ทั้งอัปลักษณ์และบ้าใบ้ นางคือสตรีผู้กุมหัวใจแม่ทัพปีศาจ เขาไม่ปล่อยริมฝีปากอิ่มสวยให้เป็นอิสระ และยังแทรกเรียวลิ้นอุ่นกวาดตวัดไม่หยุด ส่วนมือข้างหนึ่งเอื้อมมากอบกุมความขาวนุ่มนิ่มและนวดสลับบีบคลึงเคล้า ทั้งบี้ปลายยอดถันนางเพิ่มความซ่านสยิวต่อเนื่อง ทุกสัมผัสของกวนเฉินหลางทำให้หญิงใบ้ร้อนฉ่าทั่วร่าง และส่งผลให้หัวใจสาวแทบกระโจนออกมาอยู่นอกอก
Lihat lebih banyakฮูหยินใหญ่ของปีศาจกวน ถึงอวิ๋นมู่หลันเตรียมใจไว้แล้วแต่นางอดแสดงความหึงหวงมิได้ ในเมื่อปีศาจกวนเป็นของนาง แต่กลับเห็นดีเห็นงามกับคำพูดโจวจื่อเว่ย สิ่งนี้ส่งผลให้นางแทบกระอักเลือด เขาคิดจะแต่งพี่รองมาเป็นอนุจริง ๆ หรือ กระทั่งมีจดหมายคำสั่งจากรัชทายาทส่งมาถึงกวนเฉินหลาง สิ่งที่โจวจื่อเว่ยกล่าวบนโต๊ะอาหารคงต้องเป็นไปตามนั้น กวนเฉินหลางเดินมาจากด้านหลังแล้วรวบเอวอวิ๋นมู่หลันไป เขากอดนาง กอดนิ่ง ๆ พร้อมส่งความห่วงใยแสนอบอุ่นถึงกัน “ยามนี้อาจมีหลายสิ่งที่อาจทำให้อาหลันไม่สบายใจ” หญิงสาวอยากโวยวาย อยากตบตีเขา และสะบัดตัวหนีจากอ้อมกอดคนตัวโต แต่นางก็มีสติ ทั้งยังรู้ว่าทุกอย่างที่เขาตัดสินใจทำย่อมมีเหตุผลที่ดีรองรับ “นับแต่ข้าเลือกอยู่กับท่านแม่ทัพ ข้ารู้ว่าชีวิตจะไม่ง่าย ทั้งยังต้องพบกับเรื่องไม่คาดฝันเสมอ” “แล้วอาหลันหวงหรือไม่ หากข้าต้องรับหยวนม่านเป็นอนุ” หัวใจนางเจ็บแปลบต่อคำถามนั้น นางจะเอ่ยสิ่งใดออกไปดี ด้วยจู่ ๆ หัวสมองตื้อไปหมด และรู้สึกเหมือนถูกคนรักหักหลัง “ข้ามีทางเลือกอื่นหรื
อาหลันฟ้าประทาน กวนเฉินหลางมาถึงเรือนหลังดังกล่าวในอีกสองวันต่อมาและเป็นช่วงดึก ซึ่งเขาไม่อยากกวนอวิ๋นมู่หลัน ด้วยคิดว่านางคงเหนื่อยจากการเดินทางและยังต้องรับมือพี่สาวแสนอำมหิตคนนั้น ทว่าภายในห้องพัก นางกลับนั่งอ่านหนังสือรอเขาอยู่ “เหตุใดยังไม่เข้านอน” เขาถามสาวงามของตน หญิงสาวยิ้มเต็มวงหน้าก่อนแสร้งทำเป็นหน้าบึ้งเพราะนางรู้ว่าเหตุการณ์ทั้งหมดที่เกิดขึ้นมีเบื้องลึกเบื้องหลังจากฝีมือปีศาจกวน “ตอบข้ามา ท่านแม่ทัพมีแผนใดกัน” “แผน... อันใด?” คนตัวโตแกล้งทำไขสือ “ฮึ ข้าเป็นน้องสาวบุญธรรมกุนซือโจว ย่อมต้องอ่านความคิดท่านออก” “เช่นนั้น เจ้าคิดว่าข้ามีสิ่งใดในใจ” เมื่อถูกเขาท้าทายนางจึงกล่าวว่า “ท่านแม่ทัพ จงใจให้ข้าพักโรงเตี๊ยมแห่งนั้น และรู้ว่าพี่รองจะมารอซีกังที่นั่น” “สมแล้วที่เป็นสตรีที่ข้าพึงพอใจ เจ้าฉลาด ทั้งยังมีเล่ห์เหลี่ยมจนน่ากลัว” “ที่เป็นเช่นนั้นล้วนเกิดจากการที่ท่านทำให้ข้าไม่อาจไว้ใจผู้ใดง่าย ๆ” “ฮ่า ๆ ๆ นับว่า เจ้าเป็นแม่เสือตัวจริง ต่อไปข้าคงวางใจ
คืนที่พระจันทร์ถูกก้อนเมฆบดบังแสง เหนี่ยวซีกังโถมแรงของเขาและแทรกความใหญ่โตเข้าสู่เนื้อนิ่มของนาง ทั้งคู่คลอเคลียกันในโรงพักม้าซึ่งมีทั้งกลิ่นฟางกลิ่นหญ้า มันให้ความรู้สึกที่แสนประหลาด น่าตื่นกลัว ชั้นต่ำ ทว่ากลับเพิ่มความสยิวร้อนแรงทั้งนางกับเขา “อยากไปเมืองหลวงกับข้าหรือไม่” “ตะ… แต่... ข้าคือหยวนม่าน บุตรสาวของเจ้าเมืองซ่ง ผู้ที่ต้องแต่งเป็นอนุของแม่ทัพกวน!” “กังวลใจอันใด ยามนี้เจ้าอยู่กับข้า ย่อมเป็นสตรีของซีกัง ใต้เท้าระดับสามผู้ดูแลหน่วยบูรพา!” เขาว่าอย่างไม่ยี่หระต่ออำนาจของกวนเฉินหลาง ยามนี้ถึงฝ่ายนั้นอยู่เหนือเขาหนึ่งขั้น แต่กลับไม่ได้รับความโปรดปรานจากฮ่องเต้เช่นเดิม อีกทั้งยังบังอาจขวางทางรัชทายาท ดังนั้นอนาคตกวนเฉินหลางยังจะสดใสอีกหรือ “เช่นนั้น ชีวิตนี้ของผู้น้อยคงต้องฝากใต้เท้าชี้นำ” นางว่าแล้วจึงช้อนสายตามองเขา ก่อนถูกชายหนุ่มจับให้หันหลังเข้าผนังคอกม้า จากนั้นเขาก็เริ่มขยับสะโพกรัวแรง พร้อมส่งเสียงสั่นพร่า ทั้งหยาบคายสลับการตบตีบั้นท้ายนาง ก่อนบีบปลายคางบังคับให้นางหันหน้ามาจูบแลกลิ้น อวิ๋นหยวน
คืนนั้นอวิ๋นมู่หลันไม่ได้กลับค่าย และกวนเฉินหลางก็ดีกับนางเหลือเกิน เขาพาชมเมืองเล็ก ๆ ที่มีอาหารอร่อย ทั้งยังมีโรงละครที่น่าตื่นใจ นอกจากมีนางรำเอวอ่อน การแสดงวิชาปามีดกับฟาดแส้ที่น่าตื่นตาตื่นใจ ยังมีหุ่นกระบอกเคลื่อนไหวด้วยมือให้ชมด้วย หญิงสาวนึกว่าตนย้อนกลับคืนสู่วัยเด็ก นางยิ้มอยู่ตลอดและคนตัวโตก็เอาใจ คอยป้อนของหวานให้กินไม่ขาดปาก “ท่านแม่ทัพ... ข้ากินเองได้” “เห็นอาหลันชอบ ข้าจึงอยากเอาใจ” เขาพูดง่าย ๆ เช่นนั้น แต่นางกลับสะเทิ้นอาย ยามนี้หัวใจไปอยู่กับคนผมขาวหน้าดุ มองอย่างไรเขาก็เป็นบุรุษที่นางพึงใจ แม้ลึก ๆ มีอคติอยู่ ทว่ากวนเฉินหลางช่วยนางหลายหน จริงอยู่บุรุษผู้นี้ไม่ใช่คนดี และยังขึ้นชื่อว่าปีศาจ ทว่าปีศาจย่อมมีหัวใจและเลือดเนื้อ หลังจากเพลินใจในโรงละคร เขาพานางไปเลือกซื้อผ้า และเครื่อง ประดับที่ตลาดกลางคืนติดคลองสายยาว แสงไฟและเสียงดนตรีกับผู้คนที่เดินขวักไขว่ให้ความบันเทิงใจ อวิ๋นมู่หลันไม่คาดคิดว่า จะมีโอกาสเดินเคียงข้างผู้ชายตัวโตมาก่อนจึงค่อนข้างประหม่า แต่เป็นกวนเฉินหลางที่ดูแลนางอ
กวนเฉินหลางพาหญิงสาวขี่ม้าอกจากค่ายทหารในระยะทางราว ๆ ห้าสิบลี้ สถานที่ดังกล่าวเป็นสวนด้านหลังของอารามสำนักชี ครั้งหนึ่งมารดาเขาเคยบวชที่นี่เมื่อหลายปีก่อน หญิงสาวไม่ได้ยั่วล้อหรือปั่นหัวกวนเฉินหลางอีก นางสงบอยู่มาก คอยมองเขาตลอด ส่วนเสี่ยวเฮยนางปล่อยให้มันวิ่งเล่นโดยกำชับให้หลิวตงดูแลพร้อมห้ามไม่ให้ก่อเรื่อง เมื่อกวนเฉินหลางยื่นมือให้นางจับเพื่อจะพาก้าวขึ้นบันไดสูงและชัน นางส่ายหน้าช้า ๆ “ข้าแข็งแรงพอ เป็นท่านมากกว่าที่จะวิ่งตามข้าทันหรือไม่” “อาหลัน... ถึงจะเห็นว่าข้าผมหงอก แต่ยังมีแรงล้นเหลือ และยังแข็งแรงมาก มากพอทำให้เจ้าตัวเล็ก ๆ ถือกำเนิด และออกมาเล่นเป็นเพื่อนเสี่ยวเฮย” ดวงตากลมโตส่งค้อนให้กวนเฉินหลาง และหวิดเอื้อมมือไปหยิกสีข้างคนตัวโต แต่เป็นเพราะจุดนั้นมีสายตาของแม่ชีและผู้อื่นคอยมองพวกเขา “ทะ… ท่าน... ช่างเป็นคนไร้ยางอาย พื้นที่นี้สมควรต้องระวังปากและการกระทำมิใช่หรือ” กวนเฉินหลางพยักหน้าให้นาง ก่อนกล่าวตอบ “ปีศาจกวนเข้าใจทุกอย่างแล้ว ตอนนี้ข้าชักรู้สึกเดี๋ยวร้อนเดี๋ยวหนาว หรือเป็นเพราะว่าส
อวิ๋นมู่หลันยืนนิ่ง ๆ อยู่หน้าห้องขัง ซึ่งก่อนเข้ามาเสี่ยวเฮยได้วิ่งนำทางนาง มันเห่าอยู่สองสามครั้งเสียงดังก้องไปหมด และนางให้หลิวตงปรามมัน เพราะไม่ต้องการรบกวนทั้งผู้คุมและนักโทษคนอื่น แต่เสี่ยวเฮยยังคำรามในลำคอราวกับมันไม่ชอบใจบางสิ่ง เมื่อนางหยิบแป้งปั้นก้อนกลมที่ผสมเนื้อไก่สับและตับหมูอวดมัน เสี่ยวเฮยก็ส่ายหางรัว ๆ และยอมสงบลงแต่โดยดี ดวงตากลมโตของเสี่ยวเฮยจ้องผู้เป็นนาย ถ้าหากมันสื่อสารด้วยภาษามนุษย์ได้ คงแจ้งบางสิ่งที่มันรู้แก่อวิ๋นมู่หลันแล้ว หญิงสาวยืนอยู่เช่นนั้นเกือบหนึ่งอึดใจ เกิดความอึดอัดขึ้นอย่างประหลาด อีกทั้งรู้สึกห่วงใยเมิ่งถู ด้วยเขายังนั่งหันหลังให้กรงขัง และแม้จะเห็นเพียงแผ่นหลังที่มีเลือดแห้งเกรอะกรังติดกับเสื้อนักโทษ แต่นางก็ร้าวไหวทั้งใจ เป็นฝีมือกวนเฉินหลางหรอกหรือที่ทำร้ายเมิ่งถูถึงเพียงนี้ ผู้คุมที่รู้จักกับหลิวตงใช้กระบองเหล็กฟาดใส่กรงขังแล้วเอ่ยเสียงดังว่า “นักโทษ... ได้เวลาอาหาร” เสียงอีกฝ่ายดัง แต่เมิ่งถูไม่ได้ขยับตัว เขายังนั่งนิ่ง ๆ หายใจในจังหวะสม่ำเสมอ
บทลงโทษที่น่าละอาย ภายในคุกใต้ดิน เสียงเงียบและความวังเวงในพื้นที่แห่งนั้นชวนให้ขนหัวลุก ก่อนหน้านี้ราว ๆ ครึ่งชั่วยามเพิ่งมีร่างหนึ่งถูกลากออกไปฝัง สาเหตุเพราะทนความทรมานไม่ไหว คนผู้นั้นเป็นชาวเหนือ คือไส้ศึกที่ลักลอบเข้ามายังต้าเหอ และถูกวางยาพิษจนเลือดไหลออกจากทวารทั้งเจ็ด ซึ่งกำลังมีการสืบสวนอย่างเร่งด่วน สำหรับเมิ่งถูแล้ว เขาได้รับการลงโทษนับว่าสาหัสทีเดียว แม้ไม่ได้ถูกถอดเล็บหรือตัดชิ้นส่วนในร่างกายทิ้ง ทว่าการโบยด้วยแส้เพื่อ ให้เขาคลายความลับต่าง ๆ โดยเฉพาะเรื่องกองกำลังลับของหนานหยาง ก็ทำให้ร่างกายชายหนุ่มเต็มไปด้วยบาดแผล “สักวัน ข้าจะต้องทำให้เลือดต้าเหอหลั่งแผ่นดิน!” เมิ่งถูคิดถึงหลายสิ่งก่อนหัวเราะให้ความอ่อนด้อยของตน แต่เดิมบิดาเขาเป็นฮ่องเต้ผู้มีความปรีชาสามารถ พี่น้องคนอื่นก็เช่นกัน ทว่าทั้ง หมดล้วนเป็นคนดีเกินไป สุดท้ายจึงจากเขาไปก่อนวัยอันควรพร้อมแผ่นที่ล่มสลาย ขณะที่จมจ่อมอยู่ในความคิดตน เสียงเห่าของสุนัขลอยมาเข้าหู ยามนั้นเมิ่งถูนึกฉงนมิน้อย และมั่นใจว่ามันคือสุนัขตัวเดียวกันที่อยู่กับ อวิ๋นมู่หลัน
นางมองไปยังหลิวตง อีกฝ่ายเองมีสีหน้าไม่สู้ดี ปกติไม่ได้ใส่ใจเรื่องพวกนี้นัก แต่พอได้ยินว่าอาหารชั้นเลวกำลังจะถูกนำไปให้เชลยศึกชาวหนานหยางนางจึงรู้สึกว่าหัวใจหดเกร็ง “พวกมันทำให้พี่น้องอยู่อย่างลำบาก รองแม่ทัพเหนี่ยวถูกคุมตัวกลับเมืองหลวง และข้าได้ยินว่ามันคือองค์ชายไร้แผ่นดิน สมควรแล้วที่จะได้กิน หิน ทราย ที่ปนอยู่ในโจ๊ก ถึงไม่ใช่ยาพิษ แต่มันคงปวดท้องจนตาย และถ่ายออกมาเป็นเลือด ห้า ๆ ๆ” ลูกมือคนหนึ่งเอ่ย พลางเติมหลายสิ่งที่สกปรกลงไป กระนั้นมีคนไม่เห็นด้วยอยู่บ้าง ทว่าไม่กล้าขัดใจนาง เพราะสตรีผู้นี้มีพ่อครัวหนุนหลัง อวิ๋นมู่หลันสูดลมหายใจลึก นางจะปล่อยผ่านเรื่องนี้ไปได้หรือ ในเมื่อคนซึ่งถูกกล่าวถึงคือเมิ่งถู และถึงจะเป็นคนอื่นนางก็ให้กินของที่เป็นอันตรายเช่นนี้ไม่ได้! “แม่นางหลัน มิใช่หน้าที่ของท่าน” เนื่องจากกวนเฉินหลางต้อง การปกปิดฐานะที่แท้จริงของหญิงสาว เขาจึงให้ลูกน้องเรียกนางว่าแม่นางหลัน อวิ๋นมู่หลันถลึงตาใส่อีกฝ่าย เมื่อก่อนนางไม่รู้ว่าอาหารสำหรับนักโทษแย่ยิ่งกว่าของเสียที่เททิ้งเช่นนี้ นอกจากนั้นงานครัวที่นี่ยังไม
กวนเฉินหลางหัวเราะและมองคนงามของเขา นางพิเศษเสียจริง ไม่เหมือนใครจนเขาอดชื่นชมไม่ได้ “กุนซือโจว อยากพบข้าจริง ๆ ท่านจะไม่อนุญาตหรือ” “หากเขามีเหตุผลเพียงพอ ข้าถึงจะให้บัณฑิตอ่อนแอได้ยลโฉมหญิงอัปลักษณ์ของอาหลันสักเล็กน้อย” “แม่ทัพกวน!” “เสียงดังเช่นนี้ หรือว่าอาหลัน... อยากให้ข้าเอาใจเจ้าหนัก ๆ อย่างเช่นในอ่างอาบน้ำอีก!” อวิ๋นมู่หลันหน้าแดงระเรื่อ ถึงเขายังบาดเจ็บอยู่ แต่นางจะไม่ยั้งมือแล้วจึงตบตีทั้งกัดใบหูเขาอย่างหมั่นไส้ “อาหลัน ๆ ๆ เจ้าอย่าเอานิสัยเสี่ยวเฮยมาใช้!” เขาส่งเสียงดุไม่จริงจังและหัวเราะเสียงห้าวใหญ่ ฟังดูก็รู้ว่าขบขันที่นางล้อเล่นกับเขาแรง ๆ “ฮึ เป็นท่านที่สอนให้ข้าทำเช่นนี้!” นางเอ่ยจบจึงหยิกเนื้อตัวเขาจนพอใจ กระทั่งเผลอหัวเราะเสียงคิกคักและเขาพลอยมีความสุขไปด้วย จากนั้นด้านนอกก็มีเสียงตงหลิวแจ้งว่าโจวจื่อเว่ยมาขอพบกวนเฉินหลางกับอวิ๋นมู่หลัน “ฮึ ดูเหมือนกุนซือโจวอยากให้ข้าเฉือนซี่โครงของเขาออกแล้วมาโรยเกลือย่างกินกับนารีแดง!” อวิ๋นมู่หล
ทั้งอัปลักษณ์และบ้าใบ้นางคือสตรีผู้กุมหัวใจแม่ทัพปีศาจ*************************** เขาไม่ปล่อยริมฝีปากอิ่มสวยให้เป็นอิสระ และยังแทรกเรียวลิ้นอุ่นกวาดตวัดไม่หยุด ส่วนมือข้างหนึ่งเอื้อมมากอบกุมความขาวนุ่มนิ่มและนวดสลับบีบคลึงเคล้า ทั้งบี้ปลายยอดถันนางเพิ่มความซ่านสยิวต่อเนื่อง ทุกสัมผัสของกวนเฉินหลางทำให้หญิงใบ้ร้อนฉ่าทั่วร่าง และส่งผลให้หัวใจสาวแทบกระโจนออกมาอยู่นอกอก หญิงใบ้คงเสียสติเป็นแน่แท้ นางเกลียดเขา ชิงชังจับใจ และอยากฆ่าคนตัวโตให้ตาย ทว่าเหตุใดทุกความรู้สึกเหล่านี้กลับมลายและด้อยค่าลงเพียงเพราะถูกเขาหลอกล่อด้วยไฟราคะ อวิ๋นมู่หลันกลายเป็นหญิงร่านและไร้ค่าเช่นนี้ตั้งแต่เมื่อใด นางเกิดความสับสน หัวสมองขาวโพลนไปหมด ‘อ๊ะ... อื๊อ... ทะ… ท่าน...’ น่าละอายเหลือเกิน นางร้องประท้วงเขาได้เพียงเท่านี้ ด้วยใจกลับอ่อนยวบลงทีละน้อย ไม่ต่างจากร่างกายที่คล้ายกับจะยอมศิโรราบแก่กวนเฉินหลาง จวบจนเขาปล่อยริมฝีปากนางเป็นอิสระจึงส่งเสียงเข้ม ๆ ขึ้น “เจ้าเป็นของข้า... หญิงใบ้!”*******************ข้าตายแล้วหรือ!!? ...
Komen