อาทิตย์ต่อมา
บริษัทXXX
"ไหนคุณบอกว่าข่าวจะไม่รั่วไง..ทำไมมันเป็นแบบนี้"
อนุชิตนักธุรกิจรุ่นใหญ่เข้าม โวยวายกับชนะพลชุดใหญ่เพราะข่าวในอินเทอร์เน็ตออกไปว่าเขาเป็นหนึ่งในนั้นในคนที่ชนะพลซื้อตัวไปทำให้บริษัทของฉัตรภพต้องล้มละลาย
"ผมก็ไม่รู้เหมือนกันว่าเรื่องทุกอย่างมันเป็นแบบนี้ได้ยังไงผมรับปากว่าจะรีบแก้ข่าวทั้งหมดให้เร็วที่สุด"
ชนะพลเองก็ไม่รู้ว่าความลับของบริษัทเขานั้นมันรั่วไหลออกไปได้อย่างไรแต่เขาจะปิดข่าวเรื่องนี้ให้เร็วที่สุด
"ผมหวังว่าสถานการณ์จะดีขึ้นในเร็วๆนี้นะครับ"
อนุชิตยื่นคำขาดกับชนะพลและเดินออกไปอย่างหัวเสีย
"คุณจัดการเรียกนักข่าวมาที่บริษัทเย็นนี้ด้วยผมจะแก้ข่าวทั้งหมดเอง"
ชนะพลสั่งธีราทรให้เรียกนักข่าวจากสำนักข่าวหลายสำนักให้มารวมกันที่บริษัทในตอนเย็นเพราะเขาจะแถลงแก้ข่าวในเย็นนี้เพื่อที่บริษัทจะได้ไม่เสียชื่อเสียงมากไปกว่านี้
"ครับนาย"
บ้านxxx
RrrrrRrrrr
"ว่าไงปลาย...อืม...โอเคฉันจะรอดู"
เฌอริตารับสายจากปลายฝนที่เพื่อนเธอโทรมาแจ้งข่าวเรื่องที่ชนะพลจะมีการแถลงข่าวในเย็นนี้ให้เพื่อนเท่านั้นรอดูว่าชนะพลนั้นจะแก้ตัวกับสังคมอย่างไร
"มีอะไรเหรอครับ"
ภัสกรเดินมานั่งข้างๆเฌอริตา
"อ๋อ..ไม่มีอะไรค่ะ"
หญิงสาวรีบส่ายหัวทั้งปรับสีหน้าเป็นปกติ
"ผมรู้ว่าคุณต้องมีอะไรปิดบัง"
ภัสกรไม่เชื่อว่าหญิงสาวจะไม่มีอะไรจริงๆเพราะเขาดูออกว่าเธอกำลังกังวล
"คือริตา..."
เมื่อหญิงสาวโดนเข็มเช่นนั้นเธอจึงต้องยอมบอกไปว่าเธอทำอะไรกับชนะพลและเย็นนี้ชนะพลนั้นจะมีการแถลงข่าวแก้ตัว
"ผมบอกคุณแล้วว่าอย่ายุ่งกับคนพวกนั้นอีก"
ภัสกรขมวดคิ้วเป็นปมเขาไม่อยากให้เธอไปยุ่งเกี่ยวกับชนะพลอีก
"แต่ริตาเชื่อว่าพวกมันจะไม่รู้ว่าใครเป็นคนทำแน่ค่ะ"
เฌอริตาจับมือภัสกรแน่นเธอมั่นใจว่าชนะพลไม่มีทางสาวถึงตัวเธอแน่นอนเพราะเธอยืมมือของฟรานซิสสามีของเพื่อนเธอให้มาช่วยนั่นเอง
"แค่นี้ผมก็กลัวว่าคุณจะไม่ปลอดภัยแย่แล้วนะริตา"
ภัสกรพูดด้วยสีหน้ากังวล
"ริตารู้ค่ะ"
หญิงสาวก้มหน้างุดทั้งซบไปที่อกแกร่งของชายหนุ่ม
"ขอให้ครั้งนี้เป็นครั้งสุดท้ายได้ไหม"
ภัสกรพูดเสียงอ่อนรู้สึกกังวลมากเป็นพิเศษ
"ตราบใดที่คนชั่วยังลอยนวลริตาก็หยุดไม่ได้ค่ะ"
เฌอริตายังคงมุ่งมั่นในความคิดของเธอ
"ทำไมต้องดื้อ..."
ชายหนุ่มลูบปอยผมหญิงสาวเบาๆทั้งมองร่างบางด้วยสีหน้าหดหู่
"พี่ภัสต้องเข้าใจริตานะคะว่าริตายอมปล่อยผ่านความชั่วของนายชนะพลไม่ได้จริงๆ"
ภัสกรยังคงนิ่งงันคิดถึงเรื่องภายภาคหน้าที่มันจะเกิดเขาเองก็ยังไม่หายดีหากเขาปกป้องเธอไม่ได้จะเป็นเช่นไร
"รู้ไหมคะว่าเมื่อก่อนคำนี้จะเป็นคำบ่นติดปากที่พี่ภัสบ่นริตาอยู่บ่อยๆ..."
เฌอริตากระชับกอดชายหนุ่มแน่นเธอแอบอมยิ้มเล็กๆไม่ว่าภัสกรคนก่อนหรือตอนนี้ก็ยังบ่นเธอว่าดื้อเช่นเดิม
"แต่ก็ไม่เคยฟังใช่ไหม"
ภัสกรก้มลงมามองหญิงสาวเล็กน้อย
"ทำไมรู้คะ"
เฌอริตาเงยหน้าถามชายหนุ่มอย่างสงสัย
"ก็ถ้าคุณฟังผมก็น่าจะไม่ต้องบ่นคุณบ่อยๆจริงไหมล่ะ"
เรื่องแค่นี้เขาน่าจะเดาไม่ยาก
"อืม..จริงสิริตามีอะไรจะให้พี่ภัสดูด้วยค่ะ"
"อะไรเหรอ"
"สร้อยเส้นนี้ค่ะที่พี่ภัสให้ริตาเอาไว้"
เฌอริตาหยิบสร้อยออกมาจากกระเป๋าของเธอและยื่นให้ชายหนุ่มดู
"สร้อยรูปสิงโต"
ภัสกรขมวดคิ้วเล็กน้อยเพราะมันเป็นสร้อยที่ไม่น่าจะใช่ของผู้หญิงน่าจะเป็นสร้อยทองคำขาวและตัวจี้หัวสิงโตเองก็ทำมาจากทองคำขาวเช่นกัน
"ค่ะ...มันเป็นสร้อยที่ติดตัวพี่ภัสมาตั้งแต่ตอนที่คนในสถานรับเลี้ยงเด็กไปเจอพี่ภัสค่ะ"
สร้อยเส้นนี้ภัสกรให้กับหญิงสาว เพื่อเป็นพยานแห่งความรักในตอนที่คบกันมันเป็นสร้อยที่ภัสกรบอกกับเธอว่าเป็นสร้อยที่ติดตัวของเขามาตั้งแต่เด็กๆมันมีความหมายกับเขามากเขาจึงอยากมอบให้เธอ
"อย่างนั้นเหรอ"
"ริตาคืนให้พี่ภัสนะคะ"
เฌอริตาสวมสร้อยเส้นนี้คืนให้ภัสกรดังเดิม
"ทำไมล่ะ"
"พี่ภัสเคยบอกกับริตาว่าสร้อยเส้นนี้เป็นสร้อยแห่งความโชคดีริตาอยากให้ความโชคดีอยู่กับพี่ภัสตลอดค่ะ"
"ก็ได้"
"ใส่ติดตัวไว้ตลอดนะคะ"
"อืม.."
20.00 น.
"วันนี้ฟังนิทานเรื่องอะไรดีคะ"
เฌอริตาและลูกสาวของเธอนอนกันอยู่บนเตียงใหญ่โดยภัสกรนั้นนอนอยู่ที่ฟูกนอนด้านล่างเพราะกลัวว่าจะเบียดลูกของเขาจนเกินไป
"น้องเฌออยากให้คุณพ่ออ่านเรื่องซินเดอเรล่าให้ฟังค่ะ"
เด็กหญิงก้มลงไปบอกกับคนเป็นพ่อ
"เรื่องนี้ทุกคืนเลยสินะ"
เฌอริตาอมยิ้มเล็กน้อยที่ลูกสาวของเธอชอบนิทานเรื่องเดียวเรื่องเดิมไม่เปลี่ยน"
"มานอนตรงนี้เลยค่ะ"
ภัสกรขยับขึ้นมานอนบนเตียงและอ้าแขนให้คนเป็นลูกมานอนที่แขนของเขาและเริ่มต้นอ่านนิทานให้ฟัง
"กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว....."
เมื่อนิทานนังไม่ทันจบเรื่องเด็กหญิงก็ผลอยหลับปุ๋ยไปเช่นทุกวันแต่วันนี้คงๆม่ใช่แค่เด็กหญิงที่หลับไปเท่านั้นแต่เฌอริตาเองก็หลับไปพร้อมๆกับลูกด้วยเช่นกัน
ภัสกรอุ้มลูกของเขาให้นอนดีๆและห่มผ้าให้ทั้งสองคนแม่ลูกแล้วจึงกลับมานอนที่เดิมของตัวเอง
ครู่ต่อมา
"โอะ..โอ้ยยย..."
"พี่ภัส...เป็นอะไรคะ"
เฌอริตาได้ยินเสียงชายหนุ่มร้องด้วยความเจ็บปวดจึงรู้สึกตัวตื่นขึ้นมาดูเห็นว่าเขากำลังวิ่งออกไปนอกห้องจึงรีบรุกตามไปดูอาการของเขาว่าเป็นอย่างไรบ้าง
"ปวดหัว.."
ภัสกรลงมานอนกลิ้งอยู่กับโซฟาด้านนอกอย่างทุรนทุรายด้วยอาการปวดหัวที่หนักกว่าทุกครั้ง
"พี่ภัส.."หญิงสาวเรียกชื่อคนที่กำลังเจ็บปวดด้วยน้ำเสียงสั่นเครือทั้งยังมือไม้สั่นทำอะไรไม่ถูก"โอ้ยย..อืมม..."ภัสกรยังคงปวดหัวหนักขึ้นอยู่เรื่อยๆอย่างไม่มีผ่อน"พี่หมอคะตอนนี้พี่ภัสอาการไม่ดีเลยค่ะ"เฌอริตารีบวิ่งเข้าไปที่มือถือของเธอในห้องแล้วโทรหาหมอรัชตะทันที"โอ้ยยย..""พี่ภัส...เลือด...พี่ภัสคะ...อึก..อดทนหน่อยนะคะ...พี่ภัสต้องไม่เป็นอะไรนะคะ..ฮือ..ๆๆๆ.."เฌอริตาเข่าแทบทรุดเมื่อเห็นว่าชายหนุ่มกำลังมีเลือดออกจากจมูกและรีบเข้าไปหาผ้าชุบน้ำมาค่อยๆเช็ดให้เขาอย่างเบามือทั้งสะอึกสะอื้นสงสารคนที่กำลังทุรนทุรายอยู่ตรงหน้ายิ่งร้องให้เจ็บใจนะที่เธอนั้นช่วยอะไรเขาไม่ได้เลยครึ่งชั่วโมงต่อมา"คุณภัส"รัชตะรีบขับรถมาที่บ้านของเฌอริตาตาเมื่อเปิดประตูเข้ามาเห็นสภาพของภัสกรก็ถึงกับหน้าถอดสีและรีบเข้ามาดูอาการเขาอย่างรวดเร็ว"ฮือๆ..อึก..พี่หมอช่วยพี่ภัสด้วยค่ะ"เฌอริตานั่งดูอาการของภัสกรด้วยน้ำตา"เดี๋ยวผมจะฉีดยาระงับอาการปวดให้คุณภัสก่อนนะครับ"รัชตะเร่งมือฉีดยาให้ชายหนุ่มก่อนในตอนนี้เพื่อให้เขาได้หายจากอาการเจ็บปวดและตรวจดูอาการอีกทีว่าอาการปวดหัวนี้เกิดขึ้นจากอะไรกันแน่"ค่ะ.."สิบนาทีต่อมา
"อืม..ก็เครียดอยู่พอสมควร..ขนาดหมอชาร์ลเองยังตกใจกับส่วนผสมที่ฉีดให้คุณภัสเลย"รัชตะออกมานั่งคุยกับลัลลลิลด้วยน้ำเสียงที่เบาที่สุดเท่าที่จะเบาได้เพราะไม่อยากให้เฌอริตาได้มาได้ยินเพราะจะพาเธอเครียดไปกันใหญ่"มันร้ายแรงขนาดนั้นเลยเหรอคะ"ลัลลลิลหน้าเสียเล็กน้อยเมื่อเห็นว่ารัชตะเองยังเป็นกังวลกับเรื่องนี้มากๆ"อืม..""ลินถามจริงๆนะคะ..โอกาสที่คุณภัสจะเป็นปกติเหมือนเดิมร้อยเปอร์เซ็นนี่เป็นไปได้ไหมคะ""ปาฏิหารย์แบบนั้นที่พี่คิดตอนนี้นะดูเหมือนจะมีแค่ไม่กี่เปอร์เซ็นเท่านั้น"รัชตะยังไม่เห็นทางแต่อาการดีขึ้นคงดีขึ้นแน่นอนหากจะกลับมาเป็นเหมือนเดิมร้อยเปอร์เซนนั้นเขาก็พูดยาก"หา..แย่จัง"ลัลลลิลรู้สึกสงสารทั้งเพื่อนเธอและภัสกรจับใจ"แต่พี่เชื่อมือหมอชาร์ลขนาดปลายฝนบาดเจ็บรุนแรงขนาดนั้นยังเดินได้ปร๋อภายในเวลาไม่เท่าไรเลย"รัชตะพูดเรียกกำลังใจให้ตัวเองคิดในแง่ดีอีกรอบว่าถ้าหากปลายฝนเคยถูกรักษาโดยหมอชาร์ลหายอย่างรวดเร็วได้ทั้งที่อาการสาหัสยังไงเคสของภัสกรเขาก็ขอให้เป็นไปในทิศทางที่ดีที่สุดก็แล้วกัน"ลินก็เชื่อค่ะ"ลัลลลิลเองก็ภาวนาในใจและเชื่อมั่นว่ามันจะต้องเป็นแบบนั้นเช่นกันเย็นของวัน"ฉันกับ
หลายวันต่อมาหลายวันก่อนหมอชาร์ลมาถึงก็รีบตรวจดูอาการของภัสกรอย่างเร่งด่วนและประเมินอาการว่าอยู่ระดับไหนเขาจึงใช้คลินิคหมอรัชตะเป็นที่ผสมตัวยาและนำมารักษากับภัสกรวันแรกๆที่เริ่มรักษาชายหนุ่มก็มีผลข้างเคียงเพราะร่างกายต่อต้านยาอยู่บ้างทำให้อารมณ์ของภัสกรแปรปรวนอยู่ไม่น้อยบางครั้งก็อารมณ์ร้ายจนทำลายข้าวของทุกอย่างรวมถึงทำร้ายตัวเองบางครั้งก็เฉื่อยชาไม่รับรู้เรื่องราวจากคนรอบข้างจนร่วมครึ่งเดือนมาแล้วอาการของเขาจึงดีขึ้นถึงแม้ว่าบางครั้งจะความรู้สึกช้าบ้างแต่ก็สามารถพูดคุยโต้ตอบได้ดีและช่วยเหลือตัวเองในชีวิตประจำวันได้เฌอริตาจึงพอใจในการรักษาของหมอชาร์ลอยู่มากและขอบคุณหมอหนุ่มจนนับครั้งไม่ถ้วนแล้วในตอนนี้08.30 น."ยาที่ต้องให้คุณภัสทานตลอดก็มีประมาณนี้ครับย้ำนะครับว่าต้องตรงเวลาและห้ามขาดเกินอาทิตย์เด็ดขาด"หมอชาร์ลเรียกเฌอริตาให้มาดูตัวยาที่เขาเตรียมเอาไว้ให้ภัสกรก่อนที่เขาจะบินกลับทั้งอธิยายกำชับเรื่องห้ามขาดยากับหญิงสาว"เข้าใจแล้วค่ะหมอชาร์ล"เฌอริตาฟังคำพูดของหมอชาร์ลอย่างตั้งใจ"ผมจะดูอาการคุณภัสอีกสักสองวันแล้วก็จะกลับแล้วล่ะครับ""แล้ว.. เอ่อถ้าเกิดอะไรขึ้นล่ะคะ"เฌอริตาเป็นกั
"รู้ไหมคะว่าริตาดีใจมากๆเลยที่พี่ภัสจำเรื่องราวของเราได้แล้ว"เฌอริตาหาเรื่องเปลี่ยนเรื่องคุยกับชายหนุ่มจะดีกว่าเพราะเธอไม่อยากให้บรรยากาศตอนนี้มีความกังวลเข้ามาทำลายความสุข"พี่ก็ดีใจเหมือนกันที่จะได้ไม่รู้สึกผิดที่จำคนรักของตัวเองไม่ได้""ต่อไปนี้พี่ภัสต้องกินข้าวกินยาให้ตรงเวลานะคะเพราะริตาอยากให้พี่ภัสกลับมาเป็นปกติเร็วๆ""อืม...พี่ก็หวังว่าสักวันจะไม่ต้องเป็นภาระของริตาพี่สัญญาว่าพี่จะปกป้องดูแลริตาทุกอย่างเอง"ภัสกรมองตาของคนด้านบนจริงจัง"ไม่ต้องถึงขนาดนั้นหรอกค่ะแค่อย่าหายไปจากริตาอีกก็พอแล้ว"เฌอริตาไม่ได้ต้องการคนที่ปกป้องเธอตลอดเวลาเธอขอแค่คนที่อยู่ข้างๆเธอในทุกเวลาเท่านั้นไม่ว่าจะเวลาทุกข์หรือเวลาสุขก็อยากจะผ่านมันไปด้วยกันแค่นี้เธอก็พอใจแล้ว"ถ้าวันนึงพี่หายไปอีกริตาต้องสัญญากับพี่นะว่าจะไม่ลืมพี่"ภัสกรไม่รู้หรอกว่าอนาคตจะเป็นอย่างไรเมื่อเขาเลือกที่จะทำอะไรสักอย่างลงไป"ไม่สัญญาค่ะเพราะริตาจะไม่ให้พี่ภัสหายไปอีก"เฌอริตาส่ายหัวเล็กๆด้วยแววตาที่หดหู่เธอไม่ชอบคำพูดที่ดูเหมือนจะเป็นลางแบบนี้เลย"......"ภัสกรรวบตัวหญิงสาวมานอนกอดอยู่ที่ฟูกเล็กข้างล่างกับเขาความรู้สึกโหยหาหญ
"แล้วไม่บอกริตาบ้างล่ะคะ"เฌอริตารู้แบบนี้แล้วจึงหน้ามุ่ยบอกบุญไม่รับในทันที"พี่ไม่อยากให้ริตายุ่งเรื่องนี้อีกแล้ว"ที่เขาไม่อยากบอกเธอเพราะไม่อยากให้เฌอริตาต้องมานั่งกังวลห่วงเขาอีก"...."เฌอริตาเดินหนีชายหนุ่มไปอย่างไม่พูดไม่จาเพราะรู้สึกนอยเล็กน้อย"เป็นอะไรไป"ภัสกรเดินตามง้อหญิงสาวเพราะรู้ว่าอาการแบบนี้เธอต้องแอบงอนเขาอยู่เป็นแน่"เอาเป็นว่าพี่ขอโทษแล้วกันที่ไม่ได้บอกพี่ไม่อยากให้ริตายุ่งเรื่องนี้จริงๆดีกันนะ"ภัสกรโอบกอดข้างหลังหญิงสาวทั้งยื่นนิ้วก้อยตรงหน้าของเธอพร้อมพูดด้วยน้ำเสียงออดอ้อนที่รู้ว่าน้ำเสียงนี้มันจะทำให้เธอใจอ่อนได้"...ก็ได้ค่ะ..."เฌอริตาแอบอมยิ้มเล็กๆจะเป็นเธอที่ใจอ่อนให้กับน้ำเสียงแบบนี้ของชายหนุ่มอยู่ร่ำไปจึงยอมเกี่ยวก้อยคืนดีในที่สุด"พี่ว่าจะไปเยี่ยมคนที่เคยชุบเลี้ยงพี่มาเป็นครั้งสุดท้าย"ภัสกรเอ่ยออกมาด้วยสีหน้าเรียบเฉย"ริตาไปด้วยค่ะ"เฌอริตาเองก็อยากจะดูหน้าคนที่ได้รับผิดกับสิ่งที่ตัวเองทำเหมือนกันสถานีตำรวจ"ฝีมือแกใช่ไหม"ชนะพลที่ถูกคุมตัวไว้ในห้องขังตะคอกใส่ภัสกรอย่างเคียดแค้น"คนทำผิดก็ต้องได้รับโทษถูกแล้วครับ"ภัสกรพูดด้วยน้ำเสียงเรียบเฉยมองดูคน
"ใช่ค่ะคุณพ่อน้องเป็นคนมารับไปค่ะ"ครูสาวยังคงยืนยันว่าเด็กหญิงมีคุณพ่อมารับไปเรียบร้อยแล้ว"อ๋อ... ค่ะ"หญิงสาวพยักหน้ารับทั้งยังเอะใจว่าถ้าหากภัสกรมารับลูกก่อนจะไม่โทรบอกเธอหน่อยหรืออย่างไรเมื่อคิดได้ดังนั้นจึงยกหูติดต่อหาภัสกรในทันที"พี่ภัสมารับน้องเฌอไปแล้วเหรอคะ....อะไรนะคะ"เมื่อคำตอบจากภัสกรบอกว่าไม่รู้เรื่องทำให้เฌอริตาต้องวิ่งเต้นขอดูกล้องวงจรว่าใครเป็นคนพาเฌอริมาไปแน่เพราะภัสกรบอกเองว่าไม่ได้มารับชั่วโมงต่อมา"พี่ประมาทเองสินะ"ภัสกรนั่งกอดเฌอริตาที่กำลังนั่งสะอื้นกุมขมับที่รู้ว่าชนะภพเป็นคนพาลูกสาวของเธอออกไปจากโรงเรียน"ฮึก..อือ..ฮือๆ"หญิงสาวไม่รู้ว่าป่านนี้ลูกสาวของเธอจะเป็นอย่างไรบ้างแต่ขอภาวนาให้ชนะภพมีความสงสารเด็กตาดำๆอย่าทำอะไรรุนแรงกับลูกของเธอเลย"....."ลัลลลิลเองก็นั่งทำหน้าเคร่งเครียดตอนนี้เธอกำลังรอให้ลอเลนโซหาทางช่วยหลานสาวเธออยู่เหมือนกันRrrrrrr"แกเอาลูกฉันไปไว้ที่ไหน...ได้...ฉันจะไปเดี๋ยวนี้"ภัสกรรับสายจากชนะภพหลังจากติดต่อไม่ได้อยู่นานคนที่อยากติดต่อก็โทรกลับมาหาเขาเอง"ใครคะพี่ภัส"เฌอริตาเงยหน้าถามภัสกรด้วยสีหน้าหดหู่"ชนะภพโทรมาบอกให้พี่ไปหาที่เกาะ
"คุณพ่อขาาาา...ฮือๆๆๆ"เด็กหญิงเห็นคนเป็นพ่อล่วงลงไปเธอเองก็ตกใจร้องให้ยกใหญ่เช่นกันดีที่มีลัลลลิลกอดปลอบอยู่ไม่ห่าง"พวกนายรีบไปดูข้างล่างเร็ว"ลอเลนโซสั่งให้บอดี้การ์ดของเขารีบหาทางลงไปดูด้านล่างอย่างรวดเร็วหวังว่าภัสกรจะไม่เป็นอะไร"ครับนายน้อย"21.00 น.หลังจากเกิดเหตุการณ์ที่ไมาคาดฝันขึ้นลัลลลิลก็รีบพาเพื่อนและหลานของเธอกลับอย่างรวดเร็วส่วนหน้าที่ดูแลต่อที่เกาะลอเลนโซเป็นคนจัดการต่อบ้านเฌอริตา"อืม.."เฌอริตาสะลึมสะลือตื่นขึ้นมาในห้องนอนของเธอ"ริตา.."ลัลลลิลที่นั่งอยู่ปลายเตียงของเฌอริตารีบลุกเข้ามาดูอาการเพื่อนของเธอทันทีเมื่อเห็นว่าเพื่อนเธอขยับตัวลุกขึ้น"พี่ภัส..."เฌอริตานึกถึงเหตุการณ์ก่อนหน้าได้ก็รุกรี้ลุกรนจะเดินออกไปจากห้อง"ใจเย็นๆนะริตาตอนนี้ทางตำรวจกับคนของคุณลอสกำลังช่วยกันค้นหาอยู่"ลัลลลิลต้องรีบรั้งตัวเพื่อนของเธอเอาไว้ก่อน"..ฉันจะไปหาพี่ภัส""พักก่อนนะริตา...เชื่อฉัน..""ฮึก..อือ..ฮื่อๆๆ...พี่ภัสจะปลอดภัยใช่ไหม..ฮือๆ""......"เป็นครั้งที่เท่าไรลัลลลิลก็นับไม่ได้ที่ต้องเห็นน้ำตาของเพื่อนเธอส่วนตัวของเธอเองก็ทำได้แค่ปลอบประโลมคนที่กำลังเศร้าใจอยู่เท่านั้นสอง
บ้านเด็กกำพร้าxxxตอนนี้ภัสกรยืนอยู่หน้าสถานเลี้ยงเด็กกำพร้าก่อนที่จะออกมาจากขนส่งเขาก็ถามคนที่นั่นว่าสถานเลี้ยงเด็กกำพร้าxxxอยู่ที่ไหนดีที่ที่นี่ไม่ไกลจากขนส่งมากเขาเลยนั่งวินมาลงที่นี่แต่ก็ยังไม่กล้าเข้าไปด้านใน"โอะ...โอ้ยย..."ฟึ่บบบบจู่ๆอาการปวดหัวรุนแรงก็เกิดขึ้นมาอีกรอบทำให้เขานั่งจมกับพื้นครู่หนึ่งแล้วจึงสลบไปปีต่อมารัสเซียคลังอาวุธ"เตรียมทุกอย่างเรียบร้อยแล้วใช่ไหม"ลีโอนาโดหรือนายสิงห์ที่คนเป็นพ่อบุญธรรมชาวไทยชอบเรียกหนุ่มหล่อร่างสูงวัย38ปีนัยตาคมดุดันสมกับเป็นนายใหญ่ของกิจการค้าอาวุธมาดนิ่งดูมีภูมิฐานใครเห็นก็ต้องเกรงเดินมาตรวจงานในคลังอาวุธด้วยตัวเองเพราะวันนี้มีลูกค้ารายใหญ่เดินทางมาที่นี่เพื่อนัดเชคตัวอย่างของลอตใหม่ที่จะสั่งลีโอนาโดเป็นหนุ่มหล่อชาวอิตาลีลูกบุญธรรมของชัยพฤกษ์นักธุรกิจค้าอาวุธคนไทยที่ร่วมหุ้นกับเพื่อนชาวรัสเซียผลิตอาวุธคุณภาพดีจนเป็นบริษัทที่ขายอาวุธที่มีชื่อเสียงค่อนข้างมากตอนนี้ชัยพฤกษ์ได้วางมือให้ลีโอนาโดดูแลกิจการแทนเขาแทบทุกอย่างชัยพฤกษ์มีทุกวันนี้ได้ก็เพราะได้พ่อของลีโอนาโดช่วยเหลือเอาไว้ในตอนที่เขาถูกตามฆ่าจนเขาได้มาเป็นหุ้นส่วนกับเพื่อนชาวร