เล่ห์รักจอมทัพ

เล่ห์รักจอมทัพ

last updateLast Updated : 2024-11-15
By:  อิ่น เยว่  Ongoing
Language: Thai
goodnovel18goodnovel
Not enough ratings
24Chapters
149views
Read
Add to library

Share:  

Report
Overview
Catalog
Leave your review on App

เมือองค์หญิงสาม โจวฟางเซียน ที่ถูกใส่ร้ายป้ายสีจนต้องออกจากวังหลวงไปแต่งงานกับแม่ทัพใหญ่ เกาเฟยฉี ผู้ที่ถูกกล่าวหาว่าเป็นคนโหดเหี้ยม ทั้งสองต้องเผชิญกับอุปสรรคและความเข้าใจผิดต่างๆ แต่ด้วยความรักและความจริงใจที่มีต่อกัน พวกเขาจะสามารถเอาชนะทุกอุปสรรคได้หรือไม่?

View More

Latest chapter

Free Preview

จุดเริ่มต้นของความขัดแย้ง

ณ อุทยานหลวงอันร่มรื่นของแคว้นโจว เหล่าสตรีสูงศักดิ์ในชุดผ้าไหมสีสันสดใสต่างมารวมตัวกัน พวกนางจิบชาหอมกรุ่นจากถ้วยกระเบื้องเคลือบ พลางพูดคุยหัวเราะกันอย่างสนุกสนาน งานเลี้ยงน้ำชาในครั้งนี้จัดขึ้นโดยโจวฟางหรู หรือองค์หญิงเจ็ด บุตรีของฮ่องเต้และซูกุ้ยเฟยโจวฟางหรูนั้นอิจฉาในความงามของโจวฟางเซียน หรือองค์หญิงสาม ผู้เป็นพี่สาวต่างมารดาเป็นอย่างมาก นางจึงมักหาเรื่องกลั่นแกล้งองค์หญิงสามอยู่เสมอ งานเลี้ยงน้ำชาครั้งนี้ก็เช่นกัน โจวฟางหรูตั้งใจจะให้โจวฟางเซียนต้องอับอายขายหน้าไม่นานนัก โจวฟางเซียนก็เสด็จมาถึงอุทยานหลวงพร้อมกับขบวนสาวใช้ นางอยู่ในชุดกระโปรงผ้าไหมสีฟ้าอ่อน เรียบง่ายแต่สง่างามราวกับดอกบัวแรกแย้ม ใบหน้าของนางเปลือยเปล่าไร้เครื่องสำอาง แต่กลับงดงามราวกับเทพธิดาผิวพรรณของนางขาวผ่องดุจหยกส่องประกาย ดวงตากลมโตสีดำขลับเป็นประกายสดใสราวกับดวงดาวบนท้องฟ้า จมูกโด่งรับกับริมฝีปากอิ่มเอิบสีชมพูระเรื่อ ยามนางเคลื่อนไหว ร่างกายบอบบางของนางก็พลิ้วไหวอ่อนช้อยราวกับสายน้ำเหล่าสตรีสูงศักดิ์ต่างหยุดการสนทนาและหันไปมองโจวฟางเซียนด้วยความตื่นตะลึง พวกนางต่างพากันซุบซิบนินทาถึงความงามของโจวฟางเซี

Interesting books of the same period

Comments

No Comments
24 Chapters

จุดเริ่มต้นของความขัดแย้ง

ณ อุทยานหลวงอันร่มรื่นของแคว้นโจว เหล่าสตรีสูงศักดิ์ในชุดผ้าไหมสีสันสดใสต่างมารวมตัวกัน พวกนางจิบชาหอมกรุ่นจากถ้วยกระเบื้องเคลือบ พลางพูดคุยหัวเราะกันอย่างสนุกสนาน งานเลี้ยงน้ำชาในครั้งนี้จัดขึ้นโดยโจวฟางหรู หรือองค์หญิงเจ็ด บุตรีของฮ่องเต้และซูกุ้ยเฟยโจวฟางหรูนั้นอิจฉาในความงามของโจวฟางเซียน หรือองค์หญิงสาม ผู้เป็นพี่สาวต่างมารดาเป็นอย่างมาก นางจึงมักหาเรื่องกลั่นแกล้งองค์หญิงสามอยู่เสมอ งานเลี้ยงน้ำชาครั้งนี้ก็เช่นกัน โจวฟางหรูตั้งใจจะให้โจวฟางเซียนต้องอับอายขายหน้าไม่นานนัก โจวฟางเซียนก็เสด็จมาถึงอุทยานหลวงพร้อมกับขบวนสาวใช้ นางอยู่ในชุดกระโปรงผ้าไหมสีฟ้าอ่อน เรียบง่ายแต่สง่างามราวกับดอกบัวแรกแย้ม ใบหน้าของนางเปลือยเปล่าไร้เครื่องสำอาง แต่กลับงดงามราวกับเทพธิดาผิวพรรณของนางขาวผ่องดุจหยกส่องประกาย ดวงตากลมโตสีดำขลับเป็นประกายสดใสราวกับดวงดาวบนท้องฟ้า จมูกโด่งรับกับริมฝีปากอิ่มเอิบสีชมพูระเรื่อ ยามนางเคลื่อนไหว ร่างกายบอบบางของนางก็พลิ้วไหวอ่อนช้อยราวกับสายน้ำเหล่าสตรีสูงศักดิ์ต่างหยุดการสนทนาและหันไปมองโจวฟางเซียนด้วยความตื่นตะลึง พวกนางต่างพากันซุบซิบนินทาถึงความงามของโจวฟางเซี
Read more

สมรสพระราชทาน

ข่าวลือเรื่องราวอื้อฉาวของโจวฟางเซียนแพร่กระจายไปทั่วเมืองหลวงราวกับไฟลามทุ่ง คำพูดดูถูกเหยียดหยามจากปากของเหล่าคุณหนูผู้สูงศักดิ์ถูกส่งต่อกันไปปากต่อปาก จนกระทั่งเรื่องราวบิดเบือนกลายเป็นว่าองค์หญิงสามเป็นหญิงสาวแพศยา ชอบแย่งชิงคนรักของผู้อื่นเสียงก่นด่าสาปแช่งดังระงมไปทั่วตลาด ชาวบ้านต่างพากันประณามโจวฟางเซียนอย่างรุนแรงราวกับนางเป็นปีศาจ ทว่าความจริงกลับตรงกันข้ามโดยสิ้นเชิง นางไม่เคยคิดร้ายหรือทำร้ายใครมาก่อนเลยวันที่นางไปหาเรื่องไป๋หลี่เมิ่งนั้น ก็เพราะความหึงหวงและความกลัวเข้าครอบงำ นางกลัวว่าเย่ซีเฉิน ชายหนุ่มที่นางเฝ้ารักและเทิดทูนจะไม่เลือกนางเป็นภรรยาโจวฟางเซียนรักเย่ซีเฉินด้วยใจจริง นางวาดฝันถึงอนาคตร่วมกันกับเขา แต่ความฝันนั้นกลับพังทลายลง เมื่อเย่ซีเฉินตกหลุมรักไป๋หลี่เมิ่งนางรู้ดีว่าเย่ซีเฉินเข้าหานางในตอนแรกก็เพราะฐานะองค์หญิงสามของนาง ที่ฮ่องเต้และฮองเฮาโปรดปราน แต่เมื่อเขาได้พบกับไป๋หลี่เมิ่ง หญิงสาวที่เพียบพร้อมทั้งรูปโฉมและสติปัญญา เขาก็เปลี่ยนใจไปอย่างง่ายดายโจวฟางเซียนได้แต่เก็บความเจ็บปวดไว้ในใจ นางต้องทนอยู่กับความอับอายและถูกสังคมตราหน้าว่าเป็นหญิงแพศยา ทั
Read more

เกาเฟยฉี

เมื่อเดินทางมาถึงจวนแม่ทัพ เขาก็ได้รับจดหมายด่วนจากฮ่องเต้ เนื้อความในจดหมายแจ้งว่าฮ่องเต้ทรงมีรับสั่งให้เกาเฟยฉีเข้าเฝ้าเพื่อรับพระราชทานรางวัล พร้อมกับจดหมายอีกฉบับที่แนบมาข้างกันเกาเฟยฉีเปิดอ่านจดหมายอีกฉบับด้วยความประหลาดใจ เมื่อพบว่าเป็นลายมือของไป๋หลี่เมิ่ง หญิงสาวที่เคยช่วยชีวิตเขาและกองทัพไว้เมื่อครั้งอดีต เนื้อความในจดหมายเล่าถึงเหตุการณ์ที่เขาเกือบลืมเลือนไปแล้ว เมื่อครั้งกองทัพของเขาขาดแคลนเสบียงอย่างหนัก ไป๋หลี่เมิ่งได้รวบรวมเงินทองจากเหล่าสตรีชั้นสูงมาซื้ออาหารช่วยเหลือเหล่าทหารจนสามารถผ่านพ้นวิกฤตมาได้แต่ท้ายจดหมายกลับมีข้อความที่ทำให้เกาเฟยฉีตกตะลึง "โปรดช่วยข้ากำจัดองค์หญิงสาม"หัวใจของเกาเฟยฉีเต้นระรัวด้วยความสับสน องค์หญิงสามที่ไป๋หลี่เมิ่งกล่าวถึงคือโจวฟางเซียน องค์หญิงผู้สูงศักดิ์และเป็นที่โปรดปรานของฮ่องเต้ เหตุใดไป๋หลี่เมิ่งจึงต้องการให้เขากำจัดองค์หญิงผู้นี้?เกาเฟยฉีขมวดคิ้วแน่น ความรู้สึกขัดแย้งกันอย่างรุนแรง เขาไม่เคยรู้มาก่อนว่าไป๋หลี่เมิ่งมีความแค้นเคืองกับองค์หญิงสามถึงเพียงนี้ แต่เมื่อนึกถึงบุญคุณที่ไป๋หลี่เมิ่งเคยช่วยชีวิตเขาและเหล่าทหารไว้ หัวใจของเขา
Read more

ยอมจำนน

โจวฟางเซียนนั่งเหม่อมองออกไปนอกหน้าต่างบานใหญ่ภายในตำหนักของนาง สายลมเย็นพัดผ่านเข้ามาปะทะผิวกาย แต่มิอาจดับไฟร้อนรุ่มที่ลุกโชนอยู่ในใจได้ ภาพความทรงจำเก่า ๆ ผุดขึ้นมาในห้วงคำนึง นางนึกถึงวันแรกที่ได้พบกับเย่ซีเฉิน...ย้อนกลับไปเมื่อหลายปีก่อน ในงานเทศกาลชมดอกไม้ประจำปีของวังหลวง โจวฟางเซียนในวัยสิบห้ายังคงเป็นเด็กสาวไร้เดียงสา นางวิ่งเล่นอยู่ในสวนดอกไม้อย่างสนุกสนาน ก่อนจะสะดุดล้มลงไปกองกับพื้น"โอ๊ย!" นางร้องเสียงหลง พร้อมกับยกมือขึ้นลูบข้อเท้าที่แพลง"เป็นอะไรมากหรือเปล่า" เสียงทุ้มนุ่มดังขึ้นจากด้านหลังโจวฟางเซียนเงยหน้าขึ้นมอง ก็พบกับชายหนุ่มรูปงามในชุดขุนนาง เขาคุกเข่าลงข้างๆ นาง พร้อมกับยื่นมือมาช่วยพยุง"ข้าชื่อเย่ซีเฉิน" เขาแนะนำตัว "แล้วเจ้าน่ะ?""ชื่อของข้าคือองค์หญิงสาม โจวฟางเซียน" นางตอบเสียงเบาเย่ซีเฉินยิ้มให้โจวฟางเซียนอย่างอ่อนโยน "ไม่ต้องกลัวนะองค์หญิงน้อย ข้าจะพาเจ้าไปทำแผล"เขาประคองโจวฟางเซียนไปยังศาลาที่อยู่ใกล้ๆ แล้วทำแผลให้ที่ข้อเท้าอย่างเบามือ"เจ็บไหม?" เขาถามด้วยความเป็นห่วงโจวฟางเซียนส่ายหน้า "ไม่เจ็บแล้ว ขอบคุณท่านมาก"นับตั้งแต่วันนั้น โจวฟางเซียนและเย
Read more

เผชิญหน้า

หลังจากที่ก้าวพ้นประตูห้องทรงอักษรออกมา โจวฟางเซียนก็หันไปถามมารดาของตนด้วยความน้อยใจ "เสด็จแม่ เหตุใดพระองค์จึงไม่ช่วยหม่อมฉันปฏิเสธการแต่งงานนี้เล่าเพคะ"ฮองเฮาเสิ่นอวี้มองลูกสาวด้วยสายตาอ่อนโยน ก่อนจะเอ่ยด้วยน้ำเสียงอบอุ่น "ลูกแม่ เจ้ารู้หรือไม่ว่าแม่ของเกาเฟยฉีคือฮูหยินเกา เพื่อนรักของแม่เอง"โจวฟางเซียนเบิกตากว้างด้วยความประหลาดใจ "หมายความว่าอย่างไรหรือเพคะ""เมื่อก่อน ตอนที่เจ้ายังเล็ก แม่กับฮูหยินเกาเคยพูดคุยกันเรื่องที่จะให้เจ้ากับเกาเฟยฉีหมั้นหมายกัน แต่ตอนนั้นมันเป็นเพียงแค่ความคิดของพวกเราเท่านั้น" ฮองเฮาอธิบายโจวฟางเซียนรู้สึกเหมือนโลกทั้งใบหยุดหมุน นางไม่เคยรู้มาก่อนเลยว่าตนเองเคยถูกหมั้นหมายกับเกาเฟยฉี"แต่ตอนนี้สถานการณ์มันเปลี่ยนไปแล้ว" ฮองเฮาพูดต่อ "เจ้ามีข่าวเสียหายมากมาย การแต่งงานกับเกาเฟยฉีจะช่วยกอบกู้ชื่อเสียงของเจ้าได้"โจวฟางเซียนได้แต่ยืนนิ่งเงียบ นางไม่รู้จะพูดอะไรออกมา ความรู้สึกของนางสับสนวุ่นวายไปหมด"แม่รู้ว่าเจ้าไม่ได้รักเกาเฟยฉี" ฮองเฮากล่าว "แต่เชื่อแม่เถอะ การแต่งงานครั้งนี้จะเป็นผลดีต่อเจ้าและราชวงศ์"โจวฟางเซียนมองหน้ามารดาของตน นางเห็นแววตาที่เปี
Read more

งานมงคล

โจวฟางหรูและไป๋หลี่เมิ่งมองหน้ากัน แล้วหัวเราะออกมาอย่างสะใจ"พี่สาม ท่านอย่าโมโหไปเลย" โจวฟางหรูพูด "พวกข้าก็แค่หวังดี อยากเตือนสติท่านเท่านั้น""ใช่เพคะ องค์หญิงสาม" ไป๋หลี่เมิ่งเสริม "ท่านควรจะยอมรับความจริงเสียทีว่าท่านไม่มีทางได้ครอบครองหัวใจของใครได้ ทั้งเสนาบดีเย่และแม่ทัพเกา ไม่มีใครยอมมอบใจให้ท่านหรอก""ออกไป!" โจวฟางเซียนตะโกนเสียงดังโจวฟางหรูและไป๋หลี่เมิ่งยิ้มเยาะอีกครั้ง ก่อนจะเดินออกจากห้องไปโจวฟางเซียนทรุดตัวลงนั่งบนเก้าอี้ รู้สึกเสียใจและผิดหวังอย่างมาก นางไม่เข้าใจว่าทำไมทุกคนถึงต้องทำร้ายจิตใจของนางขนาดนี้ในขณะที่นางกำลังร้องไห้อยู่นั้น สาวใช้ประจำตัวก็เดินเข้ามาหา"องค์หญิง ท่านไม่เป็นไรนะเพคะ" สาวใช้ถามด้วยความเป็นห่วงโจวฟางเซียนส่ายหน้า "ข้าไม่เป็นไร" นางตอบเสียงแผ่วสาวใช้ประจำตัวเช็ดน้ำตาให้นาง "องค์หญิง ท่านอย่าร้องไห้เลยเพคะ วันนี้เป็นวันมงคลของท่าน"โจวฟางเซียนพยักหน้า นางสูดหายใจเข้าลึกๆ แล้วลุกขึ้นยืน"เจ้าช่วยข้าแต่งตัวต่อเถอะ" นางพูดสาวใช้ประจำตัวยิ้มออกมา "เพคะ องค์หญิง"นางเงยหน้าขึ้นมองเงาสะท้อนของตัวเองในกระจกบานใหญ่ตรงหน้า ดวงตาที่แดงก่ำจากการร้
Read more

เพราะข้ารักท่าน

หลังจากควบม้ามาหลายชั่วยาม เกาเฟยฉีเริ่มสังเกตเห็นความเหนื่อยล้าบนใบหน้าของโจวฟางเซียน เขาเป็นห่วงว่าการเดินทางที่ยาวนานบนหลังม้าอาจจะทำให้นางอ่อนเพลียเกินไป จึงตัดสินใจหยุดพักที่โรงเตี๊ยมแห่งหนึ่งริมทางเกาเฟยฉีเดินเข้าไปในโรงเตี้ยมและพบกับเสี่ยวเอ้อร์ เขาจองห้องพักหนึ่งห้องและสั่งอาหารง่ายๆ มาเมื่อเดินกลับมาที่ม้า เขาพบว่าโจวฟางเซียนยังคงนั่งอยู่บนหลังม้า ไม่ยอมลงมาสักที เกาเฟยฉีจึงเดินเข้าไปถามด้วยความเป็นห่วง "องค์หญิง ท่านเป็นอะไรหรือไม่"โจวฟางเซียนเบ้ปากเล็กน้อย "ตอนท่านพาข้ามา ท่านอุ้มข้าขึ้นม้า ตอนนี้ใยไม่อุ้มข้าลง! ข้าเป็นองค์หญิง เกิดมาไม่เคยแม้แต่จะสัมผัสม้า.."โจวฟางเซียนได้แต่บ่นพึมพำในใจ ตอนนี้นางรู้สึกเหมือนคนพิการ ขาของนางแทบไม่มีแรงจะก้าวเดินเกาเฟยฉีหัวเราะในลำคอเบาๆ เมื่อเห็นท่าทางของโจวฟางเซียนที่ทำทีเป็นไม่ต้องการความช่วยเหลือจากเขา แต่สุดท้ายก็ต้องยอมให้เขาอุ้มไปยังห้องพักเขาค่อยๆ วางร่างบางของนางลงบนตั่งไม้ตัวยาวภายในห้อง ก่อนจะนั่งลงข้างๆ นาง โจวฟางเซียนยังคงทำหน้าบึ้งตึง แต่แววตาของนางกลับมีความขบขันซ่อนอยู่ไม่นานนัก เสี่ยวเอ้อร์ก็ยกสำรับอาหารมาให้ โจวฟางเ
Read more

ร่วมหอ 1

หลังจากผ่านการเดินทางอันยาวนานและเหน็ดเหนื่อยหลายวัน ในที่สุดเกาเฟยฉีและโจวฟางเซียนก็มาถึงชายแดนอันเป็นที่ตั้งของจวนแม่ทัพ จวนหลังใหญ่ที่เคยดูเรียบง่าย บัดนี้ถูกประดับประดาด้วยผ้าสีแดงสดสะดุดตา ตัดกับสีเขียวขจีของต้นไม้โดยรอบ ราวกับกำลังเฉลิมฉลองการมาถึงของนายหญิงคนใหม่ทันทีที่เกาเฟยฉีควบม้าเข้าไปในเขตจวน สตรีวัยกลางคนผู้หนึ่งก็รีบวิ่งออกมาต้อนรับด้วยความดีใจ ใบหน้าของนางเปื้อนไปด้วยรอยยิ้มแห่งความยินดี"อาฉี เจ้ากลับมาแล้ว!" สตรีผู้นั้นคือเกาฮูหยิน มารดาของเกาเฟยฉี นางมองไปที่โจวฟางเซียนที่นั่งอยู่บนหลังม้าด้วยสายตาเป็นห่วง "องค์หญิงเป็นอย่างไรบ้างเพคะ เหนื่อยหรือไม่ เจ้าลูกชายตัวดี เหตุใดจึงบ้าบิ่นพาองค์หญิงควบม้ามาเช่นนี้" เกาฮูหยินพูดจบก็ฟาดแขนลูกชายเบาๆ ด้วยความหมั่นเขี้ยวโจวฟางเซียนหัวเราะคิกคักก่อนจะพูดขึ้น "ท่านแม่ ต่อไปนี้ท่านเป็นท่านแม่ของข้าแล้ว ไม่ต้องเรียกข้าว่าองค์หญิงหรอกเจ้าค่ะ เรียกข้าว่าเซียนเอ๋อร์ก็พอ ข้าไม่เหนื่อยเลยเจ้าค่ะ" นางพูดจบก็รีบลงจากหลังม้าแล้วเข้าไปกอดแขนเกาฮูหยินอย่างออดอ้อนเกาฮูหยินยิ้มรับอย่างเอ็นดู นางลูบหัวโจวฟางเซียนเบาๆ "เซียนเอ๋อร์ เจ้าช่างน่า
Read more

ร่วมหอ 2

เกาเฟยฉีค่อยๆ บรรจงสำรวจเรือนร่างของโจวฟางเซียนด้วยความทะนุถนอม เขาจูบไล้ไปทั่วทั้งตัวของนาง ทำให้นางครางออกมาด้วยความสุข สัมผัสของเขาช่างอ่อนโยนและเร่าร้อนในเวลาเดียวกัน ทำให้นางรู้สึกเหมือนตัวเองกำลังละลายอยู่ในอ้อมกอดของเขาโจวฟางเซียนเองก็ไม่เคยรู้มาก่อนว่าร่างกายของนางจะตอบสนองต่อสัมผัสของชายหนุ่มได้มากมายขนาดนี้ นางรู้สึกเหมือนตัวเองกำลังล่องลอยอยู่ในห้วงแห่งความสุข ความรู้สึกที่ไม่เคยรู้จักมาก่อนกำลังเอ่อล้นในใจของนางเกาเฟยฉีค่อยๆ เข้าหานางอย่างแผ่วเบา เขาเป็นห่วงว่านี่เป็นครั้งแรกของนาง เขาจึงพยายามเบามือที่สุดเท่าที่จะทำได้โจวฟางเซียนรู้สึกเจ็บเล็กน้อยในตอนแรก แต่ความเจ็บปวดนั้นก็ถูกแทนที่ด้วยความสุขอย่างรวดเร็ว นางโอบกอดเกาเฟยฉีแน่นขึ้นเรื่อยๆ นางไม่สามารถควบคุมตัวเองได้อีกต่อไป นางปลดปล่อยความรู้สึกทั้งหมดออกมาเกาเฟยฉีเองก็รู้สึกถึงความสุขอย่างท่วมท้น เขาไม่เคยรู้มาก่อนว่าการได้เป็นหนึ่งเดียวกับผู้หญิงที่เขาแอบหลงรักจะเป็นความรู้สึกที่ดีได้ถึงเพียงนี้ เขารักโจวฟางเซียนมากขึ้นในทุกขณะที่ผ่านไปทั้งสองคนร่วมรักกันอย่างดูดดื่มตลอดทั้งคืน พวกเขาไม่รู้ว่าเวลาผ่านไปนานเท่าไหร่
Read more

ลูกอมของหลางเกอ

"หลางเกอ..."เกาเฟยฉีชะงักไปครู่หนึ่ง "ยังจำข้าได้อยู่อีกหรือ" เขาถามด้วยน้ำเสียงตื่นเต้น "ข้านึกว่าเจ้าลืมข้าไปหมดสิ้นแล้ว"โจวฟางเซียนพยายามลืมตาขึ้นมองเกาเฟยฉี แต่สติของนางเลือนรางเต็มที นางจำได้เพียงรางๆ ว่าหลางเกอคือชื่อที่นางเคยเรียกเขาเมื่อตอนเด็กๆ"หลางเกอ..." นางพึมพำซ้ำอีกครั้ง ก่อนจะผล็อยหลับไปในอ้อมแขนของเขาด้วยฤทธิ์ของยาเกาเฟยฉีมองใบหน้าซีดเซียวของโจวฟางเซียนด้วยความรู้สึกหลากหลาย เขาไม่เคยคิดว่านางจะยังจำเขาได้ เขาคิดว่าความทรงจำในวัยเด็กของพวกเขาคงเลือนหายไปตามกาลเวลาแล้วแต่ตอนนี้เขารู้แล้วว่าโจวฟางเซียนยังคงเก็บความทรงจำเกี่ยวกับเขาไว้ในส่วนลึกของหัวใจ และนั่นทำให้เขามีความสุขอย่างบอกไม่ถูกเกาเฟยฉีเฝ้ามองโจวฟางเซียนที่หลับใหลอยู่บนเตียง ภาพของนางในยามนี้ช่างแตกต่างจากองค์หญิงผู้สูงศักดิ์ที่เขาได้พบในวันแต่งงาน ความอ่อนแอและบอบบางของนางปลุกเร้าความรู้สึกห่วงใยในใจเขาขึ้นมาอย่างไม่เคยเป็นมาก่อนทันใดนั้น ภาพความทรงจำในวัยเด็กก็ผุดขึ้นมาในห้วงคำนึงของเขา...ย้อนกลับไปเมื่อหลายปีก่อน ครั้งที่เกาเฟยฉียังเป็นเพียงเด็กชายตัวเล็กๆ ตามบิดาผู้เป็นแม่ทัพมาเข้าเฝ้าฮ่องเต้ในวังห
Read more
DMCA.com Protection Status