"มีอะไรเหรอลิน"
คนที่ดูจะตกใจที่สุดเห็นจะเป็นเฌอริตาที่รีบปาดน้พตาลุกขึ้นหน้าตาตื่น
"แกเข้ามานี่"
ลัลลลิลไม่อยากอธิบายเธอรีบเรียกให้เฌอริตาเข้ามาดูอาการภัสกรในห้องเองจะดีกว่า
"ทำไมเป็นแบบนี้ล่ะลิน"
เมื่อเฌอริตาเดินเข้าห้องมาได้ไม่กี่ก้าวภาพตรงหน้าก็ทำให้เธอนั้นแทบเข่าทรุดเพราะภัสกรที่นอนแน่นิ่งอยู่นั้นกำลังมีเลือดออกทางจมูกและหูของเขาอยู่เรื่อยๆ
"ใจเย็นๆตอนนี้ฉันก็หาสาเหตุไม่ได้เหมือนกัน"
ลัลลลิลรีบประคองร่างที่กำลังจะล้มของเฌอริตามานั่งข้างๆเตียงของภัสกร
"เค้าจะรอดใช่ไหมลิน...พี่ภัสจะรอดใช่ไหม"
เฌอริตากุมมือลัลลลิลน้ำตาไหลพรากอย่างสุดจะกลั้น
"แกสบายใจได้ฉันจะช่วยเค้าให้สุดฝีมือ"
ลัลลลิลให้คำมั่นว่ายังไงเธอก็จะไม่ปล่อยให้ภัสกรเป็นอะไรไปเด็ดขาด
"..อืม.."
เฌอริตาได้ยินเช่นนั้นเธอจึงค่อยๆผ่อนลมหายใจของเธอสงบสติอารมณ์ลงและรอรัชตะมาอย่างใจจดใจจ่อ
อาทิตย์ต่อมา
ภัสกรนอนเป็นผักอยู่บนเตียงไปจนเป็นอาทิตย์โดยมีหมอรัชตะมาคอยดูเป็นระยะๆเปลี่ยนบ้านเป็นสถานพยาบาลชั่วคราวจนอาการค่อยๆดีขึ้นและมีเฌอริตามาเฝ้าอยู่ทุกวัน
"อือ.."
"พี่ภัส.."
เฌอริตารีบละมือจากการปอกผลไม้มานั่งข้างๆเตียงภัสกรเมื่อเห็นว่าเขาเริ่มรู้สึกตัวตื่นขึ้นมา
"คุณริตา"
"พี่หมอมาพอดีเลยค่ะพี่ภัสพึ่งรู้สึกตัวพอดีเลย"
เฌอริตาเห็นรัชตะเดินเข้ามาพอดีจึงรีบไปช่วยหมอหนุ่มถือกระเป๋าวางที่โต๊ะและรีบให้หมอหนุ่มดูอาการของภัสกรในทันที
"งั้นเดี๋ยวผมขอดูอาการก่อนนะครับ"
"ค่ะ"
"อืม...มีอาการปวดหัวหรือเจ็บอะไรตรงไหนบ้างไหมครับ"
รัชตะเข้ามาตรวจชีพจรชายหนุ่มที่พึ่งฟื้นพร้อมวัดความดันก่อนทีาจะถามคนที่พึ่งตื่นว่ารู่สึกอย่างไรกับร่างกายตัวเองบ้าง
"เจ็บไหล่.."
ภัสกรมีสีหน้าเหยเกเล็กน้อยเมื่อขยับตัวแล้วรู้สึกเจ็บที่ไหล่ข้างขวา
"โอเคครับนั่นเป็นรอยแผลผ่าตัดเอากระสุนออกระวังอย่าขยับตรงนั้นมากนะครับ"
รัชตะบอกชายหนุ่มให้รับรู้ว่าเขาบาดเจ็บตรงไหนบ้างเวลาขยับตัวจะได้ระวัง
"ครับ..คุณ"
"ผมหมอเรียลครับเป็นเพื่อนหมอแดน"
รัชตะเลือกที่จะบอกชายหนุ่มว่าเขาเป็นเพื่อนแดนเทพเพื่อสร้างความสบายใจให้ภัสกรว่าสามารถไว้ใจเขาได้อย่างเต็มที่
"อ๋อ..ครับ"
"จิบน้ำนี่ก่อนนะครับค่อยๆ"
รัชตะหยิบแกวน้ำพร้อมใส่หลอดดูดเข้าไปในแก้วและให้ภัสกรจิบเพื่อให้สดชื่นขึ้น
"คุณเพลิน..."
ภัสกรเห็นเฌอริตานั่งอยู่ในห้องเขาก็ต้องเรียกเธอด้วยสีหน้าสงสัยเพราะไม่รู้ว่าเธอมาอยู่ที่นี่ด้วยเหตุใด
"เอ่อ..คะ.."
"คุณกับผมมาอยู่ที่นี่ได้ยังไง"
"คือ..คืนนั้น......"
เฌอริตาเลือกที่จะเล่าเหตุการณ์ที่เขาได้เจอก่อนหน้านี้จนเจ็บตัวและแดนเทพก็พาเขามาที่นี่เท่านั้นเพราะกลัวว่าถ้าหากเธอรีบอธิบายความจริงมากเกินไปเขาอาจจะรับไม่ไหวก็เป็นได้
"ผมจำเรื่องที่คุณเล่ามาได้นะแต่มันเหมือนจะเลือนลางมากๆ...โอะ..โอ้ยยย.."
ชายหนุ่มจำได้ว่าเขาทะเลาะกับชนะพลแต่หลังจากนั้นทุกอย่างก็เลือนลางมากๆและจู่ๆเขาก็เริ่มปวดหัวขึ้นมากะทันหัน
"นอนพักก่อนนะครับอย่าพึ่งคิดเรื่องอะไรรู้แค่ว่าตอนนี้คุณปลอดภัยแล้วก็พอ"
รัชตะรีบให้ภัสกรพักผ่อนก่อนที่เขาจะปวดหัวหนักไปกว่านี้ทั้งฉีดยานอนหลับใส่ในน้ำเกลือให้ชายหนุ่มได้พักผ่อนเพราะดูท่าแล้วสมองของภัสกรยังไม่ควรรับรู้อะไรมากเท่าไร
ครู่ต่อมา
"พี่หมอคะพี่หมอคิดว่าพี่ภัสจะกลับมาเป็นปกติไหมคะ"
เฌอริตาค่อนข้างเป็นห่วงเรื่องระบบประสาทในสมองของภัสกรพอสมควร
"เรื่องนี้ผมต้องพูดตรงๆว่า... ผมยังให้คำตอบไม่ได้ครับแต่รับปากว่าจะรักษาให้ดีที่สุดเท่าที่จะทำได้เข้าใจผมนะครับ"
รัชตะขมวดคิ้วทั้งก้มหน้าเล็กน้อยเขาไม่อยากให้ความหวังอะไรกับเฌอริตาจากที่ดูผลที่สแกนสมองชายหนุ่มแล้วเขาเองก็ให้คำตอบแน่ชัดไม่ได้
"ริตาเข้าใจค่ะ..."
เฌอริตาเห็นท่าทางลำบากใจที่จะตอบของรัชตะเธอก็พอจะเข้าใจ
คฤหาสน์หรู
ปั้งๆๆ
"ให้เวลาตั้งหลายวันแล้วพวกแกยังตามพวกมันไม่เจออีกเหรอวะ"
ชนะพลยิงปืนลั่นอย่างโมโหที่ลูกน้องของเขาทำงานไม่ได้ดั่งใจเขาจะปล่อยแดนเทพกับชาวีไปไม่ได้เพราะถ้าเขาปล่อยไปก็เท่ากับว่าเขาความลับทั้งหลายของเขาไปด้วย
"พวกเราแกะรอยพวกมันยากมากเลยครับนาย"
ชายชุดดำสี่ห้าคนยืนเรียงหน้ากระดานก้มหน้ากันงุดเพราะยังสืบเสาะหาที่กบดานของสองคนนั้นไม่เจอ
"ไม่รู้ล่ะภายในอาทิตย์หน้าถ้าฉันยังไม่รู้ว่ามันได้เป็นศพล่ะก็พวกแกนั่นแหละจะเป็นศพ...ออกไปปป.."
ชนะพลแผดเสียงฝาดด้วยความโกรธจนหน้าดำหน้าแดง
วันต่อมา
"คุณลุง"
วันนี้เฌอริตาให้คนไปรับวาดจันทร์กับเฌอริมามาที่บ้านที่เธอเฝ้าดูอาการของภัสกรอยู่เด็กหญิงเดินเข้าห้องมาหาคนเป็นแม่ได้ก็แหงนมองคนที่นอนอยู่บนเตียงทั้งเรียกคนที่นอนอยู่เบาๆ
"น้องเฌอขา"
เฌอริตาอุ้มลูกสาวของเธอมานั่งบนตักให้ลูกสาวของเธอได้มองคนที่นอนอยู่ชัดๆ
"คะคุณแม่"
เด็กหญิงหันมามองหน้าคนเป็นแม่
"ตอนนี้คุณลุงคือคุณพ่อของหนูนะจ้ะ"
เฌอริตากระซิบบอกลูกสาวของเธอเบาๆแต่คำนั่นเด็กหญิงก็ฟังมันได้อย่างชัดเจน
"คุณพ่อเหรอคะ"
เด็กหญิงหันหน้ามองคนที่นอนอยู่
"ใช่จะ""ทำไมวันนั้นเป็นคุณลุง"เฌอริมาขมวดคิ้วเป็นปมอีกรอบเพราะจำได้ว่าวันนั้นเธอยังเรียกคนตรงหน้่ว่าคุณลุงอยู่เลย"อืม...วันนั้นคุณแม่จำคุณพ่อไม่ได้ไงคะ"เฌอริตามีทางออกสำหรับการพูดให้ลูกเธอเชื่อเสมอ"วันนี้จำได้แล้วเหรอคะ""ค่ะ""เรียกคุณพ่อสิคะ""คุณพ่อขา...คุณพ่อ...ทำไมไม่ตื่น"เด็กหญิงเอื้อมมือเล็กไปแตะแขนคนเป็นพ่อเบาๆครู่หนึ่ง"คุณพ่อกำลังไม่สบายก็เลยต้องพักผ่อนเยอะๆค่ะ""ค่ะ"เฌอริตาดีใจที่ลูกเธอเป็นคนเข้าใจในสิ่งที่เธอบอกอย่างง่ายดาย"อืม..เอ่อ..คุณ"ภัสกรรู้สึกตัวตื่นขึ้นมาเพราะเมื่อครู่รู้สึกว่ามีคนมาจับแขนของเขาจึงรีบเขยิบตัวพิงกับหัวเตียง"ตื่นแล้วเหรอคะค่อยๆค่ะ"เฌอริตารีบพยุงช่วยชายหนุ่มให้เขานั่งได้ถนัด"คุณพ่อตื่นแล้ว.."เด็กหญิงเห็นคนบนเตียงตื่นขึ้นมาจึงยิ้มหน้าบานดีใจที่คนเป็นพ่อตื่นมาคุยกับเธอได้แล้ว"คุณพ่อ!!"ภัสกรถึงกับมองหน้าหญิงสาวตรงหน้าเธอด้วยความสงสัยว่าใครเป็นคนสอนให้เฌอริมาเรียกเขาแบบนี้"เอ่อ.."เฌอริตาต้องพาลูกสาวของเธอออกไปให้วาดจันทร์ดูก่อนเพื่อที่เธอจะอธิบายเรื่องราวทั้งหมดให้เขาได้ฟังครู่ต่อมา"พร้อมที่จะฟังเรื่องราวทุกอย่างแล้วใช่ไหมคะ""ครับ""..
อาทิตย์ต่อมาบริษัทXXX"ไหนคุณบอกว่าข่าวจะไม่รั่วไง..ทำไมมันเป็นแบบนี้"อนุชิตนักธุรกิจรุ่นใหญ่เข้าม โวยวายกับชนะพลชุดใหญ่เพราะข่าวในอินเทอร์เน็ตออกไปว่าเขาเป็นหนึ่งในนั้นในคนที่ชนะพลซื้อตัวไปทำให้บริษัทของฉัตรภพต้องล้มละลาย"ผมก็ไม่รู้เหมือนกันว่าเรื่องทุกอย่างมันเป็นแบบนี้ได้ยังไงผมรับปากว่าจะรีบแก้ข่าวทั้งหมดให้เร็วที่สุด"ชนะพลเองก็ไม่รู้ว่าความลับของบริษัทเขานั้นมันรั่วไหลออกไปได้อย่างไรแต่เขาจะปิดข่าวเรื่องนี้ให้เร็วที่สุด"ผมหวังว่าสถานการณ์จะดีขึ้นในเร็วๆนี้นะครับ"อนุชิตยื่นคำขาดกับชนะพลและเดินออกไปอย่างหัวเสีย"คุณจัดการเรียกนักข่าวมาที่บริษัทเย็นนี้ด้วยผมจะแก้ข่าวทั้งหมดเอง"ชนะพลสั่งธีราทรให้เรียกนักข่าวจากสำนักข่าวหลายสำนักให้มารวมกันที่บริษัทในตอนเย็นเพราะเขาจะแถลงแก้ข่าวในเย็นนี้เพื่อที่บริษัทจะได้ไม่เสียชื่อเสียงมากไปกว่านี้"ครับนาย"บ้านxxxRrrrrRrrrr"ว่าไงปลาย...อืม...โอเคฉันจะรอดู"เฌอริตารับสายจากปลายฝนที่เพื่อนเธอโทรมาแจ้งข่าวเรื่องที่ชนะพลจะมีการแถลงข่าวในเย็นนี้ให้เพื่อนเท่านั้นรอดูว่าชนะพลนั้นจะแก้ตัวกับสังคมอย่างไร"มีอะไรเหรอครับ"ภัสกรเดินมานั่งข้างๆเฌอริต
"พี่ภัส.."หญิงสาวเรียกชื่อคนที่กำลังเจ็บปวดด้วยน้ำเสียงสั่นเครือทั้งยังมือไม้สั่นทำอะไรไม่ถูก"โอ้ยย..อืมม..."ภัสกรยังคงปวดหัวหนักขึ้นอยู่เรื่อยๆอย่างไม่มีผ่อน"พี่หมอคะตอนนี้พี่ภัสอาการไม่ดีเลยค่ะ"เฌอริตารีบวิ่งเข้าไปที่มือถือของเธอในห้องแล้วโทรหาหมอรัชตะทันที"โอ้ยยย..""พี่ภัส...เลือด...พี่ภัสคะ...อึก..อดทนหน่อยนะคะ...พี่ภัสต้องไม่เป็นอะไรนะคะ..ฮือ..ๆๆๆ.."เฌอริตาเข่าแทบทรุดเมื่อเห็นว่าชายหนุ่มกำลังมีเลือดออกจากจมูกและรีบเข้าไปหาผ้าชุบน้ำมาค่อยๆเช็ดให้เขาอย่างเบามือทั้งสะอึกสะอื้นสงสารคนที่กำลังทุรนทุรายอยู่ตรงหน้ายิ่งร้องให้เจ็บใจนะที่เธอนั้นช่วยอะไรเขาไม่ได้เลยครึ่งชั่วโมงต่อมา"คุณภัส"รัชตะรีบขับรถมาที่บ้านของเฌอริตาตาเมื่อเปิดประตูเข้ามาเห็นสภาพของภัสกรก็ถึงกับหน้าถอดสีและรีบเข้ามาดูอาการเขาอย่างรวดเร็ว"ฮือๆ..อึก..พี่หมอช่วยพี่ภัสด้วยค่ะ"เฌอริตานั่งดูอาการของภัสกรด้วยน้ำตา"เดี๋ยวผมจะฉีดยาระงับอาการปวดให้คุณภัสก่อนนะครับ"รัชตะเร่งมือฉีดยาให้ชายหนุ่มก่อนในตอนนี้เพื่อให้เขาได้หายจากอาการเจ็บปวดและตรวจดูอาการอีกทีว่าอาการปวดหัวนี้เกิดขึ้นจากอะไรกันแน่"ค่ะ.."สิบนาทีต่อมา
"อืม..ก็เครียดอยู่พอสมควร..ขนาดหมอชาร์ลเองยังตกใจกับส่วนผสมที่ฉีดให้คุณภัสเลย"รัชตะออกมานั่งคุยกับลัลลลิลด้วยน้ำเสียงที่เบาที่สุดเท่าที่จะเบาได้เพราะไม่อยากให้เฌอริตาได้มาได้ยินเพราะจะพาเธอเครียดไปกันใหญ่"มันร้ายแรงขนาดนั้นเลยเหรอคะ"ลัลลลิลหน้าเสียเล็กน้อยเมื่อเห็นว่ารัชตะเองยังเป็นกังวลกับเรื่องนี้มากๆ"อืม..""ลินถามจริงๆนะคะ..โอกาสที่คุณภัสจะเป็นปกติเหมือนเดิมร้อยเปอร์เซ็นนี่เป็นไปได้ไหมคะ""ปาฏิหารย์แบบนั้นที่พี่คิดตอนนี้นะดูเหมือนจะมีแค่ไม่กี่เปอร์เซ็นเท่านั้น"รัชตะยังไม่เห็นทางแต่อาการดีขึ้นคงดีขึ้นแน่นอนหากจะกลับมาเป็นเหมือนเดิมร้อยเปอร์เซนนั้นเขาก็พูดยาก"หา..แย่จัง"ลัลลลิลรู้สึกสงสารทั้งเพื่อนเธอและภัสกรจับใจ"แต่พี่เชื่อมือหมอชาร์ลขนาดปลายฝนบาดเจ็บรุนแรงขนาดนั้นยังเดินได้ปร๋อภายในเวลาไม่เท่าไรเลย"รัชตะพูดเรียกกำลังใจให้ตัวเองคิดในแง่ดีอีกรอบว่าถ้าหากปลายฝนเคยถูกรักษาโดยหมอชาร์ลหายอย่างรวดเร็วได้ทั้งที่อาการสาหัสยังไงเคสของภัสกรเขาก็ขอให้เป็นไปในทิศทางที่ดีที่สุดก็แล้วกัน"ลินก็เชื่อค่ะ"ลัลลลิลเองก็ภาวนาในใจและเชื่อมั่นว่ามันจะต้องเป็นแบบนั้นเช่นกันเย็นของวัน"ฉันกับ
หลายวันต่อมาหลายวันก่อนหมอชาร์ลมาถึงก็รีบตรวจดูอาการของภัสกรอย่างเร่งด่วนและประเมินอาการว่าอยู่ระดับไหนเขาจึงใช้คลินิคหมอรัชตะเป็นที่ผสมตัวยาและนำมารักษากับภัสกรวันแรกๆที่เริ่มรักษาชายหนุ่มก็มีผลข้างเคียงเพราะร่างกายต่อต้านยาอยู่บ้างทำให้อารมณ์ของภัสกรแปรปรวนอยู่ไม่น้อยบางครั้งก็อารมณ์ร้ายจนทำลายข้าวของทุกอย่างรวมถึงทำร้ายตัวเองบางครั้งก็เฉื่อยชาไม่รับรู้เรื่องราวจากคนรอบข้างจนร่วมครึ่งเดือนมาแล้วอาการของเขาจึงดีขึ้นถึงแม้ว่าบางครั้งจะความรู้สึกช้าบ้างแต่ก็สามารถพูดคุยโต้ตอบได้ดีและช่วยเหลือตัวเองในชีวิตประจำวันได้เฌอริตาจึงพอใจในการรักษาของหมอชาร์ลอยู่มากและขอบคุณหมอหนุ่มจนนับครั้งไม่ถ้วนแล้วในตอนนี้08.30 น."ยาที่ต้องให้คุณภัสทานตลอดก็มีประมาณนี้ครับย้ำนะครับว่าต้องตรงเวลาและห้ามขาดเกินอาทิตย์เด็ดขาด"หมอชาร์ลเรียกเฌอริตาให้มาดูตัวยาที่เขาเตรียมเอาไว้ให้ภัสกรก่อนที่เขาจะบินกลับทั้งอธิยายกำชับเรื่องห้ามขาดยากับหญิงสาว"เข้าใจแล้วค่ะหมอชาร์ล"เฌอริตาฟังคำพูดของหมอชาร์ลอย่างตั้งใจ"ผมจะดูอาการคุณภัสอีกสักสองวันแล้วก็จะกลับแล้วล่ะครับ""แล้ว.. เอ่อถ้าเกิดอะไรขึ้นล่ะคะ"เฌอริตาเป็นกั
"รู้ไหมคะว่าริตาดีใจมากๆเลยที่พี่ภัสจำเรื่องราวของเราได้แล้ว"เฌอริตาหาเรื่องเปลี่ยนเรื่องคุยกับชายหนุ่มจะดีกว่าเพราะเธอไม่อยากให้บรรยากาศตอนนี้มีความกังวลเข้ามาทำลายความสุข"พี่ก็ดีใจเหมือนกันที่จะได้ไม่รู้สึกผิดที่จำคนรักของตัวเองไม่ได้""ต่อไปนี้พี่ภัสต้องกินข้าวกินยาให้ตรงเวลานะคะเพราะริตาอยากให้พี่ภัสกลับมาเป็นปกติเร็วๆ""อืม...พี่ก็หวังว่าสักวันจะไม่ต้องเป็นภาระของริตาพี่สัญญาว่าพี่จะปกป้องดูแลริตาทุกอย่างเอง"ภัสกรมองตาของคนด้านบนจริงจัง"ไม่ต้องถึงขนาดนั้นหรอกค่ะแค่อย่าหายไปจากริตาอีกก็พอแล้ว"เฌอริตาไม่ได้ต้องการคนที่ปกป้องเธอตลอดเวลาเธอขอแค่คนที่อยู่ข้างๆเธอในทุกเวลาเท่านั้นไม่ว่าจะเวลาทุกข์หรือเวลาสุขก็อยากจะผ่านมันไปด้วยกันแค่นี้เธอก็พอใจแล้ว"ถ้าวันนึงพี่หายไปอีกริตาต้องสัญญากับพี่นะว่าจะไม่ลืมพี่"ภัสกรไม่รู้หรอกว่าอนาคตจะเป็นอย่างไรเมื่อเขาเลือกที่จะทำอะไรสักอย่างลงไป"ไม่สัญญาค่ะเพราะริตาจะไม่ให้พี่ภัสหายไปอีก"เฌอริตาส่ายหัวเล็กๆด้วยแววตาที่หดหู่เธอไม่ชอบคำพูดที่ดูเหมือนจะเป็นลางแบบนี้เลย"......"ภัสกรรวบตัวหญิงสาวมานอนกอดอยู่ที่ฟูกเล็กข้างล่างกับเขาความรู้สึกโหยหาหญ
"แล้วไม่บอกริตาบ้างล่ะคะ"เฌอริตารู้แบบนี้แล้วจึงหน้ามุ่ยบอกบุญไม่รับในทันที"พี่ไม่อยากให้ริตายุ่งเรื่องนี้อีกแล้ว"ที่เขาไม่อยากบอกเธอเพราะไม่อยากให้เฌอริตาต้องมานั่งกังวลห่วงเขาอีก"...."เฌอริตาเดินหนีชายหนุ่มไปอย่างไม่พูดไม่จาเพราะรู้สึกนอยเล็กน้อย"เป็นอะไรไป"ภัสกรเดินตามง้อหญิงสาวเพราะรู้ว่าอาการแบบนี้เธอต้องแอบงอนเขาอยู่เป็นแน่"เอาเป็นว่าพี่ขอโทษแล้วกันที่ไม่ได้บอกพี่ไม่อยากให้ริตายุ่งเรื่องนี้จริงๆดีกันนะ"ภัสกรโอบกอดข้างหลังหญิงสาวทั้งยื่นนิ้วก้อยตรงหน้าของเธอพร้อมพูดด้วยน้ำเสียงออดอ้อนที่รู้ว่าน้ำเสียงนี้มันจะทำให้เธอใจอ่อนได้"...ก็ได้ค่ะ..."เฌอริตาแอบอมยิ้มเล็กๆจะเป็นเธอที่ใจอ่อนให้กับน้ำเสียงแบบนี้ของชายหนุ่มอยู่ร่ำไปจึงยอมเกี่ยวก้อยคืนดีในที่สุด"พี่ว่าจะไปเยี่ยมคนที่เคยชุบเลี้ยงพี่มาเป็นครั้งสุดท้าย"ภัสกรเอ่ยออกมาด้วยสีหน้าเรียบเฉย"ริตาไปด้วยค่ะ"เฌอริตาเองก็อยากจะดูหน้าคนที่ได้รับผิดกับสิ่งที่ตัวเองทำเหมือนกันสถานีตำรวจ"ฝีมือแกใช่ไหม"ชนะพลที่ถูกคุมตัวไว้ในห้องขังตะคอกใส่ภัสกรอย่างเคียดแค้น"คนทำผิดก็ต้องได้รับโทษถูกแล้วครับ"ภัสกรพูดด้วยน้ำเสียงเรียบเฉยมองดูคน
"ใช่ค่ะคุณพ่อน้องเป็นคนมารับไปค่ะ"ครูสาวยังคงยืนยันว่าเด็กหญิงมีคุณพ่อมารับไปเรียบร้อยแล้ว"อ๋อ... ค่ะ"หญิงสาวพยักหน้ารับทั้งยังเอะใจว่าถ้าหากภัสกรมารับลูกก่อนจะไม่โทรบอกเธอหน่อยหรืออย่างไรเมื่อคิดได้ดังนั้นจึงยกหูติดต่อหาภัสกรในทันที"พี่ภัสมารับน้องเฌอไปแล้วเหรอคะ....อะไรนะคะ"เมื่อคำตอบจากภัสกรบอกว่าไม่รู้เรื่องทำให้เฌอริตาต้องวิ่งเต้นขอดูกล้องวงจรว่าใครเป็นคนพาเฌอริมาไปแน่เพราะภัสกรบอกเองว่าไม่ได้มารับชั่วโมงต่อมา"พี่ประมาทเองสินะ"ภัสกรนั่งกอดเฌอริตาที่กำลังนั่งสะอื้นกุมขมับที่รู้ว่าชนะภพเป็นคนพาลูกสาวของเธอออกไปจากโรงเรียน"ฮึก..อือ..ฮือๆ"หญิงสาวไม่รู้ว่าป่านนี้ลูกสาวของเธอจะเป็นอย่างไรบ้างแต่ขอภาวนาให้ชนะภพมีความสงสารเด็กตาดำๆอย่าทำอะไรรุนแรงกับลูกของเธอเลย"....."ลัลลลิลเองก็นั่งทำหน้าเคร่งเครียดตอนนี้เธอกำลังรอให้ลอเลนโซหาทางช่วยหลานสาวเธออยู่เหมือนกันRrrrrrr"แกเอาลูกฉันไปไว้ที่ไหน...ได้...ฉันจะไปเดี๋ยวนี้"ภัสกรรับสายจากชนะภพหลังจากติดต่อไม่ได้อยู่นานคนที่อยากติดต่อก็โทรกลับมาหาเขาเอง"ใครคะพี่ภัส"เฌอริตาเงยหน้าถามภัสกรด้วยสีหน้าหดหู่"ชนะภพโทรมาบอกให้พี่ไปหาที่เกาะ