เห็นคนในที่ว่าการอยู่ในสายตาเลยหากว่ามีคนกล้าลอบฟัง เขาจะต้องตัดลิ้นของอีกฝ่ายทิ้งเป็นแน่ รวมทั้งตัดแขนขา ให้คนที่แอบฟังนั้น ทั้งชาตินี้เขียนไม่ได้พูดไม่ได้ไปตลอด!ไม่นานนัก เสียงของท่านผู้ว่ามณฑลจงโจวก็ดังขึ้นอีกครั้ง “เจ้าเมืองเซิ่งฟางในปีนั้น ช่างไม่รู้ทันสถานการณ์เลย”“หากว่าเขานำของสมบัติของเมืองอินเป่ยมอบให้แล้ว เขาเองก็คงไม่ถึงขั้นถูกจับเช่นนี้”เมื่อผู้ว่ามณฑลจงโจวพูดมาถึงตรงนี้ ก็เย้ยหยันออกมาอย่างน่าหวาดกลัว คนลึกลับผู้นั้นก็พูดเย้ยหยันขึ้นมา “ยังเป็นตาเฒ่าเช

DMCA.com Protection Status