ทหารนายนั้นวิ่งกลับไปหัวหน้าทหารรักษาพระองค์แล้วดึงแขนของอีกฝ่ายเพื่อประคองให้ลุกขึ้น“เบาหน่อย ขาข้าชาจนไม่มีความรู้สึกแล้ว”หัวหน้าทหารองครักษ์ต้องพักอยู่นานจึงจะเปลี่ยนกางเกงชั้นในจากนั้นทหารนายนี้จึงประคองเขากลับไปยังจุดพักผ่อนอย่างเชื่องช้าเมื่อเจี่ยนอันอันเห็นหัวหน้าทหารรักษาพระองค์ ในที่สุดนางก็หัวเราะ “พรืด” ออกมาอย่างห้ามไม่อยู่หัวหน้าทหารรักษาพระองค์ตวาด “หัวเราะอะไร อย่าคิดว่าเจ้าเป็นคุณหนูใหญ่แห่งจวนกั๋วกงแล้วข้าจะไม่กล้าทำอะไรนะ” “ยามนี้เจ้าเป็นผู้ถูกเนรเทศ ต่อให้ตายระหว่างทางก็คงไม่มีผู้ใดช่วยเก็บศพ”หัวหน้าทหารรักษาพระองค์ทึกทักเอาเองว่าถ้อยคำของตัวเองจะทำให้เจี่ยนอันอันหวาดกลัวเจี่ยนอันอันเพียงแค่นเสียงแผ่วเบา ไม่ได้สนใจอีกฝ่ายนางคร้านจะเสวนากับเขา อย่างไรเสีย การยั่วโมโหอีกฝ่ายก็รังแต่จะทำให้นำปัญหาที่ไม่จำเป็นมาให้คนในตระกูลเปล่า ๆนางไม่อยากสร้างปัญหาให้ผู้อื่นเพราะตัวนางเองเจี่ยนอันอันหันไปมองฉู่จวินสิงที่ยังคงหมดสติปราดหนึ่งที่นี่มีฉู่อันเจ๋อดูแลอยู่ นางต้องไปปกป้องฮูหยินใหญ่ให้ปลอดภัยเจี่ยนอันอันกล่าวกับหลี่อันเจ๋อ “จงฟังให้ดี ประเดี๋ยวจะมีกล
เจี่ยนอันอันเห็นดังนั้นจึงไม่รอช้า รีบหยิบเข็มเงินออกมาจากมิติและซัดไปยังชายชุดดำผู้นั้นทันทีเข็มเงินปักเข้าที่ลำคอของชายชุดดำ ก่อนที่เขาจะได้ตอบสนอง ร่างก็ล้มลงกับพื้นและสิ้นใจในทันทีเมื่อเสียงการต่อสู้ดังขึ้น เหล่าคนในตระกูลต่างก็ถูกปลุกให้ตื่นขึ้นพวกเขาลืมตาขึ้นมาก็เห็นกลุ่มคนชุดดำโผล่มาอย่างไม่คาดคิดเมื่อเห็นชายชุดดำคนหนึ่งตายอยู่ตรงหน้า บางคนก็ตกใจกลัวจนร้องไห้ออกมาทันทีชายชุดดำคนอื่น ๆ ที่เห็นเหตุการณ์ต่างก็ชะงักไปพวกเขาเห็นใบหน้าสหายของตนกลับกลายเป็นสีม่วงคล้ำไปแล้วเลือดสีดำไหลออกมาจากทวารทั้งเจ็ดของเขากลุ่มชายชุดดำรู้สึกตกใจอย่างมาก ไม่คาดคิดว่าเข็มเงินที่ปักอยู่บนลำคอของสหายนั้นจะถูกอาบด้วยยาพิษแม้แต่ทหารรักษาพระองค์ก็ยังตกใจกับเข็มเงินของเจี่ยนอันอันทุกคนหันสายตามองมาทางเจี่ยนอันอันอย่างพร้อมเพรียงฉู่จวินสิงเห็นว่าที่มุมปากของเจี่ยนอันอันยกขึ้นเล็กน้อยรอยยิ้มที่เต็มไปด้วยความกระหายเลือดและความโหดร้ายปรากฏขึ้นบนใบหน้าของนางหัวใจของฉู่จวินสิงถึงกับสั่นสะท้านสิ่งที่เขาไม่รู้ก็คือ ในยุคปัจจุบัน เจี่ยนอันอันชอบใช้เข็มเงินเป็นลูกดอกเล่นสนุกอยู่แล้วนางย
กลุ่มคนชุดดำเหล่านั้นเดิมคิดว่าภารกิจลอบสังหารครั้งนี้จะสำเร็จได้โดยง่ายกลับคาดไม่ถึงว่า ท่ามกลางญาติพี่น้องเหล่านี้ จะมีนางพญามัจจุราชผู้เชี่ยวชาญการใช้พิษเช่นนี้อยู่ด้วยกลุ่มคนชุดดำสิบกว่าคนต่างนิ่งเงียบ ไม่มีใครปริปากพูดพวกเขาล้วนปฏิบัติตามคำสั่งอย่างเคร่งครัด ไม่มีทางเปิดเผยตัวผู้บงการอยู่เบื้องหลังเด็ดขาดเจี่ยนอันอันมองดูท่าทีปากแข็งไม่ยอมแพ้ของพวกเขานางจึงยิ้มเย็น ก่อนจะขว้างเข็มเงินไปยังคนหนึ่งในกลุ่มนั้นอีกครั้งชายชุดดำคนนั้นไม่ทันได้ตอบสนอง เข็มเงินก็ปักเข้าที่หัวเข่าของเขาทันทีชายชุดดำร้องด้วยความเจ็บปวด ก่อนจะทรุดตัวลงคุกเข่าข้างหนึ่งกับพื้นร่างกายของเขาเริ่มชาไปทั้งตัว แต่ในชั่วขณะต่อมากลับรู้สึกเหมือนมีแมลงนับล้านตัวกำลังกัดแทะชายชุดดำคิดในใจว่าคงจะพบจุดจบเช่นเดียวกับสหายหลายคนพวกนั้น ที่ตายภายใต้เงื้อมมือของหญิงสาวผู้นี้แน่แล้วเขาเงยหน้ามองเจี่ยนอันอันพร้อมกับแสยะยิ้มเย็นชาราวกับยอมรับความตาย“จะพูดหรือไม่พูด?” เสียงของเจี่ยนอันอันแผ่วเบาดุจเสียงกระซิบของภูตผีที่ล่องลอยเข้าโสตประสาทของชายชุดดำแม้เขาจะรู้สึกชาและเจ็บแปลบไปทั้งตัว แต่ยังคงกัดฟันแน่น ไ
เมื่อเห็นหลุมเล็ก ๆ บนพื้น เหล่าผู้คนในตระกูลต่างก็อดหวาดเสียวแทนเจี่ยนอันอันไม่ได้โชคดีที่เจี่ยนอันอันหลบได้ทัน จึงไม่โดนแส้ฟาดมิเช่นนั้นหากถูกแส้นี้ฟาดลงไปคงทำให้ผิวหนังแตกยับเยินหัวหน้าทหารรักษาพระองค์ไม่คาดคิดว่าเจี่ยนอันอันจะหลบแส้ของเขาได้ เขาตวาดด้วยความโมโห “เจี่ยนอันอัน ตอนนี้เจ้าเป็นนักโทษเนรเทศ ห้ามพกของติดตัวเด็ดขาด”“ถ้าฉลาดก็รีบส่งเข็มเงินมา จะได้ไม่ต้องจะเจ็บตัว”หัวหน้าทหารรักษาพระองค์พูดจบก็สะบัดแส้แล้วฟาดไปทางเจี่ยนอันอันอีกครั้งในขณะที่แส้กำลังจะฟาดลงบนตัวเจี่ยนอันอัน ฮูหยินใหญ่ที่ยืนอยู่ด้านหลังก็ผลักนางหลบออกไปแส้จึงฟาดลงบนตัวฮูหยินใหญ่แทนฮูหยินใหญ่ร้องออกมาด้วยความเจ็บปวด พลางกุมบริเวณที่ถูกแส้ฟาดแล้วทรุดตัวลงเจี่ยนอันอันไม่คาดคิดว่าฮูหยินใหญ่จะผลักนางออกแล้วรับแส้นั้นแทนเมื่อครู่นางแค่รอให้แส้ฟาดลงมาเพื่อที่จะคว้าแส้ไว้แล้วค่อยลงโทษหัวหน้าทหารรักษาพระองค์ให้สาสมไม่คิดว่าจะกลับกลายเป็นแบบนี้ไปเสียได้“ฮูหยินใหญ่ ท่านเป็นอย่างไรบ้าง รีบนั่งลงมาให้ข้าดูเถิด” เจี่ยนอันอันรีบหันไปพยุงฮูหยินใหญ่ให้นั่งลงแล้วตรวจดูบาดแผลฮูหยินใหญ่รู้สึกเจ็บปวดจนตั
เจี่ยนอันอันกล่าวอีกครั้งว่า “หากท่านหัวหน้าทหารรักษาพระองค์อยากลองลิ้มรสการถูกเข็มพิษปักดู ก็เชิญมารับไปได้เลย”“ข้าคิดว่าท่านหัวหน้าคงทราบดีว่า อยู่ในป่ารกร้างเช่นนี้ หากทหารรักษาพระองค์ตายไปสักสองสามคน ฮ่องเต้ก็คงไม่สนใจอะไร”คำพูดของเจี่ยนอันอันทำให้เหล่าทหารรักษาพระองค์ตกใจไม่น้อยสิ่งที่นางพูดนั้นถูกต้อง แม้พวกเขาจะเป็นทหารรักษาพระองค์แต่ในสายตาของฮ่องเต้ พวกเขาเทียบไม่ได้แม้แต่มดตัวหนึ่งยิ่งไปกว่านั้น ในระหว่างทางเนรเทศ ย่อมมีเหตุการณ์ไม่คาดฝันเกิดขึ้นได้เสมอหากทหารรักษาพระองค์ตายไปสักสองสามคนระหว่างทาง ก็ไม่มีใครสนใจและกลุ่มคนชุดดำเมื่อครู่ก็ถูกเจี่ยนอันอันฆ่าตายทั้งหมดไม่มีใครรู้ว่าในมือนางยังมีเข็มเงินอีกเท่าไร และไม่มีใครอยากเสี่ยงที่จะขัดใจเจี่ยนอันอันคำพูดของเจี่ยนอันอันทำให้หัวหน้าทหารรักษาพระองค์ตระหนักได้เขาเริ่มรู้สึกหวาดกลัว เมื่อนึกได้ว่าที่ผ่านมาเขาหงุดหงิดมากจนลืมไปว่าบนเข็มเงินนั้นมีพิษกลุ่มนักโทษเนรเทศเหล่านี้ ตอนนี้ไม่ต่างอะไรกับกลุ่มโจรปล้นฆ่าหากไปยั่วยุพวกเขา ในป่ารกร้างเช่นนี้ แม้ทหารรักษาพระองค์ทั้งหมดจะถูกฆ่า เกรงว่าคงไม่มีใครรู้ว่าเป็น
วังหลวงนั้นมีการคุ้มกันอย่างเข้มงวดนางเป็นเพียงหญิงสาวที่อ่อนแอ หากต้องการเข้าไปในวังหลวง เกรงว่าคงถูกจับได้ตั้งแต่แรกแล้วแต่นางไม่เพียงไม่ถูกจับได้ ยังสามารถเดินเข้าคุกหลวงได้อย่างสบายใจนางไปที่คุกด้วยเหตุใด หรือจะไปปล้นตัวนักโทษหนีออกมา?แต่ในตอนนั้น ผู้คุมในคุกกลับทำเหมือนมองไม่เห็นนาง ปล่อยให้นางเดินไปมาได้ตามใจเรื่องนี้จะอธิบายได้อย่างไร?เมื่อเห็นเจี่ยนอันอันเดินเข้ามาใกล้ ฉู่จวินสิงจึงเบือนหน้าไปทางอื่นเพื่อหลบสายตาเจี่ยนอันอันเดินเข้ามาหยุดตรงหน้าฉู่จวินสิงโดยไม่พูดอะไร นางจับข้อมือของอ๋องหนุ่มขึ้นมาแล้วเริ่มตรวจชีพจรฉู่จวินสิงรู้สึกว่าข้อมือของตนถูกจับขึ้น และเห็นว่าเจี่ยนอันอันกำลังตรวจชีพจรของเขาอยู่ในใจของฉู่จวินสิงเต็มไปด้วยคำถามมากมาย เขาเปิดริมฝีปากบางเพียงเล็กน้อย แต่กลับไม่เอ่ยถามอะไรออกมาเลยสักคำเมื่อมองดูข้อมือของตนที่ถูกเจี่ยนอันอันจับไว้ พร้อมกับนิ้วเรียวเล็กที่แตะเบา ๆ บนเส้นชีพจรฉู่จวินสิงไม่ได้โกรธหรือไล่ให้เจี่ยนอันอันออกห่างจากเขาเขาปล่อยให้นางตรวจชีพจรของเขาต่อไปฉู่จวินหลุนและฉู่อันเจ๋อที่ยืนอยู่ข้าง ๆ ต่างตกตะลึงกับการกระทำของทั้งสองค
การกระทำของเจี่ยนอันอัน ทำให้หัวใจของฉู่จวินสิงสั่นไหวเขาคิดที่จะดึงมือกลับมา แต่กลับพบว่าตนเองไม่อาจขยับเขยื้อนได้ดั่งเก่าเจี่ยนอันอันกลับไม่ได้ใส่ใจในเรื่องนี้ ทำเพียงแค่กุมมือเอาไว้เท่านั้น นี่เป็นเพียงแค่มารยาทเล็กน้อยเท่านั้นเมื่อเห็นว่าฉู่จวินสิงไม่คัดค้านอันใด เจี่ยนอันอันจึงเอ่ยต่อ “ท่านวางใจได้ ในเมื่อข้าเลือกที่จะแต่งกับท่านแล้ว”“ข้าก็ยินยอมที่จะเป็นเชลยถูกเนรเทศไปด้วยกันกับพวกท่าน ข้าไม่มีทางที่จะหลบหนีเอาตัวรอดไประหว่างทาง” “ข้าจะคอยอยู่ข้างกายท่านตลอด และจะคอยช่วยเหลือทุกคนให้ผ่านช่วงเวลาที่ยากลำบากที่กำลังจะเกิดขึ้นนี้ไปให้ได้”คำพูดของเจี่ยนอันอัน ทำให้ฉู่จวินสิงขมวดคิ้วขึ้นโดยไม่รู้ตัวฮ่องเต้พระราชทานงานอภิเษกสมรส ให้คุณหนูรองจวนกั๋วกงแต่งงานให้กับเขาแล้วเหตุใดผู้ที่ปรากฏตัวขึ้นต่อหน้าเขาในตอนนี้ กลับเป็นคุณหนูใหญ่จวนกั๋วกงเล่า?ฉู่จวินสิงเอ่ยออกมาด้วยน้ำเสียงแหบแห้ง “ในเมื่อเจ้าไม่ใช่คุณหนูรอง เหตุใดจึงแต่งงานกับข้า?”“เจ้ารู้ว่าข้ากำลังจะกลายเป็นเพียงสามัญชนธรรมดาเท่านั้น อีกทั้งยังถูกยึดจวนแล้วเนรเทศออกไป เหตุใดเจ้าถึงยังไม่หนีไป เจ้ามีจุดประสงค์ใดกั
ฉู่จวินสิงไม่เคยพบเห็นของสิ่งนี้มาก่อน แต่ว่าของสิ่งนี้กลับทำให้เขาหายใจได้สะดวกขึ้นอีกทั้งยังช่วยไม่ให้สูดดมกลิ่นเหม็นนี่ได้สายตาของฉู่จวินสิงมองไปยังเจี่ยนอันอันด้วยความสงสัย เขาเริ่มรู้สึกประหลาดใจในตัวเจี่ยนอันอันมากยิ่งขึ้นเห็นเพียงเจี่ยนอันอันมองไปยังกลุ่มทหารรักษาพระองค์เหล่านั้นอยู่มุมปากของนางยกขึ้น ดวงตาก็โค้งงอเป็นรูปพระจันทร์เสี้ยวใบหน้าที่เดิมงดงามน่ามองอยู่แล้ว ก็เปลี่ยนเป็นงดงามยิ่งขึ้นเพราะรอยยิ้มนี้เหล่าทหารองครักษ์เหล่านั้นที่กำลังท้องไส้ปั่นป่วนกันอยู่ เริ่มขออนุญาติหัวหน้าของพวกเขาไปขับถ่ายอีกครั้งครานี้หัวหน้าของพวกเขาไม่ได้มีอาการปวดท้องเขาจ้องไปยังทหารรักษาพระองค์เหล่านั้น ก่อนจะโบกมือให้พวกเขาอย่างรำคาญ“ไป ๆ ๆ รีบไปจัดการเร็ว ๆ”“หากพวกเจ้ายังผายลมเหม็นเน่าอยู่ที่นี่อีก ข้าคงจะถูกพวกเจ้ารมกลิ่นเหม็นนี่จนตายแน่”หลังจากที่ทหารรักษาพระองค์เหล่านั้นได้รับอนุญาติแล้ว ทั้งหมดก็พากันกุมท้องแล้ววิ่งไปยังป่ารกร้างห่างไกลออกไปเมื่อมองดูทหารรักษาพระองค์ทางด้านนี้ ก็เหลือเพียงแค่หัวหน้าทหารรักษาพระองค์เท่านั้นในที่สุดเจี่ยนอันอันก็ลุกขึ้น ก้าวอาด ๆ
หากเจียงหว่านเอ๋อร์ต้องการมาสร้างปัญหาให้เสิ่นจือเจิ้ง เช่นนั้นแค่เซียงเสวี่ยคนเดียวก็รับมือได้แล้วเซียงเสวี่ยไม่ได้คัดค้านอะไร นางรู้ว่าฐานะตัวเองต้อยต่ำ การได้รับมอบหมายให้ไปรับใช้คนก็สื่อความเชื่อมั่นที่เจี่ยนอันอันมีต่อนางเซียงเสวี่ยย่อมตั้งใจปรนนิบัติรับใช้อย่างสุดความสามารถเจี่ยนอันอันใช้ช่วงที่เสิ่นจืออวี้ยังตามมาไม่ถึงมาย้ายผักในห้วงมิติไปไว้บนรถม้าเมื่อทำทุกอย่างเสร็จสิ้น เสิ่นจืออวี้ก็เดินสืบเท้าเข้ามาทั้งสามคนขึ้นนั่งรถม้าเดินทางสู่อำเภอไถหยางโดยมีฉู่จวินสิงเป็นคนขับเซียงเสวี่ยที่ถูกเจี่ยนอันอันส่งตัวไปไม่ทำให้นางผิดหวังแต่อย่างใดเซียงเสวี่ยมาถึงบ้านหลังแรกที่สร้างใหม่ เห็นเสิ่นจือเจิ้งนั่งอยู่ในลานบ้านเสิ่นจือเจิ้งเงยหน้าขึ้นมาเห็นเซียงเสวี่ย จังหวะที่กำลังจะถามว่านางเป็นผู้ใดก็ได้ยินเซียงเสวี่ยแนะนำตัว“สวัสดีเจ้าค่ะคุณชายเสิ่น ข้ามีนามว่าเซียงเสวี่ย เป็นสาวใช้ของตระกูลฉู่ เจี่ยนอันอันส่งข้ามาปรนนิบัติท่าน”เสิ่นจือเจิ้งได้ยินมาเจี่ยนอันอันเป็นคนส่งมาก็พยักหน้าเขารู้อยู่แล้วว่าเจี่ยนอันอันไม่วางใจที่จะให้เขาอยู่บ้านคนเดียวสำหรับเสิ่นจือเจิ้งแล้ว เซียง
ครานี้ดีเลย ในที่สุดพวกเขาก็จะมีที่อยู่เป็นของตัวเองแล้วทั้งสี่คนไม่ได้ไปรบกวนกวนซิน ทำการเก็บสัมภาระของตัวเองอย่างเงียบเชียบแล้วย้ายออกจากที่นี่เมื่อมาถึงบ้านที่สร้างขึ้นใหม่ เจี่ยนอันอันก็ประคองเสิ่นจือเจิ้งไปที่ห้องของเขาเสิ่นจือเจิ้งมองการประดับตกแต่งภายในห้อง มันเป็นระเบียบเรียบร้อยและเรียบง่าย พร้อมทั้งมีกลิ่นน้ำหอมจางๆเขาหันไปมองเจี่ยนอันอัน “เจ้าฉีดน้ำหอมหรือ?”เจี่ยนอันอันพยักหน้าด้วยรอยยิ้ม “ฉีดน้ำหอมเพื่อช่วยดับกลิ่น”นางไม่ได้บอกเรื่องที่เจียงหว่านเอ๋อร์เคยอยู่ห้องนี้อย่างไรตอนนี้เจียงหว่านเอ๋อร์ก็ไม่ได้อยู่กับเขาแล้ว ไม่จำเป็นต้องบอกมากขนาดนั้น“พี่ใหญ่พึงพอใจหรือไม่?” เจี่ยนอันอันหันไปถามเสิ่นจือเจิ้งพยักหน้า “บ้านที่อันอันสร้างให้ ข้าต้องพึงพอใจอยู่แล้ว”เจี่ยนอันอันประคองเสิ่นจือเจิ้งไปนั่งหน้าเตียง“พี่ใหญ่ ท่านพักผ่อนที่นี่ไปก่อน ข้าจะนำผักกับธัญญาหารที่ปลูกเมื่อวันก่อนไปเก็บที่โรงเก็บของ”“ต่อไปท่านกับเสิ่นจืออวี้จะได้ทำอาหารกินเองได้”เสิ่นจือเจิ้งเลิกคิ้วขึ้นเล็กน้อย ใบหน้าเผยรอยยิ้มปลื้มใจเขานึกไม่ถึงว่าเจี่ยนอันอันมาอยู่ที่นี่แล้วจะเรียนรู้ที
ฉู่จวินสิงยิ้ม เดินไปที่เตียงอย่างเงียบเชียบและทำการห่มผ้าให้ทั้งคู่เขากอดเจี่ยนอันอันแล้วหลับไปอย่างสงบเมื่อเจี่ยนอันอันตื่นขึ้นในเช้าวันรุ่งขึ้น ฉู่จวินสิงก็ยังหลับอยู่นางสวมเสื้ออย่างเบามือก่อนจะลุกจากเตียง ไม่ได้รีบร้อนไปขายผักที่ตลาดแต่อย่างใด แต่เลือกไปหาเสิ่นจือเจิ้งก่อนจังหวะที่เจี่ยนอันอันสวมเสื้อผ้าเสร็จเรียบร้อย ฉู่จวินสิงก็ตื่นพอดีเขาเห็นเจี่ยนอันอันเร่งรีบไปขายผักที่ตลาดแบบนี้ก็รีบลุกขึ้นตามเมื่อเห็นเจี่ยนอันอันออกจากห้อง ฉู่จวินสิงก็รีบสวมเสื้อผ้าตามออกไปแต่แล้วเมื่อออกจากห้อง เขากลับพบว่าเจี่ยนอันอันไม่ได้เดินไปจูงรถม้า แต่เดินไปอีกทางหนึ่งฉู่จวินสิงตามออกจากลานบ้าน เห็นว่าเจี่ยนอันอันเดินไปทางบ้านของกวนซินเขาตามเข้าไปดึงตัวเจี่ยนอันอัน“เจ้าจะไปหาพี่ใหญ่หรือ เหตุใดไม่เรียกให้ข้าไปด้วยกัน”เจี่ยนอันอันไม่ได้ยินเสียงฝีเท้าของฉู่จวินสิง ขณะที่ถูกเขาดึงตัวไว้ก็ยังคงมีอาการใจลอยเล็กน้อย“เหตุใดท่านไม่นอนต่ออีกสักหน่อย ข้าไปหาพี่ใหญ่เดี๋ยวเดียวก็กลับ”ฉู่จวินสิงจูงมือเจี่ยนอันอันพูดว่า “ข้าตื่นแล้ว ย่อมต้องตามเจ้าไปด้วยกัน”เขาไม่วางใจให้เจี่ยนอันอันไปเ
หลังจากที่ทั้งสองคนแช่น้ำร้อนอยู่นานมาก ฉู่จวินสิงถึงค่อยอุ้มเจี่ยนอันอันออกจากอ่างเขาหยิบผ้าเช็ดตัวบนฉากกั้นมาเช็ดตัวให้ทั้งคู่ จากนั้นอุ้มเจี่ยนอันอันไปที่เตียงฉู่จวินสิงโน้มตัวเข้ามาใกล้ จ้องมองเจี่ยนอันอันด้วยแววตาเร่าร้อน“ต่อไปอยู่ห่างจากเหยียนอวี่ให้ไกลหน่อย เจ้าเป็นผู้หญิงของข้า อย่าทำดีต่อบุรุษคนอื่นที่ไม่ใช่ข้ามากเกินไป”ถ้อยคำของฉู่จวินสิงทำให้เจี่ยนอันอันงุนงงเล็กน้อยนางไปทำดีต่อเหยียนอวี่เมื่อใดกัน?นางมีเพียงความคิดที่หมอมีต่อผู้ป่วย อยากให้เหยียนอวี่ดีขึ้นโดยเร็วฉู่จวินสิงเห็นเจี่ยนอันอันทำหน้าไร้เดียงสาก็ไม่ได้พูดอะไรอีก ก้มหน้าลงจุมพิตต่อเจี่ยนอันอันจุมพิตตอบ นี่ทำให้ฉู่จวินสิงปลื้มใจทั้งสองคนทำการร่วมอภิรมย์กันอีกครั้งบนเตียงสไตล์ยุโรปหลังใหญ่บางทีอาจจะเพราะเหนื่อยแล้วจริงๆ หลังจากเสร็จกิจ เจี่ยนอันอันก็ผล็อยหลับไปอย่างรวดเร็วจังหวะที่ฉู่จวินสิงกำลังจะเข้านอนเช่นกัน เขาก็มองเห็นผ่านหน้าต่างว่าเหมือนจะมีคนนั่งอยู่ด้านนอกฉู่จวินสิงสวมเสื้อผ้าแล้วเดินออกไปเห็นว่าพี่ใหญ่ฉู่จวินหลุนกำลังนั่งอยู่ในลานบ้าน ท่าทีเหม่อลอยเหมือนกำลังคิดอะไรบางอย่างกระทั
ความคิดของเจี่ยนอันอันเพิ่งจะปรากฏ นางก็ได้ยินภารกิจของห้วงมิติส่งเสียงว่า “ชิ”[เจ้าเคยเป็นหญิงแสนดีเมื่อไรกัน]“เจ้าหุบปากไปเลย!” เจี่ยนอันอันโมโหจนด่าออกเสียงคำพูดนี้ทำให้ฉู่จวินสิงที่เดินเข้ามามีสีหน้าประหลาดใจเจี่ยนอันอันนึกไม่ถึงว่าฉู่จวินสิงจะเข้ามาพอดี นางกระแอมไอแล้วหัวเราะอย่างกระอักกระอ่วน“ข้าไม่ได้หมายถึงท่าน ฮะๆๆ…”ฉู่จวินสิงมองเห็นว่าภายในห้องมีเจี่ยนอันอันอยู่แค่คนเดียว ไม่ได้มีคนอื่น แม้แต่หนูสักตัวก็ยังไม่มีเช่นนั้นเจี่ยนอันอันกำลังคุยกับผู้ใดกัน?ฉู่จวินสิงไม่ได้ถาม และเจี่ยนอันอันก็ไม่คิดจะบอกทั้งสองคนเหน็ดเหนื่อยมาทั้งวัน ประกอบกับวันนี้ก็ตื่นกันตั้งแต่เช้าเวลานี้ต่างก็รู้สึกง่วงนอนมากเจี่ยนอันอันดมกลิ่นตัวฉู่จวินสิงแล้วพูดกับเขา “ท่านไปอาบน้ำก่อนค่อยเข้านอนเถิด จะได้สบายตัวหน่อย”ฉู่จวินสิงขานรับและให้เหล่าสาวใช้เตรียมน้ำร้อนให้ เขาเดินเข้าไปหลังฉากกั้น ถอดเสื้อผ้าออกแล้วแช่ตัวในอ่างเจี่ยนอันอันกำลังจะใช้จังหวะนี้เข้าไปในห้องอาบน้ำห้วงมิติเพื่อแช่น้ำแต่แล้วกลับได้ยินเสียงของฉู่จวินสิงลอยมา “อันอัน ขาข้าตะคริวกิน!”หัวคิ้วของเจี่ยนอันอันขมว
เจี่ยนอันอันใช้ช่วงที่ฉู่จวินสิงยังไม่กลับห้องมาดูของในห้วงมิตินางตรวจดูคลังอาวุธ ตั้งใจว่าจะนำปืนกระบอกนั้นออกมาดูแต่แล้วกลับพบความผิดปกติบางอย่างภายในปืนกระบอกนั้นเหลือกระสุนอยู่หนึ่งนัดตอนที่ต่อสู้กับกู้มั่วหลี นางจำได้ว่าด้านในมีกระสุนอยู่เต็ม เหตุนี้ตอนนี้จึงเหลือแค่นัดเดียว?ขณะที่เจี่ยนอันอันกำลังสงสัย เบื้องหน้านางก็มีภารกิจของห้วงมิติปรากฏ[เนื่องจากมีการนำปืนออกจากคลังอาวุธ คลังอาวุธจึงถูกลดระดับลง][ระดับของคลังอาวุธตอนนี้ถูกลดเป็นเลเวล 0 และกำลังจะปิดลง กรุณาเก็บปืนกลับคืนโดยเร็ว]นี่มันบ้าอะไรกัน ไม่ใช่ว่าคลังอาวุธจะเปิดตอนไหนก็ได้หรือ เหตุใดจึงมีการลดระดับด้วย?เจี่ยนอันอันถามห้วงมิติด้วยความคิด เห็นว่าภารกิจของห้วงมิติปรากฏอีกครั้ง[อาวุธเหล่านี้ไม่ได้มาด้วยวิธีที่ถูกต้อง เจ้าไม่ทราบเรื่องนี้หรือ?]มุมปากของเจี่ยนอันอันกระตุก นางรู้ว่าอาวุธพวกนี้ไม่ได้มาด้วยวิธีที่ถูกต้องมันเป็นของที่นางได้มาจากการติดตามพี่ชายไปซื้อมาขายเก็งกำไรในยุคปัจจุบันพี่ใหญ่เคยอยู่หน่วยรบพิเศษ เคยได้เป็นเจ้าหน้าที่สืบราชการลับระหว่างปฏิบัติภารกิจครั้งหนึ่งแต่หลังจากที่เขาทำภาร
หากไม่ใช่เพราะวันนี้ต้องรีบไปคิดบัญชีกับเฉินหย่งเหนียน นางคงขายผักได้มากกว่านี้ฮูหยินใหญ่มองเงินทองแดงแล้วพูดกับเจี่ยนอันอัน “อันอัน เจ้าเก็บเงินพวกนี้ไว้เถิด นี่เป็นเงินที่เจ้ากับจวินสิงได้จากการปลูกผักขาย พวกข้ารับไว้ไม่ได้”“พี่หญิงพูดถูก พวกข้ารับเงินพวกนี้ไว้ไม่ได้ เจ้าเก็บไว้เถอะ” ฮูหยินรองพูดกับเจี่ยนอันอันเช่นกันเจี่ยนอันอันมองทุกคน พบว่าทุกคนต่างก็มีความคิดเช่นนี้จึงไม่ได้พูดอะไร ทำการเก็บเงินเข้าสู่ห้วงมิติ“พรุ่งนี้ข้าจะไปขายผักอีก ได้เงินแล้วจะนำมาแบ่งให้กับทุกคน”เจี่ยนอันอันกินข้าวเสร็จเรียบร้อยแล้ว นางลุกขึ้นยืดเส้นยืดสายนั่งรถม้ามาตั้งนาน ร่างกายตึงเกร็งไปหมดแล้วฮูหยินใหญ่เห็นเจี่ยนอันอันมีท่าทีอ่อนล้าก็ให้นางกลับห้องไปพักผ่อนฉู่จวินสิงกำลังจะเดินตามไปแต่ถูกฮูหยินใหญ่เรียกไว้“จวินสิง เจ้านั่งก่อน แม่มีเรื่องจะคุยด้วย”ฉู่จวินสิงมองจนเจี่ยนอันอันเดินเข้าห้องไปแล้วถึงค่อยดึงสายตากลับคืนฮูหยินใหญ่ถาม “จวินสิง อันอันก็แต่งงานกับเจ้ามานานแล้ว เหตุใดท้องของนางจึงยังไม่มีความเคลื่อนไหวอีก?”คนอื่นๆ มองฉู่จวินสิงด้วยความสงสัยเช่นกันฉู่จวินสิงเห็นทุกคนมองตัว
จางเฉวียนรับหนังสือแต่งตั้งหัวหน้าทหารพิทักษ์เมืองทำการขอบคุณขุนนางฝ่ายราชเลขาธิการแล้วกลับไปอย่างมีความสุขบรรดาเจ้าหน้าที่มาถึงหอกำแพงเมืองก่อนจางเฉวียนหนึ่งก้าวพวกเขาจับกุมเฉินหย่งเหนียนไปที่สำนักราชเลขาธิการทันทีเมื่อเฉินหย่งเหนียนเห็นจางเฉวียนที่กลับมา เขาก็เข้าใจทันทีว่าเกิดอะไรขึ้นเขาถลึงตาใส่จางเฉวียน ตะโกนด้วยความเกรี้ยวกราด “จางเฉวียน เจ้าคนเนรคุณ ต่อให้ข้าตาย ข้าก็จะไม่ปล่อยเจ้าไว้!”จางเฉวียนไม่ยี่หระต่อคำขู่ของเฉินหย่งเหนียนแม้แต่น้อย เขาไม่ชอบเฉินหย่งเหนียนมานานแล้ว ตอนนี้ตัวเขาถูกแต่งตั้งให้เป็นหัวหน้าทหารพิทักษ์เมืองยิ่งไม่เห็นเฉินหย่งเหนียนอยู่ในสายตามากกว่าเดิมหลังจากที่เจ้าหน้าที่คุมตัวเฉินหย่งเหนียนจากไป จางเฉวียนก็นำหนังสือแต่งตั้งออกมาให้เหล่าทหารได้ดูตามด้วยนำเงินสองร้อยตำลึงมาแบ่งให้ทหารทุกคนจางเฉวียนพูดเสียงดังว่า “ทุกคนฟังให้ดี ข้า จางเฉวียน จะไม่มีวันยักยอกเงินแบบเฉินหย่งเหนียนเด็ดขาด”“หากวันหน้าข้ามีเงินแม้เพียงอีแปะเดียว ข้าก็จะนำมาแบ่งกับทุกคน”เหล่าทหารต่างมีความสุขเมื่อได้รับเงินพวกเขาต่างเรียกจางเฉวียนว่าท่านหัวหน้าจางทางฝั่งของเจ
พวกเขามองเฉินหย่งเหนียนกลับไปเอาเงิน ไม่มีผู้ใดเข้าไปปลอบประโลมทั้งนั้นภายในใจของเฉินหย่งเหนียนหลั่งเลือด นำตั๋วเงินหนึ่งร้อยตำลึงที่ซ่อนอยู่ใต้เตียงออกมาทั้งหมดแต่เขามีการเหลือทางหนีทีไล่ไว้ให้ตัวเอง บางทีเจี่ยนอันอันกับฉู่จวินสิงอาจจะไม่รู้ก็ได้ว่าหนิงเจิ้นให้เงินเขามาเท่าไรเขาจะไม่โง่ที่จะนำเงินออกมาทั้งหมดหรอกเฉินหย่งเหนียนหยิบตั๋วเงินหนึ่งร้อยตำลึงสามใบกลับไปใส่ไว้ใต้เตียงอาศัยจังหวะที่ไม่มีผู้ใดสังเกตเห็นมารีบเก็บตั๋วเงินที่เหลือเข้าในอกเสื้อเขารีบเดินออกจากกำแพงเมือง มอบตั๋วเงินจำนวนเจ็ดร้อยตำลึงให้เจี่ยนอันอันด้วยใบหน้าที่อยากร้องไห้แต่ไม่มีน้ำตาเจี่ยนอันอันนับดูแล้วพบว่าเงินแค่เจ็ดร้อยตำลึงก็สามารถซื้อตัวเฉินหย่งเหนียนได้แล้วชีวิตของเขานี่ช่างไม่มีค่าเอาเสียเลยเจี่ยนอันอันเก็บตั๋วเงิน นางปรายตามองเฉินหย่งเหนียนด้วยสายตาดูแคลนก่อนจะขึ้นรถม้า กระทั่งเมื่อฉู่จวินสิงขับรถม้าจากไป เฉินหย่งเหนียนถึงค่อยถอนหายใจด้วยความโล่งใจในที่สุดคอของเขายังปวดแสบสุดๆ อยู่ จึงรีบวิ่งกลับไปทายาให้ตัวเองขณะที่เฉินหย่งเหนียนกำลังทายา ทหารเหล่านั้นก็พากันเบียดเสียดเข้ามาในห้องข