Share

บทที่ 799

Author: ซินต้งหรูสุ่ย
นี่เป็นครั้งแรกที่นางมาขายผักที่ตลาด จึงรู้สึกตื่นตาตื่นใจอยู่ไม่น้อย

“อันอัน ให้ข้าช่วยพวกเจ้าขายผักเถอะนะ”

เจ้าของแผงผักหลายรายไม่เห็นหน้าเจี่ยนอันอันและฉู่จวินสิงมาหลายวันแล้ว

ทุกคนต่างนึกว่าพวกเขาคงจะไม่มาตลาดขายผักอีก

แต่ก็เพราะพวกเขาไม่มาขายผักหลายวัน ทำให้ผักของพ่อค้าอื่นต่างขายได้ไม่น้อย

แต่ไม่นึกว่า วันนี้พวกเขาจะมาอีกครั้ง

เจ้าของแผงผักทั้งหลายต่างก็พูดไม่ออก และไม่กล้าเอาอย่างคราวที่แล้ว ทำตัวเป็นศัตรูกับพวกเขา

ได้แต่มองดูผู้คนที่มาเลือกซื้อผัก อุดหนุนแต่ผักของเจี่ยนอันอัน

ไม่มีใครสักคน คิดอุดหนุนผักของพ่อค้าอื่นบ้างเลย

เมื่อได้เหยียนซวงมาช่วยเหลือ ผักหนึ่งคันรถไม่นานก็ขายหมดเกลี้ยง

เจี่ยนอันอันยังเก็บผักอีกหลายต้นไว้ กำลังคิดอยู่ว่าอีกประเดี๋ยวจะไปถามตามโรงเตี๊ยม ว่ามีเจ้าไหนคิดจะเหมาผักของนางบ้างหรือไม่

นางนับเงินที่อยู่ในถุงผ้า วันนี้ขายได้ทั้งสิ้นสามสิบห้าตำลึง

แม้จะเป็นตัวเงินไม่มากนัก แต่นางก็ยังดีใจมากอยู่

“ไป เราไปเยี่ยมจงซิ่นกัน”

เจี่ยนอันอันกล่าวพลางเดินนำขึ้นรถม้าไปก่อน

เหยียนซวงก็ตามขึ้นไปนั่งด้วย นี่เป็นครั้งแรกที่นางมาช่วยขายผัก ไม่คาดคิดว่าจะมีค
Continue to read this book for free
Scan code to download App
Locked Chapter

Related chapters

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาอ๋องผู้ถูกเนรเทศ   บทที่ 800

    เจี่ยนอันอันก็ไม่คิดอยู่นี่นานนัก เพราะนางยังมีงานต้องทำอีกทุกคนสนทนาอยู่กลางลานครู่หนึ่ง เจี่ยนอันอันจึงลุกขึ้นคิดจะจากไปจงหลานเห็นเข้า จึงอดไม่ได้ที่จะเอ่ยปากถาม“แม่นางเจี่ยน หมู่นี้พี่เวินเป็นอย่างไรบ้าง”เจี่ยนอันอันดูออกนานแล้วว่า เมื่อจงหลานไม่เห็นเวินอี๋ติดตามมาด้วย สายตานางปรากฏแววผิดหวังขึ้นวูบหนึ่งจึงได้กล่าวตอบยิ้มๆ “พี่เวินของเจ้าสบายดี หากมีเวลา เจ้าจะไปเยี่ยมเขาก็ได้”เมื่อได้ยินคำตอบจากเจี่ยนอันอัน เวินหลานจึงหันไปมองจงซิ่นด้วยความดีใจ“ท่านปู่” นางใช้สายตาเว้าวอน หวังเพียงว่าจงซิ่นจะพาไปหมู่บ้านชิงสุ่ยเพื่อเยี่ยมเวินอี๋โดยเร็วจงซิ่นมีหรือจะไม่รู้ทันความคิดของผู้เป็นหลานสาว แต่เขากลับคิดว่าอายุของทั้งคู่ห่างกันมากไปดังนั้นทุกครั้งที่เวินหลานร้องขอไปหมู่บ้านชิงสุ่ยเพื่อจะหาเวินอี๋ จงซิ่นก็มักจะปฏิเสธทุกคราไปและครั้งนี้เขาก็ไม่เปลี่ยนความคิดเช่นกัน“ไว้อีกสักพักค่อยว่าเถอะ คุณชายเวินมีงานยุ่งอยู่ตลอด เราไม่ควรไปรบกวนเขาบ่อยนัก”เวินหลานก้มหน้าลงด้วยความผิดหวัง ไม่กล้าพูดมากความอีกเจี่ยนอันอันมองดูสีหน้าหม่นหมองของเวินหลาน จึงได้เอ่ยปากเกลี้ยกล่อม “ผู้เ

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาอ๋องผู้ถูกเนรเทศ   บทที่ 801

    เหยียนซวงกล่าวด้วยความไม่พอใจ “เถ้าแก่โรงเตี๊ยมเหล่านี้ตาบอดหรืออย่างไร ผักสดเช่นนี้ยังจะติโน่นตินี่อีก”แต่เจี่ยนอันอันหาได้นำพาไม่ นางไม่เชื่อว่าจะไม่มีโรงเตี๊ยมสักแห่งเดียว ที่ยอมใช้ผักที่นางปลูก“ในเมื่ออำเภอไถหยางไม่มีผู้ใดต้องการผักของเรา เราลองไปติดต่อที่อื่นดู”ไม่นานฉู่จวินสิงก็รีบควบรถม้า มุ่งไปยังอำเภออู่หนานต่อก่อนหน้านี้ที่พวกเขาไปติดต่อโรงเตี๊ยมหลายแห่ง เจี่ยนอันอันได้สังเกตข้างทางว่ามีลูกเป็ดลูกไก่ขายหรือไม่แต่ลูกเป็ดลูกไก่ในอำเภอไถหยาง ดูไม่ค่อยแข็งแรงสักเท่าใดนัก คล้ายกับล้วนติดโรคอะไรบางอย่างซึ่งเจี่ยนอันอันย่อมไม่คิดซื้อเป็ดไก่ขี้โรคเหล่านี้ ไปให้เสิ่นจือเจิ้งเลี้ยงดูแน่นอนรถม้าเดินทางไกลอีกระยะหนึ่ง จนมาถึงอำเภออู่หนานที่นี่มีผู้คนสัญจรมากนัก มากกว่าอำเภอไถหยางเป็นเท่าตัวเลยทีเดียวตามถนนหนทางล้วนมีแต่ผู้คน แลดูคึกคักเป็นอย่างมากฉู่จวินสิงไปสืบข่าวมา ได้ความว่าอำเภออู่หนานก็มีโรงเตี๊ยมเจ็ดแปดแห่งเช่นกันและที่ตั้งของโรงเตี๊ยมแต่ละแห่งก็อยู่ห่างไกลกัน แสดงว่าคงไม่ต้องการให้ร้านอื่นมาแย่งลูกค้าของตนกระมังฉู่จวินสิงจึงมุ่งไปยังทิศทางของโรงเตี๊ยมแห่งห

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาอ๋องผู้ถูกเนรเทศ   บทที่ 802

    ตงฮุ่ยก็คิดเช่นนี้เหมือนกัน จึงรีบบอกให้เสี่ยวเอ้อนำผักต่างๆ ไปให้พ่อครัว เพื่อทำเป็นอาหารหลายอย่างออกมาเพียงไม่นานพ่อครัวก็ทำออกมา และให้เสี่ยวเอ้อนำอาหารออกมาหลายอย่าง“เถ้าแก่ อาหารเหล่านี้ ล้วนใช้ผักเมื่อครู่นี้ทำออกมาทั้งสิ้น”ต่งฮุ่ยรีบใช้ตะเกียบคีบเข้าปากหนึ่งคำ พลันตะลึงกับความหอมของผักจนแทบตาค้างและยังมีอาหารอื่นอีกหลายอย่าง ซึ่งล้วนได้ลิ้มลองเช่นกันไม่นานจึงถามด้วยความตื่นเต้น “เหล่านี้ล้วนใช้ผักเมื่อครู่นี้ปรุงออกมาทั้งสิ้นรึ?”เสี่ยวเอ้อพยักหน้าตอบรับ ขณะมองดูเถ้าแก่กินอย่างเอร็ดอร่อย ตัวเขาเองก็ได้แต่กลืนน้ำลายลงคอเมื่อครู่ก่อนจะยกอาหารออกมา เขาก็ได้แอบชิมผักเล็กๆ ไปคำหนึ่งจนบัดนี้ความหอมของผักก็ยังอบอวลอยู่ในปากหากเถ้าแก่ยอมให้ส่งผักเหล่านี้เข้ามาก็คงดี ไม่เพียงช่วยให้กิจการในโรงเตี๊ยมยิ่งเฟื่องฟูมากขึ้นจนแม้แต่เสี่ยวเอ้ออย่างเขา ก็อาจพลอยมีลาภปาก ได้ชิมอาหารรสเลิศเหล่านี้ตามต่งฮุ่ยแอบชื่นชมรสชาติอาหารอยู่ในใจเงียบๆเขาไม่คาดคิดว่า เพียงแค่ผักหน้าตาพื้นๆ ไม่กี่อย่าง จะสามารถปรุงเป็นอาหารที่มีรสชาติดีได้เช่นนี้ผักเหล่านี้ยังไม่ได้ใส่เนื้อสัตว์ ก็มีควา

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาอ๋องผู้ถูกเนรเทศ   บทที่ 803

    คำพูดของฉู่จวินสิง ทำให้ต่งฮุ่ยจับสังเกตได้เช่นกันแต่เขาก็ไม่อาจปฏิเสธได้ว่า อาหารที่ปรุงจากผักหลายชนิดเมื่อครู่นี้ รสชาติดีกว่าผักที่เคยรับมาแต่ก่อนจริงๆ“คุณชายท่านนี้ คิดว่าอยากให้ข้าจ่ายเท่าใด จึงยอมส่งผักเหล่านี้มาให้ได้?”ต่งฮุ่ยก็เป็นพ่อค้าเช่นกัน ย่อมมีความคิดสะระตะของเขาเองหากฉู่จวินสิงตั้งราคาสูงเกินไป ก็คงต้องตัดใจปฏิเสธไปเสียแล้วหลายวันนี้ค่อยไปหาคนปลูกผักเจ้าอื่น เพื่อให้ส่งผักมายังโรงเตี๊ยมจ้งเยว่แห่งนี้ฉู่จวินสิงกล่าวตอบ “แปดสิบห้าตำลึง ท่านเห็นว่าเป็นอย่างไร?”ต่งฮุ่ยนิ่งเงียบครู่หนึ่ง วันละแปดสิบห้าตำลึงนับว่าสูงพอดูแต่ก็ต้องยอมรับว่า หากใช้ผักที่สามคนนี้ส่งมา ทำเป็นอาหารรสชาติดี ถึงตอนนั้นแขกที่มาโรงเตี๊ยม ก็อาจมากกว่าตอนนี้หลายเท่าปกติคนขายอาหาร ย่อมหวังลูกค้าประจำกลับมาซื้อซ้ำอยู่แล้วลูกค้าที่ติดใจในรสชาติ จะต้องกลับมาอุดหนุนโรงเตี๊ยมของเขาซ้ำอีกเมื่อคำนวณเช่นนี้ เงินแปดสิบห้าตำลึงใช้เวลาไม่ถึงหนึ่งวัน ก็จะได้กลับคืนมาแน่นอนเสี่ยวเอ้อที่ยืนอยู่ด้านข้าง เห็นต่งฮุ่ยนิ่งเงียบไม่พูดจาจึงพลอยรู้สึกร้อนรน เพราะเมื่อครู่เขาได้แอบชิมอาหารจานนั้นมาบ้าง

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาอ๋องผู้ถูกเนรเทศ   บทที่ 804

    เหยียนซวงตอบรับด้วยคำว่า “อ้อ” พลางเดินไปห้องครัวเพื่อทำอาหารวันนี้ในเมื่อถังหมิงเซวียนมาเยือน นางจึงทำอาหารสำหรับทั้งสามคนขณะกินข้าวนั้น ถังหมิงเซวียนได้ถามด้วยความข้องใจ “แม่นางเหยียน เหตุใดเจ้าจึงไปอำเภอไถหยางนานนัก?”เหยียนซวงไม่คิดจะปิดบัง จึงบอกเล่าเหตุการณ์ที่เกิดในวันนี้ออกมาทั้งสิ้นถังหมิงเซวียนได้ยินว่าเจี่ยนอันอันติดต่อโรงเตี๊ยมที่จะส่งผักได้แล้ว พาให้นึกถึงว่าตนเคยไปอยู่อำเภอไถหยาง และไปถึงอำเภออู่หนานด้วยทั้งยังเคยไปกินอาหารที่โรงเตี๊ยมจ้งเยว่เถ้าแก่โรงเตี๊ยมแห่งนั้นเป็นคนโอบอ้อมอารี ไม่มีลักษณะของพ่อค้าที่เอารัดเอาเปรียบแสดงว่าดวงของเจี่ยนอันอันไม่เลวนัก ไม่เพียงใช้เวลาหนึ่งวันก็สามารถหาโรงเตี๊ยมที่จะส่งผักได้หนำซ้ำเจ้าของโรงเตี๊ยมยังเป็นคนดีมากเมื่อวานถังหมิงเซวียนกลับไปยังบ้านเช่า ก็ได้ผัดผักมากินเช่นกันไม่นานก็พอลิ้มรสออกว่า ผักที่เจี่ยนอันอันปลูกมีรสชาติที่แตกต่างจากผักทั่วไปและนางยังสามารถใช้ราคาแปดสิบห้าตำลึงต่อหนึ่งวัน บรรลุข้อตกลงกับเถ้าแก่โรงเตี๊ยมจ้งเยว่ก็เท่ากับต่างฝ่ายต่างก็ได้ผลประโยชน์ถังหมิงเซวียนจึงบอกเหยียนซวงว่า ตนได้หาที่พักในหม

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาอ๋องผู้ถูกเนรเทศ   บทที่ 805

    เซียงเสวี่ยเห็นลูกเป็ดและลูกไก่ตัวน้อยที่อยู่ในกรง นางดีใจจนรีบมารับไป“ฮูหยินน้อยรอง อีกหน่อยเมื่อเลี้ยงเป็ดและไก่เหล่านี้จนโต พวกเราก็จะมีเนื้อเป็ดเนื้อไก่กินแล้ว”เจี่ยนอันอันยิ้มเล็กน้อย พลางมองไปยังเสิ่นจือเจิ้ง“พี่ใหญ่ เป็ดไก่เหล่านี้เพียงพอให้พวกท่านกินหลายวันสินะ”เสิ่นจือเจิ้งยิ้มตอบ “เด็กโง่ พี่ใหญ่กลับไม่คิดเช่นนั้น”เจี่ยนอันอันเลิกคิ้วเล็กน้อย “ความหมายของท่านคือ?”เสิ่นจือเจิ้งบอกเล่าความคิดของตนให้ฟังเขาตั้งใจว่าจะเลี้ยงเป็ดไก่เหล่านี้ให้โต พร้อมทำการเพาะพันธุ์ต่อจากนั้นก็ทยอยนำเป็ดไก่ไปขาย เชื่อว่าน่าจะได้เงินเป็นจำนวนมากเมื่อเป็นเช่นนี้แล้ว เขาก็ไม่ต้องอยู่อย่างยากจนข้นแค้นดั่งเช่นทุกวันนี้อีกเจี่ยนอันอันเห็นว่าวิธีนี้พอใช้ได้ ปกติพี่ใหญ่มองการณ์ไกลมากกว่านางอยู่แล้ว“ถ้าเช่นนั้นก็แล้วแต่ท่าน”เจี่ยนอันอันกล่าวจบ จึงคิดจากไปนางยังคิดจะไปดูแอ่งน้ำเสียหน่อย เผื่อจะปล่อยพันธุ์ปลาลงไปในน้ำบ้างเผื่อวันหน้าปลาโตขึ้น ชาวหมู่บ้านชิงสุ่ยก็จะมีเนื้อปลากินอีกขณะที่เจี่ยนอันอันเตรียมตัวจะออกไป กลับถูกเสิ่นจือเจิ้งเรียกตัวไว้“เมื่อคืนที่บ้านเจ้าได้เกิดเรื่อ

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาอ๋องผู้ถูกเนรเทศ   บทที่ 806

    เมื่อมีชาวบ้านผ่านมาที่นี่แล้วเห็นลูกปลาในสระน้ำเข้าเขาก็ส่งเสียงด้วยความประหลาดใจทันทีว่า “แม่นางเจี่ยน เจ้าเป็นคนนำลูกปลาพวกนี้มาปล่อยไว้ในนี้หรือ?”เจี่ยนอันอันพยักหน้าพร้อมยิ้มบาง ชาวบ้านผู้นั้นเรียกคนอื่นๆ มาด้วยความดีใจทุกคนล้วนรู้สึกซาบซึ้งในความเอาใจใส่ของเจี่ยนอันอัน แบบนี้ต่อไปพวกเขาก็จะสามารถกินเนื้อปลาสดใหม่ได้แล้วชาวบ้านจำนวนมากล้วนรู้สึกยินดีเพราะเรื่องนี้ แต่มีชาวบ้านคนหนึ่งที่นิ่วหน้าคิ้วขมวดเขาอดพูดขึ้นไม่ได้ว่า “สระน้ำนี่ก็ดีอยู่หรอก แต่อากาศค่อยๆ เย็นลงแล้ว กลัวจริงๆ ว่าเมื่อถึงฤดูหนาว สระน้ำนี่ก็จะจับตัวเป็นน้ำแข็ง”“พอถึงยามนั้น อย่าว่าแต่พวกเราจะไม่ได้กินเนื้อปลา เกรงว่าแม้แต่พืชผักก็คงปลูกไม่ได้เหมือนกัน”วาจาประโยคเดียวของชาวบ้านทำให้คนอื่นๆ กลัดกลุ้มตามไปด้วยหลายวันมานี้อากาศค่อยๆ เย็นลง พวกเขาล้วนแต่เพิ่งปลูกผักทั้งยังได้รับเงินสามสิบตำลึงมาแล้วหากถึงฤดูหนาวจริงๆ พวกเขาก็ไม่สามารถปลูกผักพวกนี้ได้อีกแล้วเมื่อถึงตอนนั้น พวกเขาก็จะได้กลับไปมีชีวิตที่ยากลำบากเหมือนที่ผ่านมาอีกครั้งพวกเขาเกี่ยวข้าวไว้มากแล้ว แต่ผักพวกนี้ควรทำอย่างไรดีเล่า?หาก

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาอ๋องผู้ถูกเนรเทศ   บทที่ 807

    เจี่ยนอันอันเห็นว่าฉู่จวินสิงก่อสร้างเป็น นางก็วางใจไปได้มากนางยิ้มเอ่ยว่า “ไม่ใช่กระโจม แต่เป็นโรงเรือนสำหรับเพาะปลูกแบบหนึ่ง”นางมีความคิดคร่าวๆ ในใจแล้วจึงรีบกลับบ้านไปกับฉู่จวินสิงนางหยิบกระดาษและปากกาออกมาจากในมิติ แล้ววาดภาพร่างบนโต๊ะฉู่จวินสิงนั่งอยู่ข้างๆ ตั้งใจดูภาพร่างโรงเรือนที่เจี่ยนอันอันวาดที่นี่ไม่มีเหล็กเส้น เจี่ยนอันอันยังไม่อยากใช้เงินจำนวนมากไปซื้อจากในร้านค้านางต้องการสร้างโรงเรือนสำหรับคนในหมู่บ้านทุกคน เหล็กเส้นที่ต้องใช้จึงมีไม่น้อยหากใช้เงินไปซื้อมา นั่นไม่ใช่จำนวนเงินน้อยๆ เลยนางไม่อยากใช้เงินพวกนั้นในมิติมากเกินไป นางยังรอที่จะสนับสนุนฉู่จวินสิงขึ้นนั่งบัลลังก์ฮ่องเต้หลังจากการทำสงครามกลับเมืองจิงโจวในวันหน้าเมื่อถึงตอนนั้น เงินทองของล้ำค่าเหล่านั้นในมิติก็จะได้นำไปใช้แล้วฮ่องเต้จนกรอบคนหนึ่งที่ไม่สามารถจ่ายเบี้ยหวัดให้เหล่าขุนนางได้ ทั้งยังไม่สามารถทำให้ชาวบ้านอยู่ดีมีสุข กับฮ่องเต้ที่มั่งคั่งร่ำรวยคนหนึ่ง เงินในมือสามารถซื้อเมืองทั้งเมืองได้ชาวบ้านกับเหล่าขุนนางจะเอนเอียงไปทางคนไหนมากกว่า นั่นไม่ต้องพูดก็สามารถรู้ได้แล้วในไม่ช้า เจี่ยน

Latest chapter

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาอ๋องผู้ถูกเนรเทศ   บทที่ 815

    เจี่ยนอันอันยิ้มเล็กน้อย “พี่เฉียว อย่ามัวยืนเฉย รีบลงชื่อก่อนเถิด”“ประเดี๋ยวเมื่อเจ้าเมืองตานมาถึง ยังต้องให้เขาดูด้วย”เจี่ยนอันอันกล่าวเสียงเบามาก จงใจมิให้เฝิงซานกวงกับลูกน้องเขาได้ยินแต่แม่ลูกตระกูลเฉียวและฉู่จวินสิงกลับได้ยินชัดเจนฉู่จวินสิงมุมปากเชิดขึ้น คิดในใจว่าการจะสั่งสอนคนเช่นเฝิงซานกวง ต้องใช้วิธีนี้จึงจะสาสมเฝิงซานกวงได้ยินไม่ชัดว่าเจี่ยนอันอันพูดเรื่องใด แต่มั่นใจว่าคงมิใช่เรื่องดีแน่นอนเฉียวซื่อรับเอากระดาษและพู่กันไป พลางเขียนชื่อตนเองบนกระดาษด้วยลายมือโย้เย้นางกำลังคิดอยู่ว่าต้องกัดนิ้วตนให้ขาดดีหรือไม่ พลันเห็นเจี่ยนอันอันไม่รู้ไปหยิบแป้นประทับตราจากที่ใดออกมาหนึ่งอันเจี่ยนอันอันกล่าวยิ้มๆ “พี่เฉียว การประทับตราของเราไม่ต้องเสียโลหิต”เฉียวซื่อยิ้มตามเช่นกัน พลางกดนิ้วมือลงบนแป้นนั้น แล้วประทับลายนิ้วลงไปบนสัญญาอีกทีเมื่อต่างลงนามในสัญญาฉบับใหม่เรียบร้อย ฉบับเก่าก็นับว่าเป็นโมฆะไปแต่เจี่ยนอันอันกลับไม่คิดฉีกสัญญาฉบับเก่าทิ้งไป นางจะรอให้เจ้าเมืองตานมาถึง และให้เขาดูเงื่อนไขเอาเปรียบที่อยู่ในนั้นนางใช้วิธีเดียวกันนี้ เขียนสัญญาใหม่ขึ้นมาอีกฉบับ

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาอ๋องผู้ถูกเนรเทศ   บทที่ 814

    ยามนี้เขารู้สึกเสียใจยิ่ง เมื่อครู่ไม่ควรกล่าวถึงท่านอารองออกมาเร็วถึงเพียงนั้นแต่บัดนี้ลูกน้องไปเชิญท่านอามาแล้ว ถึงตอนนั้นเขาจะทำอย่างไรดี?เมื่อนึกถึงตรงนี้ เฝิงซานกวงรีบกล่าวต่อลูกน้องอีกคน “เจ้าไปบอกให้อู่เฉียงกลับมา”ลูกน้องผู้นั้นรับคำสั่งกำลังจะรีบวิ่งไปแต่เดินได้ไม่ถึงสองก้าว พลันถูกฉู่จวินสิงขวางหน้าไว้ก่อน“ผู้ใดกล้าขยับเขยื้อน ข้าจะให้ผู้นั้นเลือดนองอาบพื้นดินในบัดดล”ลูกน้องผู้นั้นได้แต่หวาดกลัวจนชะงักงัน พร้อมหันไปมองเฝิงซานกวง“ลูกพี่...”เขาไม่รู้ว่าควรจะทำอย่างไร ไปก็ไม่ได้อยู่ต่อก็มีความผิดเฝิงซานกวงโกรธจนกำหมัดแน่น เสียงขบฟันดังกรอดจนได้ยินชัด“พวกเจ้าต้องการสิ่งใดกันแน่?”เขาเริ่มรู้แล้วว่า วันนี้ตนน่าจะเจอจิ้งจอกเขี้ยวลากดินเข้าให้แล้วดูท่าหากไม่ต้อนรับขับสู้พวกเขาให้ดี เกรงว่าอีกประเดี๋ยวจะมีจุดจบที่ไม่สู้งามนักเจี่ยนอันอันเห็นว่าเฝิงซานกวงน่าจะอับจนปัญญา จึงเอาสัญญาที่เฉียวซื่อมอบให้นางออกมา“เฝิงซานกวง นี่คือสัญญาที่เจ้าทำไว้กับเฉียวซื่อ ในนี้มีเงื่อนไขข้อหนึ่ง ข้าอาจต้องแก้ไขเล็กน้อย”เฝิงซานกวงกัดฟันกรอดอีกครั้ง บันดาลโทสะเสียจนใบหน้าที่อยู

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาอ๋องผู้ถูกเนรเทศ   บทที่ 813

    พวกเขาลืมเรื่องนี้ไปได้อย่างไรญาติที่เป็นขุนนางของลูกพี่เป็นผู้มีอิทธิพลนัก ดูแลทุกอย่างในอำเภอไถหยางก็ว่าได้เจี่ยนอันอันกล่าวเสียงเย็น “คุยมาตั้งนาน ยังไม่เห็นบอกชื่อว่าคนผู้นั้นเป็นใคร ข้าว่าคงจะแต่งเรื่องส่งเดชมากกว่า”เฝิงซานกวงถูกเจี่ยนอันอันยุยงอีกครั้ง เดิมทีเขาก็ไม่อยากเอ่ยชื่อเจ้าเมืองออกมาแต่ครั้งนี้เห็นทีไม่พูดก็ไม่ได้เสียแล้ว“ฮึ่ม พูดแล้วพวกเจ้าจะตกใจ ท่านอารองของข้าเป็นเจ้าเมืองแห่งอำเภอไถหยาง”“หากพวกเจ้ากล้าแตะต้องกิจการในเหมืองของข้า ข้าจะให้ท่านอาส่งคนมาจับพวกเจ้าไปขังคุกเสีย!”เมื่อเจี่ยนอันอันได้ยินว่าอารองของเฝิงซานกวงก็คือเจ้าเมืองตานนั่นเอง นางจึงเริ่มมีแผนการในใจ“อ้อ หมายถึงเจ้าเมืองตานผู้นั้นหรอกรึ? ยังนึกว่าเป็นคนใหญ่คนโตที่ใดเสียอีก”“เชิญไปเรียกตัวมาได้เลย แล้วเรามายันกันซึ่งหน้า ให้รู้ไปว่าเขาจะเข้าข้างเจ้า หรือเห็นด้วยกับเรามากกว่า”เฝิงซานกวงมองดูท่าทีของเจี่ยนอันอัน คล้ายไม่กลัวกระทั่งคนเป็นเจ้าเมือง จึงให้ตกใจซ้ำอีกเขาแอบคิดในใจ หรือว่าท่านอารองจะรู้จักกับคนสองคนนี้?จึงหันไปกระซิบกระซาบต่อลูกน้องข้างกาย “รีบไปเชิญอารองข้ามาเดี๋ยวนี้”

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาอ๋องผู้ถูกเนรเทศ   บทที่ 812

    เหล่าคนงานที่เข้าออกเหมืองแร่เห็นเหตุการณ์เข้า ต่างก็ตกใจเป็นอย่างมากเพราะเป็นครั้งแรกที่พวกเขาได้เห็นลูกน้องของนายจ้างถูกผู้อื่นทำร้ายเช่นนี้แม้แต่ละคนจะมีความตกใจ แต่ลึกๆ กลับรู้สึกสะใจมากกว่าเพราะบริวารของเฝิงซานกวงเหล่านี้ ปกติมักจะใช้กำลังกับพวกเขาบ่อยๆทุกครั้งที่พวกเขาขุดหาแร่ออกมาไม่ได้ปริมาณตามที่ต้องการ ลูกน้องเฝิงซานกวงก็พากันมารุมซ้อมพวกเขาอย่างหนัก แต่พวกเขาก็ไม่กล้าไปบอกใครบางคนเคยคิดหนีไปจากที่นี่ แต่ครั้งใดที่มีผู้หลบหนี มักถูกจับกลับมาแล้วซ้อมหนักยิ่งกว่าเดิมอีกที่สำคัญพวกเขาแทบจำไม่ได้ว่าตนคือใคร บ้านช่องอยู่ที่ใดจึงได้แต่ใช้แรงกายแลกกับเงินน้อยนิดเพียงสองอีแปะในแต่ละวัน อดทนทำงานอยู่ที่นี่ต่อไปเมื่อชายสองคนถูกทำร้ายเข้า จึงมีลูกน้องเฝิงซานกวงตามออกมาอีกทุกคนเมื่อเห็นว่ามีคนมาก่อเรื่อง จึงกรูกันเข้าหาฉู่จวินสิงทันทีแต่มิต้องรอให้พวกเขามาเข้าใกล้ ฉู่จวินสิงใช้กำลังภายในซัดออกไปก่อนแล้วทุกคนต่างทยอยล้มลง พลางกลิ้งไปมา ร้องครวญครางด้วยความเจ็บปวดทันใดนั้นเอง มีเสียงหนึ่งตะคอกดังขึ้น “ผู้ใดกล้าบังอาจมาก่อเรื่องในเหมืองของข้า อยากตายหรืออย่างไร?”ใบ

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาอ๋องผู้ถูกเนรเทศ   บทที่ 811

    แต่บัดนี้นางเปิดร้านมาสิบกว่าวัน ขายได้เพียงรูปสัตว์โลหะไม่กี่ตัวเท่านั้นเฉียวซื่อบอกเล่าสิ่งที่พบเจอให้เจี่ยนอันอันฟัง ทำให้นางเกิดความเข้าใจขึ้นทันทีที่แท้เฉียวซื่อถูกเฝิงซานกวงหลอกลวงมาแต่แรกเจี่ยนอันอันเพียงคิดว่าต่อให้นางซื้อของตกแต่งเหล่านี้กลับไป ก็มิได้ใช้ประโยชน์นักจึงนำหนูโลหะตัวเล็กในมือวางกลับที่เดิมเฉียวซื่อเห็นเจี่ยนอันอันทำเช่นเดียวกับลูกค้าอื่นในร้าน เพียงเข้ามาหยิบดูเล็กน้อย จากนั้นจึงวางของตกแต่งลงไว้ที่เดิมดูแล้วคล้ายไม่สู้ถูกใจผลงานที่นางสร้างสรรค์ออกมาเท่าใดนัก พลันเกิดความรู้สึกท้อแท้ นางคงไม่เหมาะจะทำอาชีพนี้จริงๆ กระมังหากตอนนี้สามียังอยู่ก็คงดี นางจะได้ฝึกวิชาการตีเหล็กจากเขาให้ออกมาเป็นงานอื่นบ้างและเมื่อครู่เจี่ยนอันอันรู้จากปากเฉียวซื่อ ว่าเฝิงซานกวงได้เปิดกิจการเหมืองแร่แห่งหนึ่งทุกวันจะมีคนงานไปด้านหลังภูเขาที่อยู่ห่างไกล ขุดเอาแร่เหล็กและหยกออกมา เพื่อนำกลับมาถลุงเป็นเครื่องหยกและของใช้ที่ทำจากเหล็กนางเห็นเฉียวซื่อคล้ายมีอาการท้อใจ จึงกล่าวยิ้มแย้ม “พี่เฉียว ท่านพาข้าไปดูที่เหมืองของเฝิงซานกวงก่อน ข้ามีสิ่งของบางอย่างต้องการจะซื้อ”

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาอ๋องผู้ถูกเนรเทศ   บทที่ 810

    เจี่ยนอันอันหยิบมากวาดตาดูก็มองความผิดปกติบนนั้นออกได้ในทันที“เงื่อนไขในนี้เข้มงวดเกินไปแล้ว ถ้าฝ่ายไหนยุติสัญญาจะต้องชดเชยให้อีกฝ่ายเป็นเงินจำนวนหนึ่งแสนตำลึง”“เจ้าหมอนี่ช่างกล้าเขียน สัญญานี้เห็นได้ชัดว่าเป็นเงื่อนไขแบบมัดมือชกกันชัดๆ”“ข้าว่าท่านไม่ร่วมงานกับเขาเป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้เลย”คำพูดของเจี่ยนอันอันทำให้เฉียวซื่อใจหายวูบนางรู้จักตัวหนังสือแค่ไม่กี่ตัว นอกจากเขียนชื่อตัวเองเป็นแล้ว เงื่อนไขในนั้นนางอ่านไม่เข้าใจเลยสักนิดเฝินซานกวงเป็นคนอ่านให้นางฟัง นางรู้สึกว่าเงื่อนไขสมเหตุสมผลมากจึงลงนามในสัญญากับอีกฝ่ายแต่คิดไม่ถึงเลยว่า เฝิงซานกวงจะกล้าเล่นเล่ห์กับนางแบบนี้เดิมนั้นนางอยากยกเลิกสัญญากับอีกฝ่าย แต่กลับได้ยินเฝิงซานกวงพูดว่า ถ้านางกล้าเป็นฝ่ายยกเลิกสัญญาก็จะต้องชดเชยเงินให้เฝิงซานกวงเป็นเงินจำนวนหนึ่งแสนตำลึงตอนนั้นเฉียวซื่อตกใจยิ่งนักนางเคยไปถามเถ้าแก่ร้านข้างเคียง ฝ่ายตรงข้ามก็บอกว่าเงื่อนไขนี้เขียนไว้อย่างชัดเจน ต้องจ่ายเงินชดเชยให้อีกฝ่ายหนึ่งแสนตำลึงจริงๆเงินจำนวนมหาศาลเช่นนี้ นางจะไปหาเงินมากมายขนาดนี้มาจากที่ไหนถึงตอนนี้เฉียวซื่อจึงตระหนักว่

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาอ๋องผู้ถูกเนรเทศ   บทที่ 809

    ตอนนี้เขาทำได้เพียงอดทนอดกลั้นต่อความเจ็บปวด ยอมรับการทุบตีจากเฉียวอี้บริเวณรอบๆ มีคนล้อมเข้ามามุงดูจำนวนมาก พวกเขาต่างชี้ไม้ชี้มือมาทางชายผู้นั้น“คนคนนี้แค่เห็นก็รู้แล้วว่าต้องไม่ใช่คนดีแน่ ดูหน้าตาทรงโจรของเขาสิ แปดส่วนคงเป็นเพราะไปหาเรื่องคนอื่นก่อน ถึงได้ถูกเด็กคนนั้นซ้อมเอาแบบนี้”“เมื่อครู่ข้าได้ยินแล้ว เขาไปลงไม้ลงมือกับแม่ของเด็กคนนั้น ข้าว่าตีเขายังน้อยไป ควรแจ้งความมากกว่า”คนมุงบริเวณรอบๆ ต่างวิพากษ์วิจารณ์กันต่างๆ นานาเฉียวอี้ควงหมัดทักทายใบหน้าของชายผู้นั้นหนักกว่าเดิมในไม่ช้า เฉียวอี้ก็ตีจนรู้สึกเจ็บกำปั้น แต่เขาก็ยังไม่มีทีท่าว่าจะหยุดจนกระทั่งอัดศีรษะชายผู้นั้นจนบวมเป่งเหมือนหมู เฉียวอี้ถึงได้หยุดมือพร้อมหอบหายใจแม้ว่ากำปั้นของเฉียวอี้จะไม่ใหญ่ แต่ครั้นทุบตีคนก็ร้ายกาจยิ่งนักเห็นใบหน้าชายผู้นั้นเขียวช้ำไปหมด เฉียวอี้ก็รู้สึกพึงพอใจเป็นอย่างมากเจี่ยนอันอันกล่าวกับชายผู้นั้นว่า “หากวันหน้าเจ้ายังกล้ามาคุกคามแม่ลูกตระกูลเฉียวอีก ข้าไม่ปล่อยให้เจ้าสบายแบบนี้แน่ ยังไม่รีบไสหัวไปอีก!”ชายผู้นั้นไม่กล้าพูดมาก ลุกขึ้นมากุมศีรษะแล้วเผ่นหนีไปคนมุงบริเวณรอบๆ เ

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาอ๋องผู้ถูกเนรเทศ   บทที่ 808

    เจี่ยนอันอันกับฉู่จวินสิงสบตากัน“พวกเจ้ารอข้าอยู่ตรงนี้” ฉู่จวินสิงว่าแล้วก็ก้าวยาวๆ ตรงไปทางตรอกน้อยชายผู้นั้นเห็นว่าฉู่จวินสิงตรงมาทางเขาก็หันหลังเตรียมวิ่งหนีแต่เขาวิ่งไปได้ไม่กี่ก้าวก็ถูกถีบเข้าที่เอวเสียแล้วชายผู้นั้นถูกถีบกระเด็นไปไกล คว่ำหน้าอยู่บนพื้นร้องโอดโอยออกมาอย่างทนไม่ไหวฉู่จวินสิงย่างสามขุมตรงเข้าไปหาแล้วหิ้วคอเสื้อของชายผู้นั้นขึ้นมาอย่างไม่ปรานีปราศรัย“ไปกับข้า!”ฉู่จวินสิงกล่าวพลางผลักชายผู้นั้นตรงออกไปนอกตรอกชายผู้นั้นได้ลิ้มรสความร้ายกาจของฉู่จวินสิงแล้วย่อมไม่กล้าวิ่งหนีส่งเดชเขาไม่อยากถูกถีบอีกหรอกนะ จนถึงตอนนี้เอวยังระบมอยู่เลยฉู่จวินสิงผลักชายผู้นั้นมาถึงตรงหน้าเจี่ยนอันอันกับเฉียวอี้แล้วกล่าวเสียงเข้ม “บอกมา ระหว่างเจ้ากับเด็กคนนี้เป็นเรื่องอะไรกันแน่?”ชายผู้นั้นมองเฉียวอี้ แววตาเต็มไปด้วยความขุ่นแค้น“คุณชายท่านนี้ ข้าไม่รู้จักเขาเสียหน่อย เขาวิ่งออกมาถนนใหญ่เอง เรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับข้าเลยนะ”ขณะที่ชายผู้นั้นพูดก็ถลึงตาใส่เฉียวอี้อย่างดุร้ายเฉียวอี้เห็นฝ่ายตรงข้ามไม่ยอมรับ เขาเงยหน้าขึ้นมาด้วยความโมโห แล้วตวาดใส่ชายผู้นั้นว่า“ท่านโก

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาอ๋องผู้ถูกเนรเทศ   บทที่ 807

    เจี่ยนอันอันเห็นว่าฉู่จวินสิงก่อสร้างเป็น นางก็วางใจไปได้มากนางยิ้มเอ่ยว่า “ไม่ใช่กระโจม แต่เป็นโรงเรือนสำหรับเพาะปลูกแบบหนึ่ง”นางมีความคิดคร่าวๆ ในใจแล้วจึงรีบกลับบ้านไปกับฉู่จวินสิงนางหยิบกระดาษและปากกาออกมาจากในมิติ แล้ววาดภาพร่างบนโต๊ะฉู่จวินสิงนั่งอยู่ข้างๆ ตั้งใจดูภาพร่างโรงเรือนที่เจี่ยนอันอันวาดที่นี่ไม่มีเหล็กเส้น เจี่ยนอันอันยังไม่อยากใช้เงินจำนวนมากไปซื้อจากในร้านค้านางต้องการสร้างโรงเรือนสำหรับคนในหมู่บ้านทุกคน เหล็กเส้นที่ต้องใช้จึงมีไม่น้อยหากใช้เงินไปซื้อมา นั่นไม่ใช่จำนวนเงินน้อยๆ เลยนางไม่อยากใช้เงินพวกนั้นในมิติมากเกินไป นางยังรอที่จะสนับสนุนฉู่จวินสิงขึ้นนั่งบัลลังก์ฮ่องเต้หลังจากการทำสงครามกลับเมืองจิงโจวในวันหน้าเมื่อถึงตอนนั้น เงินทองของล้ำค่าเหล่านั้นในมิติก็จะได้นำไปใช้แล้วฮ่องเต้จนกรอบคนหนึ่งที่ไม่สามารถจ่ายเบี้ยหวัดให้เหล่าขุนนางได้ ทั้งยังไม่สามารถทำให้ชาวบ้านอยู่ดีมีสุข กับฮ่องเต้ที่มั่งคั่งร่ำรวยคนหนึ่ง เงินในมือสามารถซื้อเมืองทั้งเมืองได้ชาวบ้านกับเหล่าขุนนางจะเอนเอียงไปทางคนไหนมากกว่า นั่นไม่ต้องพูดก็สามารถรู้ได้แล้วในไม่ช้า เจี่ยน

Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status