共有

บทที่ 46

作者: ซินต้งหรูสุ่ย
เหล่าญาติพี่น้องที่ได้รับเนื้อไก่ต่างพากันกล่าวขอบคุณเจี่ยนอันอัน

พวกเขากัดหมั่นโถวคำหนึ่ง แล้วใช้มือหยิบเนื้อไก่ใส่ปากอย่างไม่รีรอ จากนั้นดื่มน้ำแกงไก่อึกใหญ่ ทุกคนล้วนกินกันอย่างอิ่มเอมและพึงพอใจ

เนื้อไก่ช่างอร่อยยิ่งนัก รสชาติเหนือกว่าสิ่งที่พวกเขาเคยลิ้มลองในจวนเสียอีก

เหล่าทหารรักษาพระองค์ก็ไม่ได้ต่างกัน พวกเขาต่างกินเนื้อคำโตกันอย่างเอร็ดอร่อย

น่าเสียดายยิ่งนักที่เนื้อไก่นั้นมีน้อยเกินไป พวกเขาได้ลิ้มรสกันเพียงไม่กี่ชิ้นก็หมดสิ้นแล้ว

โชคดีที่ยังมีน้ำแกงไก่หม้อใหญ่ ทหารรักษาพระองค์ต่างแบ่งกันคนละถ้วยสองถ้วย ไม่นานน้ำแกงก็หมดลงจนถึงก้นหม้อ

ระหว่างนั้น เจี่ยนอันอันก็นำเนื้อไก่ไม่กี่ชิ้นไปให้ฉู่จวินสิง

นางเองก็กินเนื้อไก่ไปบ้าง แต่เพราะเกรงว่าเนื้อจะไม่พอแบ่ง จึงไม่ได้กินมากไปกว่านั้น

เจี่ยนอันอันคิดว่าหากเป็นเช่นนี้ต่อไปคงไม่ดีแน่ เพราะเนื้อไก่นั้นน้อยเกินไป แต่คนกลับมีมาก

นางจำต้องหาอาหารอื่นมาเพิ่มให้มากขึ้น

เมื่อคิดได้เช่นนั้น เจี่ยนอันอันก็ลุกขึ้นยืนและเดินออกจากโถงใหญ่

หานซื่อเห็นเจี่ยนอันอันเดินออกไป คราวนี้เขาไม่ได้ตามนางไปเช่นเคย

เจี่ยนอันอันเดินไปยังบริเวณหลังคร
この本を無料で読み続ける
コードをスキャンしてアプリをダウンロード
ロックされたチャプター

関連チャプター

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาอ๋องผู้ถูกเนรเทศ   บทที่ 47

    ฉู่อันเจ๋อเห็นดังนั้น จึงรีบหยิบถุงน้ำมาให้ฉู่จวินสิงดื่ม “พี่รอง ท่านค่อยๆ กิน ไม่มีใครแย่งท่านหรอก”ฉู่จวินสิงดื่มน้ำแล้วจึงกลืนมันเทศที่ติดอยู่ในคอลงไปได้สายตาฉู่จวินสิงเย็นชาดั่งน้ำแข็ง จ้องฉู่อันเจ๋อเขม็งฉู่อันเจ๋อที่ถูกจ้องด้วยสายตานั้นถึงกับตัวสั่น เขาย่นคอลงแล้วพูดว่า “พี่รอง ท่านอย่ามองข้าเช่นนั้น สายตาท่านน่ากลัวเหลือเกิน”ฉู่จวินสิงพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชาอย่างยิ่ง “หากเจ้ากล้าพูดเรื่องแต่งงานอีก ข้าจะเย็บปากเจ้าเสีย”ฉู่อันเจ๋อรู้ดีว่าพี่ชายรองของเขาเป็นคนที่พูดจริงทำจริง เขาตกใจจนรีบเอามือปิดปากทันที ไม่กล้าพูดอะไรออกมาอีกแม้แต่คำเดียวบทสนทนาของสองพี่น้องนั้น ทั้งหมดล้วนเข้าหูของเจี่ยนอันอันพอคิดถึงอนาคตที่ต้องเข้าพิธีแต่งงานกับฉู่จวินสิง ไม่เพียงแต่ต้องอยู่ใต้ชายคาเดียวกันเท่านั้น ยังต้องนอนบนเตียงเดียวกันอีกด้วยมุมปากของเจี่ยนอันอันก็อดไม่ได้ที่จะกระตุกเล็กน้อยระหว่างนางกับฉู่จวินสิงนั้น เพิ่งจะรู้จักกันได้เพียงแค่สองวันเท่านั้นทั้งคู่แทบไม่มีปฏิสัมพันธ์อะไรกันมากนัก ยิ่งไม่ต้องพูดถึงความรู้สึกใดๆเจี่ยนอันอันยังไม่คิดอยากแต่งงานกับฉู่จวินสิงเร็วขนาดนี้อ

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาอ๋องผู้ถูกเนรเทศ   บทที่ 48

    หานซื่อลอบนึกชื่นชมความสามารถของเจี่ยนอันอันจากใจจริง เขารู้สึกได้รางๆ ว่าเจี่ยนอันอันไม่ใช่คนธรรมดา ความสามารถของนางคงไม่ได้หยุดอยู่เพียงเท่านี้หลังจากทุกคนได้รับประทานอาหารจนอิ่มหนำ ความง่วงก็เข้ามาเยือน ผู้คนพากันนอนพักกันตามสถานที่ที่อยู่ใกล้ที่สุด และการนอนหลับในคืนนี้ก็เต็มไปด้วยความสบายใจเช้าวันรุ่งขึ้น เจี่ยนอันอันตื่นขึ้นมาเป็นคนแรก กองไฟที่เคยลุกโชนในยามค่ำคืนได้มอดดับไปนานแล้วเจี่ยนอันอันยืดเส้นยืดสายคลายความเมื่อยล้า แล้วเริ่มทำเปลหามให้ฉู่จวินสิงนางใช้จีวรพระมัดเข้ากับไม้สองท่อน ไม่นานนักนางก็ทำเปลหามอย่างง่ายจนเสร็จเจี่ยนอันอันกำลังจะกลับไปนั่งที่เดิม แต่พลันรู้สึกถึงสายตาบางคู่ที่จ้องมองมาที่นางนางหันไปมองก็เห็นฉู่จวินสิงตื่นขึ้นมาแล้ว สายตาของเขาจับจ้องไปที่นางอย่างไม่วางตาเนื่องจากเมื่อคืนได้ดื่มน้ำแกงไก่และกินอิ่มเต็มที่ ใบหน้าของฉู่จวินสิงในตอนนี้ดูดีขึ้นกว่าก่อนมากเจี่ยนอันอันเดินเข้าไปตรวจสอบบาดแผลภายนอกของฉู่จวินสิงอีกครั้ง ยาที่นางทาไว้เมื่อคืนนี้เริ่มออกฤทธิ์แล้ว ทำให้บางส่วนของบาดแผลดีขึ้นมากเจี่ยนอันอันหยิบยารักษาแผลชุดใหม่ออกมา และเริ่มทาย

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาอ๋องผู้ถูกเนรเทศ   บทที่ 49

    เจี่ยนอันอันเดินกลับเข้ามาในโถงใหญ่ก็พบว่าทุกคนตื่นกันหมดแล้วเนื่องจากเมื่อคืนพวกเขากินไก่และหมั่นโถวกันอย่างอิ่มหนำ ทำให้มันเทศเหลืออยู่ไม่น้อย และในตอนนี้ทุกคนก็ได้กินมันเทศที่เหลือจนหมดสิ้นเพื่อไม่ให้เสียเวลา หานซื่อจึงประกาศให้พวกเขาออกเดินทางทันที อากาศหลังฝนตกแจ่มใสเป็นพิเศษ ทุกคนออกจากวัดร้างและมุ่งหน้าเดินไปยังถนนในเมืองเฉาซาน เนื่องจากพวกเขาเป็นนักโทษเนรเทศ การเดินทางของพวกเขาจึงดึงดูดสายตาของชาวเมืองเฉาซานได้อย่างรวดเร็วผู้คนต่างพากันจับกลุ่มพูดคุยถึงเรื่องราวของครอบครัวเยียนอ๋องบางคนจำได้ว่าเสื้อผ้าที่ฉู่จวินหลุนสวมใส่นั้นเป็นชุดที่มีเพียงอ๋องเท่านั้นที่สามารถสวมได้ เสียงวิพากษ์วิจารณ์จึงยิ่งดังขึ้นเรื่อยๆ ทว่าก็ยังไม่มีผู้ใดทราบแน่ชัดว่าคณะเดินทางนี้เป็นจวนอ๋องคนใด และพวกเขาก่ออาชญากรรมใด ถึงต้องถูกเนรเทศเช่นนี้เจี่ยนอันอันประคองฮูหยินใหญ่ เดินนำหน้ากลุ่มขบวนไปเหล่าญาติพี่น้องของจวนเยียนอ๋อง ต่างพากันเดินอย่างองอาจ ไม่ก้มหัวให้ใครแม้เสียงวิพากษ์วิจารณ์ของชาวบ้านจะดังแว่วเข้ามา แต่ก็หาได้มีผู้ใดใส่ใจหรือหวั่นไหวแต่อย่างใดเมื่อพวกเขาเดินพ้นจากเมืองเฉาซ

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาอ๋องผู้ถูกเนรเทศ   บทที่ 50

    ฉู่อันเจ๋อเมื่อได้ยินข้อเสนอนั้น ก็รีบก้าวออกมาอย่างรวดเร็วพลางพูดว่า “พี่ใหญ่ ข้าจะเป็นคนแบกท่านเอง!”ไม่พูดเปล่า เขาเดินมายังเบื้องหน้าของฉู่จวินหลุน คุกเข่าลงแล้วเตรียมจะแบกพี่ชายขึ้นหลังฉู่จวินหลุนมองดูภูเขาสูงตระหง่านอีกครั้ง ก่อนจะเหลือบมองฉู่อันเจ๋อด้วยสายตาหนักใจในที่สุดด้วยความจำใจ เขาจึงต้องละทิ้งรถเข็น แล้ววางแขนพาดลงบนบ่าของฉู่อันเจ๋อฉู่อันเจ๋อแบกพี่ชายขึ้นหลัง เดินตามคณะต่อไปแต่เมื่อไม่มีรถเข็น ก็เท่ากับว่ากลุ่มของพวกเขาขาดอีกคนที่สามารถต่อสู้ได้ไปหากอีกไม่นานกลุ่มโจรภูเขาจะเข้ามาปล้นจริงๆ พวกเขาจะปกป้องคนในครอบครัวของเยียนอ๋องอย่างไร?ในใจของฉู่จวินหลุนเต็มไปด้วยความรู้สึกเสียใจ หากไม่ใช่เพราะขาของเขาที่ไม่สามารถขยับได้เขาคงไม่ต้องให้ฉู่อันเจ๋อมาคอยแบกเช่นนี้เมื่อเหล่าญาติพี่น้องพากันปีนขึ้นมาจนถึงกลางภูเขาอย่างยากลำบาก ในที่สุดก็อ่อนล้าจนเดินต่อไปไม่ไหว ทุกคนจึงทรุดตัวลงนั่งกับพื้นอย่างหมดแรงหานซื่อเห็นดังนั้นก็รีบสั่งให้ทุกคนหยุดพักเจี่ยนอันอันนั่งลงข้างกายฮูหยินใหญ่ นางสอดส่องสายตามองไปรอบๆนางคิดว่าหากจะมีโจรปรากฏตัวขึ้นมาปล้นที่นี่ ย่อมต้องมีเส้น

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาอ๋องผู้ถูกเนรเทศ   บทที่ 51

    ฮูหยินใหญ่เริ่มกังวล พวกเขามีคนในจวนอยู่ยี่สิบกว่าชีวิต บัดนี้ล้วนเป็นผู้ถูกเนรเทศหากตายลงใต้คมดาบของโจรภูเขา ก็จะไม่มีผู้ใดเก็บศพอีกทั้งนางยังไม่แน่ใจนักว่าทหารรักษาพระองค์เหล่านี้มีฝีมือเพียงพอที่จะเอาชนะโจรภูเขาได้ และจะสามารถปกป้องพวกเขาออกจากที่นี่ได้สำเร็จหรือไม่ฉู่จวินหลุนเองก็ขมวดคิ้ว จ้องมองเจี่ยนอันอันด้วยความสงสัยแม้ว่าก่อนหน้านี้ ตอนที่พวกเขาเผชิญกับกลุ่มคนชุดดำ เจี่ยนอันอันจะแสดงความกล้าหาญอย่างมาก ใช้เข็มเงินในมือนางสังหารคนเหล่านั้นจนหมดแต่ตอนนี้พวกเขากำลังเผชิญกับโจรภูเขา ที่นี่มีโจรภูเขามากมาย เข็มเงินของเจี่ยนอันอันจะฆ่าได้สักกี่คน?นอกจากนี้ ในบรรดาญาติพี่น้องเหล่านี้ ยังมีทั้งคนชราและคนเจ็บป่วยอยู่ ฉู่จวินสิงก็ยังเดินไม่ได้ อย่าว่าแต่จะลุกขึ้นต่อสู้กับโจรภูเขาเลย แม้จะมีเขากับฉู่อันเจ๋ออยู่ด้วย แต่ก็คงสู้พวกโจรไม่ได้ พวกเขาจะเอาชนะโจรภูเขาเหล่านั้นได้อย่างไร?ฮูหยินใหญ่จึงเอ่ยขึ้นว่า “อันอัน การไปยังค่ายโจรนั้นอันตรายมาก แม้ว่าภูเขานี้จะชันสักหน่อย แต่ข้าคิดว่าเราค่อยๆ เดินช้าๆ ก็ยังพอจะข้ามภูเขานี้ไปได้ ข้าว่าเราไม่ควรเสี่ยงไปค่ายโจรนะ”คำพูดของฮูหยิ

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาอ๋องผู้ถูกเนรเทศ   บทที่ 52

    เมื่อขบวนเดินทางมาถึงระยะหนึ่งแล้ว ทหารรักษาพระองค์สองนายที่นำทางอยู่ก็หยุดเท้าลงพวกเขามองไปยังหานซื่อแล้วเอ่ยว่า “หัวหน้า หากเดินต่อไปอีกสองลี้ เราก็จะถึงค่ายโจรแล้ว ท่านจะให้เราเดินต่อไปหรือไม่?”หานซื่อเองก็ไม่ปรารถนาที่จะไปยังค่ายโจร แต่ในเมื่อเจี่ยนอันอันตัดสินใจแน่วแน่ว่าจะไป เขาจึงจำต้องกัดฟันกล่าวว่า “ทำตามที่คุณหนูใหญ่เจี่ยนต้องการเถิด เดินต่อไป”ทหารรักษาพระองค์ทั้งสองแม้จะไม่เต็มใจ แต่ก็จำต้องนำทางทุกคนเดินหน้าต่อไปพวกเขาก้าวออกไปได้เพียงไม่กี่ก้าว จู่ๆ กลุ่มโจรภูเขาก็โผล่ออกมาจากรอบทิศทางหนึ่งในโจรที่ถือดาบยาวตะโกนขึ้นด้วยเสียงเกรี้ยวกราดว่า “หยุด! ทางนี้ข้าคือผู้เปิด ต้นไม้นี้ข้าคือผู้ปลูก หากเจ้าปรารถนาจะผ่านทางนี้ จงทิ้งทรัพย์สินไว้เป็นค่าเดินทาง หากกล้าปฏิเสธ จงมาให้ข้าฟันศีรษะเสีย อย่าหวังว่าจะมีคนเก็บศพเจ้าที่ทุ่งร้างนี้!”เมื่อทุกคนเพ่งมองไปยังคนที่พูด พวกเขาพบว่าคนที่ตะโกนดุด่ากลับเป็นหญิงสาววัยยี่สิบปีเศษนางเกล้าผมยาวเป็นมวย และใช้ผ้าผืนหนึ่งพันศีรษะไว้ทหารรักษาพระองค์ต่างดึงดาบจากเอวออกมาทันที พร้อมกับแสดงท่าทีระมัดระวัง จ้องมองหญิงสาวเบื้องหน้าอย่างเ

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาอ๋องผู้ถูกเนรเทศ   บทที่ 53

    เหวินอิงขมวดคิ้วแน่น จ้องมองหานซื่อด้วยสายตาโกรธเกรี้ยว “พวกเจ้ากล้าดีอย่างไรมาใช้เล่ห์กลกับข้า หากมีฝีมือก็สู้กับข้าตัวต่อตัว!”เจี่ยนอันอันยิ้มพลางเดินเข้าไปใกล้ ตบเบาๆ ที่ไหล่ของหานซื่อเป็นสัญญาณให้เขาวางกระบี่ลงหานซื่อแม้จะไม่เข้าใจว่าเจี่ยนอันอันต้องการทำอะไร แต่ก็ทำตามที่นางบอก เขาเก็บกระบี่ลงตามคำสั่งเหวินอิงเห็นดังนั้นก็หมายจะหยิบดาบที่หล่นอยู่บนพื้นขึ้นมาเพียงแต่ได้ยินเจี่ยนอันอันเอ่ยขึ้นว่า “เข็มเงินของข้าเคลือบยาพิษไว้ หากเจ้ากล้าขยับแม้เพียงนิดเดียว พิษจะกำเริบ และเจ้าจะตายทันที”เมื่อเหวินอิงได้ยินคำนี้ สีหน้าของนางพลันบิดเบี้ยวไม่น่ามองทันทีนางเริ่มรู้สึกว่าแขนทั้งสองข้างของตนนั้นเริ่มไร้ความรู้สึกแล้ว ไม่นานนัก ร่างกายครึ่งหนึ่งของเหวินอิงก็เริ่มแข็งเกร็งขึ้นสีหน้าของเหวินอิงเปลี่ยนไปอย่างเห็นได้ชัด นางถลึงตามองเจี่ยนอันอัน ขบกรามแน่นแล้วพูดว่า “พวกเจ้าเป็นใครกันแน่? เหตุใดจึงมาสร้างความวุ่นวายบนเขาของพวกข้า?”เจี่ยนอันอันยังคงยิ้มอย่างอ่อนโยน มองเหวินอิงพลางดึงเข็มเงินออกจากข้อมือของนางเมื่อเข็มเงินถูกดึงออก เหวินอิงรู้สึกเจ็บแปลบที่ข้อมือและในทันใดนั้น

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาอ๋องผู้ถูกเนรเทศ   บทที่ 54

    เมื่อเหวินอิงได้ยินคำพูดนั้น หัวใจก็พลันหล่นวูบลงนางควรจะรู้ตั้งแต่แรกแล้วว่าเด็กสาวผู้นี้ไม่มีทางมอบยาถอนพิษให้แก่ตนโดยง่ายแต่เมื่อครู่ ด้วยความเจ็บปวดและอาการชาอย่างแสนสาหัส ทำให้นางร้อนรนจนขาดสตินางไม่ได้คิดอะไรมาก จึงกลืนยาลงไปทันทีตอนนี้แย่แล้ว นางกลับพบว่าร่างกายถูกพิษร้ายแรงอีกชนิดหนึ่งเข้าไปแล้วเหวินอิงกัดฟันกรอด มองเจี่ยนอันอันด้วยสายตาเคียดแค้น มือที่กำดาบไว้สั่นเทาไม่หยุดแม้จะต้องตาย นางก็จะลากเจี่ยนอันอันลงไปด้วยให้ได้“นังสารเลว เอายาถอนพิษออกมาเดี๋ยวนี้!” เหวินอิงตวาดลั่น พร้อมกับเงื้อดาบจะฟันลงที่เจี่ยนอันอันทว่าในชั่วขณะนั้น นางกลับพบว่าร่างกายของนางราวกับถูกดูดพลังไปหมดสิ้น ไม่อาจใช้แรงได้เลยแม้แต่น้อยดาบในมือของนาง บัดนี้กลับรู้สึกหนักอึ้งราวกับพันชั่งเหวินอิงจับดาบไว้ไม่แน่น จนดาบหลุดมือร่วงลงสู่พื้นดัง ‘เคร้ง’เมื่อครู่ใบหน้าของเหวินอิงยังเต็มไปด้วยความโกรธเกรี้ยว ทว่าในชั่วขณะนั้นเอง ร่างกายของนางกลับรู้สึกอ่อนแรงลงอย่างฉับพลันนางเซถลาไปสองสามครั้ง ก่อนจะทรุดตัวลงกับพื้นอย่างหมดสภาพพวกโจรที่เห็นเช่นนั้นก็ร้องตะโกนด้วยความตกใจว่า “รองหัวหน้า

最新チャプター

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาอ๋องผู้ถูกเนรเทศ   บทที่ 821

    แต่ไม่ว่าเขาออกแรงมากเท่าไรก็ไม่อาจผลักหินยักษ์ออกไปได้ก่อนหน้านี้ที่นี่ก็เคยเกิดการถล่มมาก่อน แต่ไม่ได้หนักหนาเท่าครั้งนี้หากยังไม่ช่วยคนข้างในออกมา เกรงว่าเด็กสองคนนั้นคงต้องจบชีวิตลงที่นี่จริงๆ แล้วเจี่ยนอันอันขมวดคิ้วมุ่น นางพลันก้าวออกมาบริเวณหน้าถ้ำแล้วออกแรงผลักหินยักษ์ก้อนนั้นแต่หินยักษ์หนักเกินไป นางผลักอยู่หลายทีแต่ก็ไม่สามารถทำให้หินยักษ์นั้นขยับเขยื้อนได้เลยฉู่จวินสิงก็รีบเดินเข้ามาหา เขาให้เจี่ยนอันอันถอยออกไปแล้วรวบรวมกำลังภายในฟาดฝ่ามือใส่หินยักษ์ก้อนนั้นอย่างหนักหน่วงครั้นฝ่ามือนั้นฟาดลงไป หินยักษ์ก้อนนั้นเพียงสั่นคลอนไม่กี่ที แต่ก็ไม่ได้ถูกกำลังภายในทะลวงไปได้ขณะที่ทุกคนไม่รู้ว่าควรทำอย่างไรดีนั่นเอง เจี่ยนอันอันพลันกวาดตามองคลังอาวุธในมิติครุ่นคิดว่าสามารถหยิบระเบิดออกมาจากในนั้นสักลูกได้หรือไม่โชคดีที่ตอนที่นางช่วยสองแม่ลูกสกุลเฉียวต่อกรกับเฝิงซานกวงก่อนหน้านี้ คลังอาวุธได้เลื่อนขั้นอย่างเงียบๆคำประกาศปรากฏขึ้นในมิติ : [ระดับคลังอาวุธ 50 สามารถหยิบอาวุธได้สองชนิด]เจี่ยนอันอันนึกยินดี นางรีบบอกให้ทุกคนหลบไปนอกเหมือง แม้แต่ฉู่จวินสิงก็ให้ออกไปจากตร

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาอ๋องผู้ถูกเนรเทศ   บทที่ 820

    เจ้าเมืองตานประสานมือต่อเจี่ยนอันอันและฉู่จวินสิง “เรื่องราวได้จบลงแล้ว ข้าน้อยคงต้องขอกลับจวนไปไต่สวนเรื่องนี้ต่อ ขอลาแต่เพียงเท่านี้”เจี่ยนอันอันประสานมือตอบเช่นกัน “ท่านค่อยๆ เดิน ไม่ส่งแล้ว อย่างไรคงต้องรบกวนท่านให้ความเป็นธรรมแก่เรื่องนี้”“ข้าน้อยทราบดี” เจ้าเมืองตานกล่าวพลางขึ้นรถม้าไปพร้อมกับถอนหายใจหนักหน่วงอีกครั้งเหตุใดเขาจึงมีหลานชายที่ชอบก่อเรื่องนี้เช่นนี้หนอ? ช่างไม่ยอมปล่อยให้เขาได้อยู่สบายบ้างเลยรอจนเจ้าเมืองตานจากไปแล้ว เจี่ยนอันอันจึงหันมามองเหล่าบริวารของเฝิงซานกวงอีกครั้งซึ่งทุกคนต่างก็รู้ว่า ยามนี้ในเหมืองได้เปลี่ยนเจ้าของใหม่แล้วพวกเขาจึงไม่กล้าทำส่งเดชอีก ได้แต่ก้มหน้าก้มตายืนนิ่งอยู่เจี่ยนอันอันกล่าวเสียงเย็นชา “พวกเจ้ามัวยืนเซ่อหาอันใดอีก ที่นี่ไม่ใช่ถิ่นของเฝิงซานกวงอีกแล้ว แต่ละคนจงรีบไสหัวไปให้พ้น”“หากวันหน้าข้าได้รู้ว่า พวกเจ้ากลับมาก่อเรื่องที่นี่อีก ข้าจะให้มีจุดจบเช่นเดียวกับเฝิงซานกวง”บรรดาลูกน้องเฝิงซานกวงเห็นว่าบัดนี้คงได้ตกงานเป็นแน่แท้ต่อไปจะรับเงินใต้โต๊ะคงไม่มี ยิ่งอย่าหมายว่าคิดลักขโมยแร่หินในเหมืองออกไปขายบ้างจึงต่างพากัน

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาอ๋องผู้ถูกเนรเทศ   บทที่ 819

    แต่เรื่องนี้หากจะว่าไป ก็ล้วนเป็นความผิดของเฝิงซานกวงหากเขามิได้แอบใช้แรงงานเด็ก เจี่ยนอันอันก็ไม่อาจใช้เพียงหนึ่งร้อยตำลึง มาซื้อเหมืองแร่แห่งนี้ได้ไม่ทันรอให้เจ้าเมืองตานได้กล่าวตอบ เฝิงซานกวงกลับโมโหขึ้นก่อน “นังตัวดี อย่าถือว่าเคยเป็นอดีตชายาเยียนอ๋องมาก่อน ก็จะใช้เงินเพียงหนึ่งร้อยตำลึงมาซื้อเหมืองของข้าได้”“ขอบอกให้รู้ เหมืองแห่งนี้ข้าเป็นคนขุดขึ้นเอง จะไม่มีวันยอมขายให้เจ้าเด็ดขาด”เจี่ยนอันอันมองหน้าเฝิงซานกวงด้วยแววตาดูหมิ่น สีหน้าเต็มไปด้วยความเย้ยหยัน“ฟังนะเฝิงซานกวง บัดนี้เจ้ากลายเป็นนักโทษแล้ว มีสิทธิ์อันใดมาเพ้อเจ้อไร้สาระกับข้าอีก”เฝิงซานกวงโกรธจนสุดจะทนไหว พลันกระอักโลหิตออกจากปากทันทีพร้อมพาเอาฟันหน้าสองซี่ที่ถูกต่อยร่วงเมื่อครู่นี้ออกมาด้วยเจ้าเมืองตานรู้ดีว่าไม่อาจสู้เจี่ยนอันอันกับฉู่จวินสิงได้ อีกทั้งเรื่องนี้ก็เป็นความผิดของเฝิงซานกวงจริงว่าตามกฎหมายแล้ว เมื่อเฝิงซานกวงทำผิดเช่นนี้ เหมืองของเขาก็ควรจะถูกทางการยึดคืนดังนั้นเจี่ยนอันอันจึงได้มาพูดกับเขา ว่าจะขอซื้อเหมืองแห่งนี้ไว้เองอีกทั้งเฝิงซานกวงก็ไม่มีสิทธิ์ชอบธรรม ที่จะยับยั้งการซื้อขายของ

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาอ๋องผู้ถูกเนรเทศ   บทที่ 818

    “นี่คือสัญญาฉบับใหม่ที่ข้าเพิ่งเขียนขึ้นมา ทั้งเฝิงซานกวงและเฉียวซื่อต่างได้ลงชื่อเรียบร้อย”“จึงอยากให้ท่านเจ้าเมืองได้ลงชื่ออีกคน เมื่อเป็นเช่นนี้แล้ว วันหน้าเฝิงซานกวงจะได้ไม่กล้าบิดพลิ้วไปล่วงเกินเฉียวซื่ออีก”เจ้าเมืองตานมองดูข้อความในสัญญาฉบับใหม่ เห็นเนื้อหาล้วนสมเหตุสมผลดีอีกทั้งเรื่องนี้ก็ถือเป็นความผิดของเฝิงซานกวงก่อน จึงยอมรับพู่กันมา พร้อมทั้งเขียนชื่อตนเองลงไปเจี่ยนอันอันยิ้มๆ พร้อมนำแป้นประทับตรา มอบให้เจ้าเมืองตานได้ประทับลายนิ้วอีกซ้ำอีกสัญญาชุดเดียวกันแต่มีสองแผ่น เจี่ยนอันอันจึงแบ่งให้เจ้าเมืองตานและเฝิงซานกวงต่างถือไว้คนละแผ่น“มีเจ้าเมืองตานเป็นพยานอีกคน หากวันหน้าเฝิงซานกวงกล้าไปล่วงเกินเฉียวซื่อสองแม่ลูกอีก ให้ข้ารู้เข้า ข้าจะไม่ปล่อยเจ้าไว้”เฝิงซานกวงแค้นจนขบเขี้ยวเคี้ยวฟัน นึกอยากหักคอเจี่ยนอันอันให้ตายคามือไปเสียเยียนอ๋องพระชายาบ้าบออันใดกัน ยามนี้ล้วนถูกฮ่องเต้ปลดเป็นสามัญชนทั้งสิ้น ซ้ำยังถูกเนรเทศมาอยู่เมืองอินเป่ยต่างหากบัดนี้ฐานะของพวกเขา จะต่างจากเขาที่ตรงไหน?แต่พอมาอยู่นี่แล้ว ยังกล้ามาทำเหิมเกริมอีกรอให้เรื่องนี้จบสิ้นเมื่อใด ต้องหาวิ

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาอ๋องผู้ถูกเนรเทศ   บทที่ 817

    แต่หากเป็นความผิดของอีกฝ่ายหนึ่ง เขาในฐานะอารอง ก็จะไม่ละเว้นผู้ทำร้ายเฝิงซานกวงเช่นกันแต่ไม่คาดคิดว่า เพียงลงจากรถม้า ก็ได้เห็นเยียนอ๋องและพระชายาอยู่ที่นี่ด้วยเจ้าเมืองตานนึกหวั่นใจขึ้น คงไม่ใช่เพราะเฝิงซานกวงไปทำความผิดอันใดเข้าอีกหรอกนะเจี่ยนอันอันใบหน้าแฝงรอยยิ้ม พร้อมนำสัญญาเผด็จการที่เฝิงซานกวงและเฉียวซื่อทำไว้ฉบับแรกให้เจ้าเมืองตานได้ดูเจ้าเมืองตานดูแล้วจึงเกิดความสงสัย “ในสัญญาได้ลงชื่อทั้งสองฝ่ายไว้ แสดงว่าอีกฝ่ายก็ยินยอมพร้อมใจ แล้วจะผิดอย่างไร?”แม้ว่าเงื่อนไขที่ระบุไว้จะมีแต่ความเอารัดเอาเปรียบ แต่ก็มิได้บ่งบอกถึงสิ่งใดไฉนจึงต้องบาดหมางจนให้เขามาด้วยตนเอง?และเจ้าเมืองตานก็เห็นลูกน้องของเฝิงซานกวง ต่างถูกทำร้ายจนสะบักสะบอมเขามองหน้าเจี่ยนอันอันด้วยความสงสัย ไม่เข้าใจว่าเหตุใดนางกับฉู่จวินสิงจึงต้องทำร้ายลูกน้องเฝิงซานกวงเช่นนี้เจี่ยนอันอันดึงตัวแม่ลูกตระกูลเฉียวมาเข้าใกล้ พลางกล่าวต่อเจ้าเมืองตาน “เจ้าเมืองตาน คนนี้ก็คือผู้ทำสัญญากับเฝิงซานกวง”“นางไม่รู้หนังสือ ข้อความในสัญญาล้วนเป็นเฝิงซานกวงอ่านให้ฟังทั้งสิ้น”“แต่เท่าที่ข้ารู้ เฝิงซานกวงมิได้อ่านเนื้อ

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาอ๋องผู้ถูกเนรเทศ   บทที่ 816

    เจี่ยนอันอันแม้ถูกด่าว่าก็หาโกรธเคืองไม่ กลับกลายเป็นฉู่จวินสิงที่เดินขึ้นหน้า พลางต่อยเข้าที่ปากเฝิงซานกวงหนึ่งหมัด“เจ้ากล้าด่าเหนียงจื่อของข้า เห็นทีอยากถูกเลาะฟันออกจากปากเสียแล้ว”หมัดนี้ของฉู่จวินสิงหนักหน่วงยิ่ง ถึงขั้นทำให้ฟันหน้าของเฝิงซานกวงร่วงสองซี่ในบัดดลแต่เพราะเฝิงซานกวงถูกผ้าพันแผลปิดหน้าไว้หมด ฟันหน้าจึงค้างอยู่ในปาก จะบ้วนทิ้งก็ไม่ได้ กลืนลงคอก็ไม่กล้าอีกฟันหน้าถูกค่อยจนร่วง ริมฝีปากก็ยังแตกซ้ำความเจ็บปวดในปากนั้น แทบทำให้เฝิงซานกวงอยากด่าไปถึงบุพการีแต่ภายหลังได้ลิ้มลองหมัดของฉู่จวินสิง เขากลับไม่กล้าใช้คำพูดดุเดือดออกมาอีกแม้แต่คำเดียวทันใดนั้นเอง มีเสียงรถม้าแว่วมาแต่ไกลทุกคนหันมองไปตามเสียงนั้น จึงเห็นรถม้าของทางการวิ่งตรงมาคันหนึ่งและผู้ที่ไปส่งข่าวยังจวนเจ้าเมืองตาน ก็วิ่งตามหลังรถม้ามาเจี่ยนอันอันผุดรอยยิ้มที่มุมปาก ดูท่าเจ้าเมืองตานมาได้รวดเร็วดีแท้รถม้ามาหยุดที่เบื้องหน้าทุกคนเร็วพลัน โดยมีเจ้าเมืองตานเปิดผ้าม่านแล้วก้าวเดินลงมาทันทีที่เห็นเฝิงซานกวงใบหน้าห่อด้วยผ้าพันแผลหนาเตอะ ซ้ำมุมปากยังมีคราบโลหิตซึมออกมา“เจ้าไปก่อกรรมทำเข็ญเรื่อง

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาอ๋องผู้ถูกเนรเทศ   บทที่ 815

    เจี่ยนอันอันยิ้มเล็กน้อย “พี่เฉียว อย่ามัวยืนเฉย รีบลงชื่อก่อนเถิด”“ประเดี๋ยวเมื่อเจ้าเมืองตานมาถึง ยังต้องให้เขาดูด้วย”เจี่ยนอันอันกล่าวเสียงเบามาก จงใจมิให้เฝิงซานกวงกับลูกน้องเขาได้ยินแต่แม่ลูกตระกูลเฉียวและฉู่จวินสิงกลับได้ยินชัดเจนฉู่จวินสิงมุมปากเชิดขึ้น คิดในใจว่าการจะสั่งสอนคนเช่นเฝิงซานกวง ต้องใช้วิธีนี้จึงจะสาสมเฝิงซานกวงได้ยินไม่ชัดว่าเจี่ยนอันอันพูดเรื่องใด แต่มั่นใจว่าคงมิใช่เรื่องดีแน่นอนเฉียวซื่อรับเอากระดาษและพู่กันไป พลางเขียนชื่อตนเองบนกระดาษด้วยลายมือโย้เย้นางกำลังคิดอยู่ว่าต้องกัดนิ้วตนให้ขาดดีหรือไม่ พลันเห็นเจี่ยนอันอันไม่รู้ไปหยิบแป้นประทับตราจากที่ใดออกมาหนึ่งอันเจี่ยนอันอันกล่าวยิ้มๆ “พี่เฉียว การประทับตราของเราไม่ต้องเสียโลหิต”เฉียวซื่อยิ้มตามเช่นกัน พลางกดนิ้วมือลงบนแป้นนั้น แล้วประทับลายนิ้วลงไปบนสัญญาอีกทีเมื่อต่างลงนามในสัญญาฉบับใหม่เรียบร้อย ฉบับเก่าก็นับว่าเป็นโมฆะไปแต่เจี่ยนอันอันกลับไม่คิดฉีกสัญญาฉบับเก่าทิ้งไป นางจะรอให้เจ้าเมืองตานมาถึง และให้เขาดูเงื่อนไขเอาเปรียบที่อยู่ในนั้นนางใช้วิธีเดียวกันนี้ เขียนสัญญาใหม่ขึ้นมาอีกฉบับ

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาอ๋องผู้ถูกเนรเทศ   บทที่ 814

    ยามนี้เขารู้สึกเสียใจยิ่ง เมื่อครู่ไม่ควรกล่าวถึงท่านอารองออกมาเร็วถึงเพียงนั้นแต่บัดนี้ลูกน้องไปเชิญท่านอามาแล้ว ถึงตอนนั้นเขาจะทำอย่างไรดี?เมื่อนึกถึงตรงนี้ เฝิงซานกวงรีบกล่าวต่อลูกน้องอีกคน “เจ้าไปบอกให้อู่เฉียงกลับมา”ลูกน้องผู้นั้นรับคำสั่งกำลังจะรีบวิ่งไปแต่เดินได้ไม่ถึงสองก้าว พลันถูกฉู่จวินสิงขวางหน้าไว้ก่อน“ผู้ใดกล้าขยับเขยื้อน ข้าจะให้ผู้นั้นเลือดนองอาบพื้นดินในบัดดล”ลูกน้องผู้นั้นได้แต่หวาดกลัวจนชะงักงัน พร้อมหันไปมองเฝิงซานกวง“ลูกพี่...”เขาไม่รู้ว่าควรจะทำอย่างไร ไปก็ไม่ได้อยู่ต่อก็มีความผิดเฝิงซานกวงโกรธจนกำหมัดแน่น เสียงขบฟันดังกรอดจนได้ยินชัด“พวกเจ้าต้องการสิ่งใดกันแน่?”เขาเริ่มรู้แล้วว่า วันนี้ตนน่าจะเจอจิ้งจอกเขี้ยวลากดินเข้าให้แล้วดูท่าหากไม่ต้อนรับขับสู้พวกเขาให้ดี เกรงว่าอีกประเดี๋ยวจะมีจุดจบที่ไม่สู้งามนักเจี่ยนอันอันเห็นว่าเฝิงซานกวงน่าจะอับจนปัญญา จึงเอาสัญญาที่เฉียวซื่อมอบให้นางออกมา“เฝิงซานกวง นี่คือสัญญาที่เจ้าทำไว้กับเฉียวซื่อ ในนี้มีเงื่อนไขข้อหนึ่ง ข้าอาจต้องแก้ไขเล็กน้อย”เฝิงซานกวงกัดฟันกรอดอีกครั้ง บันดาลโทสะเสียจนใบหน้าที่อยู

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาอ๋องผู้ถูกเนรเทศ   บทที่ 813

    พวกเขาลืมเรื่องนี้ไปได้อย่างไรญาติที่เป็นขุนนางของลูกพี่เป็นผู้มีอิทธิพลนัก ดูแลทุกอย่างในอำเภอไถหยางก็ว่าได้เจี่ยนอันอันกล่าวเสียงเย็น “คุยมาตั้งนาน ยังไม่เห็นบอกชื่อว่าคนผู้นั้นเป็นใคร ข้าว่าคงจะแต่งเรื่องส่งเดชมากกว่า”เฝิงซานกวงถูกเจี่ยนอันอันยุยงอีกครั้ง เดิมทีเขาก็ไม่อยากเอ่ยชื่อเจ้าเมืองออกมาแต่ครั้งนี้เห็นทีไม่พูดก็ไม่ได้เสียแล้ว“ฮึ่ม พูดแล้วพวกเจ้าจะตกใจ ท่านอารองของข้าเป็นเจ้าเมืองแห่งอำเภอไถหยาง”“หากพวกเจ้ากล้าแตะต้องกิจการในเหมืองของข้า ข้าจะให้ท่านอาส่งคนมาจับพวกเจ้าไปขังคุกเสีย!”เมื่อเจี่ยนอันอันได้ยินว่าอารองของเฝิงซานกวงก็คือเจ้าเมืองตานนั่นเอง นางจึงเริ่มมีแผนการในใจ“อ้อ หมายถึงเจ้าเมืองตานผู้นั้นหรอกรึ? ยังนึกว่าเป็นคนใหญ่คนโตที่ใดเสียอีก”“เชิญไปเรียกตัวมาได้เลย แล้วเรามายันกันซึ่งหน้า ให้รู้ไปว่าเขาจะเข้าข้างเจ้า หรือเห็นด้วยกับเรามากกว่า”เฝิงซานกวงมองดูท่าทีของเจี่ยนอันอัน คล้ายไม่กลัวกระทั่งคนเป็นเจ้าเมือง จึงให้ตกใจซ้ำอีกเขาแอบคิดในใจ หรือว่าท่านอารองจะรู้จักกับคนสองคนนี้?จึงหันไปกระซิบกระซาบต่อลูกน้องข้างกาย “รีบไปเชิญอารองข้ามาเดี๋ยวนี้”

無料で面白い小説を探して読んでみましょう
GoodNovel アプリで人気小説に無料で!お好きな本をダウンロードして、いつでもどこでも読みましょう!
アプリで無料で本を読む
コードをスキャンしてアプリで読む
DMCA.com Protection Status