ฉู่จวินสิงในตอนนี้ราวกับศพศพหนึ่ง ทำได้เพียงปล่อยให้มือของเจี่ยนอันอันเคลื่อนไหวตามอำเภอใจไปบนร่างกายของตนเองหลังเจี่ยนอันอันทายาให้ฉู่จวินสิงอย่างรวดเร็วจนเสร็จ ก็นำยาแก้ปวดมาบดเป็นผงนางง้างปากฉู่จวินสิง เทผงยาแก้ปวดใส่ปากเขาฉู่จวินสิงอยากถ่มยาในปากทิ้งไป แต่กลับพบว่าการเคลื่อนไหวแค่นี้ยังกลายเป็นความยากเย็นแสนเข็ญสมองของเขาทำงานเร็วจี๋ สตรีผู้นี้ต้องการทำอันใดกันแน่ นางต้องการวางยาพิษเขาเช่นนั้นหรือ?หากเป็นเช่นนั้นจริง ถึงเขากลายเป็นผีก็จะไม่ยอมปล่อยนางไปแน่ขณะที่ฉู่จวินสิงคิดเหลวไหลอยู่ ก็เห็นว่ามือฉู่อันเจ๋อกำลังถือน้ำขวดหนึ่งเขากรอกน้ำในขวดใส่ปากฉู่จวินสิงน้ำและยาไหลผ่านลำคอลงไปในท้องของฉู่จวินสิงฉู่จวินสิงหรี่ตามองฉู่อันเจ๋อไม่เข้าใจว่าเหตุใดอีกฝ่ายจึงร่วมมือกับสตรีผู้นี้มากรอกยาพิษให้เขาคนทั้งสองจดจ่ออยู่กับการป้อนยาให้ฉู่จวินสิงจนไม่ได้สังเกตว่าฉู่จวินสิงในตอนนี้ได้สติแล้ว ทั้งยังกำลังมองพวกตนอยู่หลังทำทั้งหมดนั้นเสร็จ เจี่ยนอันอันก็กล่าวกับฉู่อันเจ๋อว่า “เจ้าเฝ้าเขาไว้ให้ดี ไม่ว่าเขามีอาการอย่างไร เจ้าก็ต้องมาบอกข้าทันที”ฉู่อันเจ๋อพยักหน้าน้อย ๆ “ข้าเ
ภาพเหล่านี้ปรากฏเพียงไม่นานก็หายไปเจี่ยนอันอันรู้ว่านี่คือความสามารถในการล่วงรู้อนาคตของร่างเดิมตอนนี้นางทะลุมิติมาอยู่ในร่างนี้ ยังได้รับสืบทอดพลังของร่างเดิมแต่ความสามารถในการล่วงรู้อนาคตของร่างเดิมมีขีดจำกัด รู้ได้เพียงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นภายในสามวันข้างหน้าเท่านั้นภาพเมื่อครู่ทำให้เจี่ยนอันอันรู้ว่ากลุ่มคนชุดดำจะปรากฏตัวในค่ำคืนนี้แม้นางจะไม่รู้ว่าผู้ใดเป็นคนส่งกลุ่มคนชุดดำนี้มา แต่พวกเขาต้องมีความเกี่ยวข้องกับทหารรักษาพระองค์พวกนี้แน่นอนหึ ทหารรักษาพระองค์พวกนี้ชอบแสร้งตายกันนักใช่หรือไม่ถ้าเช่นนั้นก็ให้พวกเขาได้ลิ้มรสความทรมานก่อนก็แล้วกันเจี่ยนอันอันแยกจากฮูหยินใหญ่แล้วมายังมุมที่ค่อนข้างมืดมุมหนึ่งครั้นเห็นว่าไม่มีผู้ใดสังเกตเห็นตัวเอง เจี่ยนอันอันก็รำพึงในใจเงียบ ๆ ว่า ‘หายตัว’วินาทีถัดมานางก็หายไปแล้วเจี่ยนอันอันมายังกองทหารรักษาพระองค์ จากนั้นนำผงยาถ่ายออกมาจากช่องมิตินี่เป็นสิ่งที่นางใช้กับฮ่องเต้สุนัขไปเมื่อก่อนหน้านี้เดิมทีนางยังคิดระหว่างทางที่มาที่นี่อยู่เลยว่าจะอยู่ร่วมกับทหารรักษาพระองค์เหล่านี้แต่โดยดีทว่าดูจากตอนนี้คงไม่จำเป็นแล้วนางโรย
หากพวกผู้ใต้บังคับบัญชาพวกนั้นรู้เรื่องนี้เข้า วันหน้าเขาจะเป็นผู้นำของพวกเขาต่อไปได้อย่างไรเรื่องนี้จะกลายเป็นหัวข้อสนทนาในยามว่างอย่างไม่ต้องสงสัยเกรงว่าแม้แต่ตอนนอนก็อาจสะดุ้งตื่นเพราะเสียงหัวเราะครั้นเห็นเหล่าทหารรักษาพระองค์วิ่งมาทางนี้ หัวหน้าทหารรักษาพระองค์ก็ต้องรีบโบกมือไล่โดยพลัน“ไปทำธุระกันที่อื่น อย่ามารบกวนข้า!”ทหารรักษาพระองค์คนอื่น ๆ ไม่ได้รู้ว่าหัวหน้าของตัวเองถ่ายราดกางเกงและไม่คิดจะสงสัยเช่นกัน พวกเขาพากันวิ่งไปปลดทุกข์ที่อีกฝั่งของป่ารกร้างไม่นานก็เกิดเสียงผายลมสะเทือนฟ้าสะเทือนดินขึ้นในป่ารกร้างแห่งนี้ หลังจากที่หัวหน้าทหารรักษาพระองค์จัดการธุระเสร็จ เขากลับมีเรื่องกลัดกลุ้มใจตามมาเขาจะกลับไปอย่างไรดี จะให้สวมกางเกงที่มี ‘คราบทองคำ’ เปรอะเปื้อนก็คงไม่ใช่ทหารรักษาพระองค์คนอื่นๆ เสร็จธุระแล้วสวมกางเกงเพื่อเตรียมจะกลับไปทว่าพวกเขายังไม่ได้ทันจะได้เยื้องย่าง ท้องก็เริ่มปวดบิดขึ้นมาอีกครั้ง“ข้าไม่ไหวแล้ว ข้าต้องทำธุระต่อ พวกเจ้ากลับไปเฝ้ายามก่อนเถอะ”“ข้านั่งจนขาชาไปหมดแล้ว แต่ท้องก็ยังไม่หายปวดสักที”“มันเพราะอะไรกันแน่ หรือว่าเนื้อสุนัขตัวนั้นจะ
เจี่ยนอันอันตอบหลังจากที่ป้อนน้ำตาลกลูโคสให้ฉู่จวินสิงเสร็จเรียบร้อย “บาดแผลของพี่รองเจ้าค่อนข้างสาหัส อวัยวะภายในได้รับความเสียหาย กระดูกซี่โครงหักไปสี่ซี่”“หลังจากคืนนี้จะฟื้นหรือไม่ ก็ขึ้นอยู่กับโชคชะตาแล้ว”ถ้อยคำของเจี่ยนอันอันทำให้ฉู่อันเจ๋อกังวลในทันที“ท่านหมายความว่าพี่รองกำลังจะตายหรือ?” ฉู่อันเจ๋อคว้าแขนของเจี่ยนอันอันอย่างตื่นตระหนก “พี่สะใภ้รอง ในเมื่อท่านเป็นคนสกุลฉู่ของเราแล้ว ข้าขอร้องท่านให้ช่วยพี่รองด้วยเถิด”เจี่ยนอันอันชักแขนออก และทำท่าทางพร้อมทำสียง “ชู่ว” เพื่อให้ฉู่อันเจ๋อใจเย็นลงเมื่อครู่นี้เขาพูดเสียงดังปานนั้น หากถูกฮูหยินใหญ่ได้ยินเข้าคงตกใจกลัวเป็นแน่แท้เจี่ยนอันอันกล่าวปลอบว่า “เจ้าวางใจเถิด มีข้าอยู่ทั้งคน ข้าจะไม่ให้เขาตายไวขนาดนั้นแน่ แต่อาการบาดเจ็บของเขารุนแรงไม่น้อยเลย ต้องขึ้นอยู่กับแรงใจของเขาด้วย หากเขามีแรงใจที่เข้มแข็ง พรุ่งนี้เช้าก็จะฟื้น หรือมิเช่นนั้นก็จะหลับใหลไปตลอดกาล”ฉู่อันเจ๋อเบาใจลงเมื่อได้ยินเจี่ยนอันอันบอกว่าพี่รองจะไม่ตาย อย่างมากสุดก็แค่หลับไม่ฟื้นขอเพียงพี่รองยังมีชีวิตอยู่ เช่นนั้นก็ต้องมีหนทางรักษาเขาให้หายดีแน่นอน
เจี่ยนอันอันดีใจเป็นลิงโลดเมื่อเห็นมิติร้านค้าภายในมิติมีเงินตั้งมากมายถึงเพียงนั้น นางสามารถนำมาซื้อของในร้านค้าได้หลังจากนี้จะได้กินหลัวซือเฝิ่น[1]กับขนมให้สาแก่ใจได้แล้วไม่นึกเลยว่านางจะจับพลัดจับผลูทำเสร็จไปอีกภารกิจเจี่ยนอันอันมีความสุขจนเผลอยกยิ้มและฮัมเพลงออกมาโดยไม่รู้ตัวในยามนี้เอง ทหารรักษาพระองค์พวกนั้นก็ทยอยกันกลับมาเมื่อครู่นี้พวกเขาไปทำธุระมาอีกรอบ ยามนี้ท้องไส้จึงรู้สึกสงบลงในที่สุดพวกเขากลับมายังหน้ากองไฟและเพิ่งจะสังเกตเห็นว่าไม่มีพวกเขาคนใดอยู่เฝ้าที่นี่แม้แต่คนเดียวโชคดีที่คนของจวนเยียนอ๋องต่างก็นั่งอยู่ที่นี่ มิมีผู้ใดเล็ดลอดหนีไปมิเช่นนั้นหากมีคนหนีไป พวกเขาคงกลับไปรายงานผลการปฏิบัติภารกิจไม่ได้เหล่าทหารรักษาพระองค์ต่างนึกกลัวผลที่จะตามมาพวกเขารอแล้วรอเล่า หัวหน้าก็ไม่กลับมาสักทีทหารที่มีความสัมพันธ์ค่อนข้างดีกับหัวหน้าทหารรักษาพระองค์นายหนึ่งเห็นว่าหัวหน้าไม่กลับมาสักที ก็ลุกขึ้นยืนอย่างสุดจะทนในท้ายที่สุดเขาบอกกับทหารรักษาพระองค์คนอื่น ๆ “พวกเจ้าเฝ้าคนพวกนี้ให้ดี ข้าจะไปหาท่านหัวหน้า”ทหารนายนี้ว่าจบก็วิ่งเข้าไปในป่าครั้นเจี่ยนอันอันเ
ทหารนายนั้นวิ่งกลับไปหัวหน้าทหารรักษาพระองค์แล้วดึงแขนของอีกฝ่ายเพื่อประคองให้ลุกขึ้น“เบาหน่อย ขาข้าชาจนไม่มีความรู้สึกแล้ว”หัวหน้าทหารองครักษ์ต้องพักอยู่นานจึงจะเปลี่ยนกางเกงชั้นในจากนั้นทหารนายนี้จึงประคองเขากลับไปยังจุดพักผ่อนอย่างเชื่องช้าเมื่อเจี่ยนอันอันเห็นหัวหน้าทหารรักษาพระองค์ ในที่สุดนางก็หัวเราะ “พรืด” ออกมาอย่างห้ามไม่อยู่หัวหน้าทหารรักษาพระองค์ตวาด “หัวเราะอะไร อย่าคิดว่าเจ้าเป็นคุณหนูใหญ่แห่งจวนกั๋วกงแล้วข้าจะไม่กล้าทำอะไรนะ” “ยามนี้เจ้าเป็นผู้ถูกเนรเทศ ต่อให้ตายระหว่างทางก็คงไม่มีผู้ใดช่วยเก็บศพ”หัวหน้าทหารรักษาพระองค์ทึกทักเอาเองว่าถ้อยคำของตัวเองจะทำให้เจี่ยนอันอันหวาดกลัวเจี่ยนอันอันเพียงแค่นเสียงแผ่วเบา ไม่ได้สนใจอีกฝ่ายนางคร้านจะเสวนากับเขา อย่างไรเสีย การยั่วโมโหอีกฝ่ายก็รังแต่จะทำให้นำปัญหาที่ไม่จำเป็นมาให้คนในตระกูลเปล่า ๆนางไม่อยากสร้างปัญหาให้ผู้อื่นเพราะตัวนางเองเจี่ยนอันอันหันไปมองฉู่จวินสิงที่ยังคงหมดสติปราดหนึ่งที่นี่มีฉู่อันเจ๋อดูแลอยู่ นางต้องไปปกป้องฮูหยินใหญ่ให้ปลอดภัยเจี่ยนอันอันกล่าวกับหลี่อันเจ๋อ “จงฟังให้ดี ประเดี๋ยวจะมีกล
เจี่ยนอันอันเห็นดังนั้นจึงไม่รอช้า รีบหยิบเข็มเงินออกมาจากมิติและซัดไปยังชายชุดดำผู้นั้นทันทีเข็มเงินปักเข้าที่ลำคอของชายชุดดำ ก่อนที่เขาจะได้ตอบสนอง ร่างก็ล้มลงกับพื้นและสิ้นใจในทันทีเมื่อเสียงการต่อสู้ดังขึ้น เหล่าคนในตระกูลต่างก็ถูกปลุกให้ตื่นขึ้นพวกเขาลืมตาขึ้นมาก็เห็นกลุ่มคนชุดดำโผล่มาอย่างไม่คาดคิดเมื่อเห็นชายชุดดำคนหนึ่งตายอยู่ตรงหน้า บางคนก็ตกใจกลัวจนร้องไห้ออกมาทันทีชายชุดดำคนอื่น ๆ ที่เห็นเหตุการณ์ต่างก็ชะงักไปพวกเขาเห็นใบหน้าสหายของตนกลับกลายเป็นสีม่วงคล้ำไปแล้วเลือดสีดำไหลออกมาจากทวารทั้งเจ็ดของเขากลุ่มชายชุดดำรู้สึกตกใจอย่างมาก ไม่คาดคิดว่าเข็มเงินที่ปักอยู่บนลำคอของสหายนั้นจะถูกอาบด้วยยาพิษแม้แต่ทหารรักษาพระองค์ก็ยังตกใจกับเข็มเงินของเจี่ยนอันอันทุกคนหันสายตามองมาทางเจี่ยนอันอันอย่างพร้อมเพรียงฉู่จวินสิงเห็นว่าที่มุมปากของเจี่ยนอันอันยกขึ้นเล็กน้อยรอยยิ้มที่เต็มไปด้วยความกระหายเลือดและความโหดร้ายปรากฏขึ้นบนใบหน้าของนางหัวใจของฉู่จวินสิงถึงกับสั่นสะท้านสิ่งที่เขาไม่รู้ก็คือ ในยุคปัจจุบัน เจี่ยนอันอันชอบใช้เข็มเงินเป็นลูกดอกเล่นสนุกอยู่แล้วนางย
กลุ่มคนชุดดำเหล่านั้นเดิมคิดว่าภารกิจลอบสังหารครั้งนี้จะสำเร็จได้โดยง่ายกลับคาดไม่ถึงว่า ท่ามกลางญาติพี่น้องเหล่านี้ จะมีนางพญามัจจุราชผู้เชี่ยวชาญการใช้พิษเช่นนี้อยู่ด้วยกลุ่มคนชุดดำสิบกว่าคนต่างนิ่งเงียบ ไม่มีใครปริปากพูดพวกเขาล้วนปฏิบัติตามคำสั่งอย่างเคร่งครัด ไม่มีทางเปิดเผยตัวผู้บงการอยู่เบื้องหลังเด็ดขาดเจี่ยนอันอันมองดูท่าทีปากแข็งไม่ยอมแพ้ของพวกเขานางจึงยิ้มเย็น ก่อนจะขว้างเข็มเงินไปยังคนหนึ่งในกลุ่มนั้นอีกครั้งชายชุดดำคนนั้นไม่ทันได้ตอบสนอง เข็มเงินก็ปักเข้าที่หัวเข่าของเขาทันทีชายชุดดำร้องด้วยความเจ็บปวด ก่อนจะทรุดตัวลงคุกเข่าข้างหนึ่งกับพื้นร่างกายของเขาเริ่มชาไปทั้งตัว แต่ในชั่วขณะต่อมากลับรู้สึกเหมือนมีแมลงนับล้านตัวกำลังกัดแทะชายชุดดำคิดในใจว่าคงจะพบจุดจบเช่นเดียวกับสหายหลายคนพวกนั้น ที่ตายภายใต้เงื้อมมือของหญิงสาวผู้นี้แน่แล้วเขาเงยหน้ามองเจี่ยนอันอันพร้อมกับแสยะยิ้มเย็นชาราวกับยอมรับความตาย“จะพูดหรือไม่พูด?” เสียงของเจี่ยนอันอันแผ่วเบาดุจเสียงกระซิบของภูตผีที่ล่องลอยเข้าโสตประสาทของชายชุดดำแม้เขาจะรู้สึกชาและเจ็บแปลบไปทั้งตัว แต่ยังคงกัดฟันแน่น ไ
กวนซินถูกส่ายแขนจนหมดคำจะพูดนางเงยหน้ามองไปทางเจี่ยนอันอัน พบว่าอีกฝ่ายพยักหน้าให้ด้วยรอยยิ้มแม้ว่ากวนซินจะยังไม่ค่อยเชื่อใจเจี่ยนอันอันนัก แต่นางก็ไม่อาจพูดอะไรได้อีกเพราะถึงอย่างไรเสีย ที่ตัวนางสามารถยืนอยู่ที่นี่ได้อย่างปลอดภัยและไม่ถูกเตียวเฉียงทำร้ายทั้งหมดต้องขอบคุณในความช่วยเหลือจากเจี่ยนอันอันนางลุกขึ้นพูดด้วยสีหน้าจนใจ “อันอัน เจ้าสอนวิธีใช้ยาพิษอย่างง่ายๆ ให้ตั๋วตั่วก่อนแล้วกัน อย่าเพิ่งสอนที่ซับซ้อนเกินไป”“ข้ากลัวว่านางจะทำตัวเองบาดเจ็บ อย่างไรข้าก็มีลูกแค่คนเดียว ไม่อาจเสียนางไปอีกคนจริงๆ”เจี่ยนอันอันเลิกคิ้ว นางนึกถึงตอนที่จับชีพจรให้กวนซินก่อนหน้านี้และพบว่าอีกฝ่ายกำลังตั้งครรภ์ดูท่าว่ากวนซินคงยังไม่รู้ว่าในท้องตัวเองมีเด็กอยู่อีกคนเจี่ยนอันอันขยับเข้าไปใกล้หูกวนซินและกระซิบว่า “เกรงว่าเจ้ายังมีลูกอีกคนที่ต้องปกป้องนะ”กวนซินฟังแล้วมีสีหน้าประหลาดใจนางยังมีลูกอีกคนงั้นหรือ นี่มันหมายความว่าอย่างไรกัน?สายตาของเจี่ยนอันอันจ้องมองไปที่ท้องของกวนซินนางยังคงใช้ระดับเสียงที่ได้ยินกันแค่สองคน “เจ้าตั้งท้องแล้ว คงไม่รู้ตัวสินะ”กวนซินถอยหลังออกไปก้าวหนึ่
กวนซินพบว่าเมื่อครู่นี้เจี่ยนอันอันไม่ได้ป้อนโอสถหนอนศพให้กับเตียวเฉียงนางอดถามไม่ได้ว่า “อันอัน เหตุใดเมื่อครู่นี้จึงไม่ป้อนโอสถหนอนศพให้เตียวเฉียงหรือ?”เจี่ยนอันอันตอบด้วยรอยยิ้ม “เมื่อครู่นี้ข้าแทงเขาด้วยเข็มอาบยาพิษไปแล้ว ไม่จำเป็นต้องเปลืองโอสถหนอนศพกับเขาอีก”กวนซินขานรับว่า “อ้อ” แล้วไม่ได้พูดอะไรอีกกระนั้นนางก็ยังคงไม่สบายใจเล็กน้อย เพราะเตียวเฉียงเป็นคนที่มีศิลปะการต่อกล้าแกร่งที่สุดในบรรดาคนเหล่านี้หากวันใดได้รับการถอนพิษ เขาต้องหวนกลับมาแก้แค้นเจี่ยนอันอันแน่นอนเจี่ยนอันอันมองออกว่ากวนซินกังวลเรื่องอะไร นางตบบ่าอีกฝ่ายอย่างแผ่วเบา“วางใจเถิด ยาพิษที่ข้าใช้กับเขามีฤทธิ์รุนแรงกว่าโอสถหนอนศพหลายเท่า”“หากหลังจากนี้เขากล้ามีความคิดสกปรกต่อเจ้า พิษในตัวเขาก็จะออกฤทธิ์อย่างรวดเร็ว”ใบหน้าของเจี่ยนอันอันมีรอยยิ้มไม่ชอบมาพากลเมื่อพูดถึงตรงนี้“บัดนี้เตียวเฉียงไม่อาจประกอบกิจทางกามได้อีกต่อไปแล้ว เขาไม่ต่างอะไรกับขันที”“ไม่เพียงเท่านั้น เมื่อใดที่เขามีความคิดที่จะลงมือ พิษในร่างกายก็จะออกฤทธิ์ทันที”กวนซินฟังจบแล้วมองเจี่ยนอันอันด้วยความตื่นตะลึงภายในใจรู้สึกตื่นเ
เมื่อสือเจี้ยกลับออกมา เจี่ยนอันอันก็ให้เขาลากแม่นมหลี่กับบ่าวรับใช้คนอื่นๆ ที่เหลือเข้าไปในลานบ้านให้หมดชิวเหลียนยืนพูดด้วยความสงสัยอยู่ด้านข้าง “ฮูหยินน้อยรอง ท่านให้พวกเขากินอะไรหรือเจ้าคะ เหตุใดจึงเหมือนยาพิษ?”เจี่ยนอันอันยิ้มบางๆ ดวงตาฉายประกายเย็นยะเยียบเหี้ยมโหด“ข้าให้พวกเขากินโอสถหนอนศพ หากพวกเขากล้ารังควานกวนซินกับฉู่ตั๋วตั่วอีก หนอนศพในตัวพวกเขาก็จะกัดกินอวัยวะภายในของพวกเขาให้สิ้นซาก”นางได้เรียนรู้วิธีใช้โอสถหนอนศพพวกนี้มาจากพ่อที่ชอบเดินทางท่องเที่ยวไปทั่วของนางสือเจี้ยที่เพิ่งเดินออกมาฟังถ้อยคำของเจี่ยนอันอันแล้วอดที่จะขนหัวลุกไม่ได้เคราะห์ดีที่เขาไม่ได้เอาแต่ทำร้ายกวนซินกับฉู่ตั๋วตั่วเหมือนพวกแม่นมหลี่มิเช่นนั้นคงมีจุดจบแบบเดียวกันเดิมทีสือเจี้ยก็เป็นคนใกล้ชิดของกวนซิน ระหว่างที่ถูกเนรเทศมาด้วยกัน แม่นมหลี่ได้พยายามซื้อตัวเขาด้วยเงินแต่สือเจี้ยเป็นคนแยกบุญคุณความแค้นชัดเจนมาโดยตลอด เขาไม่อยากเข้าพวกกับคนเลวจึงปฏิเสธแม่นมหลี่ไปเรื่องนี้ทำให้แม่นมหลี่มองว่าเขากับกวนซินเป็นพวกเดียวกันแม่นมหลี่ไม่เพียงแต่ชอบทรมานกวนซินกับฉู่ตั๋วตั่ว แต่ยังมอบงานที่ต้องใช
เจี่ยนอันอันรีบนำโอสถรักษาบาดแผลภายในเม็ดหนึ่งออกมาจากห้วงมิตินางบีบปากของฉู่ตั๋วตั่วและป้อนโอสถเข้าไปโอสถละลายทันทีที่เข้าปากและไหลเข้าสู่ร่างกายของฉู่ตั๋วตั่วอย่างรวดเร็วกวนซินมองฉู่ตั๋วตั่วไม่ละสายตา นางไม่รู้ว่าเจี่ยนอันอันป้อนโอสถอะไรให้ฉู่ตั๋วตั่วแต่เวลานี้ นางเชื่อในตัวเจี่ยนอันอันอย่างสุดหัวใจหากไม่ใช่เพราะตอนนั้นมีการรักษาจากเจี่ยนอันอัน เกรงว่านางคงตายระหว่างเดินทางไปแล้วกวนซินเห็นเปลือกตาของฉู่ตั๋วตั่วขยับ จากนั้นฟื้นคืนสติอย่างรวดเร็วเมื่อฉู่ตั๋วตั่วลืมตามาเห็นว่าผู้ที่กำลังกอดตัวเองคือกวนซิน นางก็ร้องไห้ “ฮือ” ออกมา“ตั๋วตั่ว ลูกรักของแม่ ในที่สุดเจ้าก็ฟื้น”กวนซินกอดฉู่ตั๋วตั่วแน่น น้ำตาเม็ดโตร่วงหยดลงมาฉู่ตั๋วตั่วหยุดร้องไห้และเอื้อมมือน้อยๆ ไปเช็ดน้ำตาให้กวนซิน“ท่านแม่ อย่าร้องไห้”เสียงที่ไร้เดียงสาและอ่อนแรงของฉู่ตั๋วตั่วทำให้กวนซินปวดใจหนักเข้าไปอีกเจี่ยนอันอันจับชีพจรให้ฉู่ตั๋วตั่วอีกครั้ง เมื่อพบว่าไม่ได้เป็นอะไรมากแล้วค่อยถอนหายใจด้วยความโล่งอกเคราะห์ดีที่ภายในคลังยาของนางมีโอสถรักษาแผลอยู่เยอะมากแม้จะใช้ไปเยอะมากแล้วแต่ก็ยังมีเหลืออีกมา
เพิ่งจะสิ้นเสียงของแม่นมหลี่ ป้ายคำสั่งในมือนางก็ถูกเจี่ยนอันอันแย่งไปแม่นมหลี่รู้สึกว่าภายในมือว่างเปล่า ครั้นได้สติก็พบว่าเจี่ยนอันอันกำลังถือป้ายคำสั่งไว้ในมือและมองเหยียดลงมาที่นาง“เห็นป้ายคำสั่งก็เปรียบเสมือนเห็นฮ่องเต้ ยายแก่คางคก ผู้ที่ควรคุกเข่าน่าจะเป็นเจ้ามากกว่ากระมัง!”แม่นมหลี่โกรธจนหัวแทบระเบิดนางนึกไม่ถึงว่าเจี่ยนอันอันจะกล้าแย่งป้ายคำสั่งจากมือนางนางอดกลั้นต่อความเจ็บปวดแสนสาหัสและยืนขึ้นโดยจับวงกบประตู“นังเด็กเวร คืนป้ายคำสั่งมาเดี๋ยวนี้!”แม่นมหลี่ว่าจบก็จะเข้าไปแย่งป้ายคำสั่งเจี่ยนอันอันถีบเข้าที่หัวเข่าของแม่นมหลี่ ถีบให้แม่นมหลี่คุกเข่าดังตุบ อยู่เบื้องหน้านางแม่นมหลี่ร้องโอดโอยด้วยความเจ็บปวด ครั้นจะลุกขึ้นก็ถูกเจี่ยนอันอันถีบให้ล้มลงเหมือนเดิมเจี่ยนอันอันเหยียบลงที่บ่าของแม่นมหลี่และมองลงไปที่อีกฝ่ายอย่างเย็นชาเย่อหยิ่ง“อย่าคิดว่าตัวเองเป็นคนที่ฉู่ชางเหยียนส่งมาแล้วจะกล้าทำอะไรข้าได้”“ตอนนี้ป้ายคำสั่งอยู่ในมือข้า เจ้าพบข้าแล้วก็เหมือนพบฮ่องเต้”“หากเจ้ากล้าทำอะไรไม่ดูตาม้าตาเรืออีก เช่นนั้นก็อย่าโทษที่ข้าต้องกวาดล้างผู้กระทำความผิดแทนฮ่องเต
“ผู้ใดก็ได้ช่วยด้วย ฆ่าคนแล้ว!” แม่นมหลี่แผดร้องสุดเสียงเมื่อตั้งสติได้เสียงร้องของนางเรียกให้บ่าวรับใช้คนอื่นๆ ในบ้านออกมาดูเมื่อพวกเขาวิ่งออกมาก็เห็นว่าแม่นมหลี่ทรุดอยู่ข้างประตู ส่วนเตียวเฉียงกำลังนอนหมดสติอยู่บนพื้นห่างออกไปไม่ไกลคือกวนซินกับฉู่ตั๋วตั่วเวลานี้กวนซินมีน้ำตาไหลนองหน้า ส่วนฉู่ตั๋วตั่วก็กำลังหมดสติเช่นกัน พร้อมกันนั้นยังมีหญิงสาวแปลกหน้าอีกสองนางยืนอยู่ที่ริมกำแพง พวกนางกำลังจ้องพวกเขาอย่างดุร้าย“แม่นมหลี่ นี่มันเกิดอะไรขึ้น?” บ่าวรับใช้นามว่าสือเจี้ยถามแล้วจะเข้าไปประคองแม่นมหลี่แม่นมหลี่กลัวจนตัวสั่นเทิ้ม อีกทั้งยังมีบาดแผลจากการถูกหนูกัดอยู่เต็มตัวตอนนี้นางขยับตัวเพียงเล็กน้อยก็รู้สึกเจ็บแล้ว“อย่ามาแตะตัวข้า รีบไปจัดการนังเด็กชั่วสองคนนั้น!”แม่นมหลี่พูดพลางชี้ไปทางเจี่ยนอันอันกับชิวเหลียนสือเจี้ยหันไปมองแล้วค่อยจำเจี่ยนอันอันได้เขานึกถึงยามที่ถูกทำร้ายระหว่างเดินทางเมื่อวันนั้น เจี่ยนอันอันเป็นคนป้อนโอสถรักษาให้กับเขาทำให้ร่างกายของเขาฟื้นตัวได้อย่างรวดเร็วสือเจี้ยรู้สึกซาบซึ้งต่อการช่วยเหลือของเจี่ยนอันอันมาโดยตลอด ทำให้ตอนนี้ไม่อยากจับเ
เมื่อเขาตั้งสติได้ก็พบว่ามีเด็กสาวแต่งกายเหมือนสาวใช้นางหนึ่งกำลังเหวี่ยงหวัดใส่ศีรษะตัวเอง“นังแพศยานี่กล้าดีอย่างไรมาต่อยข้า ข้าจะฆ่าเจ้าเสีย!”เตียวเฉียงตวาดด้วยความโมโหแล้วถีบใส่ชิวเหลียนนางรีบถอยไปด้านหลังหลายก้าว กุมท้องที่ถูกถีบเจ็บของตัวเองพร้อมกับถลึงตาใส่เตียวเฉียงตอนนี้ หลังจากที่กวนซินได้รับอิสระก็รีบวิ่งไปหาฉู่ตั๋วตั่วและอุ้มนางขึ้นมา“ตั๋วตั่ว เจ้าอย่าทำให้แม่กลัวสิ รีบฟื้นเร็วเข้า”ฉู่ตั๋วตั่วหลับตาแน่นและหายใจรวยรินเตียวเฉียงไม่ได้สนใจกวนซินกับฉู่ตั๋วตั่ว เขาค่อยๆ เดินเข้าไปหาชิวเหลียน“นังเด็กนี่ สงสัยจะอยากตายสินะ กล้าดีอย่างไรมาลงมือกับข้า”“รู้หรือไม่ว่าข้าเป็นผู้ใด หากบอกออกไป เกรงว่าต่อให้เจ้ามีเป็นสิบหัวก็ไม่พอให้ตัด!”เตียวเฉียงไม่เห็นชิวเหลียนอยู่ในสายตาแม้แต่น้อยเขาไม่ได้คิดว่าชิวเหลียนเป็นสาวใช้จากบ้านของฉู่จวินสิง คิดว่านางเป็นแค่สาวใช้ของชาวบ้านสักคนในหมู่บ้านชิงสุ่ยชิวเหลียนรู้สึกเจ็บอย่างรุนแรงที่ช่องท้อง เจ็บจนนางยืดตัวตรงไม่ได้นางมองเตียวเฉียงเดินเข้ามาใกล้ด้วยสีหน้าระแวดระวัง มือทั้งสองกำแน่นเป็นหมัดชิวเหลียนยังไม่ทันได้ทำอะไร เตีย
ชิวเหลียนตอบตกลงทันทีนางเร่งฝีเท้าตามหลังกวนซินสองแม่ลูก ฝีเท้าของนางเบามาก กวนซินไม่ได้ยินว่ามีคนตามมาด้านหลังเมื่อกวนซินมาถึงประตูที่พัก นางก็ได้ยินเสียงก่นด่าเสียงดังของแม่นมหลี่จากด้านใน“นังแพศยากวนซินกล้าไปกินข้าวที่บ้านเยียนอ๋อง ทั้งยังให้หนูมากัดข้า!”“เตียวเฉียง หากนังแพศยานั่นกลับมาแล้ว เจ้าอยากทำอย่างไรก็ทำเลย ข้าจะไม่สนใจอีกต่อไปแล้ว”มือที่กำลังจะผลักประตูเข้าไปของกวนซินต้องนิ่งค้างกลางอากาศนางพอจะเดาได้ว่าแม่นมหลี่ไม่มีทางปล่อยนางไปจากนั้นเสียงของเตียวเฉียงดังขึ้นตาม“แม่นมหลี่ ข้าเคยบอกตั้งนานแล้วว่าเก็บสตรีนางนั้นไปก็มีแต่จะสร้างปัญหาให้ท่าน”“ยกนางให้ข้าเถิด ข้ารับรองว่าจะสั่งสอนนางให้เชื่อฟัง”“แล้วยังมีนังหนูคนนั้นด้วย เอาไว้ข้าจัดการกวนซินเสร็จแล้วจะพานังหนูนั่นไปขายให้หอโคมเขียว”“นังหนูคนนั้นหน้าตาสะสวย รับรองว่าขายได้ราคาดี”แม่นมหลี่แค่นเสียงเย็น ตอนนี้นางไม่มีอารมณ์มาสนใจเรื่องอื่นร่างกายนางปวดระบมไปหมด คิดแต่จะกลับห้องไปนอนพักส่วนเตียวเฉียงจะจัดการกวนซินอย่างไรนั้น นั่นเป็นเรื่องของพวกเขาเอาไว้นางรักษาตัวให้หายดีแล้วค่อยสั่งสอนกวนซินใหม่
เดิมทีแม่นมหลี่ก็มีบาดแผลอยู่แล้ว จนถึงตอนนี้ก็ยังไม่หายดีตอนนี้ต้องมามีบาดแผลใหม่เพิ่มจากของเดิม เรื่องนี้ทำให้นางเคียดแค้นต่อกวนซินมากขึ้นหากไม่ใช่เพราะกวนซินไปกินข้าวที่บ้านของฉู่จวินสิง นางก็คงไม่โดนหนูกัดนางสาปแช่งในใจ ตัวนางรู้ดีว่าก้าวล่วงครอบครัวของฉู่จวินสิงไม่ได้ แต่กับกวนซิวแล้วนางไม่กลัวสักหน่อยเพียงแค่กวนซินกลับมา นางก็มีสารพัดวิธีสำหรับจัดการสองแม่ลูกคู่นี้เกรงว่าถึงเวลานั้น นางไม่ต้องลงมือ พวกบุรุษในบ้านก็สามารถทำให้กวนซินกับฉู่ตั๋วตั่วอยู่ในสภาพสะบักสะบอมเจี่ยนอันอันพบว่าเรื่องนี้ได้รับการแก้ไขอย่างสมบูรณ์แบบโดยที่ตัวเองไม่ต้องลงมือนางหันศีรษะด้วยรอยยิ้ม เห็นว่ากวนซินกำลังมีสีหน้ากลัดกลุ้ม“เป็นอะไรไป เจ้ากลัวยายแก่นั่นมากหรือ?”แม้เจี่ยนอันอันจะรู้ว่าป้ายคำสั่งในมือยายแก่เป็นของที่ได้มาจากฉู่ชางเหยียนแต่ที่นี่ไม่ใช่เมืองจิงโจว ไม่มีผู้ใดที่นี่รู้จักป้ายคำสั่งนั่นที่นางคิดไม่ถึงก็คือ กวนซินจะหวาดกลัวยายแก่มากถึงขนาดนี้กวนซินก้มหน้ามองฉู่ตั๋วตั่วที่อยู่ด้านข้างนางไม่ได้กลัวแม่นมหลี่ แต่นางกลัวว่าฉู่ตั๋วตั่วจะถูกแม่นมหลี่ทุบตีนอกจากนี้ที่นั่นยังม