แชร์

บทที่ 14

ผู้เขียน: ซินต้งหรูสุ่ย
เจี่ยนอันอันดีใจเป็นลิงโลดเมื่อเห็นมิติร้านค้า

ภายในมิติมีเงินตั้งมากมายถึงเพียงนั้น นางสามารถนำมาซื้อของในร้านค้าได้

หลังจากนี้จะได้กินหลัวซือเฝิ่น[1]กับขนมให้สาแก่ใจได้แล้ว

ไม่นึกเลยว่านางจะจับพลัดจับผลูทำเสร็จไปอีกภารกิจ

เจี่ยนอันอันมีความสุขจนเผลอยกยิ้มและฮัมเพลงออกมาโดยไม่รู้ตัว

ในยามนี้เอง ทหารรักษาพระองค์พวกนั้นก็ทยอยกันกลับมา

เมื่อครู่นี้พวกเขาไปทำธุระมาอีกรอบ ยามนี้ท้องไส้จึงรู้สึกสงบลงในที่สุด

พวกเขากลับมายังหน้ากองไฟและเพิ่งจะสังเกตเห็นว่าไม่มีพวกเขาคนใดอยู่เฝ้าที่นี่แม้แต่คนเดียว

โชคดีที่คนของจวนเยียนอ๋องต่างก็นั่งอยู่ที่นี่ มิมีผู้ใดเล็ดลอดหนีไป

มิเช่นนั้นหากมีคนหนีไป พวกเขาคงกลับไปรายงานผลการปฏิบัติภารกิจไม่ได้

เหล่าทหารรักษาพระองค์ต่างนึกกลัวผลที่จะตามมา

พวกเขารอแล้วรอเล่า หัวหน้าก็ไม่กลับมาสักที

ทหารที่มีความสัมพันธ์ค่อนข้างดีกับหัวหน้าทหารรักษาพระองค์นายหนึ่งเห็นว่าหัวหน้าไม่กลับมาสักที ก็ลุกขึ้นยืนอย่างสุดจะทนในท้ายที่สุด

เขาบอกกับทหารรักษาพระองค์คนอื่น ๆ “พวกเจ้าเฝ้าคนพวกนี้ให้ดี ข้าจะไปหาท่านหัวหน้า”

ทหารนายนี้ว่าจบก็วิ่งเข้าไปในป่า

ครั้นเจี่ยนอันอันเห็นทหารนายนี้วิ่งออกจากกลุ่ม ภาพอีกชุดหนึ่งพลันปรากฏแก่สายตานาง

นางเห็นภาพที่หัวหน้าทหารรักษาพระองค์กำลังนั่งยองอยู่ใต้ต้นไม้ด้วยสีหน้าทุกข์ระทม

ขาทั้งสองเหน็บชาจากการย่อเป็นเวลานาน กำลังเกาะต้นไม้เพื่อลุกตัวขึ้น

แต่เขาเพิ่งจะลุกตัวขึ้น อาการปวดร้าวแสนสาหัสก็ส่งมาจากขา

ครั้นเห็นว่าไม่มีผู้ใดมาตามหา หัวหน้าทหารรักษาพระองค์พลันสาปแช่งเสียงแหบว่า “เจ้าพวกเนรคุณ!”

“ที่ผ่านมาทั้งกินทั้งใช้ของของข้า แต่เมื่อถึงเวลาสำคัญกลับวิ่งหนีไวยิ่งกว่าสุนัขเสียอีก”

“ข้าร้องเรียกพวกเจ้าตั้งนาน ไม่รู้ว่าหูหนวกกันหมดหรือว่าจงใจไม่สนใจกันกันแน่”

“รอก่อนเถอะ เตรียมใจได้เลยว่าข้ากลับไปแล้วจะสั่งสอนพวกเจ้าอย่างไร”

เจี่ยนอันอันอดก้มหน้ายกยิ้มมุมปากไม่ได้เมื่อเห็นถึงตรงนี้

นางรู้สึกขอบคุณความสามารถในการหยั่งรู้อนาคตของร่างเดิมเหลือเกินที่ทำให้นางได้เห็นฉากที่น่าสนใจขนาดนี้

ฉับพลันนั้นเอง ภาพของทหารที่แยกตัวออกไปก็ปรากฏเบื้องหน้า

ทหารนายนี้เดินมาถึงจุดที่อยู่ห่างจากต้นไม้ใหญ่ไม่ไกลก็ได้ยินเสียงก่นด่าของหัวหน้า

เขารีบวิ่งไปยังต้นตอของเสียง

ชั่วพริบตาที่หัวหน้าทหารรักษาพระองค์เห็นทหารนายนี้ ดวงตาเขาพลันสุกสกาวประหนึ่งเห็นแสงอรุณแรก

ไม่เสียแรงที่เขาญาติดีกับทหารนายนี้ ยังดีที่รู้จักนึกถึงเขาในช่วงเวลาวิกฤต

ทหารนายนี้เพิ่งจะวิ่งมาถึงเบื้องหน้าทหารรักษาพระองค์ก็ต้องโงนเงนโซเซเพราะกลิ่นเหม็นจากเบื้องล่างฝ่าเท้า

เขารีบอุดจมูกและถามด้วยความห่วงใย “ท่านหัวหน้า ท่านไม่เป็นอันใดใช่หรือไม่? พวกข้าเห็นท่านไม่กลับมาจึงเป็นห่วงกันมากขอรับ”

หัวหน้าทหารรักษาพระองค์ตอบอย่างอ่อนแรง “น้องรัก ไม่เสียแรงที่พี่อุ้มชูเจ้า”

“ไว้พวกเรากลับไปแล้ว พี่จะเพิ่มเงินเดือนให้”

ทหารผู้นี้ดีใจเป็นล้นพ้นเมื่อได้ยินว่าจะถูกเพิ่มเงินเดือน

เวลานี้เขาไม่สนใจแล้วว่าจะมีกลิ่นเหม็นหรือไม่ รีบสาวเท้าเข้าไปฉับไวเพื่อดึงหัวหน้าให้ลุกขึ้นยืน

“อย่าเพิ่งแตะต้องตัวข้า รีบกลับไปเอากางเกงมาให้ข้าก่อน จำไว้ว่าอย่าให้ผู้ใดเห็น”

ทหารนายนี้เข้าใจในบันดลว่าเกิดอะไรขึ้น

ที่แท้ท่านหัวหน้าไม่กลับมาสักทีก็เพราะเหตุนี้นี่เอง เห็นทีว่าเมื่อครู่จะถ่ายราดกางเกง

เขาไม่กล้าพูดอะไรมาก รีบกุลีกุจอหมุนกายวิ่งกลับไป

เจี่ยนอันอันเงยหน้าขึ้นเห็นทหารนายนี้วิ่งกลับมาพอดี

ทหารรักษาพระองค์คนอื่น ๆ ถามเขาว่าเหตุใดท่านหัวหน้าจึงยังไม่กลับมาอีก

เขาตอบอย่างขอไปทีเพียงสองสามประโยค ก่อนจะหันไปคุ้ยข้าวของในห่อผ้าของท่านหัวหน้า

คุ้ยหาอยู่นานก็พบกางเกงชั้นในสีน้ำเงินตัวหนึ่งในที่สุด

เขารีบถือกางเกงชั้นในตัวนี้วิ่งออกไปในจังหวะที่ไม่มีผู้ใดสนใจ

ทหารรักษาพระองค์คนอื่นถ่ายท้องจนหมดเรี่ยวแรงและพากันไปนอนลงบนพื้นหญ้าหมดแล้ว

ตอนนี้พวกเขาเพียงต้องจับตาดูคนเหล่านี้ให้ดีก็พอ คร้านจะถามว่าทหารนายนั้นกำลังทำอะไร

----------------------------------------------

[1] หลัวซือเฝิ่น หรือบะหมี่หอยหวาน มีต้นกำเนิดจากเมืองหลิ่วโจว ประกอบด้วยเส้นก๋วยเตี๋ยวที่ทำจากข้าวและน้ำซุปหอยหลัวซือรสชาติเผ็ดร้อน พร้อมด้วยส่วนผสมต่าง ๆ ได้แก่ หน่อไม้ดอง ถั่วฝักยาว ถั่วลิสง และฟองเต้าหู้

บทที่เกี่ยวข้อง

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาอ๋องผู้ถูกเนรเทศ   บทที่ 15

    ทหารนายนั้นวิ่งกลับไปหัวหน้าทหารรักษาพระองค์แล้วดึงแขนของอีกฝ่ายเพื่อประคองให้ลุกขึ้น“เบาหน่อย ขาข้าชาจนไม่มีความรู้สึกแล้ว”หัวหน้าทหารองครักษ์ต้องพักอยู่นานจึงจะเปลี่ยนกางเกงชั้นในจากนั้นทหารนายนี้จึงประคองเขากลับไปยังจุดพักผ่อนอย่างเชื่องช้าเมื่อเจี่ยนอันอันเห็นหัวหน้าทหารรักษาพระองค์ ในที่สุดนางก็หัวเราะ “พรืด” ออกมาอย่างห้ามไม่อยู่หัวหน้าทหารรักษาพระองค์ตวาด “หัวเราะอะไร อย่าคิดว่าเจ้าเป็นคุณหนูใหญ่แห่งจวนกั๋วกงแล้วข้าจะไม่กล้าทำอะไรนะ” “ยามนี้เจ้าเป็นผู้ถูกเนรเทศ ต่อให้ตายระหว่างทางก็คงไม่มีผู้ใดช่วยเก็บศพ”หัวหน้าทหารรักษาพระองค์ทึกทักเอาเองว่าถ้อยคำของตัวเองจะทำให้เจี่ยนอันอันหวาดกลัวเจี่ยนอันอันเพียงแค่นเสียงแผ่วเบา ไม่ได้สนใจอีกฝ่ายนางคร้านจะเสวนากับเขา อย่างไรเสีย การยั่วโมโหอีกฝ่ายก็รังแต่จะทำให้นำปัญหาที่ไม่จำเป็นมาให้คนในตระกูลเปล่า ๆนางไม่อยากสร้างปัญหาให้ผู้อื่นเพราะตัวนางเองเจี่ยนอันอันหันไปมองฉู่จวินสิงที่ยังคงหมดสติปราดหนึ่งที่นี่มีฉู่อันเจ๋อดูแลอยู่ นางต้องไปปกป้องฮูหยินใหญ่ให้ปลอดภัยเจี่ยนอันอันกล่าวกับหลี่อันเจ๋อ “จงฟังให้ดี ประเดี๋ยวจะมีกล

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาอ๋องผู้ถูกเนรเทศ   บทที่ 16

    เจี่ยนอันอันเห็นดังนั้นจึงไม่รอช้า รีบหยิบเข็มเงินออกมาจากมิติและซัดไปยังชายชุดดำผู้นั้นทันทีเข็มเงินปักเข้าที่ลำคอของชายชุดดำ ก่อนที่เขาจะได้ตอบสนอง ร่างก็ล้มลงกับพื้นและสิ้นใจในทันทีเมื่อเสียงการต่อสู้ดังขึ้น เหล่าคนในตระกูลต่างก็ถูกปลุกให้ตื่นขึ้นพวกเขาลืมตาขึ้นมาก็เห็นกลุ่มคนชุดดำโผล่มาอย่างไม่คาดคิดเมื่อเห็นชายชุดดำคนหนึ่งตายอยู่ตรงหน้า บางคนก็ตกใจกลัวจนร้องไห้ออกมาทันทีชายชุดดำคนอื่น ๆ ที่เห็นเหตุการณ์ต่างก็ชะงักไปพวกเขาเห็นใบหน้าสหายของตนกลับกลายเป็นสีม่วงคล้ำไปแล้วเลือดสีดำไหลออกมาจากทวารทั้งเจ็ดของเขากลุ่มชายชุดดำรู้สึกตกใจอย่างมาก ไม่คาดคิดว่าเข็มเงินที่ปักอยู่บนลำคอของสหายนั้นจะถูกอาบด้วยยาพิษแม้แต่ทหารรักษาพระองค์ก็ยังตกใจกับเข็มเงินของเจี่ยนอันอันทุกคนหันสายตามองมาทางเจี่ยนอันอันอย่างพร้อมเพรียงฉู่จวินสิงเห็นว่าที่มุมปากของเจี่ยนอันอันยกขึ้นเล็กน้อยรอยยิ้มที่เต็มไปด้วยความกระหายเลือดและความโหดร้ายปรากฏขึ้นบนใบหน้าของนางหัวใจของฉู่จวินสิงถึงกับสั่นสะท้านสิ่งที่เขาไม่รู้ก็คือ ในยุคปัจจุบัน เจี่ยนอันอันชอบใช้เข็มเงินเป็นลูกดอกเล่นสนุกอยู่แล้วนางย

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาอ๋องผู้ถูกเนรเทศ   บทที่ 17

    กลุ่มคนชุดดำเหล่านั้นเดิมคิดว่าภารกิจลอบสังหารครั้งนี้จะสำเร็จได้โดยง่ายกลับคาดไม่ถึงว่า ท่ามกลางญาติพี่น้องเหล่านี้ จะมีนางพญามัจจุราชผู้เชี่ยวชาญการใช้พิษเช่นนี้อยู่ด้วยกลุ่มคนชุดดำสิบกว่าคนต่างนิ่งเงียบ ไม่มีใครปริปากพูดพวกเขาล้วนปฏิบัติตามคำสั่งอย่างเคร่งครัด ไม่มีทางเปิดเผยตัวผู้บงการอยู่เบื้องหลังเด็ดขาดเจี่ยนอันอันมองดูท่าทีปากแข็งไม่ยอมแพ้ของพวกเขานางจึงยิ้มเย็น ก่อนจะขว้างเข็มเงินไปยังคนหนึ่งในกลุ่มนั้นอีกครั้งชายชุดดำคนนั้นไม่ทันได้ตอบสนอง เข็มเงินก็ปักเข้าที่หัวเข่าของเขาทันทีชายชุดดำร้องด้วยความเจ็บปวด ก่อนจะทรุดตัวลงคุกเข่าข้างหนึ่งกับพื้นร่างกายของเขาเริ่มชาไปทั้งตัว แต่ในชั่วขณะต่อมากลับรู้สึกเหมือนมีแมลงนับล้านตัวกำลังกัดแทะชายชุดดำคิดในใจว่าคงจะพบจุดจบเช่นเดียวกับสหายหลายคนพวกนั้น ที่ตายภายใต้เงื้อมมือของหญิงสาวผู้นี้แน่แล้วเขาเงยหน้ามองเจี่ยนอันอันพร้อมกับแสยะยิ้มเย็นชาราวกับยอมรับความตาย“จะพูดหรือไม่พูด?” เสียงของเจี่ยนอันอันแผ่วเบาดุจเสียงกระซิบของภูตผีที่ล่องลอยเข้าโสตประสาทของชายชุดดำแม้เขาจะรู้สึกชาและเจ็บแปลบไปทั้งตัว แต่ยังคงกัดฟันแน่น ไ

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาอ๋องผู้ถูกเนรเทศ   บทที่ 18

    เมื่อเห็นหลุมเล็ก ๆ บนพื้น เหล่าผู้คนในตระกูลต่างก็อดหวาดเสียวแทนเจี่ยนอันอันไม่ได้โชคดีที่เจี่ยนอันอันหลบได้ทัน จึงไม่โดนแส้ฟาดมิเช่นนั้นหากถูกแส้นี้ฟาดลงไปคงทำให้ผิวหนังแตกยับเยินหัวหน้าทหารรักษาพระองค์ไม่คาดคิดว่าเจี่ยนอันอันจะหลบแส้ของเขาได้ เขาตวาดด้วยความโมโห “เจี่ยนอันอัน ตอนนี้เจ้าเป็นนักโทษเนรเทศ ห้ามพกของติดตัวเด็ดขาด”“ถ้าฉลาดก็รีบส่งเข็มเงินมา จะได้ไม่ต้องจะเจ็บตัว”หัวหน้าทหารรักษาพระองค์พูดจบก็สะบัดแส้แล้วฟาดไปทางเจี่ยนอันอันอีกครั้งในขณะที่แส้กำลังจะฟาดลงบนตัวเจี่ยนอันอัน ฮูหยินใหญ่ที่ยืนอยู่ด้านหลังก็ผลักนางหลบออกไปแส้จึงฟาดลงบนตัวฮูหยินใหญ่แทนฮูหยินใหญ่ร้องออกมาด้วยความเจ็บปวด พลางกุมบริเวณที่ถูกแส้ฟาดแล้วทรุดตัวลงเจี่ยนอันอันไม่คาดคิดว่าฮูหยินใหญ่จะผลักนางออกแล้วรับแส้นั้นแทนเมื่อครู่นางแค่รอให้แส้ฟาดลงมาเพื่อที่จะคว้าแส้ไว้แล้วค่อยลงโทษหัวหน้าทหารรักษาพระองค์ให้สาสมไม่คิดว่าจะกลับกลายเป็นแบบนี้ไปเสียได้“ฮูหยินใหญ่ ท่านเป็นอย่างไรบ้าง รีบนั่งลงมาให้ข้าดูเถิด” เจี่ยนอันอันรีบหันไปพยุงฮูหยินใหญ่ให้นั่งลงแล้วตรวจดูบาดแผลฮูหยินใหญ่รู้สึกเจ็บปวดจนตั

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาอ๋องผู้ถูกเนรเทศ   บทที่ 19

    เจี่ยนอันอันกล่าวอีกครั้งว่า “หากท่านหัวหน้าทหารรักษาพระองค์อยากลองลิ้มรสการถูกเข็มพิษปักดู ก็เชิญมารับไปได้เลย”“ข้าคิดว่าท่านหัวหน้าคงทราบดีว่า อยู่ในป่ารกร้างเช่นนี้ หากทหารรักษาพระองค์ตายไปสักสองสามคน ฮ่องเต้ก็คงไม่สนใจอะไร”คำพูดของเจี่ยนอันอันทำให้เหล่าทหารรักษาพระองค์ตกใจไม่น้อยสิ่งที่นางพูดนั้นถูกต้อง แม้พวกเขาจะเป็นทหารรักษาพระองค์แต่ในสายตาของฮ่องเต้ พวกเขาเทียบไม่ได้แม้แต่มดตัวหนึ่งยิ่งไปกว่านั้น ในระหว่างทางเนรเทศ ย่อมมีเหตุการณ์ไม่คาดฝันเกิดขึ้นได้เสมอหากทหารรักษาพระองค์ตายไปสักสองสามคนระหว่างทาง ก็ไม่มีใครสนใจและกลุ่มคนชุดดำเมื่อครู่ก็ถูกเจี่ยนอันอันฆ่าตายทั้งหมดไม่มีใครรู้ว่าในมือนางยังมีเข็มเงินอีกเท่าไร และไม่มีใครอยากเสี่ยงที่จะขัดใจเจี่ยนอันอันคำพูดของเจี่ยนอันอันทำให้หัวหน้าทหารรักษาพระองค์ตระหนักได้เขาเริ่มรู้สึกหวาดกลัว เมื่อนึกได้ว่าที่ผ่านมาเขาหงุดหงิดมากจนลืมไปว่าบนเข็มเงินนั้นมีพิษกลุ่มนักโทษเนรเทศเหล่านี้ ตอนนี้ไม่ต่างอะไรกับกลุ่มโจรปล้นฆ่าหากไปยั่วยุพวกเขา ในป่ารกร้างเช่นนี้ แม้ทหารรักษาพระองค์ทั้งหมดจะถูกฆ่า เกรงว่าคงไม่มีใครรู้ว่าเป็น

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาอ๋องผู้ถูกเนรเทศ   บทที่ 20

    วังหลวงนั้นมีการคุ้มกันอย่างเข้มงวดนางเป็นเพียงหญิงสาวที่อ่อนแอ หากต้องการเข้าไปในวังหลวง เกรงว่าคงถูกจับได้ตั้งแต่แรกแล้วแต่นางไม่เพียงไม่ถูกจับได้ ยังสามารถเดินเข้าคุกหลวงได้อย่างสบายใจนางไปที่คุกด้วยเหตุใด หรือจะไปปล้นตัวนักโทษหนีออกมา?แต่ในตอนนั้น ผู้คุมในคุกกลับทำเหมือนมองไม่เห็นนาง ปล่อยให้นางเดินไปมาได้ตามใจเรื่องนี้จะอธิบายได้อย่างไร?เมื่อเห็นเจี่ยนอันอันเดินเข้ามาใกล้ ฉู่จวินสิงจึงเบือนหน้าไปทางอื่นเพื่อหลบสายตาเจี่ยนอันอันเดินเข้ามาหยุดตรงหน้าฉู่จวินสิงโดยไม่พูดอะไร นางจับข้อมือของอ๋องหนุ่มขึ้นมาแล้วเริ่มตรวจชีพจรฉู่จวินสิงรู้สึกว่าข้อมือของตนถูกจับขึ้น และเห็นว่าเจี่ยนอันอันกำลังตรวจชีพจรของเขาอยู่ในใจของฉู่จวินสิงเต็มไปด้วยคำถามมากมาย เขาเปิดริมฝีปากบางเพียงเล็กน้อย แต่กลับไม่เอ่ยถามอะไรออกมาเลยสักคำเมื่อมองดูข้อมือของตนที่ถูกเจี่ยนอันอันจับไว้ พร้อมกับนิ้วเรียวเล็กที่แตะเบา ๆ บนเส้นชีพจรฉู่จวินสิงไม่ได้โกรธหรือไล่ให้เจี่ยนอันอันออกห่างจากเขาเขาปล่อยให้นางตรวจชีพจรของเขาต่อไปฉู่จวินหลุนและฉู่อันเจ๋อที่ยืนอยู่ข้าง ๆ ต่างตกตะลึงกับการกระทำของทั้งสองค

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาอ๋องผู้ถูกเนรเทศ   บทที่ 21

    การกระทำของเจี่ยนอันอัน ทำให้หัวใจของฉู่จวินสิงสั่นไหวเขาคิดที่จะดึงมือกลับมา แต่กลับพบว่าตนเองไม่อาจขยับเขยื้อนได้ดั่งเก่าเจี่ยนอันอันกลับไม่ได้ใส่ใจในเรื่องนี้ ทำเพียงแค่กุมมือเอาไว้เท่านั้น นี่เป็นเพียงแค่มารยาทเล็กน้อยเท่านั้นเมื่อเห็นว่าฉู่จวินสิงไม่คัดค้านอันใด เจี่ยนอันอันจึงเอ่ยต่อ “ท่านวางใจได้ ในเมื่อข้าเลือกที่จะแต่งกับท่านแล้ว”“ข้าก็ยินยอมที่จะเป็นเชลยถูกเนรเทศไปด้วยกันกับพวกท่าน ข้าไม่มีทางที่จะหลบหนีเอาตัวรอดไประหว่างทาง” “ข้าจะคอยอยู่ข้างกายท่านตลอด และจะคอยช่วยเหลือทุกคนให้ผ่านช่วงเวลาที่ยากลำบากที่กำลังจะเกิดขึ้นนี้ไปให้ได้”คำพูดของเจี่ยนอันอัน ทำให้ฉู่จวินสิงขมวดคิ้วขึ้นโดยไม่รู้ตัวฮ่องเต้พระราชทานงานอภิเษกสมรส ให้คุณหนูรองจวนกั๋วกงแต่งงานให้กับเขาแล้วเหตุใดผู้ที่ปรากฏตัวขึ้นต่อหน้าเขาในตอนนี้ กลับเป็นคุณหนูใหญ่จวนกั๋วกงเล่า?ฉู่จวินสิงเอ่ยออกมาด้วยน้ำเสียงแหบแห้ง “ในเมื่อเจ้าไม่ใช่คุณหนูรอง เหตุใดจึงแต่งงานกับข้า?”“เจ้ารู้ว่าข้ากำลังจะกลายเป็นเพียงสามัญชนธรรมดาเท่านั้น อีกทั้งยังถูกยึดจวนแล้วเนรเทศออกไป เหตุใดเจ้าถึงยังไม่หนีไป เจ้ามีจุดประสงค์ใดกั

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาอ๋องผู้ถูกเนรเทศ   บทที่ 22

    ฉู่จวินสิงไม่เคยพบเห็นของสิ่งนี้มาก่อน แต่ว่าของสิ่งนี้กลับทำให้เขาหายใจได้สะดวกขึ้นอีกทั้งยังช่วยไม่ให้สูดดมกลิ่นเหม็นนี่ได้สายตาของฉู่จวินสิงมองไปยังเจี่ยนอันอันด้วยความสงสัย เขาเริ่มรู้สึกประหลาดใจในตัวเจี่ยนอันอันมากยิ่งขึ้นเห็นเพียงเจี่ยนอันอันมองไปยังกลุ่มทหารรักษาพระองค์เหล่านั้นอยู่มุมปากของนางยกขึ้น ดวงตาก็โค้งงอเป็นรูปพระจันทร์เสี้ยวใบหน้าที่เดิมงดงามน่ามองอยู่แล้ว ก็เปลี่ยนเป็นงดงามยิ่งขึ้นเพราะรอยยิ้มนี้เหล่าทหารองครักษ์เหล่านั้นที่กำลังท้องไส้ปั่นป่วนกันอยู่ เริ่มขออนุญาติหัวหน้าของพวกเขาไปขับถ่ายอีกครั้งครานี้หัวหน้าของพวกเขาไม่ได้มีอาการปวดท้องเขาจ้องไปยังทหารรักษาพระองค์เหล่านั้น ก่อนจะโบกมือให้พวกเขาอย่างรำคาญ“ไป ๆ ๆ รีบไปจัดการเร็ว ๆ”“หากพวกเจ้ายังผายลมเหม็นเน่าอยู่ที่นี่อีก ข้าคงจะถูกพวกเจ้ารมกลิ่นเหม็นนี่จนตายแน่”หลังจากที่ทหารรักษาพระองค์เหล่านั้นได้รับอนุญาติแล้ว ทั้งหมดก็พากันกุมท้องแล้ววิ่งไปยังป่ารกร้างห่างไกลออกไปเมื่อมองดูทหารรักษาพระองค์ทางด้านนี้ ก็เหลือเพียงแค่หัวหน้าทหารรักษาพระองค์เท่านั้นในที่สุดเจี่ยนอันอันก็ลุกขึ้น ก้าวอาด ๆ

บทล่าสุด

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาอ๋องผู้ถูกเนรเทศ   บทที่ 566

    ถังก่วงตกใจจนหน้าซีดเผือด รีบวิ่งไปหาอวี้ซินพร้อมจะช่วยพยุง“อวี้ซิน เจ้าเป็นอะไรไป อย่าทำให้ข้าตกใจสิ!”บิดาของอวี้ซินก้าวพรวดเข้ามา ผลักถังก่วงออกไปทันที“เจ้าอย่าแตะต้องลูกสาวข้า หากนางเป็นอะไรไป ข้าจะไม่มีวันปล่อยเจ้าไปแน่”ถังก่วงถูกผลักจนเซไปข้างหนึ่ง ยังคิดจะเข้าไปช่วยอวี้ซินอีก แต่ก็ถูกสายตาเย็นชาของบิดาอวี้ซินข่มจนต้องถอยกลับเจี่ยนอันอันไม่รู้เรื่องของถังก่วง นางเพียงคิดว่านี่เป็นเรื่องภายในครอบครัวของคนอื่น และไม่อยากยุ่งเกี่ยวขณะกำลังจะก้าวออกไป ประตูเรือนก็ถูกผลักเปิดออกแม่ของอวี้ซินกลับมาแล้ว นางเห็นว่าในเรือนมีคนเพิ่มขึ้นมาสี่คน ซึ่งหนึ่งในนั้นมีถังก่วงนางทิ้งสิ่งที่ถืออยู่ลงแล้ววิ่งเข้ามาอย่างเร่งรีบ“เจ้ามาทำไมอีก ยังทำร้ายลูกสาวข้าไม่พออีกหรือ?”ถังก่วงเห็นมารดาของอวี้ซินกลับมาแล้ว เขาก็รีบบอกว่าพาคนมาเพื่อรักษาอวี้ซินและถังเสี่ยวซานแม่ของอวี้ซินเหลือบมองเจี่ยนอันอันและคนอื่นอีกสองคน แล้วก็มองอวี้ซินที่ศีรษะบาดเจ็บนางรู้สึกเศร้าจากใจ ดวงตาพลันแดงก่ำ“ทั้งสามคนนี้มาเพื่อรักษาเสี่ยวซานและซินเอ๋อร์จริง ๆ หรือ?”แม่ของอวี้ซินยังคงมีเหตุผลบ้าง ไม่เหมือนก

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาอ๋องผู้ถูกเนรเทศ   บทที่ 565

    พ่อตาตวาดลั่นด้วยความโมโห “เจ้าคิดจะหลอกพาตัวอวี้ซินกลับไปละสิ ข้าจะบอกให้นะ ฝันไปเถอะ”“ที่อวี้ซินกลายเป็นแบบนี้ก็เพราะเจ้า จงรีบไสหัวไปให้พ้น ข้าไม่อยากเห็นหน้าเจ้าอีก”พ่อตาว่าจบก็จะปิดประตูถังก่วงเห็นดังนี้ก็รีบก้าวเข้าไปดันประตู หยุดยั้งการกระทำขั้นต่อไปของพ่อตาในตอนนี้เอง มีเสียงกรีดร้องของหญิงสาวดังมาจากในบ้านพ่อตาหันกลับไปมองปราดหนึ่ง สีหน้าไม่สู้ดีทันทีเขารีบเดินเข้าไปแย่งกรรไกรจากมืออวี้ซิน“เจ้าบ้าพอหรือยัง เสี่ยวซานยังหมดสติไม่ฟื้น เจ้าจะบ้าจนถึงเมื่อไร!”พ่อตาขว้างกรรไกรในมือลงพื้นอย่างเดือดดาลถังก่วงรีบวิ่งเข้าไปเมื่อได้ยินเสียงเจี่ยนอันอันกับฉู่จวินสิงเดินตามเข้าไปเช่นกันประตูลานบ้านไม่ได้ปิด ถังหมิงเซวียนจึงตามเข้ามาด้วยทั้งยังช่วยหันไปปิดประตูอย่างมีน้ำใจถังก่วงวิ่งไปที่ด้านหลังอวี้ซินและกอดนางไว้ พยายามหยุดยั้งอาการคลุ้มคลั่งของนางแต่อวี้ซินจำถังก่วงไม่ได้แม้แต่น้อย นางกรีดร้องและกัดเข้าที่แขนของถังก่วง“โอ๊ย!” ถังก่วงร้องออกมาด้วยความเจ็บปวดแต่ไม่ยอมปล่อยตัวนางแต่อย่างใดเจี่ยนอันอันมองเห็นว่าตอนนี้ภรรยาของถังก่วงมีผมเผ้ายุ่งเหยิงและหลุดลุ่ย

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาอ๋องผู้ถูกเนรเทศ   บทที่ 564

    ถังก่วงเห็นเจี่ยนอันอันกินเสร็จแล้วก็ทำการเก็บผักที่เหลือลงบนรถเข็นเขาลากรถเข็นและรอให้เจี่ยนอันอันกับฉู่จวินสิงขึ้นรถม้าถังก่วงพูดว่า “แม่นางเจี่ยน ตัวข้าเดินค่อนข้างช้า หากพวกท่านรีบก็ไปรอที่ปากทางเข้าหมู่ซีโข่วก่อนได้ ข้าจะรีบตามไปให้เร็วที่สุด”เจี่ยนอันอันพยักหน้าแล้วบอกให้ฉู่จวินสิงควบรถม้าจากไปถังก่วงเห็นรถม้าของทั้งคู่มุ่งไปทางหมู่บ้านซีโข่วจริงๆ ก็เบาใจลงในที่สุดถังหมิงเซวียนขี่ม้าตามอยู่ด้านหลังรถม้าอย่างไม่เร็วไม่ช้าฉู่จวินสิงได้ยินเสียงฝีเท้าม้าด้านหลังก็หันไปมอง เห็นว่าถังหมิงเซวียนกำลังตามมาเขาจะหยุดรถม้าเพื่อซักถามถังหมิงเซวียนแต่แล้วกลับได้ยินเจี่ยนอันอันพูดว่า “ไม่ต้องสนใจเขา เขาอยากตามก็ปล่อยให้เขาตามไป”นางอยากเห็นเหมือนกันว่าบุรุษผู้นี้คิดจะทำอะไรรถม้ามาถึงปากทางเข้าหมู่บ้านซีโข่วอย่างรวดเร็ว ฉู่จวินสิงดึงบังเหียนรถม้า รอให้ถังก่วงตามมาถังหมิงเซวียนหยุดอยู่ห่างออกไปไม่ไกลเช่นกันดวงตาของเขาจับจ้องเจี่ยนอันอันไม่ละสายตา รู้สึกสงสัยใคร่รู้ในตัวนางมากขึ้นเรื่อยๆแม่นางผู้นี้ดูแล้วท่าทางแค่อายุสิบสี่สิบห้าปี แต่เมื่อต้องเผชิญหน้ากับศัตรูกลับมีความเ

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาอ๋องผู้ถูกเนรเทศ   บทที่ 563

    เจี่ยนอันอันหันตัวกลับไปด้วยความสงสัย “เจ้ายังมีธุระอะไรหรือ?”ถังก่วงพูดอย่างเขินอายเล็กน้อย “ไม่ทราบว่าแม่นางแซ่เจี่ยนใช่หรือไม่?”เจี่ยนอันอันคิดในใจ บรรดาเจ้าหน้าที่ทางการต่างเรียกนางว่าแม่นางเจี่ยน นางก็ต้องแซ่เจี่ยนอยู่แล้วสิถังก่วงรู้ตัวว่าตัวเองถามอะไรไม่เข้าท่า เขากระแอมไอเบาๆ “แม่นางเจี่ยน ไม่ทราบว่าท่านรู้จักอวี๋ผิงเหลียงหรือไม่?”เจี่ยนอันอันนึกเรื่องที่ตัวเองซื้อสมุนไพรทั้งภูเขาจากครอบครัวของอวี๋ผิงเหลียงขึ้นได้ทันทีนางพยักหน้า “รู้จัก ทำไมหรือ?”ถังก่วงรู้สึกยินดี ดูเหมือนว่าอวี๋ผิงเหลียงจะไม่ได้พูดโกหกเขารีบประสานมือพูดว่า “อวี๋ผิงเหลียงอยู่บ้านติดกับข้า เขาเคยชมท่านให้ข้าฟัง บอกว่าท่านไม่เพียงช่วยเหลือน้องสาวของเขา แต่ยังรับซื้อสมุนไพรของครอบครัวเขาด้วย”เจี่ยนอันอันขานตอบว่า “อ้อ” นางเข้าใจแล้วว่าถังก่วงต้องการผูกมิตรกับนางถังก่วงเห็นเจี่ยนอันอันไม่พูดอะไรก็ยิ่งขาดความมั่นใจเขาอยากบอกเจี่ยนอันอันเหลือเกินว่าที่บ้านเขาก็มีคนป่วยหนักเช่นกัน อยากให้เจี่ยนอันอันช่วยรักษาก่อนหน้านี้ภรรยาของเขาพาลูกกลับไปที่บ้านแม่ แต่แล้วลูกกลับตกลงไปในบ่อ หลังจากช่วยขึ้นมา

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาอ๋องผู้ถูกเนรเทศ   บทที่ 562

    เวลานี้พวกเขากลายเป็นคนใบ้กินหวงเหลียน แม้จะขมแต่กลับพูดอะไรไม่ออก[1]หนึ่งในเจ้าหน้าที่ทางการคนหนึ่งหันไปพูดกับเจี่ยนอันอัน “แม่นางเจี่ยน เงินสิบล้านตำลึงนี้ดูจะมากเกินไปหน่อย”“ท่านลดจำนวนลงหน่อยได้หรือไม่และเลิกแล้วเรื่องนี้ต่อกันไป”บรรดาเจ้าของแผงเห็นเจ้าหน้าที่ทางการพูดเข้าข้างตัวเองในที่สุดก็พากันแสดงท่าทีเห็นด้วยเจ้าของแผงที่เอ่ยปากพูดเมื่อครู่ก็เอ่ยเช่นกัน “แม่นาง ก่อนหน้านี้พวกข้าทำผิดไป ท่านช่วยยกโทษให้ได้หรือไม่?”“พวกข้าหาเงินสิบล้านตำลึงมาให้ไม่ได้จริงๆ ข้าขอยกผักทั้งหมดให้ท่านได้หรือไม่ รวมกับเงินทั้งหมดที่มอบให้ก่อนหน้านี้ ขอให้เลิกแล้วต่อกันเถิด”เจ้าของแผงคนอื่นๆ แสดงท่าทีเห็นด้วย พวกเขาแย่งกันพูดอ้อนวอน หวังว่าเจี่ยนอันอันจะใจกว้างยอมยกโทษให้เจี่ยนอันอันยิ้มเยาะว่า “ผักของพวกเจ้าเหี่ยวหมดแล้ว ต่อให้ข้าเอาไปให้หมูกิน เกรงว่าหมูก็คงไม่อยากกินด้วยซ้ำ”บรรดาเจ้าของแผงเห็นเจี่ยนอันอันหัวรั้นและยังคงไม่ยอมปล่อยพวกตัวเองไป พวกเขาก็ไม่รู้ว่าควรทำอย่างไรดีในตอนนี้เอง มีเสียงปรบมือดังขึ้นทุกคนหันไปมองทางต้นเสียง เห็นบุรุษชุดขาวหน้าตาอ่อนโยนสง่างามดุจหยกผู้หนึ่งสื

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาอ๋องผู้ถูกเนรเทศ   บทที่ 561

    ขณะที่บรรดาเจ้าของแผงขายของไม่รู้ว่าจะทำอย่างไรดี มีเสียงฝีเท้ากลุ่มหนึ่งดังขึ้นเจี่ยนอันอันหันไปมอง เห็นว่ามีเจ้าหน้าที่ทางการสามคนจากที่ว่าการอำเภอกำลังเดินมาทางนี้มีคนวิ่งไปแจ้งทางการในตอนที่เจี่ยนอันอันกำราบกุ้ยเหมยเมื่อครู่เซิ่งฟางได้ยินว่ามีคนก่อความวุ่นวายที่ตลาดอีกแล้วก็ส่งเจ้าหน้าที่มาตรวจสอบสถานการณ์ทันทีบรรดาเจ้าหน้าที่อดผงะไม่ได้เมื่อเห็นเจี่ยนอันอันกับฉู่จวินสิงอยู่ที่นี่จังหวะที่กำลังจะกล่าวทักทายฉู่จวินสิง พวกเขาก็เห็นอีกฝ่ายพยักหน้าให้น้อยๆพวกเขาเข้าใจความหมายโดยพลันและละสายตาไปทางอื่นบรรดาเจ้าของแผงต่างรู้สึกกังวลในใจเมื่อเห็นเจ้าหน้าที่ทางการเหตุใดจึงมีกลุ่มคนในชุดเครื่องแบบเจ้าหน้าที่มาอีกแล้ว หรือว่าพวกเขาจะมาเก็บค่าคุ้มครองเช่นกัน?แต่พวกเขามอบเงินทั้งหมดที่มีติดตัวให้เจี่ยนอันอันไปหมดแล้วหากคนกลุ่มนี้ต้องการเงินจากพวกเขาอีกขึ้นมาจะทำอย่างไร?ในตอนนี้เอง ชาวบ้านที่เป็นคนไปแจ้งทางการก็วิ่งออกมาเขาชี้เจี่ยนอันอันพลางพูดกับกลุ่มเจ้าหน้าที่ “นางผู้นี้แหละที่ลงมือทำร้ายเจ้าของแผงคนหนึ่งเมื่อครู่”พูดจบแล้วหันไปมองทางกลุ่มเจ้าของแผงขายของแต่ครั้น

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาอ๋องผู้ถูกเนรเทศ   บทที่ 560

    บรรดาเจ้าของแผงขายของฟังแล้วตะลึงงันชีวิตนี้พวกเขาไม่เคยเห็นเงินสิบล้านตำลึงมาก่อน จะให้ไปหาเงินจำนวนมากขนาดนี้มาให้นางจากที่ใดเจ้าของแผงผู้หนึ่งอดพูดด้วยความโมโหไม่ได้ “นี่เจ้าคงหิวเงินจนบ้าสินะ ข้าไม่เคยเจอผู้ใดบูชาเงินแบบเจ้ามาก่อน!”เจี่ยนอันอันปรายตามองเจ้าของแผงขายของที่พูดด้วยความดูถูกก่อนจะยิ้มว่า “ไม่ให้ข้าบูชาเงินแล้วจะให้บูชาสิ่งใด บูชากวนอูหรือ?”“อีกอย่าง เป็นพวกเจ้าเองที่วางแผนปองร้ายข้า ไม่ว่าพวกเจ้าจะต้องการหรือไม่ก็ต้องชดใช้ให้ข้า”“ไม่ต้องพูดมากแล้ว จ่ายเงินมาเสีย!”เจี่ยนอันอันพูดจบก็ยื่นมือออกไปข้างหนึ่ง ส่งสัญญาณให้บรรดาเจ้าของแผงขายของจ่ายเงินมาเดี๋ยวนี้เจ้าพวกชั่ว ตอนนี้พวกเจ้าอยู่ในมือข้าแล้ว หากไม่ขูดรีดให้พวกเจ้าไม่เหลือแม้แต่กางเกงใน ข้าจะเลิกใช้ชื่อเจี่ยนอันอัน!บรรดาเจ้าของแผงขายของรู้ตัวว่าวันนี้ตัวเองเจองานยากเข้าแล้ว พวกเขาขึ้นหลังเสือแล้วลงยากหากตอนนี้ไม่ยอมจ่ายเงิน เกรงว่าจะถูกวางยาถ่ายแบบเดียวกับกุ้ยเหมยพวกเขาไม่รู้ว่าควรทำอย่างไรดี แต่ละคนมองไปทางถังก่วง หวังว่าเขาจะช่วยพูดอะไรบ้างแต่ถังก่วงไม่สนใจพวกเขาแม้แต่น้อย เขาเดินกลับไปที่แผง

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาอ๋องผู้ถูกเนรเทศ   บทที่ 559

    มาถึงตอนนี้ บรรดาคนที่มาซื้อผักก็เข้าใจแล้วมิน่าเล่า พวกเขากินผักของร้านนี้แล้วถึงได้ไม่เป็นอะไรแต่เจ้าของแผงขายของเหล่านี้กลับบอกว่ากินแล้วมีอาการถ่ายท้องรวมถึงที่บอกว่ากินผักของร้านนี้แล้วมีอาการเสพติด ทั้งหมดเป็นเรื่องเหลวไหลทั้งนั้นที่พวกเขาอยากกินผักของร้านนี้ต่อเป็นเพราะว่ามันสดใหม่และรสชาติดีต่างหากที่แท้เจ้าของแผงขายของเหล่านี้ก็ปองร้ายสองคนนี้นี่เอง ต้องการทำให้พวกเขาไม่สามารถมาขายผักที่ตลาดได้อีกหากไม่สามารถกินผักได้อีก คราวนี้พวกเขาคงได้คะนึงหาทั้งคืนทั้งวันของจริงแน่ลูกค้าที่ซื้อผักหันไปวิพากษ์วิจารณ์เจ้าของแผงขายของเหล่านั้นทันที ปากพูดถ้อยคำตำหนิหญิงชราที่ชอบมาซื้อผักกาดขาวก่อนหน้านี้พูดกับบรรดาเจ้าของแผงขายของว่า “พวกเจ้ามันไร้มโนธรรม ผักของร้านตัวเองไม่สดใหม่เองแท้ๆ ยังจะมีหน้ามาขัดขวางไม่ให้พวกข้ากินผักที่สดใหม่ของคนอื่นอีก”คนอื่นๆ พูดคล้อยตาม“ท่านยายผู้นี้พูดถูก หากพวกเจ้ามีความสามารถก็ขายผักที่สดใหม่สิ หากไม่มีความสามารถก็อย่าใช้วิธีน่ารังเกียจแบบนี้”“พวกข้ากินแล้วไม่เคยถ่ายท้องสักครั้ง เหตุใดจึงมีแต่พวกเจ้าที่ถ่ายท้อง”บรรดาเจ้าของแผงขายของถูก

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาอ๋องผู้ถูกเนรเทศ   บทที่ 558

    สีหน้าของเจี่ยนอันอันมืดครึ้มลง ดูแล้วสตรีอ้วนนางนี้คงจะลืมความเจ็บปวดจากบทเรียนไปแล้วสินะนางควรกรอกยาพิษใส่ปากกุ้ยเหมยให้เป็นใบ้ ต่อไปจะได้พูดอะไรไม่ได้อีกกุ้ยเหมยเห็นลูกค้าที่ซื้อผักมีท่าทีไม่เชื่อก็พูดทันที “พวกเจ้าไม่รู้อะไร เมื่อวานข้าซื้อผักจากร้านพวกเขา หลังจากได้กินก็มีอาการถ่ายท้อง”เจ้าของแผงขายของคนอื่นๆ พากันเอะอะโวยวายตาม“กุ้ยเหมยพูดถูก เมื่อวานข้าก็ซื้อผักจากร้านพวกเขาเช่นกัน ตอนแรกคิดว่าผักสดใหม่มาก ทว่ากินไปแล้วกลับถ่ายท้อง”“พวกข้าล้วนแต่เป็นเหยื่อ ขอแนะนำให้พวกเจ้าอย่าซื้อผักของพวกเขาจะดีกว่า”บรรดาคนที่ซื้อผักได้ฟังดังนี้ก็มีสีหน้าไม่สู้ดีตอนนี้พวกเขาไม่รู้ว่าควรซื้อหรือไม่ควรซื้อดี กุ้ยเหมยใช้โอกาสนี้พูดต่ออีกว่า “ข้าจะบอกความจริงให้พวกเจ้าฟัง ผักของร้านนี้ถูกทำอะไรบางอย่าง”“ถึงแม้ว่าหลังจากที่พวกเจ้ากินจะไม่ได้มีอาการถ่ายท้อง แต่ยิ่งกินก็ยิ่งเสพติดใช่หรือไม่?”บรรดาคนที่ซื้อผักหันไปมองหน้ากันเมื่อได้ยินดังนี้ทุกคนต่างมีความรู้สึกเช่นนี้ นับแต่ที่พวกเขาซื้อผักของร้านนี้ เป็นความจริงที่กินแล้วติดใจเสมือนว่าหากไม่ได้กินผักของร้านนี้แม้เพียงมื้อเดีย

สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status