เจี่ยนอันอันดีใจเป็นลิงโลดเมื่อเห็นมิติร้านค้าภายในมิติมีเงินตั้งมากมายถึงเพียงนั้น นางสามารถนำมาซื้อของในร้านค้าได้หลังจากนี้จะได้กินหลัวซือเฝิ่น[1]กับขนมให้สาแก่ใจได้แล้วไม่นึกเลยว่านางจะจับพลัดจับผลูทำเสร็จไปอีกภารกิจเจี่ยนอันอันมีความสุขจนเผลอยกยิ้มและฮัมเพลงออกมาโดยไม่รู้ตัวในยามนี้เอง ทหารรักษาพระองค์พวกนั้นก็ทยอยกันกลับมาเมื่อครู่นี้พวกเขาไปทำธุระมาอีกรอบ ยามนี้ท้องไส้จึงรู้สึกสงบลงในที่สุดพวกเขากลับมายังหน้ากองไฟและเพิ่งจะสังเกตเห็นว่าไม่มีพวกเขาคนใดอยู่เฝ้าที่นี่แม้แต่คนเดียวโชคดีที่คนของจวนเยียนอ๋องต่างก็นั่งอยู่ที่นี่ มิมีผู้ใดเล็ดลอดหนีไปมิเช่นนั้นหากมีคนหนีไป พวกเขาคงกลับไปรายงานผลการปฏิบัติภารกิจไม่ได้เหล่าทหารรักษาพระองค์ต่างนึกกลัวผลที่จะตามมาพวกเขารอแล้วรอเล่า หัวหน้าก็ไม่กลับมาสักทีทหารที่มีความสัมพันธ์ค่อนข้างดีกับหัวหน้าทหารรักษาพระองค์นายหนึ่งเห็นว่าหัวหน้าไม่กลับมาสักที ก็ลุกขึ้นยืนอย่างสุดจะทนในท้ายที่สุดเขาบอกกับทหารรักษาพระองค์คนอื่น ๆ “พวกเจ้าเฝ้าคนพวกนี้ให้ดี ข้าจะไปหาท่านหัวหน้า”ทหารนายนี้ว่าจบก็วิ่งเข้าไปในป่าครั้นเจี่ยนอันอันเ
ทหารนายนั้นวิ่งกลับไปหัวหน้าทหารรักษาพระองค์แล้วดึงแขนของอีกฝ่ายเพื่อประคองให้ลุกขึ้น“เบาหน่อย ขาข้าชาจนไม่มีความรู้สึกแล้ว”หัวหน้าทหารองครักษ์ต้องพักอยู่นานจึงจะเปลี่ยนกางเกงชั้นในจากนั้นทหารนายนี้จึงประคองเขากลับไปยังจุดพักผ่อนอย่างเชื่องช้าเมื่อเจี่ยนอันอันเห็นหัวหน้าทหารรักษาพระองค์ ในที่สุดนางก็หัวเราะ “พรืด” ออกมาอย่างห้ามไม่อยู่หัวหน้าทหารรักษาพระองค์ตวาด “หัวเราะอะไร อย่าคิดว่าเจ้าเป็นคุณหนูใหญ่แห่งจวนกั๋วกงแล้วข้าจะไม่กล้าทำอะไรนะ” “ยามนี้เจ้าเป็นผู้ถูกเนรเทศ ต่อให้ตายระหว่างทางก็คงไม่มีผู้ใดช่วยเก็บศพ”หัวหน้าทหารรักษาพระองค์ทึกทักเอาเองว่าถ้อยคำของตัวเองจะทำให้เจี่ยนอันอันหวาดกลัวเจี่ยนอันอันเพียงแค่นเสียงแผ่วเบา ไม่ได้สนใจอีกฝ่ายนางคร้านจะเสวนากับเขา อย่างไรเสีย การยั่วโมโหอีกฝ่ายก็รังแต่จะทำให้นำปัญหาที่ไม่จำเป็นมาให้คนในตระกูลเปล่า ๆนางไม่อยากสร้างปัญหาให้ผู้อื่นเพราะตัวนางเองเจี่ยนอันอันหันไปมองฉู่จวินสิงที่ยังคงหมดสติปราดหนึ่งที่นี่มีฉู่อันเจ๋อดูแลอยู่ นางต้องไปปกป้องฮูหยินใหญ่ให้ปลอดภัยเจี่ยนอันอันกล่าวกับหลี่อันเจ๋อ “จงฟังให้ดี ประเดี๋ยวจะมีกล
เจี่ยนอันอันเห็นดังนั้นจึงไม่รอช้า รีบหยิบเข็มเงินออกมาจากมิติและซัดไปยังชายชุดดำผู้นั้นทันทีเข็มเงินปักเข้าที่ลำคอของชายชุดดำ ก่อนที่เขาจะได้ตอบสนอง ร่างก็ล้มลงกับพื้นและสิ้นใจในทันทีเมื่อเสียงการต่อสู้ดังขึ้น เหล่าคนในตระกูลต่างก็ถูกปลุกให้ตื่นขึ้นพวกเขาลืมตาขึ้นมาก็เห็นกลุ่มคนชุดดำโผล่มาอย่างไม่คาดคิดเมื่อเห็นชายชุดดำคนหนึ่งตายอยู่ตรงหน้า บางคนก็ตกใจกลัวจนร้องไห้ออกมาทันทีชายชุดดำคนอื่น ๆ ที่เห็นเหตุการณ์ต่างก็ชะงักไปพวกเขาเห็นใบหน้าสหายของตนกลับกลายเป็นสีม่วงคล้ำไปแล้วเลือดสีดำไหลออกมาจากทวารทั้งเจ็ดของเขากลุ่มชายชุดดำรู้สึกตกใจอย่างมาก ไม่คาดคิดว่าเข็มเงินที่ปักอยู่บนลำคอของสหายนั้นจะถูกอาบด้วยยาพิษแม้แต่ทหารรักษาพระองค์ก็ยังตกใจกับเข็มเงินของเจี่ยนอันอันทุกคนหันสายตามองมาทางเจี่ยนอันอันอย่างพร้อมเพรียงฉู่จวินสิงเห็นว่าที่มุมปากของเจี่ยนอันอันยกขึ้นเล็กน้อยรอยยิ้มที่เต็มไปด้วยความกระหายเลือดและความโหดร้ายปรากฏขึ้นบนใบหน้าของนางหัวใจของฉู่จวินสิงถึงกับสั่นสะท้านสิ่งที่เขาไม่รู้ก็คือ ในยุคปัจจุบัน เจี่ยนอันอันชอบใช้เข็มเงินเป็นลูกดอกเล่นสนุกอยู่แล้วนางย
กลุ่มคนชุดดำเหล่านั้นเดิมคิดว่าภารกิจลอบสังหารครั้งนี้จะสำเร็จได้โดยง่ายกลับคาดไม่ถึงว่า ท่ามกลางญาติพี่น้องเหล่านี้ จะมีนางพญามัจจุราชผู้เชี่ยวชาญการใช้พิษเช่นนี้อยู่ด้วยกลุ่มคนชุดดำสิบกว่าคนต่างนิ่งเงียบ ไม่มีใครปริปากพูดพวกเขาล้วนปฏิบัติตามคำสั่งอย่างเคร่งครัด ไม่มีทางเปิดเผยตัวผู้บงการอยู่เบื้องหลังเด็ดขาดเจี่ยนอันอันมองดูท่าทีปากแข็งไม่ยอมแพ้ของพวกเขานางจึงยิ้มเย็น ก่อนจะขว้างเข็มเงินไปยังคนหนึ่งในกลุ่มนั้นอีกครั้งชายชุดดำคนนั้นไม่ทันได้ตอบสนอง เข็มเงินก็ปักเข้าที่หัวเข่าของเขาทันทีชายชุดดำร้องด้วยความเจ็บปวด ก่อนจะทรุดตัวลงคุกเข่าข้างหนึ่งกับพื้นร่างกายของเขาเริ่มชาไปทั้งตัว แต่ในชั่วขณะต่อมากลับรู้สึกเหมือนมีแมลงนับล้านตัวกำลังกัดแทะชายชุดดำคิดในใจว่าคงจะพบจุดจบเช่นเดียวกับสหายหลายคนพวกนั้น ที่ตายภายใต้เงื้อมมือของหญิงสาวผู้นี้แน่แล้วเขาเงยหน้ามองเจี่ยนอันอันพร้อมกับแสยะยิ้มเย็นชาราวกับยอมรับความตาย“จะพูดหรือไม่พูด?” เสียงของเจี่ยนอันอันแผ่วเบาดุจเสียงกระซิบของภูตผีที่ล่องลอยเข้าโสตประสาทของชายชุดดำแม้เขาจะรู้สึกชาและเจ็บแปลบไปทั้งตัว แต่ยังคงกัดฟันแน่น ไ
เมื่อเห็นหลุมเล็ก ๆ บนพื้น เหล่าผู้คนในตระกูลต่างก็อดหวาดเสียวแทนเจี่ยนอันอันไม่ได้โชคดีที่เจี่ยนอันอันหลบได้ทัน จึงไม่โดนแส้ฟาดมิเช่นนั้นหากถูกแส้นี้ฟาดลงไปคงทำให้ผิวหนังแตกยับเยินหัวหน้าทหารรักษาพระองค์ไม่คาดคิดว่าเจี่ยนอันอันจะหลบแส้ของเขาได้ เขาตวาดด้วยความโมโห “เจี่ยนอันอัน ตอนนี้เจ้าเป็นนักโทษเนรเทศ ห้ามพกของติดตัวเด็ดขาด”“ถ้าฉลาดก็รีบส่งเข็มเงินมา จะได้ไม่ต้องจะเจ็บตัว”หัวหน้าทหารรักษาพระองค์พูดจบก็สะบัดแส้แล้วฟาดไปทางเจี่ยนอันอันอีกครั้งในขณะที่แส้กำลังจะฟาดลงบนตัวเจี่ยนอันอัน ฮูหยินใหญ่ที่ยืนอยู่ด้านหลังก็ผลักนางหลบออกไปแส้จึงฟาดลงบนตัวฮูหยินใหญ่แทนฮูหยินใหญ่ร้องออกมาด้วยความเจ็บปวด พลางกุมบริเวณที่ถูกแส้ฟาดแล้วทรุดตัวลงเจี่ยนอันอันไม่คาดคิดว่าฮูหยินใหญ่จะผลักนางออกแล้วรับแส้นั้นแทนเมื่อครู่นางแค่รอให้แส้ฟาดลงมาเพื่อที่จะคว้าแส้ไว้แล้วค่อยลงโทษหัวหน้าทหารรักษาพระองค์ให้สาสมไม่คิดว่าจะกลับกลายเป็นแบบนี้ไปเสียได้“ฮูหยินใหญ่ ท่านเป็นอย่างไรบ้าง รีบนั่งลงมาให้ข้าดูเถิด” เจี่ยนอันอันรีบหันไปพยุงฮูหยินใหญ่ให้นั่งลงแล้วตรวจดูบาดแผลฮูหยินใหญ่รู้สึกเจ็บปวดจนตั
เจี่ยนอันอันกล่าวอีกครั้งว่า “หากท่านหัวหน้าทหารรักษาพระองค์อยากลองลิ้มรสการถูกเข็มพิษปักดู ก็เชิญมารับไปได้เลย”“ข้าคิดว่าท่านหัวหน้าคงทราบดีว่า อยู่ในป่ารกร้างเช่นนี้ หากทหารรักษาพระองค์ตายไปสักสองสามคน ฮ่องเต้ก็คงไม่สนใจอะไร”คำพูดของเจี่ยนอันอันทำให้เหล่าทหารรักษาพระองค์ตกใจไม่น้อยสิ่งที่นางพูดนั้นถูกต้อง แม้พวกเขาจะเป็นทหารรักษาพระองค์แต่ในสายตาของฮ่องเต้ พวกเขาเทียบไม่ได้แม้แต่มดตัวหนึ่งยิ่งไปกว่านั้น ในระหว่างทางเนรเทศ ย่อมมีเหตุการณ์ไม่คาดฝันเกิดขึ้นได้เสมอหากทหารรักษาพระองค์ตายไปสักสองสามคนระหว่างทาง ก็ไม่มีใครสนใจและกลุ่มคนชุดดำเมื่อครู่ก็ถูกเจี่ยนอันอันฆ่าตายทั้งหมดไม่มีใครรู้ว่าในมือนางยังมีเข็มเงินอีกเท่าไร และไม่มีใครอยากเสี่ยงที่จะขัดใจเจี่ยนอันอันคำพูดของเจี่ยนอันอันทำให้หัวหน้าทหารรักษาพระองค์ตระหนักได้เขาเริ่มรู้สึกหวาดกลัว เมื่อนึกได้ว่าที่ผ่านมาเขาหงุดหงิดมากจนลืมไปว่าบนเข็มเงินนั้นมีพิษกลุ่มนักโทษเนรเทศเหล่านี้ ตอนนี้ไม่ต่างอะไรกับกลุ่มโจรปล้นฆ่าหากไปยั่วยุพวกเขา ในป่ารกร้างเช่นนี้ แม้ทหารรักษาพระองค์ทั้งหมดจะถูกฆ่า เกรงว่าคงไม่มีใครรู้ว่าเป็น
วังหลวงนั้นมีการคุ้มกันอย่างเข้มงวดนางเป็นเพียงหญิงสาวที่อ่อนแอ หากต้องการเข้าไปในวังหลวง เกรงว่าคงถูกจับได้ตั้งแต่แรกแล้วแต่นางไม่เพียงไม่ถูกจับได้ ยังสามารถเดินเข้าคุกหลวงได้อย่างสบายใจนางไปที่คุกด้วยเหตุใด หรือจะไปปล้นตัวนักโทษหนีออกมา?แต่ในตอนนั้น ผู้คุมในคุกกลับทำเหมือนมองไม่เห็นนาง ปล่อยให้นางเดินไปมาได้ตามใจเรื่องนี้จะอธิบายได้อย่างไร?เมื่อเห็นเจี่ยนอันอันเดินเข้ามาใกล้ ฉู่จวินสิงจึงเบือนหน้าไปทางอื่นเพื่อหลบสายตาเจี่ยนอันอันเดินเข้ามาหยุดตรงหน้าฉู่จวินสิงโดยไม่พูดอะไร นางจับข้อมือของอ๋องหนุ่มขึ้นมาแล้วเริ่มตรวจชีพจรฉู่จวินสิงรู้สึกว่าข้อมือของตนถูกจับขึ้น และเห็นว่าเจี่ยนอันอันกำลังตรวจชีพจรของเขาอยู่ในใจของฉู่จวินสิงเต็มไปด้วยคำถามมากมาย เขาเปิดริมฝีปากบางเพียงเล็กน้อย แต่กลับไม่เอ่ยถามอะไรออกมาเลยสักคำเมื่อมองดูข้อมือของตนที่ถูกเจี่ยนอันอันจับไว้ พร้อมกับนิ้วเรียวเล็กที่แตะเบา ๆ บนเส้นชีพจรฉู่จวินสิงไม่ได้โกรธหรือไล่ให้เจี่ยนอันอันออกห่างจากเขาเขาปล่อยให้นางตรวจชีพจรของเขาต่อไปฉู่จวินหลุนและฉู่อันเจ๋อที่ยืนอยู่ข้าง ๆ ต่างตกตะลึงกับการกระทำของทั้งสองค
การกระทำของเจี่ยนอันอัน ทำให้หัวใจของฉู่จวินสิงสั่นไหวเขาคิดที่จะดึงมือกลับมา แต่กลับพบว่าตนเองไม่อาจขยับเขยื้อนได้ดั่งเก่าเจี่ยนอันอันกลับไม่ได้ใส่ใจในเรื่องนี้ ทำเพียงแค่กุมมือเอาไว้เท่านั้น นี่เป็นเพียงแค่มารยาทเล็กน้อยเท่านั้นเมื่อเห็นว่าฉู่จวินสิงไม่คัดค้านอันใด เจี่ยนอันอันจึงเอ่ยต่อ “ท่านวางใจได้ ในเมื่อข้าเลือกที่จะแต่งกับท่านแล้ว”“ข้าก็ยินยอมที่จะเป็นเชลยถูกเนรเทศไปด้วยกันกับพวกท่าน ข้าไม่มีทางที่จะหลบหนีเอาตัวรอดไประหว่างทาง” “ข้าจะคอยอยู่ข้างกายท่านตลอด และจะคอยช่วยเหลือทุกคนให้ผ่านช่วงเวลาที่ยากลำบากที่กำลังจะเกิดขึ้นนี้ไปให้ได้”คำพูดของเจี่ยนอันอัน ทำให้ฉู่จวินสิงขมวดคิ้วขึ้นโดยไม่รู้ตัวฮ่องเต้พระราชทานงานอภิเษกสมรส ให้คุณหนูรองจวนกั๋วกงแต่งงานให้กับเขาแล้วเหตุใดผู้ที่ปรากฏตัวขึ้นต่อหน้าเขาในตอนนี้ กลับเป็นคุณหนูใหญ่จวนกั๋วกงเล่า?ฉู่จวินสิงเอ่ยออกมาด้วยน้ำเสียงแหบแห้ง “ในเมื่อเจ้าไม่ใช่คุณหนูรอง เหตุใดจึงแต่งงานกับข้า?”“เจ้ารู้ว่าข้ากำลังจะกลายเป็นเพียงสามัญชนธรรมดาเท่านั้น อีกทั้งยังถูกยึดจวนแล้วเนรเทศออกไป เหตุใดเจ้าถึงยังไม่หนีไป เจ้ามีจุดประสงค์ใดกั
มาถึงเมืองอินเป่ยหลายวันแล้ว ถังหมิงเซวียนก็ได้เรียนรู้กฎระเบียบของที่นี่ดีแล้วผู้ใดที่เข้าสู่เมืองอินเป่ย จะไม่สามารถออกจากที่นี่ได้โดยง่ายเขาเพียงแค่ต้องค้นหาอย่างละเอียด ก็จะพบอีกฝ่ายอย่างแน่นอนในขณะเดียวกัน เจี่ยนอันอันที่นั่งอยู่ในรถม้าก็ได้นำถุงเงินและเห็ดหูหนูทั้งหมดเก็บเข้าไปในมิติจากนั้นนางกระซิบที่ข้างหูฉู่จวินสิงว่า “ท่านหิวหรือไม่ พวกเราไปหาอะไรอร่อย ๆ กินกันดีหรือไม่?”ฉู่จวินสิงหันมายิ้มบาง ๆ “เจ้าอยากกินอะไร หรืออยากกลับไปกินที่โรงเตี๊ยมเดิมอีก?”เจี่ยนอันอันส่ายหัวเบา ๆ อาหารที่โรงเตี๊ยมแห่งนั้นอร่อยก็จริง แต่ก็ยังไม่ถูกปากนางนัก“ข้าอยากกินเนื้อย่างเสียบไม้ ไม่รู้ว่าในอำเภอไถหยางจะมีร้านขายเนื้อย่างหรือไม่”ขณะที่ทั้งสองกำลังสนทนากันอยู่นั้น ก็ได้ยินเสียงกีบม้าดังมาจากด้านหลังเจี่ยนอันอันหันกลับไปมอง ก็เห็นถังหมิงเซวียนควบม้ามุ่งหน้ามาทางพวกนางเจี่ยนอันอันคิดในใจ ไม่ใช่ว่าเจ้าหมอนี้ไปอีกทางแล้วหรือ เหตุใดถึงได้ตามมาอีกเล่า?ไม่นานนัก ถังหมิงเซวียนก็ตามมาทัน เขาจงใจควบม้าให้ช้าลง เพื่อให้เดินขนาบข้างกับรถม้าเขาหันไปกล่าวกับเจี่ยนอันอันว่า “แม่นางเจี่ย
ครอบครัวของนางหาได้มั่งคั่งไม่ เงินเหล่านี้ล้วนเป็นเงินที่นางหาได้จากการออกไปขายเห็ดหูหนูในบ้านก็เหลือเงินเพียงเท่านี้ แต่แม่ของอวี้ซินก็ยอมยื่นส่งเงินทั้งหมดให้เจี่ยนอันอันโดยไม่เสียดายแม้แต่น้อย“แม่นาง บ้านข้าเหลือเงินเพียงเท่านี้ ขอแม่นางอย่ารังเกียจที่มันน้อยเกินไป”เจี่ยนอันอันรับเศษเงินมา หยิบออกมาเพียงก้อนเดียว แล้วส่งส่วนที่เหลือคืนให้แม่ของอวี้ซิน“เงินแค่นี้ก็เพียงพอแล้ว ส่วนที่เหลือท่านเก็บไว้ใช้จ่ายในครอบครัวเถิด”แม่ของอวี้ซินมองเศษเงินที่ถูกส่งคืนให้ นางตื้นตันจนไม่รู้ว่าจะทำอย่างไรดี“แม่นาง ท่านช่วยชีวิตหลานข้า และยังช่วยชีวิตบุตรสาวของข้าอีก ไฉนท่านจึงรับเงินเพียงเท่านี้เล่า”ก่อนหน้านี้ นางเคยจ้างหมอมา แต่กลับไม่อาจช่วยรักษาพวกเขาให้หายได้ ทั้งยังเรียกค่ารักษาถึงสิบห้าตำลึงเงินในคราวเดียวแต่แม่นางที่อยู่ตรงหน้า ไม่ได้เพียงรักษาชีวิตคนในครอบครัวของนางให้หายดี ยังรับเงินเพียงห้าตำลึงเท่านั้นนี่มันช่างไม่สมเหตุสมผลเอาเสียเลยแม่ของอวี้ซินพลันคิดขึ้นได้ว่า ในบ้านของนางยังมีเห็ดหูหนูจำนวนมาก บางทีนางอาจจะมอบเห็ดหูหนูเหล่านั้นให้แม่นางผู้นี้ไปเลยก็ได้เมื่อคิ
เจี่ยนอันอันไม่คิดอยากจะฟังคำอธิบายจากถังก่วง นางหันไปกล่าวกับพ่อและแม่ของอวี้ซินว่า “ตอนนี้เด็กคนนั้นอยู่ที่ใด ข้าจะไปรักษาเขา”แม่ของอวี้ซินที่เดิมทีไม่ประสงค์ให้ผู้ใดล่วงรู้ถึงเรื่องอัปยศในครอบครัว ครั้นได้ยินคำของเจี่ยนอันอันนางจึงรีบตอบ “แม่นาง เชิญตามข้ามา”แม่ของอวี้ซินนำทางเจี่ยนอันอันพร้อมทั้งอีกสองคนไปยังห้องอีกห้องหนึ่งห้องนั้นไม่กว้างขวาง มีเพียงเตียงหนึ่งเตียงและโต๊ะหนึ่งตัวเท่านั้นเมื่อเจี่ยนอันอันมองไปบนเตียง ก็เห็นเด็กชายวัยราวสิบขวบนอนอยู่ดวงตาของเขาปิดสนิท ดวงหน้าเล็กซีดขาวเจี่ยนอันอันก้าวเข้าไปใกล้ พลางจับชีพจรให้ถังเสี่ยวซานเด็กผู้นี้ไม่ได้มีโรคอื่นติดตัว เพียงแต่สำลักน้ำเข้าไปมาก ทำให้ปอดเต็มไปด้วยน้ำชีพจรของเขาเต้นช้ามาก หากไม่ได้ทำการรักษาอย่างทันท่วงที เกรงว่าเด็กคนนี้อาจสิ้นใจได้ไม่รู้ว่าแพทย์ที่รักษาก่อนหน้าทำอย่างไร แต่กลับไม่ได้ใช้วิธีปั๊มหัวใจให้เด็กโชคยังดีที่แพทย์คนก่อนให้ยารักษาบางชนิดแก่ถังเสี่ยวซาน ซึ่งช่วยชะลอการหยุดเต้นของหัวใจเป็นการชั่วคราวเป็นเหตุให้เขายังคงอยู่ในสภาพหมดสติ โดยไม่ได้สิ้นลมไปเจี่ยนอันอันยืนอยู่ต่อหน้าแม่ของอ
หากต้องการให้อวี้ซินฟื้นฟูร่างกาย จำเป็นต้องคลายปมในใจของนางก่อนถึงจะสำเร็จเจี่ยนอันอันหยิบเข็มเงินออกมา แทงลงที่จุดไป่ฮุ่ยและจุดอิ้นถังของอวี้ซินฝีมือของนางทั้งมั่นคง แม่นยำ และเฉียบขาด จนทำให้พ่อและแม่ของอวี้ซินที่ดูอยู่ตกใจกลัวก่อนหน้านี้ก็มีหมอคนอื่นมารักษาและฝังเข็มให้อวี้ซินเช่นกันทว่าฝีมือการฝังเข็มของพวกเขา กลับไม่เฉียบคมเท่าเจี่ยนอันอันแม่ของอวี้ซินบีบแขนของผู้เป็นสามีไว้แน่น รู้สึกประหม่าจนมือสั่นเจี่ยนอันอันหยิบยาสงบจิตออกมา และยัดเข้าไปในปากของอวี้ซินนางค่อย ๆ หมุนเข็มเงินอย่างแผ่วเบา ไม่นานก็ได้ยินเสียงอืมเบา ๆ ในลำคอจากอวี้ซินเปลือกตาของนางขยับเล็กน้อย ดูเหมือนจะมีท่าทีว่าใกล้จะฟื้นขึ้นมาแล้วพ่อและแม่ของอวี้ซินเห็นดังนั้น ใจก็เหมือนจะออกมาเต้นนอกอกขณะที่ถังหมิงเซวียนที่ยืนอยู่ข้าง ๆ มองดูวิธีการฝังเข็มของเจี่ยนอันอัน เขาอดที่จะอุทานเบา ๆ ไม่ได้ฝีมือระดับนี้เทียบเท่ากับเขาเลยทีเดียวเจี่ยนอันอันไม่สนใจคำอุทานของถังหมิงเซวียน นางดึงเข็มเงินออก ทำความสะอาดเล็กน้อยก่อนจะเก็บมันเข้าไปในมิติจากนั้นนางหยิบยารักษาโรคจิตเวชออกมา ป้อนใส่ปากอวี้ซิน“พวกท่าน
ถังก่วงตกใจจนหน้าซีดเผือด รีบวิ่งไปหาอวี้ซินพร้อมจะช่วยพยุง“อวี้ซิน เจ้าเป็นอะไรไป อย่าทำให้ข้าตกใจสิ!”บิดาของอวี้ซินก้าวพรวดเข้ามา ผลักถังก่วงออกไปทันที“เจ้าอย่าแตะต้องลูกสาวข้า หากนางเป็นอะไรไป ข้าจะไม่มีวันปล่อยเจ้าไปแน่”ถังก่วงถูกผลักจนเซไปข้างหนึ่ง ยังคิดจะเข้าไปช่วยอวี้ซินอีก แต่ก็ถูกสายตาเย็นชาของบิดาอวี้ซินข่มจนต้องถอยกลับเจี่ยนอันอันไม่รู้เรื่องของถังก่วง นางเพียงคิดว่านี่เป็นเรื่องภายในครอบครัวของคนอื่น และไม่อยากยุ่งเกี่ยวขณะกำลังจะก้าวออกไป ประตูเรือนก็ถูกผลักเปิดออกแม่ของอวี้ซินกลับมาแล้ว นางเห็นว่าในเรือนมีคนเพิ่มขึ้นมาสี่คน ซึ่งหนึ่งในนั้นมีถังก่วงนางทิ้งสิ่งที่ถืออยู่ลงแล้ววิ่งเข้ามาอย่างเร่งรีบ“เจ้ามาทำไมอีก ยังทำร้ายลูกสาวข้าไม่พออีกหรือ?”ถังก่วงเห็นมารดาของอวี้ซินกลับมาแล้ว เขาก็รีบบอกว่าพาคนมาเพื่อรักษาอวี้ซินและถังเสี่ยวซานแม่ของอวี้ซินเหลือบมองเจี่ยนอันอันและคนอื่นอีกสองคน แล้วก็มองอวี้ซินที่ศีรษะบาดเจ็บนางรู้สึกเศร้าจากใจ ดวงตาพลันแดงก่ำ“ทั้งสามคนนี้มาเพื่อรักษาเสี่ยวซานและซินเอ๋อร์จริง ๆ หรือ?”แม่ของอวี้ซินยังคงมีเหตุผลบ้าง ไม่เหมือนก
พ่อตาตวาดลั่นด้วยความโมโห “เจ้าคิดจะหลอกพาตัวอวี้ซินกลับไปละสิ ข้าจะบอกให้นะ ฝันไปเถอะ”“ที่อวี้ซินกลายเป็นแบบนี้ก็เพราะเจ้า จงรีบไสหัวไปให้พ้น ข้าไม่อยากเห็นหน้าเจ้าอีก”พ่อตาว่าจบก็จะปิดประตูถังก่วงเห็นดังนี้ก็รีบก้าวเข้าไปดันประตู หยุดยั้งการกระทำขั้นต่อไปของพ่อตาในตอนนี้เอง มีเสียงกรีดร้องของหญิงสาวดังมาจากในบ้านพ่อตาหันกลับไปมองปราดหนึ่ง สีหน้าไม่สู้ดีทันทีเขารีบเดินเข้าไปแย่งกรรไกรจากมืออวี้ซิน“เจ้าบ้าพอหรือยัง เสี่ยวซานยังหมดสติไม่ฟื้น เจ้าจะบ้าจนถึงเมื่อไร!”พ่อตาขว้างกรรไกรในมือลงพื้นอย่างเดือดดาลถังก่วงรีบวิ่งเข้าไปเมื่อได้ยินเสียงเจี่ยนอันอันกับฉู่จวินสิงเดินตามเข้าไปเช่นกันประตูลานบ้านไม่ได้ปิด ถังหมิงเซวียนจึงตามเข้ามาด้วยทั้งยังช่วยหันไปปิดประตูอย่างมีน้ำใจถังก่วงวิ่งไปที่ด้านหลังอวี้ซินและกอดนางไว้ พยายามหยุดยั้งอาการคลุ้มคลั่งของนางแต่อวี้ซินจำถังก่วงไม่ได้แม้แต่น้อย นางกรีดร้องและกัดเข้าที่แขนของถังก่วง“โอ๊ย!” ถังก่วงร้องออกมาด้วยความเจ็บปวดแต่ไม่ยอมปล่อยตัวนางแต่อย่างใดเจี่ยนอันอันมองเห็นว่าตอนนี้ภรรยาของถังก่วงมีผมเผ้ายุ่งเหยิงและหลุดลุ่ย
ถังก่วงเห็นเจี่ยนอันอันกินเสร็จแล้วก็ทำการเก็บผักที่เหลือลงบนรถเข็นเขาลากรถเข็นและรอให้เจี่ยนอันอันกับฉู่จวินสิงขึ้นรถม้าถังก่วงพูดว่า “แม่นางเจี่ยน ตัวข้าเดินค่อนข้างช้า หากพวกท่านรีบก็ไปรอที่ปากทางเข้าหมู่ซีโข่วก่อนได้ ข้าจะรีบตามไปให้เร็วที่สุด”เจี่ยนอันอันพยักหน้าแล้วบอกให้ฉู่จวินสิงควบรถม้าจากไปถังก่วงเห็นรถม้าของทั้งคู่มุ่งไปทางหมู่บ้านซีโข่วจริงๆ ก็เบาใจลงในที่สุดถังหมิงเซวียนขี่ม้าตามอยู่ด้านหลังรถม้าอย่างไม่เร็วไม่ช้าฉู่จวินสิงได้ยินเสียงฝีเท้าม้าด้านหลังก็หันไปมอง เห็นว่าถังหมิงเซวียนกำลังตามมาเขาจะหยุดรถม้าเพื่อซักถามถังหมิงเซวียนแต่แล้วกลับได้ยินเจี่ยนอันอันพูดว่า “ไม่ต้องสนใจเขา เขาอยากตามก็ปล่อยให้เขาตามไป”นางอยากเห็นเหมือนกันว่าบุรุษผู้นี้คิดจะทำอะไรรถม้ามาถึงปากทางเข้าหมู่บ้านซีโข่วอย่างรวดเร็ว ฉู่จวินสิงดึงบังเหียนรถม้า รอให้ถังก่วงตามมาถังหมิงเซวียนหยุดอยู่ห่างออกไปไม่ไกลเช่นกันดวงตาของเขาจับจ้องเจี่ยนอันอันไม่ละสายตา รู้สึกสงสัยใคร่รู้ในตัวนางมากขึ้นเรื่อยๆแม่นางผู้นี้ดูแล้วท่าทางแค่อายุสิบสี่สิบห้าปี แต่เมื่อต้องเผชิญหน้ากับศัตรูกลับมีความเ
เจี่ยนอันอันหันตัวกลับไปด้วยความสงสัย “เจ้ายังมีธุระอะไรหรือ?”ถังก่วงพูดอย่างเขินอายเล็กน้อย “ไม่ทราบว่าแม่นางแซ่เจี่ยนใช่หรือไม่?”เจี่ยนอันอันคิดในใจ บรรดาเจ้าหน้าที่ทางการต่างเรียกนางว่าแม่นางเจี่ยน นางก็ต้องแซ่เจี่ยนอยู่แล้วสิถังก่วงรู้ตัวว่าตัวเองถามอะไรไม่เข้าท่า เขากระแอมไอเบาๆ “แม่นางเจี่ยน ไม่ทราบว่าท่านรู้จักอวี๋ผิงเหลียงหรือไม่?”เจี่ยนอันอันนึกเรื่องที่ตัวเองซื้อสมุนไพรทั้งภูเขาจากครอบครัวของอวี๋ผิงเหลียงขึ้นได้ทันทีนางพยักหน้า “รู้จัก ทำไมหรือ?”ถังก่วงรู้สึกยินดี ดูเหมือนว่าอวี๋ผิงเหลียงจะไม่ได้พูดโกหกเขารีบประสานมือพูดว่า “อวี๋ผิงเหลียงอยู่บ้านติดกับข้า เขาเคยชมท่านให้ข้าฟัง บอกว่าท่านไม่เพียงช่วยเหลือน้องสาวของเขา แต่ยังรับซื้อสมุนไพรของครอบครัวเขาด้วย”เจี่ยนอันอันขานตอบว่า “อ้อ” นางเข้าใจแล้วว่าถังก่วงต้องการผูกมิตรกับนางถังก่วงเห็นเจี่ยนอันอันไม่พูดอะไรก็ยิ่งขาดความมั่นใจเขาอยากบอกเจี่ยนอันอันเหลือเกินว่าที่บ้านเขาก็มีคนป่วยหนักเช่นกัน อยากให้เจี่ยนอันอันช่วยรักษาก่อนหน้านี้ภรรยาของเขาพาลูกกลับไปที่บ้านแม่ แต่แล้วลูกกลับตกลงไปในบ่อ หลังจากช่วยขึ้นมา
เวลานี้พวกเขากลายเป็นคนใบ้กินหวงเหลียน แม้จะขมแต่กลับพูดอะไรไม่ออก[1]หนึ่งในเจ้าหน้าที่ทางการคนหนึ่งหันไปพูดกับเจี่ยนอันอัน “แม่นางเจี่ยน เงินสิบล้านตำลึงนี้ดูจะมากเกินไปหน่อย”“ท่านลดจำนวนลงหน่อยได้หรือไม่และเลิกแล้วเรื่องนี้ต่อกันไป”บรรดาเจ้าของแผงเห็นเจ้าหน้าที่ทางการพูดเข้าข้างตัวเองในที่สุดก็พากันแสดงท่าทีเห็นด้วยเจ้าของแผงที่เอ่ยปากพูดเมื่อครู่ก็เอ่ยเช่นกัน “แม่นาง ก่อนหน้านี้พวกข้าทำผิดไป ท่านช่วยยกโทษให้ได้หรือไม่?”“พวกข้าหาเงินสิบล้านตำลึงมาให้ไม่ได้จริงๆ ข้าขอยกผักทั้งหมดให้ท่านได้หรือไม่ รวมกับเงินทั้งหมดที่มอบให้ก่อนหน้านี้ ขอให้เลิกแล้วต่อกันเถิด”เจ้าของแผงคนอื่นๆ แสดงท่าทีเห็นด้วย พวกเขาแย่งกันพูดอ้อนวอน หวังว่าเจี่ยนอันอันจะใจกว้างยอมยกโทษให้เจี่ยนอันอันยิ้มเยาะว่า “ผักของพวกเจ้าเหี่ยวหมดแล้ว ต่อให้ข้าเอาไปให้หมูกิน เกรงว่าหมูก็คงไม่อยากกินด้วยซ้ำ”บรรดาเจ้าของแผงเห็นเจี่ยนอันอันหัวรั้นและยังคงไม่ยอมปล่อยพวกตัวเองไป พวกเขาก็ไม่รู้ว่าควรทำอย่างไรดีในตอนนี้เอง มีเสียงปรบมือดังขึ้นทุกคนหันไปมองทางต้นเสียง เห็นบุรุษชุดขาวหน้าตาอ่อนโยนสง่างามดุจหยกผู้หนึ่งสื