"รู้ไหมคะว่าริตาดีใจมากๆเลยที่พี่ภัสจำเรื่องราวของเราได้แล้ว"
เฌอริตาหาเรื่องเปลี่ยนเรื่องคุยกับชายหนุ่มจะดีกว่าเพราะเธอไม่อยากให้บรรยากาศตอนนี้มีความกังวลเข้ามาทำลายความสุข
"พี่ก็ดีใจเหมือนกันที่จะได้ไม่รู้สึกผิดที่จำคนรักของตัวเองไม่ได้"
"ต่อไปนี้พี่ภัสต้องกินข้าวกินยาให้ตรงเวลานะคะเพราะริตาอยากให้พี่ภัสกลับมาเป็นปกติเร็วๆ"
"อืม...พี่ก็หวังว่าสักวันจะไม่ต้องเป็นภาระของริตาพี่สัญญาว่าพี่จะปกป้องดูแลริตาทุกอย่างเอง"
ภัสกรมองตาของคนด้านบนจริงจัง
"ไม่ต้องถึงขนาดนั้นหรอกค่ะแค่อย่าหายไปจากริตาอีกก็พอแล้ว"
เฌอริตาไม่ได้ต้องการคนที่ปกป้องเธอตลอดเวลาเธอขอแค่คนที่อยู่ข้างๆเธอในทุกเวลาเท่านั้นไม่ว่าจะเวลาทุกข์หรือเวลาสุขก็อยากจะผ่านมันไปด้วยกันแค่นี้เธอก็พอใจแล้ว
"ถ้าวันนึงพี่หายไปอีกริตาต้องสัญญากับพี่นะว่าจะไม่ลืมพี่"
ภัสกรไม่รู้หรอกว่าอนาคตจะเป็นอย่างไรเมื่อเขาเลือกที่จะทำอะไรสักอย่างลงไป
"ไม่สัญญาค่ะเพราะริตาจะไม่ให้พี่ภัสหายไปอีก"
เฌอริตาส่ายหัวเล็กๆด้วยแววตาที่หดหู่เธอไม่ชอบคำพูดที่ดูเหมือนจะเป็นลางแบบนี้เลย
"......"
ภัสกรรวบตัวหญิงสาวมานอนกอดอยู่ที่ฟูกเล็กข้างล่างกับเขาความรู้สึกโหยหาหญิงสาวในตอนนี้เปี่ยมล้นเมื่อเขาค่อยๆพรมจูบร่างบางที่น่าทะนุถนอมอย่างเบามือ
และค่อยๆเปลื้องผ้าออกช้าๆโดยที่สายตาของเขาและเธอยังจ้องสอดประสานกันหยาดเยิ้มอย่างไม่ละสายตาไปจากกัน
"อื้มมม..."
ไม่นานบทรักที่นุ่มนวลไม่หวือหวาก็ได้เกิดขึ้นเติมเต็มความรักของทั้งสองให้กระชับแน่นแฟ้นขึ้นกว่าเดิม
เดือนต่อมา
ความสัมพันธ์ของภัสกรและเฌอริตาดูจะหวานชื่นขึ้นเรื่อยๆตอนนี้ภัสกรไม่มีอาการปวดหัวหรือเหม่อลอยอะไรแล้วเขาดูเหมือนคนปกติทุกอย่างเพียงแค่ต้องได้รับยาอย่างต่อเนื่องอยู่เท่านั้น
"คุยอะไรกับหมอแดนเหรอคะนานเชียว"
เฌอริตาเดินถือแก้วน้ำมาให้ภัสกรเพราะเห็นว่าเขาเพิ่งจะวางหูโทรศัพท์หลังจากที่คุยอยู่นานสองนาน
"ก็ถามสารทุกข์สุขดิบทั่วไปตั้งแต่ป่วยมาก็พึ่งจะได้คุยกันจริงๆจังๆก็ตอนนี้แหละ"
ภัสกรรวบเธอมานั่งที่ตักพร้อมตอบคำถามหญิงสาวด้วยรอยยิ้มเล็กๆ
เขาบอกเธอได้เพียงเท่านี้เพราะไม่อยากให้เธอไม่สบายใจว่าเขานั้นคิดที่จะทำอะไรอยู่ยิ่งรู้ว่าลูกของเขาจะเข้าโรงเรียนแล้วเขายิ่งต้องจัดการเรื่องนี้ให้จบจบไปอย่างรวดเร็วจะได้ใช้ชีวิตได้ปกติเสียที
"อ๋อ..ค่ะแล้วหมอแดนสบายดีไหมคะ"
"อืมคนของคุณฟรานซิสดูแลอย่างดีเลย"
"ดีแล้วล่ะค่ะ...แต่ตอนนี้ได้เวลากินข้าวกลางวันแล้วนะคะ"
"อืมม...วันนี้พี่รู้สึกอยากจะมีคนป้อนบ้างซะแล้วสิ"
ภัสกรกระชับกอดเอวหญิงสาวแน่นขึ้นทั้งทำน้ำเสียงและสายตาที่ออดอ้อน
"อ้อนริตาเหรอคะ"
"คุณพ่อกินข้าวเองไม่ได้เหรอคะมือเจ็บเหรอ"
เด็กหญิงเดินออกมาจากบ้านได้ยินคนเป็นพ่อให้แม่ของเธอป้อนข้าวจึงถามด้วยสีหน้าสงสัยตามประสาเด็กไร้เดียงสา
"ฮ่าๆๆ"
เฌอริตาหัวเลาะเล็กน้อยเธอจะดูซิว่าภัสกรจะตอบลูกอย่างไร
"คุณพ่อไม่ได้มือเจ็บค่ะน้องเฌอแค่อยากให้คุณแม่ป้อนคุณพ่อเท่านั้นเหมือนที่ึคุณแม่เคยป้อนน้องเฌอไงคะ"
"เข้าใจแล้วค่ะ"
เด็กหญิงพยักหน้าเข้าใจ
"...คุณพ่ออยากทำตัวเป็นเด็กน่ะค่ะ"
เฌอริตาแอบแกล้งทำเป็นกระซิบกับลูกสาวของเธอแต่น้ำเสียงที่เธอกระซิบนั้นก็รู้อยู่ว่าชายหนุ่มต้องได้ยิน
"งั้นคุณพ่อต้องเป็นเด็กไม่ดื้อนะคะคุณแม่บอกว่าเด็กดื้อไม่น่ารัก"
เด็กหญิงแหงนหน้าขึ้นพูดกับคนเป็นพ่อด้วยท่าทีจริงจังทั้งพูดคำสอนของคนเป็นแม่ทีาเคยสอนมาให้พ่อของเธอได้ฟังอีกด้วย
"โอเคค่ะเดี๋ยวคุณพ่อจะเป็นเด็กดีของคุณแม่ตลอดไปเลยนะคะ"
ภัสกรเกี่ยวก้อยกับลูกสาวของเขาตามน้ำ
"ดีค่ะแบบนี้ต้องให้รางวัล"
ฟอดดดด
"อีกข้างค่ะ"
ฟอดดดด
เด็กหญิงเข้าไปหอมซ้ายหอมขวาคนเป็นพ่อให้รางวัลที่สัญญาจะเป็นเด็กไม่ดื้อจนเฌอริตาอดจะหมั่นไส้ในความตามน้ำไปกับลูกของภัสกรไม่ได้
อาทิตย์ต่อมา
"ดูอะไรอยู่เหรอ"
ภัสกรเดินมานั่งข้างๆหญิงสาวที่โซฟาในห้องนั่งเล่น
"นายชนะพลโดนจับเป็นไปได้ไงคะเนี่ย"
เฌอริตานั่งอ่านข่าวด้วยสีหน้าที่ตึงเครียดจะพูดว่าดีใจก็ดีใจแต่ก็ยังสงสัยว่ามันเกิดขึ้นได้อย่างไรที่ชนะพลนั้นจะถูกจับไปง่ายๆ
"มันเป็นไปแล้ว"
ภัสกรไม่ได้ตกใจกับข่าวนี้เลยสักนิดเพราะเขารู้อยู่แล้วว่ามันต้องมีข่าวแบบนี้ออกมา
"แบบนี้พี่ภัสกับหมอแดนก็ใช้ชีวิตปกติได้แล้วสิคะ"
"อืม.."
"ริตาดีใจที่สุดเลยค่ะ"
เฌอริตาหันหน้ายิ้มกว้างทั้งซบหัวทุยลงบนอกแกร่งของชายหนุ่ม
"อืม..."
ภัสกรกอดร่างบางเอาไว้หลวมๆ
"ว่าแต่พี่ภัสมีส่วนรู้เห็นกับเรื่องนี้หรือเปล่าคะ"
เฌอริตาขมวดคิ้วเงยหน้าถามชายหนุ่มด้วยสายตาที่มีเลศนัยเพราะเห็นว่าชายหนุ่มไม่ออกอาการตกใจหรือดีใจสักเท่าไร
"เปล่าพี่ก็แค่วานให้คนของคุณฟรานซิสช่วยอะไรนิดหน่อยเท่านั้นเอง"
ภัสกรตอบหญิงสาวด้วยสีหน้าเจ้าเล่ห์
ภัสกรรู้ว่ารายการบัญชีที่สั่งจ่ายให้หุ้นส่วนของชนะพลนั้นมันไม่ตรงและเงินส่วนแบ่งเพราะหุ้นส่วนทุกคนต้องได้มากกว่านั้นเขาจึงส่งเมลไฟล์การเดินบัญชีจริงทั้งหมดให้กับหุ้นส่วนของชนะพลทำให้ชนะพลต้องแตกคอกับคนที่เป็นหุ้นส่วนและหุ้นส่วนแต่ละคนก็ร่วมมือกันคว่ำบาตรไม่ลงทุนต่อกับชนะพลบริษัทของชนะพลจึงประสบปัญหาหนักมากในตอนนี้
ภัสกรและแดนเทพเข้าแจ้งความว่าชนะพลทำผิดอะไรบ้างเพราะรู้ว่าตอนนี้ตำรวจไม่มีใครเป็นพวกของชนะพลอีกแล้วเมื่อเห็นว่าชนะพลหมดอำนาจในมือจนในที่สุดความผิดทุกอย่างของชนะพลก็ปรากฏแก่สายตาประชาชนจนเขาถูกดำเนินคดีในที่สุด
"แล้วไม่บอกริตาบ้างล่ะคะ"เฌอริตารู้แบบนี้แล้วจึงหน้ามุ่ยบอกบุญไม่รับในทันที"พี่ไม่อยากให้ริตายุ่งเรื่องนี้อีกแล้ว"ที่เขาไม่อยากบอกเธอเพราะไม่อยากให้เฌอริตาต้องมานั่งกังวลห่วงเขาอีก"...."เฌอริตาเดินหนีชายหนุ่มไปอย่างไม่พูดไม่จาเพราะรู้สึกนอยเล็กน้อย"เป็นอะไรไป"ภัสกรเดินตามง้อหญิงสาวเพราะรู้ว่าอาการแบบนี้เธอต้องแอบงอนเขาอยู่เป็นแน่"เอาเป็นว่าพี่ขอโทษแล้วกันที่ไม่ได้บอกพี่ไม่อยากให้ริตายุ่งเรื่องนี้จริงๆดีกันนะ"ภัสกรโอบกอดข้างหลังหญิงสาวทั้งยื่นนิ้วก้อยตรงหน้าของเธอพร้อมพูดด้วยน้ำเสียงออดอ้อนที่รู้ว่าน้ำเสียงนี้มันจะทำให้เธอใจอ่อนได้"...ก็ได้ค่ะ..."เฌอริตาแอบอมยิ้มเล็กๆจะเป็นเธอที่ใจอ่อนให้กับน้ำเสียงแบบนี้ของชายหนุ่มอยู่ร่ำไปจึงยอมเกี่ยวก้อยคืนดีในที่สุด"พี่ว่าจะไปเยี่ยมคนที่เคยชุบเลี้ยงพี่มาเป็นครั้งสุดท้าย"ภัสกรเอ่ยออกมาด้วยสีหน้าเรียบเฉย"ริตาไปด้วยค่ะ"เฌอริตาเองก็อยากจะดูหน้าคนที่ได้รับผิดกับสิ่งที่ตัวเองทำเหมือนกันสถานีตำรวจ"ฝีมือแกใช่ไหม"ชนะพลที่ถูกคุมตัวไว้ในห้องขังตะคอกใส่ภัสกรอย่างเคียดแค้น"คนทำผิดก็ต้องได้รับโทษถูกแล้วครับ"ภัสกรพูดด้วยน้ำเสียงเรียบเฉยมองดูคน
"ใช่ค่ะคุณพ่อน้องเป็นคนมารับไปค่ะ"ครูสาวยังคงยืนยันว่าเด็กหญิงมีคุณพ่อมารับไปเรียบร้อยแล้ว"อ๋อ... ค่ะ"หญิงสาวพยักหน้ารับทั้งยังเอะใจว่าถ้าหากภัสกรมารับลูกก่อนจะไม่โทรบอกเธอหน่อยหรืออย่างไรเมื่อคิดได้ดังนั้นจึงยกหูติดต่อหาภัสกรในทันที"พี่ภัสมารับน้องเฌอไปแล้วเหรอคะ....อะไรนะคะ"เมื่อคำตอบจากภัสกรบอกว่าไม่รู้เรื่องทำให้เฌอริตาต้องวิ่งเต้นขอดูกล้องวงจรว่าใครเป็นคนพาเฌอริมาไปแน่เพราะภัสกรบอกเองว่าไม่ได้มารับชั่วโมงต่อมา"พี่ประมาทเองสินะ"ภัสกรนั่งกอดเฌอริตาที่กำลังนั่งสะอื้นกุมขมับที่รู้ว่าชนะภพเป็นคนพาลูกสาวของเธอออกไปจากโรงเรียน"ฮึก..อือ..ฮือๆ"หญิงสาวไม่รู้ว่าป่านนี้ลูกสาวของเธอจะเป็นอย่างไรบ้างแต่ขอภาวนาให้ชนะภพมีความสงสารเด็กตาดำๆอย่าทำอะไรรุนแรงกับลูกของเธอเลย"....."ลัลลลิลเองก็นั่งทำหน้าเคร่งเครียดตอนนี้เธอกำลังรอให้ลอเลนโซหาทางช่วยหลานสาวเธออยู่เหมือนกันRrrrrrr"แกเอาลูกฉันไปไว้ที่ไหน...ได้...ฉันจะไปเดี๋ยวนี้"ภัสกรรับสายจากชนะภพหลังจากติดต่อไม่ได้อยู่นานคนที่อยากติดต่อก็โทรกลับมาหาเขาเอง"ใครคะพี่ภัส"เฌอริตาเงยหน้าถามภัสกรด้วยสีหน้าหดหู่"ชนะภพโทรมาบอกให้พี่ไปหาที่เกาะ
"คุณพ่อขาาาา...ฮือๆๆๆ"เด็กหญิงเห็นคนเป็นพ่อล่วงลงไปเธอเองก็ตกใจร้องให้ยกใหญ่เช่นกันดีที่มีลัลลลิลกอดปลอบอยู่ไม่ห่าง"พวกนายรีบไปดูข้างล่างเร็ว"ลอเลนโซสั่งให้บอดี้การ์ดของเขารีบหาทางลงไปดูด้านล่างอย่างรวดเร็วหวังว่าภัสกรจะไม่เป็นอะไร"ครับนายน้อย"21.00 น.หลังจากเกิดเหตุการณ์ที่ไมาคาดฝันขึ้นลัลลลิลก็รีบพาเพื่อนและหลานของเธอกลับอย่างรวดเร็วส่วนหน้าที่ดูแลต่อที่เกาะลอเลนโซเป็นคนจัดการต่อบ้านเฌอริตา"อืม.."เฌอริตาสะลึมสะลือตื่นขึ้นมาในห้องนอนของเธอ"ริตา.."ลัลลลิลที่นั่งอยู่ปลายเตียงของเฌอริตารีบลุกเข้ามาดูอาการเพื่อนของเธอทันทีเมื่อเห็นว่าเพื่อนเธอขยับตัวลุกขึ้น"พี่ภัส..."เฌอริตานึกถึงเหตุการณ์ก่อนหน้าได้ก็รุกรี้ลุกรนจะเดินออกไปจากห้อง"ใจเย็นๆนะริตาตอนนี้ทางตำรวจกับคนของคุณลอสกำลังช่วยกันค้นหาอยู่"ลัลลลิลต้องรีบรั้งตัวเพื่อนของเธอเอาไว้ก่อน"..ฉันจะไปหาพี่ภัส""พักก่อนนะริตา...เชื่อฉัน..""ฮึก..อือ..ฮื่อๆๆ...พี่ภัสจะปลอดภัยใช่ไหม..ฮือๆ""......"เป็นครั้งที่เท่าไรลัลลลิลก็นับไม่ได้ที่ต้องเห็นน้ำตาของเพื่อนเธอส่วนตัวของเธอเองก็ทำได้แค่ปลอบประโลมคนที่กำลังเศร้าใจอยู่เท่านั้นสอง
บ้านเด็กกำพร้าxxxตอนนี้ภัสกรยืนอยู่หน้าสถานเลี้ยงเด็กกำพร้าก่อนที่จะออกมาจากขนส่งเขาก็ถามคนที่นั่นว่าสถานเลี้ยงเด็กกำพร้าxxxอยู่ที่ไหนดีที่ที่นี่ไม่ไกลจากขนส่งมากเขาเลยนั่งวินมาลงที่นี่แต่ก็ยังไม่กล้าเข้าไปด้านใน"โอะ...โอ้ยย..."ฟึ่บบบบจู่ๆอาการปวดหัวรุนแรงก็เกิดขึ้นมาอีกรอบทำให้เขานั่งจมกับพื้นครู่หนึ่งแล้วจึงสลบไปปีต่อมารัสเซียคลังอาวุธ"เตรียมทุกอย่างเรียบร้อยแล้วใช่ไหม"ลีโอนาโดหรือนายสิงห์ที่คนเป็นพ่อบุญธรรมชาวไทยชอบเรียกหนุ่มหล่อร่างสูงวัย38ปีนัยตาคมดุดันสมกับเป็นนายใหญ่ของกิจการค้าอาวุธมาดนิ่งดูมีภูมิฐานใครเห็นก็ต้องเกรงเดินมาตรวจงานในคลังอาวุธด้วยตัวเองเพราะวันนี้มีลูกค้ารายใหญ่เดินทางมาที่นี่เพื่อนัดเชคตัวอย่างของลอตใหม่ที่จะสั่งลีโอนาโดเป็นหนุ่มหล่อชาวอิตาลีลูกบุญธรรมของชัยพฤกษ์นักธุรกิจค้าอาวุธคนไทยที่ร่วมหุ้นกับเพื่อนชาวรัสเซียผลิตอาวุธคุณภาพดีจนเป็นบริษัทที่ขายอาวุธที่มีชื่อเสียงค่อนข้างมากตอนนี้ชัยพฤกษ์ได้วางมือให้ลีโอนาโดดูแลกิจการแทนเขาแทบทุกอย่างชัยพฤกษ์มีทุกวันนี้ได้ก็เพราะได้พ่อของลีโอนาโดช่วยเหลือเอาไว้ในตอนที่เขาถูกตามฆ่าจนเขาได้มาเป็นหุ้นส่วนกับเพื่อนชาวร
อาทิตย์ต่อมากรุงเทพมหานคร"คุณหนูจะไปอยู่ที่นั่นกี่วันคะ"วาดจันทร์จำได้ว่าเฌอริตาเกริ่นบอกว่าเมื่อคุณหนูเล็กของเธอปิดเทอมแล้วจะไปพักผ่อนบ้านที่เขาใหญ่กันเธอจึงอยากรู้วันเวลาที่แน่นอนว่าไปวันไหนและไปกี่วัน"ไม่ใช่กี่วันค่ะนมโรงเรียนน้องเฌอเปิดเมื่อไรก็คงจะกลับเมื่อนั้นแหละค่ะ..."เฌอริตาหันมายิ้มตอบวาดจันทร์"ทำไมครั้งนี้ถึงไปอยู่นานล่ะคะ"วาดจันทร์ยังมีสีหน้าสงสัยเพราะปกติแล้วคุณหนูของเธอจะไปไหนไม่ค่อยนานเท่าไร"พอดีมีลูกค้าติดต่อว่าจะมาพักที่บ้านหลังใหญ่เช่าอยู่หลายเดือนด้วยริตาเลยอยากไปรับรองด้วยตัวเองน่ะค่ะ"เฌอริตาอยากไปพักผ่อนทั้งยังอยากรับรองแขกวีไอพีที่ติดต่อขอเข้าพักบ้านใหญ่ของแม่เธอเป็นเวลาหลายเดือนอีกด้วย"อย่างนี้นี่เอง"วาดจันทร์พยักหน้าเข้าใจ"เดี๋ยวริตากับน้องเฌอจะไปวัดกันสักหน่อยนะคะนม"เฌอริตาวางแพลนวันนี้เอาไว้ว่าเธอจะพาลูกสาวของเธอไปวัดเพราะวันนี้ก็เป็นปีแล้วจากวันที่ภัสกรจากเธอไป"ค่ะคุณหนู"ชั่วโมงต่อมาวัดxxx"ให้คุณพ่อนะคะ"เฌอริตาถือช่อดอกกุหลาบสีขาวใส่มือลูกสาวของเธอให้วางตรงหน้าเจดีย์ของภัสกรทั้งยิ้มให้รูปภาพตรงหน้าด้วยสายตาที่ยังมีความอาลัยอาวรณ์อยู่"ไม่ว่
สามวันต่อมาเขาใหญ่"ไม่ได้มาที่นี่นานเท่าไรแล้วเนี่ย"หลังจากขับรถมาจากกรุงเทพร่วมสี่ชั่วโมงเฌอริตาก็ลงมายืดเส้นยืดสายเมื่อมาถึงหน้าบ้านหลังเล็กที่ห่างออกไปเพียง2-3ร้อยเมตรก็เป็นบ้านใหญ่ของแม่เธอที่ปล่อยให้นักท่องเที่ยวเช่า"ที่นี่ยังดูสดชื่นเหมือนเดิมเลยนะคะคุณหนู"วาดจันทร์มองบ้านไม้สักทรงทันสมัยที่นี่ด้วยรอยยิ้มไม่ว่าเวลาจะผ่านไปนานเท่าไรที่นี่ก็ยังเป็นที่แห่งความสุขทุกครั้งได้ได้มา"นั่นสิคะนม""สวัสดีค่ะคุณริตา..ป้าจันทร์"ข้าวฟ่างหลานสาววัย22ของรพีพรรณคนดูแลบ้านและดูแลนักท่องเที่ยวที่นี่เดินมาต้อนรับทั้งสาม"มาพอดีเลยข้าวฟ่างที่บ้านเรียบร้อยดีไหม"วาดจันทร์ถามถึงความเรียบร้อยของทั้งบ้านเล็กและบ้านใหญ่จากข้าวฟ่าง"เรียบร้อยดีจะป้าจันทร์เดี๋ยวหนูเอากระเป๋าไปเก็บในห้องเลยนะคะ"ข้าวฟ่างรีบยกกระเป๋าเข้าไปเก็บในบ้านเพราะเธอจะต้องรีบไปช่วยแม่ครัวเตรียมอาหารในครัวต่อ"ไปป้าไปด้วยเดี๋ยวป้าจะพาคุณหนูเล็กไปนอนซะหน่อย"วาดจันทร์อุ้มเฌอริมาที่กำลังหลับตามข้าวฟ่างเข้าไปในบ้านด้วยครู่ต่อมา"พี่รพีคะ"เฌอริตาเดินมาหารพีพรรณที่จุดบริการลูกค้าเป็นเรือนไม้โล่งกว้างเป็นครัวของที่นี่และโซนนั่งทาน
"คุณพฤกษ์เรียกฉันมามีอะไรขาดเหลือหรือเปล่าคะ..พ..พี่ภัส..""คุณ!!"เฌอริตาเดินเข้ามาหาชัยพฤกษ์ในขณะที่เขากำลังอุ้มลูกสาวของเธออยู่พลันสายตามองเห็นชายหนุ่มที่ยืนอยู่ข้างๆใจของหญิงสาวตอนนี้สั่นระรัวไม่เป็นส่ำความรู้สึกมากล้นตีกันจนเธอหน้ามืดเป็นลมล้มพับไปเพราะไม่คิดว่าคนตรงหน้าจะมีชีวิตอยู่และกลับมาหาเธอดีที่ภัสกรนั้นรับเธอเอาไว้ได้ก่อนและรีบพาเข้ามานอนที่โซฟาในบ้านใหญ่ชั่วโมงต่อมาหลังจากปฐมพยาบาลกันอยู่พักใหญ่เฌอริตาก็ฟื้นขึ้นกอดภัสกรแน่นร้องห่มร้องให้พร่ำบอกว่าตัวเองไม่ได้ฝันไปและชัยพฤกษ์จึงคุยกับทั้งเฌอริตาและภัสกรให้เข้าใจตรงกันว่าเหตุการณ์มันเป็นมาอย่างไรเขาจึงเลือกที่จะมาที่นี่อันที่จริงเรื่องภัสกรกับเฌอริตาชัยพฤกษ์ให้คนสืบรู้มาพักใหญ่แล้วแค่รอจังหวะให้งานใหญ่เสร็จแล้วก็มาที่นี่พร้อมภัสกรก็เท่านั้น"ริตาดีใจมากๆเลยนะคะที่พี่ภัสยังมีชีวิตอยู่"เฌอริตายังคงกอดภัสกรอยู่ไม่ปล่อย"คือ...ผมขอตัวก่อนนะครับ"ภัสกรรู้สึกสับสนไปหมดเมื่อรู้เรื่องราวในคราวเดียววันนี้เขาต้องตะลึงกับเรื่องราวหลายเรื่องจริงๆทำให้เขาต้องปลีกตัวออกไปตั้งสติเสียก่อนเฌอริตามองตามภัสกรด้วยสายตาละห้อย"ต้องขอโทษหนู
"ตามสบายเลย"ภัสกรยกมือลูบหลังร่างบางเบาๆเขารับรู้ถึงความดีใจของอีกฝ่ายได้เป็นอย่างดี"คุณปู่ขาสวยไหมคะ"สองปู่หลานนั่งเล่นกันอยู่ที่หน้าบ้านใหญ่เด็กหญิงเด็ดดอกไม้มาทัดหูแล้ววิ่งมาถามคนเป็นปู่ด้วยใบหน้าเปื้อนยิ้ม"โอ้โห..หลานปู่สวยที่สุดในโลกเลยค่ะ"ชัยพฤกษ์อุ้มหลานสาวของเขาขึ้นทั้งเดินไปชมวิวที่เรือนรับรองข้างบ้านอย่างอารมณ์ดี"จริงเหรอคะ..""จริงสิคะ...ไปๆเราเดินไปทางโน้นกันดีกว่า""ค่ะ"ดูท่าคนเป็นปู่จะค่อนข้างเห่อหลานเอามากๆจนคนเป็นพ่อกับแม่เด็กหญิงที่นั่งมองจากบ้านเล็กอดอมยิ้มตามไม่ได้"พี่ภัสคะตอนที่พี่ภัสอยู่ที่โน่นทำอะไรบ้างเหรอคะ"เฌอริตาละสายตามาจากลูกสาวของเธอหันมาถามภัสกรเพราะเธออยากรู้ชีวิตของเขาในช่วงที่อยู่ที่รัสเซียว่าเป็นอย่างไรบ้าง"ก็ช่วยคุณพ่อกับพี่สิงห์ดูแลคลังอาวุธแล้วก็คุยกับลูกค้าที่มาติดต่อซื้ออาวุธ""บรรยากาศการทำงานคงเหมือนในหนังมาเฟียเลยสินะคะ"เฌอริตาแอบคิ้วขมวดเล็กน้อย"อืม..จะว่าใช่ก็ได้..อยากเห็นเหรอ"จะว่าไปภัสกรก็ปฏิเสธไม่ได้ว่ามันก็เป็นแบบนั้นแต่จะแตกต่างกันไปด้วยลูกค้าแต่ละคนเองว่าจะพูดยากหรือพูดง่ายเท่านั้น"หึ..ไม่หรอกค่ะริตาไม่ชอบบรรยากาศน่ากลัวแ