Share

บทที่ 43

Author: ซินต้งหรูสุ่ย
เจี่ยนอันอันหย่อนเม็ดยาสีส้มลงในถุงน้ำ หลังจากเขย่าถุงน้ำเบาๆ แล้ว นางก็ลุกขึ้นเดินไปหาฟางอิ๋ง

นางส่งถุงน้ำให้ฟางอิ๋งพร้อมกล่าวกำชับว่า “อีกหนึ่งชั่วยาม ให้จื่อซีดื่มเพียงอึกเดียว ยานี้ไม่ควรดื่มมากไป ดื่มอึกเดียวก็เพียงพอแล้ว”

ฟางอิ๋งรับถุงน้ำไว้ด้วยสีหน้าซาบซึ้งใจพลางกล่าวขอบคุณเจี่ยนอันอัน

เมื่อเจี่ยนอันอันกลับมานั่งที่เดิม นางก็เห็นฉู่จวินสิงนั่งกัดฟันแน่นด้วยความเจ็บปวด

ความเจ็บสาหัสในร่างกายของเขากำเริบขึ้นอีกครั้ง

ครั้งนี้เขารู้สึกว่าแม้แต่การหายใจก็เริ่มยากลำบากขึ้น

เจี่ยนอันอันเห็นดังนั้นจึงรีบย่อตัวลงเพื่อตรวจชีพจรเขา

โชคดีที่อาการของฉู่จวินสิงเกิดจากการที่ร่างกายพักผ่อนไม่เพียงพอ ประกอบกับบาดแผลภายนอกที่อาการหนักขึ้น ถึงได้ทำให้เขารู้สึกทรมานเช่นนี้

นางกล่าวกับฉู่จวินสิงว่า “ข้าจะต้องเปิดเสื้อของท่าน เพื่อใส่ยารักษาบาดแผล หากท่านยังขัดขืนการรักษาของข้าเหมือนคราก่อน เช่นนั้นชั่วชีวิตนี้ข้าจะไม่สนใจว่าท่านจะเป็นตายร้ายดีอย่างไรอีก”

ฉู่จวินสิงพยักหน้าเบาๆ โดยมิได้เอ่ยคำใด เจี่ยนอันอันจึงค่อยๆ เปิดเสื้อคลุมของเขาออก พบว่าบาดแผลบางจุดอักเสบและเริ่มเน่าแล้ว

บางจุดยังมีหน
Continue to read this book for free
Scan code to download App
Locked Chapter
Comments (1)
goodnovel comment avatar
Nattacha
ช่วยอัพเดทวันละหลายๆ ตอนหน่อย
VIEW ALL COMMENTS

Related chapters

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาอ๋องผู้ถูกเนรเทศ   บทที่ 44

    เมื่อหานซื่อเห็นเจี่ยนอันอันหยิบตะบันไฟขึ้นมา เขาก็ลุกขึ้นยืนในทันที“คุณหนูใหญ่เจี่ยน นี่ท่านกำลังจะทำอะไร?”หานซื่อไม่ได้ถามเจี่ยนอันอันว่าตะบันไฟนี้มาจากไหนเขาคิดว่าเมื่อเจี่ยนอันอันสามารถหยิบยาแก้พิษออกมาได้ ก็คงไม่แปลกที่นางจะมีสิ่งของอย่างตะบันไฟติดตัวทั้งนี้เพราะตะบันไฟมีขนาดเล็ก เก็บซ่อนไว้ในเสื้อผ้าก็ไม่เป็นที่สังเกตนอกจากนี้ ตอนที่มีการค้นตัว พวกเขาก็ไม่ได้ค้นตัวของเจี่ยนอันอัน คิดว่าไม่แน่นางอาจจะนำมาจากบ้านเดิมของตนเจี่ยนอันอันกล่าวว่า “ข้าจำเป็นต้องหาไม้สองท่อนมาทำเปลหาม สามีของข้าเดิมก็มีบาดแผลอยู่แล้ว การเดินทางที่ยาวนานเช่นนี้ เขาเริ่มทนไม่ไหวแล้ว หากมีเปลคอยหามเขา ก็จะช่วยให้เขาได้พักรักษาตัวดีๆ”หานซื่อพยักหน้าแล้วไปตามหาไม้กับทหารรักษาพระองค์คนอื่นๆ พร้อมกับเจี่ยนอันอันนางแบ่งตะบันไฟให้พวกทหารรักษาพระองค์คนอื่นอีกสองอันไม่นานก็มีเสียงหนึ่งดังขึ้นจากทหารรักษาพระองค์ว่า “ตรงนี้มีท่อนไม้”เจี่ยนอันอันกับหานซื่อรีบเดินไปที่ห้องทางนั้น เห็นว่าที่นั่นมีท่อนไม้กองอยู่หลายท่อนทุกคนเริ่มเข้าใจแล้วว่า พระที่เคยอาศัยอยู่ที่นี่น่าจะเป็นพระฝ่ายบู๊ ไม้เหล่านี้เ

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาอ๋องผู้ถูกเนรเทศ   บทที่ 45

    เจี่ยนอันอันมองเห็นความสงสัยในสายตาของหานซื่อ นางจึงยักไหล่พลางกล่าวว่า “อย่างไรไก่พวกนี้ข้าก็หาเจอจากห้องครัวด้านหลัง ส่วนจะเป็นของพระที่เคยอยู่ที่นี่หรือไม่นั้น ข้าก็ไม่รู้เช่นกัน”หานซื่อกำลังจะพูดต่อ แต่ทหารรักษาพระองค์คนหนึ่งเดินเข้ามาพูดว่า “หัวหน้าหาน ตอนนี้พวกเรามีไก่กินแล้ว ก็อย่าไปสนใจเลยว่าไก่พวกนี้มาจากไหน อีกอย่างที่นี่เป็นวัดร้าง ไก่พวกนี้อาจจะเป็นของพวกขอทานที่แอบซ่อนไว้ก็ได้”หานซื่อพยักหน้า เห็นด้วยกับคำพูดนั้น หากบอกว่าไก่พวกนี้เป็นของขอทานซ่อนเอาไว้ก็ยังพอฟังดูสมเหตุสมผลคำพูดของทหารรักษาพระองค์คนนั้นทำให้ในใจหานซื่อเลิกสงสัยเจี่ยนอันอันมองทหารรักษาพระองค์ผู้นั้นอย่างชื่นชม นางเพิ่งจำได้ว่าเขาคือคนที่เคยถูกงูกัดก่อนหน้านี้ทหารรักษาพระองค์ผู้นั้นยิ้มให้เจี่ยนอันอันอย่างจริงใจ ก่อนจะเดินกะเผลกไปหยิบหม้อใบใหญ่มาเจี่ยนอันอันสั่งให้ทหารรักษาพระองค์ตัดไม้ที่เหลืออยู่ให้เป็นฟืน นางหันไปบอกหานซื่อว่า “เมื่อครู่ข้าเห็นว่ามีบ่อน้ำอยู่ในวัด เราใช้ประโยชน์จากน้ำในบ่อนั้นมาต้มน้ำแกงไก่กันเถิด”หานซื่อได้ยินว่ามีบ่อน้ำอยู่ ก็รีบสั่งให้คนไปตักน้ำมาไม่นานนัก ทหารรักษาพระ

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาอ๋องผู้ถูกเนรเทศ   บทที่ 46

    เหล่าญาติพี่น้องที่ได้รับเนื้อไก่ต่างพากันกล่าวขอบคุณเจี่ยนอันอันพวกเขากัดหมั่นโถวคำหนึ่ง แล้วใช้มือหยิบเนื้อไก่ใส่ปากอย่างไม่รีรอ จากนั้นดื่มน้ำแกงไก่อึกใหญ่ ทุกคนล้วนกินกันอย่างอิ่มเอมและพึงพอใจเนื้อไก่ช่างอร่อยยิ่งนัก รสชาติเหนือกว่าสิ่งที่พวกเขาเคยลิ้มลองในจวนเสียอีกเหล่าทหารรักษาพระองค์ก็ไม่ได้ต่างกัน พวกเขาต่างกินเนื้อคำโตกันอย่างเอร็ดอร่อยน่าเสียดายยิ่งนักที่เนื้อไก่นั้นมีน้อยเกินไป พวกเขาได้ลิ้มรสกันเพียงไม่กี่ชิ้นก็หมดสิ้นแล้วโชคดีที่ยังมีน้ำแกงไก่หม้อใหญ่ ทหารรักษาพระองค์ต่างแบ่งกันคนละถ้วยสองถ้วย ไม่นานน้ำแกงก็หมดลงจนถึงก้นหม้อระหว่างนั้น เจี่ยนอันอันก็นำเนื้อไก่ไม่กี่ชิ้นไปให้ฉู่จวินสิงนางเองก็กินเนื้อไก่ไปบ้าง แต่เพราะเกรงว่าเนื้อจะไม่พอแบ่ง จึงไม่ได้กินมากไปกว่านั้นเจี่ยนอันอันคิดว่าหากเป็นเช่นนี้ต่อไปคงไม่ดีแน่ เพราะเนื้อไก่นั้นน้อยเกินไป แต่คนกลับมีมากนางจำต้องหาอาหารอื่นมาเพิ่มให้มากขึ้นเมื่อคิดได้เช่นนั้น เจี่ยนอันอันก็ลุกขึ้นยืนและเดินออกจากโถงใหญ่หานซื่อเห็นเจี่ยนอันอันเดินออกไป คราวนี้เขาไม่ได้ตามนางไปเช่นเคยเจี่ยนอันอันเดินไปยังบริเวณหลังคร

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาอ๋องผู้ถูกเนรเทศ   บทที่ 47

    ฉู่อันเจ๋อเห็นดังนั้น จึงรีบหยิบถุงน้ำมาให้ฉู่จวินสิงดื่ม “พี่รอง ท่านค่อยๆ กิน ไม่มีใครแย่งท่านหรอก”ฉู่จวินสิงดื่มน้ำแล้วจึงกลืนมันเทศที่ติดอยู่ในคอลงไปได้สายตาฉู่จวินสิงเย็นชาดั่งน้ำแข็ง จ้องฉู่อันเจ๋อเขม็งฉู่อันเจ๋อที่ถูกจ้องด้วยสายตานั้นถึงกับตัวสั่น เขาย่นคอลงแล้วพูดว่า “พี่รอง ท่านอย่ามองข้าเช่นนั้น สายตาท่านน่ากลัวเหลือเกิน”ฉู่จวินสิงพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชาอย่างยิ่ง “หากเจ้ากล้าพูดเรื่องแต่งงานอีก ข้าจะเย็บปากเจ้าเสีย”ฉู่อันเจ๋อรู้ดีว่าพี่ชายรองของเขาเป็นคนที่พูดจริงทำจริง เขาตกใจจนรีบเอามือปิดปากทันที ไม่กล้าพูดอะไรออกมาอีกแม้แต่คำเดียวบทสนทนาของสองพี่น้องนั้น ทั้งหมดล้วนเข้าหูของเจี่ยนอันอันพอคิดถึงอนาคตที่ต้องเข้าพิธีแต่งงานกับฉู่จวินสิง ไม่เพียงแต่ต้องอยู่ใต้ชายคาเดียวกันเท่านั้น ยังต้องนอนบนเตียงเดียวกันอีกด้วยมุมปากของเจี่ยนอันอันก็อดไม่ได้ที่จะกระตุกเล็กน้อยระหว่างนางกับฉู่จวินสิงนั้น เพิ่งจะรู้จักกันได้เพียงแค่สองวันเท่านั้นทั้งคู่แทบไม่มีปฏิสัมพันธ์อะไรกันมากนัก ยิ่งไม่ต้องพูดถึงความรู้สึกใดๆเจี่ยนอันอันยังไม่คิดอยากแต่งงานกับฉู่จวินสิงเร็วขนาดนี้อ

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาอ๋องผู้ถูกเนรเทศ   บทที่ 48

    หานซื่อลอบนึกชื่นชมความสามารถของเจี่ยนอันอันจากใจจริง เขารู้สึกได้รางๆ ว่าเจี่ยนอันอันไม่ใช่คนธรรมดา ความสามารถของนางคงไม่ได้หยุดอยู่เพียงเท่านี้หลังจากทุกคนได้รับประทานอาหารจนอิ่มหนำ ความง่วงก็เข้ามาเยือน ผู้คนพากันนอนพักกันตามสถานที่ที่อยู่ใกล้ที่สุด และการนอนหลับในคืนนี้ก็เต็มไปด้วยความสบายใจเช้าวันรุ่งขึ้น เจี่ยนอันอันตื่นขึ้นมาเป็นคนแรก กองไฟที่เคยลุกโชนในยามค่ำคืนได้มอดดับไปนานแล้วเจี่ยนอันอันยืดเส้นยืดสายคลายความเมื่อยล้า แล้วเริ่มทำเปลหามให้ฉู่จวินสิงนางใช้จีวรพระมัดเข้ากับไม้สองท่อน ไม่นานนักนางก็ทำเปลหามอย่างง่ายจนเสร็จเจี่ยนอันอันกำลังจะกลับไปนั่งที่เดิม แต่พลันรู้สึกถึงสายตาบางคู่ที่จ้องมองมาที่นางนางหันไปมองก็เห็นฉู่จวินสิงตื่นขึ้นมาแล้ว สายตาของเขาจับจ้องไปที่นางอย่างไม่วางตาเนื่องจากเมื่อคืนได้ดื่มน้ำแกงไก่และกินอิ่มเต็มที่ ใบหน้าของฉู่จวินสิงในตอนนี้ดูดีขึ้นกว่าก่อนมากเจี่ยนอันอันเดินเข้าไปตรวจสอบบาดแผลภายนอกของฉู่จวินสิงอีกครั้ง ยาที่นางทาไว้เมื่อคืนนี้เริ่มออกฤทธิ์แล้ว ทำให้บางส่วนของบาดแผลดีขึ้นมากเจี่ยนอันอันหยิบยารักษาแผลชุดใหม่ออกมา และเริ่มทาย

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาอ๋องผู้ถูกเนรเทศ   บทที่ 49

    เจี่ยนอันอันเดินกลับเข้ามาในโถงใหญ่ก็พบว่าทุกคนตื่นกันหมดแล้วเนื่องจากเมื่อคืนพวกเขากินไก่และหมั่นโถวกันอย่างอิ่มหนำ ทำให้มันเทศเหลืออยู่ไม่น้อย และในตอนนี้ทุกคนก็ได้กินมันเทศที่เหลือจนหมดสิ้นเพื่อไม่ให้เสียเวลา หานซื่อจึงประกาศให้พวกเขาออกเดินทางทันที อากาศหลังฝนตกแจ่มใสเป็นพิเศษ ทุกคนออกจากวัดร้างและมุ่งหน้าเดินไปยังถนนในเมืองเฉาซาน เนื่องจากพวกเขาเป็นนักโทษเนรเทศ การเดินทางของพวกเขาจึงดึงดูดสายตาของชาวเมืองเฉาซานได้อย่างรวดเร็วผู้คนต่างพากันจับกลุ่มพูดคุยถึงเรื่องราวของครอบครัวเยียนอ๋องบางคนจำได้ว่าเสื้อผ้าที่ฉู่จวินหลุนสวมใส่นั้นเป็นชุดที่มีเพียงอ๋องเท่านั้นที่สามารถสวมได้ เสียงวิพากษ์วิจารณ์จึงยิ่งดังขึ้นเรื่อยๆ ทว่าก็ยังไม่มีผู้ใดทราบแน่ชัดว่าคณะเดินทางนี้เป็นจวนอ๋องคนใด และพวกเขาก่ออาชญากรรมใด ถึงต้องถูกเนรเทศเช่นนี้เจี่ยนอันอันประคองฮูหยินใหญ่ เดินนำหน้ากลุ่มขบวนไปเหล่าญาติพี่น้องของจวนเยียนอ๋อง ต่างพากันเดินอย่างองอาจ ไม่ก้มหัวให้ใครแม้เสียงวิพากษ์วิจารณ์ของชาวบ้านจะดังแว่วเข้ามา แต่ก็หาได้มีผู้ใดใส่ใจหรือหวั่นไหวแต่อย่างใดเมื่อพวกเขาเดินพ้นจากเมืองเฉาซ

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาอ๋องผู้ถูกเนรเทศ   บทที่ 50

    ฉู่อันเจ๋อเมื่อได้ยินข้อเสนอนั้น ก็รีบก้าวออกมาอย่างรวดเร็วพลางพูดว่า “พี่ใหญ่ ข้าจะเป็นคนแบกท่านเอง!”ไม่พูดเปล่า เขาเดินมายังเบื้องหน้าของฉู่จวินหลุน คุกเข่าลงแล้วเตรียมจะแบกพี่ชายขึ้นหลังฉู่จวินหลุนมองดูภูเขาสูงตระหง่านอีกครั้ง ก่อนจะเหลือบมองฉู่อันเจ๋อด้วยสายตาหนักใจในที่สุดด้วยความจำใจ เขาจึงต้องละทิ้งรถเข็น แล้ววางแขนพาดลงบนบ่าของฉู่อันเจ๋อฉู่อันเจ๋อแบกพี่ชายขึ้นหลัง เดินตามคณะต่อไปแต่เมื่อไม่มีรถเข็น ก็เท่ากับว่ากลุ่มของพวกเขาขาดอีกคนที่สามารถต่อสู้ได้ไปหากอีกไม่นานกลุ่มโจรภูเขาจะเข้ามาปล้นจริงๆ พวกเขาจะปกป้องคนในครอบครัวของเยียนอ๋องอย่างไร?ในใจของฉู่จวินหลุนเต็มไปด้วยความรู้สึกเสียใจ หากไม่ใช่เพราะขาของเขาที่ไม่สามารถขยับได้เขาคงไม่ต้องให้ฉู่อันเจ๋อมาคอยแบกเช่นนี้เมื่อเหล่าญาติพี่น้องพากันปีนขึ้นมาจนถึงกลางภูเขาอย่างยากลำบาก ในที่สุดก็อ่อนล้าจนเดินต่อไปไม่ไหว ทุกคนจึงทรุดตัวลงนั่งกับพื้นอย่างหมดแรงหานซื่อเห็นดังนั้นก็รีบสั่งให้ทุกคนหยุดพักเจี่ยนอันอันนั่งลงข้างกายฮูหยินใหญ่ นางสอดส่องสายตามองไปรอบๆนางคิดว่าหากจะมีโจรปรากฏตัวขึ้นมาปล้นที่นี่ ย่อมต้องมีเส้น

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาอ๋องผู้ถูกเนรเทศ   บทที่ 51

    ฮูหยินใหญ่เริ่มกังวล พวกเขามีคนในจวนอยู่ยี่สิบกว่าชีวิต บัดนี้ล้วนเป็นผู้ถูกเนรเทศหากตายลงใต้คมดาบของโจรภูเขา ก็จะไม่มีผู้ใดเก็บศพอีกทั้งนางยังไม่แน่ใจนักว่าทหารรักษาพระองค์เหล่านี้มีฝีมือเพียงพอที่จะเอาชนะโจรภูเขาได้ และจะสามารถปกป้องพวกเขาออกจากที่นี่ได้สำเร็จหรือไม่ฉู่จวินหลุนเองก็ขมวดคิ้ว จ้องมองเจี่ยนอันอันด้วยความสงสัยแม้ว่าก่อนหน้านี้ ตอนที่พวกเขาเผชิญกับกลุ่มคนชุดดำ เจี่ยนอันอันจะแสดงความกล้าหาญอย่างมาก ใช้เข็มเงินในมือนางสังหารคนเหล่านั้นจนหมดแต่ตอนนี้พวกเขากำลังเผชิญกับโจรภูเขา ที่นี่มีโจรภูเขามากมาย เข็มเงินของเจี่ยนอันอันจะฆ่าได้สักกี่คน?นอกจากนี้ ในบรรดาญาติพี่น้องเหล่านี้ ยังมีทั้งคนชราและคนเจ็บป่วยอยู่ ฉู่จวินสิงก็ยังเดินไม่ได้ อย่าว่าแต่จะลุกขึ้นต่อสู้กับโจรภูเขาเลย แม้จะมีเขากับฉู่อันเจ๋ออยู่ด้วย แต่ก็คงสู้พวกโจรไม่ได้ พวกเขาจะเอาชนะโจรภูเขาเหล่านั้นได้อย่างไร?ฮูหยินใหญ่จึงเอ่ยขึ้นว่า “อันอัน การไปยังค่ายโจรนั้นอันตรายมาก แม้ว่าภูเขานี้จะชันสักหน่อย แต่ข้าคิดว่าเราค่อยๆ เดินช้าๆ ก็ยังพอจะข้ามภูเขานี้ไปได้ ข้าว่าเราไม่ควรเสี่ยงไปค่ายโจรนะ”คำพูดของฮูหยิ

Latest chapter

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาอ๋องผู้ถูกเนรเทศ   บทที่ 768

    หลังจากกินข้าวจนอิ่มหนำ ทุกคนจึงลุกขึ้นอำลาเซิ่งฟางเจี่ยนอันอันยังพะวงกับเรื่องที่จะไปเข้าเมือง นางเองก็ไม่ชอบออกจากบ้านเพื่อไปเข้าเมืองบ่อยครั้งนักคิดว่าวันนี้จะรีบสะสางงานให้เสร็จสิ้น แล้วหลังจากนี้อีกหลายวันจะได้พักผ่อนอยู่บ้านให้สบายเพื่อไม่ให้เหตุการณ์ยิ่งบานปลาย เพราะถ้ากู้มั่วหลีก่อเรื่องอันใดขึ้นอีก อาจกลายเป็นยุ่งยากจนยากจะรับมือได้เจี่ยนอันอันและฉู่จวินสิงต่างขึ้นรถม้า แล้วมุ่งไปทางตัวเมืองส่วนถังหมิงเซวียนกลับไปยังโรงเตี๊ยมเขานอนอยู่บนเตียง พลิกไปพลิกมา ทำอย่างไรก็นอนไม่หลับเสียทีเขาอยากให้เวลาผ่านไปโดยเร็ว จะได้รีบไปหมู่บ้านชิงสุ่ยแล้วพักอยู่ที่นั่นเสียเมื่อเป็นเช่นนี้แล้ว เขาจะได้กระชับความสัมพันธ์กับเหยียนซวงให้มากขึ้น ดั่งคำว่าน้ำตาลใกล้มดแต่เมื่อนึกถึงว่าบ้านของเหยียนซวง อยู่ติดกับบ้านของเสิ่นจือเจิ้งถังหมิงเซวียนก็อดรู้สึกเครียดในใจไม่ได้อีกเขานึกถึงคำพูดของเจี่ยนอันอัน เกิดวันดีคืนร้าย เสิ่นจือเจิ้งเห็นถึงความดีของเหยียนซวง เป็นฝ่ายเอ่ยปากขอแต่งงานกับนางแล้วจะทำอย่างไร?เขากับเหยียนซวงยังมีสัญญาหมั้นหมายต่อกันอยู่ เพียงแต่การหมั้นหมายนี้ เกิดจาก

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาอ๋องผู้ถูกเนรเทศ   บทที่ 767

    เขาก้มหน้าปรุงยาต่อไป หากสมุนไพรไม่พอก็ขอจากเจี่ยนอันอันอีกทั้งคู่ช่วยกันทำงานถึงช่วงบ่าย ในที่สุดยาถอนพิษสี่พันกว่าเม็ด ก็สำเร็จลุล่วงออกมาในขณะที่เซิ่งฟางได้ไต่สวนคดีเรียบร้อย หัวขโมยผู้นั้นได้โจรกรรมของของผู้อื่นจริงๆจึงถูกเซิ่งฟางส่งตัวไปรับโทษที่เรือนจำก่อนที่ชาวบ้านผู้เป็นเจ้าทุกข์กำลังจะอำลา เจี่ยนอันอันได้เรียกตัวเขาไว้“บ้านท่านมีสมาชิกทั้งหมดกี่คน?”ชาวบ้านผู้เป็นเจ้าทุกข์ชะงักเล็กน้อย พร้อมมองหน้าเซิ่งฟางเซิ่งฟางแสดงท่าทีให้เขาตอบตามความจริงเขาจึงได้กล่าวตอบ “บ้านข้ามีทั้งหมดเจ็ดคนขอรับ”เจี่ยนอันอันได้ยินดังนี้ จึงหยิบยาถอนพิษออกมาเจ็ดเม็ด ส่งให้คนผู้นั้น“นี่คือยาถอนพิษ ท่านกินไปหนึ่งเม็ดก่อน ที่เหลือนำไปให้คนในครอบครัวได้กิน”คนผู้นั้นมองดูยาเม็ดในมือด้วยความมึนงง ไม่เข้าใจถึงเจตนาของเจี่ยนอันอันเซิ่งฟางเห็นเข้าจึงกล่าวแทน “ในอำเภอไถหยางมีคนถูกวางยา ท่านรีบกินยาถอนพิษเร็วเข้า แม้ไม่ได้รับพิษก็ถือเป็นการป้องกันไว้ก่อน”“ส่วนที่เหลือก็นำไปให้คนในครอบครัวแบ่งกิน อย่ารอให้ถูกพิษแล้ว ค่อยวิ่งมาขอยาถอนที่นี่”ชาวบ้านผู้นั้นเมื่อได้ยินดังนี้ จึงรีบลนลานกินยา

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาอ๋องผู้ถูกเนรเทศ   บทที่ 766

    เหล่าทหารรับคำสั่ง พร้อมรีบเดินออกจากอำเภอไปสำรวจจำนวนประชากรผ่านไปราวหนึ่งชั่วยาม ทุกคนจึงได้กลับมาพร้อมรายงานต่อเซิ่งฟาง “เรียนใต้เท้า พวกเราได้ไปสำรวจมา ในอำเภอไถหยางปัจจุบันมีผู้คนทั้งสิ้นสี่พันหกร้อยสามสิบเจ็ดคนขอรับ”เจี่ยนอันอันพลันขมวดคิ้ว ลำพังแค่อำเภอไถหยางก็มีตั้งสี่พันกว่าคนแล้วหากพวกเขาล้วนถูกพิษ และไม่อาจเข้าถึงยาถอนพิษได้ทันเวลาจะต่างกับการกวาดล้างทั่วเมืองในอดีตที่ตรงไหน?เพียงแต่การกวาดล้างในหนนี้ มิได้เกิดจากน้ำมือฉู่ชางเหยียน หากแต่เป็นกู้มั่วหลีผู้เดียวคนบ้าที่สมควรตายผู้นี้ นอกจากเขาแล้ว เจี่ยนอันอันแทบนึกไม่ออกว่าจะมีผู้ใด กล้าทำเรื่องเช่นนี้ได้อีกนางครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่งพลางกล่าว “พี่เซิ่งฟาง ข้าต้องรีบปรุงยาถอนพิษ ถึงเวลาท่านค่อยสั่งให้ทหารนำไปแจกจ่ายแก่ชาวบ้านที่อยู่ในอำเภอไถหยาง”“ผู้ได้รับพิษจะช่วยถอนพิษโดยเร็ว แม้ไม่ถูกพิษก็จะได้กินเพื่อป้องกันไว้”เซิ่งฟางรีบรับปากในบัดดลเจี่ยนอันอันรีบทำการปรุงยาทันที ฉู่จวินสิงเกรงว่านางจะเหนื่อย จึงให้คนของเซิ่งฟางยกเก้าอี้มานั่งดีที่บริเวณนี้มีเงาไม้พอให้ร่มรื่น เจี่ยนอันอันจึงไม่ถูกแดดแผดเผามากนัก

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาอ๋องผู้ถูกเนรเทศ   บทที่ 765

    เซิ่งฟางกล่าวถึงตรงนี้ สายตาก็มองมาที่ใบหน้าของเจี่ยนอันอันคล้ายกันเหลือเกิน หน้าตาและรูปร่างของผู้หญิงคนนั้นล้วนคล้ายเจี่ยนอันอันอย่างยิ่งทว่าลักษณะของผู้หญิงคนนั้นมีกลิ่นอายยโสโอหังเพิ่มเข้ามาหลายส่วน“ข้าเห็นว่าผู้หญิงคนนั้นหน้าตาค่อนข้างคล้ายเจ้า นอกจากนี้ระหว่างที่ข้าถาม นางยังบอกว่านางแซ่เจี่ยน”“ข้าเห็นว่าอาภรณ์ของแม่นางเจี่ยนผู้นั้นคล้ายเจ้ามาก นางคงไม่ใช่น้องสาวของเจ้าหรอกนะ”เจี่ยนอันอันแค่นหัวเราะอย่างไม่ยี่หระ “นางเป็นน้องสาวของข้าจริงๆ แต่เป็นน้องสาวที่เกิดจากอนุภรรยา”คิดไม่ถึงว่าเจี่ยนหลิงเยว่จะมาปรากฏตัวในอำเภอไถหยางเมื่อเป็นเช่นนี้ กู้มั่วหลีจะต้องเคยปรากฏตัวในอำเภอไถหยางอย่างแน่นอนแต่ไม่รู้ว่าเขามาทำอันใดที่นี่?ขณะที่คนทั้งสามกำลังสนทนากันอยู่ เจ้าหน้าที่ทางการก็พลันวิ่งเข้ามาหา“ใต้เท้า แย่แล้วขอรับ ตอนนี้เกิดเหตุวางยาพิษหมู่ในอำเภอไถหยางของพวกเรา”“พวกชาวบ้านกำลังร้องทุกข์อยู่หน้าที่ว่าการอำเภอ ท่านคิดว่าควรทำอย่างไรดีขอรับ?”“เจ้าว่าอะไรนะ!” เซิ่งฟางทะลึ่งตัวยืนขึ้นมาเกิดเหตุวางยาพิษหมู่ขึ้นในอำเภอไถหยาง นี่ไม่ใช่เรื่องเล็กน้อยเซิ่งฟางไม่มีเวลา

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาอ๋องผู้ถูกเนรเทศ   บทที่ 764

    พวกเขาล้วนแต่เป็นบุรุษ จะเอาแต่เกาะผู้หญิงกินไปตลอดได้อย่างไรแต่เจี่ยนอันอันกลับไม่คิดเช่นนี้ อย่างไรเสียพี่ใหญ่ก็ไม่เคยปลูกผักและธัญพืชมาก่อนนางกลัวว่าพี่ใหญ่จะปลูกของพวกนี้ได้ไม่ดีแต่เรือนหลังนี้กลับค่อนข้างกว้างขวาง มิสู้ให้พวกเขาเลี้ยงเป็ดเลี้ยงไก่ไว้ในเรือน วันหน้ายังมีเนื้อไว้กินเจี่ยนอันอันคิดถึงตรงนี้ก็เอ่ยยิ้มๆ “พี่ใหญ่ ตอนบ่ายข้าจะเข้าเมือง ถึงตอนนั้นข้าจะซื้อลูกไก่ลูกเป็ดกลับมา”“ท่านกับเซียงเสวี่ยรวมถึงเสิ่นจืออวี้ก็เลี้ยงสัตว์ปีกพวกนี้ไว้ที่บ้านก็แล้วกัน”ลูกไก่ลูกเป็ดพวกนั้นเลี้ยงง่ายมาก แค่ให้อาหารพวกมันเล็กน้อยก็พอแล้วลูกไก่หลายตัวที่นางเลี้ยงอยู่ในตอนนี้ก็เป็นการเลี้ยงแบบเปิดตอนนี้ล้วนโตหมดแล้ว อีกไม่นานก็สามารถออกไข่ได้แล้วเมื่อเซียงเสวี่ยได้ยินว่าจะเลี้ยงลูกไก่ลูกเป็ดก็ปรบมือด้วยความตื่นเต้น“ฮูหยินน้อยรอง ความคิดของท่านดียิ่งนักเจ้าค่ะ ข้าชอบเลี้ยงดูสัตว์ตัวน้อยพวกนี้ที่สุดแล้ว ทั้งยังได้กินไข่ไก่กับไข่เป็ดอีกด้วย”เสิ่นจือเจิ้งเห็นเซียงเสวี่ยมีสีหน้าตื่นเต้น แต่ก็ไม่ได้พูดอะไรมาก เพียงตอบรับอย่างรวดเร็วเขาไม่ค่อยเข้าใจการเลี้ยงไก่เลี้ยงเป็ดสักเท

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาอ๋องผู้ถูกเนรเทศ   บทที่ 763

    ที่แท้พวกเขาก็ไปทำงานที่อำเภอไถหยางนี่เอง“เช่นนั้นวันนี้พวกเขากลับมาเพราะหางานในอำเภอไถหยางทำไม่ได้แล้วงั้นหรือ?”เจี่ยนอันอันก็ยังสงสัยมากอยู่ดี พวกกวนเจี๋ยดูไม่เหมือนคนที่จะหางานไม่ได้นี่นาเสิ่นจือเจิ้งหัวเราะเบาๆ “พวกเขานำเงินจำนวนหนึ่งกลับมาด้วย อยากพักอยู่แถวนี้น่ะ”“ข้าเคยเดินเล่นในหมู่บ้านชิงสุ่ย ไม่มีสถานที่ให้พวกเขาพักอยู่ได้เลย”“ข้าจึงไปเดินเล่นบนเนินเขาสือหลี่ โชคดีที่บนนั้นมีกระท่อมไม้หลังหนึ่งที่พอให้คนเข้าพักได้”ตอนที่เจี่ยนอันอันได้ยินว่าเป็นกระท่อมไม้ก็คิดขึ้นได้ว่าหนิงเจิ้นกับแม่นมหลี่รวมถึงเตียวเฉียงเคยพักที่นั่นมาก่อนเวลาผ่านมานาน กลิ่นคาวเลือดที่นั่นจึงจางหายไปหมดแล้วถ้าให้พวกกวนเจี๋ยเข้าพักก็ใช่ว่าจะทำไม่ได้แต่กระท่อมไม้ไม่ได้มีขนาดกว้างขวางนัก คนหลายคนพักอยู่ที่นั่นเกรงว่าอาจแออัดไปบ้างหลังจากเจี่ยนอันอันบอกกล่าวความคิดในใจออกมาก็ได้รับการเห็นพ้องจากเสิ่นจือเจิ้ง“ที่นั่นไม่กว้างจริงๆ นั่นแหละ แต่พวกเขามีมือมีเท้า สามารถหาวัสดุไม้มาสร้างบ้านเองได้”เจี่ยนอันอันไม่พูดอะไรอีก อย่างไรเสียคนเหล่านั้นก็ไม่ได้มีความสัมพันธ์อันใดกับนางนางไม่จำเป็นต้

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาอ๋องผู้ถูกเนรเทศ   บทที่ 762

    พวกชาวบ้านทำงานกันอย่างขะมักเขม้น พวกเขาเห็นเจี่ยนอันอันกับฉู่จวินสิงมาแล้วก็ยิ้มให้คนทั้งสองท่านปู่เฉินพาทุกคนไปบ้านพวกเขาในช่วงก่อนหน้านี้ก็ได้เทน้ำพุวิญญาณขวดเล็กหนึ่งขวดลงไปในบ่อน้ำในของแต่ละบ้านแล้วสิ่งที่พวกเขาคิดไม่ถึงก็คือ น้ำในบ่อน้ำที่เดิมทีกำลังจะแห้งเหือดหลังจากเทน้ำพุวิญญาณขวดนั้นลงไป น้ำในบ่อก็พลันเพิ่มพูนขึ้นมาในไม่ช้า น้ำก็ปริ่มขอบบ่อ ท่าทางเหมือนจะล้นออกมาอย่างไรอย่างนั้นพวกชาวบ้านหยิบกระบวยตักน้ำพุวิญญาณขึ้นมาดื่มอึกหนึ่ง เมื่อเข้าปากก็รู้สึกว่าหวานสดชื่นอร่อยกว่าน้ำบ่อในสมัยก่อนของที่บ้านพวกเขาเสียอีกเมื่อมีน้ำพุวิญญาณพวกนี้ พวกเขาก็ยิ่งฮึกเหิมกว่าเดิมพวกเขาถางพืชพรรณในทุ่งนาบ้านตนเองออกไปครึ่งหนึ่ง เตรียมพื้นที่ไว้สำหรับปลูกผักหลังพลิกหน้าดินเสร็จเรียบร้อยก็เริ่มปลูกผักในไม่ช้าพวกเขาก็พบว่า เมล็ดพันธุ์ที่ถูกรดด้วยน้ำพุวิญญาณก่อนหน้านี้ล้วนแต่แตกหน่อเล็กๆ ออกมาแล้วเหล่าชาวบ้านยินดีเป็นเท่าตัว ขอแค่สามารถปลูกผักที่รสชาติดีออกมาได้ วันหน้าพวกเขาก็ไม่ต้องกลุ้มใจว่าไม่มีผักกินแล้วผักในทุ่งนาของครอบครัวเจี่ยนอันอันล้วนแต่ใช้น้ำพุวิญญาณรดแน่นอนว่า

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาอ๋องผู้ถูกเนรเทศ   บทที่ 761

    เขาเพิ่งได้ยินบทสนทนาระหว่างคนทั้งสองก็คิดในใจว่าในช่วงหลายวันที่ผ่านมา หลานชายผู้นั้นของเขาเทียวมาหาเขาอยู่บ่อยๆทั้งยังบอกให้เขาไปอยู่ด้วยกันกับครอบครัวของหลานชายในอำเภอไถหยางเขายังดูออกว่า คุณชายผู้นี้สนิทสนมกับเจี่ยนอันอันเป็นอย่างมากถ้าเขาสามารถปล่อยบ้านตัวเองให้คุณชายผู้นี้เช่า เขาก็จะได้เงินมาจำนวนหนึ่งถึงยามนั้นพอเขาไปอยู่ที่บ้านหลานชาย หลานสะใภ้ก็คงไม่ดูแคลนเขาคิดถึงตรงนี้ ชาวบ้านผู้นั้นก็กล่าวว่า “คุณชายท่านนี้ ต้องการหาบ้านพักในหมู่บ้านชิงสุ่ยงั้นรึ?”“ข้าวางแผนไว้ว่าพรุ่งนี้จะไปอยู่กับครอบครัวหลานชายที่อำเภอไถหยาง”“บ้านข้าหลังนี้ถ้าปล่อยไว้ก็คงร้างไปเปล่าๆ มิสู้ข้าปล่อยเช่าให้ท่าน ท่านคิดว่าอย่างไรเล่า?”ครั้นถังหมิงเซวียนได้ยินว่าอีกฝ่ายมีบ้านที่ต้องการปล่อยเช่า เขาก็กระโดดลงมาจากม้าทันทีคราวนี้ดียิ่ง ถ้าสามารถเช่าบ้านสักหลังได้จริงๆ เขาก็จะได้เห็นหน้าเหยียนซวงบ่อยๆ แล้วน่ะสิ“ขอถามพี่ใหญ่ท่านนี้หน่อยสิ บ้านท่านจะปล่อยเช่าในราคาเท่าใดหรือ?”ชาวบ้านเกาท้ายทอย เขาเพิ่งมีความคิดจะปล่อยบ้านให้เช่าเป็นครั้งแรกไม่รู้เลยว่าราคาตลาดตอนนี้เป็นอย่างไรแต่เห็นถังห

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาอ๋องผู้ถูกเนรเทศ   บทที่ 760

    “แม่นางเจี่ยน โปรดอย่าได้ล้อข้าอีกเลย” ขณะที่ถังหมิงเซวียนเอ่ยปาก แม้แต่ติ่งหูก็ยังแดงเรื่อเจี่ยนอันอันเอามือปิดปากแอบอมยิ้มนางตบไหล่เหยียนซวงเบาๆ พลางยิ้มให้นาง “ถังหมิงเซวียนเป็นคนไม่เลวนัก เจ้าต้องถนอมน้ำใจคนอยู่เบื้องหน้าให้ดีล่ะ”“บ้านข้ายังมีงานต้องทำอีก เห็นทีคงไม่รบกวนพวกเจ้าแล้ว”กล่าวจบจึงลุกขึ้นเพื่อจะอำลา ฉู่จวินสิงจึงได้ลุกตาม เตรียมกล่าวลาเช่นกันเหยียนซวงเห็นดังนี้ จึงรีบลุกขึ้นน้อมส่ง“อันอัน ถ้าเจ้ามีเวลา เชิญมานั่งคุยที่นี่ได้นะ”เหยียนซวงซาบซึ้งในความช่วยเหลือของเจี่ยนอันอัน จนนางสามารถใช้ศักยภาพของตน ทำงานหาเลี้ยงชีพได้เองโดยมิต้องห่วงว่าอนาคตจะไม่มีเงินใช้อีกรอจนเจี่ยนอันอันและฉู่จวินสิงจากไปแล้ว ถังหมิงเซวียนจึงได้บอกจุดประสงค์ที่มาให้รู้“วันนี้ข้ามีเรื่องจะบอกกล่าวให้รู้”เหยียนซวงและเหยี่ยนอวี่มองหน้าถังหมิงเซวียนด้วยความฉงน ไม่เข้าใจว่าเขาพูดเรื่องใด?“หลายวันนี้เพราะอาศัยอยู่ในโรงเตี๊ยม เงินที่ข้าติดตัวมาจึงใช้จ่ายจนเกือบไม่เหลือ”ถังหมิงเซวียนกล่าวถึงตรงนี้ เกรงว่าทั้งคู่จะเข้าใจผิดนึกว่าเขามาขอกู้เงินจึงรีบร้อนกล่าวต่อ “ไม่ต้องห่วง ข้าไม่

Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status