แชร์

บทที่ 39

ผู้เขียน: ซินต้งหรูสุ่ย
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2024-09-14 17:53:48
ทุกคนเข้าไปในเมืองเฉาซานแล้ว หานซื่อก็ตั้งใจว่าจะหาโรงเตี๊ยมสักแห่งให้ทุกคนพักผ่อนสักคืนแล้วค่อยเดินทางต่อ

ทหารรักษาพระองค์ที่ถูกงูกัดผู้นั้นได้สติคืนมานานแล้ว

เขาพบว่าตนเองนอนอยู่บนหลังม้า และรู้จากทหารรักษาพระองค์คนอื่นว่าอดีตหัวหน้าตายแล้ว

พวกเขาสนับสนุนให้หานซื่อเป็นหัวหน้าคนใหม่ของพวกตน

เห็นหานซื่อหัวหน้าคนใหม่เดินนำทางอยู่ข้างหน้า เขาก็รู้สึกเกรงใจยิ่งนักจึงจะลงมาจากบนหลังม้า

หานซื่อได้ยินเสียงความเคลื่อนไหวก็หันกลับมาพูดว่า “เจ้านอนบนหลังม้าไปเถอะ รอพวกเราหาโรงเตี๊ยมได้แล้วค่อยพักผ่อนดีๆ สักคืน”

ทหารรักษาพระองค์ผู้นั้นพยักหน้าอย่างเกรงอกเกรงใจ หมอบลงไปบนหลังม้าตามเดิม

เจี่ยนอันอันเดินเข้ามามอบยาถอนพิษให้ทหารรักษาพระองค์ผู้นั้นกินอีกเม็ด

รอให้ผ่านไปอีกหนึ่งชั่วยาม พิษในร่างกายเขาก็นับว่ากำจัดออกหมดสิ้นแล้ว

เดิมนั้นนักโทษเนรเทศไม่สามารถเดินทางบนทางหลวงได้ ทำได้แค่เดินทางอ้อมไปเมืองอินเป่ย

แต่หานซื่อเห็นแก่บุญคุณของเจี่ยนอันอัน เขาจึงตัดสินใจไม่ทำตามธรรมเนียม แต่เปลี่ยนไปเดินทางบนทางหลวง

ขณะที่เมืองเฉาซานแห่งนี้คือเส้นทางที่จำเป็นต้องผ่านเพื่อไปยังเมืองอินเป่ย

อย่างไรเส
บทที่ถูกล็อก
อ่านต่อเรื่องนี้บน Application

บทที่เกี่ยวข้อง

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาอ๋องผู้ถูกเนรเทศ   บทที่ 40

    ฉู่จื่อซีเงียบมากจริงๆ เจี่ยนอันอันจึงไม่เคยสังเกตเขาอย่างจริงๆ จังๆสายฟ้าสว่างวาบอีกครา ทำให้ใบหน้าของฉู่จื่อซีชัดเจนขึ้นมาเจี่ยนอันอันค่อยสังเกตว่าสีหน้าของฉู่จื่อซีไม่สู้ดีนัก ค่อนข้างจะหมองคล้ำนางนั่งยองลงมากุมมือฉู่จื่อซีพลางเอ่ย “จื่อซีเด็กดี ให้ข้าจับชีพจรหน่อยได้หรือไม่?”ฉู่จื่อซีหันหน้าไปมองฟางอิ๋งมารดาของตนเองฟางอิ๋งพยักหน้าให้เขา ฉู่จื่อซีค่อยยื่นมือน้อยออกมาข้างหนึ่งเจี่ยนอันอันแย้มยิ้มให้ฉู่จื่อซี คิดในใจว่าเด็กคนนี้ว่าง่ายดีจริงๆนางเริ่มจับชีพจรให้ฉู่จื่อซีครั้นได้จับชีพจร คิ้วของเจี่ยนอันอันก็ขมวดแน่นขึ้นทุกทีใบหน้าที่เดิมทียิ้มแย้มก็เปลี่ยนเป็นเคร่งขรึมฟางอิ๋งเห็นเช่นนั้นก็รีบถามว่า “เป็นอะไรไป ร่างกายจื่อซีลูกข้ามีปัญหาหรือ?”คำพูดของนางดึงดูดความสนใจของญาติคนอื่นๆฉู่จวินสิงก็มองมาทางนี้ด้วยเช่นกันฉู่จวินหลุนหมุนล้อรถเข็นตรงมาทางนี้เจี่ยนอันอันวางมือฉู่จื่อซีลง เอ่ยด้วยสีหน้าจริงจัง “มีปัญหาจริงๆ”คำพูดของนางทำให้จิตใจฟางอิ๋งเขม็งเกลียวขึ้นมา“ลูกข้าป่วยเป็นอะไรหรือ?” ฟางอิ๋งรีบร้อนถามนางประจักษ์ในความสามารถของเจี่ยนอันอันแล้ว ทราบว่าอีกฝ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-09-14
  • ฝ่ามิติพลิกชะตาอ๋องผู้ถูกเนรเทศ   บทที่ 41

    ฉู่จวินสิงที่ไม่ได้เอ่ยวาจามานานข่มความเจ็บปวดเอาไว้ แล้วกล่าวขึ้นว่า “พิษนี้พอจะมีทางแก้หรือไม่?”เพียงหนึ่งประโยคนี้ก็ทำให้ความหวังของทุกคนถูกจุดประกายขึ้นอีกครั้งเหล่าสมาชิกจวนเยียนอ๋องล้วนหันไปมองเจี่ยนอันอันด้วยสายตาเต็มไปด้วยความคาดหวังเจี่ยนอันอันตรวจชีพจรของฉู่จื่อซีอีกครั้ง ในวัดร้างพลันเงียบสนิท แม้กระทั่งกองทหารรักษาพระองค์ยังหยุดพูดพวกเขาต่างจับจ้องไปยังเจี่ยนอันอันเพื่อรอฟังคำตอบจากนางหลังจากตรวจชีพจรอยู่ครู่หนึ่ง นางถึงได้กล่าวขึ้นว่า “แม้พิษนี้จะเป็นพิษเรื้อรังที่ร้ายแรง แต่ข้ามีวิธีแก้ได้”คำนี้ทำให้ใบหน้าของเหล่าญาติพี่น้องได้คลายความกังวลและเผยรอยยิ้มเบาใจออกมาหัวใจของทุกคนที่เคยหนักอึ้งก็เบาลงทันทีพวกเขาล้วนเชื่อมั่นในเจี่ยนอันอัน หากนางกล่าวว่าสามารถรักษาได้ ก็ย่อมเป็นจริงตามนั้นฉู่จวินหลุนเอ่ยขึ้นว่า “ไม่ว่าวิธีใดก็ตาม ขอแค่เจ้ารักษาบุตรข้าให้หายดี ต่อให้ต้องแลกด้วยเลือดของข้า ข้าก็ยินดี”เจี่ยนอันอันโบกมือเบาๆ แล้วกล่าวว่า “ไม่จำเป็นถึงเพียงนั้น ข้าจะใช้วิธีอื่นเพื่อรักษาร่างกายของจื่อซี”ขณะที่ทั้งสองกำลังสนทนาอยู่ จู่ๆ ฉู่จื่อซีก็เบิกตากว้าง

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-09-14
  • ฝ่ามิติพลิกชะตาอ๋องผู้ถูกเนรเทศ   บทที่ 42

    เจี่ยนอันอันกล่าวจบ ก็ถือถุงน้ำเดินกลับไปนั่งยังตำแหน่งเดิมนางหาได้ส่งคืนถุงน้ำให้หานซื่อไม่ และหานซื่อเองก็ไม่ได้เอ่ยปากขอคืน เพราะเขายังมีถุงน้ำอีกหลายใบที่ใส่น้ำจนเต็ม เพียงพอให้ดื่มสำหรับตลอดการเดินทางส่วนน้ำถุงนั้นก็เก็บไว้ให้เป็นของเด็กน้อยใช้รักษาโรคไปเถิดเจี่ยนอันอันนั่งลงได้ไม่นาน ก็ปรากฏร่างสองร่างเข้ามาใกล้นางเมื่อเจี่ยนอันอันหันไป นางเห็นฉู่อันเจ๋อแบกฉู่จวินสิงมาถึงข้างกายนางไม่ได้ใส่ใจฉู่จวินสิงเลย เพราะในยามนี้นางไม่ได้มีกะจิตกะใจจะพูดคุยกับเขาฉู่จวินสิงเห็นท่าทีเช่นนี้ของเจี่ยนอันอัน เขาอ้าปากเหมือนจะกล่าววาจา แต่สุดท้ายกลับไม่รู้ว่าจะพูดสิ่งใดออกมาฉู่อันเจ๋อรู้สถานการณ์ดี จึงผละไปคุยกับมารดาของตนแทนทั้งสองคน คนหนึ่งนั่ง อีกคนหนึ่งนอน ต่างจมอยู่ในความเงียบงันภายนอกฝนตกหนักราวกับฟ้ารั่ว เสียงเม็ดฝนกระทบชายคาดัง ‘เปาะแปะ’ อย่างต่อเนื่องในขณะนั้นเอง ภาพหนึ่งก็ปรากฏขึ้นในสายตาของเจี่ยนอันอันภาพนั้นคือภาพที่พวกเขากำลังจะเดินทางออกจากเมืองเฉาซานในวันพรุ่ง เพื่อมุ่งหน้าสู่ตีนเขาแห่งหนึ่งเมื่อข้ามเขาลูกนั้นไป เดินต่ออีกหนึ่งวัน ก็จะถึงจุดหมายปลายทาง ซึ่

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-09-14
  • ฝ่ามิติพลิกชะตาอ๋องผู้ถูกเนรเทศ   บทที่ 43

    เจี่ยนอันอันหย่อนเม็ดยาสีส้มลงในถุงน้ำ หลังจากเขย่าถุงน้ำเบาๆ แล้ว นางก็ลุกขึ้นเดินไปหาฟางอิ๋งนางส่งถุงน้ำให้ฟางอิ๋งพร้อมกล่าวกำชับว่า “อีกหนึ่งชั่วยาม ให้จื่อซีดื่มเพียงอึกเดียว ยานี้ไม่ควรดื่มมากไป ดื่มอึกเดียวก็เพียงพอแล้ว”ฟางอิ๋งรับถุงน้ำไว้ด้วยสีหน้าซาบซึ้งใจพลางกล่าวขอบคุณเจี่ยนอันอันเมื่อเจี่ยนอันอันกลับมานั่งที่เดิม นางก็เห็นฉู่จวินสิงนั่งกัดฟันแน่นด้วยความเจ็บปวดความเจ็บสาหัสในร่างกายของเขากำเริบขึ้นอีกครั้งครั้งนี้เขารู้สึกว่าแม้แต่การหายใจก็เริ่มยากลำบากขึ้นเจี่ยนอันอันเห็นดังนั้นจึงรีบย่อตัวลงเพื่อตรวจชีพจรเขาโชคดีที่อาการของฉู่จวินสิงเกิดจากการที่ร่างกายพักผ่อนไม่เพียงพอ ประกอบกับบาดแผลภายนอกที่อาการหนักขึ้น ถึงได้ทำให้เขารู้สึกทรมานเช่นนี้นางกล่าวกับฉู่จวินสิงว่า “ข้าจะต้องเปิดเสื้อของท่าน เพื่อใส่ยารักษาบาดแผล หากท่านยังขัดขืนการรักษาของข้าเหมือนคราก่อน เช่นนั้นชั่วชีวิตนี้ข้าจะไม่สนใจว่าท่านจะเป็นตายร้ายดีอย่างไรอีก”ฉู่จวินสิงพยักหน้าเบาๆ โดยมิได้เอ่ยคำใด เจี่ยนอันอันจึงค่อยๆ เปิดเสื้อคลุมของเขาออก พบว่าบาดแผลบางจุดอักเสบและเริ่มเน่าแล้วบางจุดยังมีหน

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-09-14
  • ฝ่ามิติพลิกชะตาอ๋องผู้ถูกเนรเทศ   บทที่ 44

    เมื่อหานซื่อเห็นเจี่ยนอันอันหยิบตะบันไฟขึ้นมา เขาก็ลุกขึ้นยืนในทันที“คุณหนูใหญ่เจี่ยน นี่ท่านกำลังจะทำอะไร?”หานซื่อไม่ได้ถามเจี่ยนอันอันว่าตะบันไฟนี้มาจากไหนเขาคิดว่าเมื่อเจี่ยนอันอันสามารถหยิบยาแก้พิษออกมาได้ ก็คงไม่แปลกที่นางจะมีสิ่งของอย่างตะบันไฟติดตัวทั้งนี้เพราะตะบันไฟมีขนาดเล็ก เก็บซ่อนไว้ในเสื้อผ้าก็ไม่เป็นที่สังเกตนอกจากนี้ ตอนที่มีการค้นตัว พวกเขาก็ไม่ได้ค้นตัวของเจี่ยนอันอัน คิดว่าไม่แน่นางอาจจะนำมาจากบ้านเดิมของตนเจี่ยนอันอันกล่าวว่า “ข้าจำเป็นต้องหาไม้สองท่อนมาทำเปลหาม สามีของข้าเดิมก็มีบาดแผลอยู่แล้ว การเดินทางที่ยาวนานเช่นนี้ เขาเริ่มทนไม่ไหวแล้ว หากมีเปลคอยหามเขา ก็จะช่วยให้เขาได้พักรักษาตัวดีๆ”หานซื่อพยักหน้าแล้วไปตามหาไม้กับทหารรักษาพระองค์คนอื่นๆ พร้อมกับเจี่ยนอันอันนางแบ่งตะบันไฟให้พวกทหารรักษาพระองค์คนอื่นอีกสองอันไม่นานก็มีเสียงหนึ่งดังขึ้นจากทหารรักษาพระองค์ว่า “ตรงนี้มีท่อนไม้”เจี่ยนอันอันกับหานซื่อรีบเดินไปที่ห้องทางนั้น เห็นว่าที่นั่นมีท่อนไม้กองอยู่หลายท่อนทุกคนเริ่มเข้าใจแล้วว่า พระที่เคยอาศัยอยู่ที่นี่น่าจะเป็นพระฝ่ายบู๊ ไม้เหล่านี้เ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-09-14
  • ฝ่ามิติพลิกชะตาอ๋องผู้ถูกเนรเทศ   บทที่ 45

    เจี่ยนอันอันมองเห็นความสงสัยในสายตาของหานซื่อ นางจึงยักไหล่พลางกล่าวว่า “อย่างไรไก่พวกนี้ข้าก็หาเจอจากห้องครัวด้านหลัง ส่วนจะเป็นของพระที่เคยอยู่ที่นี่หรือไม่นั้น ข้าก็ไม่รู้เช่นกัน”หานซื่อกำลังจะพูดต่อ แต่ทหารรักษาพระองค์คนหนึ่งเดินเข้ามาพูดว่า “หัวหน้าหาน ตอนนี้พวกเรามีไก่กินแล้ว ก็อย่าไปสนใจเลยว่าไก่พวกนี้มาจากไหน อีกอย่างที่นี่เป็นวัดร้าง ไก่พวกนี้อาจจะเป็นของพวกขอทานที่แอบซ่อนไว้ก็ได้”หานซื่อพยักหน้า เห็นด้วยกับคำพูดนั้น หากบอกว่าไก่พวกนี้เป็นของขอทานซ่อนเอาไว้ก็ยังพอฟังดูสมเหตุสมผลคำพูดของทหารรักษาพระองค์คนนั้นทำให้ในใจหานซื่อเลิกสงสัยเจี่ยนอันอันมองทหารรักษาพระองค์ผู้นั้นอย่างชื่นชม นางเพิ่งจำได้ว่าเขาคือคนที่เคยถูกงูกัดก่อนหน้านี้ทหารรักษาพระองค์ผู้นั้นยิ้มให้เจี่ยนอันอันอย่างจริงใจ ก่อนจะเดินกะเผลกไปหยิบหม้อใบใหญ่มาเจี่ยนอันอันสั่งให้ทหารรักษาพระองค์ตัดไม้ที่เหลืออยู่ให้เป็นฟืน นางหันไปบอกหานซื่อว่า “เมื่อครู่ข้าเห็นว่ามีบ่อน้ำอยู่ในวัด เราใช้ประโยชน์จากน้ำในบ่อนั้นมาต้มน้ำแกงไก่กันเถิด”หานซื่อได้ยินว่ามีบ่อน้ำอยู่ ก็รีบสั่งให้คนไปตักน้ำมาไม่นานนัก ทหารรักษาพระ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-09-14
  • ฝ่ามิติพลิกชะตาอ๋องผู้ถูกเนรเทศ   บทที่ 46

    เหล่าญาติพี่น้องที่ได้รับเนื้อไก่ต่างพากันกล่าวขอบคุณเจี่ยนอันอันพวกเขากัดหมั่นโถวคำหนึ่ง แล้วใช้มือหยิบเนื้อไก่ใส่ปากอย่างไม่รีรอ จากนั้นดื่มน้ำแกงไก่อึกใหญ่ ทุกคนล้วนกินกันอย่างอิ่มเอมและพึงพอใจเนื้อไก่ช่างอร่อยยิ่งนัก รสชาติเหนือกว่าสิ่งที่พวกเขาเคยลิ้มลองในจวนเสียอีกเหล่าทหารรักษาพระองค์ก็ไม่ได้ต่างกัน พวกเขาต่างกินเนื้อคำโตกันอย่างเอร็ดอร่อยน่าเสียดายยิ่งนักที่เนื้อไก่นั้นมีน้อยเกินไป พวกเขาได้ลิ้มรสกันเพียงไม่กี่ชิ้นก็หมดสิ้นแล้วโชคดีที่ยังมีน้ำแกงไก่หม้อใหญ่ ทหารรักษาพระองค์ต่างแบ่งกันคนละถ้วยสองถ้วย ไม่นานน้ำแกงก็หมดลงจนถึงก้นหม้อระหว่างนั้น เจี่ยนอันอันก็นำเนื้อไก่ไม่กี่ชิ้นไปให้ฉู่จวินสิงนางเองก็กินเนื้อไก่ไปบ้าง แต่เพราะเกรงว่าเนื้อจะไม่พอแบ่ง จึงไม่ได้กินมากไปกว่านั้นเจี่ยนอันอันคิดว่าหากเป็นเช่นนี้ต่อไปคงไม่ดีแน่ เพราะเนื้อไก่นั้นน้อยเกินไป แต่คนกลับมีมากนางจำต้องหาอาหารอื่นมาเพิ่มให้มากขึ้นเมื่อคิดได้เช่นนั้น เจี่ยนอันอันก็ลุกขึ้นยืนและเดินออกจากโถงใหญ่หานซื่อเห็นเจี่ยนอันอันเดินออกไป คราวนี้เขาไม่ได้ตามนางไปเช่นเคยเจี่ยนอันอันเดินไปยังบริเวณหลังคร

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-09-14
  • ฝ่ามิติพลิกชะตาอ๋องผู้ถูกเนรเทศ   บทที่ 47

    ฉู่อันเจ๋อเห็นดังนั้น จึงรีบหยิบถุงน้ำมาให้ฉู่จวินสิงดื่ม “พี่รอง ท่านค่อยๆ กิน ไม่มีใครแย่งท่านหรอก”ฉู่จวินสิงดื่มน้ำแล้วจึงกลืนมันเทศที่ติดอยู่ในคอลงไปได้สายตาฉู่จวินสิงเย็นชาดั่งน้ำแข็ง จ้องฉู่อันเจ๋อเขม็งฉู่อันเจ๋อที่ถูกจ้องด้วยสายตานั้นถึงกับตัวสั่น เขาย่นคอลงแล้วพูดว่า “พี่รอง ท่านอย่ามองข้าเช่นนั้น สายตาท่านน่ากลัวเหลือเกิน”ฉู่จวินสิงพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชาอย่างยิ่ง “หากเจ้ากล้าพูดเรื่องแต่งงานอีก ข้าจะเย็บปากเจ้าเสีย”ฉู่อันเจ๋อรู้ดีว่าพี่ชายรองของเขาเป็นคนที่พูดจริงทำจริง เขาตกใจจนรีบเอามือปิดปากทันที ไม่กล้าพูดอะไรออกมาอีกแม้แต่คำเดียวบทสนทนาของสองพี่น้องนั้น ทั้งหมดล้วนเข้าหูของเจี่ยนอันอันพอคิดถึงอนาคตที่ต้องเข้าพิธีแต่งงานกับฉู่จวินสิง ไม่เพียงแต่ต้องอยู่ใต้ชายคาเดียวกันเท่านั้น ยังต้องนอนบนเตียงเดียวกันอีกด้วยมุมปากของเจี่ยนอันอันก็อดไม่ได้ที่จะกระตุกเล็กน้อยระหว่างนางกับฉู่จวินสิงนั้น เพิ่งจะรู้จักกันได้เพียงแค่สองวันเท่านั้นทั้งคู่แทบไม่มีปฏิสัมพันธ์อะไรกันมากนัก ยิ่งไม่ต้องพูดถึงความรู้สึกใดๆเจี่ยนอันอันยังไม่คิดอยากแต่งงานกับฉู่จวินสิงเร็วขนาดนี้อ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-09-14

บทล่าสุด

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาอ๋องผู้ถูกเนรเทศ   บทที่ 466

    เจี่ยนอันอันรู้ว่าเฉียวอี้กังวลเรื่องอะไรแต่เพื่อรักษาอาการป่วยของเฉียวอี้ไม่ให้แพร่กระจายสู่คนอื่นต่อ นางจำเป็นต้องทำแบบนี้“เจ้าไม่ต้องกลัว ข้าเพียงแต่รักษาอาการป่วยของเจ้า ไม่ได้จะทำอันตราย”คำพูดของเจี่ยนอันอันเป็นดังเสียงวิเศษที่ทำให้เฉียวอี้ซึ่งเป็นกังวลค่อยๆ ผ่อนคลายลงเฉียวอี้สูดลมหายใจเข้าลึกๆ ก่อนจะอย่างเขินอายว่า “เนื้อตัวข้าสกปรก ให้ข้าไปล้างตัวก่อนค่อยรักษาดีกว่า”เขาว่าจบก็วิ่งออกไป ฉู่จวินสิงตามออกจากวัดร้างเช่นกันหลังจากที่ทั้งสองคนจากไป เจี่ยนอันอันก็ได้ยินเฉียวซื่อร้องเรียกมาจากห้องด้านหลัง“แม่นาง ท่านช่วยมาที่นี่สักครู่ได้หรือไม่?”เจี่ยนอันอันเลิกม่านประตูเดินเข้าไปพบว่าเฉียวซื่อได้ลุกขึ้นนั่ง สีหน้าแสดงความซับซ้อน“มีอะไรหรือ ไม่สบายที่ใดหรือ?”เจี่ยนอันอันถามแล้วก็จะจับชีพจรให้เฉียวซื่อเฉียวซื่อส่ายหน้ายิ้ม “ข้ามองออกว่าแม่นางเป็นคนดี ท่านช่วยชีวิตข้าไว้ ข้าสมควรที่ต้องตอบแทน”“เมื่อครู่นี้ข้าตัดสินใจได้แล้ว ข้าไม่คิดที่จะเก็บหยกพกชิ้นนั้นไว้ ขอมอบให้ท่านดีกว่า”เฉียวซื่อพยายามลุกขึ้นยืนด้วยความยากลำบากก่อนจะเดินกะเผลกออกไปเจี่ยนอันอันไม่เข้าใ

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาอ๋องผู้ถูกเนรเทศ   บทที่ 465

    เฉียวซื่ออยากยื่นมือไปเกา แต่กลับถูกเจี่ยนอันอันห้ามไว้“อย่าแตะต้องส่งเดช ไม่อย่างนั้นโรคของท่านจะรักษาไม่หายนะ”เฉียวซื่อรีบหยุดมือทันควัน ไม่กล้าแตะต้องส่งเดชอีกหลังจากผ้าปิดแผลถูกเลือดสีดำย้อมจนชุ่ม เจี่ยนอันอันก็เอาผ้าปิดแผลออกนางใช้สำลีเช็ดตามร่างกายของเฉียวซื่อจนสะอาดแล้วก็พบว่าตำแหน่งที่เน่าเปื่อยบนร่างเฉียวซื่อเริ่มมีสีของเนื้อปรากฏให้เห็นหลังจากเจี่ยนอันอันเช็ดยาทาบนนั้นออกแล้ว เฉียวซื่อสัมผัสได้ว่าบริเวณที่คันคะเยอบนร่างเปลี่ยนเป็นเย็นๆเจี่ยนอันอันใช้วิธีการเดิมทายาให้เฉียวซื่อทั้งตัวรอบหนึ่งเฉียวซื่อรู้สึกซาบซึ้งใจหาใดเปรียบ นางป่วยเป็นโรคนี้มาได้เกินครึ่งปีแล้วอีกทั้งอาการยังเลวร้ายลงทุกวันหากไม่ใช่เพราะเฉียวอี้พาเจี่ยนอันอันมา เกรงว่านางคงถูกโรคนี้ทรมานจนตายเมื่อเจี่ยนอันอันหยิบผ้าปิดแผลชิ้นสุดท้ายออก เช็ดหนองบนร่างกายเฉียวซื่ออย่างเบามือเสร็จแล้วเฉียวซื่อก็รู้สึกร่างกายเบาสบายกว่าก่อนหน้านี้ไม่น้อยเจี่ยนอันอันหยิบขวดกระเบื้องขนาดเล็กออกมาใบหนึ่ง ส่งให้ถึงมือเฉียวซื่อ“ท่านกินยาในนี้วันละสามครั้ง จำไว้ว่าต้องกินหลังมื้ออาหาร แต่ละครั้งกินสามเม็ด”

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาอ๋องผู้ถูกเนรเทศ   บทที่ 464

    เฉียวอี้เห็นมารดาไม่ร้องครวญครางและไม่สั่นเทิ้มอีกในที่สุดเขาก็เชื่อคำพูดของเจี่ยนอันอัน นางเป็นหมอที่สามารถรักษามารดาเขาได้จริงๆเจี่ยนอันอันนั่งยองลง คว้ามือเฉียวซื่อมาจับชีพจรให้อีกฝ่ายนอกจากโรคเรื้อน ในร่างกายเฉียวซื่อก็ไม่มีโรคภัยอย่างอื่นเจี่ยนอันอันกล่าวกับเฉียวอี้ว่า “เจ้าออกไปข้างนอกกับสามีข้าก่อน ข้าจะทำการรักษาให้แม่เจ้า”เฉียวอี้เหลือบมองมารดาตนเองแวบหนึ่ง แม้ในใจเขาจะกังวลมาก แต่ก็ยังเดินออกไปอย่างเชื่อฟังฉู่จวินสิงก็ไม่ได้รั้งอยู่ ก้าวยาวๆ จากไปเช่นกันเจี่ยนอันอันกล่าวกับเฉียวซื่อ “ท่านไม่ต้องกลัว ข้าเป็นหมอที่ลูกท่านพามา”“เมื่อครู่ ข้าให้ท่านกินยาบรรเทาอาการเจ็บปวด ตอนนี้ท่านรู้สึกอย่างไรบ้าง?”เฉียวซื่อมองเจี่ยนอันอันด้วยสีหน้าซาบซึ้งใจ นางเอ่ยเสียงแหบพร่า “ร่างกายข้าดีขึ้นมากแล้ว ขอบคุณแม่นางที่ช่วยเหลือ”“ในเมื่อยาได้ผล งั้นตอนนี้ข้าจะเปลื้องอาภรณ์ของท่านออก”คำพูดของเจี่ยนอันอันทำให้เฉียวซื่อรู้สึกเกรงใจอยู่บ้าง“ร่างกายข้าสกปรก นอกจากนี้ข้ายังเป็นโรคเรื้อน ไม่รบกวนแม่นางดีกว่า”เฉียวซื่อกล่าวพลางค่อยๆ ลุกขึ้นนั่งมือสั่นเทิ้มของนางปลดอาภรณ์ของตนเ

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาอ๋องผู้ถูกเนรเทศ   บทที่ 463

    เจี่ยนอันอันรีบหยิบยาสองเม็ดออกมาจากในมิตินางส่งให้ฉู่จวินสิงหนึ่งเม็ด แสดงท่าทางบอกให้เขากินลงไปฉู่จวินสิงไม่รู้ว่าเจี่ยนอันอันทำเช่นนี้หมายความว่าอย่างไรกันแน่แต่เขาเชื่อถือเจี่ยนอันอันจึงไม่ได้คิดมาก โยนยาเม็ดนั้นเข้าปากตรงๆเจี่ยนอันอันกินยาเม็ดลงไปแล้วก็กล่าวกับเฉียวอี้ว่า “เจ้าพาข้าไปหาแม่เจ้าที”เฉียวอี้ไม่เข้าใจว่าเจี่ยนอันอันจะไปหามารดาเขาทำไม เขาตกใจจนแตกตื่นลนลานสองคนนี้คงไม่ได้คิดจะสังหารมารดาของเขาหรอกนะ“ข้าพาพวกท่านไปไม่ได้ พวกท่านจะฆ่าแม่ข้า!”เจี่ยนอันอันแทบถูกคำพูดของเฉียวอี้ทำให้หัวเราะเสียแล้วนางเห็นความหวาดกลัวในแววตาเฉียวอี้จึงปรับน้ำเสียงให้อ่อนโยนลง“ข้าเป็นหมอ สามารถรักษาโรคเรื้อนของแม่เจ้าได้”เฉียวอี้ไม่เชื่อคำพูดเจี่ยนอันอัน แต่ตอนนี้เขาไม่มีวิธีอื่นอีกแล้วเนื่องจากมารดาเขาติดโรคเรื้อน ขอทานเฒ่าพวกนั้นล้วนแต่หลบพวกเขาไปไกลๆก่อนนี้ยังมีขอทานชราพาเขาไปขอทานบนท้องถนน ตอนนี้พอเห็นเขาก็รีบร้อนหลบเลี่ยงท่าทางเหมือนเจอเทพเจ้าโรคระบาดกระนั้นตอนนี้อาการป่วยของมารดาไม่อาจชักช้าได้อีกแล้ว แต่บนตัวเขากลับไม่มีเงินอยู่เลยลังเลอยู่ครู่ใหญ่ ในที่ส

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาอ๋องผู้ถูกเนรเทศ   บทที่ 462

    เฉียวอี้ขอทานน้อยชั่งน้ำหนักเงินในมือแล้วแยกเขี้ยวหัวเราะคิกคักออกมา“มีเงินพวกนี้ โรคของท่านแม่ก็สามารถรักษาได้แล้ว”เฉียวอี้หันกลับมาตั้งท่าจะวิ่ง แต่กลับชนเข้ากับร่างคนผู้หนึ่งเฉียวอี้ถูกชนจนเจ็บจมูก เขาเงยหน้าขึ้นก็เห็นฉู่จวินสิงกำลังมองเขาอย่างเย็นชาเขาจำฉู่จวินสิงได้ คือคนที่คนงานร้านวิ่งตามรถม้าไปเมื่อครู่ผู้นั้นเฉียวอี้ตกใจจนอยากหันหลังเผ่นหนี แต่ถูกฉู่จวินสิงคว้าคอเสื้อเอาไว้ได้“แย่งเงินของพวกข้ามาแล้วยังคิดจะหนีงั้นรึ?” ฉู่จวินสิงหิ้วคอเฉียวอี้ขึ้นมาตรงๆเฉียวอี้สองขาลอยเหนือพื้นก็ใจหายวาบสองแขนสองขาของเขาปัดป่ายไปมาสะเปะสะปะกลางอากาศ แต่ทำอย่างไรก็ไม่อาจหลุดจากมือของฉู่จวินสิง“ท่านปล่อยข้า ข้าไม่ได้เอาเงินของท่านนะ!”เฉียวอี้ใบหน้ามอมแมม มีเพียงดวงตาคู่นั้นที่ทั้งโตและสุกใสเขามีสีหน้าไม่ยินยอมพร้อมใจ ผู้ใดว่าเขาแย่งเงินมาจากมือคนผู้นี้กันเล่าเขาแย่งมาจากมือคนงานร้านต่างหาก เกี่ยวอันใดกับคนผู้นี้!ขณะที่เฉียวอี้ดิ้นพล่านอยู่นั่นเอง เจี่ยนอันอันก็ก้าวยาวๆ มาทางนี้รอยยิ้มประดับอยู่บนใบหน้าของนาง ทว่ารอยยิ้มนั้นกลับไปไม่ถึงดวงตาเจี่ยนอันอันเดินมาถึงตรงหน

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาอ๋องผู้ถูกเนรเทศ   บทที่ 461

    ฉู่จวินสิงบอกเล่าบทสนทนาระหว่างเขากับเซิ่งฟางให้เจี่ยนอันอันฟังเจี่ยนอันอันก็รู้สึกเหมือนกันว่า ด้วยนิสัยของกู้มั่วหลี หากเป็นเรื่องที่เขาทำจริงๆ เขาจะต้องยอมรับอย่างแน่นอนก็เหมือนกับเรื่องที่ผู้ว่ามณฑลจงโจวถูกยิงสังหาร เขาก็ไม่เคยปฏิเสธเจี่ยนอันอันครุ่นคิดจนหัวสมองพองโตขณะที่ทั้งสองดื่มชาพลางคาดเดาว่าเป็นใครกันแน่นั่นเอง เจี่ยนอันอันก็เห็นเงาร่างที่คุ้นเคยสายหนึ่งกำลังเดินเร็วๆ ไปบนถนนนางรีบลุกขึ้นยืนแล้วตะโกนไปยังข้างล่างว่า “เหยียนซวง ข้าอยู่ตรงนี้”เหยียนซวงแหงนหน้าขึ้นก็เห็นว่าเจี่ยนอันอันกำลังนั่งอยู่บนหอสุราในที่สุดนางก็ถอนหายใจออกมา สีหน้าเผยรอยยิ้มโล่งอกเหยียนซวงก้าวยาวๆ เข้ามาในหอสุรา ขึ้นมายังชั้นสอง“แม่นางเจี่ยน คืนวานไยเจ้าจึงไม่กลับไปพักที่บ้านข้า”เหยียนซวงพูดจบค่อยเห็นว่าฉู่จวินสิงก็อยู่ที่นั่นด้วยเช่นกันในที่สุดนางก็เข้าใจแล้ว ที่แท้เจี่ยนอันอันก็อยู่กับฉู่จวินสิงนี่เองเจี่ยนอันอันไม่ได้พูดเรื่องที่เมื่อคืนนี้ถูกจับตัวไป นางไม่อยากให้มีคนเป็นห่วงนางเพิ่มมาอีกคนเวลานั้นคนงานร้านยกอาหารขึ้นมาพอดี เจี่ยนอันอันจึงให้เหยียนซวงนั่งลงกินข้าวด้วยกัน“ข

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาอ๋องผู้ถูกเนรเทศ   บทที่ 460

    พวกเขาออกกันมานานมากแล้ว คนที่บ้านจะต้องกังวลเป็นอย่างมากหากว่ายังไม่กลับไปอีก เกรงว่าคนที่บ้านคงจะส่งคนออกมาตามหาแล้วทั้งสองคนมายังด้านนอกห้องพิจารณาคดี เมื่อเห็นว่าเซิ่งฟางกำลังตัดสินคดีอยู่และดีที่คดีนี้ค่อนข้างง่าย เป็นเพียงแค่ปัญหาเล็กน้อยระหว่างเพื่อนบ้านเท่านั้นเซิ่งฟางเมื่อเห็นว่าทั้งสองมาถึง ก็พูดว่าเลิกศาล แล้วเดินออกมา “น้องอันอัน เจ้าพักผ่อนพอแล้ว นี่จะกลับไปแล้วอย่างนั้นหรือ?”เจี่ยนอันอันยิ้มแล้วพยักหน้าออกมา “พวกเราออกมานานแล้ว คนที่บ้านจะต้องรอพวกเรากลับไป”เซิ่งฟางอยากจะให้ทั้งสองคนอยู่ต่อกินข้าวกันสักมื้อแล้วค่อยไป แต่กลับถูกทั้งสองคนปฏิเสธเซิ่งฟางเองก็ไม่อาจจะพูดอะไรออกมาได้อีก จึงส่งพวกเขาจากไปเจี่ยนอันอันกลับแย่งพูดขึ้นมา “พี่เซิ่ง ท่านนำกระดาษกับปากกามาหน่อย ข้าจะเขียนใบสั่งยาให้สวีจงฉือ”เซิ่งฟางรีบให้เจ้าหน้าที่ทางการไปนำกระดาษกับปากกามารอจนเมื่อเจี่ยนอันอันเขียนใบสั่งยาเสร็จแล้ว เขาถึงได้พูดขึ้น “ระหว่างทางที่พวกเจ้ากลับไป จะต้องระมัดระวังให้มาก”“กู้มั่วหลีนั่นไม่ใช่คนดีอะไร กลัวว่าจะลอบสังหารพวกเจ้าระหว่างทางเข้า”“จากที่ข้ามอง ข้าว่าส่งค

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาอ๋องผู้ถูกเนรเทศ   บทที่ 459

    ในที่สุดหลังจากที่ป้อนยาจนเสร็จแล้ว เจี่ยนอันอันก็ช่วยประคองสวีจงฉือให้นอนลง นางตรวจชีพจรให้สวีจงฉือ อาการป่วยนี้เพียงแค่สองสามวันไม่อาจรักษาให้หายได้ บวกกับบาดแผลบนกายเขา ไม่อาจจะหายได้อย่างรวดเร็วเขาไอออกมาแต่ละครั้ง ล้วนแต่ส่งผลกับบาดแผลบนกาย นี้ยังทำให้เขายิ่งต้องทนต่อความเจ็บปวดมากยิ่งขึ้นเจี่ยนอันอันพูดกับสวีจงฉือ “ข้าจะเปิดเสื้อผ้าของเจ้าออก ดูว่าบาดแผลของเจ้าดีขึ้นหรือไม่” สวีจงฉือพยักหน้าเบาๆ ไม่ได้พูดอะไรออกมา สายตาของเขาคอยจับจ้องอยู่ที่ใบหน้าของเจี่ยนอันอันอยู่ตลอดเวลาในใจเขาคอยคิด หากว่าเจี่ยนอันอันยังไม่ได้แต่งงานก็คงจะดีเสียดายก็เพียงแต่ว่าเขาปรากฏตัวออกมาช้าจนเกินไป ตอนนี้ไม่ว่าจะคิดอะไรก็ล้วนแต่ไร้ประโยชน์เจี่ยนอันอันเปิดเสื้อคลุมของสวีจงฉือออก ก่อนจะแกะผ้าพันแผลที่ผันอยู่รอบกายเขาแต่ละบาดแผลบนนั้นล้วนแต่ดูน่าตื่นตกใจ ตรงบาดแผลที่ถูกดึงมีดออกมามีเลือดไหลออกมาบางส่วน มีบางที่ที่กลายเป็นหนองเสียแล้ว ดูเหมือนว่าหมอเมื่อวานนี้ที่รักษาให้สวีจงฉือ ไม่นำยาชนิดพิเศษใดออกมา เจี่ยนอันอันหยิบสำสีที่ใช้ทางการแพทย์ออกมาจากห้วงมิติ จุ่มลงไปในไอโอโดฟ

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาอ๋องผู้ถูกเนรเทศ   บทที่ 458

    นางแกะเปลือกที่ห่ออยู่ด้านนอกออกตั้งแต่อยู่ในห้วงมิติเมื่อเป็นเช่นนี้ เจ้าหน้าที่ทางการที่คอยเฝ้าอยู่ด้านข้าง ก็ไม่มีทางสงสัยอะไรฉู่จวินสิงหิวแล้วจริงๆ ก่อนหน้านั้นเพื่อตามหาเจี่ยนอันแล้ว เขาจึงไม่รู้สึกหิวทว่าตอนนี้เมื่อผ่อนคลายลงแล้ว ท้องก็ส่งเสียงคำรามออกมาไม่หยุดฉู่จวินสิงเองก็ไม่เกรงใจแล้ว รับขนมมากินเมื่อเห็นฉู่จวินสิงกินอย่างเอร็ดอร่อย เจี่ยนอันอันก็พึ่งพอใจกับขนมที่ตัวเองเลือกมาดูเหมือนว่าขนมเหล่านี้จะถูกปากฉู่จวินสิงมากเจ้าหน้าที่ทางการที่เฝ้าอยู่ด้านข้าง เมื่อเห็นฉู่จวินสิงกินอย่างอร่อยเขาก็อดที่จะกลืนน้ำลายที่กำลังจะไหลออกมาตรงมุมปากไม่ได้เจี่ยนอันอันสังเกตุเห็นเจ้าหน้าที่ทางการที่กลืนน้ำลาย นางก็หัวเราะออกมา แล้วหยิบขนมออกมาหลายชิ้น ก่อนจะส่งให้เจ้าหน้าที่ทางการชิ้นหนึ่ง"เจ้าเองก็คอยปกป้องคอยเฝ้าข้าอย่างรอบคอบอยู่เช่นนี้ ก็กินสักชิ้นเถอะ"เจ้าหน้าที่ทางการรีบเช็ดมือตัวเองกับเสื้อผ้า ก่อนจะรับขนมไป"ขอบคุณแม่นางเจี่ยน" เจ้าหน้าที่ทางการพูดขึ้น แล้วนำขนมส่งเข้าปากไปขนมอ่อนนุ่มเข้าปาก เต็มไปด้วยกลิ่นนมเจ้าหน้าที่ทางการยังไม่เคยกินขนมที่อร่อยเช่นนี้มาก

DMCA.com Protection Status